ความคิดเห็นที่ 1 ข้อที่หนึ่ง  ขนาดเศรษฐกิจของ  “กลุ่มประเทศ” ที่ได้รับผลกระทบ โดยส่วนใหญ่  เวลาเราพูดถึงขนาดเศรษฐกิจนั้นเรามักจะใช้ตัวเลข   “ผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ” หรือ GDP ของประเทศนั้นๆ   ในที่นี้  ผมจะขอยกตัวอย่าง 3 วิกฤตการณ์ขึ้นมา เพื่อเปรียบเทียบ วิกฤตหนี้ยุโรป อาจเป็น “วิกฤต ที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ตอนที่ 1 สวัสดีครับ เพื่อนๆ  พี่ๆ  เฟสบุ๊ค เวลานี้  เพื่อนๆ หลายคนคงได้ข่าวเกี่ยวกับ.. ประเทศไซปรัส ไซปรัส  ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กเป็นอันดับ 3 ของยูโรโซน ได้ยื่นขอความช่วยเหลือทางการเงินจากอียูแล้ว ผมจึงอยากขอคุยเรื่อง  “วิกฤตยุโรป”   ต่อซักหน่อย ในตอน  วิกฤตหนี้ยุโรป  อาจเป็น  “วิกฤต ที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ตอนที่ 1 ข้อที่หนึ่ง  ขนาดเศรษฐกิจของ  “กลุ่มประเทศ” ที่ได้รับผลกระทบ โดยส่วนใหญ่  เวลาเราพูดถึงขนาดเศรษฐกิจนั้น เรามักจะใช้ตัวเลข  “ผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ” หรือ GDP ของประเทศนั้นๆ ในที่นี้  ผมจะขอยกตัวอย่าง 3 วิกฤตการณ์ขึ้นมา เพื่อเปรียบเทียบ วิกฤตการณ์ทั้ง 3 วิกฤตการณ์นี้ ประกอบไปด้วย 1) วิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย  หรือที่เราเรียกว่า   วิกฤตต้มยำกุ้ง อ่านรายละเอียดได้ที่   http://www.doctorwe.com/variety/20120522/1247 2)  วิกฤตเศรษฐกิจซับไพรม์  หรือที่เราเรียกว่า   วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ อ่านรายละเอียดได้ที่   http://www.doctorwe.com/variety/20120521/1225 3)  วิกฤตหนี้สาธารณะของยูโรโซน ++++++++ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 55 18:28:51 จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:19:30 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 2 วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งนั้น  น่าจะมี กลุ่มประเทศไทย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และอีกบางประเทศ ซึ่งในที่นี้ เราจะใช้ค่า GDP ในปัจจุบัน เพื่อดูขนาดเศรษฐกิจ ไทยมี GDP ประมาณ  0.33 ล้านล้านดอลลาร์   อินโดนีเซียมีประมาณ 0.82 ล้านล้านดอลลาร์ เกาหลีใต้ มี GDP  ประมาณ  1.1  ล้านล้านดอลลาร์ และอีกบางประเทศ ดังนั้น วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง   GDP  ของ 3-5 ประเทศไม่น่าเกิน  3 ล้านล้านดอลลาร์ +++ จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:20:35 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 3 วิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์  ประเทศที่ได้รับผลกระทบตรงๆนั้น มีเพียงประเทศเดียวคือ สหรัฐอเมริกา GDP  ของอเมริกาในปัจจุบันนั้นมีขนาดประมาณ 15 ล้านล้านดอลลาร์ จึงนับได้ว่ามีขนาดใหญ่กว่า  GDP  ของทุกประเทศ .ที่ได้รับผลกระทบตอนวิกฤต “ต้มยำกุ้ง”  สูงกว่ามาก ++++ จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:21:23 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 4 วิกฤตการณ์หนี้สาธารณะของกลุ่มยูโรโซน ประเทศที่ขอรับความช่วยเหลือไปแล้วมี 5 ประเทศคือ กรีซ ไอร์แลนด์ โปรตุเกส สเปน และไซปรัส แต่เนื่องจากกลุ่มยูโรโซนมีอยู่ 17 ประเทศ  และใช้ “เงินยูโร” เหมือนกัน ดังนั้น ขนาด GDP ของประเทศที่ได้รับผลกระทบ เราจึงคิดทั้ง 17 ประเทศ ซึ่งพบว่า  ขนาด GDP  หรือขนาดเศรษฐกิจของ 17 ประเทศ มีค่าประมาณ  17  ล้านล้านดอลลาร์ +++++ จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:22:22 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 5 จากตาราง เราจะเห็นได้ว่า   จำนวนประเทศที่ได้รับผลกระทบตรงๆ  และขนาด GDP วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง มีเพียง 3-5 ประเทศ   ขนาด GDP รวมกันเพียง 3 ล้านล้านดอลลาร์ วิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์   มี อเมริกา ประเทศเดียว ขนาด GDP 15  ล้านล้านดอลลาร์ วิกฤตยูโรโซน  มี 17 ประเทศ   ขนาด  GDP  17  ล้านล้านดอลลาร์ ++++++ จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:23:05 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ดูจากตัวเลขง่ายๆ  ก็พอจะรู้ว่า ถ้า “วิกฤตหนี้ยูโรโซน”  สำแดงฤทธิ์เดช จริงๆ มันก็น่าจะรุนแรงกว่า “วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์” เมื่อ 4 ปีที่แล้ว อย่างแน่นอน แต่ที่ยังไม่รู้คือ   ดีกรีความรุนแรงของมัน  จะ “หนักหนา” สักเพียงใด ? จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:24:00 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ขออนุญาตข้ามนะครับ ไม่มีความรู้พอที่จะอ่านครับ ยิ่งอ่าน ยิ่งงง จากคุณ : เฒ่าวัย 56 เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:25:34 A:110.168.83.156 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ข้อที่สอง   ขนาดจำนวนเงินที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหา วิกฤตการณ์ ในปี 2540  ตอนที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งนั้น  พบว่า ไอเอ็มเอฟ   ได้เข้าไปช่วยเหลือโดยการให้เงินกู้แก่หลายประเทศ หลายครั้งด้วยกัน อย่างไรก็ตาม  คาดว่าเงินที่ใช้ช่วยเหลือประมาณ 3-5 ประเทศนั้น รวมกันแล้ว ไม่น่าจะเกิน 1 แสนล้านดอลลาร์   +++++ หรือ 0.1  ล้านล้านดอลลาร์ จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:28:09 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ปี 2551   ตอนเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในอเมริกา รัฐบาลอเมริกา  นั้นสามารถพิมพ์เงินได้เอง   จึงไม่ต้องพึ่ง ไอเอ็มเอฟ ก็ได้ออกมาตรการ “ช่วยเหลือครั้งยิ่งใหญ่”  อันประกอบไปด้วย งบประมาณอุ้มภาคการเงิน 0.7 ล้านล้านดอลลาร์ มาตรการผ่อนปรนทางการเงิน ครั้งที่ 1 (QE1)  0.6  ล้านล้านดอลลาร์ และมาตรการป้องกันประชาชนแห่ถอนเงิน (Bank Run)  โดย มีการขยายเพดานรับประกันเงินฝากอีกด้วย แต่ถ้า เอาเฉพาะมาตรการที่ใช้ตรงๆ   ก็จะมีมูลค่า   0.6 + 0.7 = 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ คิดคร่าวๆ ก็คือ  รัฐบาลอเมริกาใช้จ่ายเงินเพื่อเข้าไปพยุง “เศรษฐกิจของตัวเอง” คิดเป็นมากกว่า 10  เท่าของ  จำนวนเงินที่ใช้ในการพยุง “ประเทศเอเชีย” ตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:29:21 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 10 การช่วยเหลือที่เกี่ยวกับ  วิกฤตยูโรโซน.. อาจกล่าวได้ว่า  เป็นการให้เงินช่วยเหลือ ที่สร้างความสับสนมากที่สุด ยูโรโซน  มีการก่อตั้งกองทุนแล้ว 2 กองทุนคือ หนึ่ง  กองทุนรักษาเสถียรภาพทางการเงินยุโรป (EFSF) สอง  กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป  (ESM) ++++++ จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:30:11 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 11 กองทุนแรก EFSF  เป็นกองทุนชั่วคราว และได้ปล่อยกู้ให้กับ กรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส ไปแล้ว ในขณะที่กองทุน ESM  เป็นกองทุนถาวร  ที่มีขนาดประมาณ 0.65 ล้านล้านดอลลาร์ และจะเริ่มใช้เงินเข้าไปช่วยเหลือได้ในเดือน กรกฎาคมนี้ นอกจากนั้นผู้นำยุโรป  ยังวางแผนที่จะใส่เงินเข้าไปอีก 0.17 ล้านล้านดอลลาร์ รวมแล้วจนถึงขณะนี้ กลุ่มยูโรโซนเตรียมเงินไว้ช่วยแล้ว 0.82 ล้านล้านดอลลาร์ จากตาราง  จะเห็นได้ว่า เงินช่วยเหลือเพื่อจะ “ประคองเศรษฐกิจ” ของกลุ่มยูโรโซน ยังมีค่าไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม  เรากำลังพูดถึงจำนวนเงินที่ใช้ “แก้ปัญหา” ที่เป็นอยู่ในขณะนี้เท่านั้น “ปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรป”  อาจกล่าวได้ว่า.. ยังอยู่ในภาวะ เริ่มต้น เท่านั้น จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:35:05 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 12 เวลานี้    ทุกคนต่างรู้ดีว่า วิกฤตการณ์หนี้สาธารณะในยุโรป เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น แสดงว่า     มันยังไม่ถึง “จุดต่ำสุด” แสดงว่า     มันยังต้อง  “ใช้เงินเข้าไปช่วย” อีก แสดงว่า     มันยังต้อง  “ทำให้หลายๆคน เหนื่อยใจ” ต่อไปอีก   ผู้คนในยุโรป ในเวลานี้ หลายคน   อาจจะยังมี “ความสุข” อยู่ หลายคน     เริ่มที่จะมี “ความทุกข์” แล้ว หลายคน     อาจทน “ทรมาน” มานานแล้ว และหลายคน   อาจไม่อยากจะ “มีชีวิตอยู่” ต่อไปแล้ว วันนี้ .  เราเพิ่งเริ่มต้นคุยกันแค่ 2 เรื่อง เท่านั้นเอง ซึ่งเราก็รู้ว่า  “กลุ่มประเทศยูโรโซน” มีขนาดเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบ   สูงที่สุด ต้องมีขนาดของเงินช่วยเหลือ  ซึ่งอาจจะ มากที่สุด และ  วิกฤตยุโรป ครั้งนี้ก็อาจจะเป็น “วิกฤต..ครั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ซึ่งอาจทำให้คนที่ต้องแก้ปัญหานี้   คงจะอยากอยู่  “เงียบๆ คนเดียว” จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:36:41 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ยังจำได้เมื่อครั้ง ต้มยำกุ้ง   ครั้งนั้นฝรั่งออกมาวิเคราะห์วิจารณืว่าไทยไม่มีวินัยทางการเงิน  , แทรกแซงค่าเงิน , ฟอกเงิน ,กู้เงินอย่างไม่มีวินัย สารพัดที่จะวิเคราะห์วิจารณ์  ผลของต้มยำกุ้งครั้งนั้น ไทย,มาเลเซีย,อินดดนีเซีย รวมถึงฟิลิปปินน์และบรูไน ทุกประเทศต่างก็มีการปฏิวัติระบบการธนาคารกันอย่างเคร่งครัด มีกรอบมีกฏกติกาที่ดีขึ้น       แต่แฮมเบอเกอร์และวิกฤติยูโร ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ล้วนเกิดขึ้นล้วนตามอย่างความผิดพลาดวิกฤตของอาเซียนเราในอดีต....       วิกฤตยูโรหนักกว่าแฮมเบอเกอร์แน่นอน  เพราะอเมริกาปั๊มเงินได้เองโดยไม่ต้องสนใจค่าเงินที่ผูกกับทองคำ  แต่ยูโรปั๊มเงินอย่างอเมริกาไม่ได้  เจ้าหนี้เกินกว่า70% ของสเปน,อิตาลี,กรีซ,ไซปรัส ก็คือเยอรมันและฝรั่งเศส  เจ้าหนี้อัดเงินให้ลูกหนี้ที่แท้ก็คือไม่ให้แบงค์ในประเทศตัวเองล้ม  นับไตรมาส4ปีนี้เป็นต้นไป คอยดูเศรษฐกิจโลกกันเถอะครับ...ยูโรทรุด อเมริกาอัดQE3 อเมริกา ขยับดีขึ้น ฉุดยูโรขึ้นตาม ประเดี๋ยวสเปน,อิตาลีก็ออกอาการทรุดรอบใหม่ กรีซสุดท้ายก็จะต้องออกจากยูโรและชวนไซปรัสตามไปด้วย ทีนี้ฝรั้่งเศสกับเยอรมัน ก็เซตาม ...เศรษฐกิจโลกจะขึ้นๆลงเป็นฟันเรื่องอย่างนี้ไปอีก 3--5 ปี...       มันเปรียบเทียบแฮมเบอเกอร์กับยูโรไม่ได้หรอกว่าวิกฤติไหนหนักกว่ากัน เพราะมันเป็นผลต่อเนื่องตามกันมา       * เรามาวิเคราะห์กันดีกว่าว่า ทำไมจึงเกิดวิกฤติทั้งในอเมริกาแล้วมายูโร และผลมันจะไปทั่วโลกได้อย่างไร รุนแรงแค่ไหน แล้วเราจะเดือดร้อนกันแค่ไหน ** อย่าเปรียบเทียบผลงานสองรัฐบาลกับวิกฤติครั้งนี้เลยครับ  รอดูผลรอดูฝีมือรัฐบาลปูกันดีกว่าว่าจะรับมือปัญหานี้กันอย่างไร * GDP ปีนี้ของไทยได้ 4.5-5% ก็เก่งแล้วครับ จากคุณ : น้าสมคิด เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:41:18 A:110.164.181.162 X:

ความคิดเห็นที่ 14 ฝรั่้งที่ผมรู้จัก มีบริษัทใหญ่โต มีบ้าน มีรถ มีเครื่องบิน แต่ไม่มีเงินเก็บ ใช้บัตรเครดิตทั้งนั้นครับ จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:49:28 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ของเราอย่างน้อยคนไทยก็ชอบออมทรัพย์ จากคุณ : มีปัญญาคืออาวุธ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:50:14 A:118.172.215.77 X:

ความคิดเห็นที่ 16 เข้ามาเก็บข้อมูล ขอบคุณครับ จากคุณ : ค้นหา - หนทาง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 18:16:23 A:58.8.233.185 X:

ความคิดเห็นที่ 17 โอว น่ากลัวจริงๆ จากคุณ : Diablo_Octane เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 18:24:43 A:119.46.168.238 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ต้องกลัว  สวยแต่โง่  เตรียมมือรับวิกฤตการณ์อย่างบูรณาการแล้ว "หอการค้าไทย" ชี้ ศก.ไทยซึมตัวยาวถึงปีหน้า ปีนี้ขยายได้ 5.6% ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดครั้งแรกในรอบ 15 ปี http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1342523417&grpid=00&catid=00 จากคุณ : jomjonbupa เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 19:00:23 A:58.8.20.154 X:

ความคิดเห็นที่ 19 ผมเองไม่เชื่อว่า ยูโรจะวิกฤตขนาดที่เพื่อน จขกท เข้าใจ เพราะขนาดเศรษฃกิจเขา แม้จะใช่เงินสกุลเดรยวกัน แต่เขาแล่งโซนการบริหารจัดการ การเลินแบบอิสระ ยั่ยหมาบถึงประเทศหนึ่งล้มเหลว ขาดเงิยสดในมือ ก็ไม่สามารถบ้ายเงินจากเขตอื่ยมาทดแทยได่ ที่ว่าแย่ เพรสะการทีา เพท่อนท่านเข้าใจส่วนหนึ่งว่า ที่ อเมริกาไม่ล้มเพราะพิมพ์เงินเองนีา ต้องไปหา หนุงสือมาอ่านใหม่ ถ้าเมกาขาดวินัยการเงินชยิดพิมพ์เงินสดเพื่อทดแทนดุล เงินสดที่หายไป เรสคงเห็นประชาคม ค้าขายด้วยเงินสกุล ยูโร ไปแล้วครับ จากคุณ : โฟสต์บนตัวเล็ก (โบกกรัก) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 19:10:58 A:180.214.213.236 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ผมชอบอ่านน่ะได้ความรู้ดีและขอบคุณในความตั้งใจที่เผยแผ่ไหลลื่นดีน่าอ่านมากแต่รำคาญพวกป่วนน่ะ จากคุณ : เล็ก นภา เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 19:46:32 A:58.9.49.54 X:

ความคิดเห็นที่ 21 เริ่มมีกระแสเสนอให้เยอรมันแยกตัวออกจากเศรษฐกิจยูโร เพื่อไม่ให้มาตรฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งถูกฉุดไปกับประเทศในกลุ่มซึ่งมีระดับเศรษฐกิจต่างกันมากเกินไป จากคุณ : compassion เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 20:08:02 A:171.100.105.156 X:

ความคิดเห็นที่ 22 ความจริงขนาดยุโรปรวมกันยังเล็กกว่าอเมริกามาก ผลกระทบไม่น่ากลัวเท่า subprime. แต่รัฐบาลนี้ผลาญเงินจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงจะเป็นวิกฤตแบบยุโรป วิกฤติถ้าจะเกิด จากปัจจัยภายในมากกว่า จากคุณ : ไป่ฉี เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 22:34:56 A:1.1.160.238 X:

ความคิดเห็นที่ 23 *18 ภาษาส่อสกุลจริงๆ พวกพาเรนซ์ไม่สั่งสอน จากคุณ : ขิงแห้ง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 23:29:44 A:124.122.225.140 X:

ความคิดเห็นที่ 24 มีผู้ใดเคยทำ SWOT ประเทศไทยบ้างครับ? อยากรู้ว่าเราต้องทำอะไร ค่าแรงสูง, ไม่มีเทคโนโลยี, ภาษาอังกฤษไม่เข้มแข็ง, การเมืองดีขึ้นแต่ก็เปราะบาง, สาธารนูปโภคดี, คุณภาพคนก็น่าจะโอนะ, ... จากคุณ : ชายสยาม (ชายสยาม) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 00:15:23 A:27.130.47.62 X:

ความคิดเห็นที่ 25 เข้าใจครับ นโยบาย ดูอัลแทร็ค ของรัฐบาลที่กำลังทำอยุ่นี้ ค่อนข้างเหมาะสมครับ เพราะ อาศัย การส่งออกอย่างเดียว คงไม่รอด จะเห็นได้จาก การส่ง ออกค่อนข้างลุ่ม ๆดอน ๆ แต่เมื่อมีการใช้จ่ายในประเทศสูง เศษฐกิจ ก็พอจะไปได้ ตอนนี้ ภาครัฐคงต้องรับมือกับ วิกฤติที่ ว่าอย่างเต็มเหนี่ยวแล้ว จากคุณ : pongsri เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 02:58:45 A:101.51.1.136 X:

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยเรื่องอาจจะเป็นครับ แต่ตอนนี้ยังไม่เป็น หุ้นที่ร่วงหนักๆก็แค่กรีช แต่ ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ ยังแข็งโป๊ก ในรอบ 1 ปี หุ้นขึ้นมากันคนละ 80-90% เกือบเท่าตัว รู้ว่า จขกท กำลังจะหาข้ออ้างเรื่องส่งออกร่วง แต่ยูโร ไม่ใช่ตลาดหลักของไทย ตลาดหลักของไทย คือ อเมริกา ญี่ปุ่น จีน อินเดีย สมัย supprime DJI ลงมาต่ำกว่าหมื่น และดึง SET ไทยลงมาด้วย เหลือต่ำกว่า 400 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 06:43:00 จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 06:42:13 A:27.55.9.99 X: