ความคิดเห็นที่ 1 แชมป์ผู้ส่งข้าว ชื่อโก้ออกคุณน้ำมิตร คริ คริ จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:40:36 A:124.120.3.148 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ญี่ปุ่นเลือกอุดหนุนชาวนาครับ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลทำ จากคุณ : this is thailand เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:45:19 A:110.49.235.219 X:

ความคิดเห็นที่ 3 นักกฎหมาย-นักเศรษฐศาสตร์ มองต่างมุม "จำนำข้าว" วันที่ 03 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 17:44:42 น. นายวรากรณ์ สามโกเศศ การรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล เป็นประเด็นร้อนฉ่าขึ้นทันที หลัง นายอดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นำรายชื่ออาจารย์นิด้า อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักศึกษารวม 146 รายชื่อ  ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำวินิจฉัยยับยั้ง หรือยุติโครงการดังกล่าว   ด้วยเหตุผลรัฐบาลได้ปรับเปลี่ยนวิธีการรับซื้อและเข้ามาผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว จนทำลายกลไกการตลาด ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 43 และมาตรา 84 (1) ที่ระบุ รัฐต้องสนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบเสรีและเป็นธรรมโดยอาศัยกลไกตลาด และสนับสนุนให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และต้องไม่ประกอบกิจการที่มีลักษณะเป็นการแข่งขันกับเอกชน   ขณะที่สมาคมชาวนาไทยเห็นต่างว่าโครงการดังกล่าวประโยชน์ตกอยู่กับชาวนา จึงตั้งข้อสงสัยนักวิชาการที่ออกมาต้านมีนัยยะอะไรหรือไม่   พร้อมทำจดหมายเปิดผนึกถึงผู้คัดค้าน ขณะเดียวกันก็ยื่นจดหมายถึงรัฐบาลให้เดินหน้าโครงการต่อ   ที่ผ่านมาการจำนำข้าวมีการนำเสนอข้อมูลทั้งจากฟาก ของกลุ่มธุรกิจ กลุ่มชาวนา และนักการเมือง ทั้งมีที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย   สำรวจมุมมองในกลุ่มนักวิชาการยังเห็นต่างกันในประเด็นนี้ ในแง่มุมกฎหมาย นายปูนเทพ ศิรินุพงศ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เห็นว่าการยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่น่าจะทำได้ ศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถพิจารณาการร้องเรียนเรื่องนโยบายรัฐบาลได้ การยื่นต่อศาลปกครองน่าจะตรงกว่า เข้าใจว่าผู้ยื่นร้องน่าจะทราบดี เข้าใจว่าอาจเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อแสดงสัญลักษณ์อะไรหรือไม่   ส่วนเสียงวิจารณ์กรณีรัฐเข้ามาผูกขาด อ.ปูนเทพ เห็นว่า หากนโยบายจำนำข้าวมีเจตนาหรือพิสูจน์ได้ว่าแทรกแซงกลไกการตลาดเพื่อประโยชน์ ของประชาชน เพื่อคุ้มครองชาวนาแล้วรัฐสามารถผูกขาดได้ นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ เห็นไม่ต่างกันว่า มาตรา 43 เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของรัฐหรือเศรษฐกิจของประเทศ รัฐสามารถเข้าไปจัดระเบียบการประกอบอาชีพป้องกันการผูกขาด หรือเพื่อขจัดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน โครงการจำนำข้าวจึงทำได้เพราะไม่ได้ทำเพื่อเอากำไรเข้ารัฐบาล และทำเพื่อรักษาดุลยภาพของตลาด มาตรา 43 ยังตั้งอยู่บนความเสมอภาคตามมาตรา 30 ที่ระบุว่ามาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคล สามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ถือว่าไม่ละเมิดสิทธิประชาชน   นโยบายจำนำข้าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ชาวนา รายเล็กๆ สามารถสู้กับโรงสีข้าวและพ่อค้าข้าวราย ใหญ่ได้ ขณะที่มาตรา 84 บทนี้อยู่ในนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ออกแบบให้รัฐดำเนินการไม่ใช่ให้ศาลบังคับรัฐบาล ผู้ตัดสินนโยบายของรัฐบาลว่าดีหรือไม่คือประชาชน โดยการวิพากษ์วิจารณ์ หรือไม่เลือกเข้ามาบริหารประเทศอีก ย้อนกลับไปที่ช่องทางการยื่นร้องผ่านศาลรัฐธรรมนูญ นายวีรพัฒน์เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่น่าจะรับกรณีนี้ไว้ พิจารณาได้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 212 วรรคหนึ่ง ที่ให้สิทธิคนทั่วไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ก็สามารถร้องได้เฉพาะตัวกฎหมายที่ละเมิดสิทธิประชาชนเท่านั้น ไม่ใช่ร้องโครงการของรัฐบาล และการยื่นตามมาตรานี้ยังต้องเป็นกรณีที่ไม่อาจใช้สิทธิโดยวิธีการอื่นได้ แล้ว   บทลงโทษที่รัฐบาลดำเนินนโยบายไม่ดีต้องไปว่ากันที่รัฐสภาไม่ใช่ที่ศาล ที่ศาลจะยุ่งได้คืออะไรก็ตามที่มาจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน นายวิโรจน์ อาลี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ในเชิงสังคมว่า สิ่งที่ชาวนาได้รับจากระบบทุนนิยมเสรี คือการกดราคาข้าวเปลือกของกลุ่มนายทุนและเครือข่าย   หากกลุ่ม ชาวนามีคุณภาพชีวิตไม่ดีและยากจน การเข้าไปแทรกแซงราคาข้าวเปลือกโดยผ่านโครงการรับจำนำข้าว เท่ากับช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและให้ชาวนาได้ปลดหนี้สินได้ ส่วนตัวผมมองว่าโดยหลักการของโครงการรัฐบาลคิดมา เพื่อช่วยเหลือชาวนาอย่างแท้จริง โดยอาศัยฐานคิดและฐาน ข้อเท็จจริงที่ว่าชาวนาเป็นคนยากจน มีหนี้สิน และมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี ส่วนมุมมองเกี่ยวกับโลกทุนนิยมหรือการค้าเสรี ในแบบเดียวกับที่อดัม สมิธ เจ้าของแนวคิดเศรษฐศาสตร์ตลาดเสรี คิดเห็นว่ารัฐต้องไม่เข้าไปแทรกแซงกลไกตลาด เป็นโลกในอุดมคติเท่านั้น  ไม่มีประเทศไหนในโลกทำได้ หลายประเทศก็เข้าไปแทรกแซงสินค้าเกษตรเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร สหภาพยุโรปก็ยังใช้วิธีการนี้   ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นในมุมตรงข้าม น.ส.ภูรี สิรสุนทร อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้ข้อด้อยโครงการจำนำข้าวว่า รัฐบาลต้องทุ่มงบประมาณจำนวนมาก แต่ระหว่างกระบวนการรับจำนำมีการคอร์รัปชั่นและแทรกแซงสูง การรับซื้อข้าวในราคาสูงกว่าราคาตลาดทำให้กลไกตลาดหายไป  และเพราะขั้นตอนการรับจำนำบกพร่องทำให้ไทยเสียอันดับผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก เดิมกระบวนการซื้อ-ขาย และส่งออกข้าวมีกลไก ที่ดีอยู่แล้ว การแทรกแซงเพื่อให้เกษตรกรมีชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รัฐบาลต้องทำตั้งแต่ต้นทาง ถึงปลายทาง แต่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด หากรัฐบาลจะแก้ปัญหาของชาวนาจริงๆ อยากให้เข้าไปช่วยเรื่องเทคโนโลยีดีกว่า นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เห็นเหมือนกันว่ารัฐบาลช่วยเหลือเรื่องราคามาหลายปีแล้ว แต่เป็นการแก้ปัญหาไม่ค่อยตรงจุด   แต่ควรช่วยเรื่องการลดต้น ทุนการผลิต เน้นการพัฒนาที่ดิน การใช้ปุ๋ย น้ำและยาฆ่าแมลง ไม่เช่นนั้นก็หาวิธีเพิ่มผลผลิตและเรื่องการตลาด ส่งเสริมให้ปลูกพืชชนิดอื่น หรือเลี้ยงสัตว์ควบคู่กันไป บทบาทของรัฐควรมาทางนี้มากกว่าแทรกแซง เรื่องราคา เพราะเป็นการช่วยให้เกษตรกรช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ใช่มุ่งช่วยเฉพาะเรื่องราคาซึ่งเป็นเรื่องปลายเหตุ   โครงการ นี้ใช้เงินมากและทำให้ระบบการค้าข้าวย่อยยับ เพราะรัฐบาลแทรกแซงมากเกินไป และยังเกิดการทุจริต มีการสวมสิทธิ์นำข้าวจากประเทศอื่นมาจำนำ   ผลเสียที่เห็นชัดคือความสามารถในการส่งออก ลดลง และการตั้งราคาไว้สูงทำให้ทุกคนหันมาจำนำข้าวแล้วไม่ไถ่ถอนคืน ข้าวจึงกองอยู่ในโรงสี  มีแต่รายใหญ่ที่ได้ประโยชน์ ชาวนาตัวเล็กตัวน้อยที่ควรจะเป็นเป้าหมายของรัฐบาล กลับไม่ได้อะไรจากโครงการนี้เลย นายวรากรณ์ สามโกเศศ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เปรียบเทียบว่า ในวงเงินที่รัฐบาลทุ่มลงเท่ากัน การประกันราคาครอบคลุมถึงชาวนาได้กว้างขวางกว่า  เพราะการจำนำข้าว 1 หมื่นบาทต่อตันรัฐต้องจ่ายหมด ราคาตลาดลดลงแต่รัฐยังต้องจ่าย 1 หมื่นบาท แต่การประกันราคาจ่ายแค่ส่วนต่าง   และห่วงว่า ขณะนี้มีการนำข้าวพันธุ์จากเวียดนามที่ให้ผลผลิตเร็วแต่คุณภาพไม่ดีเข้ามา ปลูกในไทย เพราะชาวนาอยากได้เงินเร็วๆ จึงไม่อยากปลูกข้าวหอมมะลิ ที่ใช้เวลา ถึง 8 เดือน  และยังเปิดช่องให้มีการทุจริตได้ง่ายกว่า โดยการจำนำลมตั้งแต่ยังไม่มีข้าว   เมื่อก่อนวิธีจำนำข้าวไม่เห็นผลเสียมากมายเพราะไม่มี คู่แข่ง แต่โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว ปัจจุบันข่าวสารและการขนส่งสินค้าต่างๆ ทำได้อย่างรวดเร็ว การส่งพันธุ์ข้าวถึงกันทำได้ใน วันเดียว มีการแชร์ในตลาดโลก ทำให้การผูกขาดทำไม่ได้ และข้าวไม่เหมือนน้ำมัน มติชนออนไลน์   จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:47:26 A:58.8.68.86 X:

ความคิดเห็นที่ 4 นักวิชาการอาจารย์ญี่ปุ่นมันไม่ฉลาดเหมือนอาจม นิด้าครับ อีกอย่างประเทสเขาไม่มีพรรคแมงสาปและพวกสลิ่มครับ.. จากคุณ : ชอบ รักประชาธิปไตย เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:47:51 A:124.121.12.28 X:

ความคิดเห็นที่ 5 เค้ารู้ถึงคุณค่าจากทรัพยากรบุคคลของเค้าน่ะค่ะคุณน้ำมิตร... จากคุณ : ย่าแจ๊คกี้ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:49:12 A:119.42.99.36 X:

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีค่ะ น้ำมิตร ก็คิดเหมือนกับหลายๆ ท่านนะคะ รัฐบาลญีุ่ปุ่นน่าจะมองที่ประโยชน์ตอบแทนให้กับประชาชนในประเทศเขาเป็นหลัก เหมือนที่รัฐบาลไทยกำลังจะดำเนินการให้เป็นเช่นนั้น แต่สถานการณ์ในประเทศญี่ปุ่น ไม่เห็นจะดูวุ่นวายเหมือนในประเทศไทย ขณะนี้เลยค่ะ จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:51:31 A:115.87.240.164 X:

ความคิดเห็นที่ 7 เพราะญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 อำมาตย์ถูกทำลายไปหมด เพราะไฟสงคราม ที่พวกอำมาตย์ก่อขึ้นเอง จริงเท็จใช้สมองตรึกตรองเอง จึงไม่เหมือนประเทศไทย อำมาตย์มันใหญ่ จากคุณ : champman เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:53:59 A:27.55.6.22 X:

ความคิดเห็นที่ 8 เหมือนคุณchampman คะพี่น้ำคนสวย ลอกข้อสอบหน่อยน๊า555 จากคุณ : นพนครพิงค์ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:56:13 A:118.172.1.208 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ให้ลองไปกินอาหารญี่ปุ่นดู  แล้วค่อย ๆ นั่งคิด จากคุณ : kuk172 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:58:18 A:58.64.111.19 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ปัญหาของโครงการนี้คือรัฐบาลไร้ความสามารถที่จะนำข้าวไปขาย เพราะซื้อมาแพง และจำนวนมาก เลยต้องขายแพง พอขายแพงก็ขายไม่ออก เห็นคุยว่าหาเงินเข้าเก่ง ก็คิดว่าจะขายข้าวได้แพงๆ ที่ไหนได้ บ่มีไก้ สุดท้ายก็กู้เงินมาซื้อ จากคุณ : scoreboard เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:58:30 A:58.9.187.81 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ของเรา ตันละ หมื่นห้าเองนะ  ที่ญี่ปุ่น ตันละ แสนกว่าหน่อยๆเลยนะ    จะไม่ให้รวยได้ยังไง   รัฐเขาก็หนุนให้ราคาสูงๆด้วยซิ  และควบคุมการนำเข้าด้วย จากคุณ : ไม่รู้เป็นไร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:58:38 A:171.98.42.243 X:

ความคิดเห็นที่ 12 "โดยการจำนำลมตั้งแต่ยังไม่มีข้าว" เขียนเอามันหรือเอาฮา เนี้ย โรงสีไหนมันจะยอมให้จำนำลมฟะ? จากคุณ : GoSaI เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 20:59:11 A:125.24.169.80 X:

ความคิดเห็นที่ 13 คนไทยปลูกข้าว 1 ตัน ไปซื้อกล้องดิจิตัล คนไทยปลูกข้าว 1,000 ตัน ไปซื้อรถ ถ้ายกตัวอย่างมาแล้วก็ดูให้มันครบ ไม่ใช่เอามาอัางเอามัน จากคุณ : เขียนด้วยความระทดระทวย (Nanolove) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:04:44 A:49.2.6.227 X:

ความคิดเห็นที่ 14 ..ทำไมประเทศญี่ปุ่นจึงไม่แข่งขันชิงแชมป์ผู้ส่งออกข้าว? แต่บริหารจัดการให้ชาวนาญี่ปุ่นมีความเป็นอยู่ที่ดีมีฐานะดี .......คงเพราะประเทศญี่ปุ่น ไม่มี "นิด้า" ..มั้งก๊าบ!! จากคุณ : MANG BAR เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:12:08 A:171.7.222.206 X:

ความคิดเห็นที่ 15 เอามาเปรียบกันได้ยังไง ญีปุ่นเค้าส่งออกสินค้าเกษตรเป้นหลักแบบเราหรือไงครับ อยากเชียร์แบบไม่ลืมหูลืมตาก้เชียร์ไปเถอะครับ ขำคนที่โยงไปเรื่องไปเรื่องแพ้สงครามเลยไม่มีอำมาตย์อะ อิอิ จากคุณ : TuTae เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:14:18 A:115.67.193.67 X:

ความคิดเห็นที่ 16 จขกท. มองว่า  เราควรพิจาณาที่ตัวนโยบายหรือเปล่า? ถ้านโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลนั้น เป็นนโยบายที่ดีและถูกต้อง    ก็ต้องให้ดำเนินการต่อไป ส่วนที่เป็นข้อบกพร่องของนโยบาย เช่น * ถ้ามองว่าราคารับจำนำสูงไป  ต้องมาพิจารณาราคาที่เหมาะสมว่าจะปรับราคาได้อีกแค่ไหน? * ถ้ามีการทุจริต จะต้องควบคุม ลงโทษ อย่างไร เพื่อแก้ไขปัญหาในจุดนั้นๆ * ถ้าขัดต่อรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญควรมีการแก้ไขหรือมีการยกเว้นในกรณีใดบ้าง หรือถ้าพิจาณาแล้ว โครงการรับจำนำข้าวทำให้พ่อค้าำกำไรลดลง ทำให้ยอมรับไม่ได้ ประเด็นนี้ ก็คงต้องไปคุยในอีกประเด็นหนึ่ง จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:15:52 A:115.87.240.164 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ชาวนาไทยถูกกดขี่กดราคาตั้งแต่ยุคปู่ย่าตาทวดแล้ว สมัยนี้โลกเจริญขึ้น แต่คนกลุ่มที่คอยกดขี่ราคาก็ใช่เล่เหลี่ยมใช้อำนาจเงินและออกกฎระเบียบไม่ให้ชาวนาอ้าปากลืมตาได้ เพราะส่วนต่างต้นทุนและราคาขายสู่ต่างประเทศราคาห่างกันมาก จึงจำเป็นต้องออกมาต่อต้าน รัฐบาลยุคใหม่ต้องคำนึงถึงจะช่วยชาวนาเป็นหลัก ดังนั้นจึงอยากให้สังคมต้องออกมาช่วยกันเรียนรู้กฎหมายและการบริหารจัดการที่ดีให้ชาวนา ลดช่องว่างส่วยที่ว่าลง จากคุณ : kunchai129 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:18:14 A:124.122.249.88 X:

ความคิดเห็นที่ 18 #15 คนไทยถกเถียงกันมาระยะหนึ่งแล้วเรื่อง ชาวนาไทย กับ ชาวนาญี่ปุ่น ถ้าคุณTuTae มีความเห็นว่า  มันนำมาเปรียบเทียบกันไมไ่ด้ เพราะแตกต่างกัน ก็ยกเหตุผลข้อมูลมาอ้างอิง  จะได้รับทราบทั่วกัน ว่ามันเปรียบเทียบกันไมไ่ด้เพราะอะไร? ไม่เกี่ยวกับว่าเชียร์ หรือ ไม่เชียร์ จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:19:01 A:58.8.68.86 X:

ความคิดเห็นที่ 19 อุอุ ถ้ารวยแบบญี่ปุ่นจะเอาเงินไปละลายอีกกี่แสนล้านก็ทำไป นี่เห็นช้างขี้อยากขี้ตามช้าง จากคุณ : OSK29560 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:21:10 A:180.183.194.91 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าไทยไม่รวยอย่างญี่ปุ่น   ไทยจะพัฒนาอะไรไม่ได้เลยใช่ไหม? การพัฒนา ไม่ต้องมีการลงทุนหรือ? และชีวิตชาวนาไทย  ไม่ต้องมีการพัฒนาหรืออย่างไร? จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:23:35 A:115.87.240.164 X:

ความคิดเห็นที่ 21 ในประเทศญี่ปุ่น อาหารการกินมีให้เลือกหลากหลายมากๆ ประชาชนเค้าก็จ่ายตามคุณภาพสินค้านะครับ เช่นข้าวก็มีตั้งแต่ข้าวคุณภาพชั้นหนึ่งที่เป็นผลผลิตในประเทศราคาแพง เรื่อยไปจนข้าวนำเข้าราคาย่อมเยา บ้านเรายังไม่มีใครสนใจเลยครับ ว่าข้าวปลูกจากไหน พันธุ์อะไร เก็บเกี่ยวเมื่อใด ลองถามคนใกล้ๆตัวดูก็ได้ ร้อยทั้งร้อยคงไม่มีใครสนใจรายละเอียด ส่วนใหญ่คงตอบว่าข้าวมันก็เหมือนกัน จะสนทำไมกับเรื่องแหล่งผลิต กะพันธุ์ข้าว ขอให้ราคาถูก คุณภาพใช้ได้ ได้ปริมาณเยอะก็พอใจ ถ้าเราสนใจคุณภาพของที่เราบริโภคให้มากขึ้น บ้านเราจะมีสินค้าเกษตรที่คุณภาพหลากหลายขึ้น ในบ้านเราผลผลิตมีคุณภาพเดียว ผลิตพร้อมกันเยอะๆ ราคาก็ตก คงยังต้องประท้วงอย่างนี้ไปเรื่อยๆละครับ จนกว่าเราจะสนใจคุณภาพให้มากขึ้นกว่านี้ แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 55 21:39:47 แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 55 21:31:32 จากคุณ : เกลือเม็ด เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:26:09 A:110.49.249.35 X:

ความคิดเห็นที่ 22 สิ่งที่นักวิชาการบอกว่ามีการคอรัปชั่น มีการโกงในกระบวนการรับจำนำ ในเมื่อคุณรู้ว่ามีการโกงคุณก็ไปให้ข้อมูลกับ DSI หรือ ปปช สิครับ ไม่ใช่มาโจมตีนโยบาย คนโกงไม่ด่ามาด่าคนถูกโกง รู้ก็กล้าๆหน่อย ทีโจมตีรัฐบาลยังทำได้เลย กะแค่พ่อค้าโรงสีที่โกงจะกลัวอะไรครับเอาข้อมูลมาเิปิดโปงผ่านสื่อเลย คุณจะได้เป็นอัศินขี่ม้าขาวราบทุจริตคอรัปชั่น เป็นที่นับหน้าถือตาในสังคมไทย   หรือจะรอคุณชวิทย์มาเปิดโปงก่อนดี จากคุณ : ยุทธการสายลมหนาว เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:38:02 A:118.174.91.189 X:

ความคิดเห็นที่ 23 นอกจากชาวนาญี่ปุ่นมีความเป็นอยู่ดีแล้ว ยังมีศิลปะในการปลูกข้าวด้วยครับ 1. จากคุณ : Springfield เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:40:16 A:125.25.81.145 X:

ความคิดเห็นที่ 24 2. จากคุณ : Springfield เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:40:55 A:125.25.81.145 X:

ความคิดเห็นที่ 25 3. จากคุณ : Springfield เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:41:43 A:125.25.81.145 X:

ความคิดเห็นที่ 26 4. ดูใกล้ๆ จากคุณ : Springfield เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:42:23 A:125.25.81.145 X:

ความคิดเห็นที่ 27 5. ใกล้อีกนิด จากคุณ : Springfield เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:43:06 A:125.25.81.145 X:

ความคิดเห็นที่ 28 โครงการจำนำข้าวน่ะคิดเริ่มได้ดีแล้วครับ จะคอยติดตามว่าท่านนายกจะมีโครงการอะไรมาต่อยอด สนับสนุนเต็มที่ครับ จากคุณ : เกลือเม็ด เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:44:55 A:171.99.128.139 X:

ความคิดเห็นที่ 29 - แค่ปลูกข้าวกินเองยังไม่พอจะกิน - นโยบายปกป้องอาชีพชาวนาเพราะ " เป็นคนส่วนน้อย " และรัฐถือเป็น " กลุ่มอาชีพทางยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหาร " จำเป็นต้องรักษากลุ่มคนอาชีพนี้ไว้ - นโยบายผลักดันราคาคู่แข่งต่างประเทศให้มีราคาสูงกว่าข้าวในประเทศผ่านกลไกตัวแทน ช่องทางที่ผ่อนผันของ wto - เม็ดเงินที่อุดหนุนมหาศาล แต่ก็ยังน้อยนิดเมื่อเทียบกับงบประมาณของประเทศ และยุทธศาสตร์ความมั่นคง - คน " ส่วนใหญ่ " ของเขาฉลาดพอที่จะรู้ว่าอะไรควรปกป้อง และอะไรควรตัดหางปล่อยวัด บริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทุกวันนี้มาจากการที่อดีตรัฐบาลหลังสงครามโลกเลือกตัดหางปล่อยวัดบริษัทเล็ก ๆ ทิ้งไป เพราะไม่สามารถโอบอุ้มได้ทั้งหมด - คน " ส่วนใหญ่ " ของเขาหาเงินได้มากจากภาคอุตสาหกรรม ไม่ใช่เกษตร - คน " ส่วนใหญ่ " ของเขาเลือกที่จะอยู่แบบเสียสละ มากกว่าอยู่อย่างแบมือขอเงินจากรัฐ ซึ่งคือเงินภาษีของคนทั้งประเทศ อยากทำแบบญี่ปุ่น ก็กล้า ๆ กินข้าวโลละร้อยไหมละ หรือกลัวหัวหดเพราะเป็นเงินจากกระเป๋าตัวเอง อยากได้ข้อมูลมากกว่านี้ก็ไปอ่านเอาเอง ข้อมูลเก่าหน่อย แต่จะหาแบบทันสมัยให้ก็มีแต่ภาษาอังกฤษ คงไม่ว่ากัน อยากบอกว่าตั้งกระทู้เชียร์กันแบบนี้ มันมักง่ายเกินไป รักกันชอบกันเชียร์กันได้ แต่บางเรื่องเชียร์กันไม่ลืมหูลืมตา ท้ายสุดผลกรรมมันจะมาตกกับตัวเอง http://www.moc.go.th/MocCMS/fileupload/HTML/2181/japan.htm หุหุหุ จากคุณ : internetsmile เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 22:06:37 A:115.87.110.251 X:

ความคิดเห็นที่ 30 คคห.29  ตอนนี้ ผู้บริโภคก็ไม่ได้ซื้อสินค้าเกษตรในราคาถูก นะครับ  เราซื้อแพง แต่ ชาวนาขายออกมาถูกมาก   ส่วนต่างราคาอยู่ที่พ่อค้าคนกลางมากเกินไปหรือเปล่า ครับ ไม่เคยมีใครมากำหนดความพอดีของส่วนต่างนี้เลย  เหมือนดอกเบี้ยฝาก กับดอกเบี้ย กู้ในไทยก็เหมือนกัน ต่างกันมาก เมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้วครับ จากคุณ : กินลม ชมทะเล เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 22:18:52 A:58.9.6.246 X:

ความคิดเห็นที่ 31 ฮ้า..^^หรือแกล้ง^^เอาไทยไปเทียบกับญี่ปุ่นเรื่องข้าว  ประเทศเค้าจะส่งยานไปดาวพุธแล้ว เค้าเป็นประเทศอุตสาหกรรม  เค้ารักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมญี่ปุ่นต้องมีชาวนา  รัฐอุดหนุนเต็มที่ ประเทศเราเป็นประเทศเกษตรกรรม  "ในน้ำมีปลาในนามีข้าว" มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ชาวนาจนดักดาน  บริษัทผงซักฟอกซักผ้าอาทิตย์ละครั้งมันรวยอิบอ๋าย  แต่คนกินข้าววันละสามมื้อ ทำไมชาวนาไม่รวย   เพราะที่ผ่านมาต่างก็สูบเลือดชาวนา  ขณะนี้ก็เช่นกัน และทำท่าว่าจะหนัก กว่าเดิม ขนาด ดร.โกร่งก็ยังบ่น  เชียร์กันดูเหตุผลด้วยครับอย่าเชียร์ตะพึด จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 22:23:01 A:110.49.249.8 X:

ความคิดเห็นที่ 32 จาก คห #29 มีข้อสงสัยว่า  ปัจจุบันราคาข้าวสารที่คนไทยซื้อกินถูกหรือแพง  เมื่อเทียบกับราคาข้าวเปลือก ส่วนต่างราคาข้าวสาร กับ ราคาข้าวเปลือก  มันกว้างมากเกินไปหรือเปล่า?  ส่วนต่างตรงนั้นไปอยู่ในกระเป๋าใคร คนที่ได้ประโยชน์จากราคาส่วนต่างของข้าวสารกับข้าวเปลือก รับประโยชน์ไปนานแค่ไหนแล้ว วันนี้ ไทย จะปรับราคาข้าวเปลือกให้สูงขึ้นให้คนปลูกข้าวได้พอลืมตาอ้าปากได้บ้าง จะทำให้กำไรของคนขายข้าวสารลดลงไปบ้าง แต่ไม่ทำให้คนขายข้าวสารเจ๊ง มันทำไม่ได้เชียวหรือ?  เพราะอะไร? จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 22:38:44 A:115.87.240.164 X:

ความคิดเห็นที่ 33 #31 ยังสงสัยอยู่ว่า  เมื่อ ดร.โกร่ง ได้สนทนากับนายกฯ แล้ว  ทำไมจึงไม่ให้สัมภาษณ์หรือตอบคำถามอีก ชิ่งหนีนักข่าวไปโดยไว หรือ ดร.โกร่ง ลืมประเด็นอะไรไป เมื่อฟังคำชี้แจงแล้ว จึงงดให้ความเห็นเรื่องนี้อีก จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 22:40:48 A:58.8.68.86 X:

ความคิดเห็นที่ 34 สามารถเห็นต่างกับ จขกท. ได้นะคะ เพียงแต่เอาเหตุผลของท่าน  เอาแนวคิดของท่านมาแชร์กัน จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 22:42:00 A:115.87.240.164 X:

ความคิดเห็นที่ 35 เราคิดว่า นโยบายนี้ให้ทำชั่วคราว จนกว่าชาวนาจะออกจากวังวน หนี้สินได้ เพราะทุกวันนี้ ก็ดูเหมือนว่าโจทย์ของชาวนาคือต้นทุนแพง ขายข้าวก็ไม่ได้ราคา สุดท้ายไม่มีเงินจ่ายค่าปุ๋ย ค่ายา ค่า่เลี้ยงลูก ฯลฯ จึงเอาที่ไปจำนอง จากนั้นก็ หลุดจำนอง กลายเป็นลูกจ้างทำนา บนนาตัวเอง นี้คือวังวนของชาวนา ที่ควรจะหลุดจากตรงนี้ได้ ถามว่าประเทศอื่นๆ ทำไหม บอกได้เลยว่า เขาทำเหมือนกัน ยกตัวอย่างที่ extreme มากๆ คือ อเมริกา พิมพ์เงินออกมาซื้อโน้นซื้อนี้ QE1,2 และอาจ 3 ออกเงินให้ bank ยืมดอกเบี้ยถูกๆ ฯลฯ แต่เป็นการอุดหนุนนายทุนมากกว่า ที่จะลงมาถึงระดับรากหญ้าจริงๆ ของไทยเราถ้าโครงการนี้ทำสักพักหนึ่ง ให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้ ก็จะดีมากๆ ในที่สุด บางทีเราว่ายอมขาดทุนในโครงการนี้ ดีกว่าเอาเงินไปทำอย่างอื่นที่ไม่เกิดประโยชน์ในบางโครงการในอดีต แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 55 22:44:53 จากคุณ : MarvericK เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 22:44:11 A:161.200.69.154 X:

ความคิดเห็นที่ 36 มันก็แปลกแฮะ คนเรา อยากได้แต่ตำแหน่งแชมป์ แต่ไม่ต้องการให้คนทำ คนเหนื่อย คนออกแรง ได้มีโอกาสมีชีวิตที่ดีขึ้นบ้างอีกเล็กน้อย มันจะเป็นการเห็นแก่ตัว ที่มากเกินไปละม้างงง จากคุณ : sba เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 22:51:26 A:110.77.188.206 X:

ความคิดเห็นที่ 37 หลบเพราะเห็นต่างมั้ยครับ  เพรานี่คือนโยบายหลักของรัฐบาลคุยกันเกลียดหน้ากันเปล่าๆ ผมไม่ได้ดูถูกยิ่งลักษณ์  ประสบการณ์บริหารประเทศต่างกับบริษัทที่มีอำนาจเต็ม ดร.โกร่ง เพียงแค่กระตุก  เพราะกองเชียร์เสื้อแดงตามขย่มเลยขอแค่นี้  โปรดระลึกไว้รัฐบาลนี้ จะเจ๊งกับเสื้อแดง  โปรดคอยดูชม จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 23:01:46 A:110.49.249.8 X:

ความคิดเห็นที่ 38 เรื่องทั้งหมดทั้งมวลไม่มีอะไรครับ ดร.โกร่งเห็นว่าปัญหาของนโยบายจำนำข้าวคือการทุจริตที่ป้องกันแทบไม่ได้ ตัวนโยบายก็ผิดที่ให้ราคาสูงกว่าตลาด เพราะการจำนำนั้นต้องต่ำกว่า เมื่อจำนำได้ราคาสูงก็ย่อมไม่มีใครไถ่ถอน และเมื่อจำนำมาก ๆ รัฐบาลก็มีภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก ต้องหาทางขายต่อให้ได้ หากขายต่อไม่ได้ หรือขายได้ราคาต่ำกว่าจำนำ  ก็เป็นภาระด้านงบประมาณ แต่ทักษิณและรัฐบาลอาจเห็นอีกทางหนึ่ง  ก็เลยดำเนินนโยบายต่อไป ก็รอดูครับ  ว่าผลสัมฤทธิ์ของนโยบายจะเป็นอย่างไร ต้องดูที่ผลสัมฤทธิ์ อย่าลืมนะครับ  ผลงานของทักษิณ ผลงานไทยรักไทยนั้น  ผ่านมาหกปีแล้ว บุญเก่าย่อมมีวันหมด นี่แค่ผ่านปีแรกของเพื่อไทย  เหลืออีกสามปี  รัฐบาลต้องสานนโยบาย และให้ผลงานผลิดอกออกผลในอีกสามปีที่เหลือ เป็นการสร้างบุญใหม่ต่อเนื่องจากบุญเก่า ไม่ใช่กินบุญเก่าอาศัยบุญเก่าอยู่ไม่เลิก แบบประชาธิปัตย์อาศัยบุญเก่าจากการแหลและจากเกือกเผด็จการอยู่อย่างเดียว แม่นบ่ ส่วนเรื่องที่ ดร.โกร่ง ไม่พูดเรื่องนี้อีก  ก็เป็เรื่องปกติ เพราะถึงท่านจะเป็นประธานที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจนายกฯ แต่ก็คือ "ที่ปรึกษา" ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติ  เมื่อให้คำปรึกษา แนะแนวทางแล้วก็ถือว่าจบเรื่อง นายกฯจะรับคำปรึกษาไปทำหรือไม่ก็เป็นเรื่องของนายกฯ นี่คือ "มารยาทเบสิค" เท่านั้นเอง ส่วนตัวหล่อขวัญ มีความเห็นว่านโยบายนี้ดี  รัฐจะขาดทุนบ้างก็ไม่เป็นไร ปีละสามสี่หมื่นล้านก็ทำไปเหอะ เพราะเสียอย่างอื่นมากกว่านี้ยังเสียได้ ที่สำคัญ  รัฐบาลต้องมีการบริหารจัดการนโยบายให้ดี  โดยเฉพาะเรื่องทุจริต งานนี้ wait and see  ครับ จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 23:06:58 A:223.206.177.106 X:

ความคิดเห็นที่ 39 เรื่องลดต้นทุน ทำยากครับ ทำไปเดี่ยวพ่อค้าก็ส่งนักวิชาการออกมาแทรกแซงอีก ทำมั้ยนักวิชาการไทยไม่หันไปทำวิจัยจริงๆ ไม่ใช้คอยตามกระแส จากคุณ : Rajin เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 23:15:31 A:27.130.141.252 X:

ความคิดเห็นที่ 40 #35 เห็นด้วยนะคะ  คิดว่าโครงการรับจำนำข้าวนี้คงจะดำเนินการไปเพียงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อข้าวเปลือกปรับราคาขายในท้องตลาดได้ใกล้เคียงกับราคาที่รัฐบาลรับจำนำ อาจจะราคาต่ำกว่าราคารับจำนำระดับหนึ่ง เป็นราคาที่ชาวนารับได้ พ่อค้าซื้อข้าวเปลือกรับได้ และชาวนาสามารถปลดเปลื้องหนี้สินที่สะสมต้นทุนการผลิตมาช้านานลงไปได้ สามารถดำเนินชีวิตต่อได้อย่างไม่ลำบากเหมือนแต่ก่อน รัฐบาลคงจะเลิกโครงการรับจำนำข้าว ปกติการแทรกแซงราคาผลผลิตทางการเกษตร รัฐบาลก็ทำมานานแล้ว เพียงแต่สินผลผลิตทางการเกษตรอื่นมีราคาต่ำ จึงไม่คิดว่ามีผลกระทบอะไร ที่ตื่นตระหนกตกใจกับราคารับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลนี้ เพราะว่าราคาข้าวเปลือกในอดีตถูกกดราคาให้ต่ำมากเกินไป  หรือเปล่า? จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 23:18:57 A:115.87.240.164 X:

ความคิดเห็นที่ 41 #40 การจำนำข้าว  ไม่เกี่ยวกับระยะเวลาหรอกครับ หากรัฐบาลบริหารจัดการได้ผล  ราคาข้าวสูงขึ้น  สูงกว่าราคาจำนำ ไม่มีชาวนาที่ไหนมาจำนำหรอกครับ  นโยบายก็เลิกไปเอง แต่หากราคายังต่ำอยู่  ก็ต้องดำเนินนโยบายต่อไป ความจริงแล้ว  นโยบายนี้ก็เสี่ยงมากพอสมควร ไม่ใช่ชาวนาหรือประเทศเสี่ยง  แต่คือรัฐบาล ที่เขากลัว ๆ กันตอนนี้  ก็เพราะกลัวว่านโยบายจะสำเร็จ  ไม่ใช่ห่วงบ้านเมืองหรอก เพราะตั้งแต่ไทยรักไทยประกาศนโยบายก็เคยพากันหยามเหยียดไว้เยอะ แต่ก็สำเร็จมาก  จนต้องลอกเลียน คราวนี้  หากสำเร็จอีก   ก็ฝังกลับกันเลย ดร.โกร่งก็ห่วงรัฐบาล หวังดีกับรัฐบาลเท่านั้นเอง ปราชญ์ติงปราชญ์ก็ปราศการถกเถียง  มีแต่การขบคิด จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 23:27:20 A:223.206.177.106 X:

ความคิดเห็นที่ 42 จะกระตุ้นยังไงก็แล้วแต่  สิ่งสำคัญคือ  ต้องให้รากหญ้าลืมตา อ้าปากได้ ไม่ว่า ชาวนา  เกษตรกรอื่น  หรือแม้แต่ผู้มีรายได้น้อยในอาชีพอื่น ๆ แต่ถ้าจะว่ากันในประเด็นนี้ เอาสั้น ๆ  เมื่อไหร่  ชาวนา เกษตรกรไทย เปลี่ยน แปลงเป็นชนชั้นกลางได้   ประเทศเราก็จะเจริญทัดเทียมกับญี่ปุ่นได้ครับ จากคุณ : samlow เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 23:32:35 A:183.88.249.6 X:

ความคิดเห็นที่ 43 ดร.โกร่ง ดูแลทางด้านเศรษฐกิจ อาจจะมองในเรื่องการใช้จ่ายเงินของรัฐบาลด้วย เรื่องความสำเร็จของโครงการรับจำนำข้าว  จะประสพความสำเร็จได้ คือ ฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนระดับล่างได้ถูกยกระดับขึ้น สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องรอการช่วยเหลือจากภาครัฐ หรือ ไม่ต้องรอการช่วยเหลือเป็นครั้งคราวแบบรับของแจก ถ้ารัฐบาลทำให้คนระดับล่างปิรามิดมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นร่ำรวยขึ้น ประชาชนเหล่านั้นจะเป็นฐานของรัฐบาลนั้นต่อไป คงเป็นสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเกรงกลัว แปลกนะ  รัฐบาลแข็งแรง ประชาชนแข็งแรง แต่มีบางคนไม่ชอบ โครงการรับจำนำข้าว เป็นเรื่องของการเมืองที่ชัดเจนอีกเรื่องหนึ่ง จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 23:35:22 A:115.87.240.164 X:

ความคิดเห็นที่ 44 การเมืองไทย ใช้วิีธีการทำให้เข้าใจผิดในประเด็นมาตลอดประวัติศาสตร์ เมื่อเกิดเสื้อแดงขี้นมาจึงได้เข้าใจวิธีการแบบนี้ได้ดียิ่งขี้น กรณีเน้นแชมป์ส่งออกข้าว เป็นวิธีคิดที่อยู่ในระนาบเดียวกับ ลัทธิคนดี เน้นคนดีเท่านั้นที่ควรอยู่ในการเมืองไทย ทั้ง ๆ ที่ในความจริง ไม่เคยมีคนดีจริงอยู่ในวงการเมืองไทยสักคนเดียว เพราะต่างมีดี มีเลวด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่มีใครดี 100 เปอร์เซนต์ เป็นไปไม่ได้เพราะตอนขี้ ก็ยังเห็นว่าล้างตูดกันทุกคน คนเรามันก็พัวพันกับของสกปรกกันแทบทุกวัน(เผื่อไว้สำหรับวันที่ขรี้ไม่ออกบ้าง) ทุกคน! จากคุณ : แจ้มจันทร์ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 01:14:07 A:49.48.108.102 X:

ความคิดเห็นที่ 45 เอางบประมาณไปลงในการพัฒนาชาวนาไทยให้มีคุณภาพจะดีกว่าไหม อาจจะเห็นผลช้าแต่ยั่งยืน พัฒนาการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มคุณภาพและผลผลิตต่อไร่ รัฐบาลทำได้ในหลาย ๆ ทาง ดีกว่าเอางบประมาณไปประกัน หรือ จำนำ ซึ่งไม่ยั่งยืน พอจะเทียบได้กับการอุดหนุนราคาก๊าซและน้ำมันของรัฐบาล มันไม่ยั่งยืนเหมือนโฆษณาทีวีของรัฐที่จะต้องกำจัดดินพอกหางหมูในวันหนึ่ง ที่ทำ ๆ กันทั้งประกัน ทั้งจำนำ ก็หวังได้เสียงจากชาวนาเพิ่มก็เท่านั้น จากคุณ : kareyong เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 02:27:57 A:171.96.56.174 X:

ความคิดเห็นที่ 46 #45 คุณคงไม่รู้จักประโยค classic ของเคนส์ ที่ว่า In the long run, we are all dead !! #41 ครั้งนี้ เราเห็นต่างกับ คุณตระกองขวัญ นิดนึง กลัวแต่เป็นเรืื่องขัดผลประโยชน์กันเองภายในของรัฐบาล เพราะ ดร.โกร่ง แก มักมี hidden agenda อยู่บ่อยๆ ไม่ได้ดั่งใจแล้วฟาดงวงฟาดงา :p แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 55 07:22:20 จากคุณ : อรุโณทัย เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 07:18:02 A:124.120.53.125 X:

ความคิดเห็นที่ 47 คห. 45 ครับ ผมคิดว่าการพัฒนาเทคโนโลยี การเพิ่มปริมาณผลผลิต ก็ควรสนับสนุนครับ ไม่ใช่จะให้ทำเรื่องนี้แล้วยกเลิกโครงการพยุงราคาสินค้าไปเลย โครงการระยะสั้นและระยะยาวต้องทำควบคู่กันไม่ใช่ทิ้งอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าหน่วยงานวิชาการที่ทำหน้าที่นี้่ต้องมีอยู่แล้วและคงทำงานกันอยู่ตลอด พัฒนาระยะยาวดีแน่ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องให้ชาวนาตอนนี้อยู่ได้ด้วยครับ จากคุณ : แยกเจ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 09:23:50 A:146.23.250.105 X:

ความคิดเห็นที่ 48 ขอแจมหน่อยครับ เห็นมีใครบอกข้าวญี่ปุ่นตันละแสนกว่าบาท อันนั้นเด็ก ๆ ครับ ตอนนี้คนไทย ทำข้าวหอมมะลิไทย ที่ได้รับการยกย่องว่าคุณภาพดีที่สุดในโลกตันละ 1,250,000 แล้วครับ โดยสร้างนวัตกรรมใหม่ นำข้าวหอมมะลิไปทำเป็นแป้งพัฟ แป้งขายตลับละ 1,250 บาท แป้ง  1 ตลับใช้ข้าวหอมมะลื 1 กก. คนไทนคนนี้เธอชื่อ ยุวดี  บุญครอง เป็นประธานบริษัท ไทยโปรดักส์อินเวชั่น จำกัด ครับ ผมอยากให้คนไทยช่วยกันคิด สร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับข้าวหอมมะลิ  เพราะนอกจากจะได้ราคาดีแล้ว ยังสร้างแบรนด์สินค้าไทยให้มีชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วยครับ http://www.dailynews.co.th/society/21973 จากคุณ : miraclec เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 10:45:47 A:171.7.215.98 X:

ความคิดเห็นที่ 49 คนไทยปลูกข้าว 1 ตัน ไปซื้อกล้องดิจิตัล คนไทยปลูกข้าว 1,000 ตัน ไปซื้อรถ ลืมไปอีกอย่าง คนไทยปลูกข้าว 2,000 ตัน ไปซื้อ GT 200 แต่ไม่มีใครพูดหรือทักท้วงเลย จากคุณ : spsa1000 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 15:26:31 A:27.55.4.16 X: