PANTIP.COM : P12625439 คดีแม่ สส. ปชป. ฉ้อโกง 4,100 ล้านบาท คดีจะหมดอายุความสิ้นเดือนหน้านี้ ตำรวจทำอะไรอยู่ครับ []

ความคิดเห็นที่ 15

คห14...หายเงียบอะไร นี่ข่าว มีนาคม 2012

และก็ไม่เกี่ยวกับ รัฐบาล เพราะอยู่ในมือ ปปช.(องกรณ์อิสระที่เป็นขั้วตรงข้ามกับฝ่ายรัฐบาลชัดเจน โดยนาย กล้านรงค์ ที่ขี้โม้ว่ารับไม่ได้กับการทุจริต เพราะเลวร้ายกว่าเผด็จการทหารที่ยึดอำนาจ) แต่คดีจะหมดอายุความแล้ว รวมถึง ปรส.ด้วยพวกมันยังไม่ส่งศาลเลย

แบบนี้จะโทษใคร ปปช.ไม่ใช่ฝ่ายพวกผม เสื้อแดง แลพ พท.ครับ

..........................................................................................................

http://www.dailynews.co.th/politics/15301

ปปช.ถกทูตมะกันขออายัดเงินสินบนคดี “จุฑามาศ"

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (2 มี.ค.) ที่คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นางคริสตีย์ เอ.เคนนีย์ เอกอัครราชทูต (ออท.) อเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมด้วย นายอาลิ เจลิลิ ผอ.ฝ่ายคดีอาญชกรรมข้ามชาติ และนายโคฟี กีร่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายเศรษฐกิจ และคณะเข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. นายกล้านรงค์ จันทิก นายใจเด็ด พรไชยา นายภักดี โพธิศิริ นายเมธี ครองแก้ว นายประสาท พงศ์ศิวาภัย และนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. เพื่อหารือข้อราชการที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติระดับสากล โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

ซึ่งนางคริสตีย์ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า เป็นการมาพบเพื่อเรียนรู้การทำงานของ ป.ป.ช. และพูดคุยถึงการทำงานระหว่างสหรัฐ-ไทย ว่าต้องทำงานร่วมกันอย่างไร เกี่ยวกับงานของ ป.ป.ช. และเห็นว่าองค์กรอิสระของทุกประเทศนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นต้องมี

ด้านนายกล้านรงค์ กล่าวว่า ออท.สหรัฐฯ ได้ขอพบเพื่อทำความรู้จักกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. และได้พูดคุยว่าหากมีประเด็นใด ที่จะให้ความร่วมมือเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตก็ยินดีให้ความร่วมมือโดย ออท. สหรัฐแจ้งเบื้องต้นว่าไม่ได้เข้ามาก้าวล่วงการทำงานของ ป.ป.ช. เพราะทราบดีว่าเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามในที่ประชุมมีการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการหลายเรื่อง โดยเฉพาะคดีสำคัญบางคดีที่ ป.ป.ช. ได้ขอความร่วมมือจากอัยการของสหรัฐฯ โดยการขอข้อมูลมา เช่น คดีของนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทุจริตรับสินบนข้ามชาติในการจัดงานภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ

นายกล้านรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ป.ป.ช. ยังได้ชี้แจงให้ทาง ออท.สหรัฐฯ ทราบว่าการทำงานของ ป.ป.ช.เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เป็นระบบการไต่สวนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในทุกระดับ ซึ่งการปราบปรามการทุจริตโดยระบบการไต่สวนนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบการกล่าวหา และในกฎหมายปัจจุบันสามารถส่งเสริมการปราบปรามการทุจริตได้โดยมีการคุ้มครองพยาน และกันบุคคลเป็นพยานในคดีอาญาได้ ซึ่งจะทำให้การปราบปรามการทุจริตประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการพบปะและหารือกันในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ซึ่งทางออท.สหรัฐฯ ก็ยินดีว่าต่อไป น่าจะมีการพบปะระหว่างสถานทูตสหรัฐฯ กับ ป.ป.ช. ต่อไป หากมีกรณีที่จะร่วมมือกันปราบปรามการทุจริตให้มีประสิทธิภาพ

“สำหรับคดีของนางจุฑามาศ ป.ป.ช.ได้รับความร่วมมือจากสหรัฐฯ ในการให้ข้อเท็จจริง และกำลังประสานงานเพี่อติดตามเงินสินบนที่ทางสหรัฐฯ ยึดอายัดไว้ เพื่อขอนำกลับมาเมืองไทย เพราะถ้าทำได้ก็จะเป็นประโยชน์กับแผ่นดิน นอกจากนั้นยังมี 2-3 คดีที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคดีความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่ต้องประสานกับศาลสหรัฐฯ โดย ออท. สหรัฐฯ ยินดีที่จะรับไปประสานงาน” นายกล้านรงค์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการพูดคุยกันถึงเรื่องของ นางนลินี ทวีสิน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำทางธุรกรรมการเงินด้วยหรือไม่ นายกล้าณรงค์ กล่าวว่า ไม่มีการลงลึกในประเด็นใด เป็นเพียงการหารือภารกิจในอำนาจหน้าที่ทั่วไป เมื่อถามว่ามีการหารือถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีบางฝ่ายเรียกร้องให้ยุบองค์กรอิสระหรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร ต้องดูต่อไปว่ารัฐธรรมนูญที่จะร่างขึ้นมานั้นเป็นอย่างไร มีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอย่างไร ขณะนี้เป็นเพียงการวิพากษ์วิจารณ์ อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช. เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญตั้งแต่ฉบับปี 2540 ต้องปฎิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ ยึดถือความเที่ยงธรรม สุจริต ปฏิบัติหน้าที่ครบถ้วน ป.ป.ช. ทำงานไม่มีธงปักไว้ก่อน ทำงานตามหน้าที่ใครผิดก็ผิด สะสางงานมาตั้งแต่เข้ารับหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามว่าป.ป.ช. ชุดปัจจุบันถูกวิจารณ์ว่าเป็นองค์กรอิสระที่เกิดขึ้นจากรัฐบาล คมช. จะกลัวถูกเช็กบิลย้อนหลังหรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ไม่กลัวถูกเช็กบิล เพราะกรรมการ ป.ป.ช.ทุกคนทำงานตามหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ไม่ช่วยใคร ไม่แกล้งใคร ดังนั้นจึงไม่กลัวการเช็คบิลย้อนหลัง คดีมีมาทุกรัฐบาล ทำงานตามหน้าที่ไม่ได้มีอคติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีทุจริตรับสินบนข้ามชาติในการจัดงานภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ของนางจุฑามาศนั้น รัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีหลักฐานระบุว่านางจุฑามาศได้รับเงินจำนวน 1.8 ล้านดอลลาร์ ( ราว 60 ล้านบาท) จากนายเจอราล์ด และนางแพทริเซีย กรีน นักสร้างภาพยนต์ ชาวนครลอส แองเจลีส เพื่อให้ทั้งคู่ได้จัดงานนิทรรศการภาพยนต์กรุงเทพฯ และได้ทำข้อตกลงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว.
แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 55 15:35:32

จากคุณ : ทิศทางลม

เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 15:32:25 A:101.108.80.84 X:

ความคิดเห็นที่ 17

เอาคดีนี้ก่อนครับ
อีกเดือนเดียว ไทยจะต้ิองสูญเงินไปสังเวยกับความชั่วของบรรดาแมงสาบไปอีก 4,100 ล้านบาทแล้ว งานนี้ถ้าคิดแบบมองโลกในแง่ร้ายนะครับ แบ่งให้ผู้มีส่วนในการดำเนินการ คนละ 100 ล้าน 10 คนก็เสียเงินไปแค่ 1,000 ล้านบาท เหลืออีกตั้ง 3,100 ล้าน เอามาอุดปากผู้ดำเนินการในการดำเนินการจับกุมได้อีกตั้งเยอะน่ะ

เนื้อข่าวครับ
หลังจากที่สามารถนำตัว นายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ(บีบีซี) ผู้ต้องคดียักยอกทรัพย์บีบีซีซึ่งหลบหนีไปอยู่ประเทศแคนาดานานกว่า 13 ปีกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้ดูเหมือนว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่อัยการ ตำรวจ ต่างแสดงความภาคภูมิถึงความสำเร็จในการดำเนินการดังกล่าว !!!!!!!!!!

แต่ความจริงแล้วมีผู้ต้องหาคดีคดีฉ้อโกงธนาคารพาณิชย์สำคัญอีกคดีหนึ่งคือ คดีทุจริตธนาคารมหานคร ที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 4,100 ล้านบาทที่ยังคงหลบหนีหมายจับของศาลอยู่ โดยตำรวจยังไม่สามารถ(ไม่กล้า?)จับกุมตัวได้ ไม่รู้ว่าอาศัยบารมีของคนรอบข้าง ที่มีลูกชายเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานครเขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี และมีสามีเป็นอดีตอัยการใหญ่ นายสมพงศ์ สุวรรณภักดี หรือไม่

ผู้ต้องหาคนดังกล่าวคือนางภคินี สุวรรณภักดี อดีต รองกรรมการผู้จัดการธนาคารมหานคร

คดีดังกล่าวศาลอาญากรุงเทพ ได้ออกหมายจับที่ จ24/3/2549 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2549 โดยมี พ.ต.ท.สุเมธ โสดสงค์ ทำการแทนผู้บังคับการกองปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี เป็นผู้ร้อง ทั้งนี้หมายจับมีสาระสำคัญว่า
"ด้วยนางภคินี สุวรรณภักดี ซึ่งต้องหาว่า ร่วมกระทำความผิดฐาน ร่วมกันยักยอก เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้จัดการทรัพย์สินของบุคคลอื่นเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย กระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใดๆ จนเป้นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของบุคคลนั้นแบะได้กระทำในฐานะผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน"

เหตุเกิดระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2538 ถึง 30ตุลาคม 2540 ต่อเนื่องกัน (กลางยุคของ รัฐบาล ปชป. ที่มี ชวน หลีกภัย เป็นนายกอยู่)

ในหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้รายละเอียดว่า นางภคีนี เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2492 อายุ 57 ปี(ปัจจุบัน 63 ปี) บิดาชื่อนายโฮ้ย มารดาชื่อ นางกิม อยู่บ้านเลขที่ 69/1 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพ บัตรประชาชนเลขที่ 3 1017 02263 68 5 รูปพรรณสัณฐาน สูง 153 ซม. รูปหน้ากลม ผิวขาว ตาชั้นเดียว จมุกกว้างฯลฯ

อายุความ 15 ปี นับแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2540 วันที่หมดอายุความ 30 ตุลาคม 2555

หมายความว่า นางภคินีจะต้องหลบซ่อนตัวอีกเดือนกว่าๆ หรือตำรวจมีเวลาไม่ถึงสองเดีอน ที่จะต้องล่าตัวมาดำเนินคดี เช่นเดียวกับนายราเกซซึ่งจะเป็นการพิสูจน์น้ำยาของตำรวจแห่งชาติ ว่ามีความสามารถสมราคาคุยหรือไม่

สำหรับคดีดังกล่าว ผู้บริหารธนาคารมหานครในขณะนั้น ปล่อยสินเชื่อโดยไม่ชอบให้โรงงานทำโป๊วสีรถยนต์ มูลค่ากว่า 4,1000 ล้านบาทโดยไม่มีหลักประกัน มีผู้ต้องหา 4 คน หลังจากที่พนักงานอัยการสั่งฟ้อง มีผู้ต้องหามอบตัวแล้ว 3 คน คือ นายสุเทพ เจริญพรพานิชกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ ห้างหุ้นส่วนแสงสงวนพาณิชย์ ลูกหนี้ซึ่งทำธุรกิจโรงโป๊วสีรถยนต์ นายมาโนช กาญจนฉายา อดีตประธานกรรมการ และนายอุทัย อัครพัฒนากุล อดีตกรรมการผู้จัดการ เหลือเพียงนางภคินี สุวรรณภักดี ซึ่งหลบหนีจนศาลต้องออกหมายจับ และก็ได้หนึรอดมาจนจะหมดอายุความ ในเดือนหน้านี้แล้วด้วยน่ะ

จากคุณ : เฒ่าเกเร

เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 16:25:08 A:118.172.20.236 X: