3.ประเด็นเรื่องต้นทุนทางอ้อม
ท่านทราบหรือไม่ครับว่า โรงไฟฟ้าชีวมวลนั้นมีต้นทุนทางอ้อมสูงมาก ผมขอสรุปให้ฟังเท่าที่นึกออกดังนี้ครับ
3.1 ด้านมลพิษ อันนี้สรุปเอาไว้ในประเด็นก่อนหน้าแล้ว โดยรวมก็คือแก๊สพิษและฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ มากน้อยแล้วแต่ความรู้และจิตสำนึกสาธารณะของเจ้าของโรงไฟฟ้า
3.2 ของเสียจากการบวนการผลิตไฟฟ้า นอกจากแก๊สพิษและฝุ่นแล้ว ยังมีขี้เถ้าที่เกิดจากการเผา ซึ่งก็คือฝุ่นคาร์บอน ...มีผลต่อระบบทางเดินหายใจอีกเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผมเคยได้ยินว่าขี้เถ้าเหล่านี้สามารถยกให้ชุมชนเอาไปทำประโยชน์ เช่นเอาไว้ใส่ดิน เพื่อปรับปรุงดิน หรือเอาไปผสมกับวัสดุอื่น เพื่อทำภาชนะดินเผา ฯลฯ แต่อย่าลืมว่าขี้เถ้าพวกนี้เกิดขึ้นทุกวัน วันละจำนวนมาก ดังนั้นต้องแน่ใจว่าชุมชนมีแหล่งรองรับขี้เถ้าดังกล่าว หรือทางเจ้าของโรงไฟฟ้าจะต้องมีวิธีการกำจัดขี้เถ้าที่ดี
อนึ่งผมเคยได้ยินมาอีกว่า มีคนรับซื้อขี้เถ้าพวกนี้ไปผ่านกระบวนการทำผลึกซิลิคอน เพื่อผลิตโซลาเซลล์ ...มีคนรับซื้อจริงครับ แต่คุณภาพของขี้เถ้ามักจะไม่ผ่านเกณฑ์ ...สรุปคือเท่าที่ทราบ จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครขายได้ครับ
3.3 การจัดหาเชื้อเพลิง
ในขณะที่พลังงานลมและแสงอาทิตย์ (โดยเฉพาะแสงอาทิตย์) นั้นเราเอาแผงไปตั้งรับแดด...จบ หากแต่สำหรับชีวมวลนั้น เราต้องมีการจัดหาให้ได้มาซึ่งเชื้อเพลิง อันจะมีต้นทุนด้านการผลิต และขนส่ง
ใครอยู่แถวปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา หรือทางภาคใต้ น่าจะเคยเห็นรถพ่วงคันใหญ่ ๆ ขนส่งแกลบบ้าง ไม้สับบ้าง...พวกนี้ส่วนมากขนไปป้อนโรงไฟฟ้าชีวมวลครับ เนื่องจากเจ้าของโรงไฟฟ้าเองมักจะไม่มีเชื้อเพลิงมากพอ ในบางเวลาต้องจัดหามาจากที่อื่น หรือที่ตั้งของโรงไฟฟ้ากับแหล่งเชื้อเพลิงอยู่ห่างไกลกัน เนื่องจากบริเวณแหล่งเชื้อเพลิง ไม่มีที่พอให้สร้างโรงไฟฟ้า...คำถามคือ คุณต้องการให้เกิดการใช้พลังงานทดแทน แต่กลับต้องเสียค่าน้ำมันในการขนส่งเชื้อเพลิงพวกนี้ไปยังโรงไฟฟ้า...มันถูกต้องตามวัตถุประสงค์หรือไม่ครับ รถพ่วงพวกนี้วิ่งอยู่ทุกวัน วันละหลาย ๆ เที่ยว น่าคิดนะครับ ว่าเผาน้ำมันไปวันละเท่าใด
ดังที่กล่าวมาทั้งหมด คือประเด็นหลัก ๆ ที่เราควรเจาะจงสนับสนุน พลังงานสะอาด อย่างลมและแสงอาทิตย์ไปเลย ไม่ใช่แค่ พลังงานหมุนเวียน ซึ่งรวมไปถึงพลังงานไม่สะอาดบางประเภทด้วย