ความคิดเห็นที่ 1 พล.อ. เปรม เป็นนายกคนเดียวที่ยุบสภา เป็นว่าเล่น เพราะ เขา แน่นอน จะได้กลับมาเป็นนายกฯ แบบ ไม่ต้องหาเสียงอีก ว่าแต่ว่า พรรคแมงสาปใช่ไหม ที่มีเสียงข้างมากใน สภา แต่แทนที่จะให้ หัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ กลับ เอาตำแหน่งไปประเคน ทหาร ซะงั้น นี่หรือ พรรคที่เป็นประชาธิปไตย ยึดมั่นในระบอบรัฐสภา ผมว่า มันเป็นพรรคที่ยึดมั่นในระบอบทหาร มากกว่า จากคุณ : โบกกรัก เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 55 12:32:45 A:180.183.133.141 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ปชป. พูดเก่งน่ะ แต่ไม่ใช่ พูดดี แต่พอมีคนชมว่า พูดดี ก็เลยคิดแต่จะเอา ชนะ ด้วย การ พูดๆๆๆ และยิ่ง ผิดซ้ำซาก เมื่อจะเอาสภา เป็นที่ พูด..... การพูดดี คือ การพูด ความจริง ถูกที่ ถูกเวลา ต่างหาก ไม่ต้องพูดมาก เพราะการพูดมาก ทำให้ขาดการฟัง ไม่เป็นผู้ฟังที่ดี ก็ ทำให้ขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง. จากคุณ : แผ่นดิน ผู้ชี้ ขุมทรัพย์ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 55 12:53:25 A:203.45.43.65 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่าเรื่องนี้พวกเหล่าแมลงสาป คงอ่านเกมส์ออก พอสมควร ว่านายกมีจุดด้อยในเรืองการพูด การชี้แจง ไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง เลยคิดจะใช้วิธีอภิปราย แบบยอกย้อน วนวน  เล่นลิ้นสไตล์เหล่าแมลงสาป เพื่อให้นายกใช้คําพูดมัดคอตัวเองมากกว่า ว่ากันด้วยหลักฐานการทุจริต หรือ บริหารงานผิดพลาด จากคุณ : ซอยยุงชุม (Moodle) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 55 12:56:08 A:118.173.6.74 X:

ความคิดเห็นที่ 4 วัน เวลา ที่แตกต่างกัน สถานการณ์ทางการเมือง ทางสังคม ไม่เหมือนกัน วันที่ป๋าเปรมเป็นนายกฯ....ประเทศต้องการความ"มั่นคง"ระดับใด?   วันนี้มีโพลมาฝาก...จากมติชนออนไลน์ โพลชี้ ปชช.ส่วนใหญ่66.36%อยากให้ซักฟอกนายกฯและรัฐมนตรีรายกระทรวง ปมทุจริตฮอตสุด “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต  ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี “การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ” จำนวน 1,242 คน ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม- 2 พฤศจิกายน 2555 เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมทางการเมือง และแสวงหาฐานข้อมูลด้านความคิดห็นของประชาชน สรุปผลดังนี้     1.  ประชาชนคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ฝ่ายค้านควรจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ อันดับ 1 ถึงเวลาแล้ว 50.20%เพราะ   จากที่รัฐบาลบริหารบ้านเมืองมาได้พอสมควร พบว่ามีปัญหาอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะการทุจริตคอร์รัปชั่น การอภิปรายครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้ซักฟอกและรัฐบาลได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจมากขึ้น  ฯลฯ อันดับ 2 ยังไม่ถึงเวลา 25.31%เพราะ   สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ยังวุ่นวายอยู่ การอภิปรายครั้งนี้อาจทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น ควรรอดูไปก่อน ฯลฯ อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 24.49%เพราะ   รัฐบาลเพิ่งปรับครม.ได้ไม่กี่วัน เป็นเกมการเมืองที่อาศัยช่วงจังหวะเวลาในการแย่งชิงความได้เปรียบเสียเปรียบกัน ฯลฯ     2.   เรื่องที่ประชาชนต้องการให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ อันดับ 1 การทุจริตคอร์รัปชั่นโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวและงบประมาณในการแก้ปัญหาน้ำท่วม 39.17% อันดับ 2 การพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน  ค่าครองชีพสูง สินค้าแพง  25.21% อันดับ 3 ผลการดำเนินงานและการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประเทศ 20.14% อันดับ 4 พฤติกรรมของนักการเมือง การตรวจสอบการทำงานของนักการเมือง 15.48%   3.  ประชาชนคิดว่าควรยื่นอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายกระทรวง หรือ ยื่นอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว อันดับ 1 ทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายกระทรวง 66.36%เพราะ   ทั้ง 2 ตำแหน่งต่างก็มีความสำคัญต่อการบริหารและพัฒนาประเทศ จึงอยากฟังทั้งนายกฯและรมต.ขึ้นมาชี้แจงด้วยตนเอง ฯลฯ อันดับ 2 รัฐมนตรีเป็นรายกระทรวง 22.74%เพราะ   แต่ละกระทรวงมีผลงานที่แตกต่างกัน ตัวรมต.เองมีความเข้าใจและรู้จักกระทรวงของตนเองดีที่สุด ฯลฯ อันดับ 3 นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว 10.90%เพราะ   เป็นผู้นำรัฐบาลที่มีอำนาจในการบริหารและตัดสินใจ มีหน้าที่รับผิดชอบในทุกเรื่องของรัฐบาล นายกฯควรออกมาชี้แจงให้ประชาชนได้รับรู้ด้วยตนเอง ฯลฯ      http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351911411&grpid=00&catid=&subcatid=   อ่านผลโพลแล้วต่อยอดความคิดเอาเอง ไม่ขอแสดง"พฤติกรรม"พูดเอาดีใส่พวกเดียวกัน ไม่ขอ"อวดตัว"ว่า แก่ และ เก่ง กว่าคนอื่น ไม่ขอวิจารณ์การ"จับแพะ ชนแกะ"เพื่อเอื้ออวย พวกเดียวกัน ไม่บังอาจ.... อิอิอิอิ     จากคุณ : ตระการฟ้า ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 55 15:31:25 A:110.168.135.2 X:

ความคิดเห็นที่ 5 พูดเสียดสีกระแนะกระแหนคนอื่นอย่างไม่หยาบคาย สื่อมวลชนก็พลอย หลงสรรเสริญเยินยอว่าเป็นมีดกงมีดโกนอาบน้ำผ้งน้ำผึ้งอะไรไปเลย ทำให้คนพูดลำพองใจ พูดกระทบกระเทียบแบบสุภาพไม่หยาบอยู่เรื่อยๆ  พอมีลูกศิษย์รุ่นหลังเห็นว่าน่าจะดี ก็เลยเอาอย่างมาตั้งแต่เริ่มเล่นการเมือง เล่นคำพูด ประดิษย์วาทกรรมต่างๆหลายต่อหายคำ แต่โชคร้ายคือไม่เคยจำเลยว่าตัวเองพูดอะไรไปบ้าง เลยเผลอไปทำสิ่งที่ตัวเองประนามไว้ และไม่จำอีกว่าการพูดของตัวเองที่เลียนแบบอาจารย์นั้น สื่อไม่ได้นิยมชมชื่นว่าเป็นใบมีดโกนน้อย อาบน้ำผึ้ง   แต่สื่อพร้อมใจกันให้ฉายาตามที่มีคนงานไทยอาร์มตั้งให้ คือ ดีแต่พูด ตั้งแต่นั้นมาเลยกลายเป็นคนดีแต่พูด ไปไม่ถึงใบมีดโกนที่คาดหวังเลย น่าสงสาร อ้อ ไม่ใช่ น่าสมเพศมากกว่า จากคุณ : ชยารมภ์ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 55 15:40:20 A:124.121.212.11 X:

ความคิดเห็นที่ 6 อย่างคุณ คห.2  ว่าครับ ปชป. หลงทาง  คือหลงว่าการพูดคือการทำงานไปแล้ว พูดได้ทุกเรื่องทุกอย่าง  หากทำได้ตามพูดบ้างก็เอามาเป็นผลงานซะใหญ่โต แต่หากทำไม่ได้  ก็ใช้วิธีแหลไปเรื่อย  หลังสุดก็เรื่องถุงทรายกับสนามเอ๋ออารีน่า อย่างคุณ คห.3  ว่าก็ใช่เลยครับ รู้ว่านายกฯยิ่งลักษณ์มีจุดด้อยเรื่องการพูด เลยพยายามดึงเข้าสู่เกมนี้ตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งโน่น แต่ตอนคุณกมล บันไดเพชร  ท้าออกทีวีเรื่องหนีทหาร มิดอิ่มสิ่มกันทั้งพรรค  ไม่พูดสักแอะ จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 55 15:42:30 A:223.205.46.74 X:

ความคิดเห็นที่ 7 เท่าที่จำได้นะครับ  สมัย พล.อ. เปรม  ติณสูลานนท์  เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อจาก พล.อ. เกรียงศักดิ์  ชะมะนันท์  ภายใต้รัฐธรรมนูญที่คณะผู้ก่อการรัฐประหารร่างขึ้น ซึ่งทั้ง พล.อ. เกรียงศักดิ์  และ พล.อ. เปรม ก็เป็นหนึ่งในคณะรัฐประหารด้วย รัฐธรรมนูญสมัยนั้นระบุว่า  ให้สภาผู้แทนราษฎรร่วมกับวุฒิสภา  เป็นผู้คัดเลือกนายกฯ ๑ คน  จะเป็นใครก็ได้  ไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. หรือ ส.ว.  ก็สามารถเป็นนายกได้ เมื่อเลือกนายกฯ ได้แล้วนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงประปรมภิไธย์แต่งตั้ง  จากนั้น นายกฯ ก็เลือก ครม. เป็ใครก็ได้อีกเช่นกัน ความพิลึกพิลั่นมันอยู่ตรงนี้ครับ ส.ส. นั้น  มีประมาณ ๒๕๐ คน (ถ้าจำไม่ผิด)  เลือกโดยประชาชน ส.ว. นั้น  แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี ซึ่งรักษาการนายกรัฐมนตรีขณะนั้นคือ พล.อ. เปรม มีจำนวนใกล้เคียงกับ ส.ส  และ ส.ว. มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกฯ เช่นเดียวกับ ส.ส ทีนี้เมื่อมีการเลือกตั้งเฉพาะ ส.ส. จึงไม่มีพรรคการเมืองใดชนะสามารถชนะได้ นอกจาก ส.ว. เท่านั้น  ที่มีสิทธิ์ชนะได้  เพราะแต่งตั้งโดยคน ๆ เดียว  คือ พล.อ.เปรม พรรคนอกนั้นจะชนะเลือกตั้งที่แท้จริงได้  ต้องกวาด ส.ส. ทุกคนในประเทศให้ได้ ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ ฉะนั้น  หลังเลือกตั้ง  พรรคที่ชนะการเลือกตั้งจึงต้องไปเชิญ พล.อ. เปรม เป็นนายกฯ เพราะถ้าไม่ใช่ พล.อ. เปรม  ส.ว. จะโหวตให้ไหม  ไม่มีทางชนะโหวตได้แน่นอน จึงทำให้ พล.อ. เปรม เป็นนายกฯ จนเบื่อไปเอง  หลายท่านจับเอาการเชิญบุคคล ๆ เดียว ไปเป็นนายกฯ ว่า  เป็นเพราะความดีของผู้รับเชิญ  ความจริงเป็นเพราะรัฐธรรมนูญ เอื้อให้เป็นเช่นนั้นต่างหาก จากคุณ : Hmao เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 55 16:32:52 A:223.207.164.56 X:

ความคิดเห็นที่ 8 คห.7  ครับ เรื่องราวที่คุณโพสต์มา  ทำให้คิดถึง "รัฐธรรมนูญ 2550" ไหมครับ โมเดลเดียวกัน  วิธีการเดียวกัน  คือใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือทางการเมือง วันนี้  ลองใครแหยมดูสิ  ใช้ รธน.เป็นเครื่องมือให้ตุลาการวิบัิติจัดการเลยทันที พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง  ชนะไป  เป็นรัฐบาลไป แต่อย่าทำอะไรที่ทำให้ "อำนาจ" ไม่พอใจ ไม่งั้นโดน และหากได้ช่องเมื่อไร  ก็ัจัดการ นี่คือวิธีการของ "คนดีศรีแผ่นดิน" ครับ จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 55 16:53:09 A:223.205.46.74 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ครับ  คล้าย ๆ กันครับท่านตระกองขวัญ (เห็นสาว ๆ หลายท่านชมว่าท่านหล่อมากกกก) ที่คล้ายกันคือ  รัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๒๓ และ ๒๕๕๐ ให้อำนาจ ส.ว. ปลดรัฐบาลได้ และที่เหมือนกันอีกอย่างที่มาของ ส.ว. จำนวนหนึ่งมาจากการลากตั้ง  ไม่ใช่ประชาชน ที่ไม่เหมือนกันคือ ส.ว. ตามรัฐธรรมนูญปี ๒๕๒๓ ได้รับการแต่งตั้งโดยนายกฯ ทั้งหมด แต่รัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๕๐ ได้รับการลากตั้งโดยคณะบุคคลมาเป็น ส.ว. ครึ่งหนึ่ง จากคุณ : Hmao เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 55 19:22:22 A:101.51.70.224 X: