ความคิดเห็นที่ 1 เป็นไปได้ยาก เพราะมีคดีรอขึ้นศาลอีกหลายคดี ยกเว้นว่า ดันสุดๆๆ จากคุณ : pigX4 เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 07:53:49 A:171.99.75.173 X:

ความคิดเห็นที่ 2 หลุดโผเถอะ จากคุณ : kai นครปฐม เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 08:04:34 A:202.28.180.202 X:

ความคิดเห็นที่ 3 พี่ตู่แกไม่สนใจหรอก....เป็นไม่เป็น เรื่องขี้หมา! จากคุณ : พีทีดี เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 08:17:20 A:61.90.86.33 X:

ความคิดเห็นที่ 4 คิดว่ามี และอยากให้มีจริงๆ เหตุผลส่วนตัวค่ะ..แค่คิดก็ครื้นเครง แต่บางคนคงเซื่องซึม จากคุณ : กฏเกณฑ์ (Kotken) เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 08:34:28 A:119.31.18.180 X:

ความคิดเห็นที่ 5 มี...ไม่แปลกหรอกพอกัน  บุกสนามบินก่อการร้ายสากลยังเป็น รมต.ได้  นับประสาอะไร ก่อการร้ายในไทย  จะเป็น รมต. ไม่ได้  เพียงแต่ไม่อินเตอร์เท่านั้นเอง จากคุณ : "ดับ" เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 08:50:04 A:203.149.4.38 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ได้คนนึง   ก็ปรับแทนเสี่ยณัฐวุฒิไป   แบ่งๆกันไป จากคุณ : ทนายเนติบัณฑิตคนหนึ่ง เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 09:01:46 A:27.55.6.234 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่แน่ใจ ตอบยาก โอกาสมีเท่ากับไม่มี แต่ความคิดของผมในเรื่องนี้คงสวนทางกับหลายๆคน ขอแสดงความคิดเห็นและน้อมรับทุกความเห็นต่างนะครับ การคัดสรรบุคลากรเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี มีข้อควรพิจารณาเช่นไร? เคยสงสัยกันไหมครับว่าทำไมแกนนำที่มีพลังมีบทบาทจึงต้องได้เป็นรัฐมนตรี? เพราะเป็นการตอบแทนที่ได้ต่อสู้ทางการเมืองมาอย่างเต็มที่เช่นนั้นหรือ? ตำแหน่งรัฐมนตรีมีความสำคัญแค่ว่าเป็นรางวัลสำหรับคนที่ต่อสู้ทางการเมืองมาอย่างโชกโชนกระนั้นหรือ? หรือเป็นแค่เพียงการบริหารจัดการอำนาจทางการเมืองเพื่อความมีเสถียรภาพเป็นที่ตั้งเท่านั้น!! จะมีแค่ผมหรือเปล่านะ ที่คิดว่า รัฐมนตรีที่ประจำแต่ละกระทรวง ควรจะเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ในทางนั้นๆ เช่น รัฐมนตรีมหาดไทย ก็ควรที่จะมีความรู้ด้านรัฐศาสตร์การเมืองการปกครองอย่างแท้จริง มีประสปการณ์ในหน่วยงานรู้ถึงปัญหาและมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนา อีกทั้งยังต้องได้รับการยอมรับจากผู้คนในหน่วยงานดังกล่าวตามสมควรด้วย หรืออย่างน้อยปัจจัยหลักที่สำคัญยิ่งก็คือ การเป็นนักบริหารที่มีความสามารถเป็นที่ประจักษ์ มีความยอมรับนับถือเป็นเครื่องเกื้อหนุนสำคัญ ไม่ใช่ใครก็เป็นได้ แค่เก่งเรื่องการเมือง เก่งไฮปาร์ค เท่านั้น ถ้าคิดแค่นั้นผมว่าคนที่พันทิพนี่ก็เป็นรัฐมนตรีกันได้หลายคนครับ ผมเสนอคุณ"ทวดเอง"เลย เพราะบรรยายได้จับใจเหลือเกิน แต่ถ้าการจะเลือกรัฐมนตรีต้องเลือกที่ความรู้ความสามารถ ผมก็อยากถามว่า ในกรณีที่คุณจตุพรที่มีกระแสข่าวว่าเข้าข่ายผู้มีสิทธ์นั่งเก้าอี้ รมช มหาดไทย เขามีโปรไฟล์อะไรที่ทำให้ยืนยันได้ถึงความรู้ความสามารถว่าเหมาะสมเพียงพอกับตำแหน่งรัฐมนตรี? ที่จริงไม่ได้ตั้งใจจะเจาะจงเฉพาะคุณจตุพร แม้แต่กรณีคุณนัฐวุฒิก็เช่นกัน มีความรู้ความสามารถอะไรที่ได้แต่งตั้งเป็น รมช. กระทรวงใหญ่เช่นนั้นไปแล้ว? คนเป็น สส.ก็มีหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนในการดูแลทุกข์สุขเป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องและร่วมกันสร้างพลังขับเคลื่อนทางการเมืองเพื่อผลักดันในสิ่งที่มองว่าเป็นประโยชน์ต่อชาติและบ้านเมืองอยู่แล้ว และถ้าสะสมความรู้ความสามารถหรือมีวิสัยทัศน์โดดเด่นในด้านใดจนถูกยกให้เข้าบริหารในทางนั้นๆก็เป็นการสมควร ไม่มีอะไรให้โต้แย้ง แต่ถ้าเป็น สส. แล้วตายตัวว่ามีพลังเมื่อใด ก็จำเป็นต้องตอบแทนด้วยเก้าอี้รัฐมนตรีทั้งๆที่ก็ไม่ได้มีภูมิใดๆให้ปรากฏในทางนั้น ถ้าต้องยึดธรรมเนียมแบบนี้กันไปเรื่อยๆแล้วผมก็ไม่เห็นว่าบ้านเมืองจะงอกงามไปในทางใดได้เลยครับ จากคุณ : แอบมาซุ่ม เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 09:12:12 A:171.4.4.206 X:

ความคิดเห็นที่ 8 แน่นอนครับ โดนมาเย้อะ เหนื่อยมาเย้อะ สมบุกสมบันมามาก พรรคต้องเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจ และเปิดโอกาสให้ ส่่วนตัวแล้วคิดว่าดีเสียอีกจะได้พิสูจน์ฝีมือการบริหารว่าเก่งขนาดไหน หรือจะดีแต่ปากดีแต่พูด เหมือนหัวหน้าบางพรรคที่ข่าวว่าหนีทหารน่ะครับ จากคุณ : Konat เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 09:20:34 A:125.24.168.50 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ปรับครม.ใหม่เที่ยวหน้า คุณณัฐวุฒิมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่ง กลับไปขับแท็กซี่ หรือกลับไปขับรถดับเพลิงที่พรุควนเคร็ง นครศรีธรรมราช โอกาสสูงมาก เพราะรัฐบาลต้องการลดกระแสความไม่พอใจในการแก้ปัญญหาราคายางพาราของชาวสวนยาง 20 ล้านคน คุณณัฐวุฒิ เลยน่าจะต้องย้ายจากสภาโจ๊กไปอยู่สภาแพะ ส่วนคุณจตุพรมีโอกาสสูงมากที่จะได้เป็น รมต.ช่วยมหาดไทย เพื่อรักษาน้ำใจมวลชนคนเสื้อแดงไว้ให้ได้ แม้จะเปลี่ยนจากเรือเป็นรถยนต์เดินทางขึ้นภูเขาโงลังกั๋ง แต่หากวันไหนกระแสน้ำสีเขียวท่วมทำเนียบมิดหัวคุณยิ่งลักษณ์ อาจจะต้องกลับไปอาศัยเรือ นปช. อีกครั้ง จากคุณ : เขียว หางไหม้ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 09:49:28 A:61.7.145.156 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ก็ควรจะตั้งให้ คุณจตุพร มีตำแหน่งแห่งหน รมต.เพื่อป้องกันภัยคุกคาม จากฝ่ายอมาตย์ได้บ้าง จากคุณ : NiyomC เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 09:49:41 A:119.63.83.113 X:

ความคิดเห็นที่ 11 คห.7 คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยเขียนไว้ว่า ไม่จำเป็นหรอกที่ รมต.ต้องเก่งเรื่องนั้น ๆ เพราะดูแลเรื่องนโยบาย ไม่ใช่เรื่องปฏิบัติ หากเอาแบบเก่งระเบียบ แม่นข้อกฎหมายในกระทรวงมาเป็น ก็เหมือนมีปลัดกระทรวงสองคน (ตรงนี้คิดถึงปุระชัยไหม มีปัญหาในการบริหารไปหมด ถึงภาพจะออกมาดีก็เถอะ แต่ก็ดีที่ความเถรตรงและตรวจเยี่ยวเท่านั้น ที่เ็ป็นเรื่องบริหารน่ะ เงียบกริบ) รมต.มีที่ปรึกษา มี ครม. มีพรรคที่กลั่นนโยบายออกมาแล้ว  ก็แค่มาดูเรื่องนโยบาย ดูกลาโหมสิ ไม่อยากได้ใคร ต้องนายพลเท่านั้น ด้วยข้ออ้างว่าทหารเข้าใจทหาร แล้วเป็นไง กองทัพไทยก็ไม่ไปไหนสักที ดีแต่วิ่งไล่ยิงคนในเมือง เรื่องแกนนำแดงเป็น รมต.  นี่เขาเรียกว่า ขั้นตอนทางการเมือง  มันยากที่จะปฏิเสธ นักการเมืองไทยจะมีสองแบบ  หนึ่งคือใช้เงินซื้อพวก ซื้อประชาชนเป็นฐานเสียง สองคือแบบณัฐวุฒิ จตุพรนี่แหละ เป็นดาวไฮปาร์ค ประชาชนชื่นชอบ (ก็ไม่ต่างกันเท่าไรกับนายชวน นายอภิสิทธิ์หรอก) กระบวนการทางการเมืองนั้น  มันเป็นแบบนี้มานาน  สมัยก่อนก็เข้าป่ากัน ออกมาก็ขึ้นชั้นเป็น ส.ส. เป็น รมต.กันทั้งนั้น มันเป็นไปตามกระบวนการที่มันต้องเป็น ประชาชนจะสุขหรือไม่ ขึ้นกับนโยบาย การบริหารนโยบาบ  เรื่องจิปาถะเป็นเรื่องของ สข. สก. สจ. อบต. แต่ของเรานี่มันผิดหน้าที่ไปหมด  ส.ส.ไม่ค่อยรู้เรื่องนิติบัญญัติ รู้แต่เรื่องช่วยงานศพ งานบุญ รมต.ไม่เก่งบริหาร ไม่เข้าใจนโยบาย ดันไปเก่งเรื่องแจกถุงยังชีพ ทั้งหมดนี่  จำมาจากที่คึกฤทธิ์เขียนไว้เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว  ที่เขียนเองมีเรื่องปุระชัยกับทหารไล่ยิงประชาชนเท่านั้น หากินง่าย ๆ ยังงี้แหละ จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 13:36:10 A:223.207.133.78 X: