ความคิดเห็นที่ 1 จำนำดีกว่าประกันครับ  จ่ายไปแล้วได้ของมารอขายย่อมดีกว่าจ่ายแล้วไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย จากคุณ : หน้าม้าคุง ... ฮี้ฮี้ เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 21:02:34 A:180.183.19.66 X:

ความคิดเห็นที่ 2 หากตัดวงจรทุจริตได้(อุดมคติ)ก็เป็นอย่างที่ จขกท.ว่าครับ จำนำดีกว่า จากคุณ : kareyong เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 21:11:01 A:110.168.102.43 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่รู้สิ แต่ถ้าหากรัฐบาล ทำเหมือนพ่อค้า(น้ำมันปาล์ม)กักตุนแล้วคนทั้งโลกส่วนใหญ่ก็กินข้าวเชื่อว่ายังไงก็ไม่น่าขาดทุนเยอะ จากคุณ : มองหลายมุม เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 21:12:00 A:110.169.183.208 X:

ความคิดเห็นที่ 4 มาคราวนี้ ไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ครับ ไม่อยากใช้คำว่า โกหกและบิดเบือนกับคุณโบกกรักเลย ... 1. ทำไมไปตีให้ใช้เงินเท่ากันละครับ ยอดเงินงบประมาณที่ใช้ทั้งสองโครงการแตกต่างกัน 2. ประกันราคาเงินถึงมือชาวนาโดยตรง  แต่จำนำต้องจ่ายเป็นเบี้ยบ้ายรายทางซะเยอะ ค่าบริหารจัดการ ค่าเก็บรักษา จิปาถะ 3. ประกันราคา ชาวนาได้ประโยชน์ 3-4 ล้านคน  แต่จำนำ ได้ประโยชน์แค่ประมาณล้านเศษ 4. ประกันราคาไม่บิดเบือนกลไกตลาด  แต่จำนำราคาข้าว กำลังจะทำให้ประเทศล่มจม เพราะขายข้าวไปต่างประเทศไม่ได้ ยอดส่งออกลดลงกว่าครึ่ง เอาแค่นี้ก่อนครับ จากคุณ : ศรอรชุน (karn_kate) เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 21:22:50 A:110.49.241.214 X:

ความคิดเห็นที่ 5 หากเป็นรัฐบาลขยัน  การจำนำต้องดีกว่าอยู่แล้ว เพราะชาวนาได้เงินมากขึ้น แต่จะต้องเหนื่อยตอนจะจัดการกับข้าวที่รับจำนำเอาไว้ เพราะรัฐบาลไม่ใช่พ่อค้าที่มีลูกค้าอยู่ในมือ  นอกจากการขายข้าวแบบ จึทูจึ หากเป็นรัฐบาลขี้เกียจ ตัดปัญหาการถูกตรวจสอบ เพราะจ่ายเงินอย่างเดียวออกไป โดยไม่ต้องแบกภาระการดูแลข้าว ก็จะใช้นโยบายประกันราคา โดยไม่ต้องหาลู่ทางระบายข้าว เนื่องจากเอาเงินที่อ้างว่าจะให้ชาวนาแต่ที่แท้ไปจ่ายแทนพ่อค้า ทำให้พ่อค้าข้าวมีต้นทุนที่ต่ำลง เลยระบายข้าวได้ง่ายขึ้น เพราะพ่อค้าสามารถตัดราคากับคู่แข่งได้ เนื่องจากต้นทุนส่วนหนึ่งมีรัฐบาลจ่ายชดเชยให้ชาวนาไปแล้ว หากเป็นนักบริหารแบบเช้าชามเย็นชาม ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย ยังไงก็ต้องเลือกการประกันราคาอยู่แล้วนะฮ้า จากคุณ : นางฟ้านะยะ เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 21:30:04 A:110.168.65.124 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ดีทั้งสองระบบ ใช้ในสถานะการณ์ต่างกัน 1. การจำนำ เป็นการดึงผลผลิตไปเก็บไว้เพื่อให้เกิดความสมดุลของกลไกลการตลาด หลังจากนั้นราคาก็จะเป็นเรื่องของอุปสงค์ และอุปทาน การกำหนดราคารับจำนำ ไม่ควรเกิน 100% ของราคาผลผลิต + กำไรของเกษตรกร + ความสามารถบริการจัดการขายของผู้รับจำนำอีก 10% (ส่วน 10% ถ้าทำได้ ต้องเฉลี่ยคืนผู้จำนำด้วย) 2. การประกันราคา ใช้เพื่อจูงใจให้มีผู้ผลิตมากขึ้นเพื่อให้พอกับความต้องการของตลาด แต่สมัยรัฐบาลก่อนใช้ไม่ถูกวิธี ผิดพลาดอย่า่งมากมาย มหาศาล ผิดกลไกลการตลาด (จะได้ผลผลิตหรือไมไม่เป็นไรได้เงินประกัน) แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 55 21:35:10 จากคุณ : kuraroi เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 21:30:39 A:171.4.183.132 X:

ความคิดเห็นที่ 7 จำนำต้องมีเงินสี่แสนล้าน เพื่อรับจำนำข้าว ยี่สิบล้านตัน ประกันราคาอย่างปชป.ทำ (ที่ทำแบบไม่มีประสิทธิภาพ) ใช้เงินห้าหมื่นล้าน ถ้ารัฐบาลเก่ง เงินสี่แสนล้านบาท สามารถหมุนเวียนเข้าออกได้เรื่อย ๆ โดยโครงการสามารถเลี้ยงตัวได้ด้วยตัวเอง เงินสี่แสนล้าน ก็มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย สองสามหมื่นล้านต่อปี ถ้าใช้ประกันราคา รัฐบาลทำงานมีประสิทธิภาพ เงินต้องใช้น้อยกว่าห้าหมื่นล้าน โดยที่ราคาข้าวดีกว่าที่ทำไปสองปีก่อนแน่นอน ถ้าผมเป็นคนดูแลช่วยเหลือชาวนา ผมจะเอาสองโครงการรวมกัน แล้วรัฐบาลหาเงินกู้มาให้สักสี่แสนล้าน โดยรัฐบาลช่วยจ่ายดอกเบี้ยให้ ผมว่าไม่เกินสิบปี สามารถคืนเงินต้นได้อย่างแน่นอน จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 21:39:00 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ยังไงสลิ่มก็ต้องการมาร์คเสมอ ก็เลือก ปชป ไปเรื่อยๆ นะ อย่างมากก็ทนนายกปูอีกไม่เกิน 7 ปีหรอก เดี๋ยวเพื่อไทยเขาก็เปลี่ยนคนใหม่สลับเป็นช่วงๆ เองแหละ เหอๆ จากคุณ : compassion เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 21:44:23 A:171.100.105.156 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ผมจะทำทุกอย่างให้ตรงข้ามกับพรรคปชป.ทำ เพราะผมมองว่า  ประชาธิปัตย์ มันคือพรรคถ่วงความเจริญของชาติครับ ทุกครั้งที่ชาติมีปัญหา  ปชป. มันดีใจ  ยิ้มหน้าบานกันทั้งพรรค ตอนนี้ก็เห็นมันภาวนาให้น้ำท่วม กทม. อยู่เลยครับ เลวได้โล่ห์จริงๆพรรคนี้ จากคุณ : suwannarach เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 21:47:39 A:171.5.208.160 X:

ความคิดเห็นที่ 10 น่าจะคิดยังงี้ สมมุติ ข้าวล้านตัน ราคาตันละ 6000 ประกันราคา 10000 ต้องใช้ 4000 ล้าน ไม่มีคืน จำนำข้าว ต้องจ่ายก่อน 9000 ล้าน ถ้าขายข้าวได้ 6000 เท่ากับเสีย 9000 ล้าน ใช่ไหม? ถ้าขายข้าวได้ 10000 เท่ากับเสีย 5000 ล้าน ถ้าจะเสียเท่า ประกันราคา 4000 ล้าน ต้องขายให้ได้ 11000 ต่อตัน ถ้าข้าวราคา 15000 ถึงจะเท่าทุน เราคิดถูกป้ะ? ผิดกันแค่ ประกัน จ่ายอย่างเดียว ราคาไม่ขึ้น รัฐต้องจ่ายตลอดชั่วนาตาปี แต่จำนำ ถ้าราคาตลาดขึ้นจริง ปีนั้นไม่จำเป็นต้องชดเชยแล้ว ชาวนาขายเองได้ แต่ จาก 6000 จะขึ้นไป 11000 ได้ ต้องใช้เวลา เท่าไหร่? จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 22:31:56 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 11 จำนำแซ่ะ สมมุติเรารับ ที่ราคา 15000  แต่ราคาข้าวในตลาดโลก 20000 15000 ก็ไปที่ชาวนา แล้วเราก็ได้ภาษีอีก แถมกำไร 5000 ก็เข้ารัฐบาล ยิ่งตอนนี้ราคาอาหารทั่วโลกยิ่งสูงขึ้น มันจะเป็นโอกาสดีให้ชาวนาได้ลืมตาอ้าปากได้ ถ้าได้รัฐบาลบริหารจัดการดีๆอ่ะ จากคุณ : stryker เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 04:09:51 A:110.171.24.62 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ประกันราคาข้าว -- โรงสีกดราคาข้าวชาวนาตามต่ำๆ ใจชอบ -- ที่เหลือให้ชาวนาไปเอาเงินจากรัฐ แล้วโรงสีก็เอาข้าวไปขายแพงๆ ยิ่งกดราคาชาวนามาก ยิ่งได้เงินมาก ประกันราคาข้าว โรงสรถึยินดีปรีดากันถ้วนหน้า ส่วนชาวนาจ๋อย ได้เงินจากโรงสีนิดเดียว ที่เหลือกว่าจะได้จากรัฐ ต้องผ่านสาระพัดกระบวนการ ได้เงินเบี้ยหัวแตก แล้วก็จนต่อไป อำมาตย์ชอบ ************** รับจำนำ --- โรงสีข้าวหมดปัญญากดราคา  ได้แค่ "ค่าจ้างสีข้าว" ให้รัฐบาล ชาวนา ได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย เป็นก้อน ถ้าราคาดี ยังเอาไปขายต่อได้อีก ************** สองนโยบายนี้ ถ้าดูให้ดีๆ จะเห็นว่า ใครคือกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์โดยตรง ประกันราคาข้าว -- เจ้าของโรงสีได้ (ทั้งปี) จำนำราคาข้าว -- ชาวนาได้ (พึ่งจะมีโอกาสครั้งนี้นี่แหละ) จากคุณ : leopoldamys เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 07:36:26 A:27.130.154.137 X:

ความคิดเห็นที่ 13 คห 11 เราไม่รู้ว่า ทำไมเขาถึงใช้คพว่า "จำนำ" ข้าว ถ้าข้าวราคาขึ้นจริง คนที่เคยขายราคาถูกจะมาซื้อคืนแล้ว ไปขายเองได้ไหม? แต่ที่แน่ๆ รัฐได้กำไร ล้อทแรกล้อทเดียว เพราะถ้าข้าวราคาแพงขึ้น ใครจะไปขายที่ 15000? เรื่องนี้ ยังไงๆ รัฐก็เสียเปรียบ มีแต่เสียกับเท่าทุน กำไรยากค่ะ แต่ก็เป็นปกติ bts ถนน ทางด่วน รถไฟ ทุกอย่างรัฐออกเงิน แล้วก็ขาดทุน แล้วก็กู้ เงินที่เอาไปจ่ายหนี้ ก็ได้จากภาษีโน่นนี่สะส่วนใหญ่ ถ้าศก คึกคัก ภาษีก็เยอะ ฉนั้น ถ้าเราพอเพียงกันเกินไป ก็ไม่มีปัญญาใช้หนี้นะ รึเปล่า? จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 12:43:59 A:110.49.251.53 X:

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าถามในแง่เชิงกำไรขาดทุน ถามนักธุรกิจดีกว่ามั้งครับ แต่ถ้าถามนักธุรกิจ นักธุรกิจคงเลือกไม่ทำทั้งคู่ เพราะมันเจ๊งทั้งคู่ แต่ที่เขาทำน่ะ เพื่ออะไร ผมว่านั่นคือโจทย์ เพื่อตัวเลขก็ไม่ต้องทำเลยซักอย่าง ไม่ขาดทุน ไม่ต้องปวดหัวด้วย เพื่อชาวนา ก็ต้องดูที่ชาวนา เอาจำนวนชาวนา และราคาต่าง มาหาค่าเฉลี่ยกัน แต่ถ้าย้อนถามอีกว่า ถ้าเลือกไม่เอาไม่ได้ล่ะ ตอบตามหลักการของมันนะครับ ในแง่บริหาร ประกันราคาง่ายกว่า เพราะไม่ซับซ้อน บริหารจัดการง่าย ในแง่ธุรกิจ คงตอบว่าธรรมชาติของธุรกิจยิ่งมีความเสี่ยงมาก ยิ่งผลตอบแทนสูง แต่ต้องดู ว่าเสี่ยงไปเพื่ออะไร? ปัจจัยมีอะไรบ้าง? ควรเสี่ยงไหม? จากคุณ : MiNiJung เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 18:04:39 A:183.89.62.103 X:

ความคิดเห็นที่ 15 มันไม่มีใครเลวไปขนาดนั้นหรอกมั้งครับ  ขอให้สติกลับมาเร็วๆนะครับ   ความคิดเห็นที่ 9    ผมจะทำทุกอย่างให้ตรงข้ามกับพรรคปชป.ทำ เพราะผมมองว่า  ประชาธิปัตย์ มันคือพรรคถ่วงความเจริญของชาติครับ ทุกครั้งที่ชาติมีปัญหา  ปชป. มันดีใจ  ยิ้มหน้าบานกันทั้งพรรค ตอนนี้ก็เห็นมันภาวนาให้น้ำท่วม กทม. อยู่เลยครับ เลวได้โล่ห์จริงๆพรรคนี้ จากคุณ : suwannarach  เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 21:47:39 A:171.5.208.160 X:  ถูกใจ : Sturmovik จากคุณ : MiNiJung เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 18:09:29 A:183.89.62.103 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบพี่ 13 ในหลักการทำได้ครับ แต่จะมีชาวนาซักกี่คนที่ไปซื้อคืนมาขายเองล่ะครับ ในเมื่อเขาได้ในราคานี้เขาพอใจ เขาก็ไม่โลภไปเอาออกมาขายเองหรอกครับเสียเวลาหาตลาดเสียเวลานู่นนี่นั่น  สู้เอาเวลาที่จะไปไถ่ออกมา ไปปลูกข้าวรอบต่อไป จะนาปีหรือ นาปรังก็เหอะ เอามาขายในราคาที่มันสูงขึ้นจะดีกว่า(ถามมาจากชาวนาแถวบ้านยายผมนะที่อื่นไม่รู้คิดงี้รึเปล่า) แต่ผมก็สงสัยว่า รับจำนำแค่ 15000   แล้วถ้าข้าวราคาดี ราคารับจำนำจะขึ้นตามด้วยรึเปล่า หรือว่าจะกั๊กไว้ที่ราคานี้เพื่อไม่ให้พ่อค้าคนกลางกดราคาให้ต่ำกว่า  ดูๆแล้ว มันก็คล้ายๆกับประกันราคาแหละ แค่เปลี่ยนไอ้นั่นนิดไอ้นี่หน่อย หลักๆ แล้วก็แค่ไม่ให้ราคาข้าวตกลงไปมากกว่าราคาที่เราตั้งไว้ ซึ่ง รับจำนำข้าวให้ราคาสูงกว่า แถมรัฐต้องมารับความเสี่ยงเมื่อเกิดภัยพิบัติ เพราะรับจำนำข้าวเขาไว้  ถ้าเกิดเหตุน้ำท่วมไฟไหม้โรงสี  รัฐก็ชดเชยกันไป ประกันราคาผมไม่รู้นะครับเพราะผมยังไม่ได้ศึกษานโยบายนี้ ^^ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 55 23:59:15 จากคุณ : stryker เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 23:06:21 A:110.171.24.62 X: