ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่า ลูกสาวที่ว่าน้ำหนักประมาณ 130 กก. สูง 135 ซม. ใช่มะ ถ้าใช่ ก็สมควรหละ จากคุณ : Yellow Cheeked Tit (ติ๊ดแก้มเหลือง) - [ 6 ส.ค. 46 01:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ใช่อ่ะครับ ผมไม่เคยเจอตัวจริงหรอก แต่เพื่อนผมก็บอกว่าน่ารักใส ๆ เหมือนเด็กทั่วไปอ่ะครับ ก็คงไม่ขี้เหร่มากหรอกมั้ง จากคุณ : Xavier_ - [ 6 ส.ค. 46 01:31:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สงสัยคนที่ทำคงดูหนังน้ำเน่ามากไปอะเนอะ 55 ทำน่าเกลียดจังเนอะ พิธีดูตัวของญี่ปุ่นยังไม่เ่ท่านี้เลยมั้ง (เกี่ยวมั้ยเนี่ย ที่เทียบ) แล้วฝ่ายชายว่าไงมั่งล่ะครับ พ่อแม่ของฝ่ายชายล่ะ คิดยังไง เล่ามาไม่หมดเลย ฝ่ายชายก็สมยอม เออออห่อหมกไปตามเรื่องน่ะเหรอครับ เรื่องหัวใจ เรื่องใหญ่นา... จากคุณ : ช่วงนี้กำลังดู "สะใภ้จ้าว" (RealWorld) - [ 6 ส.ค. 46 01:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เออ นั่นจิ เล่าก็ไม่หมด ทางเพื่อนคุร พ่อแม่เพื่อคุณว่าไงล่ะ บอกไม่หมดCommentลำบากนะ ส่วนไอ้เรื่องที่เล่ามานี่ ถามว่าแปลกไหม สมัยนี้ยังมีอยู่อีกเหรอ เราว่าไม่แปลกอ่ะนะ เคยเจอมากับตัวเหมือนกัน กว่าจะตะเพิดไปได้ เฮ่อ เกือบเอาผู้ปกครองมองหน้ากันไม่ติดเลย จากคุณ : ทรรศิกากัญญาวดี - [ 6 ส.ค. 46 03:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าอย่าไปว่าแม่เขาเลยครับ แม่ใครก็อยากให้คนดีๆมาเป็นแฟนลูกตัวทั้งนั้น เขาพยายามให้ลูกสาวเขารู้จักกับคนดีๆไว้ จะได้ไม่ไปหลงคนไม่ดี แม้จะไม่ได้เป็นแฟนกัน การมีความรู้สึกที่ดีต่อกันกับคนดีๆ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าอยู่แล้วนี่ครับ แม้จะมีแฟนแต่ก็ยังไม่ได้แต่งงานไม่ใช่เหรอยังมีสิทธิเปลี่ยนใจได้ ถ้าเขาไม่ทำในสิ่งที่ผิดๆ เช่นใส่ร้ายอีกฝ่าย หรือมอมยาผุ้ชาย หรือเอาตัวเข้าทุ่มดื้อๆ อย่างนี้ผมว่าน่าจะทำได้นะครับ สำคัญที่ผู้ชายต้องรู้จักที่จะ เป็นเพื่อนเอาไว้ แม้จะไม่ได้เป็นแฟนกัน เป็นเพื่อนกัน เป็นพี่น้องกัน น่าจะดีกว่า จะได้ช่วยเหลือกันในอนาคต แต่ทั้งนี้ผู้ชายต้องนิ่งพอ ทุกสิ่งต้องแฟนมาก่อนเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดกัน ขีดวงเขาไว้ให้แค่เป็นคนรู้จัก พอแล้ว สักพักเขาก็จะเริ่มรู้เอง พอเขาหมดหวัง หรือมีที่อื่นดีกว่า เขาก็จะไปเอง โดยยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกันอยู่ ไม่แน่ พอผ่านไป 10 ปี หวนมาคิดดูเขาอาจจะรู้สึกขำตัวเองก็ได้ สมัยผมเรียนจบมาใหม่ๆ ก็มีอย่างงี้แหละครับมากันเป็นแถวๆ ไว้คุณเป็นพ่อแม่คนแล้วจะรู้ อย่าไปรังเกียจเขา แต่ควรสงสารเขาบ้าง และจงภูมิใจว่าเพราะเราเป็นคนดี คนมีค่าในสายตาเขา เขาถึงมาหา ดังนั้นก็ควรเป็นคนดี คนมีค่าคนนั้นต่อไปครับ จากคุณ : kfai (kfai) - [ 6 ส.ค. 46 05:50:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แม่เขาอาจจะอยากให้ลูกสาวได้คบกับคนดีดีไว้มากๆ ดีกว่าให้เลือกคบคนตามยถากรรม (แล้วแต่ว่า จะไปเจอใคร) เผื่อว่า หากถูกชะตากัน ก็อาจเป็นที่ปรึกษาในเรื่องที่ลูกสาวไม่อยากปรึกษากับพ่อแม่ก็เป็นได้ บอกเพื่อนคุณว่า อย่าเพิ่งคิดไปไกลเลย ก็ให้คำปรึกษาเหมือนกับน้องคนหนึ่ง เราว่า พ่อแม่เขาก็คงดูออก ให้บอกแฟนด้วยว่า เขาก็แค่น้องเล็กๆ (แค่มัธยมเอง) คนหนึ่ง เราว่า คงไม่มีปัญหาละมัง จากคุณ : *Cookies* - [ 6 ส.ค. 46 07:05:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ฟังดูแล้ว เพื่อนคุณหวังเคลม มีน้องสาวเพิ่มอีกคนไม่ได้หรือไง ไม่เห็นเสียหาย ถ้ากะเคลมอย่างเดียว แล้วหาว่าผู้หญิงให้ท่าเอง นั่นแหละบทสรุป จากคุณ : Mollusk - [ 6 ส.ค. 46 07:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 8 still obsessed with these kinda childish stuffs get a life lil boy! จากคุณ : phuck the ragnarok (sirapol) - [ 6 ส.ค. 46 08:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ชอบก็บอกชอบ ไม่ชอบก็ไม่ต้องไปให้ความหวัง แต่อย่าได้คิดชั่วทำอะไรไปในทางที่ผิด เดี๋ยวพ่อแม่จะเสียใจ แต่ถ้าชอบ ก็เรียนให้จบซะก่อน มีงานมีการทำฐานะมั่นคง ค่อยคิดมีเมีย ก็ยังไม่สายไปนะน้อง จากคุณ : แบดแมน - [ 6 ส.ค. 46 09:22:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วแต่เพื่อนคุณครับว่าจะมั่นคงในใจตัวเองขนาดไหน และรักแฟนขนาดไหนด้วย เป็นวิธีวัดใจอย่างหนึ่ง ส่วนแม่ของเด็กผู้หญิงคนนั้น เขาคงหวังดีประสงค์ร้ายกับ ลูกสาวเขาเองน่ะ เห็นว่าเพื่อนคุณดีไง เลยแนะนำและอยากให้ลูกสาวได้เป็นแฟน อันนั้นหวังดี แต่ประสงค์ร้ายคือ รู้ได้ยังไงว่าลูกสาวตัวเองจะมีความสุข ก็คงเท่านี้ล่ะครับ ละครคือชีวิตเพียงส่วนหนึ่ง แต่ชิวิตมีได้ทุกรูปแบบอยู่แล้วครับ บุญรักษาครับ จากคุณ : ดาราวิปลาส - [ 6 ส.ค. 46 10:27:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อย่าไปรังเกียจเขา แต่ควรสงสารเขาบ้าง และจงภูมิใจว่าเพราะเราเป็นคนดี คนมีค่าในสายตาเขา เขาถึงมาหา ดังนั้นก็ควรเป็นคนดี คนมีค่าคนนั้นต่อไปครับ ................................................................... ลุงคาไฟก็พูดเกินไปนะ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องใช้ความสงสารหรอก น้องสาวคนนั้นไม่ได้เข้าข่ายผู้มีปัญหา หรือผู้ป่วยที่ต้องการความสงสารเวทนานะคะ ฝ่ายชายสมควรเก็บเป็นความภูมิใจอย่างเดียวก็พอ ในแง่ที่ว่า ยังมีคนเห็นคุณค่าของคนอย่างคุณ เขาจึงพาลูกสาวมาให้รู้จักคนดีๆ(ที่เขาคิดว่าดี) อย่ามองคุณค่าของคนต่ำกว่าเกณท์นักซิคุณลุงคาไฟ มุมมองของบุรุษ ก็คงมองได้เท่านี้แหละ(ถึงจะเป็นพ่อคนแล้วก็เถอะ) จากคุณ : เลดี้..จริงๆนะ - [ 6 ส.ค. 46 11:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ก็ดูละครแต่ละเรื่องสิมีบทยื้อแย่งผู้ชายสอดแทรกอยู่ตลอดมันปลูกฝังกันมานานแล้ว จากคุณ : น่าเบื่อ - [ 6 ส.ค. 46 18:35:37 A:203.151.127.229 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 "เรื่องแบบนี้ไม่ต้องใช้ความสงสารหรอก น้องสาวคนนั้นไม่ได้เข้าข่ายผู้มีปัญหา หรือผู้ป่วยที่ต้องการความสงสารเวทนานะคะ" คุณเลดี้ยังตีปัญหาไม่แตกน่ะ เด็กผู้หญิงคนนี้ที่น่าสงสารคือ เขายังไม่โตพอที่จะมีคู่ แต่กลับโดนผู้ใหญ่จับ หรือกล่อมเกลาให้เขามากระทำการดังกล่าว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม วัยนี้ยังสมควรที่จะเรียนรู้ค้นคว้าหาวิชาใส่ตัวมากกว่าจะมาหาคู่ครอง แล้วทำไมเขากลับมาเช่นนั้น ไม่ใช่เพราะการกล่อมเกลา หรือชักจูงของผู้ใหญ่หรอกหรือ เขาไม่รู้ตัวหรอกว่า ถ้าเกิดผู้ชายที่ผู้ใหญ่มองให้นั้นเป็นคนไม่ดีพอ เกิดมาหลอกเขา หรือพาเขาไปเสื่อมเสีย สิ่งไม่ดีจะเกิดกับเขาอย่างไรบ้าง เนื่องจากเขายังไม่มีประสบการณ์ในชีวิตมากพอ แล้วอย่างนี้เขาไม่ได้กำลังตกอยู่ในอันตรายหรือ อย่างนี้เขาไม่น่าสงสารหรอกหรือ ดังนั้นสิ่งที่ผมได้กล่าวถึงก็เพื่อให้ชายคนนั้น ถ้ามีความคิดที่จะได้กินฟรีอยู่ เพราะเห็นมีคนเอามาเสนอให้ ได้หยุดคิดและสงสารต่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายนั้นครับ สำหรับผมยังถือว่าผู้หญิงเป็นเพศอ่อนแอและเสียเปรียบอยู่เสมอในสังคม ดังนั้นจึงควรได้รับการปกป้อง แต่สำหรับคนที่เห็นว่าหญิงเท่าเทียมกับชาย แข็งแรงเหมือนชาย ได้พอๆกับชาย ไม่มีเสีย อันนั้นก็ตามใจเขาเถิดครับ ก็ให้เขาได้รับบทเรียนกันไปเอง แต่ขอเตือนสักนิดว่า คนที่ตายจากการทำแท้งเถื่อนน่ะมีมากนะครับ และเป็นผู้หญิงทั้งนั้นดัวย จากคุณ : kfai (kfai) - [ 6 ส.ค. 46 21:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 กระทำการอะไรคะ.....เหตุผลทั้งหมดที่คุณลุงพูดมา คนที่ต้องโดนตำหนิคือผู้ปกครองของน้องสาวคนกับผู้ปกครองของฝ่ายชายต่างหาก เป็นผู้ใหญ่ซะเปล่าทำตัวไม่มีหัวคิด คนที่ต้องโดนประณามไม่ใช่เด็ก แต่สมควรเป็นผู้ใหญ่หัวหงอกพวกนั้นต่างหาก ไม่ใช่บทสรุปทั้งหมดต้องมาลงที่ฝ่ายเด็กสาวคนนั้น ฉันไม่ได้ออกมาบอกว่าสิทธิชายหญิงควรจะเท่าเทียม แต่ฉันกำลังออกมาสะกิดให้พวกไดโนเสาร์สมควรจะเอากะลาออกจากหัวเสียที จากคุณ : เลดี้..จริงๆนะ - [ 6 ส.ค. 46 22:18:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พ่อแม่ทุกคนก็อยากให้ลูกของตนได้ดีทั้งนั้นแหละ ถ้าเพื่อนคุณแสดงให้ผู้ใหญ่ของน้องหญิงนั้นเห็นว่าดี เขาก็อยากยกให้ ถึงเพื่อนคุณจะมีแฟนแล้วก็เถอะ คุ้มค่าไหม ถ้าจะต้องออกแรงลงมือแย่งคนดีๆ ถ้าเขารู้ว่ามีแฟนแล้ว แสดงว่าคิดว่าคุ้มถ้าแย่งมา เพื่อนคุณก็เถอะ อย่างหลวมตัวไปจิ้มน้องเข้าหละ ทีนี้อาจถูกจับติดไม่ยอมปล่อยเลยนะครับ จากคุณ : โลหการ4 - [ 6 ส.ค. 46 22:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 "คนที่ต้องโดนประณามไม่ใช่เด็ก แต่สมควรเป็นผู้ใหญ่หัวหงอกพวกนั้นต่างหาก" อ้าวคุณว่าเด็กโดนประนามเหรอ คุณเห็นเหรอว่าเด็กโดนประนามในกระทู้นี้?????? ถ้าคุณเห็นคุณไม่สงสารเด็กนั่นหรอกหรือครับ ผมว่าผมน่ะไม่ได้มองคนต่ำกว่าที่คนอื่นเป็นหรอกครับ แต่ว่าบางคนอาจมีปมด้อยในใจเลยsensitive ไปหน่อย ผมอยากจะให้คุณเลดี้เข้าใจอย่างหนึ่งว่า ความสงสาร เป็นสิ่งดี ไม่ใช่เป็นการดูถูก คุณอาจจะถูกดูถูกมามาก ได้รับการปฏิบัติ แบบอยุติธรรมมามากจนฝังใจ แต่อย่านำประสบการณ์นั้นไปใช้กับคนอื่นๆซีครับ เด็กผุ้หญิงคนนี้ ในสายตาของผู้ตั้งกระทู้เห็นว่าเป็นเหมือน"ตัวอิจฉาในหนังไทย" นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ดี ผมได้พยายามชี้ให้เห็นว่า แท้ที่จริงแล้ว เด็กคนนั้นกำลังตกเป็น"เหยื่อ" ที่จะต้องได้รับการเห็นอกเห็นใจ ดูแลคุ้มครอง ไม่สมควรจะมาหาประโยชน์เล็กๆน้อยๆเอากับเขา เรื่องแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าสงสารน่าช่วยป้องกันในสายตาและจิตใจเลยของคุณเลดี้หรือครับ จากคุณ : kfai (kfai) - [ 7 ส.ค. 46 06:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องนี้ไม่มีใครผิดหรือน่าประนามคัรบไม่ว่าเด้กหรือผู้ใหญ่ พ่อแม่ก็อยากให้ลูกสาวได้คนดีๆลูกของเพื่อนตัวเองเนี่ยมันใกล้ตัวหน่อยดูได้ควบคุมดูแลได้ยังไงก็ลูกเพื่อนเรา มีอะไรเราก็ยังคุยกับเพื่อนที่เป็นพ่อแม่ได้ยังอยู่ในสายตา ก็เลยพยายามจับคู่เพราะเห็นว่าฝ่ายชายเป็นคนดี ตามธรรมดาลูกเพื่อนเราจะมีภาษีดีกว่าคนอื่นที่เราไม่รู้ว่ามันเป็นใครมาจากไหน อย่างน้อยเพื่อนเรามันเป็นเพื่อนเรามาได้จนทุกวันนี้หลายปีมันต้องเป็นคนดีที่คบได้น่า ลูกมันก็น่าจะเป็นคนดีเหมือนกัน เลยพยายามจับคู่แค่นั้นเองไม่ชอบก็ไม่ต้องไปคบไม่เล่นด้วยสักพักเขากํรู้เองแหล่ะว่าไม่เล่นด้วยคงไม่จับคู่แบบในหนังน้ำเน่าหรือมอมเหล้าแล้วเอาไปนอนกับลูกสาวหลอกให้แต่งงานหรอกน่า สำคัญอย่าแพ้ความสาวความใสแล้วไปทิ่มลูกสาวเขาเข้าล่ะ จากคุณ : ปาล์ม - [ 7 ส.ค. 46 07:04:47 A:203.155.48.59 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 ฉันอยากให้คุณมองความถูกต้องมากกว่าความสงสารนะคุณคาไฟ ความสงสารเมื่อนำมาใช้ใช้ไม่ถูกกาละเทศะ เลยมักทำให้คนมองข้ามตัวต้นเหตุแห่งปัญหาและทางแก้ปัญหาที่แท้จริง เรื่องนี้ปัญหาทั้งหมดที่เกดอยู่ที่ผู้ปกครอง(ของทั้งคู)...... ถ้าไม่มีการกระทำ(ในกรณีนี้)ของผู้ปกครอง จะมีปัญหา(ในกรณีนี้)ตามมามั้ย ฝ่ายหญิงยังจะคงทำหน้าที่เรียนหนังสือหาความรู้ปฎิบัติตนให้เหมาะสมกับวัยของตัวเองต่อไป ฝ่ายชายก็มีชีวิตของตัวเองต่อไป ..... ไม่ต้องมีใครวุ่นวายกับใคร ฉันจะบอกให้เจ้าของกระทู้ทราบว่า " เด็กคนนั้นไม่สมควรโดนมองว่าเป็นตัวอิจฉาในหนังไทย" เพราะคนก่อเหตุไม่ใช่ ตัวผู้หญิง แต่เป็นผู้ปกครองของทั้งฝ่ายผู้ชายและฝ่ายผู้หญิง ถ้าคุณจะแสดงความสงสารไม่ผิด...แต่คุณสงสารผิดคน(ไม่ใช่ตัวผู้หญิง...แต่ควรเป็นผู้ปกครองของทั้งฝ่ายชายฝ่ายหญิง)เพราะฉนั้นความสงสารของคุณในที่นี้จึงกลายเป็นการดูถูกคุณค่าของคน ( เด็กผู้หญิงคนนั้น ) คนไปโดยปริยาย (คุณไม่รู้ตัวเหรอ??..หรือว่าใช้นิสัยแบบนี้มาจนชิน...ถ้าไม่รู้ตัวก็ลองเอามือเคาะๆแถวบริเวณศรีษะดูบ้างนะคะ...ถ้ามีเสียงดังก๊อกๆเหมือนของแข็งถูกกระทบ...ขอแนะนำให้ใช้นิ้วมือหยิบมันออกจากศรีษะ วิธีนี้ง่ายนิดเดียว  เผื่อคุณจะได้แยกแยะวิธีนำความสงสารไปใช้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนะคะ) แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 46 11:32:53 แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 46 11:23:21 แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 46 11:16:16 จากคุณ : เลดี้..จริงๆนะ - [ 7 ส.ค. 46 11:12:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 "ถ้าคุณจะแสดงความสงสารไม่ผิด...แต่คุณสงสารผิดคน(ไม่ใช่ตัวผู้หญิง...แต่ควรเป็นผู้ปกครองของทั้งฝ่ายชายฝ่ายหญิง)เพราะฉนั้นความสงสารของคุณในที่นี้จึงกลายเป็นการดูถูกคุณค่าของคน ( เด็กผู้หญิงคนนั้น ) คนไปโดยปริยาย " ฮ่าๆๆๆ อยากจะเขียนให้ดูมีเหตุผล ดูเป็นเหตุเป็นผลกับเขาบ้าง แต่เอ ไม่เห็นมันเป็นตรรกกะเป็นเหตุเป็นผลแก่กันเลยนี่คุณ ที่ยกมาน่ะ ไม่ให้สงสารผู้หญิง แต่ให้สงสารผู้ปกครอง ผู้ปกครองมันมีอะไรน่าสงสารหรือ??? ไม่มี ดังนั้นไม่มีเหตุผล เพราะฉะนั้นความสงสารของคุณจึงเป็นการดูถูก ใช้เพราะฉะนั้นได้อย่างไรมันไม่เห็นเป็นเหตุผล และไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับประโยคที่มีมาก่อนหน้าเลย ดูคล้ายๆแต่ไม่เหมือน ดูแล้วนึกถึงชีต้าแฮะ รู้จักชีต้าไหมครับ จากคุณ : kfai (kfai) - [ 7 ส.ค. 46 21:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าไม่เข้าใจ สรุปย่อๆนะ เรื่องทั้งหมดต้นเหตุ..... เกิดจากผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย ฝ่ายหญิง + ฝ่ายชาย....    ถูกจุดประสงค์ของผู้ปกครองฝ่ายตัวให้ทำแบบนั้น คาไฟ - - - ให้ฝ่ายชายสงสารผู้หญิง อย่าไปรังเกียจฝ่ายหญิง เพราะ ฯลฯ ( - แม่ใครก็อยากให้คนดีๆมาเป็นแฟนลูกตัวทั้งนั้น..... เพราะมุมมองของแม่ฝ่ายหญิง.....แม้จะมีแฟนแต่ก็ยังไม่ได้แต่งงานฝ่ายชาย....ยังมีสิทธิเปลี่ยนใจได้ - ถ้าเขาไม่ทำในสิ่งที่ผิดๆ เช่นใส่ร้ายอีกฝ่าย หรือมอมยาผุ้ชาย หรือเอาตัวเข้าทุ่มดื้อๆ - แนะนำให้ฝ่ายชาย หนักแน่นเข้าไว้...เพราะถ้าฝ่ายชายไม่เล่นด้วย ฝ่ายหญิงก็จับไม่สำเร็จ [U]อย่าไปรังเกียจเขา แต่ควรสงสารเขาบ้าง และจงภูมิใจว่าเพราะเราเป็นคนดี คนมีค่าในสายตาเขา เขาถึงมาหา[U] - เด็กผู้หญิงคนนี้ที่น่าสงสารคือ เขายังไม่โตพอที่จะมีคู่ แต่กลับโดนผู้ใหญ่จับ หรือกล่อมเกลาให้เขามากระทำการดังกล่าว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม วัยนี้ยังสมควรที่จะเรียนรู้ค้นคว้าหาวิชาใส่ตัวมากกว่าจะมาหาคู่ครอง แล้วทำไมเขากลับมาเช่นนั้น แง - - - - ไม่ต้องมาบอกว่าสงสารฝ่ายหญิงเพราะฝ่ายหญิง              ทำไม่ได้หรอถ้าไม่มีแม่ของทั้ง2ฝ่ายเป็นผู้บงการ              (เรื่องนี้แม่ฝ่ายหญิงทำคนเดียวไม่ได้แน่ถ้า ไม่ได้รับการเปิดโอกาสจากผู้ปกครองฝ่ายชายด้วย)               ดังนั้นต้นเหตุทั้งหมดของเรื่องมาจากผู้ปกครองฝ่ายผู้หญิง และผู้ปกครองฝ่ายชายฝ่ายชาย              - ฝ่ายชายควรภูมิใจว่าตัวเองเป็นคนดี ถึงมีคน                อื่นเห็นคุณค่า .....ไม่ใช่เพราะคิดว่า ฝ่ายหญิงน่าสงสาร                ไม่ควรไปรังเกียจเขา ..................................(ตามความเห็นของคาไฟฯลฯข้างบน ) ดังนั้นการมองด้วยเหตุผลของ คาไฟข้างบนจึงถือว่าเป็นการแสดงการดูถูกฝ่ายหญิง เพราะคาไฟใช้มุมมองของตัวเองมองฝ่ายชายเป็นหลัก ใช้ความสงสารผิดกาละเทศะแล้ว เรื่องนี้ไม่ควรสงสาร(ในมุมมองคุณแง) ถ้าจะสงสารก็ได้....แต่ควรไปสงสารแม่ตัวเอง กับแม่ผู้หญิง(เพราะความหวังดีอยากให้ลูกเจอคนดี..หรืออะไรก็แล้วแต่ เรื่องมันถึงลงเอยแบบนี้ ) ....................................................................... เข้าใจนะ (ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร...) (กะลามันคงแข็งมาก) (ขี้เกี่ยจพิมพ์แล้ว)           แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 46 23:09:03 จากคุณ : เลดี้..จริงๆนะ - [ 7 ส.ค. 46 23:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ดูถูกคือตรงไหน ไม่เห็นมีเหตุผล??? แล้วมันเกี่ยวกับความเป็นผู้ชายอย่างไร หรือตกลงใจให้ผู้ชายมองแบบผู้หญิงหรือ?? มองแบบผู้หญิงคืออย่างไร??? มาจะวิเคราะห์อะไรให้ฟัง คนที่จะรู้สึกไม่ดีเวลาคนอื่นเขาสงสารคือ แสดงว่าคนๆนั้นมีปมด้อยครับ??? เพราะเมื่อถูกสงสารทำให้เข้าใจว่าตัวเองต่ำกว่าคนอื่นมีอะไรไม่ดีกว่าคนอื่น คนอื่นจึงต้องมาสงสาร(เพราะมีปมด้อยในใจอยู่แล้วว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นดีไม่เท่าคนอื่น) เมื่อรู้สึกอย่างนั้นเลยเกิดความรู้สึกเศร้าขึ้น เมื่อรู้สึกเศร้าก็เลยไปพาลโกรธคนที่มาสงสารเสีย หาว่าเขาดูถูก เพื่อที่เขาจะได้ไม่มาแสดงความสงสารตัวอีกจะได้ไม่กระทบโดนปมด้อยนั้นอีก ความสงสารกลายเป็นการดูถูกในสายตาคุณแงไปในที่สุดดังนี้แล ความจริงความสงสาร หมายถึงเห็นใจในชะตากรรมของเขา ซึ่งผู้ปกครองเขาเป็นผู้บงการ แต่ห้ามไม้ให้สงสาร แล้วจะให้ฝ่ายชายนั่นรู้สึกอย่างไรกับเขาดี เกลียดหรือ โกรธหรือ ดูถูกหรือ????? โลกของคุณแงคงจะแข็งกระด้างน่าดู พึงรู้ไว้ด้วยว่า คนเราทุกคนที่เกิดมา มีเวลาที่เราจะดีกว่า เก่งกว่าคนอื่น และมีบางเวลาที่เราจะอ่อนแอกว่าด้อยกว่าคนอื่นแย่กว่าคนอื่น คนที่ปกติจะต้องเข้าใจจุดนี้ นี่คือความปกติของคน ที่มีวันที่ดีและวันที่ไม่ดี เวลาที่เราดีกว่าคนอื่น ก็ต้องใช้สิ่งที่ดีที่เราได้รับนั้นให้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆที่ด้อยกว่า แบ่งปันความสุขที่เรามีออกไปให้คนอื่นบ้าง เวลาที่เราแย่กว่าคนอื่นก็ต้องไม่ไปเคียดแค้นสังคมถ้าเขาจะช่วยเหลือเรา สงสารเห็นใจเรา หัดเป็นผู้รับบ้าง แต่รับด้วยความสำนึกบุญคุณ และคิดตอบแทนสิ่งที่ดีต่อเขา คนที่ทำเขาก็จะมีกำลังใจที่จะให้น้ำใจใจแก่คนอื่นๆต่อไป โลกที่มีแต่ความรักความสงสารกัน ความเห็นอกเห็นใจกัน คือโลกแห่งคนมีน้ำใจ มันเป็นโลกที่น่าอยู่ แต่โลกที่ไม่มีการสงสารกัน หรือด่าประนามกัน ตอบโต้กันด้วยความรุนแรง มองคนอื่นในแง่ร้ายอยู่เรื่อยๆ โลกอย่างนี้ไม่น่าอยู่หรอกครับ ทั้งคนที่เป็นเช่นนั้น และคนที่อยู่รอบข้าง ต่อมเหตุผลของคุณแงยังใช้ไม่ได้ครับ คงต้องไปเรียนตรรกกะมาอีกมากๆเลยละครับ แต่ละอันที่ยกมามันไม่เป็นเหตุเป็นผลแก่กันเลยครับ ลองพยายามใหม่นะครับ ถึงแม้ว่าจะยากมากสำหรับคุณก็ตาม เพราะเหตุผลที่ถูกต้อง จะทำให้เราได้ข้อสรุปที่ถูกต้อง เมื่อได้ข้อสรุปที่ถูกต้องการตัดสินใจจึงจะถูกต้องครับ ส่วนเรื่องกระโหลกกระลาอะไรก็ให้คุณแงเก็บไว้ใช้เองเถอะครับ ผมยังไม่ขอรับละ จากคุณ : kfai (kfai) - [ 8 ส.ค. 46 06:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ความจริงความสงสาร หมายถึงเห็นใจในชะตากรรมของเขา ซึ่งผู้ปกครองเขาเป็นผู้บงการ แต่ห้ามไม้ให้สงสาร แล้วจะให้ฝ่ายชายนั่นรู้สึกอย่างไรกับเขาดี เกลียดหรือ โกรธหรือ ดูถูกหรือ????? - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - ฉันมองที่ความถูกต้องเสมอ ดิฉันไม่ได้มองความสงสารในมุมเดียวกับที่คุณรู้สึก แต่ดิฉันตีความ "การสงสาร"ผ่านมุมที่คุณใช้มอง โดยยึดฝ่ายชายเป็นเกณท์...และมองข้ามต้นเหตุของตัวต้นปัญหา ซึ่งก็คือ (พ่อแม่ฝ่ายหญิงกับฝ่ายชาย) ฉัแต่มุมที่ฉันมอง... (เพราะฉันไม่ได้มองผ่านมุมมองของฝ่ายชายฝ่ายเดียวมาเป็นเกณท์มองปัญหา...แต่ฉันมองผ่านทั้ง3ฝ่าย หรือมองในมุมของฝ่ายผู้ใหญ่ ) ......ที่ถูก ควรจะมองตัวต้นของปัญหา ซึ่งก็คือ พ่อแม่ของ ทั้งสองฝ่าย ดังนั้นฝ่ายชายเมื่อทราบแล้วว่าอะไรถูกอะไรผิด ไม่ต้องเสียเวลามารู้สึก.....ให้แก้ปัญหาไปเลย (วิธีแก้ที่ถูกต้องก็สมควรจะรู้ได้แล้ว เพราะเข้าใจต้นตอของปัญหาแล้ว ) (แล้วผลของปัญหาก็จะไม่เกิด ) มองฝ่ายผู้ปกครอง - - - - ผู้ใหญ่อยากให้ลูกเจอคนดี (กรอปกับพ่อแม่ผู้ชายเปิดโอกาสสนับสนุนด้วย) มองผ่านฝ่ายเด็กชาย - - - - (เอาตัวเองเป็นเกณท์) เพราะชะตากรรมผู้หญิงเป็นแบบนี้ๆ ถ้าเราทำแบบนี้ๆ ผู้หยิงก็คงจะทำไม่สำเร็จ ผลจากปัญหาไม่เกิด มองทั้ง3ฝ่าย - - - - ตัวต้นเหตุคือใคร บทสรุปของเรื่องนี้คืออะไร ทีนี้เมื่อรู้ถึงตัวต้นปัญหา วิธีแก้ปัญหาก็ไม่ยาก...ก็ลงมือจัดการแก้ปัญหาซะ แล้วผลจากปัญหาก็จะไม่เกิดแบบเบ็ดเสร็จ ทำความเข้าใจได้ง่ายๆ ไม่ต้องเข้ารกเข้าพงไปถึง โลกของใครเป็นอย่างไร ถ้าอยากรู้ว่าโลกของใครเป็นอย่างไร ไม่ต้องเสียเวลาวิเคราะห์( จะพาลเดาเข้ารกเข้าพงไปอย่างที่คุณวิเคราะห์) ขอแนะนำให้คนที่กำลังเดา.....ใช้วิธีถามเอาเลย.... ได้คำตอบจากคำถามแล้วก็เอาไปวิเคราะห์ยังไงก็ว่าไปไม่ต้องเสียเวลาคาดคะเน หรือเดาสุ่ม ก่อนตัดสินใจถาม...เป็นการย่นขั้นตอนไม่ให้เสียเวลา (แบบเดียวกับที่ฉันพยายามอธิบายให้คุณฟัง...ซึ่งมันเสียเวลาเหลือเกิน เพราะฉันคิดว่าฉันตรงไปตรงมากับคุณที่สุดแล้วนะ) ต่อมเหตุผลของฉันคงต่างจากคุณ เพราะเหตุผลของฉันคือ "ความถูกต้อง" แต่ต่อมเหตุผลของคุณคืออะไร ฉันไม่ทราบ...เพราะอันนี้ฉันไม่เสียเวลาเดา" เอาเป็นว่าถ้าแค่นี้ยังไม่เข้าใจ ฉันจะไม่เสียเวลาเกี่ยวกับกะลาของคุณก็แล้วกัน เพราะฉันตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า....กะลามันไม่ได้เอาออกกันได้ง่ายๆ จากคุณ : เลดี้..จริงๆนะ - [ 8 ส.ค. 46 12:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ยังไร้เดียงสาเหมือนเดิมเลยนะ เลดี้ "วิธีแก้ปัญหาก็ไม่ยาก...ก็ลงมือจัดการแก้ปัญหาซะ แล้วผลจากปัญหาก็จะไม่เกิดแบบเบ็ดเสร็จ" นี่คือวิธีการแก้ปัญหาแบบเลดี้ๆครับ " คนที่ต้องโดนตำหนิคือผู้ปกครองของน้องสาวคนกับผู้ปกครองของฝ่ายชายต่างหาก เป็นผู้ใหญ่ซะเปล่าทำตัวไม่มีหัวคิด" นี่คือวิธีแก้ปัญหาแบบคุณเองที่คุณเขียนเอาไว้ นั่นคือการด่าประนามผู้อื่น ตำหนิผู้อื่นไปเรื่อยๆ คิดดูถ้าคนที่ได้รับคำแนะนำนี้แล้วเชื่อ เขาก็ต้องกลับไปด่าว่าผู้ปกครองเด็กใช่ใหม (แบบที่เลดี้ชอบทำไง) ผลที่ได้รับจะไม่เป็นอย่างที่เลดี้คิดหรอก นั่นคือ คนฟังจะรับฟังโดยสงบ และสรรเสริญคนด่าว่า เก่งวิเศษเลิศเลอ เป็นเด็กมหัศจรรย์ สามารถคิดอะไรได้ดีกว่าผู้ใหญ่ สมควรได้รับการยกย่องชมเชยเป็นบุคคลแห่งปี ฯลฯ นั่นคือสิ่งที่เลดี้จินตนาการเอาเองว่าจะเกิดใช่หรือไม่ครับ????? แต่ผลที่จะเกิดขึ้นจริงๆในชีวิตจริงๆ มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ การไปตำหนิหรือด่าว่าเช่นนั้น ความรู้สึกของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กคนนั้น ที่เคยเห็นว่าดีก็จะเปลี่ยนไป กลายเป็นไม่ชอบหน้า แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้น ก็ไม่ใช่จะมีความสุขนะครับ เพราะการที่พ่อแม่ตัวเองมาถูกด่าว่า โดยเกิดจากการเอาตัวเองมาแนะนำนั้น สิ่งแรกที่เด็กคิดหรือรู้สึกก็คือความอับอายครับ เพราะเวลาที่เขาพากันมาเช่นนี้ เขาไม่ได้บอกกันตรงๆ แต่เขาทำกันทางอ้อม โดยให้สนิทกันไปเองตามธรรมชาติ แต่ถ้ามีคนบ้าระห่ำคนหนึ่งมาเที่ยวด่าประนาม ผู้ปกครอง ให้ได้ยินกันทั่วๆ ผลก็คือ เด็กเป็นคนแรกที่จะต้องอับอาย เพราะถูกเปิดโปง ส่วนผู้ใหญ่นั้น แน่นอน อายด้วย เสียหน้าด้วย ก็จะพาลโกรธ ทั้งตัวผุ้ชายเอง และครอบครัวฝ่ายชาย หรืออับอายไม่กล้ามาสู้หน้าอีก ผลสุดท้ายก็คือการหมางใจกันระหว่างผู้ใหญ่ด้วยกัน ระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก ระหว่างครอบครัวต่อครอบครัวครับ ไม่มีใครได้อะไรหรอก และนี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงแน่ๆ ถ้าทำตามคำแนะนำของหนูเลดี้ผู้เก่งฉกาจ ยึดความถูกต้องเหนืออื่นใด พึงระลึกไว้เสมอว่า ผู้ใหญ่คนที่แนะนำลูกสาวให้ผุ้ชายนั้น เขาไม่ได้มีมิติเดียว เรื่องเดียว กับครอบครัวฝ่ายชาย เขายังคบหากัน ช่วยเหลือกันได้ในเรื่องอื่นๆอีกมาก ดังนั้น เรื่องที่ไม่ใหญ่โตนัก พอทำให้มันราบรื่นไปได้ก็ควรทำ แต่เรื่องที่ใหญ่โตก็ควรจัดการบ้างไปตามขึ้นตอน แต่อย่าเอาเรื่องเล็กมาเป็นเรื่องใหญ่ อย่าแก้ปัญหาเล็ก โดยเอาปัญหาที่ใหญ่กว่ามาทดแทน การแก้ปัญหาแบบนั้น ควรจำกัดอยู่เฉพาะกับครอบครัวของเลดี้เท่านั้น เพราะเคยชินกับสภาพเช่นนั้นแล้ว แต่ไม่ควรนำไปใช้กับครอบครัวอื่นๆ มิฉะนั้นคงต้องเกิดความแตกแยกกันยกใหญ่ในสังคมไทยเรา ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง สิ่งที่สำคัญที่สุดในสังคม ผมว่าคือความสามัคคีกัน ช่วยเหลือกัน เห็นอกเห็นใจกันครับ การยึดแต่ความถูกต้องอย่างเดียวมันแข็งกระด้างไม่ยืดหยุ่นจะมีแต่ความวุ่นวายตลอดครับ คนฉลาดแต่ขยันน่ะดี เพราะจะสร้างสรรค์สังคมได้ คนโง่แต่ขี้เกียจ ก็ยังไม่ทำลายสังคม พอเลี้ยงไว้ได้ แต่ คนโง่แต่ขยันนั่น คนเหล่านี้แม้จะหวังดี แต่ก็มักจะสร้างความเสียหายมากกว่าที่ควรจะเป็นเสมอเลยครับ คนพวกนี้เราควรจะทำอย่างไรกับเขาดีครับ คุณเลดี้คนขยัน????? จากคุณ : kfai (kfai) - [ 9 ส.ค. 46 06:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เอ้อ ไปถกกันที่อื่นดีใหมครับ เกรงใจเจ้าของกระทู้เขาน่ะ จากคุณ : kfai (kfai) - [ 9 ส.ค. 46 06:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ลุงเอ้ยย สงบสติอารมณ์ซะบ้างก้ดีนะ พยายามจะสอนคนอื่นให้มองโลกในแง่ดี.... แต่ตัวเองน่ะ เข้ารกเข้าพงไปไหนต่อไหนแล้ว ฉันไม่ได้แนะนำวิธีแกปัญหาตามแบบของฉัน...เพราะฉันสังวรณ์อยู่เสมอว่า วิธีแก้สถาณการณ์ของฉัน คงใช้ได้เฉพาะฉัน ฉันจึงบอกเขาในสิ่งที่เป็นกลางที่สุดว่า " ให้มองต้นเหตุของปัญหา "เมื่อหาเจอแล้ว เราก็จะเจอวิธีแก้ที่ถูกต้อง พูดขนาดนี้ฉันคิดว่าไม่น่าจะเข้าใจยากแล้ว ก็ได้...เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องนะ ฉันจะอธิบายให้ทะลุปรุโปร่งไปเลย..... เหตุการณ์แบบนั้นเคยเกิดขึ้นกับฉันเหมือนกัน(แต่กลับกันตรงที่ว่า ญาติๆที่หวังดีทั้งหลายมีเจตนาดี อยากให้ฉันเจอผู้ชายดีๆ(เป็นห่วงตามประสาญาติๆนั่นแหละ) ที่นี้ก็เลยเกิดพฤติกรรมแบบที่ว่าพยายามจะจับคู่ให้ มีการเปิดโอกาส  สร้างสถาณการณ์ดีๆให้ทั้งฉันและฝ่ายชาย มีโอกาสได้พบปะพูดคุยศึกษานิสัยใจคอกัน (เช่น พาฉันไปงานวันเกิดญาติผู้ใหญ่เขา ไปกินข้าวบ้านเขา เขามากินข้าวบ้านฉัน ให้ไปซื้อของด้วยกัน พาแม่เขาไปซื้อผ้ามาตัดเสื้อ(แล้วแม่เขาก็ขอตัวกลับไปก่อน) วันเสาร์ก้ไปพากันแห่ไปคอร์ทเทนนิส (คนนี้เค้าเป็นครูสอนเทนนิสน่ะ)ทั้งๆที่ในบ้านน่ะไม่มีใครเล่นกีฬาชนิดนี้เล้ยย แต่ปัญหาของเรื่องก็คือ...... ฉันยังไม่พร้อมที่จะรักใคร..... ถ้าต้องการเพื่อน ฉันยินดีเป็นเพื่อนกับเขา(ก็คบกันไปในขอบเขตที่เพื่อนควรจะทำ) แต่ถ้าต้องการคนรัก...ฉันไม่พร้อม(ตามเหตุผลของฉันในตอนนั้น) แล้วก็ไม่อยากให้ใครต้องปิดกั้นโอกาสตัวเอง ฝ่ายชายยังมีสิทธิ์ได้เจอคนที่เหมาะสม ปัญหาเรื่องนี้ฉันไม่ได้โทษใคร ไม่ประณามใคร หรือต้องให้ความสงสารกับใครเลยแม้แต่ฝ่ายเดียว วิธีแก้ปัญหาของฉันก็คือ 1. คุยกับแม่ และญาติฝ่ายตัวเอง ว่าฉันยังไม่พร้อมที่จะรักใคร...เข้าใจในความหวังดีของทุกฝ่าย เพราะฉนั้นขอให้เลิกทำแบบนี้เถอะ ฉันให้สัญญากับแม่และญาติๆทุกคนว่า ฉันจะให้โอกาสพวกเขาในการตัดสินใจและมีส่วนร่วมกับความรักในอนาคตของฉัน 2. บอกเหตุผลกับฝ่ายชาย(อย่างที่บกข้างบน) แล้วเรื่องทั้งหมดก็จบ ทุกฝ่ายเข้าใจกันดี ปัจจุบันนี้ฝ่ายชายเขาก็เจอผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขาแล้ว และฉันกับเขาก็ยังคบกันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่....พ่อแม่ฝ่ายชายก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีของแม่ฉันเหมือนเดิม ฉันยังเป็นคนออกแบบ การ์ดแต่งงาน และของชำร่วยให้เขา ฉันออกแบบชุดแต่งงานให้แฟนเขา แค่นี้เอง ง่ายๆ สำหรับเพื่อนเจ้าของกระทู้ มีแฟนอยู่แล้วก็ขอแนะนำ (เพราะยังไงๆสุดท้ายก็ไม่มีทางเป็นแฟนกับน้องเค้าอยู่แล้ว) 1. คุยกับผู้ใหญ่ฝ่ายตัว 2. คุยกับผู้หยิงให้เข้าใจ(ถ้าอยากเป็นเพื่อนก็เคลียร์ไปเลยว่าควรจะวางตัวยังไง ขนาดไหน) ไม่ต้องปล่อยสถานการณ์ให้ยืดเยื้อ..(มัวแต่สงสาร)เพราะรังแต่จะมีผลเสีย.... อธิบายกันขนาดนี้....ทีนี้คงเข้าใจแล้วนะ วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง และนี่คือสิ่งที่ฉันพยายามอธิบายว่า มันคือความถูกต้อง (และคุณต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด) (เซ็งจิต..ต้องมาอธิบายกันขนาดนี้เลยหรือ) แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 46 12:40:17 จากคุณ : เลดี้..จริงๆนะ - [ 9 ส.ค. 46 11:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ลุงเอ๋ย ฉันบอกคุณไปหลายหนแล้วนะว่า อยากได้ข้อมูลอะไร ควรจะถาม(วิธีถามที่เหมาะสมก็มี) ไม่ต้องมัวมาเดาสุ่มเสียก่อนจะตัดสินใจถาม เรื่องที่เถียงกันฉันคิดว่าฉันเข้าใจคุณ เพราะ 1. คุณไม่รู้จักฉัน 2.ฉันไม่รู้จักคุณ แต่ฉันไม่เสียเวลาคาดเดา ว่าคุณจะเป็นยังไงแบบไหน ฉันไม่สนใจ เพราะฉันไม่รู้จักคุณ...... แต่ตอนนี้ฉันคิดว่า... เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ฉันควรจะทำความเข้าใจคุณจะดีกว่า ในฐานะที่..... ทั้งคุณและฉัน ยังต้องใช้อากาศในโลกใบนี้ หายใจร่วมกัน เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ต่อไปฉันจะพยายามเข้าใจคุณให้เยอะขึ้นก็แล้วกันนะ เอ้าเอาไปเลย รูปนี้ฉันวาดให้คุณคาไฟ จากคุณ : เลดี้..จริงๆนะ - [ 9 ส.ค. 46 11:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับ คุณเลดี้ครับ เรามาคุยกันดีๆก็ได้ไม่ใช่เหรอ??? เวลาถกกันด้วยเหตุผล เราจะได้มุมมองกว้างกว่าเดิม แต่เราต้องมีเหตุผลนะครับ อย่างที่คุณเขียนหลังสุดเนี่ยะ ดีแล้ว ผมยังไม่เห็นด้วยแต่ก็เคารพในความคิดเห็นของคุณอยู่ ถ้าจะแย้งก็แย้งกันด้วยเหตุผลที่ดี แต่อย่ามาด่าว่ากัน มันไม่ดีหรอกครับ เคารพความคิดเห็นของคนอื่น แล้วคุณจะได้รับความเคารพกลับ ถ้าดูถูกความคิดเห็นของคนอื่น ก็จะได้รับการดูถูกลับเช่นกัน ถึงเขาไม่เขียนแสดงออก เขาก็จะคิดอยู่ในใจ ขอพูดถึงอีกครั้งและจะไม่พูดอีกเลยจริงๆสัญญานะ การที่ผมตอบคุณรุนแรงบ้าง เป็นเพราะต้องการให้คุณเห็นเท่านั้นว่า สามารถจะทำได้ถ้าคิดจะทำ แต่จริงๆผมไม่ได้ชอบวิธีด่าทออย่างนั้นหรอก แต่เห็นวิธีการที่คุณทำแล้วมันไม่ถูกต้องก็เลยต้องทำให้ดูให้รู้สึกบ้าง ถ้าโกรธก็ขอโทษด้วยก้แล้วกันนะครับ ขอยกตัวอย่างนิดหนึ่งอย่าหาว่าฟื้นฝอยหาตะเข็บเลยครับ เพื่อความเข้าใจ "มุมมองของบุรุษ ก็คงมองได้เท่านี้แหละ(ถึงจะเป็นพ่อคนแล้วก็เถอะ)" "แต่ฉันกำลังออกมาสะกิดให้พวกไดโนเสาร์สมควรจะเอากะลาออกจากหัวเสียที" "เข้าใจนะ (ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร...) (กะลามันคงแข็งมาก)" ขอบคุณอีกครั้งสำหรับดอกไม้ ผมคงให้คุณไม่ได้เพราะทำไม่เป็นครับ(พิมพ์ได้อย่างเดียวก็ยากแล้ว) ขอมอบด้วยใจให้คืนไปสิบเท่านี้ก็แล้วกันครับ จากคุณ : kfai (kfai) - [ 9 ส.ค. 46 22:45:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ฉันเสียใจ ที่ไม่ได้ให้รายละเอียดช่วยขยายความคิดเห็นของฉัน ฉันเคยบอกคุณไปแล้ว ว่าก่อนที่ฉันจะทำอะไร(พูด คิด ทำ ) ฉันยอมรับผลที่จะตามมาเสมอ ไม่เคยหวั่น กลัว หรือ หลบ คุณไม่ยอมรับว่าความคิดเห็นของฉันว่าถูก หรือใช้ได้แค่ไหน ในมุมกลับกัน ฉันก็คิดแบบเดียวกับคุณ ฉันไม่เสียใจหรือคิดจะขอร้องให้คุณยอมรับความคิดเห็นของฉัน คุณมีสิทธิ์จะทำแบบนั้นเช่นกัน ฉันก็เหมือนคุณ ฉันเห็นว่าคุณมองในมุมของผู้ชายที่เป็นพ่อ คุณก็คิดว่าฉันมองในมุมที่เป็นเด็ก(กว่าคุณ)ผู้หญิง และคห.สุดท้ายที่ทำให้ฉันเขียนแบบนั้น เพราะเหตุผลในคห.ที่ 24 ของคุณ ส่วนเรื่อง คุยกันดีๆหรือไม่ดีน่ะ ฉันคิดว่าคงต้องคุยแบบนั้นกับคุณ เพราะฉันจำได้ว่า คุณเป็นคนเริ่มวิธีการพูดรุนแรงกับฉันก่อน ในกระทู้เรื่อง สถาปนารัฐอิสลามปัตตานี ฉันใช้วิธีเดียวกับที่คุณทำนั่นแหละค่ะ คุณแสดงมายังไงฉันก็เลยต้องตอบโต้กลับไปแบบนั้น และฉันก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไรคุณเลย ส่วนความคิดเห็นสุดท้ายที่คุณอ่านแล้วรู้สึกว่าฉันพูดดีๆกับคุณ นั่นก็เป็นเพราะว่า ฉันให้รายละเอียดบางส่วน มาขยายความคิดเห็นของฉัน (ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องปรกติที่ฉันจะทำบ่อยนัก) เอาเป็นว่า ฉันกับคุณ มาปรับวิธีการเขียนเวลาแสดงความคิดเห็นน่าจะดีกว่าคงจะคุยกันรู้เรื่องมากกว่านี้ จากคุณ : เลดี้..จริงๆนะ - [ 9 ส.ค. 46 23:37:07 ]