ความคิดเห็นที่ 1 สังคมทุนนิยม อย่างทุกวันนี้ คงแยกแยะยากว่า อะไรคือ ความเหลื่อมล้ำ เพราะหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับอำนาจเงินเป็นส่วนใหญ่นั่นเป็นการมองข้าม ไปหลายช้อทเลยทีเดียว กว่าจะได้เงินมา ต้องมีอาชีพ ก่อนทำอาชีพได้ต้องมีการศึกษา ก่อนมีการศึกษา ต้องมีการ "อำนวย" หรือ "เอื้อโอกาส" ด้วย อย่างชีวิตในตจว (หรือสลัมในกรุง) โอกาสในการเข้าเรียน มีมากแค่ไหน? ไม่ใช่แค่ มีเงินจ่ายค่าเทอม แต่เป็น โรงเรียน ถนนหนทาง ครู / หมอ เครื่องมือแพทย์ สถานพยาบาล หลายอย่าง แม้มีเงิน ก็หาไม่ได้ง่ายๆ ในชุมชนหนึ่งๆ แต่ในหลายๆกรณี การ "ขาดแคลน" ก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ หากคุณอยู่ไกลความเจริญ หากคนมีฐานะยากจน ซึ่ง เป็นสิ่งที่เลวร้าย ของระบบทุนนิยม (หรือไม่) สิ่งที่รัฐ ต้องทำคือ การกระจายโอกาสเหล่านี้ ไปถึงประชาชนทุกภาคส่วน ทำได้ไม่ได้ไม่รู้แหละ แต่ต้องทำ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำเหล่านี้ ถึงคุณจะจน ก็ต้องมีโอกาสได้เรียน ถึงคณจะจน ต้องมีโอกาสได้รับการรักษาโรค จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 20:59:28 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 2 Moodle ขอบคุณค่ะ มีอะไรเสริมได้นะ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:04:27 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 3 เด็กสาวอายุยี่สิบกว่าๆ...คิดได้ขนาดนี้ เยี่ยมเลย...ไม่เสริมอะไรแล้ว ...แค่อยากเอาขนม กาแฟ มาฝาก และตามดูว่าจะไปทางใหนต่อ...??? เอ้ารับขนม กาแฟ..ก่อนน้องพรฯ จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:09:39 A:49.49.102.148 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ปัญหาความเหลื่อมล้ำ มีมานานจนคนส่วนหนึ่งเริ่มจะชินจากการทำใจ คนที่มองเห็นความเหลื่อมล้ำทางสังคมนั้นมีอยู่ไม่น้อย หลายคนก็พยายามส่งสัญญาณเรียกร้อง เพื่อให้ลดความเหลื่อมล้ำนั้นลง ตรงนี้ถ้าช่วยๆ กันให้ความสำคัญ ผลักดัน จะช่วยลดปัญหานี้ได้ แต่ก็มีคนอีกจำนวนหนึ่ง ที่เลือกจะไม่มองความเหลื่อมล้ำ แต่พยายามจะยกตนให้ได้อยู่เหนือความเหลื่อมล้ำ ทำทุกทางไม่เลือกวิธีการ ตรงนี้จะยิ่งซ้ำเติมปัญหานี้ให้คงอยู่ต่อไปและมากขึ้น จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:10:38 A:110.168.243.205 X:

ความคิดเห็นที่ 5 กระทู้นี้มีสาระ  ไม่เหมือนกระทู้ข้างล่างเนอะ ...ฮิๆ  สมบูรณ์แล้ว ไม่มีความเห็นเพิ่มเติมครับ  จากคุณ : ซอยยุงชุม (Moodle) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:12:08 A:118.173.27.138 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ประชานิยม ลดความเหลื่อมล่้ำได้ไหม? ก็อาจจะได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ตามการจำกัดความของใคร ลองยกตัวอย่าง เรื่อง รถคันแรก และบ้านหลังแรกดูไหม? สองเรื่องนี้ สำหรับเราแทบไม่มีนัยยะสำคัญ อาจจะเป็นเพราะเรามันคนชั้นกลาง อยู่แล้ว และรถ เนี่ย ก็เป็นสมบัติ ชนชั้นกลางขึ้นไป บางคนต่อว่า ว่ารถคันแรก ทำให้รถมากขึ้นอย่างมหาศาล แต่ไม่ได้มองว่า เออ จราจรมันแย่มานานแล้วนะ -_-" การแก้ไขเรื่องปัญหาจราจร ที่ถูก ทำได้หลายวิธี การมีรถๆฟฟ้าเป็นวิธีนึง ซึ่ง คิดว่า ทุกคนชอบใจ แต่อย่าลืมว่า มันทำได้ทีละน้อยเท่านั้นเอง สำหรับเรา รถไฟฟ้าอยู่ในเมือง บ้านเราอยู่นอกเมือง เราไม่ได้ใช้ แต่ถ้าวันไหน ไม่รีบ เราจึงจะใช้ เพราะมันสะดวก ถามว่า เราอยากมีรถไหม อยาก!! ต้องมาดูคนที่เขายืนรอรถเมล์ ยิ่งในวันฝนตก รถติด ถนนเส้นยาวๆ รถติด ไปเป็น 2-3 กิโล เคลื่อนตัวช้าๆ 5 นาทีได้ 100 เมตร พ่อใช้คำว่า "รอคอยอย่างไร้ความหวัง" เลยทีเดียว ขนาดเรานั่งในรถ ยังเสียเวลาขนาดนั้น คนที่เขารอรถเฉยๆ อยู่เป็นครึ่งชม. ล่ะ เสียเวลาเป็นกี่เท่า? หากเลือกได้ จ่ายไหว ใครๆ ก็ซื้อว่ะ รถน่ะ อย่าไปว่าเขาเลย แต่เรื่องการแก้ไข ก็ทำไปอีกมือนึง ถ้าสาธารนูปโภคเหล่านี้ดีขึ้น การใช้รถ ก็น้อยลงเอง คนมีรถก็ขาย ความจริง 5 ปี 10ปี บางคนก็ขายรถแล้ว ใช้ไม่นานหรอก ถ้าอีก 5 ปี ระบบขนส่วดี รถไฟฟ้ายาวขึ้น หรือมีรถบริการของสถานี เพื่อ ต้อนคนเหล่านี้ ไปใช้บริการ ก็น่าจะช่วยเรื่องจราจรไปได้เยอะ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:12:13 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่รู้เกี่ยว ป่าว หวา อาจจะมีคนเคยอ่านแล้ว อ่านอีกครั้งก้อได้คิดอีกครั้ง มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่ง คุณครูเดินเข้ามา แล้วชูกระดาษขึ้นมาแผ่นหนึ่ง มันเป็นกระดาษขาวที่มีจุดสีดำอยู่ตรงกลาง แล้วครูจึงถามนักเรียนว่า เธอเห็นอะไร นักเรียนจึงตอบว่าเห็นจุดสีดำ คุณครูพูดว่า แล้วเธอไม่เห็นกระดาษขาวแผ่นนี้เหรอ? นักเรียนจำเรื่องนี้ได้จนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่เลย เรื่องนี้จะเห็นได้ว่า คนส่วนมากมักจะมองเห็นสิ่งไม่ดีมากกว่าสิ่งที่ดี ซึ่งที่จริงแล้ว เราควรจะหัดให้เห็นสิ่งดีมากกว่าสิ่งที่ไม่ดี โดยเฉพาะเวลาที่เรามองคนอื่น หากเรามองข้อดีของเขา เราจะรู้สึกสบายใจ และบรรยากาศรอบข้างก็จะดีด้วย จากคุณ : ลุงเห็ดโคน เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:15:39 A:125.27.205.42 X:

ความคิดเห็นที่ 8  ความคิดเห็นที่ 3     เด็กสาวอายุยี่สิบกว่าๆ...คิดได้ขนาดนี้ เยี่ยมเลย...ไม่เสริมอะไรแล้ว ...แค่อยากเอาขนม กาแฟ มาฝาก และตามดูว่าจะไปทางใหนต่อ...??? เอ้ารับขนม กาแฟ..ก่อนน้องพรฯ จากคุณ : ห่านป่า   ----------------------------------------------------- ต๊ายยยยยยยยย กรี๊ดดดดดดดดด  ขอเก็บความเห็นพี่ห่าน ไว้ซุกใต้หมอนสัก 2-3 วันนะคะ  ไม่เคยดีใจขนาดนี้เลย อย่าหาว่าเราเว่อนะ ดีใจจริงๆ ดีใจที่น้าห่านชอบ อิอิอิอิ คุณ Moodle  ก็ต้องมีบ้างอะไรบ้างนะ อิอิ กำลังหาประเด็นให้ช่วยกันถก ขอพล่ามอีกสักเรื่อง 2เรื่องนะคะ  :) จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:16:25 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 9 นโยบาย บ้านหลังแรก เอง ก็ไม่ได้ช่วยเรื่องความเหลื่อมล้ำได้ คนที่ ไม่มีบ้านอยู่ ก็ไม่สามารถหาซื้อบ้านได้อยู่ดี แต่เรื่องนี้ อาจจะมีประโยชน์ อีกด้วยหนึ่งคือ การซื้อขาย บ้านนั่นเอง ไม่ได้มองเรื่อง คอรัปชั่น หรืออะไรนะคะ แต่มองว่า นโยบายนี้ ช่วยทำให้การซื้อขายบ้าน หรือคอนโดคึกคักขึ้น หลังจากมีข่าว เรื่อง แผ่นดินไหวและตึกร้าวบ้าง หรือน้ำท่วม จนพื้นที่บางแห่งซบเซา นโยบายนี้ ทำให้ของพวกนี้ ขายดีขึ้นอีกครั้ง (คหสต ไม่มีข้อมูลอ้างอิงนะคะ) แต่ถ้าพูดถึง คอนโด ในเมือง ก็เท่ากับ เพิ่มโอกาสให้หลายคนเหมือนกันนะ คิดดูว่า หากคนที่อยู่นอกเมือง ไม่ซื้อรถ เขาก็อาจจะต้องการบ้านในเมืองแทน บางคนเลือกรถ บางคนเลือกบ้าน (เราอยากได้ทั้ง 2 อย่างเลย) ซึ่งถ้าถามว่า เราเห็นด้วยไหม เราก็เห็นด้วยอีกแหละ แฮ่.... โอกาสที่ว่า ไม่ใช่แค่โอกาสในการครอบครองทรัพย์สินเท่านั้น แต่เป็นโอกาส ในการเลือกอาชีพที่เหมาะสมด้วย หากคุณต้องตื่นแต่ตี 5 เพื่อทำงาน 8 โมงเช้า ต้องเสียเวลาเดินทางเท่าไหร่ ต่อการทำงาน 1 วัน หากมีบ้านในเมืองได้ ก็ใช้ สาธารนูปโภค ที่เหมาะสมได้ ซึ่ง เป็นนโยบาย ที่ตีคู่กันมาได้อย่างดี จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:26:29 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ที่จริงหนทางแก้ความเหลื่อมล้ำมันก็มีอยู่นะคะ แต่เป็นแค่ทฤษฎี พอทำจริงๆกลับใช้ไม่ได้ เพราะตัวแปรคือมนุษย์ เพราะมนุษย์ยังมีความโลภ จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:28:01 A:124.122.160.139 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนนโยบายเรื่องอื่น ไม่รู้เรื่อง ยังไม่ได้คิด เพราะมันไกลตัวเราไปหน่อย (ขอโทษนะ) ไม่มีผลกระทบตรงๆ ก็เลย ไม่ค่อยได้เข้าใจมันเท่าไหร่ คงไม่เป็นไรนะ หากเพื่อนๆ มีความเห็นเกี่ยวกับนโยบายด้านอื่น ขอให้ช่วยส่งเสริมมาด้วยค่ะ ความจริง เคยคุย twitter กับคุณ อี้ แทนคุณอยู่พักหนึ่ง เห็นคุณอี้พูดถึง "รัฐสวัดิการ" ว่าจะนำเป็นนโยบายเชิงรุกของปชป ในสมัยถัดไป เห็นว่า เป็นนโยบายที่ มุ่งเป้า ไปที่การเพิ่มศักยภาพในการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ให้กับเกษตรกร ซึ่งถ้าทำได้จริง ก็เป็นการเพิ่มเงินในกระเป๋าของเกษตรกร โดยลดระบบนายทุน ซึ่งก็น่าจะลด ปัญหา ของพ่อค้าคนกลางได้ เคยคุยแค่เรื่องเดียวนะคะ คือ การนำระบบเข้าสู่หมู่บ้านหรือชุมชน ระบบที่ว่านี่ รัฐจะเป็นผู้ถือครองที่ดิน และอนุญาตให้ประชาชนเข้ามาทำกิน โดยที่รัฐจะ จัดหาสิ่งที่ทำเป็นต่อการดำเนินอาชีพ ซึ่งไม่ได้คุยรายละเอียดในการทำงาน แต่ก็มองว่า เป็นการลดความเหลื่อมล้ำได้วิธีนึง การที่รัฐ เป็นผู้ถือครองที่ดิน ทำได้มากกว่าการจัดสรรที่ทำกิน เพื่อเกษตรกร แต่สามารถรวมไปถึงการทำที่อยุ่อาศัย สุขพยาบาล ตลอดจน โรงเรียน และ สิ่งที่เป็นปัจจัยอื่นๆด้วย อยากให้ ปชป ตั้งใจกับนโยบายนี้ และขยายผลให้มาก ที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ . แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 21:50:18 จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:35:02 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 12 คห 7 คุณลุงคะ ถ้าจะอยู่อย่างพอเพียง ให้มองที่กระดาษขาว ถ้ามองถึงการพัฒนา ต้องมองที่จุดดำ เพื่อลบมันออกไปค่ะ การพัฒนาคือการเปลี่ยนแปลง ถ้าทั้งโลกเป็นสีขาวหมด มันก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสิคะ :) แต่ใช่ว่า หากให้กระดาษใหญ่ขึ้น แล้วจุดดำจะเล็กลง *ซะเมื่อไหร่? :) แกงส้ม คนมีความโลภจริง แต่บางคน ก็ไม่ได้อยากรวย ไม่ได้อยากเปลี่ยนแปลงหรอกมั้ง น้ำมิตรคะ บางคน เขายึดติดกับ ศักดินา มากกว่าเงินทองนะ อย่างคนที่เป็นข้าราขการระดับสูง มีบริวารมากมาย ก็เลยคิดว่า เขาเป็นคนใหญ่โต บังคับใครก็ได้ไปหมด คนไทยเอง ก็เคยชินกับคำว่า มารยาท ผู้ใหญ่ อาวุโส กันมาโดยตลอดอยู่แล้ว มารยาทไทยเอง ก็สอนให้เก็บคำ ห้ามพูดมาก ซึ่ง ยิ่งกดขี้ และสร้างความเหลื่อมล้ำเข้าไปใหญ่นะ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:43:04 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 13 เอ่อ... โง่ จน เจ็บ แล้วมันต้องจบด้วย " เหล้า " นะ พอดี ว่า กฎหมาย เมาแล้วขับ ถูกใช้อย่างเข้มข้นซะด้วย มันประมาณว่า หากไม่มีเงินกินข้าว รัฐมีข้าวให้กิน " ในคุก " อะไรประมาณนี้ป่าว ที่บอกว่า มีกินอะไรสักอย่างนั่นน่ะ จากคุณ : BarBoy เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:43:46 A:125.26.169.47 X:

ความคิดเห็นที่ 14 เคยคิดเล่นๆว่า คนที่เขาจนๆน่ะ ถ้าเขามีพร้อมทุกอย่าง เช่น บ้าน (แต่ไม่ต้องสวย) โทรทัศน์ (ก็แค่ขาวดำ ต้องตบถึงจะมีจอภาพ) มี internet ใช้ (ผ่านดาวเทียม) การศึกษา ผ่านมาจากสิ่งเหล่านี้ได้ หมด รักษาทางไกลได้ แล้ว คนเหล่านั้น จะอยาก"รวย"ไปเพื่ออะไร? ขอแค่มีปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีพเหอะ ไม่ต้องมี iphone ipad เขาก็มีความสุขได้ จริงป่ะ คนกรุงอย่างเรา ยังอยากจะไปเป็นเกษตรกรบ้างเลย แต่พูดก็พูด มันยังไม่มี ความเสมอภาคกันแบบนี้ เราก็หนีจากความสบาย ไปเป็นไม่มีอะไรไม่ลงหรอก จริงไหม? จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:45:00 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 15 น้องพรคิดได้แบบนี้....พวกผู้ใหญ่ในนี้...อายเลยครับ ปล.ผมเองเป็นหนึ่งในนั้นที่..อายครับ...เอิ๊ก ๆ ๆ จากคุณ : อดีตหัวหน้าเผ่า เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:45:41 A:115.67.97.91 X:

ความคิดเห็นที่ 16 Barboy  จะพูดเรื่องไรเหรอ? ผิดกระทู้ไหม?  จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:46:20 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 17 กรี๊สสส ได้คอมเมนจาก อดหนผ ด้วยค่ะ  วันนี้ นอนหลับฝันดี  จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:47:52 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ที่ยังแก้ไม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะฝ่ายที่ได้เปรียบกว่า ฝ่ายที่ได้ประโยชน์กว่า ไม่ยอมลดประโยชน์ของตัวเองลง อย่างเรื่อง ราคาข้าวเป็นต้น พ่อค้ากลัวจะต้องซื้อข้าวแพงทำให้ต้นทุนสูงเหลือกำไรน้อยลง   คนซื้อข้าวไปบริโภคกลัวจะต้องซื้อข้าวแพงไม่เหลือเงินไปทำอย่างอื่น เลยต่างพากันออกมาต่อต้านการขึ้นราคาข้าวเปลือกให้กับชาวนา ผลักภาระให้ชาวนารับไป สังคมของคนที่ได้เปรียบ จะเพิ่มช่องว่างของความเหลื่อมล้ำให้ขยายให้กว้างออกไป นโยบายช่วยผลักดันให้ชาวนาขายข้าวได้ราคาสูงขึ้น จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำให้แคบลง ถึงจะไม่ได้มาก แต่ดีกว่าไม่ได้ทำ จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:49:10 A:61.90.49.140 X:

ความคิดเห็นที่ 19 ขอมอบกิฟให้คุณห่านและคุณเผ่าจากใจจริงค่ะ จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:50:24 A:124.122.160.139 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ต่อ คห.14 ของคุณน้องพรเลยนะคะ ตอบว่า คนส่วนมาก ขอใช้ว่าส่วนมากนะคะ น่าจะเกิน99% ไม่รู้จักพอค่ะ ในวันนี้คุณได้เงินเดือนหมื่นกว่า คุณอาจจะคิดว่า ถ้าได้ถึงสามหมื่น ชีวิตนี้ก็พอแล้ว แต่ไม่ใช่ค่ะ วันนี้คุณอยากได้ วิออส หรือซิตี้ แต่พอคุณมีคุณจะอยากได้ เมอร์ซิเดส พอมีอีก คุณจะอยากได้ เฟอรารี จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:53:46 A:124.122.160.139 X:

ความคิดเห็นที่ 21 18 ความจริง ควรปล่อยให้มันเป็นไปตาม demand - supply หรึือเปล่า? เราก็ไม่รู้นะว่า เมื่อไหร่ ราคาข้าวจะสูงได้ถ้าไม่มีการแทรกแซง แต่การ ปรับราคาขึ้นอย่างเร่งด่วน(ก็แทรกแซงนั่นแหละ) ทำให้เกิดผลกรทบหลายด้าน รบ. จำเป็นต้องเสียค่าส่วนต่างเหล่านั้น หากไม่ได้รับการสนับสนุน จากคนซื้อ ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะอย่างไรก็ดี รัฐต้องจุนเจือ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่แล้ว แต่การค้างสต๊อกข้าว ทำให้ราคาข้างในตลาดโลก สูงขึ้นด้วยหรือไม่? ก็ไม่รู้ได้แน่ชัดหรอก ต้องคอยดูกันต่อไปว่า นโยบายนี้จะทำได้ดีอย่างที่คาดรึเปล่า แต่ปชป เขาคิดถึงระบบนี้ด้วย ก็ด้วย รัฐสวัสดิการ นั่นแหละ ถ้าทำได้ เป็นรูปธรรม ก็เป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน นะ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:56:29 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 22 ขอติดกิฟไว้พรุ่งนี้นะคะ ได้กิฟมาป๊บ จะแจกให้น้าห่าน กะน้าเผ่า เป็นสองคนแรก คุณ Moodle เป็นคนที่สาม ในฐานะ เป็นคนอ่านคนแรกเลย นอกนั้นตามมา อิอิอิอิอิ แกงส้ม.....  นั่นคือสิ่งที่น่ากลัว และเลวร้ายของระบบทุนนิยม (แน่ๆเลย) ไม่ต้องพูดถึง เฟอรารี่ หรอก แต่โนเกียไม่พอ ต้อง iphone แล้วเดี๋ยวนี้ ซึ่งคนใช้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ดียังไง จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:59:20 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 23 เหตุผลสำคัญ...ที่ทำให้ท่านอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ยังคงอยู่ในใจของผู้คนส่วนหนึ่งในสังคมไทย คือ...การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและและให้โอกาสแก่ผู้คนเหล่านั้น นี่คือ...คุณูประการที่อดีตนายกทักษิณ  ชินวัตร สร้างไว้ให้กับสังคมไทย... ๓๐ บาท รักษาทุกโรค ทำให้...ชาวบ้าน คนยากจน เข้าถึงการรักษาพยาบาล จากโรงพยาบาลของรัฐอย่าง ทั่ ว ถึ ง และ อย่างไม่เคยได้รับมาก่อน กองทุนต่างๆ...ทำให้...ผู้ที่ไม่มีทุน... เข้าถึงทุนจากภาครัฐ...โดยไม่ต้องกู้จากนายทุนเงินกู้หน้าเลือด หนึ่งตำบทหนึ่งผลิตภัณฑ์... ทำให้ของดีจากภูมิปัญญาชาวบ้าน จากท้องถิ่นต่างๆ ออกสู่ตลาดทั้งระดับชาติและตลาดโลก...อย่างภาคภูมิใจ โครงการให้ทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้โอกาสเด็กที่เรียนดี แต่ยากจน...ได้โอกาสทางการศึกษา กลับมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของครอบครัวและชุมชน อีกมากมายอีกหลายนโยบาย... ที่ทำขึ้นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และให้้โอกาสผู้คนที่ไม่เคยรับโอกาส...ได้รับเป็นรูปธรรม จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:01:11 A:49.49.102.148 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ความแตกต่าง ระหว่างชนชั้น อย่างที่บอกนะ ไม่ใช่ว่า เขามีอะไร เราต้องมีด้วย เขามีรถเราต้องมี เขามีกระเป๋าหลุยส์ เราต้องมี ไมเกี่ยวกันเลย สิ่งนอกกายที่นำมาปรนเปรอความอยากของบุคคล ไม่ใช่เครื่องแสดงความ แตกต่างของชนชั้น แต่เป็นความแตกต่างของการดำเนินชีวิต หรือ life style เท่านั้น สื่อ เหล่าดาราหรือเซเลบต่างๆ มีบทบาทมาก ในการสร้างกระแสสังคม ให้มี สไตล์ไปในทางเดียวกัน (trend) ซึ่งเด็กสมัยนี้ กลับมองว่า มันเป็นไปเพราะฐานะ หรือความมั่งคั่ง ซึ่ง มันไม่ใช่เลย แม้แต่พ่อแม่ ก็ยังปรนเปรอหลายๆอย่างให้กับเด็ก โดยที่มองว่า คนอื่นมี ลูกต้องมี จะได้ไม่แตกต่าง ซึ่งเหล่านี้ เป็นเพียงค่านิยม ที่ควรทำให้หมดไปจากสังคมเด็กเมืองนะ . จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:04:36 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณ ความเห็นที่ 23 ค่ะ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:05:46 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 26 ผิดกระทู้ตรงไหนอะครับ การเมืองมันอยู่ภายใต้ หลักพื้นฐานที่ผมเขียนไปเมื่อกี้ คำว่า ผิดกระทู้หมายถึง ผมเขียนในเรื่องราว ที่ลงถึงความเป็นจริงขั้นพื้นฐาน ที่เจ้าของกระทู้ คาดไม่ถึงหรือเปล่า จึงใช้คำว่า ผิดกระทู้ นโยบายอะไรนั่น มันไม่เป็นจริงตั้งแต่ต้นแล้วครับ พรรคไทยรักไทย จะปฎิวัติโลก แล้วยึดครองโลก งั้นเหรอ ถึงได้คิดอะไรต่อมิอะไรจริงไปซะหมด จนกระทั่งถูกปฎิวัติ แล้วก็โบ่ยไปให้อำมาตย์อะไรนั่น แท้จริงแล้ว นั่นเป็นกรอบที่แคบมาก จากคุณ : BarBoy เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:07:56 A:125.26.169.47 X:

ความคิดเห็นที่ 27 โอ้ย....ยังไม่อยากงง เพราะงง จะทำให้ง่วง ขอไปกระทู้อื่นก่อนนะเจ้าคะ ไว้อยากนอนจะมาอ่าน คริ คริ กลัวอ่ะ จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:11:32 A:124.122.160.139 X:

ความคิดเห็นที่ 28 พูดตรงๆ เราเอง ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องของระบบ ทุนนิยมสักเท่าไหร่ รู้แต่ว่า ความหมายง่ายๆ คือ มีเงิน จะได้ทุกอย่าง ซึ่งระบบ ทุนนิยม สำหรับประเทศไร้ศักดินา อย่างจีน นายทุนคงจะเจิรญได้ยาก เพราะไม่ใช่มีเงินจะทำได้ทุกอย่าง แต่ต้องได้รับอนุญาตจากทางการด้วย คือ คุณจะมารวยกว่าคนของเขานั้น ไม่ได้ หากคุณจะรวย สหายเขาต้องได้ด้วย ถึงเขาจะเป็นเผด็จการ แต่ก็ ชาตินิยมพอสมควร (ใช่ไหม) แต่สำหรับเมืองไทย มันง่ายดายมากนัก อาจจะเพราะระบบอุปถัมภ์ หรือกิจการ ในครัวเรือนได้รับความนิยม แถมมีพรรคพวกกันอย่างเห็นได้ชัด เฮ้อ ถ้าถามเรา ก็คงตอบลำบากนะว่า จะต้องเริ่มแก้ที่อะไรก่อน และหรือ อะไรเป็นต้นตอ แต่แน่นอน ไม่ได้เปลี่ยนแปลงกันได้ง่ายดาย หากต้องการความ รวดเร็วอย่างที่อย่่างที่อดีตนายกเคยทำไว้ แต่ว่า แล้วจะ"จำกัด"ผลกระทบ ของระบบทุนนิยมได้อย่างไร?  นั่นคือปัญหา จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:11:55 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 29 Barboy  ที่ถามว่าผิดกระทู้ป่าว เพราะเราพูดเรื่องกฏหมายไว้ที่กระทู้แพรวา ของใครสักคน --------------------------------------------------------------- เอ่อ... โง่ จน เจ็บ แล้วมันต้องจบด้วย " เหล้า " นะ พอดี ว่า กฎหมาย เมาแล้วขับ ถูกใช้อย่างเข้มข้นซะด้วย มันประมาณว่า หากไม่มีเงินกินข้าว รัฐมีข้าวให้กิน " ในคุก " อะไรประมาณนี้ป่าว ที่บอกว่า มีกินอะไรสักอย่างนั่นน่ะ --------------------------------------------------------------- ถ้าไม่ผิดก็ไม่ผิดสิ แต่ อะไรเหรอ? เหล้า? เมาแล้วขับ? คุก? รัฐมีข้าวให้กิน? ไม่เข้าใจค่ะ ว่าเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำทางสังคมยังไง อธิบายใหม่ได้ไหม?  เราเน้นถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคม อยากให้ตอบแบบเข้าประเด็น เรื่องคอรัปชั่น ไม่พูดถึงดีกว่านะคะ จะพูดถึงผลกระทบน่ะค่ะ  คุณคิดว่า มันไม่มีผลกับการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเลยใช่ไหม? มีเหตุผลอะไรไหมคะ? จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:17:27 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 30 จขกท.อาจอยู่ยาว เสริมเครื่องดืม ขนมหวาน...เพิ่มอีกหน่อยนะครับ จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:17:30 A:49.49.102.148 X:

ความคิดเห็นที่ 31 อดีต ที่เคยฮิตกันมาก่อนสำหรับการลดความเลื่อมล้ำทางสังคม  ก็คือลัทธิคอมมิวนิสต์   แรกๆก็ขยายตัวเป็นวงกว้าง  จนเป็นที่หวาดกลัวของลัทธิทุนนิยม แต่สุดท้าย ลัทธิคอมมิวนิสต์ก็ฝืนความจริงไปไม่พ้น คือ  "เสรีภาพ" มนุษย์ทุกผู้คนต้องการเสรีภาพ  ความเท่าเทียมที่รัฐจะจัดให้ จึงไม่ใช่ด้วยการบังคับ รัฐต้องสร้างความเท่าเทียมโดยการให้ "โอกาส"  ให้ "เสรีภาพ" เมื่อคุณมีโอกาสก็จงฉวยมันไว้  สร้างความเท่าเทียมในเรื่องฐานะอย่างที่คุณต้องการ หากคุณงอมืองอเท้า  คุณก็ควรพอใจกับความจนของคุณ  แค่นั้น สิ่งจำเป็นที่รัฐควรช่วยคือ  ความเท่าเทียมทางการศึกษา  อนามัย  และกฏหมาย เรื่องรถคันแรก บ้านหลังแรก  เหล่านี้เป็นโอกาสที่รัฐมอบให้ แต่ไม่ใช่จำเป็นนัก กองทุนหมู่บ้าน  OTOP  กองทุนอื่นๆ  การจำนำพืชผล  เหล่านี้เป็นโอกาสที่รัฐมอบให้ สิ่งสำคัญคือรัฐต้องจัดการให้ดี ให้ได้ผล  อุดรอยโหว่ช่องว่าง  ที่เหลือก็เป็นเรื่องของประชาชน ใครต้องการไม่ต้องการแค่ไหน  ก็เป็นเรื่องของคนนั้น เพียงขอให้มีความเท่าเทียมกันในสามเรื่อง  การศึกษา  อนามัย  การบังคับใช้กฏหมาย ก็เหลือจะพอ.. จากคุณ : ภูเขาทะเล เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:18:29 A:115.31.183.88 X:

ความคิดเห็นที่ 32 ปัจจัยหลักที่สร้างให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม ก็คือประชาชนด้วยกันนี่แหละ รัฐสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่สุดท้ายแล้ว ความเลื่อมล้ำนั้นก็ยังคงอยู่ พ่อค้าอยากได้กำไรมาก ผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือต้นทาง และปลายทาง แล้วเราจะแก้ปัญหาที่เกิดจากพ่อค้าได้อย่างไร คิดว่าตรงนี้น่าจะอยู่ในวิสัยที่รัฐพอแก้ไขได้ แต่ผลที่อาจจะสะท้อนกลับสู่รัฐ ก็เป็นสิ่งไม่พึงประสงค์เช่นกัน ปัญหานี้ก็เลยยากที่จะแก้ เรื่องการศึกษา รัฐให้โอกาสทุกคนเข้าถึงการศึกษา จริง แต่ว่่าเข้าถึงมากแค่ไหนถึงจะลดความเลื่อมล้ำได้ โรงเรียนแต่ละโรงเรียนมีระดับมาตรฐานต่างกัน แม้ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐบาลด้วยกันก็เถอะ  ทำไมถึงแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้ ทุกวันนี้ปัญหาการแย่งกันเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ยิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นทุกวัน ที่เห็นว่าปัญหาน้อยสุดในตอนนี้ น่าจะเป็นเรื่องของการรักษาพยาบาลที่ได้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคมาลดช่องว่างตรงนี้ลง ปัญหาการเหลื่อมล้ำในสังคม จริง ๆ แล้วใครเป็นคนสร้างขึ้น คนรวย ตนรวยแล้วยังไม่พอ แต่ยังไปเหยียดคนที่มีน้อยกว่า คนที่มีน้อยกว่า จำนวนมาก เขาก็มีความสุขตามอัตภาพของเขา จนถึงวันที่มีคนมาทำให้เขาเกิดคิดว่ามันมีความเหลื่อมล้ำนั่นแหละ ปัญหามันจึงเกิด บางคนเรียกร้องให้ลดปัญหาการเหลื่อมล้ำด้วยนโยบายช่วยการออมจากภาครัฐ การแก้ปัญหาแบบนี้ ลดปัญหาได้จริงเหรอ การให้รัฐถือครองที่ดิน ให้ประชาชนเข้าไปทำกิน ทุกวันนี้มันก็มีอยู่ แล้วมันแก้ปัญหาได้จริงเหรอ ปัญหาหลาย ๆ อย่างมันฝังรากลึกมากเกินจนยากที่จะแก้ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากคนด้วยกันนี่แหละ ถ้าใครคิดว่าแก้ได้ หรือช่วยให้ผ่อนคลายลงได้ ดิฉันจะตามเลือกตลอดจริง ๆ จากคุณ : hang around เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:23:00 A:58.11.229.57 X:

ความคิดเห็นที่ 33 ส่วนหนึ่งที่ คอมมิวนิสต์ล่มสลาย เพราะชนชั้นปกครองโลภค่ะ ชนชั้นปกครองเมื่อมีโอกาสก็แสวงหาทรัพย์สินและอำนาจเช่นกัน อันนี้คงเป็นสิ่งที่ คาล มากซ์ ลืมคิดไป จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:25:17 A:124.122.160.139 X:

ความคิดเห็นที่ 34 พี่hang คะ ทำไมยาวจัง ^^ จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:26:12 A:61.90.49.140 X:

ความคิดเห็นที่ 35 ความคิดเห็นที่ 34     พี่hang คะ ทำไมยาวจัง ^^ จากคุณ : น้ำมิตร ----------------------- นี่แค่ intro นะ ยังไม่ได้เอาจริงเลย 555 จากคุณ : hang around เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:30:20 A:58.11.229.57 X:

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นด้วยกับคุณน้องพร และหลายๆความคิดเห็นในนี้นะคะ แปะโป้งกิ๊ฟไว้ก่อนค๊า จากคุณ : MT7KK เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:32:01 A:49.48.77.206 X:

ความคิดเห็นที่ 37 ความเหลื่อมล้ำ ทางสังคม เกิดขึ้นจาก การจัดระบบ คนจนอยู่ส่วนคนจน และคนจน จะมีพฤติกรรม ตามที่ผมได้กล่าวไว้ คนรวยอยู่กับคนรวย และจะยากมาก ที่จะตกอยู่ในสภาพที่ผมกล่าวไว้ เช่น คนจน เมาแล้วขับ ติดคุก คนรวย เมาแล้วขับ ต่อรองและไกล่เกลี่ยได้ มันยังมีเรื่องซับซ้อนกว่านั้น คนจน มักมีสภาพเป็นแพะของสังคม ที่ระบบของรัฐจะ " กำจัด " เพื่ออะไรสักอย่าง เมื่อไหร่ก็ได้ด้วย เพราะฉนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรมาแย้งได้เลยว่า ประเทศแต่ละประเทศไม่มีความเหลื่อมล้ำ ทุกประเทศ ทุกระบอบการปกครอง ในกฎที่ผมว่าไว้ทั้งหมดทั้งสิ้น และปรากฎการณ์ที่ผมกล่าวมา เป็น เรื่องที่อยู่ในระบบทุกระบบด้วย จากคุณ : BarBoy เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:35:55 A:125.26.169.47 X:

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านคุณพี่ hang around และแกงส้ม แล้ว นั่งถอนใจ  ถ้าปัญหาอยู่ที่ความไม่พอของคน ก็หมดทางแก้  นี่ขนาดเป็นเมืองพุทธ เมืองที่สอนว่า ไม่ให้โลภ และ อย่าเห็นแก่ตัว  โรงเรียนของรัฐ ไม่เป็นที่น่าสนใจของผู้ปกครองจริงๆ  เราเองมาจากรร. วัด มาก่อนนะ ที่จริงแล้ว เขาสอนดีเชียวแหละ  การไม่ได่เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก ก็ไม่ได้เป็นปัญหา ของการ ศึกกษาภาษาอังกฤษเลย แต่ค่านิยมที่ว่า โรงเรียนอินเตอร์เท่านั้น  หรือ ไบลิงกั่วเท่านั้น คือปัญหา  คุณภูเขาทะเล  คอมมิวนิส แบบจีนนี่ เคยคิดว่า เขาจำเป็นต้องเป็นคอมมูน เพราะว่า  คนเขาเยอะ การศึกษาเขาน้อย การเข้าถึงโอกาสต่างๆ ก็น้อยด้วย  ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการ นึดของคนนึงไปให้อีกคนนึง (ได้ยินมา)  แบบนี้ เป็นใคร ก็ไม่กล้ารวยเลยล่ะ :D แต่ไม่ใช่ไม่มีเสรีทางการค้านะ เราไปทำการค้าได้ แต่ห้ามผูกขาด ประเทศไทย ในเมื่อรัฐบาลไม่สามารถสนับสนุนการประกอบอาชีพได้ ก็ต้องอาศัยนายทุนเข้ามาสร้างรายได้ในชุมชน ต่างจังหวัด ที่ไม่มีนายทุน  ก็เลยไม่มีใครเข้าไปเหลียวแลด้วย  หากจะเปลี่ยนกัน ให้รัฐไปลงทุนต่างจังหวัด รัฐก็คงกลัวเสียรายได้อีก  หรือเปล่า?  จริงๆ น่าจะบริหารดีๆ รัฐวางแผน ให้นายทุนลงทุน แล้วกระจายออกตจว พูดง่าย แต่ไม่รู้จะทำสำเร็จได้ไง  จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:38:03 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่ทราบนะคะ ว่า  การจะลดความเหลื่อมล้ำให้ได้ผล ควรต้องเริ่มปลูกฝังให้กับเยาวชนตั้งแต่การศึกษาระดับต้น ต่อเนื่องไปจนจบปริญาหรือเปล่า? รัฐสามารถจัดทำรัฐสวัสดิการ การศึกษา พยาบาล อุปโภคบริโภค กองทุนฯ ต่างๆ หรืออื่นๆ อาจช่วยลดความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชนได้ระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่ทั่วถึง ไม่ได้เร็ว ไม่เพียงพอ การมีความรับผิดชอบร่วมกัน จะสามารถลดความเหลื่อมล้ำต่อกันได้มากกว่า แต่วิธีนี้น่าจะเป็นเรื่องคาดหวังที่มากเกินไป แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี เราอาจจะนึกไม่ถึงว่า ปัจจุบันองค์กรเอกชนที่ประสพความสำเร็จด้านธุรกิจ เริ่มจะสร้างตลาดเพิ่มยอดขายด้วยการแสดงความรับผิดต่อสาธารณะมากขึ้น มีการจัดตั้งเป็นกองทุนขึ้นมาสนับสนุนในเรื่องต่างๆ อย่างเช่นมูลนิธิไทยคม เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต http://www.thaicomfoundation.org/lecture/Negroponte/pressTH.htm ปัจจุบันมูลนิธิยังมีโครงการต่อเนื่องมากมาย เอกชนรายอื่นๆ ก็มีทำนะ อาจจะแตกต่างกันไป แต่ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี  ถ้ามีมากๆ ยิ่งดีใหญ่ จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:39:39 A:110.168.243.205 X:

ความคิดเห็นที่ 40 อึม... ทุนนิยม แปลว่า เงินซื้อได้ทุกอย่าง แต่ มันไม่ได้กำหนดจากใครคนใดคนหนึ่ง หรือเพียงเศรษฐี คนใดคนหนึ่งในประเทศ ไม่ว่าคุณจะรวยแค่ไหน แต่เงินนั้นๆ ต้องผูกเกี่ยวกับ " รัฐบาล " หรือแหล่งเงินระดับโลก ด้วย เช่น ธนาคาร หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีรัฐบาลแต่ละประเทศเป็นเบื่องหลังหรือ แบล๊คกราว เงิน จะซื้อได้ทุกอย่าง จากการคำนวน ดุลยภาพของโลกเท่านั้น เช่น คนรวย ต้องการสร้างคดีๆหนึ่ง เพื่อปกปิดคดีอีกคดีหนึ่ง ( กำลังเป็นข่าวอยู่ ) จะต้องมีเงินมากพอ และทั้งเงิน และตำแหน่งหน้าที่ของเขานั้น จะต้องเป็นที่ " ต้องการ " ของรัฐบาลนั้นๆด้วย และมันเพียงใช้คำว่า มีเงินมาก ยังไม่พอ เงินต้องเป็นเงินที่ไหลเวียนในระบบด้วย ธุรกิจมืด เช่น การค้ามนุษย์ การค้าอาวุธเถื่อน การค้ายาเสพติด ล้วนถูกคำนวนภายในกรอบนี้ทั้งสิ้น เงิน ไม่ได้ซื้อได้ทุกอย่าง มันจะซื้อได้ทุกอย่างต่อเมื่อ " คุณเป็นใคร ? " ด้วย จากคุณ : BarBoy เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:42:03 A:125.26.169.47 X:

ความคิดเห็นที่ 41 พี่แฮง บรรเลงเลยๆๆ อย่ามัวโม้ อิอิอิ คุณ Barboy เรากำลังบอกว่า ความ"แตกต่าง"ระหว่างชนชั้น นั้นมีแน่และไม่มีวันหายไป แต่ความเหลื่อมล้ำมันมาจาก การที่ คนจนทำไม่ได้ คนรวยทำได้ เพราะ ยึดติดที่ว่า ไม่มีเงินทำไรไม่ได้ การลดการเหลื่อมล้ำ ไม่ได้ทำให้คนจน เกิดรวยขึ้นมา แม้จะมีสวัสดิการต่างๆจากรัฐอย่างครบถ้วน คนจนก็ยังจนอยู่ คนรวยก็ยังรวยอยู่ แต่เขาเหล่านั้น ยังคงมีโอกาสในการประกอบอาชีพ และได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ตลอดชีวิต ที่เขาเป็นคนไทยค่ะ ความเหลื่อมล้ำ ก็มีมากมาย ทั้งทางด้านเศรษฐกิจเอง เออ ใช่ มีเรื่อง 300 บาทด้วย รอแป้บ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:44:26 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 42 ขอคั่นนิดนึง คห 40 เราว่าที่เขาทำได้ เพราะมี ศักดินาหนุนหลังมากกว่า ไม่ใช่แค่เงินหรอก อ่ะคุณ MT สวัสดี และ รอค่ะ รอๆๆ อิอิ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 22:47:12 จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:46:37 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 43 ผมขยายความงัย ว่าอย่ามองโลกในแง่ดีขนาดนั้น ผมบอกเลย ว่า รัฐบาลได้คำนวนหลักการทางเศรษฐศาสตร์ไว้หมดแล้ว ไม่มีใครมีชีวิตเป็นของตัวเองหรอก จากคุณ : BarBoy เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:47:25 A:125.26.169.47 X:

ความคิดเห็นที่ 44 ผมไม่ใช้ศัพท์การต่างชั้น ว่าศักดินา นะ เพราะมันจะไปคาบเกี่ยวกับสถาบัน ซึ่งผมมองว่า คนที่พูดศัพท์อย่างนั้นบ่อยๆ คือพวกที่มีใจฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ แบบบางๆ ที่เป็นเครื่องมือในการรวมกลุ่มคนเสื้อแดง จากคุณ : BarBoy เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:48:47 A:125.26.169.47 X:

ความคิดเห็นที่ 45 บางคนอาจมีความคิดว่า คนที่ขาดโอกาสมีฐานะยากจน เขาต้องการให้โปรยเงินลงไปให้เปล่า แค่นั้นก็พอ จริงอยู่ คนที่อยากรอรับอะไรแบบง่ายๆ นั้นมีอยู่ค่ะ  แต่ไม่ใช่ทุกคน คนรวยคนมีฐานะยังชอบของฟรี ไม่ใช่หรือ? คนที่ด้อยโอกาส ขาดโอกาส ส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการ การชดเชยเป็นเงินให้เปล่า แบบเป็นครั้งคราว หมดยุคแล้วกับการที่ ถึงหน้าหนาวไปแจกผ้าห่ม ถึงหน้าแล้งไปแจกน้ำดื่ม อะไรแบบนี้ คนที่ด้อยโอกาส เขาต้องการโอกาสให้เขาสามารถยืนได้อย่างแข็งแรงมั่นคง ช่วยเหลือตนเองได้ อย่างโครงการ 1 ตำบล 1 ตำแหน่ง  ถามว่าให้เงินเขาครั้งเดียวจบ กับสร้างอาชีพให้เขา เขาจะอยากได้อะไร? คนฉลาด คนคิดไกล เขาต้องอยากได้อาชีพที่สามารถทำแล้วเลี้ยงตัวเองได้ เลี้ยงครอบครัวได้ ไม่ใช่เช็ค 2000 ที่แจกครั้งเดียว แล้วก็ไม่มีอะไรตามมาอีกเลย จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:48:59 A:61.90.49.140 X:

ความคิดเห็นที่ 46 ผมอ่านทุกความเห็นจนมาถึงตอนนี้แล้ว....ผมรู้สึกดีใจครับ.. ผมไม่จำเป็นต้องบอกนะครับว่ารู้สึกดีใจ ด้วยเหตุผลใต... ปล.แต่บอกได้อย่างเดียวครับ...ทุกคำตอบอ่านแล้วรู้สึกดีครับ...เอิ๊ก ๆ ๆ จากคุณ : อดีตหัวหน้าเผ่า เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:49:32 A:115.67.97.91 X:

ความคิดเห็นที่ 47 ต่อเนื่อง...คคห.๒๓ การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมนั้น สิ่งสำคัญคือ...การมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคประชาชน เพื่อเป็นฐานข้อมูล...ในการแก้ปัญหา ดังนโยบายดีในสมัยรัฐบาลอดีตท่านนายกทักษิณ  ชินวัตร ในยุคแรก ๓๐ บาท รักษาทุกโรค  /  กองทุนต่างๆ...หนึ่งตำบทหนึ่งผลิตภัณฑ์ โครงการให้ทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา...เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ล้วนเกิดขึ้น...ฐานข้อมูลจากภาคประชาสังคม ที่อดีตท่านนายกฯ ทักษิณ ระดมมาเพื่อสรรคสร้างเหล่านี้ น่าเสียดาย...ที่นโยบายเหล่านี้... ที่ส่วนหนึ่งนำมาตอบสนองนโยบายแนวประชานิยม จนต้อง เ ร่ ง รี บ ดำเนินการ เพื่อตอบสนองสัญญาประชาคม   และความต้องการรากหญ้า...จนละเลยแผนงานบริหารและจัดการที่ดีพอ หลายสิ่งดีๆ....ไม่ก่อให้เกิดกลายยาแรง ...ที่เห็นผลในระยะสั้น แต่ไม่ยั่งยืน หลายโครงการ... เข็มมุ่งไปที่กระจายเม็ดเงินสู่รากหญ้า สู่ประชาชน ทำให้...เงินทุนจากนโยบายประชานิยมที่ได้รับมา ชาวบ้านส่วนหนึ่ง...ไม่สามารถ นำไปบริหารจัดการ สร้างผลผลิต กิจการ กิจกรรม...เพื่อขยายฐานเศรษฐกิจ ได้มั่นคงและยั่งยืนมากนัก หลายโครงการ... จึงกลายเป็นภาระหนี้สินและหนี้สูญ น่าเสียดาย...ที่ทิศทางพัฒนาประเทศ แนวทางการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม กลับต่้องสดุดหยุดลง....!!! เพราะอะไร...??? จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:57:42 A:49.49.102.148 X:

ความคิดเห็นที่ 48 น้องพร  เรื่องจีนนั้น  ยอมรับว่าเป็นความจำเป็นที่เขาต้องใช้ระบอบคอมมิวนิสต์  เพราะคนเยอะ ไม่งั้นคุมไม่ได้ แต่กระนั้นก็ยังหนีเรื่องเสรีภาพไม่พ้น  ปัจจุบันจีนปล่อยให้มีการค้าเกือบเสรี  คนจีนไปเที่ยวตปท.ได้  สามารถมีทรัพย์สินของตัวเองได้  คือมันหนีทุนนิยมและเสรีภาพไม่ได้ เพียงแต่จีนยังจำเป็นต้องจำกัดเสรีภาพทางการเมืองไว้เท่านั้น พูดก็พูดเถอะนะ  จริงๆประเทศไทยเหมาะที่จะใช้ระบอบเผด็จการก่อนด้วยซ้ำ  ก่อนที่จะมอบประชาธิปไตยให้ประชาชน   เพียงแต่เราไม่มีผู้นำเผด็จการที่จริงใจต่อประชาชนอย่างแท้จริง เลยต้องเป็นประชาธิปไตยแบบลูกกรอกมา 80 ปี หวังว่าการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา  จะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น จากคุณ : ภูเขาทะเล เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:58:07 A:115.31.183.88 X:

ความคิดเห็นที่ 49 การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ เป็น 300 บาท เราว่า ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ยกระดับอะไร เพราะทุกวันนี้ ข้าวของแพงขึ้น ก็ต้องเพิ่มค่าครองชีพกันหน่อย และหรือ อาจเป็นการเตียมพร้อมสำหรับ การค้า ASEAN ด้วยหรือเปล่า (เรียก ว่าไรยะ AEC? รึอะไร? จำไม่ได้ละ) คือ เมื่อมีการลงทุน ก็ต้องมีการว่าจ้าง อยากให้โครงการนี้ไปได้สวยนะ เพราะน่าจะเพิ่มการว่าจ้างได้เยอะทีเดียว แต่ก็กลัวว่า เพื่อนบ้านที่ค่าจ้างต่ำกว่าเรา จะได้รับความนิยมมากกว่าน่ะสิ เรื่องนี้ เราไม่ถนัด คิดง่ายๆ แค่นั่นเองนะ ไม่รู้จะมีอะไรซับซ้อนกว่านี้ไหม เรื่องคอรัปชั่น ของดไว้ก่อน เพราะ ไม่ว่าสมัยไหน มันกำจัดไม่หมด ถ้าเจอ ก็ลงโทษ ถ้าไม่เจอ เราก็ต้องพัฒนาประเทศต่อไป เราคิดงี้นะ ก็นโยบายที่ดี ไม่จำเป็นว่า จะต้องผูกขาดที่พรรคการเมืองไม่ใช่เหรอ? Barboy ศักดินา เราหมายถึงพวกที่มี ยศฐาบรรดาศักิด์ อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ ก็ได้ ที่มีตำแหน่งสูงมากพอที่จะกำหนด ความเป็นไปบางอย่างได้ คำว่าศักดินา เป็นชื่อที่มีไว้เรียกบริวารของกษัตริย์สมัยก่อนนะ คือ กษัตริย์ จะให้ที่นาที่ทำกินกับเจ้าพระยาต่างๆ เรียกเป็นศักดินา ไม่ใช่หมายถึง สถาบันค่ะ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:01:10 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 50 เคยอ่านข้อเขียนของคุณสมัครมานะคะ ท่านเปรียบได้น่าฟังมาก คือท่านเขียนไว้ประมาณว่า ในปี2475ที่ปฏิวัตินั้น ได้ไปหยิบต้นไม้มาปลูก หวังจะให้เติบโตเป็นต้นประชาธิปไตยต่อไป แต่เพราะการที่ปฏิวัติตอนตีสี่ ยังมืดมองไม่เห็น เลยไปหยิบต้นกล้วยไม้มาซะนี่ มันก็เลยไม่เติบโตเป็นไม้ยืนต้นสักที จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:03:39 A:124.122.160.139 X:

ความคิดเห็นที่ 51 คห 47 น่าเสียดาย...ที่ทิศทางพัฒนาประเทศ แนวทางการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม กลับต่้องสดุดหยุดลง....!!! เพราะอะไร...??? ---------------------------------------------- อย่าลืมมาเฉลยนะคะ คุณภูเขา เห็นหลายคนบ่นเหมือนกันว่า หากมันยุ่ง เหมือนยุงตีกันแบบทุกวันนี้ น่าจะเป็น คอมมูนไปเลย แต่ สยามเรา "ใครใคร่ค้าม้าค้า ใครใคร่ค้าวัวค้า" มาตั้งแต่สุโขทัยนะคะ จะโทษว่าไม่มีใครจริงใจกะประชาชน มันก็คง เป็นข้อกล่าวหาที่หนักไปหน่อย เราไม่ได้มองแบบนั้น แต่ประชาธิปไตย ที่มาจากเสรี มันคือการ "จำกัดสิทธิ" ไม่เหมือนประชาธิปไตย ที่มาจากทาส มันคือการ "กระจายสิทธิ" ให้กับประชาชน จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:07:31 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 52 คห 50 ชอบบบบบบบบ ค่ะ อิอิอิอิ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:08:54 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 53 น้องพรฯ... ดูล้าๆเหนื่อยๆมึนๆ...นมอุ่นๆสักแก้ว...ครับ จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:13:57 A:49.49.102.148 X:

ความคิดเห็นที่ 54 น้ำมิตร   ขอบคุณสำหรับ link ความเห็นที่ 39 เข้าไปอ่าน แล้วสะดุดนิดนึงกับการนำการศึกษาเข้าสู่ผู้ด้อยโอกาส ที่จริง ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ไม่ใช่แค่ มีโรงเรียนให้เรียน แต่เป็น "ความรู้" ที่ได้จากการศึกษานั้นๆด้วย เช่น เรื่องของภาษาเนี่ย เด็กจบป6 ก็น่าจะต้องมีความรู้เท่าๆกัน เหมือนพี่แฮงว่า ถึงจะมใีอะไรหลายๆอย่าง แต่ถ้าไม่ได้คุณภาพ ก็คงลดความเหลื่อมล้ำไม่ได้ เฮ้อ.... ชักเศร้าหนักซะแล้วสิ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:16:54 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 55 53 น้าห่าน มึนจริงๆฮับ รับพี่ๆ ไม่ไหว จัดหนักกันทั้งนั้น คิคิคิ ความรู้น้อยก็เงี่ย แต่มองอะไรได้ชัดเจนขึ้นหน่อยแล้วค่ะ ต้องยอมรับว่า ไม่ค่อยมองเรื่อง คอรัปชั่น หรือการโกง หรืออะไร เพราะคิดว่า ถ้ามีนโยบายที่ ครอบคลุมพอ ถึงจะมีคอรับชั่นด้วย บ้านเมืองก็ยังดำเนินไปได้ ไม่ใช่ยอมให้เกิด คือ ถ้าเกิด ก็ดำเนินการไป แต่ประเทศต้องก้าวหน้าได้ เท่านี้เองล่ะค่ะ เพิ่งสังเกตุภาพของน้าเผ่า มีหันหน้า และ หันหลัง ใช้ต่างกันยังไง เป็นสัญลักษณ์อะไรรึเปล่า? . แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 23:22:52 จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:19:54 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 56 หันหน้าก็พึ่งมาไงน้องพร ถ้าหันหลังก็หมายถึงจะไปแล้ว นี่ยังมีอีกอันนะที่น้าเผ่ายังไม่เคยใช้ ถ้าเป็นรูปอินเดียนโขยกม้านี่ คือเอาจริงแล้ว เอิ๊ก ๆ ๆ (ขอยืมนะคะ) จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:28:44 A:124.122.160.139 X:

ความคิดเห็นที่ 57 เรื่องระบบการศึกษาในประเทศไทย นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติทีเดียว จากบางพื้นที่ ที่ขาดการศึกษา ไม่มีโรงเรียน    ก็ต้องสร้างโรงเรียนให้ เพื่อให้ได้รับการศึกษาเหมือนพื้นที่อื่น แต่โรงเรียนต่างจังหวัด กับโรงเรียนในกรุงเทพ มีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัด ทั้งอาคารสถานที่ ศักยภาพของครูผู้สอน จะมีครูวุฒิการศึกษาสูงๆ อยากไปสอนโรงเรียนต่างจังหวัดบ้างหรือเปล่า อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการเรียนการสอน เหมือนหรือแตกต่างกันแค่ไหน แต่อย่างไร มีโรงเรียน ก็ยังดีกว่าไม่มีโรงเรียน แต่พอไปเปรียบเทียบเรื่องการให้ความรู้ในแต่ละสถานการศึกษา ก็มีความแตกต่างกันอีก แค่ในกรุงเทพก็ได้ โรงเรียนรัฐบาล กับ โรงเรียนเอกชน มีความแตกต่างกันอีก โรงเรียนรัฐบาล กับ โรงเรียนรัฐบาล   /  โรงเรียนเอกชน กับ โรงเรียนเอกชน สถานศึกษาบางแห่ง สอนในชั่วโรงเรียนไม่เต็มที่  อยากรู้มากกว่าที่สอน ต้องไปสมัครเรียนพิเศษจ่ายตังค์เพิ่ม อะไรแบบนี้ อ่านแล้วเศร้ามั๊ย โครงสร้างระบบการศึกษาในประเทศไทย จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:29:43 A:110.168.243.205 X:

ความคิดเห็นที่ 58 56  ขโยกแปลว่าไร 5555   จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:30:11 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 59 55555  คุณแกงส้มอ่ะ  ทะลึ่ง   กระทู้นี้ดีแล้วนะ  อย่าชักใบให้เรือเสีย หรือกลัวเครียดกัน จากคุณ : ภูเขาทะเล เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:30:52 A:115.31.183.88 X:

ความคิดเห็นที่ 60 ขโยกก็คือยิ่งกว่าควบไงเธอ ชิ จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:33:09 A:124.122.160.139 X:

ความคิดเห็นที่ 61 57 อ่านแล้ว เศร้ามาก นึกถึงเด็กอนุบาลสมัยนี้ ใช้หนังสือเรียน 3 เล่มต่อวัน เด็มัธยมสมัยนี้ เรียนในรร. ไม่พอ ต้องไปติวข้างนอกเยอะๆ (แล้วจะเข้ารร. ทำไม ไปติวเลยไม่ดีกว่าเหรอ?) ไม่มีลูกกะเขา ก็ไม่เข้าใจ รึเปล่า? หรือต้องหัดไปเป็นนายกดูสักที? จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:33:33 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 62 หูยยยยย เอาไรกะส้มคะ คุณภูเขา ส้มอ่ะ ไร้สาระไปวันๆ คุยวิชาการกะใครไม่ได้หรอก จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:34:41 A:124.122.160.139 X:

ความคิดเห็นที่ 63 เพื่อให้น้องพรฯมึนมากขึ้น.... เอาอันนี้...ไปคิดต่อว่า...ถูกหรือผิด แป๊ะเจี๊ยะกับความเเหลื่อมล้ำทางการศึกษา....เรื่องจริงที่ต้องยอมรับ   การศึกษาบ้านเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ร ะ บ บ...แต่...ขึ้นกับโรงเรียน   ระบบมีพื้นฐานที่ดีความเหลื่อมล้ำของโรงเรียนและนักเรียน จะต้อง...ไม่แตกต่างกันอย่างมากมาย   แต่...ปัจจุบันนี้ หากลูกหลานของเราเข้าโรงเรียนผิดเท่ากับเป็นวิกฤติของชีวิตในอนาคต จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:35:12 A:49.49.102.148 X:

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่ได้อ่านหมดนะครับ มันเย๊อะมาก ^^ ขอคุยในฐานะของเกษตรกรนะครับ จริงๆแล้วเกษตรกรหลายๆคนที่ผมรู้จัก รวยกว่าคนระดับผู้จัดการบริษัทเสียอีกครับ จะบอกว่าเกษตรกรเป็นคนระดับล่างของพลเมืองเราคงไม่ได้หรอก เพราะในหมู่เกษตรกรยังแบ่งออกเป็นลักษณะงานที่แตกต่างกันได้อีก เกษตรกรที่รู้จักการเพิ่มค่าผลผลิต รู้จักยุทธวิธีการตลาด หรือพูดง่ายๆคือผลิตได้ขายเป็น คนกลุ่มนี้รายได้ดีครับ มีอันจะกิน บางคนถึงกับรวย เพียงแต่เค้าไม่แสดงออกเท่านั้นเอง.... ส่วนเกษตรกรกลุ่มที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ปลูกๆๆๆ ได้ผลผลิตมามีพ่อค้ารับซื้อถึงที่ กลุ่มนี้โดยมากขัดสนครับ เพราะท่านได้แบ่งเงินส่วนที่ควรจะได้ให้พ่อค้าที่มารับซื้อไปแล้ว.... หากจะแก้ปัญหาและยกระดับคนในภาคเกษตรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รัฐจะต้องจริงจังและจริงใจมากกว่านี้ ไม่ใช่เกษตรเขตมีคนทำงาน10คน ดูแลเกษตรหมื่น-2หมื่นคน ปีนึงยังเห็นไม่ครบหน้าเลยครับ แล้วจะช่วยอะไรเกษตรกรได้ นอกจากทำทะเบียนเกษตร.... งบกระทรวงเกษตรปีละหลานหมื่นล้านนะครับ มันลงมาถึงเกษตรกรเท่าไหร่ ทุกวันนี้เกษตรกรระดับล่างๆ(ระดับแรงงาน)ได้รับการช่วยเหลืออะไรจากรัฐ.... ปัญหาของเกษตรกรระดับล่างๆคือการขายครับ ขายไม่ได้ ขายไม่เป็น ไม่ได้ราคา ถ้ารัฐจริงใจที่จะแก้ปัญหา แก้จุดนี้ก่อนเลยครับ.... ผลิตได้ ต้องขายได้ด้วย อย่างการจำนำข้าว ถ้ารัฐสามารถเป็นตัวกลางในการขายผลผลิตให้เกษตรกรได้ ปัญหาตรงนี้เบาลงทันทีครับ เมื่อปัญหาเบาลงแล้วรัฐต้องเสริมความรู้และแนวทางการขายผลผลิต แปลรูปให้เกษตรกร ไม่ใช่ช่วยตลอดไปต้องเรียกว่าประคับประคอง ก็น่าจะแก้ปัญหาภาคเกษตรได้บ้างครับ.... จากคุณ : Mr_L เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:37:40 A:124.122.53.96 X:

ความคิดเห็นที่ 65 หาอ่านๆดู ไม่รู้ว่า ใครเป็นใคร เอามาฝาก เผื่อใครได้ไอเดียนะคะ ความเหลื่อมล้ำในละตินอเมริกา ลดลงได้อย่างไร.? โดย ผาสุก พงษ์ไพจิตร http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1345606844&grpid=&catid=02&subcatid=0207 กทม. เผยผลวิจัยโครงการลด เหลื่อม ล้ำ หลังสำรวจชุมชน 96 แห่งในกรุงเทพฯ ชี้ปัญหาขาดโอกาสเข้าถึงทรัพยากรรัฐและต้องการระบบการศึกษาที่เท่าเทียม http://www.bangkok.go.th/th/page/?259- วิพากย์รัฐสวัสดิการ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=634011 จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:39:59 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 66 แจกหมดแระ กิฟช้าน จะได้ไปนอน จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:43:22 A:124.122.160.139 X:

ความคิดเห็นที่ 67 แอบขโมยรูปคุณจำปูน  เอามาฝากคุณแอล นี่คือสิ่งที่มีการริเริ่่มเพื่อยกระดับและลดความเหลื่อมล้ำของเกษตรกร  จริงๆถ้าผมเป็นนายกผมก็คงเลือกวิธีการประกันครับ  เพราะมันง่ายดี  เอาเงินส่วนต่างไปให้ก็จบ จากคุณ : ภูเขาทะเล เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:44:25 A:115.31.183.88 X:

ความคิดเห็นที่ 68 หลายเดือนก่อน..ซูจี มาเมืองไทย เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า... ....ประชาธิปไตยในพม่า จะเติมโตเต็มที่เมื่อ การศึกษาพัฒนาขึ้นมากกว่านี้... ปล.คุณส้ม  ท่าโขยกม้า..ยังไม่จำเป็นต้องใช้ตอนนี้ครับ...เอิ๊ก ๆ ๆ จากคุณ : อดีตหัวหน้าเผ่า เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:54:10 A:115.67.225.162 X:

ความคิดเห็นที่ 69 น้องพรผู้น่ารัก... เทียงคืนแล้ว...หาอะไรไม่ทัน...ข้าวใขเขียวก่อนนะ จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:56:21 A:49.49.102.148 X:

ความคิดเห็นที่ 70 สวัสดีครับ จขกท และ คห ทุกท่าน      สำหรับการลดความเหลื่อมล้ำ ในประเทศไทยเรา   ผมคิดว่า (แบบไม่เปิดทฤษฎืเศรษฐศาสตร์นะครับ เพราะไม่ได้จบด้านนั้น ทุนนิยมแบบพุทธซัก80%+อื่นๆ เช่นรัฐ สวัสดิการ20%      แต่ก่อนจะไปแบบทุนนิยม เราต้องลดความเหลื่อมล้ำ อย่างที่คุณภูเขาทะเลว่า คือ ด้านการศึกษา ด้านการบังคับใช้กฏหมาย และที่อยากพูดคือด้าน อนามัย ซึ่งอาจจะยอมให้ใช้รัฐสวัสดิการ เช่น ถ้าคุณเกิดมาหรือมีลูกพิการหรือผิดปกติ หรือเป็นโรคร้ายแรง-เรื้อรัง ควรจะได้รับการดูแลจากรัฐ เพื่ออะไร เพื่อว่า ปชช.จะได้ไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยง โดยต้องกันเงินส่วนหนึ่ง สำหรับเรื่องนี้ ทำให้ไม่กล้า ลงทุนหรือเปลี่ยนอาชีพที่จะเป็นแนวคิดใหม่ๆ อย่างอเมกา        สำหรับรัฐสวัสดิการ100% ผมว่าจะเป็นการสร้างภาระให้รัฐมากและ ยาวนาน อาจจะทำให้ประสิทธิภาพของคนตกลงได้ (อย่างกรีซ ถ้าเข้าใจไม่ผิด)         ช่วงแรกของการไปทุนนิยม คือเราต้องสร้างความพร้อม-ความสามารถใช้ปชช. ก่อน โดยสามด้านข้างต้น แล้วใช้หลักดีมานด์-ซัพพลาย เพื่อให้คนใช้ความ สามารถ-ถนัด-จุดแข็ง  ซึ่งผมก็หวังว่าทุกรัฐบาลจะแทรกแซงหลักดีมานด์-ซัพพลายแค่ช่วง เริ่มต้น อาจจะไม่เกินสิบถึงสิบห้าปีจากนี้ แต่ระวังอย่าให้เกิดวิกฤติด้าน การเงินแล้วกัน          สำหรับทุนนิยมแบบพุทธคือ เราๆเคยคิดไหมครับว่ารายได้เราเกิน ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวกี่เท่า ควรจะพอเพียง และเริ่มเป็นผู้ให้ อย่างที่เศรษฐีอันดับหนึ่งและสองของโลก เขาทำกัน                    เอาว่านี่ก็เป็นจุดหนึ่งที่เดินพลาดของอดีตผู้นำของเรา เหมือนกัน          ผมขอทราบความเห็นเพิ่มเติม จากท่านอื่นด้วยครับ จากคุณ : เพียงอนัตตา เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:01:09 A:124.121.12.229 X:

ความคิดเห็นที่ 71 น้องพรคะ ส้มว่า คุณห่านมาแปลกๆแล้วละ ทั้งนม ไอศครีม นี่ข้าวไข่เจียวอีก สงสัยจะขุนน้องพรแน่ๆ คริ คริ จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:01:46 A:124.122.160.139 X:

ความคิดเห็นที่ 72 คห.67 คุณภูเขาฯ ส่วนผมเลือกจำนำครับเพราะตรงประเด็น คือเกษตรกร(ชาวนา)ขายข้าวให้รัฐ และรัฐจัดการบริหาร.... ผมเชื่อว่าคนระดับผู้บริหารประเทศต้องมีฝีมือด้านบริหารจัดการเหนือกว่าชาวนาแน่นอน ยิ่งหากท่านทำกำไรได้มาก เงินก็จะเข้าสู่ประเทศได้มาก หรือจะใช้ข้าวแลกเปลี่ยนกับวัตถุดิบอาหารสัตว์ หรือปุ๋ย เพื่อมาต่อยอดจำหน่ายกลับให้ภาคเกษตร ลิงค์กับนโยบายบัตรเครดิตชาวนาก็ยิ่งดีใหญ่.... ปล. วัตถุดิบอาหารสัตว์  และปุ๋ย เรานำเข้าเย๊อะมากครับ.... จากคุณ : Mr_L เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:04:45 A:124.122.53.96 X:

ความคิดเห็นที่ 73 คคห.๗๑ พอมาดีๆ...ก็หาว่าแปลก พอมาแปลกๆ...ก็หาว่าไม่น่าไว้ใจ นี่ก็อีก...ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทานข้าวเสร็จ.... กาแฟอีกสักแก้วนะครับ...น้องพรฯ จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:07:40 A:49.49.102.148 X:

ความคิดเห็นที่ 74 หูยยยน้องพร ครีมล้นถ้วยเลย อ้วนๆๆๆ จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:11:41 A:124.122.160.139 X:

ความคิดเห็นที่ 75 ความเหลื่อมล้ำ เป็นธรรมชาติ  เพราะเป็นเรื่องของคน ซึ่งในแต่ละคนก็มีความเหลื่อมล้ำกันในทางกายภาพ อันเป็นตัวกำหนดให้เกิดความคิดที่แตกต่าง  ความเหลื่อมล้ำทางความคิด หากคิดว่าจะต้อง ลดความเหลื่อมล้ำ มันฝืนธรรมชาติ สังคมทำได้ แค่จัดการ ให้เหมาะสม ซึ่งรํัฐมีหน้าที่โดยตรง คนเราในสังคมไม่ต้องมีฐานะที่ใกล้กัน ขอให้ว่า ได้ดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข และพอใจ ความเหลื่อมล้ำมันก็จะไม่เกิดในความรู้สึก ผมเคนนึกเปรียบเทียบ ว่าผมก็ไม่แตกต่าง กับโจร เราพยายามที่จะ เอาเงินจากกระเป๋าคนอื่น เหมือนกัน ต่างแค่วิธีการ ผมโดยสุจริต โจรไม่สุจริต  ซึ่งเราเหมือนกันอีกที่ ไม่เคยรู้จักว่า พอ เราต้องการมันเพิ่มขึ้น ผมอยู่ในสังคมได้ โจรถูกกำจัด   สสารไม่สูญหาย ผมรวยก็ต้องมีคนอื่นจน ยิ่งผมมีมากคนอื่นก็ต้องจนมาก แค่ผมรู้สึกว่าพอคนอื่นก็จะยังมีเงินเหลือที่ในกระเป๋า ความเหลื่อมล้ำมันก็จะไม่ต่างกันมาก รัฐจะต้องเปลี่ยนความคิดของผมให้ได้ ให้ผมรู้สึกว่าพอ ซึ่งตอนนี้ รู้สึกว่า พอ แล้ว ง่วง จากคุณ : พ่อไม้ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:23:16 A:125.24.70.224 X:

ความคิดเห็นที่ 76 73 พี่ห่าน น้องส้มเขาล้อเล้นนนแหม อย่าเข้าใจเด็กๆผิดบ่อยนะ เดี๋ยวเขาจะหาว่า เป็นความเหลื่อมล้ำของ generation gap ส่วนเรื่องแป๊ะเจี๊ยะโรงเรียน เรามองว่า เป็นการลงทุน ของผปค ที่อยากจะสร้างสังคมให้กับลูกหลาน คือ มีเพื่อนเป็นพวกไฮๆ ก็เลยต้องพยายามให้เขา รร. ที่ ก็ไม่ได้มีชื่อว่าเด็กเก่ง อย่างรร. อนุบาลงี้นะ ต้องไปไกลจากที่บ้านเป็น 10-20 โล เพื่ออะไรคะ? เป็นการ "สร้างความเหลื่อมล้ำ" ด้วยค่านิยม ที่ไม่จำเป็นเลยจริงๆนะ แต่ อนุบาล ที่ไหนล่ะ ที่จะดี วางใจที่ไหนได้บ้าง ถ้าไม่ใช่รร. ดัง? คุณ เพียงอนัตตา อดีตผู้นำ ไม่ทราบว่าหมายถึง อดีตนายกทักษิณรึเปล่า? บางที เพราะความเชื่อมั่นที่คุณทักษิณสร้างไว้ ทำให้หลายคนอาจจะ คิดว่า ถ้าไม่ถูกขัดตาทัพทางการเมืองแบบนั้น ปัญหาทุนนิยม อาจ ไม่กระจายกว้าง และอาจสร้างรากฐานที่ดีไปพร้อมกันได้ แค่ในเมื่อ มันผ่านไปแล้ว ประเทศจะพัฒนาลงก็ไม่ได้ หลายนโยบาย เลยต้องเดินหน้าต่อไป ตกวิชา ศก เหมือนกันค่ะ รอเพื่อนๆคนอื่นละกัน อิอิ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:35:26 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 77 ว๊ายยย คุณพ่อไม้.. กล้บมาก๊อนนนน เงื่อนไขทางเศรษฐกิจ มีอยู่อย่างนึง ที่คุณสามารถสร้างตัวเลขได้โดยไม่ต้อง มีตัวเงิน นั่นคือ "เครดิต" ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ประเทศมหาอำนาจ ใช้ตัวเลขทางศกตัวนี้ มากกว่า มันนี่ ที่มีอยู่ในคลังจริงๆ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:38:52 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 78 วันนี้...ที่เอาอกเอาใจน้องพรฯ เป็นพิเศ่ษ ก็เพราะว่า...กระทู้ที่ ดี มี ส า ร ะ...ให้แง่คิด ในส่วนตัวมองว่านี่แหละคือ...ปัญหาฐานรากของสังคมไทย สังคมทีมีพื้นฐานระบบอุปถัมภ์ ที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ของประเทศ ขาดโอกาส  ไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรและบริการของรัฐอย่างเป็นธรรม คือความเหลื่มล้ำของสังคมที่มีมา นับเนื่องมาเนินนานนม ซึ่งคิดแนวคิดของน้องพรฯ... ทำให้เหมือนเห็นตัวตนน้องพรฯอยู่ตรงหน้า จากถอยคำจำนรรย์เจรจา...จากกระทู้ที่เสนอข้อคิดเห็น ย่อมถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึก นึกคิดและจิตสำนึกของน้องพรฯ จิตสำนึกสาธารณะย่อมสะท้อนออกมา...เพื่อสร้างสรรค์สังคม ดุจดังเมล็ดพันธ์แห่งความดีงาม..ย่อมเต็มโตเสมอ ไม่ว่า...จะอยู่ในบนภูผา ป่ารก หรือ  ณ ที่ใดในแผนดิน (ชม...แบบจัดเต็มๆ...อิอิ) ซึ่งในเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผมมองในแง่ดีว่า...ทุกรัฐบาล ทุกพรรคการเมืองให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่มีวิธีคิดที่ แ ต ก ต่า ง กั น... ดังพรรคการเมืองใหญ่ ปชป.และเพื่อไทย. ปชป. มุ่งพัฒนาแบบมหภาคระยะยาว แบบถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง เพื่อไทย มุ่งยาแรง แก้ปัฐหาเฉพาะหน้าแบบจุลภาค...ปัจจุบันทันด่วย ปชป....เพื่อวางแผนฐานทางสังคมในภาพรวม อาทิ นโยบายการขยายงานสาธารณสุขพื้นฐาน การกำเนิดของ อสม. เพื่อกระจายการรักษาพยาบาล พัฒนาคุณภาพชีวิต   ให้ครอบคลุ่มในทุกพื้นที่ของประเทศ...ไม่ต้องมุ่งเข้าโรงพยาบาลเพียง เรียนฟรี ๑๕ ปี โครงการอาหารกลางวัน นมโรงเรียน การกระจายอำนาจ สู่ท้องถิ่น คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ตรงกับความต้องการของแต่ละพื้นที่  เบียยังชีพผู้สูงอายุ เพื่อไทย มุ่งพัฒนาแบบรวดเร็ว  แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับบุคคล กลุ่มอาชีพ   ให้ยาแรง...อาทิโครงการ๓๐ บาท รักษาทุกโรค กองทุนต่างๆ...หนึ่งตำบทหนึ่งผลิตภัณฑ์ โครงการให้ทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา...เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เป็นแนวคิดเศรษฐศาสตร์จุลภาค เน้นที่ตัวบุคคล มองเห็นชัดเจน โดยใช้เงินในกระเป๋า เป็นตัวชีวัด แต่...ปัญหาของพรรคการเมืองไทยคือ... หนึ่ง...อยู่ไม่ยาว สอง...พอเปลี่ยนรัฐบาล         ยกเลยของเก่าที่รัฐบาลก่อนทำ เอาของใหม่เข้ามาแทน สาม...ไม่จริงใจกับการแก้ปัญหาชาวบ้าน         ให้ความสำคัญกับคนรวยมากกว่าคนจน สี......อาหารเครื่องดืม...น่าจะพอใจนะน้องพรฯ คราวนี้...มอบใจให้เลย...อิอิ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 55 01:11:01 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 55 00:50:44 จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:44:53 A:49.49.102.148 X:

ความคิดเห็นที่ 79 บ้านและรถยนต์ นับเป็นสิ่งจำเป็นก็ได้ ฟุ่มเฟือยก็ได้ ชีวิตมนุษย์เงินเดือนของคนเมือง ชนชั้นกึ่งกลางกึ่งล่าง น่าจะได้ประโยชน์ อาจเรียกได้ว่า เป็นรอยเชื่อมตรงส่วนนี้ การที่รัฐคิดนโยบายนี้ขึ้นมา  เปรียบเหมือนรัฐใช้ยาแรง เพื่อกระตุ้นให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ แต่ข้อเสียก็มีอยู่มาก ดังนั้น นโยบายจึงนี้ถูกกำหนดให้เป็นเพียงนโยบายระยะสั้นและคิดว่าคงจะไม่ได้เห็นการนำนโยบายนี้มาใช้อีก    แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 55 01:34:27 จากคุณ : WTKn เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:46:57 A:171.97.16.13 X:

ความคิดเห็นที่ 80 ความเหลื่อมล้ำอีกอย่าง ที่ได้จากการอ่าน link ใน คห 65 คือ การประกอบอาชีพ หรือการจ้างงานผู้พิการ หรือผู้สูงอายุ ในหลายๆประเทศ เขาให้ความสำคุญกับผู้สูงอายุ และคนพิการ เช่นมีการออกกฏหมายคุ้มครองผู้หิการว่า หากเขามีความสามารถในหน้าที่ ที่เปิดรับสมัคร จะต้องไม่มีการกีดกัน เพียงเพราะเขาเป็นคนพิการ เช่น call center รับโทรศัพท์ คนที่พิการทางสายตาเอย แขนขา  สามารถทำงานได้ โดนบริษัทอาจจะต้องมีการสนับสนุนเรื่องเครื่องมือเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ เห็น เดินไม่ได้ ก็ไม่รับแล้ว แบบนี้ผิดกฏหมาย (ไม่รู้เมืองไทยมีไหนเนอะ) กับอีกกลุ่มนึงคือ ผู้สูงอายุ จะเห็นได้ตามหนัง hollywood ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นจริงแค่ไหน แต่น่าจะจริง ที่เห็นผู้สูงอายุ ทำงานตามห้องสมุด ร้านอาหารเล็กๆ หรือกระทั่ง ศูนย์ช่วยเหลือต่างๆ ของทาง ราชการ ที่มีไว้ บริการชุมชน เป็นหน้าที่ง่ายๆ เช่น คัดแยกเอกสาร หรือ พนักงานต้อนรับ อีกอาชีพหนึ่ง ที่ขัดแย้งกับเมืองไทยมากๆคือ อาชีพแม่บ้าน แม่บ้านในอเมริกา ไม่ต้องเก็บขยะนะ ไม่มีถังขยะในห้องน้ำเหมือนบ้านเรา ไม่มีสายยางฉีดก้น ไม่มีถึงขยะ (มีแต่ถังทิ้งผ้าอนามัย) เพราะเขาบอกว่า หน้าที่แม่บ้าน คือ ทำความสะอาดพื้น อ่าง เท่านั้น (ดีไม่ดี โถฉี่ ชักโครกไม่เกี่ยว) ถ้าจะทำความสะอาด จะเรียกผู้รับเหมามาทำทีเดียว ไม่ได้เช็ดเช้า เช็ดเย็น เหมือนเมืองไทย ยามของเขา ทำหน้าที่สอดส่อง คนเข้าออก ไม่ใช้โบกรถ หรือ กวาดพื้น เก็บขยะ หรือเช็ดโลโก้หน้าร้านเหมือนของไทย หลายอย่างเหล่านี้ ดูแล้ว อยากให้เป็นเหมือนฝรั่งนะ . จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:48:26 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 81 ไปนอนก่อนนะจ๊ะน้องพรและผองเพื่อน  กระทู้นี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า  การคุยกันแบบผู้เจริญแล้วสามารถกระทำได้ ต่างสีต่างความคิดก็แสดงกันออกมาได้ในระบอบประชาธิปไตย แค่ขอให้รับฟังกันบ้างก็พอ จากคุณ : ภูเขาทะเล เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 01:02:27 A:115.31.183.88 X:

ความคิดเห็นที่ 82 78 พี่ห่าน สามปีมีหนนึง ที่จะมีสาระกะเขาบ้าง 5555 มันงวดกันง่ายๆ ซะที่ไหนล่ะคะ :) แต่ดีใจมากๆ มีคนร่วมพูดคุย อะไรที่เป็นการลดการเหลื่อมล้ำจริงๆ คงต้องเป็นนโยบายระยาวจริงๆแหละ พวกระยะสั้น ถามว่า ลดความต่างได้ไหม มันไม่ได้หรอก แต่อย่างน้อย ระหว่างที่กำลังทำนโยบายระยะยาว ก็มีประชานิยมระสั้นออกมาด้วย แบบนี้ก็ดีนะ อยากให้ฝ่ายค้านกะรัฐบาล ช่วยกันผลักดันนโยบายทั้งหมดที่มี ไม่ใช่ว่า พอเรื่องดีๆ คิดเหมือนกัน ก็มาบอกว่า ลอกเลียบแบบ เหยียดหยาม แทนที่จะวิพากษ์ตรงส่วนของความต่าง มาตำหนเรื่องก๊อบซะงั้น นโยบายดีๆ ใครๆ ก็ต้องทำ ไม่มีเป็นของใครๆ หรอก จริงปะ คุณ WTKn ประชานิยม ถามว่ามีประโยชน์ไหม เราว่ามีทั้งนั้นแหละ ประชาชนได้ประโยชน์ทั้งนั้น แต่จะทำไปนานแค่ไหน มันถูกเอามาเสริม เรื่องไหน ก็ควรมีนโยบายพัฒนาเรื่องนั้นๆ ในระยะยาวคู่ไปด้วย หลายรัฐบาล มีนิสัยเสียๆอยู่อย่างเหมือนๆกันหมด คือ ยักเรื่องสำคัญๆ เอาไว้ ผลักดันตอนจะหมดสมัย เผื่อจะได้คะแนนเสียง โดยไม่ต้องหา เขาไม่รู้เหรอว่า มีเรื่องเยอะแยะให้ทำ ถ้าอยู่ครบสมัยแล้วได้อะไรเยอะแยะ จะได่เสียงมากกว่ามาทำเอาตอนท้ายๆนะ เดี๋ยวนี้ คนไทยจำอะไรได้มากขึ้น(นิดนึง)ละนะ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 01:03:06 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 83 81 พี่ภูเขา ฝันดีจ้า.. น้าๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนด้วยนะคะ สงสัย ไปนอนกันหมดแล้ว ฝันดีๆๆ ขอบคุณที่เข้ามามีส่วนร่วมค่ะ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 01:04:26 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณเช่นกันครับ จขกท.และทุกท่านที่ร่วมเสวนา ขอตัวเช่นกัน...ครับ จากคุณ : ห่านป่า เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 01:14:16 A:49.49.102.148 X:

ความคิดเห็นที่ 85 อยากได้รัฐสวัสดิการดีๆเหมือนประเทศ ที่พัฒนาแล้ว ลองถามฝรั่งดูหรือเปล่า ปีหนึ่งเสียภาษีกันเท่าไหร่ จากคุณ : Archawa เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 01:34:33 A:146.23.68.25 X:

ความคิดเห็นที่ 86 .....กระทู้นี้อ่านนานมากๆๆๆ .....คุณ น้องพรผู้น่ารัก .....คุณ น้ำมิตร .....คุณ kang som ....คุณ hang around ....คุณ ภูเขาทะเล ....คุณ ห่านป่า (วันนี้มาแปลก) ....คุณ ลุงเห็ดโคน ....และอีกหลายๆล็อกอินที่ไม่ได้กล่าวถึง ....เป็นแง่คิดที่ดีมากๆซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลดิบที่ยังไม่ได้แปรรูป..มีประโยชน์มากๆครับ... ........ถูกใจเกือบทุกความเห็น....แต่ว่าอนิจจาถ้าหากว่า pantip.com ให้กิ๊บมาสัก 500 ต่อ เดือนนี่จะให้กิ๊บไม่อั้นเลย....แต่นี้มีอยู่แค่ 100 เดียว..ฮือๆๆๆ..ฉเพาะกระทู้ของน้องพร ก็เกือบหมดร้อยแล้ว.....ใช้สอยอย่างประหยัดอย่างไรก็ไม่ค่อยชนเดือนเลย........ จากคุณ : wctr (wctr) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 02:04:06 A:119.42.88.13 X:

ความคิดเห็นที่ 87 ตายจริง ...เข้าเมื่อกระทู้วายอีกแล้วน้องพร..... ดีใจกับคคห.ของทุกท่าน  พูดคุยแลกเปลี่ยนคคห.กันแบบอารชน เขาพูดกันจน พี่ หมดปัญญาจะหาอะไรมาเติม ขอเอาตัวเองเป็นมาตรฐานซะหน่อยก็แล้วกัน เมื่อพูดถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคม  ...ในประเด็นที่ว่า หากปัจจัย 4 มีครบครันแล้ว ความเหลื่อมล้ำที่ยังมีก็คือความรู้สึก... มันเป็นตัณหา ...ของความอยากได้อยากมี ถ้าคนเรารู้จักพอ...มันจะลดปัญหาไปได้มากมาย ดีใจที่วันนี้คุณห่าน..และคุณอดีตหัวหน้าเผ่า คุยภาษาเดียวกันค่ะ จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 06:40:30 A:58.8.172.89 X:

ความคิดเห็นที่ 88 อ๋อย ตื่น มาอ่านแต่เช้า ยาวจริงๆ  แต่คุณภาพ คับแก้ว จากคุณ : ลุงเห็ดโคน เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 07:46:13 A:125.27.201.207 X:

ความคิดเห็นที่ 90 ยังงัวเงียมาบอกลุงห่านว่า นู๋ล้อเล่นนะคร้าาาาา คริ คริ จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 08:08:20 A:115.67.193.67 X:

ความคิดเห็นที่ 91 มาชื่นชมทุกๆความคิดเห็นที่แสดงอารยะทางปัญญา... นี่คือกระทู้คุณคุณภาพที่แท้จริงของห้องราชฯ... ขอบคุณ..คุณน้องพรผู้น่ารัก เจ้าของกระทู้ที่นำถกเรื่องความเหลื่อมล้ำฯได้อย่างสมภูมิ... ปล.มีอึ้ง ทึ่ง และปลื้ม กับคุณห่านป่าและคุณอดีตหัวหน้าเผ่า ที่เคยมีมุมมองต่อคุณทั้งสองแบบติดลบมาตลอด..อืมมมม..จากข้อคิดข้อเขียนในกระทู้นี้ ย่าต้องเปลี่ยนมุมมองแล้วล่ะค่ะ... จากคุณ : ย่าแจ๊คกี้ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 08:26:09 A:119.42.97.77 X:

ความคิดเห็นที่ 92 เอาบุญคุณกันหน่อย ...มาช่วยดันกระทู้น้องพร.. วันหลังหาประเด็นอืนๆ  แบบนี้อีกนะคะ  ...คนเก่ง จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 08:38:00 A:58.8.172.89 X:

ความคิดเห็นที่ 93 เข้ามาลงชื่อว่าได้อ่านกระทู้ดีๆมีคุณภาพ... รักน้องพรจัง จุ๊บๆ... (จะหาว่าตูชีกอหรือเปล่าหว่า...) จากคุณ : pae2010 เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 08:49:49 A:180.183.125.102 X:

ความคิดเห็นที่ 94 คุณ Archawa ลองสาธยายเรื่องภาษีให้ฟังหน่อยสิ อยากรู้ๆๆ เผื่อมีเรื่องแตกประเด็น คุณ max9007 ความยากจน อาจทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกัน เหมือนที่บอกคุณ barboy และที่จ่าหัวกระทู้ว่า การลดความเหลื่อมล้ำ มิได้ทำให้คนจนรวยขึ้น ประเทศที่รัฐ มีตังจะดูแลคนในประเทศ ประเทศ นั้น ยังมีสาวขายบริการ และคนเร่ร่อน บางที คนเหล่านั้น ก็หาโอกาสในการประกอบ อาชีพอื่นไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ถูกทอดทิ้ง หรือพูดอีกนัยนึง คนที่ขาดโอกาสเหล่านั้น อาจเป็นพวกตกสำรวจจากทางการ อาจจะเพราะ เขาหลบเลี่ยงเอง หรือมีความผิดพลาดบางอย่าง แค่เราอยากจะเน้นว่า ต่อให้ขึ้นเงินค่าจ้างแรงงาน ต่อให้แจกเงินค่าข้าว ต่อให้พยายามทำคนจนให้รวยเท่าไหร่ ก็ลดความเหลื่อมล้ำไม่ได้ เพราะไม่มีทางที่จะเอาเงินที่มีอยู่จำกัด ทำให้ทุกคน มีรายได้เท่ากัน แต่รัฐ ควรหาทางให้หน่วยบริการต่างๆ มีมากพอ ที่จะทำให้ชีวิตใครคนนึง ไม่ได้ถูกทอดทิ้ง เพียงเพราะ "ไม่มีโอกาส" ดำเนินชีวิตด้วยปัจจัย4 โอเค ฐานะการเงิน อาจจะมีส่วน ในการเพิ่มโอกาส หลายอย่างให้กับตัวเอง แต่รัฐต้องนำสิ่งต่างๆ เข้าหาปชช ไม่ใช่เขาต้องลำบากลำบนเอง อย่างในกรุงเทพ อาจมีคนมองความความ เหลื่อมล้ำสูง เราว่า จริงๆ ทุกอย่างมีพร้อม แต่ปชช เลือกที่จะใช้บริการจากเอกชน มากกว่า เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล เพราะคุณภาพมัน ดีกว่า จริงๆ การพัฒนาบุคลากรของรัฐ ก็น่าจะเป็นวิธี ลดความแตกต่างเรื่องคุณภาพของบริการที่ รัฐเป็นเจ้าของด้วยนะ เมาขี้ตาอยู่ เขียนรู้เรื่องไหม? จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 08:55:42 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบคุณ คุณย่าแจ๊ค พี่สาว และคุณพี นานๆหนนะคะ เรื่องสาระ จริงๆมีเยอะ แต่พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง 5555 น้า wctr ไม่เห็นงกเลย แจกตรึม!  ขอบคุณนะคะ :) แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 55 09:11:01 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 55 09:08:21 จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 08:57:36 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 96 ชอบกระทู้นี้มากมาย เสียดายที่ตัวเองระยะนี้ไม่ได้เข้ามาร่วมวงเสวนามากนักเพราะถูกจำกัดด้วยเวลาที่มีในแต่ละวัน   เรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคมเป็นปัญหาหลักของประเทศไทยเรา และเป็นปัญหาของระบบทุนนิยมทั่วโลกที่ยังแก้ไม่ได้ด้วยนะคะ ยิ่งในประเทศร่ำรวย ที่พัฒนาแล้ว ก็ยิ่งมีช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนกว้างขึ้น สังคมจึงไม่คาดหวังว่า รัฐบาล(ไม่ว่ารัฐบาลไหน)จะมีมาตรการ หรือวิธีการที่จะทำให้คนในประเทศมีสถานะทางเศรษฐกิจเท่าเทียมกัน เพราะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แม้กระทั่งในระบบการปกครองแบบคอมมูนิสต์ ก็ยังไม่สามารถทำให้ทุกคนเท่ากัน เพราะกลุ่มผู้บริหารประเทศยังมีชีวิตที่หรูหรา ต่างกับประชาชนทั่วไปมากมาย   แต่..ก็ใช่ว่า เราจะยอมรับความเหลื่อมล้ำเช่นนี้ จนไม่ทำอะไรเพื่อการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว การลดความเหลื่อมล้ำ ย่อมไม่หมายถึงการลดช่องว่างระหว่างด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่หมายรวมถึงโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรชาติ โอกาสในการเข้าถึงการศึกษา เข้าถึงการจัดสรรงบประมาณ และระบบยุติธรรม ฯลฯ เป็นงานยากและใช้ระยะเวลา แต่ทำได้แน่นอนค่ะ อยู่ที่ความจริงใจของผู้บริหารประเทศที่จะกำหนดเป็นโยบาย เป็นภารกิจหลักของชาติ เราประชาชน ถ้าเราตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ ตระหนักถึงอันตรายถ้าปล่อยให้ช่องว่างระหว่างคนรวย คนจนกว้างขึ้นเรื่อยๆ ประเทศชาติจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ในระยะยาว   ประชาชนผู้เปี่ยมล้นด้วยโอกาส รวมถึงประชาชนระดับกลางขึ้น ต้องยอมเสียสละเพื่อให้ภารกิจ “ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม” สัมฤทธิ์ผล   คุณน้องพร แสดงความคิดเห็นได้อย่างน่าฟังนะคะ ถูกใจค่ะ   จากคุณ : โพ้นฟ้า เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 09:01:56 A:110.169.217.146 X:

ความคิดเห็นที่ 97 ขอบคุณคุณโพ้นฟ้าสำหรับความเห็น และขอบคุณที่ทำให้นึกออก คือคำว่า "ลดช่องว่าง" เนี่ย ติดอยู่ที่ปลายนิ้ว ตั้งแต่เมื่อคืน แต่คิดไม่ออก 555 บางที สมองมันอาจจะเร่งเครื่องแรงไปนิด ภาษามันเลยดูไม่รัดกุม และง่ายดายเท่าไหร่ คิคิ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 09:16:14 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 98 ดีใจที่เราคุยกันอย่างนี้ครับ... คิดว่าความเหลื่อมล้ำ หรือการกระจายรายได้ไม่ดี หรือดูกันที่ค่าสัมประสิทธิ์จีนี ที่โดยสรุปคนรวย 20% บน มีรายได้เกือบ 60%ของรายได้ประเทศ หรือเฉลี่ยคนละเกือบ 3 %ของรายได้ประเทศ ส่วนคนจน 20% ล่าง มีรายได้ 3 %ของรายได้ประเทศ หรือเฉลี่ยคนละไม่ถึง 0.25 %ของรายได้ประเทศ และคนกลางๆ 60% ล่าง มีรายได้ประมาณ 40 %ของรายได้ประเทศ หรือเฉลี่ยคนละประมาณ 0.5 %ของรายได้ประเทศ ( รวย-กลาง-จน 3-ครึ่ง-เสี้ยว เป็นวิธีจำ เอาไว้คุยได้เลย ไม่ต้องค้น มาตราฐานคนกลางๆต้องได้หนึ่ง ) สาเหตุหลัก...ที่เหลื่อมล้ำ 1. โครงสร้างของสังคมไทย ที่มีระบบเจ้าขุนมูลนาย 2. การเข้าถึงทุนของคนจนต่ำ ไม่มีหลักทรัทย์ค้ำประกัน 3. การเข้าถึงโอกาส เข้าถึงทรัพยากรต่างๆของคนจนน้อย การศึกษาเป็นตัวอย่างที่ดี ทางแก้ไข ก็แนวๆที่ท่านนายกฯทักษิณทำนี่ใช้ได้แล้ว สั้นๆ เพิ่มรายได้-ขยายโอกาส อยากเขียนอีกสักสามหน้า (A4) แต่พอและ ไปทำอะไรๆก่อน คุณน้องพรน่ารักมากครับ (ความคิด) แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 55 14:43:41 จากคุณ : SS เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 09:18:53 A:61.90.20.47 X: