http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1346650322&grpid=01&catid=&subcatid=
กลยุทธ์ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เห็นและเป็นอยู่ในบาทก้าวย่างเข้าปีที่ 2 เด่นชัดอย่างยิ่งว่า พยายามรักษาสมาธิได้อย่างยอดเยี่ยม
เป็นกลยุทธ์อันอาจเรียกได้ว่า "น้ำไหลนิ่ง"
ใครที่เป็นศิษย์สาย พระอาจารย์ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี จะเข้าใจ
1 เข้าใจในอาการไหลของน้ำ
ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมาก คือ เข้าใจในอาการไหลอย่างนิ่ง ไหลอย่างสงบ สม่ำเสมอ
เป็นการเคลื่อนไหวอย่างมีสติ เป็นการเคลื่อนไหวอย่างเปี่ยมด้วยสมาธิ
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกระทรวงกลาโหม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำและป้องกันอุทกภัย
เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นแน่ว
ไม่หวั่นไหว ไม่วอกแวก กุมเป้าหมายอย่างมั่นคง นั่นก็คือ ต้องการสร้างเอกภาพ สร้างความสามัคคี เพื่ออาศัยเงื่อนไขเหล่านี้เป็นเหมือนกระดานหกทางการเมือง
สร้างผลงาน
ที่ลงความเห็นว่า กลยุทธ์ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำเนินไปตามพิมพ์เขียวแห่ง "น้ำไหลนิ่ง" ประเมินจากอะไร
ประเมินจากกระบวนการแถลงผลงาน
เริ่มจากกระทรวงการต่างประเทศ ตามมาด้วยกระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ตามมาด้วยกระทรวงกลาโหม
เป็นไปในลักษณะดาวกระจาย
เป็นยุทธการในแบบแยกกันดำเนินการ ไม่กระทำในลักษณะรวมศูนย์ ผลอันตามมาก็คือ ฝ่ายตรงข้ามจำเป็นต้องกระจายกำลังออกไปด้วย
ทำให้ไม่สามารถฟาดกระหน่ำได้ภายในหมัดเดียว
ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ชิงวิพากษ์วิจารณ์และประเมินผลงาน 1 ปี ของรัฐบาลก่อนล่วงหน้า ยิ่งทำให้กระบวนการยุทธ์ขาดการรวมศูนย์
ขาดพลัง ไร้น้ำหนัก เพราะเท่ากับยอมรับการกระจายกำลัง ยิ่งกระจายกำลังออกไปมากเท่าใด ก็ยิ่งขาดพลัง ไร้น้ำหนักมากเพียงเท่านั้น
ผลที่ติดตามมาอย่างฉับพลันทันใดก็คือ ฝ่ายค้านยังไม่สามารถรวมพลังในการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไว้วางใจได้ตามเป้าหมาย
ทอดเวลาเนิ่นยาว
แท้จริงแล้ว ที่ฝ่ายค้านจำต้องทอดเวลาในการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปยาวนานออกไปจนแทบไม่มีกำหนดเนื่องมาจาก
1 กลยุทธ์ "น้ำไหลนิ่ง" ของฝ่ายรัฐบาล
ขณะเดียวกัน อีกจุด 1 ซึ่งจำเป็นต้องยอมรับก็คือ รัฐบาลยังไม่เปิดจุดอ่อนในเรื่องการทุจริตอย่างจะจะ
ไม่ว่าในเรื่องการป้องกันน้ำท่วมเสมอเป็นเพียงข้อสงสัย
ไม่ว่าในโครงการรับจำนำข้าวที่ว่าสูญเสียเงินหลายหมื่นล้านบาท ก็เสมอเป็นเพียงข้อสงสัยในลักษณะเหวี่ยงแห
เหวี่ยงแหไปยังระดับ "ปฏิบัติการ"
ไม่มีอะไรโยงสายยาวไปยังรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ที่รับผิดชอบโดยตรง ยิ่งนายกรัฐมนตรียิ่งห่างไกล ที่วิพากษ์วิจารณ์กันน้ำลายแตกฟองก็เสมอเป็นเพียงปลาซิวปลาสร้อย ปลายอ้อปลายแขม
เมื่อจับทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ได้เสียแล้วก็ยากที่จะยื่นถอดถอนได้
เมื่อไม่สามารถยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ ก็ไม่สามารถเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้าไปแทนที่
เสียเวลาไปเปล่าๆ
ยอมรับเถิดว่ากลยุทธ์ "น้ำไหลนิ่ง" เหมาะอย่างยิ่งกับท่วงทำนองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นั่นก็คือ เดินหน้าทำงานตามนโยบายสถานเดียว นั่นก็คือ ไม่ยอมเสียสมาธิ ต่อปากต่อคำกับการตอดนิดตอดหน่อยอันมาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
รอเวลาน็อกด้วยผลงาน
............................................................
ยิ่งนานวันเข้า นายก ปู ยิ่งทิ้งห่าง มาร์ค ออกไปเรื่อยๆ ครับ
ปชป น่าจะเป็นฝ่ายค้านอีกนานครับ