ความคิดเห็นที่ 1 คุณตัวกลมแก้มป่องรู้ไหมครับ เขาว่ากันว่า  เพราะนโยบาย BIBF ของรัฐบาลชวน หลีภัย เมื่อปี 2535-2538  นั่แหละ ทำให้นักธุรกิจไทยวิ่งไปกู้ดอลลาร์กันแบบลืมตาย เพราะดอกเบี้ยต่ำ  กู้มาแล้วมาฝากแบงค์ไทยได้ดอกเบี้ยงสูงกว่า ก็กินส่วนต่างดอกเบี้ยสบายไป ผลก็คือรัฐบาลต้องอุ้มค่าเงินบาท  ธปท.สู้ค่าเงินบาทจนเจ๊งไปไม่รู้กี่แสนล้าน สุดท้ายอุ้มไ่ม่ไหว  ต้องปล่อยลอยตัวและเข้าสู่ IMF ตอนนั้น  1 ดอลประมาณ 26 บาท  กู้มาล้านดอลก็ 26 ล้านบาท แต่พอลดค่าเงินบาทตูม  จาก 26 บาท  เป็นสี่สิบกว่า ๆ หนี้ที่มี 26 ล้านบาท ก็กลายเป็นหนี้สี่สิบกว่าล้านทันที ถ้ากู้มาเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่นล้านเหรียญมันก็เอวังทันที เรื่องนี้  เขาเลิกด่าบิ๊กจิ๋วไปนานแ้ล้วว่าเป็นตัวการลดค่าเงินบาท เขาหันไปด่ารัฐบาลชวน หลีกภัย โน่นว่าเป็นตัวต้นเหตุที่แท้จริง และจากวันนั้น ถึงวันนี้   ไม่มีใครเห็นอดีต รมว.คลัง ในรัฐบาลชวนที่ชื่อธารินทร์  นิมมานเหมินทร์ มีบทบาทอะไรอีกเลย สนใจการเมืองเมื่อปี 54  แล้วบอกคนอื่นว่าต้องเสพสารหลาย ๆ ด้าน มันก็ขำสิครับ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 55 20:09:36 จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:08:30 A:171.4.48.228 X:

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาดูลาดเลาก่อนนะฮ่ะว์ จากคุณ : นพนครพิงค์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:13:47 A:118.172.160.154 X:

ความคิดเห็นที่ 3 สบายดีนะครับท่านหล่อ เข้ามาทักทายไล่แจกกิ๊บครับ จากคุณ : Konat เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:14:47 A:101.108.221.14 X:

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามาอ่าน ไม่ได้เข้ามารุม  ไม่ได้เข้ามาอวย อ่าน อย่างเดียว เคป่ะ  อิอิอิ จากคุณ : Serefim เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:18:02 A:180.183.91.194 X:

ความคิดเห็นที่ 5 เฮ้อ.....เป็นแพ็คคู่นี่เนาะ ยังไงก็ต้องมา คริ คริ ปล.ถือจกไว้ด้วยเผื่อมีใครยืม จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:19:52 A:124.120.219.168 X:

ความคิดเห็นที่ 6 คุณหล่อขวัญ  กับคุณทวด ใครได้กิ๊บเยอะกว่ากันครับ (อยากรู้ครับ) จากคุณ : มองหลายมุม เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:20:27 A:171.97.133.209 X:

ความคิดเห็นที่ 7 คุณทวดชนะขาดคะคุณมองหลายมุมมาทีไรกิ๊บตรึมเลยเจ้าคะ จากคุณ : นพนครพิงค์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:22:34 A:118.172.160.154 X:

ความคิดเห็นที่ 8 เพิ่งรู้ว่าตัวกลมเริ่มเข้าสู่สังเวียนการเมืองปี 54 เหอะๆ จากคุณ : compassion เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:24:46 A:171.100.105.156 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ่อ่อ อีกเรื่องครับคุณตัวกลมแก้มป่อง ก็เรื่อง ปรส.ไงครับ ผลจากการกู้ดอลลาร์แบบลืมตาย และผลจากการลดค่าเงินบาท ทำให้ต้องปิดสถาบันการเงินหลายสิบแห่ง แล้วเข้าสู่โครงการ ปรส. ทรัพย์สินสถาบันการเงินแปดเก้าแสนล้าน ขายทอดตลาดให้ต่างชาติแค่สองแสนล้าน ขาดทุนบานตะไทไปเลย คดี ปรส.นี่ อยู่กับ ปปช. ครับตอนนี้   และใกล้จะหมดอายุความ สัปดาห์ก่อนศาลก็ตัดสินรอลงอาญานายอมเรศ ศิลาอ่อน ประธาน ปรส. คงได้เห็นข่าวไปแล้ว เอาไปเอามา  แทนที่จะเล่นทักษิณ  ผมว่ามันจะทำให้คุณชวนนอนไม่หลับนะครับนี่ จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:25:18 A:171.4.48.228 X:

ความคิดเห็นที่ 10 แหมผิดคิวน้องแกงส้ม ต้องรอให้ญาติเขามาก่อนแล้วน้องค่อยมาต่อคิวค่ะ อิ อิ จากคุณ : ทองรำไร เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:25:25 A:58.9.102.185 X:

ความคิดเห็นที่ 11 คห.6   ท่านทวดเอง  ฉายามหาเศรษฐีกิ๊ฟครับ ส่วนผมแค่พอมีกิ๊ฟ จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:27:09 A:171.4.48.228 X:

ความคิดเห็นที่ 12 คห.5 น้องส้มจ๋า อ้ายขวัญว่าเราเลิกจู๋จี๋กันในบอร์ดเหอะ เห็นใจคนเค้าอิจฉาอ่ะ แค่ทานข้าวด้วยกันนอกบอร์ดก็พอแระ เนาะ จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:28:54 A:171.4.48.228 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ขอแหวะให้อ้ายขวานนหน่อยเน้อแหวะ  จากคุณ : นพนครพิงค์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:40:40 A:118.172.160.154 X:

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องของเรื่อง คือเลือกที่จะรู้เป็นบางเรื่อง แล้วต่อเติมจนกลายเป็นอีกเรื่อง   เถียงๆกันไป เด๋วก็มีเรื่อง จากคุณ : ป้าหนูดา เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:42:50 A:124.121.203.65 X:

ความคิดเห็นที่ 15 เลือกที่จะเชื่อโดยไม่สนใจรายละเอียด  น่ากลัวมากๆ จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:44:01 A:223.207.173.73 X:

ความคิดเห็นที่ 16 มือใหม่ก็ยังงี้แหละครับ เริ่มด้วยการเลือกฝ่าย จากนั้นก็ตั้งโจทย์กล่าวหาไว้ จากนั้นก็เสิร์ทหาข้อมูลที่ตรงกับจริตของตัว แล้วก็รีบเอามาโชว์อวดอ้างว่า รู้แล้ว เจอแล้ว ตรงกับที่จริตตัวเองคิดไว้แล้ว หลงคิดว่าบรรลุญาณตรัสรู้ไปแล้ว 555 ทั้งๆที่ การลำดับเรื่องราว ช่วงเวลาก่อนหลัง เหตุการณ์แวดล้อมช่วงเวลานั้นๆ พื้นฐานเบื้องลึกเบื้องหลัง ล้วนมีผลต่อ บทความข้อมูล ที่เขียนออกมาทั้งหมดทั้งสิ้น คนที่เพิ่งตามการเมือง ส่วนใหญ่จะตีความคลาดเคลื่อนเพราะลำดับเวลา ของเหตุการณ์แวดล้อมของช่วงเวลานั้นๆไม่ได้ กอบกับมีธงเลือกฝั่งไว้แล้วในใจ จึงทำให้หลงทิศหลงทาง ตีความผิดพลาด . จากคุณ : กาแฟดำขม เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:48:50 A:125.27.85.62 X:

ความคิดเห็นที่ 17 แปลว่าไร ไม่บอก  จะเฉลยในทู้หน้า   -------------------------------------------- ยังจะมีกระทู้ถัดไปอีกรึ? ถ้าไม่ใช่กระทู้เรียกชื่อใครจะด่าให้ฟังงามๆเลย ด่าใครไม่บอก ให้ความเห็นถัดไปเฉลย ละกัน | | | | V จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:50:18 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 18 วันสิ้นเดือน เข้ามาแจกgive เดือนนี้เหลือเยอะมาก จากคุณ : มุมหนึ่ง เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:53:12 A:171.98.141.156 X:

ความคิดเห็นที่ 19 "พรรค ปชป. ทำให้ประเทศชาติ เสียหายมากกว่า ทักษิณ" การยอมรับความจริงข้างต้นนี้ มันเจ็บปวด แต่มันคือความจริงครับ ผมเคยเชื่อครับว่า สนธิ ลิ้ม พูดความจริง ผมเคยเชื่อครับว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ดี ผมเคยเชื่อครับว่า ทักษิณ โกง ผมเคยเชื่อครับว่า การรัฐประหารเมื่อปี 49 ทหารทำถูกต้องแล้ว แต่ผมก็ต้องยอมรับความจริงครับว่า ผมคิดผิด แม้ พรรคเพื่อไทย กลุ่มเสื้อแดง จะไม่ใช่ืกลุ่มคนที่ดีทั้งหมด แต่อย่างน้อยผมก็รู้สึกว่าไว้ใจได้มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ครับ เพราะ "เขาไม่เคยบอกว่าตัวเขาเองเป็นคนดี" แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 55 21:16:38 จากคุณ : เ ห็ ด ห อ ม เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:15:30 A:27.130.111.49 X:

ความคิดเห็นที่ 20 จำได้ว่าช่วงก่อนชวน 1 ดอกเบี้ยเงินฝากจะอยู่ประมาณ 12.5-15.0% และดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารจะประมาณ 20.0-25.0% ขณะที่ดอกเบี้ยเงินกู้ของต่างประเทศอยู่ที่ 3.0-5.0% อันเป็นช่วงว่างที่แตกต่างกันมาก และมีผลให้ผลประกอบกา่รต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อเมืองไทยเปิด BIBF ในสมัยชวน 1 โดยที่ไม่มีมาตรการป้องกันรองรับ จึงเกิดการยืมเงินกู้ดอลล่าร์จากต่างประเทศมา เพราะต้นทุนดอกเบี้ยถูกกว่าต้นทุนดอกเบี้ยของธนาคารในประเทศไทยมาก แล้วพอมาถึงปี 2539/2540 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ต้องจ่ายเงินต้นคืนตามสัญญากู้ กองทุนเฮจน์ฟันด์ของจอร์ช โซรอส มองออกว่าประเทศไำทยต้องการเงินดอลล่าร์เพื่อไปคืนในช่วงเวลาดังกล่าว จึงทำการโจมตีค่าเงินบาทตอนนั้น อันเป็นผลให้เกิดกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยไปสู้อัตราเลกเปลี่ยนเงินบาทและนำมาสู่ความพ่ายแพ้ ก่อนจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 ดังนั้นใครที่คิดว่าจะเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ ทั้งๆที่ไม่มีวี่แววมาก่อน ต้องคลุ้มคลั่งแน่นอน..นักธุรกิจยุคนั้นมีน้อยรายมากที่จะสนใจเรื่องการซื้อ FOREX (Foreign Exchange) ซึ่งเป็นการซื้อประกันความเสี่ยงเนื่องมาจากอัตราแลกเปลี่ยน แตกต่างกับปัจจุบันซึ่งหลายๆบริษัทฯซื้อ FOREX เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางธุรกิจแล้ว จากคุณ : กาแฟยามบ่าย เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:16:31 A:180.183.9.149 X:

ความคิดเห็นที่ 21 กิีปหมดเกลี้ยง ขอมอบ ให้คุณกาแฟดำขมแทนนะคะ  จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:22:43 A:220.255.2.55 X:

ความคิดเห็นที่ 22 มาอ่านด้วยคน จากคุณ : แกงมัสมั่น เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:31:19 A:124.121.56.189 X:

ความคิดเห็นที่ 23 ค่าอ่านเอาไปหนึ่งกีบ จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:32:13 A:171.4.48.228 X:

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องที่คุณตระกองขวัญยกมา เป็นเรื่องปี 40 ก็นานมากแล้ว จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน แต่เรื่องที่ว่าถกกันจนได้ข้อสรุปนั้น ผมว่า คงไม่ได้ข้อสรุปอะไร มันก็เป็นอีกเรื่องนึงที่เป็นตำนาน ที่หาข้อสรุปไม่ได้ ในประเด็นที่ว่า คุณทักษิณรู้ก่อนหรือไม่ หรือว่าเพราะป้องกันความเสี่ยงไว้ อันนี้ไม่อยากจะเถียง เพราะไม่มีข้อมูล ขนาดคุณเสนาะยังไม่กล้าระบุ ผมก็คงไม่กล้าเหมือนกัน แต่ถ้าเปรียบเทียบนักธุรกิจสองสามคนที่พูด ในตอนนั้น ผมว่า ก็มีฝีมือกันคนละแบบ และทั้งสามคนก็เป็นคนมีหนี้ทั้งนั้น แล้วช่วงนั้น การเป็นหนี้ ก็ต้องกู้เงินต่างประเทศอยู่แล้ว เพราะดอกเบี้ยถูกกว่าในไทย ใครมีหนี้มากกว่าก็เจ็บตัวมากกว่า แต่ที่บอกว่า ตอนนั้นคุณทักษิณเป็นแค่นักธุรกิจสื่อสารเท่านั้นคงไม่ใช่ เพราะคิดว่าตอนนั้นน่าจะตั้งพรรคไทยรักไทยกับ อ.คณิต แล้ว และมีการเชื่อมโยงกับพรรคความหวังใหม่ ติดต่อกับคุณเสนาะไว้แล้ว แต่เพราะยังไม่พร้อมก็ได้ เลยหลังจากลอยตัวค่าเงินแล้ว พลเอกชวลิตต้องเลือกการลาออก แทนการยุบสภา ทำให้คุณชวนต้องมาเป็นนายกฯรอบสอง ก่อนยุบสภาสู่การเลือกตั้งใหญ่ในปี 43 ที่เป็นจุดแจ้งเกิดพรรคไทยรักไทย 4 ชื่อที่ยกมา บอกว่ารู้เรื่องลดค่าเงินบาท ก็มาอยู่กับพรรคไทยรักไทยทั้งหมด ถึงแม้จะเป็นหลักฐานว่า คุณทักษิณรู้อะไรเรื่องการลอยตัวค่าเงินมั้ย ก็คงไม่ได้ แต่คิดว่าน่าจะรู้อะไรมากกว่าคนอื่นอยู่แหละครับ คุณโภคินได้เป็นทั้งประธานสภา ทั้งรมว.มหาดไทย คุณทนง ก็ได้กลับมาเป็นรมว.คลังอีกครั้ง ในตอนคุณทักษิณเป็นนายกฯ ก็นั่งนึกได้ประมาณนี้แหละครับ แค่จะบอกว่า ความจริงเรื่องลอยตัวค่าเงิน ที่บอกว่าคุณทักษิณรู้ก่อนมั้ย คนทั่วไปยังไม่รู้ความจริง แต่คนเชื่อคุณทักษิณก็เชื่อว่าไม่รู้ แต่คนที่ไม่เชื่อคุณทักษิณ(แบบผม) ก็คิดว่าอย่างน้อยก็ต้องรู้อะไรมากกว่าคนอื่นบ้าง จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:36:24 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 25 ข้อมูลของ จขกท แน่นมาก  นับถือ ส่วนผม มีแค่ความจำเล็กๆน้อยๆ ตอน สุเทพ เทือกสุบรรณอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ตอนนั้นมีทักษิณเป็น รมต. ตอนนั้นผมเป็นแฟน ปชป เต็มตัว ตั้งอกตั้งใจฟังสุเทพเต็มที่ว่าจะอภิปรายทักษิณยังไง ประโยคหนึ่งที่ผมจำขึ้นใจจากปากของนายสุเทพที่ค่อยๆพูดอย่างช้าๆ เนิบๆ แต่หนักแน่นคือ... "ผมสงสัยครับ ท่านประธาน......ผมสงสัยว่า....พตท.ทักษิณ จะรู้ล่วงหน้าและมีผลประโยชน์ในการลดค่าเงินบาทครั้งนี้....." พูดจบก็นั่งลงดื้อๆ..! ไม่มีหลักฐาน ไม่มีข้อมูลใดๆประกอบ  เป็น "ความสงสัย" แค่นั้นที่เอามาอภิปรายและกล่าวหาผู้อื่น ! นี่คือความจริงบางส่วนของคน "พรรค"นี้ ที่แม้แต่ผมที่ตอนนั้นเป็นแฟน ปชป ยังต้อง "อึ้ง" ปล. ผมไม่ทราบว่าป่านนี้คนที่ จขกท กล่าวถึง เค้ารู้หรือยังว่าคนที่ใส่เสื้อคับที่ถ่ายรูปกับทักษิณคนนั้นเป็นใคร? จากคุณ : บางระจันวันเพ็ญ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:40:06 A:171.97.2.57 X:

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาอ่าน ปักใจเชื่อไปแล้ว .... มันก็แค่นั้น ไม่ว่าฝ่ายไหน - ทำไมไม่เปิดใจให้กว้างกว่าเดิม การที่บอกว่า "แต่คนที่ไม่เชื่อคุณทักษิณ(แบบผม) ก็คิดว่าอย่างน้อยก็ต้องรู้อะไรมากกว่าคนอื่นบ้าง" นั่นคือ ความคิดเท่านั้นใช่ไหมครับ ไม่มีเหตุผลอะไร นอกจากคิดเอา ใครจะพูดยังไงก็ไม่ฟัง เพราะคิดเอาเอง เหมือน ที่ใครบางคนชอบพูดว่า "เชื่อได้ว่า" --- โดยไม่ฟังอะไรเลย จากคุณ : เฒ่าวัย 56 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:51:43 A:110.171.31.199 X:

ความคิดเห็นที่ 27 เท่าที่จำได้ ทักษิณให้สัมภาษณ์มติชนก่อนเกิดเหตุกาณ์ลดค่าเงินบาทประมาณสองเดือน ตอนหนึ่งพูดเรื่องนี้ไว้ด้วยว่า ธปท.คงต้องลดค่าเงินบาท เรื่องนี้ทำให้หนุ่มเมืองจันท์เขียนชื่นชมถึงการคาดการณ์ถูกต้องและป้องกันตัวได้ด้วยการทำประกันค่าเงิน จากคุณ : ป้าหนูดา เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:52:20 A:124.121.203.65 X:

ความคิดเห็นที่ 28 BIBF. จนมาถึง ปรส. เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้เรารู้เช่นเห็นชาติ พรรคการเมืองหนึ่ง ว่าทำร้ายบ้านเมืองของตนเองได้ถึงขนาดนี้ จากคุณ : ไทอิสระ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:52:49 A:125.24.141.56 X:

ความคิดเห็นที่ 29 รอข้อมูลจาก nonแดง มาค้าน จะมีไม๊เนี่ย จากคุณ : ผู้บัญชาการพันรบ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:57:37 A:58.11.34.79 X:

ความคิดเห็นที่ 30 คุณเฒ่าวัย 56 ครับ ผมก็ไล่เหตุผลของผมแล้วไงครับ ว่าที่ผมคิดว่า คุณทักษิณต้องรู้อะไรบ้าง ก็เพราะทั้งคุณโภคิน คุณทนง มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับคุณทักษิณต่อเนื่องมา แต่ก็ยอมรับว่าไม่มีหลักฐานอยู่แล้ว ซึ่งก็เหมือนกับฝ่ายที่บอกว่าไม่รู้ก่อน ก็ไม่มีหลักฐานอะไรเหมือนกัน ดังนั้นเรื่องนี้ถึงต้องเถียงกันต่อไปไม่จบสิ้น ก็แค่นั้น ตอนที่คุณทักษิณเป็นนายกใหม่ ๆ โดนคดีซุกหุ้นภาคแรก ผมก็ยังเอาใจช่วย เพราะเชื่อใจคุณทักษิณว่า คนรวยแล้วไม่โกง อยากให้โอกาสในการเข้ามาพัฒนาประเทศ ไม่อยากให้ต้องตกม้าตายต้ังแต่แรก ซึ่งสุดท้ายก็หลุดได้จริง ก็ยังดีใจที่ศาลให้โอกาส แต่พอเวลาผ่านไป ก็เป็นเรื่องข้อมูลต่าง ๆ ที่เข้ามา ก็เห็นว่า คุณทักษิณ ไม่จัดการกับการทุจริตอย่างจริงจังตามปากว่า ตอนแรกบอกไม่ต้องมีใบเสร็จก็ไม่เอาไว้ แต่สุดท้าย ก็ไม่เห็นจัดการรมต.คนไหน ด้วยข้อหาทุจริตเลย มีแต่เล่นเก้าอี้ดนตรี ตีเมืองขึ้นเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายผมก็รู้ว่า ผมเชื่อคุณทักษิณไม่ได้  ก็เริ่มไม่ชอบมาตั้งแต่นั้น คนที่เคยคิดว่าจะทำดี สุดท้ายไม่ทำดีอย่างที่คิด พยายามสร้างเครือข่ายความมั่นคงให้กับตัวเอง เลือกใช้คนตามความสัมพันธ์ ไม่ใช่เลือกจากความสามารถ เลือกจากคนที่พร้อมสนองความต้องการ ไม่ได้เลือกจากคนที่พร้อมเสียสละ แบบนี้ก็ต้องเลิกศรัทธาไป ดังนั้นจะว่าผมอคติกับคุณทักษิณก็ว่าไปเถอะครับ เมื่อไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ก็แค่นั้น ยิ่งเปลี่ยนจากชอบเป็นไม่ชอบแล้ว จะให้กลับไปชอบอีกที คงต้องมีเหตุผลที่หนักแน่นกว่าเก่ามาประกอบให้เห็นชัด ก็หวังว่าจะมีวันนั้นนะครับ วันที่คุณทักษิณสามารถแสดงความจริงใจ ให้คนที่ต่อต้านเข้าใจว่า ที่คุณทักษิณทำ ทำเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนจริง ๆ จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 22:05:01 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 31 กระทู้นี้เรียกว่ากระทู้ตาสว่างจริงๆ ขอบคุณทุกความเห็น จากคุณ : MarvericK เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 22:07:33 A:161.200.69.154 X:

ความคิดเห็นที่ 32 เหตุการณ์ช่วงใกล้ลดค่าเงินบาท มันก็มีสัญญาณมาเรื่อยๆต่อเนื่อง ค่าใช้จ่ายในการ book forward contract เพิ่มสูงขึ้นมาต่อเนื่อง ธนาคารไม่สามารถบังคับให้ลูกค้า(บริษัทฯ) book forward ได้ ขึ้นกับการตัดสินใจของผู้บริหาร บางบริษัทมีทั้งนำเข้าและส่งออก ถือว่า Natural Hedging ได้บางส่วน ถ้าผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ และติดตามสถานการณ์ ก็อาจยอมจ่ายเพื่อป้องกันความเสี่ยง มีหลายบริษัทที่เสียหายน้อย แต่บางบริษัทโดยเฉพาะบริษัทนำเข้าเป็นหลัก ขาดทุนจนต้องปรับโครงสร้างหนี้ สำหรับการตรวจสอบก็อาจทำได้ เพราะก่อนซื้อ forward ธนาคารต้องตั้งวงเงินให้กับบริษัทนั้นๆอยู่แล้ว รวมทั้งจะต้องมีหลักฐาน เอกสารแห่งหนี้/ธุรกรรมที่เป็นเงินสกุลต่างประเทศ และแบงค์ชาติจะมีการตรวจสอบ หากมีการซื้อ forward ผิดปกติ แบงค์ชาติน่าจะมีข้อมูลนะคะ จากคุณ : NOIE เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 22:07:39 A:58.8.116.185 X:

ความคิดเห็นที่ 33 สงสัยดื่มน้ำป้าเช็งแล้วเข้านอนแล้ว เรารึก็กดF5รอว่าจะมาแย้งยังงัย งั้นพรุ่งนี้เข้ามารออ่านใหม่นะครับ จากคุณ : หุ่นกะป๋อง เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 22:08:59 A:110.49.235.252 X:

ความคิดเห็นที่ 34 คนที่ทำธุรกิจ ทั้งรุ่ง ทั้งร่วง มาแล้วอย่างทักษิน เขาไวกับเรื่องความเสี่ยงหนี้สินและค่าเงิน สมัยนั้น นักธุรกิจคนดังๆ ที่มีหนี้เงินนอกเยอะ เขาพลาดที่เชื่อสุภาพบุรุษ พล อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ชวลิตเอง ก็โดนคนของ ธ.แห่ง กทท. หลอกมาอีกที  ให้พูดออกอากาศยืนยันมั่นเหมาะ ไม่ลดค่าเงินแน่ แต่ทักษินไม่เชื่อ และเตรียมพร้อมไว้ตลอดอยู่แล้ว พอมีสัญญาณที่ตัวเองจับสังเกตได้ ทักษิณจึงสั่งซื้อ us ทักษิณรอด นักธุรกิจอีกมากมายที่ซื้อความเสี่ยงรอด มันไม่ใช่เรื่องโกง มันเป็นเรื่องสมอง และสัญชาตญาณ . จากคุณ : กาแฟดำขม เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 22:14:48 A:125.27.85.62 X:

ความคิดเห็นที่ 35 นอนเถอะครับคุณหุ่นกระป๋อง เดีํยวผมเฝ้าต่อเอง จากคุณ : เอชัย เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 22:17:25 A:182.53.55.51 X:

ความคิดเห็นที่ 36 คห.30 คุณLpg_Horse สมัครเข้ากลุ่มนันแดงหรือยังครับ ถ้ากลุ่มนั้นมีคนแบบคุณเยอะๆ คุยกันด้วยเหตุและผลแบบมีที่มาที่ไปจริงๆ ไม่ใช่ฟังเค้ามา หรือถูกยัดเยียดคำพูดบางคำใส่ปากเพื่อออกมาพล่ามไปวันๆ  แม้จะต่างความคิด แต่ผมเชื่อว่ากระทู้ทุกกระทู้จะเต็มไปด้วยข้อมูลความรู้อันเป็นประโยชน์กับคนในบอร์ดแน่นอน คุณไม่ชอบทักษิณ แม้จะเป็นความเชื่อ แต่ก็เป็นความเชื่อที่มีหลักฐานข้อมูลของคนที่ติดตามการเมืองอย่างแท้จริง มีเหตุมีผลรองรับที่รับฟังได้  ไม่ใช่ท่องจำเค้ามาพูดว่าทักษิณโกง ทักษิณชั่ว นช.ทักษิณ จากสื่อชั่วและจากพรรคที่ตัวเองชื่นชอบแค่นั้น มาบ่อยๆนะครับ ผมจะคอยติดตาม จากคุณ : บางระจันวันเพ็ญ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 22:26:31 A:171.97.2.57 X:

ความคิดเห็นที่ 37 คุณ Lpg_Horse ครับ สิ่งที่น่าคิดก็คือ  ทำไมมีแต่ทักษิณรู้คนเดียว ? ทำไม ? คนอื่น ๆ ยอมให้ทักษิณรู้  เพื่อให้ทักษิณได้กำไร แล้วยอมมาเป็นลูกน้องทักษิณ ? คุณลองอ่าน คห.27  และ 32   อีกครั้งนะครับ ตอนนั้น  ทำไมคนอื่นไม่คิดเรื่องลดค่าเงิน ผมคิดว่าก็เพราะว่าพวกเขามีคอนเนคชั่นกันไงครับ  พูดภาษาบ้าน ๆ ก็คือ ทำมาหารับประทานด้วยกัน  มีผลประโยชน์ร่วมกัน คิดว่าไหว  ก็บอกกันว่าไม่ลด  ไม่ต้องกลัว  ก็เชื่อกันสิ แต่สุดท้าย มันไม่ไหว  เพราะเจ๊งไปหลายแสนล้านแล้ว ไม่ลดตายแน่  ต้องลด  เมื่อจะลดจึงบอกใครไม่ได้ ไม่งั้นยิ่งพังไปใหญ่ แล้วเพราะเหตุผลทางการเมือง   เลยหันมาเล่นทักษิณเรื่องได้กำไรค่าเงินคนเดียว รู้คนเดียว จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 22:36:36 A:171.4.48.228 X:

ความคิดเห็นที่ 38 มีพรรคเดียวแหละครับที่อุ้มคนรวย แล้วมาด่า พรรคที่เขาลองมาช่วยคนจนดูบ้าง ปรส เสียหายหลายแสนล้าน แต่ยังไม่ติดตาผมเท่ากับการที่มีคนต้องเปิดท้ายขายเมียเพราะไม่มีค่าเทอมลูก ต่อหน้าผม ตอนไปเดินตลาดเปิดท้ายขายของ ผมยังจำหน้า ที่มีน้ำตาคลอเบ้าของสามีที่หันหน้าหนีตอนที่ภรรยาเดินๆปกับชายอื่นได้ดี ตั้งแต่นั้นมา ผมสาบานกับตัวเอง ผมเกลียดพรรค แมลงสาบตลอดชีวิตครับ จากคุณ : จอมยุทธ์ธงฟ้า เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 22:41:10 A:58.9.125.130 X:

ความคิดเห็นที่ 39 ประเด็นเดิมๆ ... ขี้เกียจคุยแล้ว ลองไปค้นดูลิ้งค์เก่าๆที่เคยคุยกันไว้ http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/04/P6488167/P6488167.html http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/04/P6514737/P6514737.html จากคุณ : King Hades เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 22:42:19 A:1.1.210.101 X:

ความคิดเห็นที่ 40 ตอนนั้นยังเรียนอยู่ เรื่องปรส.หนะ แต่ก็อ่านข่าวแล้วสะเทือนใจ กับบันดานักธุรกิจหลายคนที่ต้องมาจบชีวิตตัวเองด้วยการยิง ตัวเองตายหลายคนมาก แล้วนักธุรกิจอีกหลายคนต้องออกมา ทำอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวบ้าง ขายแซนวิชบ้าง เห็นกันจนเศร้าจับใจ ก็เลยจำใส่ใจไว้เลยว่าพรรคปชป.นี้จะไม่เลือกเข้ามาเด็ดขาด จากคุณ : นพนครพิงค์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 23:05:45 A:118.172.160.154 X:

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนนั้นนักลงทุนขนาดพันล้านขึ้นไป รู้กันทั้งนั้น ผมว่าหาข้อมูลไม่ยาก  บ.ใหน สว๊อบเงินดอลล์เป็นบาท ก่อนลดค่าเงิน 2-3 เดือน ธ.แห่งประเทศไทยต้องมีข้อมูลเก็บใว้ แต่ที่บาง บ.ไม่ทำ อาจชะล่าใจ หรือไม่ก็ หา ธ.ให้กู้ไม่ได้ เพราะอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 5-6 เท่า อัตราผ่อนชำระก็เท่าตัว   แบงค์ต้องดูว่าคุณมีความสามารถในการหาเงินมาคืนได้มั้ย   เล่นกู้ดอลซะเต็มแม็ก  จะเหลือเหรอ จากคุณ : duplicate เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 23:21:33 A:171.99.174.44 X:

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นกิ๊ฟที่ได้แล้วเชื่อเลย  ..... คำบอกกล่าวจากล๊อกอินบางอัน  มันเป็นเรื่องจริงไปแล้ว  เหอ เหอ ภ้ามันไม่เป็นรองนายกแล้วไม่ได้รับสัมปทานดาวเทียม...บอกตรงๆ  ผมจะเชื่อว่ะ  อิอิ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 55 23:43:19 จากคุณ : เสื้อแดงขอปลดอาวุธทหาร เอิกๆ (คนชาย) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 23:40:58 A:223.204.183.226 X:

ความคิดเห็นที่ 43 อะไรว่ะไอ้ คห.42 นี่  มันมาจากรูไหน มันโพสต์ว่า "ภ้ามันไม่เป็นรองนายกแล้วไม่ได้รับสัมปทานดาวเทียม" งง  แปลว่าไรว่ะ ภาษาคนน่ะ  ใช้เป็นป่ะ  เลิกใช้ซะทีภาษาแมงสาบ สัมปทานน่ะ เขาได้ปี 34 โน่น  เีกี่ยวอะไรกับเรื่องรองนายกฯ จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 23:53:41 A:171.4.48.228 X:

ความคิดเห็นที่ 44 โธ่ๆ  พ่อคุณ 43  ไม่รู้วิถีทางของคน คดในข้องอในกระดูกจริงๆจริงๆหรือ  ^^ นิสัยมันเปนเยี่ยงไร  มันก็เปนเยี่ยงนั้นไปตลอด   ไปหาหลักฐานมาสิ  ว่ามันไม่รู้เรื่องลดค่าเงินบาท บอกก็ต้องบอกให้หมด  สมัยนั้นมันเป็นรองนายกนะ   ใครจะเชื่อว่ามันไม่รู้เรื่อง  แน่จริงหาหลักฐานมายันดิ  ว่ามันไม่รู้เรื่อง^_^  มีป่ะ เดียวจะเชื่อ  อิอิ จากคุณ : เสื้อแดงขอปลดอาวุธทหาร เอิกๆ (คนชาย) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 00:06:41 A:223.204.183.226 X:

ความคิดเห็นที่ 45 ^ ^ คนที่ท้องผูกยังโทษทักษิณอย่างคุณเนี่ยนะจะเชื่อ จากคุณ : infinite justice เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 00:11:18 A:171.4.166.204 X:

ความคิดเห็นที่ 46 อ้าวอยู่ดีๆให้เขาไปหา ตัวเองมากล่าวหาลอยๆแล้วใครจะเชื่อ ก็เอาหลักฐานมาปลากอบด้วยซิเออ แน่จริงก็เอาหลักฐานมาจิ ชี้ไปที่ตาชายนะ แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 55 00:12:02 จากคุณ : นพนครพิงค์ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 00:11:26 A:118.172.160.154 X:

ความคิดเห็นที่ 47 คห.44  แถแบบมาร์คเลยบ่ะ   โดน คห.46  ตบหัวเอา  สมน้ำหน้า อ้าว แล้วเรื่องสัมปทานดาวเทียมไม่พูดถึงแล้วเร๊อะ จ๊าดง่าว จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 00:22:49 A:171.4.48.228 X:

ความคิดเห็นที่ 48 คนชาย แถแบบไม่อายฟ้าอายดินเลยนะ การ book forward ต้องทำผ่านธนาคารพาณิชย์อยู่แล้ว หลักฐานการทำธุรกรรมกับธนาคาร ธนาคารก็ต้องเก็บไว้ แบงค์ชาติสามารถตรวจสอบได้ คิดเหรอว่าแบงค์ชาติจะไม่ตรวจสอบกลุ่มใหญ่อย่างชินคอร์ปฯ ถ้าผิดปกติ ตอนนั้นโดนแน่ แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 55 00:38:34 จากคุณ : NOIE เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 00:38:16 A:58.8.116.185 X:

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านความเห็นคุณ Lpg_Horse แล้วแอบขำ เพราะ คุณกับเรา นี่ตรงกันข้ามกันเลย เราไม่เคยเชื่อ วาทกรรมที่ว่า รวยแล้ว ไม่โกง เพราะ มันไม่ make sense และ ไม่สมเหตุสมผล อีกสิ่งหนึ่ง ที่ดูเหมือน เราจะมีทัศนคติที่แตกต่างกัน ก็คือ หากยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน คุณจะยังไม่สรุป ว่า ทักษิณ โกง หรือไม่โกง เปรียบเทียบก็คือ คุณยังเชื่อว่า ผีอาจะมีหรือไ่ม่มีก็ได้ แต่สำหรับเรานั้น ตราบเท่าที่เราไม่สามารถพิสูจน์สมมติฐานที่ว่า ทักษิณเป็นคนไม่ดี ด้วยการพิสูจน์ว่า เป็นไปไม่ได้เลย ที่ทักษิณ จะเป็นคนดี ได้นั้น เราจะถือว่า ทักษิณ เป็นผู้บริสุทธิ์ ... และเราไม่มีพื้นที่สำหรับความเชื่อที่ว่า ผีมีในโลก แม้เราจะไม่ลบหลู่คนที่เชื่อก็ตาม ... (แต่เราก็ลบหลู่ คนงมงาย ที่ชี้หน้า หรือ ส่อเสียด หาว่าคนอื่น งมงาย นะ :p) จากคุณ : อรุโณทัย เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 00:41:03 A:124.120.170.251 X:

ความคิดเห็นที่ 50 คำต่อคำ “ทนง พิทยะ” เปิดใจ 15 ปี วิกฤติ 2540 และบุญคุณต้องทดแทน “ต้องเข้าใจว่าผมเป็นลูกจ้างของนายกทักษิณ” http://thaipublica.org/2012/07/series-15-years-of-crisis-2/ จากคุณ : tada504 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 00:53:21 A:182.52.11.213 X:

ความคิดเห็นที่ 51 มีคน^^มาให้ด่าทุกปี http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/10/P7104068/P7104068.html ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 20 อันนี้ คุณ ทักษิณ ทำได้อย่าง สุดยอดจริงๆครับ ขอ สดุดี อดีต นายกๆ ท่านนี้ 1 ทีงามๆครับ กับ การใช้หนี้ IMF ปล.แต่ท่านก็รวยมาจากการกว้านซื้อ ค่าเงิน บาทก่อนมันจะลอยตัว โดย มี "บิ๊กจิ๋ว" แอบบอกนี่ครับ สมควรแล้วที่ท่านจะแก้ปัญหานี้ สำเร็จ จากคุณ : Reyes ^ ^ ^ กรูละเชื่อเลย ยังมีคนเชื่อเรื่องนี้อยู่อีก เอ่อ........... พี่น้องคร้าบ เค้าประชุมกันกี่โมง ทราบไม้ค้าบ ตีสามตีสี่ แล้วประกาศลอยตัวเช้าวันนั้นเลย เอาในชีวิตจริงเลยนะพี่ ไอ้เบื๊อกที่ไหน จะเอาเงินราวห้าหกร้อยล้่านเหรียญ เก็บไว้ที่เมืองนอก โดยเก็บเป็นสกุลเงินบาท แล้วแลกเป็น US วันนั้นเลย ในเมืองไทยก็เป็นแต่กล่าวหาลอยๆ   ไอ้เบื๊อกที่ไหน จะโอนเงินเป็นหมื่นล้านออกนอกประเทศในเช้าวันนั้นได้เลย โดยไม่ต้องรายงานแบ๊งค์ชาติล่วงหน้า  เป็นไปไม่ได้เลย ธนาคารไม่ทำให้หรอก เค้าแลกไว้ล่วงหน้าสองสามเดือนก่อนแล้ว เพราะเค้าอ่านสภาพเศรษฐกิจแล้ว รู้ว่าไม่รอด ต้องลอยตัวแน่ นักธุรกิจใหญ่ๆ เค้ารู้กันทั้งนั้นล่ะ ว่าต้องลอย  มันอยู่ที่ว่า เค้าจะมีเงินไปแลกไหม ทักษิณทยอยแลกแล้วใช้คืนเงินกู้ตปท. ไอ้ที่ว่าเค้าได้กำไร จริงๆคือว่า เค้าแค่ไม่ขาดทุนค่าเงินเท่านั้น อะโห ยังมีคนเชื่ออีก ว่าเพื่อนกันที่เข้าร่วมประชุม แอบโทรบอกกันคืนนั้น คิดเรื่องความเป็นไปได้ กะ เงื่อนไขเรื่องเวลาหน่อยเพ่ ให้เซลส์สมองทำงานหน่อย  อย่าฟังอย่างเดียว แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 51 15:50:27 จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน - [ 15 ต.ค. 51 15:46:56 A:192.168.30.71 X:58.136.75.101 ] จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 01:03:34 A:124.121.130.23 X:

ความคิดเห็นที่ 52 ทักษิณสไตล์ จากคุณ : suwannarach เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 01:27:54 A:171.5.70.189 X:

ความคิดเห็นที่ 53 แก้มป่อง โตตอนมาร์คหล่อพอดี ส่วนอื่นๆ นโยบายที่ประเทศไทยเคยได้รับผลกระทบจากพรรคการเมืองเก่าแก่ไม่เคยรับรู้รับทราบ คนที่โตมากับช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ จนเปลี่ยนถ่ายมาถึงรัฐทักษิณ เค้ารับรู้รับทราบจนถึงกระดูกดำว่า มันต่างราวฟ้ากับเหวยังไง จากคุณ : grinny2545 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 03:47:16 A:110.49.232.50 X:

ความคิดเห็นที่ 54 อ่านเรื่องBIBFแล้วอดขำสลิ่มที่ชอบทำตัวเป็นเด็กไร้เดียงสาอายุน้อยขึ้นมาทันที ใช้การจินตนาการ+กับความอคติมากล่าวหาทักษิณทุกที พอเผลอเมื่อไรก็เอากลับมาเล่นใหม่ไปเรื่อยเหมือนพวกโชว์งูตามสนามหฝวงเมื่อครั้งที่ยังไม่ได้ย้ายไปที่จตุจักรเปี๊ยบเลย ที่นางฟ้าจำได้แม่นเพราะตอนรัฐบาล นายชวน หลีกภัยเปิดเสรีทางการเงินโดยให้เหตุผลว่าทำให้นักลงทุนสามารถกู้เงินต่างประเทศได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง(ฟังแล้วเหมือนจะดี) ที่ไหนได้ มีคนไทยหัวหมอทำเรื่องขอกู้เงินจากต่างประเทศอ้างว่าจะเอามาลงทุน1000ล้าน แต่กลับเอามาลงทุนเพียง500ล้านหรือไม่ลงทุนเลย จากนั้นเอาเงินที่กู้มาในอัตราดอกเบี้ยต่ำไปฝากธนาคารในประเทศไทยเพื่อกินดอกเบี้ยที่ตอนนั้นดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศไทยนั้นสูงกว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้กับผู้กู้ที่อยู่ต่างประเทศเกือบ10%เป็นเสือนอนกินเลยทันทีเพราะไม่ต้องทำอะไรก็ได้เงินดอกเบี้ยมาใช้ สถานการณ์ที่มีการกู้เงินต่างประเทศมากินผลต่างแบบนี้ แทบจะไม่มีนักวิชาการหรือนักการเงินไทยออกมาเตือนรัฐบาลหรือเตือนนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์กันเลยเพราะเห็นว่านายธารินทร์เป็นนายธนาคารมาก่อนที่จะมารับตำแหน่ง รมต.คลังในตอนนั้น พอทำแบบนี้นานเข้า เศรษฐกิจไทยก็พังเพราะกลุ่มคนรวยที่นั่งกินดอกเบี้ยแบบนี้กู้เงินโดยไม่ได้ลงทุนเพื่อจ้างแรงงานหรือเพิ่มผลผลิตให้กับเศรษฐกิจประเทศชาติ(คนจนทำไม่ได้เพราะต่างชาติไม่ให้เครดิต)จึงเป็นเหตุให้นายโซรอสมาโจมตีค่าเงินประเทศไทยได้ เพราะรู้ว่ารัฐบาลไทยมีนโยบายการเงินที่ผิดเพี้ยนนี่แหละ ท้ายสุด นายโซรอสทำสำเร็จจนเกิดพิษต้มยำกุ้ง แต่คนรวยบางคนยังล้มบนฟูกได้อีกโดยเฉพาะนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรืองที่มีวลีที่ดังติดปากว่า "ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย" และไม่มีใครทำอะไรได้ด้วยจริงๆ จนวันนี้กลับมารวยเหมือนเดิมอีกแล้ว คนที่^^วชาญด้านการเงินอย่างทักษิณ เป็นนักธุรกิจดังขนาดนั้นแค่ใช้สมองคิดหน่อยเดียวก็รู้ว่า ประเทศไทยยังไงก็ต้องลดค่าเงิน เพราะเงินคงคลังไทยไม่มีทางที่จะต่อสู้กับกองทุนต่างชาติอย่างนายจอรจ โซรอสได้ จึงทยอยจ่ายหนี้มันผิดตรงไหน มาโมเมโทษทักษิณโดยไม่มีหฝักฐานมันไม่ถูกหรอกเพราะคนที่รู้เรื่องการเงินดีทุกคนรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องลดค่าเงินนะฮ้า จากคุณ : นางฟ้านะยะ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 06:07:18 A:118.15.249.185 X:

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ Lpg_Horse   จำได้อย่างเดียว คุณเชื่อเรื่องที่ สนธิ ..พูด คุณว่ามันเป็นความจริง.. มาพูดเรื่องลดค่าเงินบาทกัน ...ใครรู้ไม่รู้ บอกไม่ได้  แต่เดาได้ว่ามีคนคาดการณ์ถูก เยอะค่ะ  เพราะวันนั้นก่อนวันลดค่าเงินในฐานะเป็นเสมียนแบงค์ใหญ่  เราทำงานกันแบบดึกดื่นใครที่สามารถเก็บเงินไว้ในบัญชีดอลลาร์ได้  โอนกันหมด  ไม่มีใครแปลงเป็นบาท จำได้ว่า พ่อค้า..ชาวตปท.สั่งโอนเงินไปเข้าบ/ชที่ ฮ่องกง หลายหมื่นเหรียญตามสิทธิ์ ของคนต่างด้าว หลังจากนั้นธปท.ก็มีมาตรการต่างๆออกมามากมาย  เพื่อควบคุมไม่ให้มีการเก็บเงิน ดอลล่าร์ไว้ในบัญชีส่วนบุคคล  เกินกว่าภาระหนี้ที่ต้องชำระ   จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 07:13:13 A:58.8.12.206 X:

ความคิดเห็นที่ 56 พอดีเมื่อคืนหลับเร็ว เพราะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ เลยไม่ได้ตอบหลายความเห็น ขอตอบสั้น ๆ แล้วกันครับ เริ่มจากคุณ sao..เหลือ..noi ก่อน ผมว่า ที่ผมพิมพ์เกี่ยวกับคุณสนธิเมื่อวาน ผมจะใช้คำว่า "ผมเห็นด้วยกับการนำเสนอข้อมูลของคุณสนธิ ในช่วงที่ออกมาต่อต้านคุณทักษิณ เพราะเป็นข้อมูลที่มีข้อเท็จจริงหลายอย่าง ทำให้เชื่อได้ว่า คุณทักษิณทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง พวกพ้อง มากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ" และถ้าจำไม่ผิด ผมเลิกเชื่อคุณทักษิณก่อนที่คุณสนธิจะแตกคอกับคุณทักษิณแล้ว เพราะช่วงที่คุณสนธิออกมาแรก ๆ ผมยังจำได้ว่า จะไปออกรายการ กรองสถานการณ์ กับคุณอดิศักดิ์ ศรีสม อยู่หลายครั้ง จะเป็นฝ่ายเชียร์คุณทักษิณมาก หลังจากนั้น พอเริ่มมีรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ทางช่อง 9 ก็ดูบ้างไม่ดูบ้าง แล้วแต่เหตุการณ์ ย้อนไปที่คุณอรุโณทัย เรื่องคุณทักษิณ ผมว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่เชื่อตั้งแต่คุณทักษิณตั้งพรรคไทยรักไทย ออกนโยบายหลายเรื่อง ที่ฟังแล้วมีประโยชน์ น่าจะทำได้ และอยากให้ได้ทำ พอโดนคดีซุกหุ้น ก็เอาใจช่วย ผมว่า ลักษณะที่ผมพูดไปนี้ เป็นกันเยอะมาก ในช่วงนั้น และหลังจากที่คุณทักษิณเริ่มบริหารแบบเล่นพรรคเล่นพวก ไม่จัดการปัญหาการทุจริตอย่างจริงจัง ความชอบก็ค่อย ๆ ลดไป ก็กลายเป็นไม่ชอบ อันนี้ผมว่าคนเป็นแบบนี้ก็เยอะแหละครับ แต่ถ้าหากต้องมานั่งหาเหตุผลหลักว่า ชอบเพราะอะไร ไม่ชอบเพราะอะไร อันนี้คงตอบลำบาก เพราะมันเป็นเรื่องยาวหลายปีพอสมควร น่าจะตั้งแต่ปี 42 ถึง 46 ล่ะครับ ดังนั้นอาจจะเป็นการหลง การงมงาย หรืออื่น ๆ ก็ว่าไป แต่ผมก็เน้นการแสดงความคิดเห็นตามความเป็นจริง อันไหนเป็นความรู้สึก คิดไปเอง ก็พยายามบอกตรง ๆ อันไหนมีข้อมูลอ้างอิงได้ ก็พยายามนำเสนอ สำหรับคุณตระกองขวัญ ก็อย่างที่บอกแหละครับ เรื่องมันนานแล้ว ณ.วันนั้นผมอาจจะมีความรู้ ความเข้าใจ หรือความเชื่อแบบนั้น โดยมีเหตุผลประกอบพอสมควร แต่พอเวลาผ่านไป เนื่องจากความจำไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหตุผลบางอย่างเลยเลือนไป ก็เป็นว่า ผมยังเชื่อแบบนั้นก็แล้วกันครับ ไว้ถึงเวลาต้องถกอย่างจริงจัง อาจจะต้องไปลองค้นข้อมูลประกอบเหตุผลเพิ่มเติมก็ได้ครับ สำหรับคุณบางระจันวันเพ็ญ ผมก็แสดงความเห็นของผมตามแนวของผม ไม่ต้องเข้ากลุ่มใด ๆ ก็ได้ครับ เพราะผมอยากเน้นเรื่องการโต้แย้งกันด้วยข้อมูล หรือบางครั้งถ้าเป็นเรื่องคลายเครียดขำ ๆ ก็เล่นด้วยได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องด่ากันไปมา บางครั้งก็ต้องขอตัวแหละครับ จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 07:51:41 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 57 คุณ Lpg_Horse  ...นักการเมือง  ก็คือคนที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ค่ะ อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ ว่าทำงานเพื่อบ้านเมืองล้วน ๆ รวมถึงคุณทักษิณ แต่มันต้องเป็นการประสานประโยชน์ค่ะ  ต้องได้ทั้งบ้านเมือง ปชช. และนักกระมืองเขาต้องได้ด้วยค่ะ ...ไม่เงินก็ กล่องค่ะ หรือทั้งเงินทั้งกล่อง..... ไม่งั้นจะมาเหนื่อยทำไม หากคุณทักษิณ เป็นนายกฯ พรรครัฐบาลถือเสียงข้างมาก  แก้ไขกฎหมายที่เอื้อประโยน์ กับธุรกิจบางประเภท ....ที่เขาคิดว่าไม่เป็นธรรม ทุกคนที่อยู่ในธุรกิจนี้  ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล  ได้ประโยชน์ทุกฝ่ายค่ะ หากธุรกิจของครอบ คุณทักษิณเกิดรุ่งเรืองในสมัย คุณทักษิณเป็นนายกฯ ..... ถามว่าประเทศชาติได้อะไร ?????? เก็บภาษ๊ได้มากขึ้น  คนมีงานทำมากขึ้น ...พอไหมคะ ฝ่ายค้านมีหน้าที่ไปตรวจสอบค่ะ  เขาเสียภาษ๊ครบถ้วนไหม? นักธุรกิจ  กับการเมือง  แยกกันไม่ออกค่ะ ถ้าประสานกันลงตัวก็ วิน วิน  ค่ะ รวมถึงเรื่องคุณทักษิณ  กับคุณ สนธิ ค่ะ  ไปอ่านที่มาของความขัดแย้งนะคะ ผลประโยชน์ไม่ลงตัวค่ะ  ก่อนจะถึงความขัดแย้ง ... คุณสนธิบอก คุณทักษิณ  เป็นนายกฯที่ดีที่สุด  เท่าที่ประเทศไทยเคยมีที่เดียว จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 08:52:14 A:58.8.12.206 X:

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านแล้วได้ความรู้ดี  เพราะไม่เคยสนใจศึกษารายละเอียด จำได้แต่ว่าตอนนั้นจำนวนหุ้นที่บริษัทแม่แบ่งให้หายไปครึ่งหนึ่ง เพราะคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน เช้านี้มีเงินโอนเข้าบัญชีผม 100 ล้าน จากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ตอนนี้ขอโอนให้จขกท. ล้านนึงก่อน จากนั้นจะค่อยๆทยอยจ่ายให้เป็นระยะๆ จากคุณ : กิเลนแห่งหวงเหอ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 09:43:46 A:171.98.34.176 X:

ความคิดเห็นที่ 59 เรื่องนี้ว่าจะไม่แล้วเชียว... แต่ขอสักนิดนึงนะครับ ในเรื่องลอยตัวค่าเงินนั้น ... การรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการลอยตัวนั้น แบ่งออกเป็น 2 กรณีใหญ่ๆคือ 1. รู้จากการวิเคราะห์ข้อมูล (ไม่ว่าจากตนเองหรือคนอื่น) 2. รู้จากข้อมูลวงในหรือที่เรียกว่า insider กรณีที่ทักษิณถูกกล่าวหาก็คือ รู้มาจาก insider ในตอนที่มีการประชุมหารือเพื่อลอยค่าเงินบาท โดยอาศัยตัวละคร 2 ตัวหลักคือคุณโภคินกับคุณทนง การที่คุณ Lpg_Horse ให้เหตุผลว่าการที่ทักษิณรู้อะไรดีๆมากกว่าคนอื่น โดยยกเหตุผลความสัมพันธ์ของคุณโภคินกับคุณทนงนั้น... แสดงว่าคุณเชื่อว่าทักษิณรู้มากกว่าคนอื่นโดยอาศัยข้อมูลจาก insider แต่ถ้ากลับไปดูข่าวในช่วงนั้น.... ก่อนหน้าที่คุณทนงจะมารับตำแหน่งในวันที่ 21 มิย. 40 หรือวันที่ 29มิ.ย. ที่นายทนงพร้อมกับคนของธปท.เข้าพบนายกเพื่อขอลอยค่าเงิน ซึ่งมีนายโภคินอยู่ด้วย (และวันที่ประกาศลอยจริงๆก็คือ 2 ก.ค. 40) ....ก็มีข่าวการขายเงินบาททิ้งอยู่แล้ว !!! ดังนั้นทักษิณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องว่าจะมีการลอยค่าเงินบาทจากคุณทนงหรือคุณโภคินเลย !! และในเมื่อมั่นใจว่าจะมีการลอยค่าเงินบาท ... การที่จะชี้ชัดว่าจะมีการลอยตัวช่วงไหนวันไหน ก็แค่ดูตัวละคร 3 ตัว คือ นายก, รมต.คลัง, และ คนของธปท.ที่รับผิดชอบนโยบายแลกเปลี่ยน ...แค่นี้ก็เดาได้ไม่ยากแล้วล่ะครับ..ไม่เห็นจะต้องได้รับแจ้งข่าวจาก insider เลย และนี่เป็นไทม์ไลน์ที่ผมเคยสรุปไว้คร่าวๆ (จากกระทู้ http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/04/P6488167/P6488167.html) ลองเรียงลำดับเหตุการณ์  (จากข้อมูลในหนังสือ "บันทึกลับปี 40") -- ตามความเข้าใจของผม ต้น ก.พ. 40       -  ธนาคารแห่งประเทศไทยได้นำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ                           ไปทำการปกป้องค่าเงินบาทได้อย่างสำเร็จ ปลาย ก.พ. 40   -  ศ.สุรศักดิ์ นานานุกูล เสนอว่า                           "ประเทศไทยมีหนี้สินต่างประเทศประมาณ 110,000 ล้านเหรียญสหรัฐ                           มีทุนสำรองระหว่างประเทศประมาณ 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ                           ประเทศไทยมีหนี้สินสูงกว่าทุนสำรองระหว่างประเทศถึง 70,000                           ล้านเหรียญสหรัฐ และขาดดุลยัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง                           หากได้ลดค่าเงินบาทมาอยู่ที่ระดับ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ก็จะมีผลต่อ                           การป้องกันไม่ให้เงินไหลออกไปต่างประเทศได้"                          แต่ก็มีคนในรัฐบาล ซึ่งเห็นด้วยกับการปกป้องค่าเงินบาทแสดงความไม่เห็นด้วย  ในช่วงนั้น คนที่คิดว่าประเทศไทยต้องลดค่าเงินบาทหรือขยายความยืดหยุ่น ในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนจนถึงขั้นลอยค่าเงินนั้น ก็มิใช่ ศ. สุรศักดิ์ นานานุกูล พียงคนเดียว แต่ภายหลังต่อมาก็ยังมี 1. นายชาตรี โสภณพานิช 2. นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ 3. ดร. นิมิตร นนทพันธาวาทย์ 4. ดร. วีระพงษ์ รามางกูร 5. พ.ต.ท.  ทักษิณ ชินวัตร 6. ดร. วรากรณ์ สามโกเศศ 7. ดร. นิพนธ์ พัวพงศกร 8. ม.ร.ว. จตุมงคล โสณกุล 9. นายไพศาล พืชมงคล 10. ดร. ศุภชัย พานิชภักดิ์ กลุ่มที่เห็นด้วยกับการปกป้องค่าเงินบาทจนถึงที่สุด 1. นายอำนวย วีรวรรณ 2. ดร. โอฬาร ไชยประวัติ 3. นายธนินทร์ เจียรวนนท์ 14 พ.ค. 40        -  กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้เสนอให้ประเทศไทย                            ลดค่าเงินบาทลงประมาณร้อยละ 10-15 โดยเปิดให้มี                            ความยืดหยุ่นของอัตราแลกเปลี่ยนให้กว้างขึ้น                           19-20 พ.ค. 40  -  บทบรรณาธิการจาก ฐานเศรษฐกิจ "เงินบาทยังไม่ปลอดภัยจริง"                             กล่าวไว้ว่า มีการโจมตีค่าเงินบาทอีก 2 ระลอกในเดือน พ.ค.                             แต่ฝ่ายไทยก็เป็นฝ่ายชนะ 28 พ.ค. 40        - ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งบันทึก                              'รายละเอียดและขนาดของธุรกรรมในการปกป้องค่าเงิน                            ระหว่างวันที่ 8 ถึง 15 พค 40'   ถึงนายอำนวยวีรวรรณ                            พร้อมข้อมูลทุนสำรองสุทธิ 19 มิ.ย. 40            - นายอำนวย วีรวรรณ ลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ                               และรมต.กระทรวงการคลัง                            - ข่าวจาก ผู้จัดการ                              " คนไทยทิ้งบาท กวาดซื้อดอลล์ เชื่อลดค่าเงินหลังยุค 'อำนวย' " 21 มิ.ย. 40        -  มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายทนง พิทยะ                             เป็นรมต.กระทรวงการคลัง                         -  จากรายงานของ ศปร. ระบุว่า                             "มีการประชุมเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย 6 คน                              (โดยไม่มีผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย) เรื่องระบบค่าเงิน                              ที่ประชุมได้มีความเห็นว่าระบบที่ดำเนินการอยู่นี้คงอยู่ไม่ได้                              เนื่องจากทุนสำรองสุทธิเหลืออยู่น้อยมาก จึงมีมติเป็นเอกฉันท์                             เปลี่ยนระบบค่าเงินเป็นแบบลอยตัว ซึ่งก่อนหน้านี้มีการหารือกับ                             นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์แห่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ                             ก็เห็นชอบกับแนวทางดังกล่าวนี้เช่นกัน                            หลังประชุม จึงได้โทรศัพท์ไปเรียน ผู้ว่าการแห่งประเทศไทย                             ว่าที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเป็น                            ระบบลอยค่าเงินและได้มีการเตรียมการกันอยู่แล้ว" 24-26 มิ.ย. 40     - มีกระแสการเทขายเงินบาทและซื้อเงินเหรียญสหรัฐแรงมากขึ้น 26 มิ.ย. 40         - ผู้ว่าการฯ และรองผู้ว่าการฯ ประชุมร่วมกับ นายทนง (รมต.คลัง)                            นายทนง ได้ขอให้ฝ่ายธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานสถานะของเงินสุทธิ                            เมื่อทราบสถานะแล้ว นายทนงก็ตัดสินใจในการประชุมเลยว่า                            "จะต้องเปลี่ยนนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน"                            แต่ผู้ว่าการฯ กลับตอบรมต.คลัง ว่า "จะขอไปปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่                            ของธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน" 29 มิ.ย. 40         - นายทนง(รมต.คลัง) ได้ตกลงกับนายเริงชัย (ผู้ว่าการฯ)และนายชัยวัฒน์                           (รองผู้ว่าการฯ) ว่าจะไปเรียนนายกรัฐมนตรีในเช้าวันที่ 29 มิ.ย. 40                            ซึ่งเมื่อถึงวันดังกล่าว ปรากฏว่ามีนายโภคิน พลกุลร่วมประชุมอยู่ด้วย 30 มิ.ย. 40         - ผู้ว่าการฯ เอาเอกสารรายละเอียดการลดค่าเงินบาทไปมอบให้นายกฯลงนาม                          ** ธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่ได้ประกาศลอยตัวค่าเงินในวันนี้ ** 1 ก.ค. 40            -  ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ยังไม่ประกาศอีก โดยให้เหตุผลว่า                              วันที่ 1 กค เป็นวันหยุดของธนาคารแห่งประเทศไทย 2 ก.ค. 40            - ประกาศลอยคัวค่าเงินบาท (อย่างเป็นทางการ)                          **รายละเอียดก็อ่านจากที่ scan นะครับ ** จากคุณ : King Hades เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 09:43:58 A:1.1.220.145 X:

ความคิดเห็นที่ 60 ที่กระทู้นี้ ไม่มีกรอบของประเด็นที่ตั้งเป็นหัวข้อกระทู้ ทำให้ง่ายต่อการเพิ่มเติมข้อมูล และหักล้างกันด้วยข้อมูล ดีใจค่ะ ระยะหลังนี้เรามักเห็นกรอบแปลกๆ ในการรับฟังคห.ต่างที่เข้ามาในกระทู้ บางคนหาข้อมูลมาละเอียด ถูกเบรคด้วยข้อความสั้นๆว่าไม่ใช่ประเด็นที่ต้องการ จากคุณ : ป้าหนูดา เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 10:12:09 A:124.121.88.191 X:

ความคิดเห็นที่ 61 ** อ่า..... กระทู้แตกมาเพื่อให้คุณตัวกลมแก้มป่องได้ศึกษาอ่ะครับ ตั้งแต่มะวานยังไม่เข้ามาเลย  เพิ่งเริ่มศึกษาการเมืองเมื่อปี 54 ไม่ใช่หรือ กระทู้นี้อาจทำให้แก่กล้าขึ้นนะครับ "อ่านไปเถอะไม่เสียหายถ้าหนักแน่นพอ" . จากคุณ : ตาเป๋า เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 10:38:36 A:203.172.178.20 X:

ความคิดเห็นที่ 62 คคห.ที่ 59  แจมต่อ ... 2  ก.ค. ประกาศลดค่าเงินบาท  ทำงานด้านปริวรรตเงินตรา เหมือนโลกจะถล่มทลาย  นึกถึงเหตุการ์วันที่ 30 มิ.ย. ทำไมธปท. ถึงเร่งรัดรายการ นั้นรายการนี้ ให้เคลียร์ ให้หมด รวมถึงทำไม คนมันโอนเงินไปไว้ในบ/ช.ดอลลาร์ กันเยอะนัก..... แล้วจากวันนั้นมา  ดูเหมือนผู้ส่งออกทุกราย  ก็ลุกขึ้นมาเก็บเงินดอลลาร์ไว้ในบ/ช. ไม่มีใครอยากถือเงินบาทกันเลย .... ก็แหม...ลดค่าไปแบบนั้น ใครจะอยากเก็บไว้ วันดีคืนดี ...  มาถามอีก ชำระค่าสินค้ากันเนี่ยะ ในประเทศนี่...ขอชำระเป็นดอลลาร์ได้ไหม ..... วันนั้น  ดูเหมือนเงินบาทจะไร้ค่าจริงๆ จนธปท.ต้องมาออกโรงบังคับ  ผู้ส่งออกจะเก็บเงินสกุลตปท.ไว้ได้เฉพาะที่ต้องชำระ ค่าสินค้านำเข้าที่มีภาระนำมาแสดงในไม่เกิน 3 เดือน นับจากนำเงินเข้าบ/ช ความโกลาหลในการเปิดบ/ชเพราะใครๆ ก็อยากมีดอลลาร์เก็บไว้ จึงยุติได้ กว่าถั่วจะสุก  งาก็เกือบไหม้ จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 14:50:34 A:58.8.12.206 X:

ความคิดเห็นที่ 63 นิยายเรื่องทักษิณได้กำไรจาก insdier ค่าเิงินบาทนี่ มันทำใ้ห้เห็นครับว่าสังคมไทยนี่น้ำเน่า ถ้าทักษิณทำตัวจนแบบนายชวน  ไม่มีใครเกลียดหรอกครับ  จริง ๆ แต่เพราะรวย  เพราะกล้าพูดกล้าทำ  คนเลยหมั่นไส้ นี่คือความน้ำเน่าของสังคมไทย ก็ดูอย่างจำลองสิครับ  แค่เอาฝาเข่งมาทำป้ายหาเสียงก็ได้คะแนนตรึม พอมาอีกยุค  ก็ต้องพรรคผู้ดี  ผู้ว่ามีเชื้อมีสกุล นักการเมืองประเทศไทย  นักธุรกิจประเทศไทย   เลวได้หมด แต่ทักษิณเลวไม่ได้  ทักษิณต้องมนุษย์ผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องใสสะอาด เสียสละ ไม่รู้จะน้ำเน่าไปถึงไหน แค่บ่นครับ  ขี้เกียจออกความเ็ห็น จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 15:41:33 A:223.204.86.231 X: