คุก 2 เสื้อแดง 9 ปี 4 เดือน คดีฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน-พกระเบิด
|
|
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุก 2 เสื้อแดง 9 ปี 4 เดือน คดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พกพาระเบิดไปในที่สาธารณะ และรับของโจร....
วันที่ 31 ต.ค.55 ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา เวลา 09.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายประสงค์ มณีอินทร์ และนายโกวิทย์ แย้มประเสริฐ แนวร่วม นปช. เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฐานร่วมกันลักทรัพย์ด้วยการทำลายสิ่งกีดกั้น ฐานมีวัตถุระเบิด ฐานมีวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธไปในที่สาธารณะ
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค.53 จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันชุมนุมตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และมั่วสุม ขณะที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยจำเลยที่ 1 ขับรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียน ปว 2816 กรุงเทพมหานคร โดยจำเลยที่ 2 นั่งไปด้วย เข้าไปในเส้นทางถนนเพชรบุรี ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จำเลยทั้งสองร่วมกันมีวัตถุระเบิดและเครื่องวิทยุคมนาคมชนิดมือถือโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาวัตถุระเบิดและอาวุธต่างๆ ไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันสมควร ก่อเหตุงัดประตูร้านค้าเซเว่นอีเลฟเว่น ลักทรัพย์ไปรวม 60 รายการ รวมมูลค่า 38,251 บาท เหตุเกิดที่แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน และแขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม.
คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.54 พิพากษาจำคุกจำเลยทั้งสอง เป็นเวลา 11 ปี 8 เดือน ปรับ 6,100 บาท และให้ริบของกลาง จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เจ้าหน้าที่ทหาร ที่ตรวจพบของกลางเป็นเจ้าพนักงานรัฐ ไม่มีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน ทั้งจำเลยไม่มีพยานนำสืบได้ว่า เจ้าหน้าที่ทหารที่จับกุมเป็นผู้เข้าร่วมทำร้ายคนเสื้อแดงตามที่จำเลยอ้าง รวมถึงวิทยุสื่อสาร และวัตถุระเบิดศาลอุทธรณ์จำเลย ไม่มีพยานหลักฐานหักล้างพยานโจทก์ได้
ส่วนประเด็น ที่ห้ามใช้เส้นทางตามที่กำหนด ห้ามชุมนุม แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสอง ขับรถยนต์ออกจากที่ชุมนุมเพื่อเดินทางกลับบ้าน จึงไม่มีความผิดตามข้อประกาศข้อห้ามใช้เส้นทางบริเวณที่ชุมนุม ส่วนข้อหาลักทรัพย์นั้น ฝ่ายโจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบิกความว่า ตรวจพบ เหล้า บุหรี่ บัตรเติมเงิน และอีกหลายรายการ แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยทั้งสองเข้าไปลักทรัพย์ จึงไม่เพียงพอ ที่จะลงโทษจำเลยทั้งสองฐานลักทรัพย์ แต่จำเลยครอบครองทรัพย์สินของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ผู้เสียหายไว้ จึงมีความผิดฐานรับของโจร ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ จากความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ เป็นร่วมกันรับของโจร ลงโทษจำคุกคนละ 3 ปี ยกฟ้องข้อหาร่วมกันใช้ยานพาหนะฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ เข้าไปในสถานที่หวงห้าม ส่วนข้อหาอื่นให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น รวมโทษจำคุกจำเลยทั้งสอง เป็นเวลา 9 ปี 4 เดือน ปรับ 6,100 บาท
http://m.thairath.co.th/content/pol/302676
| จากคุณ |
:
Teenhunter  
|
| เขียนเมื่อ |
:
31 ต.ค. 55 16:31:29
A:182.53.193.212 X:
|
|
|
|
