ตะลึง!! เศียรหัก ฟ้าผ่ายักษ์วัดอรุณฯ เศียรหัก ...
|
|
ตะลึง!! ฟ้าผ่าเศียรยักษ์วัดอรุณฯหัก
คมชัดลึก 19 ตุลาคม 2555
******************
'สุกุมล' รุดตรวจสอบ สั่งกรมศิลป์ เร่งซ่อมให้แล้วเสร็จก่อน 31 ต.ค.นี้ เตรียมของบฯ 130 ล้าน บูรณะพระปรางค์ครั้งใหญ่ ด้าน'อธิบดีกรมศิลป์' ชี้เป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ลางร้าย
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2555 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่วัดอรุณราชวราราม พระอารามหลวงชั้นเอก นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) พร้อมด้วยนายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการบูรณะคอม้า ประกอบพระปรางค์บริวารที่โค่นลงมา ภายในพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม
โดยนางสุกุมล กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า ตนได้รับรายงานจากทางวัดอรุณฯ ว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักมีเหตุฟ้าผ่าลงมาที่ยอดพระปรางค์องค์เล็กด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เศียรยักษ์ที่ประดับอยู่ด้านบนหักหล่นลงมาเกิดความเสียหาย เบื้องต้นจึงได้สั่งการให้กรมศิลปากรเร่งบูรณะอย่างเร่งด่วน คาดว่าภายในวันที่ 31 ต.ค.นี้ จะแล้วเสร็จ
"อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการบูรณะคอม้าพระปรางค์องค์เล็กที่เกิดหักหล่นลงมาก่อนหน้านี้นั้น ได้ดำเนินการบูรณะเสร็จแล้ว คาดว่า ในช่วงปลายเดือนตุลาคม นี้ กรมศิลปากร จะนำนั่งร้านออก เพื่อปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามเช่นเดิม" นางสุกุมล กล่าว นางสุกุมล กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการดำเนินการบูรณะวัดอรุณฯ นั้นได้ดำเนินการจัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยจะดำเนินการบูรณะตั้งแต่ปี 2556-2558 โดยในปีงบประมาณ 2556 นี้ สำนักโบราณคดี ได้ทำแผนเสนอของบประมาณกลาง 39.7 ล้านบาท เพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ในการบูรณะพระปรางค์องค์เล็ก จำนวน 2 องค์ และมณฑปรายอีก 2 องค์ ซึ่งทรุดโทรมมาก ส่วนของการบูรณะพระปรางค์ประธานหรือพระปรางค์องค์ใหญ่ และภูมิทัศน์โดยรอบ จะดำเนินการบูรณะตั้งแต่ปี 2557-2558 โดยจะใช้งบประมาณของกรมศิลปากรจำนวน 90.3 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 130 ล้านบาท
นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จากการตรวจสอบการดำเนินการบูรณะคอม้าที่โค่นหักลงมาก่อนหน้านี้ พบว่า ได้บูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงนั่งร้าน ซึ่งทางคณะช่างจะดำเนินการถอดออกภายในสัปดาห์หน้า เนื่องจากจะมีพิธีซ้อมใหญ่พระราชพิธีกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค
ส่วนที่มีเศียรยักษ์หักลงมาอีก คิดว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ ไม่อยากให้คิดเป็นเหตุการณ์ไม่ดีหรือลางร้าย ที่สำคัญยังถือว่าโชคดีที่อุบัติเหตุดังกล่าวไม่เกิดขึ้นกับประชาชน หรือนักท่องเที่ยว เพราะจะเกิดความสูญเสียถึงชีวิตอย่างแน่นนอน ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการการโยงสายล่อฟ้าให้นำลงดินให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าตกใจเช่นนี้ขึ้นอีก
นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผอ.สำนักโบราณคดี กรมศิลปากร กล่าวว่า สาเหตุของการที่เศียรยักษ์หล่นลงมา เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝนตกหนัก จึงทำให้กระแสไฟวิ่งสู่สายล่อฟ้า ซึ่งพาดอยู่ตรงเศียรยักษ์ที่ปรางค์บริวาร และเกิดการระเบิดขึ้นทำให้เศียรยักษ์กระเด็นหล่นลงมา โดยการบูรณะนั้นจะต้องมีการเจาะเดือย ทั้งด้านเศียรและคอยักษ์ เข้าด้วยกัน และเสริมความมั่นคงด้วยการฉาบปูน ประสานให้ติดกลับไปเป็นเหมือนเดิม คาดว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ต.ค.นี้
จากคุณ |
:
พิจารณ์รัฐกิจ
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ต.ค. 55 16:14:45
A:202.90.6.36 X:
|
|
|
|