ความคิดเห็นที่ 1 ต้องยอมรับกติกาของระบอบการปกครองหลักของประเทศครับ หากว่าจะเลือกประชาธิปไตยก้อต้องยอมรับเสียงส่วนใหญ่ หรือจะเลือกเผด็จการก้อเลือกผู้มีอำนาจวาสนา เลือกเอาซักอย่างแล้วปฏิบัติตาม แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 55 14:54:14 จากคุณ : Badmantaro เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 14:52:27 A:1.4.132.132 X:

ความคิดเห็นที่ 2 โละทิ้งทั้งหมดครับ เผื่ออะไรฯ มันจะดีกว่านี้ จากคุณ : jfk007 เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 15:10:29 A:101.108.233.118 X:

ความคิดเห็นที่ 3 . อำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในระบบประชาธิปไตย คืออำนาจที่อยู่ในมือของประชาชน ซึ่งนับวันจะใหญ่ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีทางหยุดยั้งได้ ยกเว้นใครจะมาปล้นชาติปล้นแผ่นดิน เผด็จการรัฐประหารและปิดประเทศไป ส่วนอำนาจที่อยู่ตรงข้ามกับมวลชน นับวันจะยิ่งเสื่อมลง เสื่อมลง เพราะยิ่งบ้านเมืองเจริญขึ้น ผู้คนต่างก็จะยิ่งตาสว่างมากยิ่งขึ้น ยกเว้นเช่นกันว่า นอกจากว่าใครจะมาปล้นชาติ เผด็จการรัฐประหารและปิดประเทศ ปิดหูปิดตาประชาชน สร้างภาพฝันให้เคลิ้มกันต่อไป ดังนั้นจึง... "ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน ประชาชนสมบูรณ์-นิรันดร์ไป เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่ ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน" - วิสา คัญทัพ . จากคุณ : ผีกรุแตก เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 15:13:38 A:171.99.3.232 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ผมลองมองที่จุดสุดท้ายของเรื่อง ในเมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้ว มันจะต้องมีคนผิด และคนถูก เพื่อคนต่างฝ่ายต้องยอมรับให้ได้ ซึ่งยากมาก เพราะแนวคิดมันถูกปลูกฝังให้กับแนวคิดของแต่ละฝ่ายแล้ว เช่น คนเสื้อแดงชุมนุม แล้วเกิดการเสียชีวิต ฝ่ายแดง : เกิดจากทหารโดยฝีมือของทางรัฐ ฝ่ายเหลือง + ปชป : เกิดจากการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยมีเสื้อดำเข้ามาเป็นองค์ประกอบ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายก็อ้างถึงเสื้อดำ เช่น ฝ่ายแดง : เสื้อดำไม่มีตัวตน มีแต่ทหารที่ใส่เสื้อดำ สร้างสถานการณ์ ฝ่ายเหลือง + ปชป : เสื้อดำมีตัวตนเกิดจากฝ่ายเสื้อแดงสร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีคนชุมนุมและทหารเพื่อการสร้างสถานการณ์ เหล่านี้ผมมองแค่ เหตุการณ์องค์ประกอบ แต่ผมมองว่าเหตุการณ์หลักคือ เกิดรัฐประหาร ปฎิวัติ เนื่องจาก นายกขณะนั้นเกิดการแทรกแซงองค์กร พร้อมทุจริต หรือเหตุผลบางอย่างที่อาจจะไปสะดุดอำนาจบางอย่าง จึงเกิดเหตุเหล่านี้ สิ่งต่างๆก็ตามมา.... และบทสุดท้าย ที่ความเป็นจริง (ในความรู้สึกผม) มันมีแค่ 2 ทางเลือกเท่านั้น จึงจะเคลียร์ 1.คนถูกล้มอำนาจ กลับมา พร้อมทั้งไล่ล่า ทวงคืนทุกอย่างพร้อมดอกเบี้ยที่เสียไปอย่างแสนสาหัส (ถ้ามาแบบยอมๆกันไป ก็ไม่จบ เพราะยังคาใจเสื้อแดง) มันต้องแบบถึงลูก ถึงคน 2.คนถูกล้มอำนาจ ต้องสูญหาย หรือ ตายไปจากแนวคิดของกลุ่มคนสนับสนุน พร้อมทั้งมีการปราบปรามกลุ่มบุคคลสนับสนุนอย่างรุนแรงและเด็ดขาด (ในกรณีนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล อาจจะเป็นวิธีการ หรือยุทธวิธีหลากหลาย เช่น ปฎิวัติ ...) เพราะฝั่งนี้มีพลังซ่อนเร้นค่อนข้างยิ่งใหญ่   ถ้านอกเหนือจากนี้ ไม่ว่าจะในแบบ ยอมๆกันไป ครึ่งๆ กันเอง ฯลฯ อะไรแบบนั้น มันก็ยัง อึมครึม ... มันจะจบแบบนี้หรือเปล่าครับ หรือมีวิธีอื่นๆ พี่ๆเพื่อนๆ ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : konggseed เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 18:46:01 A:58.9.200.23 X:

ความคิดเห็นที่ 5 มือที่มองไม่เห็นน่ะตัวดี จากคุณ : Guitar-solo เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 20:13:27 A:49.48.216.58 X:

ความคิดเห็นที่ 6 . คงไม่ค่อยมีใครมาตอบคุณแล้วกระมังครับ งั้นผมตอบไปพลางๆแล้วกันนะ พอดีตอนนี้ว่าง เพราะนั่งเล่นย่อยมื้อเย็นแก้เซ็ง คืออันที่จริงก็ตอบไปแล้ว ไม่เชื่อหรือไร ก็บอกแล้วไงว่ามันจะจบโดย "ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน" ถ้าคำตอบยังไม่เป็นที่พอใจ ถ้าหา "นักวิเคราะห์" ที่ดีกว่านี้ไม่เจอ งั้นผมว่าคุณไปหา "หมอดู" ดีกว่าไหมครับ ผลจากนักวิแคะ์ หรือผลจากหมอดู บางทีก็อาจไม่ต่างกัน แต่น่าจะได้คำตอบครบถ้วนให้คุณสบายใจได้เช่นกัน เอางี้.. งั้นผมเป็นหมอดูให้แล้วกัน ผมขอฟันธงว่า ข้อ 1 ชัวร์ 1.คนถูกล้มอำนาจ กลับมาอย่างผู้ชนะชัวร์ พร้อมทั้งไล่ล่า ทวงคืนทุกอย่างพร้อมดอกเบี้ยที่เสียไปอย่างแสนสาหัส ฯลฯ อย่างที่คุณว่ามานะแหละ เพราะข้อ 2 แม้จะรัฐประหารได้ แต่ไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว เผลอๆใครทำรัฐประหารครั้งหน้า ทำน่ะทำได้ และคงทำแน่ แต่คราวนี้คงนิรโทษกรรมให้ตัวเองไม่ง่ายแล้ว มีสิทธิถูกเด็ดหัว หรือไม่ก็ถูกศาลตัดสินประหารชีวิตตายคาเป้า เอ้า.. ได้รับคำตอบแล้วนะครับ ทีนี้มันมีสาระประโยชน์อะไรกับชีวิตบ้างครับ อ้อ.. ปล.คราวที่แล้วคุณเลือกพรรคอะไร หรือโหวตโนครับ ? . จากคุณ : ผีกรุแตก เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 20:16:35 A:171.99.1.171 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ความขัดแย้งมันมาไกลแล้ว คงต้องตายกันไปข้างนึงแหละ จากคุณ : timmed เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 21:32:28 A:110.169.205.30 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกคนครับที่เข้ามาคุยด้วย ผมลองคิดหรือวิเคราะห์เอาเองว่า ถ้าตัวผม เป็นฝั่งตรงข้ามผู้ถูกล้มอำนาจ โดยผมเล่นบทเป็น ผู้มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่ และผมมีแนวคิดไม่ต้องการให้ผู้ถูกล้มอำนาจลุกขึ้นยืนกลับมาได้ เพราะกลัวการล้างแค้นอย่างสาสม ผมจะทำทุกวิถีทาง เช่น... ยึดอำนาจ >> มีเสื้อแดงชุมนุม >> ปราบอย่างเด็ดขาด >> ไล่ล่าพวกระดับหัวแถวของกลุ่ม แล้วกำจัดแบบเบ็ดเสร็จ ...เพราะผมมีอำนาจ พร้อมทั้งผมก็คำนวนแล้วว่า ถึงแม้จำนวนเสื้อแดงจะเยอะ เช่น คนไทย 100% เสื้อแดง 70% ที่เหลือ 30% ก็ยังอยู่ข้างผม โดยผมไม่สนใจว่า มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ผมล้มไม่ได้ ผมเสียหน้าไม่ได้ เสียอำนาจไม่ได้.... กฎหมายผมเปลี่ยนได้แค่ยกหูโทรศัพท์สั่งการ เพราะเท่าที่ผมสังเกตุ ทีมเสื้อเหลือง + ปชป + พลังอันยิ่งใหญ่ จะมีทีมงานวางแผนอันฉลาด การแก้เกมส์ที่ชัดเจนรวดเร็ว การเล่นกับสื่อกระแสที่ว่องไว โดยผมสังเกตุจาก เมื่อตอนเสื้อเหลือง ชุมนุมครั้งแรกๆ ก็วางกลยุทธ การวางยุธศาสตร์ การวางหมาก ไม่ธรรมดา ไล่จนถึงปัจจุบัน ก็ไม่ธรรมดา (แก้เกมส์ตลอด ไม่จนมุมซักที) ซึ่งต่างจากทีมงานเสื้อแดง การวางแผน วางเกมส์ยังสู้ไม่ได้ ถึงแม้มีบางครั้งสามารถปิดเกมส์ได้ แต่ก็ไม่ปิด อาทิเช่น ตอนชุมนุมราชประสงค์ จำนวนคนที่เยอะมากๆ สามารถเดินทัพปิดฉากฝ่ายตรงข้ามได้ หรือ ชนะเลือกตั้งเด็ดขาด แต่ก็ไม่บู๊ หรือ ต่อเนื่อง (ซึ่งผมไม่เข้าใจ ยุธวิธีของทีมงานจริงๆ) ฉะนั้น ... ผมสมมุติว่าผมคือผู้สนับสนุนเสื้อแดง ผมคิดว่าทีมเสื้อแดง รวมถึงผู้สนับสนุนทุกคน ถึงแม้ว่า จะมาถูกทางแล้ว แต่เมื่อผมคิดเสมอว่า ผมกำลังสู้กับใคร? (หมายถึง สู้กับพลังที่แท้จริง) ผมบอกตรงๆว่า ท้อแท้ ครับ และยอมแพ้ เพราะถึงอย่างไง สู้ไปก็แพ้ แต่ถ้า ... ผมสมมุติว่า ผมคือผู้สนับสนุนเสื้อเหลือง + ปชป ผมจะคิดแต่เพียงว่า ข่าว เหตุการณ์ ทั้งรายวัน รายชั่วโมง มันก็แค่สีสรร เพราะถึงอย่างไร เมื่อตอนจบ พวกผมก็ชนะ นี่เป็นแค่ความคิดของผมนะครับ ถ้าพี่ๆเพื่อนๆ จะเสนอแนะ หรือแนะนำ แนวคิดว่า เรื่องแบบนี้จะจบแบบไหน ก็คุยกันนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : konggseed เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 23:41:56 A:58.9.30.233 X:

ความคิดเห็นที่ 9 . พูดถึงยึดอำนาจอีกเหรอ ก็ใช่ ก็เป็นได้ ผมเองยังว่า เผลอเมื่อไหร่ ยึดอีกแน่ ทำอีกแน่ด้วยซ้ำ แต่จะเจอความยากลำบากครับ เพราะต่อให้ยึด แล้วไงครับ ยึดแล้วจะกลับเป็นประชาธิปไตย มีเลือกตั้งอีกไหม ถ้ามี เลือกตั้งเมื่อไหร่ พวกเสื้อแดงก็ชนะอีกนะแหละ ก็พรรคอีกขั้วมันแพ้ซ้ำซากมา 20 ปี เป็นความจริงเห็นๆ ดังนั้น ยึดแล้วต้องปิดประเทศ ปิดอย่างน้อย เอ้า.. ตีซะว่า 4-5 ปี จัดระเบียบประเทศ ล้างสมองกันใหม่ แต่จะอึดไหวขนาดนั้นหรือครับ 4-5 ปี ระหว่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศบ้างล่ะ รับความเสียหายไหวหรือครับ แล้วถ้าประชาชนคนเสื้อแดงเกิดก่อเป็นม็อบจุดชนวนขึ้นมาได้ซักที่ แล้วขยายวงไปทั่วประเทศ โดยมีตำรวจ-ทหารแตงโมมีเอี่ยว จะปราบอีกใช่ไหมครับ รุนแรงอีกใช่ไหมครับ ไม่จืดแน่ครับ ฝ่ายยึดอำนาจ ถ้าเอาอยู่แบบคราวที่แล้ว ก็คงหมายถึงล้มตายมหาศาลยิ่งกว่าคราวที่แล้วนะครับ ชนะแบบนี้แล้วได้อะไรครับ ได้ความเคียดแค้นกับคนส่วนใหญ่ของประเทศไปเป็นมรดก ? แต่ถ้าเอาไม่อยู่ล่ะ ถ้าฝ่ายยึดอำนาจเกิดแพ้ ฮื่อ.. คิดดูเองแล้วกัน จะเกิดอะไรขึ้น และจะเกิดขึ้นไปถึงไหน และถึงไม่เกิดอะไรขึ้น ปิดประเทศไป 4-5 ปี หากทำได้ แล้วไงครับ คืนระบบประชาธิปไตย เลือกตั้งใหม่อีกไหม เลือกใหม่ ด้วยความคั่งแค้นที่สุมอกมา 4-5 ปี คิดหรือครับว่าจะล้างสมองให้ลืมสิ่งต่างๆได้ ผมถึงบอกไปข้างต้นไงครับ ไม่มีทางอื่นเลยตราบที่โลกยังหมุนไป อาจเร็ว อาจช้า แต่ประชาชน ยังไงก็ต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดินในที่สุดครับ ก็ 20 ปีผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ผลมันบอกเป็นข้อสรุปได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่เลือกอะไรละครับ กระทู้นี้คงหล่นไปตามเวลาแล้วละ ผมก็คงแค่มาโพสส่งท้ายแก้เซ็งยามดึกเช่นกัน ถามมาก็ตอบไป แต่พอผมถามอะไรบ้าง ดันไม่ตอบ ก็คงเอวังแค่นี้แหละ . จากคุณ : ผีกรุแตก เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 00:31:32 A:171.99.1.227 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับสำหรับความคิดเห็น แล้วสมมุติ ถ้าเกิดการปฎิวัติ แล้วจะเกิดการปะทะกับระหว่างมวลชนกับผู้ยึดอำนาจ บุคคลที่มีพลังและอำนาจอันยิ่งใหญ่ได้ออกแสดงตัวพร้อมทั้งประกาศถึงความถูกต้องของการยึดอำนาจ โดยแสดงถึงความต้องการของท่าน ... อย่างชัดเจน และดุดัน ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไทย ผมว่าน่าจะเห็นด้วย (หรือเปล่า?) เพราะจากจำนวนคนไทยคร่าวๆ เช่น คนไทย 100% เสื้อแดง 40% เสื้อเหลือง+ปชป 20% อีก 40% คือคนที่เป็นกลาง (ผมคิดเองคร่าวๆนะครับ ผิดพลาดประการใด โปรดขออภัยด้วยครับ) เป็นไปได้ไหมครับ ที่จะจบแบบนี้ จากคุณ : konggseed เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 10:26:35 A:61.90.119.229 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ในอดีต ไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะก็ตาม  ก็จะมีขบวนการใต้ดิน เป็นคลื่นใต้น้ำตามมา  มันคงไม่จบแบบเบ็ดเสร็จเด็จขาด   เพราะขาดมวลชนสนับสนุน ช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ฝ่ายคณะราษฏร์ยึดอำนาจได้  แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์กบฎ  ตามมาในภายหลัง   มีผู้รู้เห็นเป็นใจอย่างลับๆ อยู่ในเบื้องหลังเหตุการณ์นี้   สมัยนั้น  คนไทยโดยเฉพาะชาวบ้าน ไม่มีความสนใจการเมือง  เหมือนยุคปัจจุบัน  สมัยนั้นขาดกระแสมวลชนมาสนับสนุน   จะมีก็เพียงนักศึกษา ที่จบในต่างประเทศเฉพาะพวกหัวก้าวหน้า  ที่รู้กันในวงแคบๆ   มันจึงไม่จบสำเร็จแบบเด็จขาด  เพราะขาดมวลชน   ประชาชนสมัยนั้นขาดการศึกษา  ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่อง การวิเคาระห์การเมือง  ประชาชนชาวบ้านรากหญ้าแทบไม่ต้องพูดถึง   ผ่านมาหลายปี ก็ช่วง 14 ตุลาคม มีกลุ่มปัญญาชนนักศึกษา ออกมาเคลื่นไหวเรียกร้อง  แต่ก็ยังแรงไม่พอ  ก็อย่างที่ว่ามันขาดมวลชนสนับสนุนอีกนั้นแหละ   เพราะชาวบ้านไม่รู้  จึงถูกขบวนการโฆษณาชวนเชื่อจากทางรัฐบาลในยุคนั้นปั่นหัวประชาชน  หลายคนตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง  จึงทำให้มีการสูญเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก พอมายุคปัจจุบัน มีมวลชนเกิดมากขึ้น ประชาชนเริ่มมีการศึกษา สนใจการเมือง แม้บางคนจะไม่เคยได้เรียนรัฐศาสต์การเมือง   แต่ก็มีเวปไซด์มากมาย ที่ให้ข้อมูลเหล่านี้  ให้เราขนหาข้อมูล  มีคนเพิ่มจำนวนมากขึ้น  มีการรวบรวมระดมทุน เงินสนับสนุน  จนเกิด TV ดาวเทียม, วิทยุชมชน, สื่อมวลชน ฝ่ายประชาธิไตย์ มันจึงเกิดมวลชนมาตามมาจำนวนมาก  อย่างที่ไม่เคยปราฏกมาก่อน   แม้กลุ่มฝ่ายอนุรักษ์นิยม จะมีชัยเหนือฝ่ายประชาธิปไตย์ก็ตาม  โดยการสนับสนุนจาก ทหาร ตุลาการ องค์กรอิสระ และข้าราชการประจำบางส่วน ที่เป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายตรงข้าม จนชนะ แต่ก็จบไม่ขาด   คือ ไม่สามารถหยุด คลื่นใต้น้ำ ขบวนการใต้ดิน  ของฝ่ายประชาธิไตย์ได้  ด้วยการสื่อสารที่ทันสมัยในยุคนี้  จึงเกิดกลุ่มแนวร่วมคนรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด เกิดทหารแต่งโม ข้าราชการเปลี่ยนสี  เรื่องจึงไม่จบง่ายๆ  ปัจจุบันกระแสเริ่มเปลี่ยน  ไม่ช้าก็เร็ว  บ้านเมืองกำลังจะเริ่มเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 55 17:36:00 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 55 16:00:44 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 55 13:11:01 จากคุณ : ton T-Square เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 13:02:46 A:58.137.12.74 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ใช้คำให้ถูกนะครับ เขาถือกันว่า "ปฏิวัติ" คือ เปลี่ยนแปลงการปกครอง ชาติไทยเราเคยมีทำมาครั้งเดียวครับตอนยุคท่านปรีดี เป็นการเปลี่ยนเอาอำนาจมาสู่มือประชาชนอย่่างถาวร ส่วน "รัฐประหาร" คือ สังหารอำนาจประชาชนชั่วคราวครับ ไม่กล้าอ้างว่าจะเปลี่ยนระบบถาวร จึงไม่ใช่ "ปฏิวัติ" จริงๆมีความหมายที่ถูกต้องกว่านี้หาอ่านเอาเอง ผมอธิบายแบบบ้านๆนะครับนั่น ส่วนคำถามของคุณ ผมขอตอบว่า 1. ยากส์ครับที่จะกล้าหงายไพ่ตัวโจ๊กเก้อร์ออกมา ต้องแอบๆอยู่อย่างนี้แหละต่อไป เพราะถ้าหงายไพ่เปิดหน้า เท่ากับว่ายอมรับ และเผยให้เห็นว่าใครอะไรกลุ่มไหน เป็นตัวการที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังทั้งปวงมาแต่ต้น 2. ประกาศถึงความถูกต้องของการยึดอำนาจเหรอ ถูกตรงไหนล่ะ รัฐประหารครั้งที่ผ่านมา พอถามถึงเบื้องหลัง ยังไม่กล้าตอบเลยครับ ตายห้าไปก็ตอบไม่ได้ จำได้ไหมล่ะ แถมข้ออ้างการรัฐประหารครั้งที่แล้ว มันก็ถูกพิสูจน์แล้วว่าหน่อมแน้ม แล้วจะเอาอะไรมาเล่นเป็นมุขใหม่ เป็นเหตุผลในครั้งต่อไปครับ ว่ายืนอยู่บนความถูกต้อง ? จะอ้างว่านักการเมืองโกงอีกเหรอ จำเรื่องเขายายเที่ยงได้ไหม ใครโกง? แล้วนายกฯปูเธอก็มาในสภาพที่ต่างจากทักษิณ เธอยังไม่มีแผลนะครับ 3. ยิ่งเปิดหน้าไพ่ชัดเจน เปิดโจ๊กเก้อร์ ที่ตายห้าไปก็ตอบไม่ได้ ถ้าเปิดไพ่แล้วแพ้ อาจจะยิ่งแพ้ยกยวง ยกกระดานไพ่เลยนะครับนั่น 4. สัดส่วนเสื้อแดงอาจมีแค่ 40% แต่เสื้อแดงเป็นกลุ่มที่เรียกม็อบได้ทันทีนะครับ ตอนนี้หลิ่มสาปเหลืองเรียกม็อบขึ้นซะที่ไหน ถ้าตีซะว่าเปิดหน้าไพ่แล้วสู้กัน หลิ่มสาปเหลือง 20 % อาจเรียกม็อบขึ้น แต่ 40% ไม่เหลืองไม่แดงจะตาสว่าง พอตาสว่างแล้ว คุณคิดว่าคนที่ตาสว่าง จะไปอยู่กลุ่มไหนครับ อย่าลืมว่าไพ่ตัวโจ๊กเกอร์ของอีกฝ่าย ซึ่งเป็นใครฝ่ายไหนกลุ่มไหนไม่รู้ละ แต่คงใช่จะไม่มีแผลนะครับ ถ้ากล้าเปิดตัวเปิดหน้าไพ่ ก็อาจจะโดนเปิดแผลสารพัดที่สะสมมาด้วยย้อนหลังเช่นกัน ไม่จืดละครับงานนี้ แล้วคุณคิดว่าเขาจะกล้าเปิดหน้าไพ่หรือ ผมถึงย้ำไงครับ ยิ่งบ้านเมืองยิ่งเจริญขึ้นเท่าใด คนยิ่งฉลาดรู้ คุณยิ่งไม่มีทางฝืนขืนความจริงได้เลยครับ ที่ผ่านมาคุณเห็นไหม มีกลุ่มใดที่พยายามทำให้ประชาชนคนรากหญ้าส่วนใหญ่ ให้จมอยู่กับความ "โบ่ จน เจ็บ กลัว" และมันจะปิดหูตากดหัวรากหญ้าให้มีสภาพอย่างนั้นต่อไปได้อีกไหม ในเมื่อทุกวันนี้รากหญ้าตาสว่างกับประชานิยมแล้ว ผมจึงยืนยันไงครับ จะจบยังไง จะเร็วจะช้าแต่ว่าในที่สุด ในขณะที่อีกฝ่ายต้องแย่งชิงอำนาจกลับคืนด้วยความรุนแรงยึดอำนาจ และเข่นฆ่าปราบปรามประชาชนด้วยความรุนแรงเท่านั้น แต่รัฐบาลที่มาอย่างถูกต้องตามแบบอย่างประชาธิิปไตยต่างหาก ที่ตอนนี้กำลังกุมความได้เปรียบ ยิ่งบริหารประเทศต่อไป จะยิ่งได้เปรียบ และจะค่อยๆกลืนอีกฝ่ายอย่างช้าๆแต่แน่นอน กินพื้นที่ไปเรื่อยๆ ทำให้ "คนดีจอมปลอม" ต้องมีที่ยืนแคบลงไปเรื่อยๆไงครับ และในที่สุด ประชาชนก็ต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดินอย่างแท้จริง เพราะนั่นคือธรรมชาติของระบบประชาธิปไตยครับ . จากคุณ : ผีกรุแตก เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 13:21:25 A:171.99.1.153 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ แบบนี้ผมสรุปได้ว่า... 1.ฝ่ายเสื้อแดง ต้องการเดินไปตามระบบ การเลือกตั้ง แล้วค่อยๆวางตัวผู้เล่น อัดฉีดเข้าสู่ระบบต่างๆ ทั้ง ราชการ และองค์กร โดยไม่มีการฉีดยาแรงใส่ฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้เกิดกรณีล้มอำนาจได้ 2.ฝ่ายเสื้อเหลือง + ปชป ต้องการให้เกิดเหตุการณ์หรือสถานการณ์เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโค้นล้มรัฐบาล โดยวางแผนรอบครอบ เพราะถ้าเลือกตั้งโอกาสแพ้ก็ยังสูงอยู่ จึงพยายามคิดค้นวิธีเข้าสู่อำนาจที่ไม่ผ่านการเลือกตั้ง ดังนั้น การจบแบบนี้พอจะเป็นไปได้ไหมครับ 1.รัฐบาลต้องอดทน ไม่มีการล้างแค้นอย่างดุดันและแสนสาหัส แต่ให้เดินไปตามระบบที่วางไว้ตามมาตราฐานสากล เมื่อทุกอย่างสุกงอม ผู้เคยโดนโค้นล้มอำนาจก็จะกลับมา อาจจะใช้ระยะเวลาหน่อย แต่ผู้สนับสนุนก็ต้องอดทน ถึงแม้เหตุการณ์บางอย่าง(ลับหลัง)อาจจะเคลียร์กันได้ เช่น กรณีผู้ชุมนุมเสียชีวิต อันเกิดจากอะไรก็แล้วแต่ ตอนจบ ไม่มีผู้ได้ต้องรับผิด โดยอาจจะเพิ่มค่าเสียหายให้กับผู้เสียชีวิต (ฟังดูเหมือนเป็นไปไม่ได้) แต่ผู้ทรงพลังที่อยู่ผั่งตรงข้ามอาจจะใช้พลังเล็กน้อย กดรีโมทสั่งการผู้ตัดสินคดีตอนสุดท้ายให้จบลงที่เคลียร์กัน หรือ ผู้โดนโค้นล้มอำนาจ อาจจะไม่ได้ทรัพย์คืน แต่สามารถกลับประเทศได้โดยมีข้อแม้ว่า ห้ามขยับตัวเกี่ยวกับการเมือง ถ้าไม่เช่นนั้นอาจจะโดนกดปุ่มรีโมท กระสุน 1 เม็ด อะไรแบบนั้น (ผมยกตัวอย่างเหตุการบ้าบอไปเองนะครับ ตามความคิดเห็นผมเอง) ในระหว่างที่จะจบ ก็จะมีเรื่องราว เหตุการณ์ ความขัดแย้งเล็กๆน้อยๆ ให้เหล่ากองเชียร์ได้ลุ้นสนุกกันแบบปัจจุบัน เพื่อเป็นการผ่อนคลายทั้งสองฝ่าย เช่น ศาลตัดสิน ผู้ตาย(เสื้อแดง) ตายโดยเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ คอป แสดงความคิดเห็นว่า มีชุดดำมาก่อกวน ทำไมทหารไม่มีทางเลือก ก็เท่ากับว่า คะแนนยกแรก เสมอ และต่อไปก็จะมาเหตุการณ์หลากหลายเข้ามาทั้งฝ่ายชนะคนละยก สองยก จนถึงตอนจบของเรื่องดังที่กล่าวไว้ ถ้าจบแบบนี้ ผู้สนับสนุนเสื้อแดง  และเสื้อเหลือง + ปชป ยอมรับได้หรือไม่ครับ ถ้าทั้งสองฝ่าย Ok ผมว่า ประเทสไทย ก็เดินหน้าต่อได้ โดยความขัดแย้งจะค่อยๆทุเลาลง ใช่ไหมครับ ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกท่านครั้งที่ช่วยกันวิเคราะห์ ขอบคุณครับ จากคุณ : konggseed เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 20:37:49 A:61.90.119.229 X:

ความคิดเห็นที่ 14 . เอาเข้าจริงผมว่าระดับเราๆอาจไม่มีใครรู้จริงหรอกครับ บางที ข้างบนสุดของสองขั้ว เขาอาจเกี้ยเซี้ยกันในระดับหนึ่งแล้วก็ได้ สภาพที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ อาจเป็นหมากลวงตาบังความจริงกันอยู่ก็ได้ และต่อให้มีเกี้ยเซี้ยในระดับนึง แต่ก็อาจมีการหักหลังให้หลังหัก อาจมีการปลดการเกี้ยเซี้ยกันได้ทุกเมื่อ ดังนั้นทุกวันนี้ต่างฝ่ายต่างอาจดูสถานการณ์ และอาจมีมากกว่า 2 ฝ่ายด้วยซ้ำ ต่างก็ประเมินและวางแผนกันไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป แต่หลักๆก็อย่างที่บอก สถานะตอนนี้ฝ่ายประชาธิปไตยกุมความได้เปรียบอยู่ส่วนนึง ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามที่วางหมากดักไว้ตอนรัฐประหาร ก็ยังคงความได้เปรียบอยู่ส่วนนึง ต่างฝ่ายต่างก็ขึงกำลังอำนาจต้านทานกันอยู่ แต่เป็นแบบที่ฝ่ายหนึ่งกินพื้นที่เข้าไปอย่างนิ่มๆ อีกฝ่ายก็พยายามผลักดันยื้อเวลา และรอเชื้อปะทุ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปโดยยังไม่มีอะไรปะทุ ฝ่ายพิราบจะได้เปรียบพอควร เพราะเป็นฝ่ายบริหารประเทศอยู่ รัฐบาลจึงต้องอดทนน่ะชัวร์ เพราะไม่สามารถใช้ความรุนแรงได้ แต่อีกฝ่ายแม้สามารถใช้ความรุนแรงได้ แต่ก็ต้องคิดหนัก ส่วนเรื่องผู้เสียชีวิตอาจเกี้ยเซี้ยไม่ได้ เพราะญาติคนตายและคนเจ็บจะเอาเรื่อง แต่ก็นั่นละนะ ถึงเอาเรื่อง ไปบนศาลพระภูมิเจ้าที่ ก็อาจหงายเก๋งกลับมาสูง ส่วนการเดินหน้า คุณไม่เห็นหรือ ทุกวันนี้ประเทศไทยโดยรัฐบาลเขาก็ต้องพยายามเดินหน้าอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน คุณไม่เห็นหรือ พวกขัดขา ก็ยังคงทำหน้าที่อย่างไม่ลดละ แม้ประเทศมันต้องเดินหน้าแน่นอน แต่ความขัดแย้งไม่มีทางลดนะครับ มันเป็นเรื่องที่ฝ่ายนึงได้ อีกฝ่ายก็ต้องเสีย และมันดูจะหาทางให้ win-win ลำบาก เกมการเมืองจึงยังคงชิงไหวพริบกันต่อไป ความขัดแย้งไม่ทุเลาง่ายหรอกครับ ทุเลาลำบาก เพราะผลประโยชน์มันมหาศาล แต่ถ้าไปในสภาพอย่างนี้ ฝ่ายพิราบจะกินพื้นที่และแข็งแรงยิ่งขึ้้น ส่วนสายเหยี่ยวอีกฝ่าย ก็พยายามยื้อยุด ปกป้องประโยชน์ที่กำลังสูญเสียลงไปเรื่อยๆอย่างถึงที่สุด แต่ด้วยระบบประชาธิปไตย + ความเจริญก้าวหน้าของโลก บวกคนส่วนหนึ่งประมาณ 40 % ที่คุณว่านะแหละที่ตาสว่าง และก็จะเป็นเชื้อเปิดตาประชาชนไปเรื่อยๆ เพิ่มจำนวนไปเรื่อยๆ มันก็คงเลี่ยงไม่ได้จริงๆครับ ที่คนดีจอมปลอมจะมีที่ยืนน้อยลงเรื่อยๆ จุดจบก็คือ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน แต่คงต้องใช้เวลาครับ . จากคุณ : ผีกรุแตก เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 02:02:24 A:171.99.1.226 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณครับสำหรับความคิดเห็น ก็แสดงว่า - ผู้สนับสนุนเสื้อแดงต้องรอ อย่างอดทน ถึงแม้จะอยากขยี้ฝ่ายตรงข้ามให้กระจุย โดยท่องว่า "อยากฆ่าให้ตาย แต่อยากให้ตายแบบช้าๆทรมานดี" โดยในระหว่างรอก็สะสมกำลังคนไปเรื่อยๆ ทั้งคนกลางที่กำลังตาสว่าง(หลักการ+เหตุผล) หรือทั้งคนกลางที่ชอบการทำงานรัฐบาล - ผู้สนับสนุนเสื้อเหลือง + ปชป ก็ต้องรอ อย่างอดทน โดยท่องว่า "อย่าพลาดก็แล้วกัน" โดยในระหว่างรอก็สะสมกำลังคนไปเรื่อยๆ (จากบางกรณีที่รัฐบาลบริหารพลาด , คนกลางที่ไม่ชอบการทำงานรัฐบาล ) "การเมือง" สถานการณ์เกือบจะกลับเข้าสู่ สถานการณ์ปกติ ใช่หรือเปล่าครับ ในส่วนคนถูกโค้นล้มอำนาจ ก็ต้องรอต่อไป ถึงแม้ว่าโดนกระทำอย่างไม่ถูกต้องก็ตาม ในส่วนคนโค้นล้มอำนาจ+ทีมงาน รับผลประโยชน์ไปแล้ว และคิดว่า "ข้าจะไม่มีวันผิด" เพราะมีพลังวิเศษ สามารถกดรีโมทสั่งการได้เมื่อถึงจุดตัดสิน ประมาณนี้ใช่ไหมครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : konggseed เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 07:28:55 A:61.90.119.229 X:

ความคิดเห็นที่ 16 . ก็คงประมาณนั้นแหละครับ ต่างฝ่ายต่างต้องรอ เหมือนเล่นหมากรุกแหละ ใจร้อนคงไม่ได้ ต้องขยับเดินหมากทั้งกระดานกันไปมา กว่าจะรุกฆาต คงนานพอควรครับ เพราะต่างฝ่ายต่างก็เขี้ยว คงไม่พลาดกันง่ายๆแล้วละ ระหว่างนี้ไทยมุง หรือผู้ถือหางฝ่ายต่างๆ ก็เตรียมความพร้อม และรอดูสถานการณ์กันต่อไปครับ . จากคุณ : ผีกรุแตก เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 07:46:17 A:171.99.1.140 X:

ความคิดเห็นที่ 17 แสดงว่า... ทีมงานทำลายล้าง ยึดอำนาจ กระทำการได้อย่างรวดเร็วและจากไปพร้อมผลประโยชน์และไม่ต้องรับผิดใดๆทั้งสิ้น(แต่อนาคตไม่แน่ว่าจะได้รับหรือไม่) พร้อมความสะใจของกองเชียร์ ทีมงานผู้ถูกโค้นล้มอำนาจกลับเข้ามาอีกครั้งในการมีอำนาจ ต้องเข้ามาซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายรวมไปถึงการต้องรับผิดชอบกับทุกเหตุการณ์ ที่ผ่านไป โดยถึงแม้การตามเอาผิดกับทีมงานยึดอำนาจยังไม่สามารถทำได้ ซึ้งดูแล้วอาจจะต้องใช้เวลานานมาก(โดยที่อนาคตยังไม่แน่เช่นกันว่าจะนำคนผิดมารับโทษได้หรือไม่) กองเชียร์ไม่อึดอัดแย่เหรอครับ มิน่าทำไมถึงยึดอำนาจกันง่ายจัง ตัวอย่างเช่น ผมเป็นบุคคลที่มีอำนาจลึกลับพร้อมด้วยทีมงานครบครร และผมเกิดอารมณ์ดีอยากได้อำนาจที่มาพร้อมกับทรัพย์ ผมก็แค่กระดิกนิ้วบอกทีมงานถึงความต้องการของผมโดยที่ผมมองเห็นกลไกในอนาคตแล้วว่า ..อีกยาวนานกว่าจะถึงตัวและสามารถเคลียร์ได้อีก ดังนั้นปฎิบัติการเลยดีกว่าเพื่อเอาอำนาจและทรัพย์มาหมุนก่อนดีกว่า ไม่เสียดอกเบี้ยอีกต่างหาก... ..การเมืองมันเหมือนหนังแนวตลกร้ายจริงๆเลยครับ น่าจะจบแบบ happy ending แต่ไม่ใช่หนัง 2 ชั่วโมงจบหรือละคร 24 ตอน แต่มันเป็น มหากาฬ มหาภารตะฉบับเต็ม ขอบคุณครับสำหรับพี่ๆเพื่อนๆทุกท่านสำหรับความคิดเห็น โดยเฉพาะพี่ผีกรุแตก ที่อุส่าเสียเวลาวิเคราะห์ให้ผมได้เข้าใจ ขอบคุณครับ จากคุณ : konggseed เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 09:29:26 A:125.24.85.176 X: