ผมเองเห็นว่ากฎหมายนี้เป็นกฎหมายอาญา การตีความต้องจำกัดเพราะถ้ากว้างเกินไปก็ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ตัวกฎหมาย
จึงเรียนว่า ที่มีอำนาจกำกับดูแล ถ้าเป็นนายกฯ คงไม่หมายถึงว่าคนที่เป็นภรรยาทำสัญญาอะไรกับรัฐไม่ได้เลย มันต้องมีระดับความเข้มข้นในการกำกับดูแลตามสมควร
อันที่สองที่จะต้องพิจารณาก็คือลักษณะของสัญญา ตรงนี้ยาก มันมีข้อจำกัดว่าจะขีดเส้นตรงไหน ส่วนตัวผมเห็นว่าสัญญาที่จะเข้ามาตรา 100 ต้องเป็นสัญญาที่หน่วยงานสามารถใช้ดุลพินิจเอื้อประโยชน์แก่คู่สัญญาได้
เช่น เวลามีการประมูลงาน มีคนยื่นข้อเสนอเข้ามา คนยื่นข้อเสนอไม่ได้เป็นคู่สัญญาทันที แต่จะต้องผ่านการตัดสินใจของหน่วยงาน หัวหน้าหน่วยงานมีดุลพินิจที่จะตัดสินใจเข้าทำสัญญาหรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนี้กรณีย่อมต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 100 นี่คือการขจัดประโยชน์ที่ทับซ้อนกันหรือป้องกันไม่ให้เกิดประโยชน์ทับซ้อน
แต่ถ้าเป็นการขายทอดตลาดทั่วไปแล้วหน่วยงานไม่มีดุลพินิจอะไร ใครที่เสนอราคาสูงสุดก็จะได้ที่ดินนั้นไป ผมมองว่าไม่น่าจะเข้า เพราะหัวหน้าหน่วยงานไม่มีดุลพินิจในการตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำสัญญา"
ฉะนั้น ถ้าถามว่าวรเจตน์กลับไปกลับมาหรือไม่ ก็มีบันทึกเป็นหลักฐานว่าวรเจตน์ยืนหยัดในหลักการ ไม่ว่าตอนที่เขาวิพากษ์ทักษิณหรือวิพากษ์รัฐประหาร
วรเจตน์ จึงทำให้พวกพันธมิตร สื่อ นักวิชาการ ที่เกลียดชังทักษิณโกรธแค้นจนคลั่ง เพราะความมีหลักการเหตุผลของเขาทำให้รัฐประหารตุลาการภิวัตน์ล้มเหลว คนพวกนี้กรีดร้องใส่วรเจตน์ นักคิด นักวิชาการประชาธิปไตย ที่คัดค้าน ม.7 และรัฐประหารว่า พวกเมริงไม่รู้หรือว่าทักษิณมันเลว มันจะทำให้ประเทศชาติพินาศ ต้องใช้ทุกวิถีทางจัดการมัน
จากข้อกล่าวหาว่าไร้เดียงสา เมื่อไม่สามารถตอบโต้ด้วยเหตุผล คนเหล่านี้-ที่อ้างศีลธรรมจรรยา อ้างว่ารักชาติรักประชาชน ก็ใช้วิธีการให้ร้ายป้ายสี ดิสเครดิต ตั้งแต่รับเงินไปจนล้มเจ้า
ถามว่าสื่อ นักวิชาการ แกนนำสลิ่มและพันธมิตร รู้หรือไม่ว่านิติราษฎร์บริสุทธิ์ใจ ไม่ได้รับเงินใครมา
รู้สิครับ พวกเขายังรู้ด้วยว่าพวกที่ร่วมกันก่อรัฐประหาร หรือสนับสนุนรัฐประหาร บางคนทำมาหากิน หาผลประโยชน์ ฉวยโอกาส แต่พวกเขาเพิกเฉยต่อคนกันเอง กลับมาให้ร้ายป้ายสีคนบริสุทธิ์
พวกที่อ้างว่ามีคุณธรรมจริยธรรมเหล่านี้คงไชโยโห่ร้อง ถ้าปิยบุตรถูกอุ้ม หรือวรเจตน์ถูกม็อบลากไปแขวนคอสนามหลวงแล้วเอาเก้าอี้ฟาด
นี่คือพวกที่ทำอะไรทักษิณไม่ได้ ทำอะไรยิ่งลักษณ์ไม่ได้ แล้วมาระบายใส่นิติราษฎร์ หนำซ้ำยังเยาะเย้ยสะใจที่ออเหลิม ตัดหาง นิติราษฎร์ ถ้าทำลายนิติราษฎร์ได้ เผลอๆ พวกนี้คงมีความสุข ยิ่งกว่าโค่นทักษิณ
เพราะนิติราษฎร์และนักวิชาการประชาธิปไตย ไปทำให้พวกเขาเสียหน้า เสียเครดิต สถาบันนักวิชาการที่เคยได้รับการยกย่องนับถือจากสังคม กลายเป็นสถาบันต่ำทรามเพราะความไม่มีหลัก สถาบันสื่อที่เคยชี้นำสังคมได้ นักการเมืองผู้มีอำนาจจากไหนต้องซูฮก กลายเป็นกระดาษเปื้อนหมึกระบายอารมณ์
=============================================
คัดบางส่วน บางตอน จากบทความของ'ใบตองแห้ง' ออนไลน์
คนที่ไม่เห็นด้วย ขอให้สุภาพ มีเหตุผล และไม่ต้องเรียกร้องให้เราไปเชิญเขามาออกรายการ "เวทีมวยราชดำเนิน" เราไม่ได้รู้จักตัวตนของเขา แค่รู้จักตัวหนังสือของเขา
หากอยากพบเขา เขามีที่ให้ไปพบอยู่แล้ว
ไม่ใช่มาชกลมวืดวาด แล้วตะโกนอยู่ในห้องนี้ว่า
"แน่จริง คุณมาชกกับกรูตัวต่อตัวซิวะ เฮ้ย"
เขาแน่จริงหรือไม่แน่จริง ป่านนี้ยังไม่มีนักวิชาการคนไหนแย้งเขาได้
ทำได้แค่ด่าและให้ร้ายเขา เท่านั้น