ความคิดเห็นที่ 1 ความพยายามของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในการเดินหน้ารับจำนำข้าวเปลือกในปีการผลิต 2555/56 วงเงิน 4.05 แสนล้าน กำลังถูกคัดค้านอย่างหนัก หลังจากในช่วงปี 2554/55 มีการใช้วงเงินไปกว่า 5 แสนล้านบาท ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ ถึงการทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ออกใบประทวนจนถึงการเก็บสต็อค โดยปัจจุบันมีข้าวที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำกว่า 30 ล้านตัน ส่งผลให้กลุ่มนักวิชาการ นำโดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ออกมายืนแถวหน้าในการต่อต้าน ขณะที่คณาจารย์จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ล่ารายชื่อเพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หวังจะยับยั้งนโยบายที่อาจสร้างความเสียหายให้กับประเทศในอนาคต การตั้งราคารับจำนำข้าวสูงลิบลิ่ว เป็นไปเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยข้าวเปลือกเจ้า 100% ราคารับจำนำสูงถึงตันละ 15,000 บาท (ความชื้น15%), ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 16,000 หมื่นบาท, ข้าวเปลือกเหนียว (เมล็ดยาว) ตันละ 16,000 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 20,000 บาท “ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร” ประธานทีดีอาร์ไอ เป็นอีกหนึ่งนักวิชาการชั้นแนวหน้าของประเทศ ที่กล้าออกมาต่อต้านนโยบายนี้อย่างเต็มตัว เพราะหวั่นวิตกถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ไม่เพียงเงินภาษีของประชาชนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวงจรค้าข้าวที่แอบอิงกับเส้นสายทางการเมือง ชาวนาที่ตกเป็นเครื่องมือหาเสียง ธุรกิจที่ต้องเสียหาย และข้าราชการที่ร่วมมือกับนักการเมืองทุจริต “ทีมข่าวอิศรา” ไปนั่งสนทนากับ ดร.นิพนธ์ ระหว่างที่โครงการรับจำนำข้าวรอบใหม่ จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ต.ค.นี้ .............................................. @ มองอย่างไรที่นักวิชาการล่ารายชื่อเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญระงับโครงการนี้     เรื่องนี้เป็นนโยบายรัฐบาล การจะฟ้องว่านโยบายผิดคงไม่ได้ การฟ้องศาลปกครอง ศาลก็อาจจะไม่รับฟ้อง และเรื่องนี้ไม่ได้ใช้กฎหมาย การไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวผมก็คิดว่าลำบาก แต่ต้องยอมรับว่า แนวปฏิบัติได้สร้างความเสียหาย ซึ่งเรื่องนี้จริง     ขณะนี้เรื่องการส่งออก เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้น และด้านการคลังรัฐบาลต้องใช้เงินเยอะมาก ปีละ 3 แสนล้านบาท เพื่อจำนำข้าวทุกเมล็ด ซึ่งปีหน้าจะใช้เงินมากกว่านี้อีก ปีใหม่นี้อีก 3 แสนล้าน น่าจะขาดทุนแสนกว่าล้าน ถามว่าเกษตรกรได้เงินไปจริงเท่าไร ได้ไปตรงๆ นี้ 5 หมื่นล้านต้นๆ แต่ขาดทุนแสนกว่าล้าน หมายความว่าเงินที่เหลืออีก 5 หมื่นล้าน สูญหาย สูญเสีย ซึ่งจริงๆ แล้วก็รู้กันอยู่ว่ามันหายไปไหน     เอาเฉพาะเกษตรกรได้ส่วนต่างราคาไป 5 หมื่นล้านบาท ถ้าเอาไปโปรยให้ถึงบ้านเกษตรกรด้วยเฮลิคอปเตอร์ แล้วรัฐจ่ายค่าน้ำมันเฮลิคอปเตอร์ ยังได้ทั่วถึงกว่า แต่นี่คุณต้องจ้างโรงสีเก็บข้าว สีข้าว มีค่ากระสอบ มีต้นทุนก้อนใหญ่ที่ต้องจ่ายมากกว่าโรงสีทำธุรกิจปกติด้วยซ้ำ เดิมโรงสีเคยได้ตันละ 500-600 บาทก็มีกำไร แต่มาทำกับรัฐบาลได้ตันละ 700-800 บาท นี่ไม่โกงนะ เพราะฉะนั้น ยังไม่รวมส่วนรั่วไหลซึ่งมีอีก ผมคิดว่าแพงเป็นบ้า ยังไงรัฐบาลไม่มีโรงสี ไม่มีโกดัง ไม่มีเซอร์เวเยอร์ ก็ต้องจ้างทั้งหมด และต้องจ้างกระทรวงเกษตรไปจดทะเบียน จ้าง อตก. อคส. ไปเฝ้าโกดังอีก จ้างหมดทุกอย่าง เงินภาษีประชาชน เม็ดเงินทั้งหมดจึงตกกับเกษตรกรแค่ 5-6 หมื่นบาท @ ประเมินผลขาดทุนของโครงการจำนำข้าวมากน้อยแค่ไหน     ส่วนขาดทุนเราคำนวณว่าถ้ารัฐบาลขายข้าวได้เท่ากับที่รัฐบาลเปิดประมูลครั้งล่าสุด ซึ่งใกล้เคียงกับราคาตลาด ยังขาดทุน 1.1 แสนล้าน เท่ากับว่าถ้าขายข้าวหมดสต็อคในเดือน ก.ย.นี้ ไม่เก็บสต็อคเลย ยังขาดทุน 1.1 แสนล้าน เป็นเงินที่จ่ายให้เกษตรกร 5-6 หมื่นล้าน ที่เหลือคือจ่ายให้โรงสีทุกอย่าง ที่เหลือคือข้าวเสื่อมราคา ค่ารมควันยา ค่าใช้จ่ายสารพัด ไม่รวมถึงค่าดอกเบี้ยให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ซึ่งมีต้นทุนทางการเงิน ตอนนี้กู้มาปีหนึ่งยังไม่มีเงินใช้คืน รวมๆ แล้วอีก 4 หมื่นกว่าล้าน สูญเปล่า แล้วเอาเงินไปแจกโรงสีต่างๆ จนได้กำไรมากกว่าปกติด้วย นี่ไม่โกงนะ     เสียหายอันดับสอง คือส่งออกตาย เห็นชัด เพราะรัฐบาลไม่มีปัญญาขายข้าวได้หมด ขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จนแล้วจนรอด ถามว่าขายได้กี่แสนตัน น้อยมาก ที่บอกว่าเซ็น  MOU ได้จำนวนมาก 4 สัญญา ก็ไม่เคยมีการเปิดเผยสัญญา และตัวเลขที่พยากรณ์ก็รู้ว่าคงไม่ได้ขายปีนี้หรอก เพราะตัวเลขจากกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา เขาก็คำนวณออกมา บอกให้เรารู้ว่ารัฐบาลต่างประเทศที่ซื้อจีทูจี ปีที่ผ่านมาเขาซื้อข้าวไปหมดแล้ว ถ้าเราจะขายได้ก็ปีหน้าไม่ใช่ปีนี้ MOU นี่หลายครั้งไม่มีความหมาย เพราะถึงเวลาไม่ซื้อก็ได้ ไม่ได้เป็นข้อผูกพันทางการค้า     แล้วถามว่ารัฐบาลมีหน้าที่ต้องขายข้าวหรือไม่ ต้องมาถกเถียงกัน รัฐบาลขายเก่งกว่าเอกชนหรือไม่ แล้วสร้างความเสียหายหรือไม่ ตอนนี้ปรากฏว่าผู้ส่งออกไม่มีธุรกิจในประเทศไทย "หยง" ไม่มีธุรกิจในประเทศไทย ต้องเลิกอาชีพ สร้างความเสียหายในอุตสาหกรรมข้าวแล้ว     สองคือเก็บข้าวหอมมะลิ ข้าวนึ่ง ในโกดัง ข้าวนึ่งในกติกา คือซื้อข้าวเปลือกใน 7 วันต้องสีเป็นข้าวสาร ปกติขายได้ในราคาสูงกว่าข้าวขาว 50-55 เหรียญ แล้วรัฐบาลจำนำทุกเมล็ด ก็ไม่มีข้าวขาย รัฐบาลพูดว่าอยากดึงราคาส่งออกให้สูงขึ้น แต่รัฐบาลทำลาย ข้าวขาวเราขาดทุนแล้วเราขายสู้เวียดนามไม่ได้ เรากลับมาทำข้าวนึ่ง ขายตะวันออกกลางกำไรมาก แต่เรามาทำลายอันนี้ ตกลงรัฐบาลปากพูดอย่าง แต่การกระทำอีกอย่าง     ข้าวหอมมะลิ เราขายราคาดีมาก เกือบไม่มีคู่แข่ง มีแค่ข้าวบาสมาติ แต่เป็นคนละตลาดกับเรา หอมมะลิเราขาย 1,000 กว่าเหรียญต่อตัน แต่เราเก็บข้าวไว้ในโกดัง ทั้งๆ ที่ข้าวเราขายดีเป็นข้าวใหม่ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ผู้ซื้อจากฮ่องกงต้องการข้าวใหม่ เอาไปทำโจ๊ก เวลาสีได้ปลายข้าว จะเก็บในห้องเย็นอย่างดี เพื่อรักษาความหอมเอาไว้ เราได้นาทีทองตอนต้นฤดูประมาณ ธ.ค. หรือ ม.ค. เขาจะมาแย่งซื้อของดี แต่รัฐบาลเก็บไว้ในคลังไม่ขาย ทั้งข้าวสารและปลายข้าว ตกลงคุณเสียตลาดข้าวคุณภาพสูงอีกแล้ว ข้าวนึ่งเราเปิดโอกาสให้เวียดนามเข้ามาได้ ตกลงเราเอาภาษีคนไทยไปช่วยคู่แข่งให้ส่งออกได้ @ ราคาข้าวในตลาดสูงขึ้นอย่างที่รัฐบาลต้องการหรือไม่     ราคาจริงๆสูงขึ้น แต่สงสัยว่าทำไมไม่สูงกว่านี้ จริงๆ การมีโครงการทำให้ราคาสูงขึ้น จำนำตันละ 15,000 บาท ขายจริงได้ 14,000 บาท เพราะหักค่าความชื้นต่างๆ ส่วนนาปรังผลผลิต 100 กว่าเปอร์เซนต์ของปริมาณคาดคะเน ก็เข้าโครงการหมด เท่ากับว่าทุกเมล็ดเข้าโครงการจำนำ แต่คำถามคือข้าวนอกโครงการราคายังอยู่แค่ 10,000 บาทต้นๆ ไม่เป็น 14,000 บาท ข้าวสาร 5 กิโล 100 บาทยังซื้อได้ ทำไมเกิดขึ้นเช่นนี้     เพราะถ้าเอาราคาจำนำ 15,000 บาท เป็นตัวตั้งต้นทุนข้าวจะต้องอยู่ที่ราคา 800 เหรียญ เมื่อทอนมาเป็นราคาข้าวสารต่อกิโลกรัม ต้นทุนอยู่ที่ 24 บาท เวลาที่ขายส่งต้องตั้งราคาอย่างน้อย 25 บาทขึ้นไป ราคาขายปลีกก็ต้องไปถึง 30 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้น ข้าว 5 กิโลกรัม ควรต้องอยู่ที่ 150 บาท แต่ตอนนี้ตลาดขายแค่ 100 บาทเท่านั้น ถามว่าทำไมมันไม่ขึ้นไป แสดงว่ามีการแอบเอาข้าวรัฐบาลออกมาขาย รัฐบาลบอกไม่มี แต่โรงสีที่เป็นคลังข้าวรัฐบาลบอกมีการขายให้โรงสี เช่น ข้าวในภาคใต้ไม่เพียงพอ ก็มีการซื้อจากสต็อคในราคา 16 บาทกว่าๆ รัฐขาดทุนใช่หรือไม่ แสดงว่าที่ข้าวราคาไม่สูงมาก ต้องมีความไม่ชอบมาพากลใช่หรือไม่     เรื่องนี้จับไม่ได้ เพราะข้อมูลสต็อคถูกเก็บเป็นความลับ เมื่อมีการทุจริต รัฐบาลจะทำงานอย่างนี้ จะให้สต็อคเป็นความลับไม่ได้ การที่ข้าราชการเก็บข้อมูลเป็นความลับ มันเอื้อให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่น โดยจับคนเข้าคุกไม่ได้ แล้วรัฐบาลไม่เปิดเผยอีก รายได้ก็เท่านี้ ราคาก็เท่านี้ @ ผลกระทบที่เกิดขึ้นรุนแรงแค่ไหน     การจำนำข้าวนาปรังตอนแรก มีการขอขยายปริมาณรับจำนำ 2.2 ล้านตัน แต่ล่าสุดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บอกขอเพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านตัน ถามว่ามาจากไหน ไม่ได้มาจากเรื่องน้ำท่วมแน่ เป็นข้อแก้ตัว เพราะท่วมมาตั้งนานแล้ว     ส่วนหนึ่งเพราะเกษตรกรรู้แล้วว่ารัฐบาลจำนำทุกเมล็ด สิ่งที่เกษตรกรทำก็คือ ไม่ได้มีแค่นาปี นาปรัง เพราะประเทศไทยปลูกข้าว เกี่ยวข้าวทุกเดือน ที่ใดที่มีน้ำจะมีการปลูกข้าวและเกี่ยวข้าวได้ทุกเดือน เพราะข้าวไม่ไวแสง และใช้ข้าวอายุสั้นที่มีคุณภาพต่ำ เกษตรกรก็แห่กันปลูก เห็นชัดเจนว่าเป็นการลดพื้นที่ปลูกอ้อยและพืชอื่นๆ ลง แล้วไม่ได้ขายตลาด แต่ขายให้รัฐบาล ตกลงเราก็จะปลูกข้าวไว้ไม่ขาย แต่เก็บในสต็อค ใช้เงินแสนกว่าล้านบาท สร้างรถไฟใต้ดิน 2 สาย หายไปเฉยๆ นี่คือความเสียหายหรือไม่ คือการถลุงทรัพยากรโดยสิ้นเชิง สูญเสียพื้นที่ปลูกอ้อย ฯลฯ เพราะต้องเอาน้ำไปปลูกข้าวที่ไม่มีค่า ไม่ได้ขาย ขายก็ต้องขายถูกๆ คุณภาพต่ำลงด้วย เอาที่ดิน น้ำ แรงงาน มากเกินไปจนไม่จำเป็น และไม่ขายด้วย     เสร็จแล้วที่หนักมากๆ คือเกษตรกรเริ่มปลูกข้าวอายุสั้น คุณภาพต่ำ ทั้งที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จมาตั้งแต่เริ่มทำสนธิสัญญาเบาริ่ง ค.ศ.1855 เราค่อยๆสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมา สมัยก่อนเราส่งออกสู้พม่าไม่ได้ สูสีกับเวียดนาม เสร็จแล้วพอ 2 ประเทศนี้เกิดระบบคอมมิวนิสต์ขึ้น ฆ่าตัวเอง บังคับให้เกษตรกรนำข้าวมาขายรัฐบาล เวียดนามก็ตกเป็นคอมมิวนิสต์ เขมร ลาว เป็นคอมมิวนิสต์ ดำเนินนโยบายปิดประเทศ เพราะฉะนั้นไทยเป็นประเทศเดียวที่ส่งออก เกษตรกรของเราก็ปลูกข้าวมีคุณภาพดี ระบบโรงสีคัดเลือกข้าวมีคุณภาพ ไปประเทศต่างๆ ที่ไหนกินข้าวไม่ดีเท่าเมืองไทย เราขายได้ราคาสูงกว่าต่างประเทศ เพราะคุณภาพเราดี ซื้อจากประเทศไทย ส่งมอบได้ตรงเวลา ความสามารถในการแข่งขันอันดับหนึ่ง     ต่อไปเราจะหันมาปลูกข้าว ขายข้าว ให้รัฐบาลแต่คุณภาพต่ำ ไม่สนใจคุณภาพ เราทำลายอนาคตข้าวไทยทั้งหมด ต่อไปเกษตรกรจะปลูกข้าวห่วย คนไทยก็จะกินข้าวห่วยราคาแพง โรงสีก็จะสีให้รัฐบาล เป็นการทำลาย มีการใช้น้ำมากเกินไป เพราะเกษตรกรปลูกโดยใช้น้ำฟรี ชลประทานฟรี จริงๆไม่ฟรีเราต้องเอาเงินไปทำ เกษตรกรจะลดปลูกพืชอื่นๆ พืชอาหารอื่นๆก็จะลดลง     สองคือโรงสีจะเหลือแต่โรงสีทำธุรกิจ ปัจจุบันเรามีโรงสี 2,000 กว่าโรงที่เป็นโรงสีมืออาชีพ ขณะที่ทั้งประเทศรวมโรงสีชุมชน โรงสีขนาดเล็กด้วยมี 50,000 กว่าโรง แต่มีโรงสีเข้าโครงการนี้ไม่ถึง 1,000 โรง เพราะฉะนั้น เรามีกำลังผลิตส่วนเกิน 90 ล้านตัน เราปลูกข้าวแค่ 35 ล้าน พวกนี้ก็ต้องแข่งกัน ก็ต้องใช้เส้นสายทางการเมือง ไม่ได้อาศัยความสามารถในการแข่งขัน เวลานี้โรงสีไม่ต้องแย่ง ไม่ต้องเอาเงินตัวเองไปซื้อข้าว แต่เอาภาษีไปซื้อข้าวเก็บไว้ในยุ้งตัวเอง แล้วก็ประมูลข้าวอันเดียวกันนี้ได้ในราคาถูก ตกลงกำไรชั้นที่สอง สองเด้งแล้ว     เด้งที่สามบางคนขี้โกง ส่งข้าวเข้าคลังรัฐบาล ขาดน้ำหนัก ขาดเกินกว่าที่เงื่อนไขการส่งมอบยินยอมให้ และอาจจะมีข้าวตัวเองบางส่วนแลกกัน เอาข้าวดีไป เอาข้าวไม่ดีส่งคลัง เด้งที่สามนี้โกงประชาชนโดยตรง อันนี้ถือว่าโรงสีเก่งๆ เหลือไม่ถึง 1,000 โรง พวกไม่มีเส้นจะค้าขายต้องไปขออนุญาตนักการเมือง เช่น โรงสีถูกจำกัดเขต เพราะรัฐไม่ยอมให้โรงสีนอกจังหวัดเข้ามา มันสร้างระบบผูกขาดทางการค้า เพราะเดี๋ยวนี้เกษตรกรไม่ต้องขายโรงสีแล้ว เลิกโครงการเมื่อไรเกิดระบบผูกขาดแน่นอน กว่าจะฟื้นตัวนาน ตอนนี้ถ้าจะข้ามเขตจังหวัด ก็ต้องจ่ายคนมีอำนาจ ตกลงคุณจะเปลี่ยนระบบตลาดที่มีการแข่งขัน มาเป็นอำนาจนักการเมือง ข้าราชการจะชี้นิ้ว หยงจะหมดอาชีพ หยงคือคนให้ข้อมูลกับผู้ส่งออกและโรงสี ทำหน้าที่เวลาข้าวมา ผู้ส่งออกมีออเดอร์ ก็ส่งให้หยงหาข้าว ตอนนี้หยงหมดอาชีพแล้ว ในวงการค้าแบบที่กำไรน้อยมากและเก็งกำไรเยอะ หยงเป็นคนที่มีบทบาทมากที่สุด ในต่างประเทศเรียกอินเตอร์เนชั่นแนล เทรดเดอร์ ตอนนี้เลิกธุรกิจแล้ว นอกจากไปทำต่างประเทศ ผู้ส่งออกไม่ต้องพูดถึง หมดอาชีพแน่     ผมถามว่าเราจะเอารัฐบาล เอาข้าราชการ นั่งเครื่องบินเฟิร์สคลาสไปขายของหรือ แล้วขายจีทูจีก็ได้ราคาต่ำ จีทูจีแปลว่าราคาต่ำ เพราะโกงทั้งสองข้าง ฝั่งโน้นอยากซื้อถูก ฝั่งนี้ต้องขายผ่านนายหน้า ฝั่งโน้นก็นายหน้า เกิดอะไรขึ้นกินเปอร์เซนต์กัน แล้วราคาต่ำก็อ้างว่าเป็นความลับต่อทั้ง 2 ข้าง คือนักการเมืองทั้ง 2 ข้างจะทุจริต ทั้ง 2 ประเทศขายในราคาที่ต่ำ ตลาดมันก็เป็นอย่างนี้ ภาพอย่างนี้ ระบบแบบนี้ เห็นชัดเจนว่าทำลายอุตสาหกรรมธุรกิจ ทำลายข้าวไทยทั้งหมด อนาคตของประเทศ แล้วรัฐบาลกำลังทำอะไร @ การทบทวนนโยบายรับจำนำให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่มีโอกาสหรือไม่     ผมเชื่อว่านักการเมืองเขารู้ดี แต่นโยบายรัฐบาลเพื่อไทยอะไรที่เขาได้คะแนนเสียงมาเยอะแยะ เขาไม่เลิก และหวังว่าจะสร้างเครดิตจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่วนที่ขาดทุนนี่ ต่อไปถ้าเศรษฐกิจโต 7 เปอร์เซนต์ก็มีเงินมาชดเชยได้ ไม่มีปัญหา แต่ถ้าขาดทุนแสนล้านบาททุกปี ผมก็เกรงว่าจะนำประเทศไปสู่วิกฤต 2 วิกฤต คือ 1.วิกฤตการคลัง และ 2.วิกฤตข้าวไทย อนาคตข้าวไทยเสียหายโดยสิ้นเชิง และอยากถามว่า นี่หรือคือรัฐบาล @ มีหน่วยงานภาครัฐออกมาเตือนว่าถ้าเดินหน้าจำนำต่อไปสต็อคอาจสูงถึง 50 ล้านตัน     มันสะสมไปเรื่อย ขณะนี้ 2 ฤดู 17 ล้านข้าวเปลือก ปีต่อไปอีก 18 ล้านตัน สองก้อนรวมกัน 35 ล้านตัน เท่ากับมีข้าวเก็บไว้ 1 ปีเต็มๆ โดยไม่ขายใคร เพราะแต่เดิมประเทศไทยผลิตได้ 35 ล้านตัน เราส่งออกเกือบครึ่ง ใช้ในประเทศครึ่งๆ ส่วนเกินระบายออกได้หมด แต่ต่อไปเราเก็บไว้เองหมด ทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น เพราะคนอื่นขาย ผู้ส่งออกเขมร เวียดนาม อินเดียได้ประโยชน์ แต่กลับส่งเสริมให้ผู้ส่งออกไทยไปทำธุรกิจต่างประเทศ โรงสีดีๆ ก็ไปต่างประเทศ ในประเทศก็ต้องอาศัยเส้นสาย เราจะให้เป็นอย่างนี้หรือ ธุรกิจผูกติดกับเส้นสาย การเมืองได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง     ผมจึงเชื่อว่าการเมืองเลิกไม่ได้หรอก เพราะได้ประโยชน์เต็มๆ ยังไงก็ไม่เลิก จนกว่าจะวิกฤตไปข้างหนึ่ง ถามว่านักการเมืองที่ทำนโยบายอย่างนี้เป็นนโยบายที่ดีหรือไม่ เป็นนโยบายที่เลวที่สุด และปฏิบัติก็เลวพอกัน นี่ยังไม่พูดถึงเงินส่วนใหญ่ ไปตกอยู่กับเกษตรกรชั้นกลางและเกษตรกรที่มีฐานะ อย่าลืมว่าเรามีเกษตรกร 4 ล้านราย เข้าโครงการได้ 1 ล้านกว่ารายเท่านั้น @ 2 วิกฤตนี้มีโอกาสเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน     ตัวใหญ่ที่สุดคือการเกิดภาระหนี้สาธารณะ เพราะรัฐบาลกู้แล้วไม่ได้ขาย กระทรวงการคลังค้ำประกันให้ ธกส.กู้ และตอนนี้จะกู้ธนาคารพาณิชย์เอกชนด้วย ถ้าไม่ขายขาดทุน ก็ต้องเก็บข้าวในสต็อค ภาระต้นทุนหนักขึ้นอีก ข้าวเสื่อมคุณภาพยิ่งเก็บนานยิ่งขาดทุนหนัก เป็นหนี้หรือเปล่า เพราะกู้เงินมาซื้อข้าวเก็บไว้ในคลัง ที่คำนวณดูคือขาดทุน 1 แสนล้านคือขายหมด แต่ถ้าขายไม่หมดจะขาดทุนเพิ่มเรื่อยๆ     ดังนั้น ผมอยากให้รัฐบาลต้องฟังข้อมูลให้รอบด้าน ไม่ใช่ฟังแต่ข้อมูลที่ถูกใจ ถ้าไม่อยากฟังข้อมูลที่ไม่ถูกใจ และตรงกับข้อเท็จจริง คุณก็กำลังพาประเทศไปสู่หายนะ อย่าคิดว่าประเทศไทยวันนี้ฐานะการคลังดี ถ้าเกิดวิกฤตขึ้นมาจะทำอย่างไร เวลานี้สถานะเราต่างกับปี 2540 ซึ่งตอนนั้นภาระหนี้ยังไม่สูงมาก ตอนนี้ภาระหนี้สาธารณะเราเกิน 50% เกือบๆ60% แล้ว ถ้ารวมหนี้ที่โอนไปให้แบงก์ชาติด้วย แล้วขณะนี้รัฐบาลจะกู้อีกมาทำโครงสร้างพื้นฐานจนเต็มเพดาน ถึงวันนั้นจะไม่มีโอกาสแล้ว ผมกลัวเราจะเหมือนกรีซ วันที่เปิดเผยข้อมูลออกมา ต่างชาติอาจหมดความเชื่อถือรัฐบาลไทย @ ทีดีอาร์ไอมองว่า “สต็อคลม” มีหรือไม่     อย่างที่บอกว่าราคาข้าวในประเทศควรอยู่ที่ 140 บาทต่อถุง แต่ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะอาจมีการแอบนำข้าวออกมาขาย จะเรียกว่า “สต็อคลม” หรือไม่ก็ได้ แล้วเราไม่รู้ว่าเท่าไร เพราะเขาไม่เปิดเผยข้อมูลสต็อค อันนี้จึงเป็นแหล่งที่มาของการทุจริต     อยากเรียกร้องให้ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยข้อมูล ไม่เช่นนั้นคุณจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำทุจริตคอร์รัปชั่น ผมถือว่าคุณเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำทุจริต แม้เงินจะไม่เข้ากระเป๋าคุณ ต้องพูดดังๆเลย ให้รู้ว่าตัวเองเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนะครับ คุณมีหน้าที่จับทุจริต ไม่โกงภาษีประชาชน เห็นคนทุจริตต้องเปิดเผยและไม่ร่วมมือกับคนอื่นๆ และรัฐบาลอย่าไปเชื่อข้าราชการสอพลอ คุณต้องฟังข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริต พวกนี้แหละจะทำให้รัฐบาลของคุณยั่งยืน .............................................. -ภาพประกอบจากเว็บไซต์ siamintelligence จากคุณ : ประชามีสุข เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 15:40:09 A:223.204.234.191 X:

ความคิดเห็นที่ 2 คคห.ที่ 2  เมื่อคืนรมต.บุญทรง  ไปออกรายการตอบโจทย์  เรื่องจำนำข้าว ก็ต้องฟ้งแบบรอบข้างด้วยค่ะ ...ลองหาคลิปย้อนหลังดูด้วยค่ะ จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 15:52:08 A:110.168.197.249 X:

ความคิดเห็นที่ 3 .......การทำโครงการจะจบปีหน้า หลังจาก ที่เราระบายครบถ้วนแล้ว ...... ฝ่ายคัดค้าน__ควรจะใจเย็นๆ รออีกไม่นานก็รู้ผลลัพธ์ จากคุณ : tada504 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 16:09:27 A:125.24.237.59 X:

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านการตอบคำถามของนายกยิ่งลักษณ์แล้วมีความสุข... ส่วนคำถามสุดท้าย ไม่เห็นภาพประกอบไม่รู้ว่านายกหน้าเจื่อนจริงหรือไม่ แต่ รมว.บุญทรง ตอบแทนก็เป็นเรื่องชอบแล้ว เพราะเป็นผู้ดูแลโดยตรง... จากคุณ : pae2010 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 16:43:02 A:183.89.92.68 X:

ความคิดเห็นที่ 5 555    5555 5555555   โครงการดีอิ๊บอ๋าย จากคุณ : สมดั่งฤทัย เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 16:50:06 A:125.27.9.148 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ขำที่ยกมาว่า ชาวนาจะเสียหาย มันเสียหายตรงไหนหว่า หรือเสียตรงที่ ชาวนาขายข้าวได้ราคา มากกว่า ประกันราคาถึง 30% ^_^ เกมยังไม่ทันจบ ก็สรุปผลแล้ว แบบนี้ แมนยูคงไม่ได้ ทริปเปิ้ลแชมป์แล้วล่ะ ซัดบาร์เยินร์ในนาทีสุดท้าย จากคุณ : OnTheRock@TH เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 17:00:53 A:202.91.23.4 X:

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านคำตอบนายกฯ ที่ตอบสื่อ  ก็ต้องมาอ่าน ความเห็นของ จิตกร บุษบา จาก "แนวหน้า"  ข้อเขียนของเขาใช้ข้อมูล อะไร ...มี่มาวิจารณ์นายกฯ คำถามที่สำคัญก็คือ ยิ่งลักษณ์ขาด “สมองของการเป็นผู้นำ”และต่ำด้วยจิต สำนึกด้านจริยธรรมในตำแหน่งนายกฯ ไม่สะท้อนความรู้ความสามารถด้าน การบริหารจัดการออกมา  ..... สื่อแบบนี้  ยิ่งกว่าเลือกข้างอีกนะคะ  ...คุณข้าง...ว่ายังไง จะบอกว่าเห็นด้วย  หรือเปล่า ... จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 17:07:05 A:110.168.197.249 X:

ความคิดเห็นที่ 8 """บอกด้วยการ์ตูนครับพี่สาวครับ.. จากคุณ : ข้างบูรพา เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 18:16:04 A:171.99.128.59 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ลองให้โอกาสเจ๊ปูแดงซักตั้ง  ถ้าสุดท้ายผลออกมาว่าทำให้ประเทศบรรลัย  ค่อยมาถล่มเจ๊กัน ในฐานะทำให้ประเทศเสียหาย  แล้วถ้าผลออกมาลบแล้วยังมีคนเลือกแกก็ถือว่าเป็นคราวซวยของชาติที่เอาคนไม่เอาไหนมาทำงาน  ถ้าดีก็ชมแกแล้วกันครับ จากคุณ : เชื่อเมียแล้วเจริญ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 18:30:35 A:124.120.175.228 X:

ความคิดเห็นที่ 10 การรับจำนำ ถ้าจะเรียกว่า คอรัผชั่น ผมก็อยากถามว่า - เงินที่คอรัปชั่นไป เข้ากระเป๋านายก หรือ คนใน ครม. คนไหน แปลกนะ ที่การคอรัปชั่นครั้งนี้ รัฐบาลโกงเงินให้ชาวนาได้ประโยชน์ ใครช่วยตีความคำว่า "คอรัปขั่น" ทีเถอะ ถ้ารัฐบาลจะเจ้งเพราะทำประโยชน์ในคนไทยส่วนมาก --- ผมว่า เลิกคิดถึงคำว่าเจ้ง เถอะ คิดถึงประโยชน์ของคนไทยส่วนมากบ้าง จะตายไหม จากคุณ : เฒ่าวัย 56 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 18:50:18 A:110.171.31.199 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ญี่ปุ่นเลี้ยงชาวนา ยอมขาดทุน เพื่อสามารถยังคงมีเกษตรกรผลิตอาหารเลี้ยงชนชาติ ยามสงครามล้างโลกซึ่งอาจจะมี ชาติที่ถูกลบจากแผนที่ยามนั้นคือ ชาติที่ไม่มีเกษตรกร สารขัณฑร์แลนด์ อยากเป็นเช่นนั้นหรือ จากคุณ : จำปีเดาะ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:21:18 A:58.11.141.246 X:

ความคิดเห็นที่ 12 .....". นี่ขนาดเป็นสื่ิอที่เชียร์รัฐบาลนะ...".... จกท.ไปว่าสื่อปัญญาชนอย่างมติชนแบบนั้นได้อย่างไร เดี๋ยววิญญาณสื่อกลับมา   ยุ่งเลย จากคุณ : DF เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 23:36:21 A:110.49.249.24 X:

ความคิดเห็นที่ 13 เงินเก็บภาษีหลุดเป้าแถมยังต้องเอามาใช้อุ้มชาวนาซึ่งไม่ได้เสียภาษี เหมือนรีดภาษีคนรวยไปให้คนจน บิดเบือนโครงสร้างราคาข้าวในประเทศ แล้วถ้าราคาข้าวไม่มีแนวโน้มจะขี้นในอีก 2 ปี ข้าวที่เก็บไว้ไม่กลายเป็นข้าวเก่าขายไม่ได้ราคาซ้ำรอยกรณีหอมแดงหรอกหรือ พวกที่สนับสนุนนี่มองโลกในแง่ดีเกินไป พวกคุณเองยังตอบไม่ได้เลยว่าราคาข้าวในตลาดโลกจะดีขึ้นเมื่อไหร่ ถ้ามันเป็นแบบที่เรากลัวว่าราคาจะตกต่ำไปนานประเทศเราก็เตรียมเจ๊งได้เลย จากคุณ : gummyberry (gummyberry) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 01:39:39 A:58.8.12.153 X: