Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
วิเคราะห์ สาเหตุความพ่ายแพ้ของม๊อบ เสธอ้าย ติดต่อทีมงาน

วิเคราะห์ สาเหตุความพ่ายแพ้ของม๊อบ เสธอ้าย

หลายๆท่าน คงงุนงง ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมม๊อบเสธอ้าย ซึ่งตีฆ้องร้องเป่า จะล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ได้แบบม้วนเดียวจบ  กลับประกาศยุติม๊อบภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำไป  ผมอยากจะวิเคราะห์โดยเทียบกับช่วงปี 2549 ดังนี้ครับ

1. เรื่องมวลชนที่ดูลดน้อยลงไปมาก  จำนวนคนที่มา ไม่สามารถสร้างความกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ เนื่องจาก

1.1 ม๊อบกลุ่มต่อต้านทักษิณ ถ้ามองในกลุ่มของพันธมิตรเอง จริงๆ ก็ไม่ได้มีมากมายอยู่แล้ว  ถ้าหากมีมวลชนมากจริงๆ พรรคการเมืองใหม่ของพันธมิตรควรจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาบ้าง แต่กลับไม่ได้เลย น้อยกว่ากลุ่มของคุณชูวิทย์ด้วยซ้ำไป

แสดงว่าโดยเนื้อแท้แล้ว จำนวนคนมากมายในช่วงต่อต้านทักษิณ เป็นมวลชนจัดตั้งที่มาจากกลุ่มการเมืองบางกลุ่มจัดตั้งขึ้นมา ซึ่งนักการเมืองพวกนี้ มีศักยภาพในการระดมมวลชนอยู่แล้ว  แต่มีเงื่อนไขว่า การระดมมวลชน ต้องมีค่าใช้จ่าย  ในคราวนี้ ที่มวลชนน้อย เพราะกลุ่มที่เคยขนคนมา มองไม่ออกว่าจะชนะอย่างไร จึงไม่กล้าลงทุน มวลชนส่วนนี้จึงน้อยลงไป

1.2 ในปี 2549 คนไทยส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะคนกทม) จะรู้สึกว่ากิจวัตรประจำวันของตัวเองน่าเบื่อ ทำงาน 5 วัน เสาร์อาทิตย์ไปเดินห้างสรรพสินค้า ไม่มีกิจกรรมอย่างอื่นทำ การที่จู่ๆ นายสนธิจุดประเด็นไล่ทักษิณขึ้นมา ทำให้เป็นประเด็นใหม่ในชีวิต ทำให้คนที่รู้สึกเบื่อกับสิ่งเดิมๆ มีของเล่นใหม่ด้านการรวมกลุ่มทางการเมือง มีการกระตุ้นให้รู้สึกฮึกเหิม  ใช้คำพูดให้รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ไล่ทักษิณ  ก่อให้เกิดเป็นกระแสการไล่ทักษิณขึ้น  

คนไทยเป็นพวกวัฒนธรรมอ่อน ชักจูงได้ง่าย  นิยมในกระแสเหล่านี้ที่สุด  โดยเฉพาะความรู้สึกที่ได้มองว่าคนอื่นเลว ก็จะทำให้ตัวเองรู้สึกเป็นคนดีขึ้นโดยอัตโนมัติ (ลองสังเกตุกระแสด้านบันเทิง คนไทยจะชื่นชมกันน้อย แต่ถ้ามีคนบันเทิงทำผิด จะโดนโจมตีกันแหลกลานเป็นประเด็น talk of the town เช่น ประเด็นนาธานโกหก ประเด็นแหม่มแคท  แต่พอมีคนบันเทิงทำดี จะชื่นชมกันน้อย ดังนั้น การจุดประเด็นว่าทักษิณซึ่งเป็นคนรวย เก่ง ว่าเป็นคนเลว จึงเข้ากับนิสัยขี้อิจฉาของคนไทยอย่างยิ่ง)  

ก่อให้เกิดกระแสไล่ทักษิณเป็นกิจกรรมที่คนเมืองจำนวนมากกลุ่มนี้ ได้มีอะไรทำใหม่ๆในชีวิต ที่สนุกสนานตื่นเต้น พร้อมความภาคภูมิใจว่าเป็นคนรักชาติ ทำเพื่อชาติ ไล่นักการเมืองคอรับชั่น เป็นต้น

แต่มาปี 2555 นี้ คนไทยส่วนนี้ มีกิจกรรมอื่นๆให้ทำเยอะแยะ  ไม่ว่าจะเป็นบอลไทยลีกที่มีให้เชียร์ที่สนาม  หรือ facebook  ชนชั้นกลางกลุ่มนี้ จึงสนุกกับการไปทำอะไรอย่างอื่นนี้ มากกว่าดู ASTV แล้วโพกผ้าเหลืองที่หัวออกไปตากแดดตากลม

และประเด็นการปลุกระดม เมื่อเวลาผ่านไป  ความสนุกสนานกับการเสพความตื่นเต้นในการชุมนุม  ทีวีที่ถ่ายทอดการเมืองอย่างเดียวอย่าง ASTV ก็จืดลงไป  จะเห็นได้ว่า ประเด็นเดิมๆ เอามากล่าวในช่วงปี 2555 กลับแทบไม่มีผลในการกระตุ้นผู้คนให้รู้สึกอยากไล่ทักษิณเหมือนปี 2549 อีกต่อไป



1.3 เวลาแห่งความขัดแย้งทางการเมืองที่ยาวนาน ตั้งแต่ปี 2549-2555 เรียกว่า เกือบๆ 6 ปี ทำให้ผู้คนเริ่มเหนื่อยกับการถูกปลุกเร้าเพื่อต่อสู้  และเริ่มรู้สึกว่า การแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการแบบเดิมๆ สุดท้ายก็วนกลับมาที่เก่าอยู่ดี เพราะไม่ว่าอย่างไร  ก็ต้องมีเลือกตั้งอยู่ดี ทำให้มวลชนส่วนนี้ ไม่เห็นด้วยกับการเอาม๊อบมาไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอีก


1.4 การเดินทางมาของผู้นำประเทศระดับมหาอำนาจ พร้อมแสดงคำพูดว่าสนับสนุนผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งของไทย ทำให้กลุ่มที่ต้องการใช้กำลังเข้าหักหาญ ไม่กล้าพอที่จะทำ  ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ม๊อบล้มรัฐบาลไม่ได้ ม๊อบเพียงจุดกระแส แล้วเอาทหาร หรือใช้กระบวนการตุลาการเท่านั้น ที่สามารถล้มรัฐบาลได้  ซึ่งถ้าหากประเทศมหาอำนาจไม่เอาด้วย  มีโอกาสเป็นกบฎสูงมาก   เมื่อเกิดกรณีกังวลเหล่านี้ ผมคิดว่า ทำให้ม๊อบก็รีรอๆว่าจะมีอำนาจนอกระบบมาช่วยหรือไม่  อำนาจนอกระบบก็รีรอๆดูว่าม๊อบมีคนมาหรือไม่ สุดท้ายลากไม่ไปทั้งคู่  อันนำไปสู่การยุติม๊อบแบบเร็วจนงงกันทั้งเมือง


1.5 ม๊อบเสธอ้าย ถือว่าเป็นม๊อบ ชิงสุกก่อนห่าม  เพราะรัฐบาลอยู่มาได้เพียงปีเดียว แล้วไม่มีประเด็นทุจริตที่รุนแรง หรือมีข้อกล่าวหาใหม่ๆ  ประเด็นที่โดนโจมตีล้วนเป็นประเด็นเดิมๆ ซึ่งไม่ทำอะไรก็มีประเด็นเหล่านี้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งอยู่แล้ว เป็นต้น  ทำให้กลุ่มต่อต้านทักษิณส่วนหนึ่งที่มีต้นทุนทางสังคมบ้าง สงบอยู่ในที่ตั้งไม่ออกมาร่วมด้วย


1.6 กลุ่มพันธมิตรซึ่งเคยจุดประเด็นล้มทักษิณและสมชายมาแล้ว กลับพบว่า เมื่อรัฐบาล ปชป ขึ้นบริหารประเทศ ตัวเองกลับไม่ได้รับอะไรเท่ากับที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไป ทำนองว่า เสี่ยงแล้วไม่คุ้ม  มาในรอบนี้ เมื่อยังมองกันไม่ออกว่าจะล้มรัฐบาลปูได้อย่างไร  และถ้าล้มแล้วจะทำอย่างไรต่อไป  ยิ่งไม่คุ้มที่จะเสี่ยงด้วย ทำให้ไม่มีการเข้ามาร่วมเท่าที่ควร


1.7 กลุ่มสันติอโศก กลุ่มนี้ มาจากสายของจำลอง ซึ่งเป็นมวลชนที่เรียกว่า ต้นทุนไม่แพง เพราะไม่ต้องจ้างมา มีข้าวน้ำให้ก็พอ ได้ทั้งแรงงานด้วย ดังนั้น จึงเป็นเจ้าประจำของทุกม๊อบ

ประมวลเหตุผลต่างๆนี้ แล้ว จึงสรุปได้ว่า มวลชนมาเพราะกระแส และกระแสนั้นหมดไปแล้ว  การชุมนุมล้มรัฐบาลด้วยม๊อบ ถ้าพรรคการเมืองไม่ระดมคนมา  รับรองว่า ไม่ได้เห็นม๊อบจำนวนหลักหมื่นอีกครับ

แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 55 01:55:33

จากคุณ : Bgate
เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 01:54:21 A:58.64.52.249 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com