ความคิดเห็นที่ 1 ตั้งทู้เตรียมไว้ให้คนตื่นเช้าน่ะ จากคุณ : เย้ ที่ ๑ - [ 2 ก.ย. 46 02:12:38 A:203.113.34.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลมโชยโบยโบกพัด............. ปัดไกว โรมเร้าเจ้าสองใบ ............. เย็นเยือก บรรรจงรีบปอกไข่ ............. ใส่ปาก กินหมดเหลือแต่เปลือก .... ก่อนที่ มันเย็น จากคุณ : โตลงสี่ ไม่สุภาพ (K_9) - [ 2 ก.ย. 46 07:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลมโชยโบยโบกพัด..........ปัดไกว ใยจึ่งซาบซ่านใจ..............อยากรู้ พัดลมอยู่เคียงข้างไง........สดชื่น จริงนา หากคู่ชิดเชยชู้...............อยู่ใกล้ คงดี อะแฮ่ม.. :-P จากคุณ : โคลงเคลง* - [ 2 ก.ย. 46 11:41:39 A:219.118.69.190 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลมโชยโบยโบกพัด...........ปัดไกว เผลอหลับน้ำลายไหล........อาบแก้ม เพลินลืมตื่นเพลิดไป.........จนค่ำ งงแฮ เต็มท่วมหูเยิ้มแย้ม............โธ่..น้ำ ลายเรา แหยะ >_< จากคุณ : ครองแครง* - [ 2 ก.ย. 46 11:46:06 A:219.118.69.190 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลมโชยโบยโบกพัด.............ปัดไกว ล้านเลื่อมเงาหัวใคร.........ส่องเปรี้ยง แปลบแปลบเห็นแต่ไกล....โป๊งเหน่ง เข้าใกล้ที่แท้ อ้อ !!..................สายตรวจ ปิงปอง -'๏'- || -'๏'- จากคุณ : Kapoke - [ 2 ก.ย. 46 17:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ฮี่ ฮี่ เก่งจัง .. ทุกคนเลย .. ปรบมือๆๆ ๆ ๆ :D :D อีก อีก .. พลีส..ส .. เราขอเปลี่ยนนิดนึงนา น้ำเอยชุ่มฉ่ำใน ไพรสณฑ์ --> น้ำฉ่ำชื้นชุ่มใน ไพรสณฑ์ จากคุณ : อัศวายุ (แซ่เบ๊) - [ 2 ก.ย. 46 19:23:38 A:203.113.34.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 จะเขียนโคลงสี่สุภาพใช่เป่า เขียนตามผังนี้เด้อ หมายอ้อ อ้อ ๑ - สี่คำสุดท้ายจะเขียนติดกันจ๊ะ อ้อ ๒ - เขียนบ่อยๆ เดี๋ยวก็จำตำแหน่งเอกโทได้เองแหละ จากคุณ : รองเมือง - [ 2 ก.ย. 46 22:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลมเอ๋ยฝากสุขให้......เพื่อนเกลอ ฝนฉ่ำฉ่ำใจเสมอ......อย่าเศร้า ไฟฟืนอย่าละเมอ......ทานเล่น ควันฝุ่นผงขี้เถ้า........ม่อเจี้ยะจริงจริง (ม่อเจี้ยะ=ไม่น่ารับประทาน) จากคุณ : รองเมือง - [ 2 ก.ย. 46 22:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ-ดีตเลยผ่านแล้ว........ เพื่อนเอย ผันผ่านแล้วผ่านเลย.... ห่อนแก้ เพียงจำสิ่งดีเคย........... ทำร่วม กันมา จำสิ่งร้ายแม่นแท้......... รุ่มร้อนใจตน สิ่งดีดีที่ให้................... แก่กัน มอบสุขทุกคืนวัน....... ผ่านแล้ว หากหลงสุขหลงฝัน... ปี้ป่น ใจเฮย วันเก่าพ้นผ่านแล้ว.... ไป่แคล้วคืนหวน อ้าว!! จากคุณ : ฮร่า ฮร่า ฮร่า - [ 3 ก.ย. 46 02:21:48 A:169.210.5.166 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 เก่งกันจิงจิงๆๆๆ จากคุณ : *Cookies* - [ 3 ก.ย. 46 10:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 *ความหมายของโคลงใน คห.9 โดนใจ มากกก.... สะเทือน จนต้องสะท้อนออกมา จนได้* จากคุณ : *ว่าจะไม่แล้วเชียว (blue river) - [ 3 ก.ย. 46 10:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ลมโชยโบยโบกโซ้ย............ไอติม ปาท่องโก๋หยิบชิม...............อิ่มท้อง อีกชามต่อปลากริม..............ไข่เต่า ขนมจีบหน่อยมั้ยน้อง..........แค่นี้อิ่มฤา -----------อิอิ...แวะมาแจม--------------- จากคุณ : มัชชี่ - [ 3 ก.ย. 46 16:14:55 A:203.113.36.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลมโชยโบยโบกแล้ว............ตาปรือ พุงหนักตาหย่อนยื้อ............บ่ได้ นอนกรนคร่อกฟี้บรื้อวว.......แสนสุข ฝันต่อเรื่องกินไซร้...............หลับด้วยสบายพุง จากคุณ : มัชชี่ - [ 3 ก.ย. 46 16:20:10 A:203.113.36.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ฝนเอยช่างตกได้ ................... ตกดี ฟ้าหม่นหมองหม่นฤดี ........... เบื่อเศร้า เห็นทีจักแจวหนี ................... สู่โลก NETแล ใสสว่างทั้งค่ำเช้า ................. มากยิ้มมิตรสหาย ......... หมายเอ้อ เอ้อ ๑ ... 'ไมไม่มาเขียนกันอีกล่ะ เอ้อ ๒ ... เขียนถูกเขียนผิดก็ได้ แล้ว รม จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับโคลงข้างบน ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 3 ก.ย. 46 22:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อะไรคือหมายอ้อ หมายเอ้อ อ่ะ มาจากหมายเหตุเหรอ .. ฮา ฮา เพิ่งเคยได้ยิน #7 ขอบคุณฮะน้ารอง .. ขอส่งพรุ่งนี้ได้เป่า (โห ต้อง edit อีกเหรอเนี่ย ;p ;D) สวัสดีค่ะ คุณมัชชี่ blue river #9 คนนี้เก่งอยู่แล้ว ขี้เกียจชมแล้ว เดี๋ยวเหลิง #10 เนอะ เห็นด้วยๆๆ ๆ จากคุณ : อัศวาศรี - [ 4 ก.ย. 46 01:11:11 A:203.113.35.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ฝนเอยฝนท่วมฟ้า...............วันคืน ฟ้าแล่บฟ้าลั่นครืน...............โศกเศร้า ฤาร้อนรุ่มใครขืน................ใครข่ม ใจเฮย ทว่าน้ำตาเจ้า.....................เหล่าไม้ชื่นใจ จากคุณ : โครมคราม* - [ 4 ก.ย. 46 06:46:33 A:219.118.68.154 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 อดีตเลยผ่านแล้ว................ผ่านไป ตามกาล เหลือสิ่งดีเก็บไว้.................อย่าขว้าง ยามเหน็ดเหนื่อยบ่ไหว........ปัดฝุ่น ใจเอย เอาสิ่งดีออกดูบ้าง...............ก่อนสู้ต่อไป (ไอ้)มดแดง จากคุณ : คร่ำครวญ* - [ 4 ก.ย. 46 06:50:56 A:219.118.68.154 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 น่าน!! สู้เค้า ทาเคชิ* อิ อิ ครานี้ก็ตาเราแล้วสิ ;p ;p ............ ลมโชยโบยโบกแล้ว..... ใบ้กิน โคลงสี่หมดสภาพบิน.. ไม่ได้ คิดเขียนต่อเจอหิน....... เลยท่าน แจวถ่อดำผุดแล้ว......... โผล่ได้ เกือบตาย จากคุณ : อัศวายุ(บ) - [ 4 ก.ย. 46 20:59:47 A:203.113.34.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ดึกดื่นแล้วพี่แก้ว...................ยอดขวัญ ฤาหลับรื่นเริงฝัน..................โลกกว้าง แม้ยามตื่นตะวัน...................บ่คิด ถึงเลย นิดหน่อยฝันถึงบ้าง...............แน่แท้ปลาบปลื้ม ยินดี :-) จากคุณ : ทาเคชิ* - [ 5 ก.ย. 46 00:57:04 A:219.118.67.154 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลมโชยโบยไผ่พริ้ว.............. เอนไหว ลมอ่อนซ้อนกิ่งใบ................ ไผ่ส้อน ลมรักกรุ่นละไม............... ใจอุ่น หวามนา ลมป่ากเจ้าผ่าวร้อน............ อย่ากอ้อนออดขวัญ ฝนเอยยามต่กเจ้า................ ท่วมนา ฝนหลั่งดั่งน้ำตา.................... สุ่ดห้าม ฝนยามหยุ่ดท้องนา............... แห้งเหื่อด ฝนอย่างนี้น่าคร้าม................ ห่อนห้ามใจไหว จากคุณ : คริ คริ คริ - [ 5 ก.ย. 46 03:50:52 A:169.210.5.238 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 ที่บอกว่าจะมาเล่าเกี่ยวกับโคลงที่แต่งก็คือ โคลงบทนั้นมาจากความพยายามจะแนะนำวิธีเขียนโคลงให้ง่ายเป็นปอกกล้วยเข้าปาก (ถ้าปอกกล้วยเข้าปากยังยากไป ขอเปลี่ยนเป็นเทน้ำใส่แก้วแล้วดื่ม) เรื่องที่จะเล่ามีอยู่ว่า ... การหัดเขียนช่วงแรกๆ อาจเขียนโดยไม่ดูบังคับเอกโท ให้เขียนไปเลยแล้วมาจัดคำทีหลัง เช่น ฝนตกทุกวัน ฟ้าหม่นสลัวชวนให้เศร้าใจ เห็นทีต้องต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่ โลกเสมือนมากรอยยิ้ม อากาศก็ดีทุกวัน จากนี้จึงค่อยมาปรับข้อเขียนที่ร่างไว้ให้เป็นโคลง ซึ่งอันนี้อาจจะปรับที่บาท ๒ ก่อน จะได้เลือกได้ว่า จะให้คำที่ต้องลงสัมผัสทั้งสองชุดเป็นสระอะไร "ฟ้าหม่นสลัวชวนให้เศร้าใจ" ปรับเป็น >>> ฟ้าหม่นสลัวชวน ...... ให้เศร้า (ตัดคำว่า "ใจ" ออก) ต่อมา ปรับ "ให้เศร้า" ให้เป็นเอก-โท เช่นปรับเป็น "เบื่อเศร้า" จากนี้ก็จะได้ ๑ บาทแล้วคือ ... ฟ้าหม่นสลัวชวน .......... เบื่อเศร้า เมื่อได้ตรงนี้ ก็อย่างลืมว่า บาทอื่นๆ ต้องสัมผัสกับคำว่า "ชวน" กับคำว่า "เศร้า" ตามแต่ตำแหน่งที่บังคับให้มีสัมผัส ย้อนกลับไปบาท ๑ "ฝนตกทุกวัน" คำน้อยไป ก็ขยายความให้มากขึ้น เช่น "ฝนเอยช่างตกได้..........ตกดี" จะเห็นว่าจำนวนคำพอดีแล้ว แต่ "ดี" ไม่สัมผัสกับคำว่า "ชวน" ในบาท ๒ ก็เลยต้องแก้ใหม่ ตรงนี้สามารถเลือกได้ว่าจะแก้ "ดี" หรือ แก้ "ชวน" สมมติว่า แก้ "ชวน" ก็ย้อนกลับไปแก้บาท ๒ และสมมติแก้เป็น "ฟ้าหม่นหมองหม่นฤดี .......... เบื่อเศร้า" ต่อไปบาท ๓ ก็แก้ให้มีการรับสัมผัสกับ "ดี" เช่น "เห็นทีต้องต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่" >>> เห็นทีจักแจวหนี ........ สู่ที่ ใหม่แล สุดท้ายบาท ๔ "โลกเสมือนมากรอยยิ้ม อากาศก็ดีทุกวัน" ต้องมีคำสัมผัสกับคำว่า "เศร้า" ในบาท ๒ ไล่สระเอาดูแล้ว นึกได้ ๒ คำ คือ "เข้า" กับ "เช้า" ลองเลือกเอาคำว่า "เช้า" เข้ามาใช้ โลกเสมือนสดใสทุกค่ำเช้า ..... มากยิ้มมากมี แต่คำจะเกินไปเยอะ เลยต้องหดคำเป็น "สดใสทุกค่ำเช้า ....... มากยิ้มมากมี" จากนั้นสลับคำว่า "สดใส" เป็น "ใสสด" เพื่อให้ถูกตามบังคับเอก แต่พอตัดคำ "โลกเสมือน" ออกไปเนื้อความก็หายไปด้วย เลยย้อนกลับไปแก้บาท ๓ เห็นทีจักแจวหนี ........ สู่ที่ ใหม่แล >>> เห็นทีจักแจวหนี ........ สู่โลก  NETแล ก็เป็นอันว่า ตอนนี้เราได้โครงร่างโคลง ๑ บทที่มีเนื้อหาที่ต้องการแล้ว ฝนเอยช่างตกได้ .................... ตกดี ฟ้าหม่นหมองหม่นฤดี .......... เบื่อเศร้า เห็นทีจักแจวหนี ................... สู่โลก  NETแล ใสสดทุกค่ำเช้า .................... มากยิ้มมากมี จากโครงร่างนี้ก็ตกแต่งขั้นสุดท้ายตามที่ต้องการจนพอใจ ฝนเอยช่างตกได้ ................... ตกดี ฟ้าหม่นหมองหม่นฤดี ........... เบื่อเศร้า สุดทนจักแจวหนี ................... สู่โลก  NETแล ใสสว่างทั้งค่ำเช้า ................. มากยิ้มมิตรสหาย ......... แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 46 23:52:56 จากคุณ : รองเมือง - [ 5 ก.ย. 46 23:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หมายอ้า อ้า (๑) ... การเขียนโคลงไม่จำเป็นต้องเขียนตามวิธีข้างบนเสมอไป แต่วิธีข้างบนนี้เชื่อว่าจะทำให้คนไม่เคยเขียนโคลงสามารถเขียนได้ง่ายขึ้น อ้า (๒) ... หมายอ้อ หมายเอ้อ ก็ครือๆ กับ หมายเหตุ นั่นแหละเจ๊า ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 5 ก.ย. 46 23:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 23 *ฝนพรำเย็นฉ่ำชื้น............รื่นใจ ตกเถิดเพื่อดับไฟ.............อกข้าฯ แดดเผาเร่าร้อนไหม้..........พิษหม่น ทรวงหมอง ออกห่างร้างเรื่องล้า...........ก่อนบ้ามาเยือน* จากคุณ : blue river - [ 6 ก.ย. 46 10:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เหนื่อยนักพักก่อนเถิด .. น้ำเอย ไหลผ่านสิ่งใดเอย ......... อ่อนล้า ดินแล้งยังชุ่มได้ ............. สายน้ำ ปลอบโยน น้ำหม่นข้นตะกอนไซร้ .. ผู้ใด ช่วยกัน จากคุณ : ถูกผังเปล่าเนี่ย - [ 6 ก.ย. 46 15:39:09 A:203.113.34.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 #20 ใส่ไม้เอก ไม้โท ยังงั้นเลยเหรอ เข้าใจเล่นนิ ;-) #21 เทคนิคเพียบเลยอ่ะ จะไปไหนๆ ต้องระวังช่างกลด้วยหรือเปล่าเนี่ย ฮี่ ฮี่ ;D ขอบคุณคร้าบ :-) จากคุณ : อัศวาศักดิ์ - [ 6 ก.ย. 46 15:55:13 A:203.113.34.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 คราวนี้มาเล่าต่อว่า ๑. ตรงบังคับเอกไม่จำเป็นต้องมีไม้เอกเสมอไป สามารถอนุโลมใช้ "คำตาย" แทนได้ "คำตาย" ก็คือคำจำพวกที่สะกดด้วยแม่ กก กด กบ เช่น กก กด กบ เป็นต้น (ยกตัวอย่างง่ายดีจังเน๊อะ) หรือคำจำพวกที่ประสระเสียงสั้น เช่น อะ อิ อุ เอะ แอะ เช่น ฮระ ฮริ แฮระ ฮรึ หุ หึ แหะ เป็นต้น ส่วนบังคับโท ตัดแปลงบ่ได้ ต้องมีไม้โทเสมอ ๒. ถ้ามีปัญหาเรื่องจำนวนคำมากเกินไป สามารถอนุโลมพวกสระเสียงสั้น ไม่ต้องนับเป็นหนึ่งคำได้ เช่น คำว่า พยายาม มี ๓ พยางค์ คือ พะ-ยา-ยาม แต่พยางค์แรกคือ พะ ปกติจะอ่านเร็วๆ เป็น พ่ะ ตรงนี้สามารถอนุโลมได้ว่า พะ จะไม่นับเป็น ๑ คำก็ได้ ทำให้ พยายาม นับเป็น ๒ คำก็ได้หรือ ๓ คำก็ได้ หลักการนี้ใช้ได้กับพวกพยางค์ที่ออกเสียงเป็นสระเสียงสั้นได้แทบทั้งหมด เช่น สิริ นับเป็น ๑ คำ หรือ ๒ คำก็ได้ ......... จากนี้จะเห็นได้ว่าเมื่อคำที่บังคับเอก ไม่จำเป็นต้องมีไม้เอก โคลงก็จะแต่งง่ายขึ้นมากเลย ตัวจริงฯ (169.210.5.238) ที่เขียนในกรอบ ๒๐ ก็ไม่ต้องใส่ไม่เอกอีกแล้ว ส่วนของ มัชชี่ ใกล้เคียงโคลงสี่สุภาพมาก ยกเว้นคำที่เป็นชุดสัมผัส ๓ คำ ต้องเป็นคำสุภาพ คำสุภาพก็คือคำที่ไม่มีวรรณยุกต์ใดๆ คือ ไม่มีไม้เอก ไม้โท ไม้ตรี และไม้จัตวา ของคุณ blue river ชุดสัมผัส ๓ คำ คือ ใจ-ไฟ-ไหม้ ยังไม่เป็นคำสุภาพอยู่คำนึง ของ กจ ตกสัมผัสไป ๒ จุดคือ เอย-เอย-ได้ ต้องให้เป็นเสียงเดียวกัน เช่น เอย-เลย-เคย และเป็นคำสุภาพ อีกคู่สัมผัสคือ ล้า-ไซร้ ต้องเปลี่ยนให้เป็นเสียงเดียวกัน เช่น ล้า-ช้า หรือ ให้-ไซร้ เป็นต้น อีกคน 219.118.68.154 (ใครหว่า) ชุดสัมผัส ๓ คำ ยังไม่เป็นคำสุภาพทั้งหมด (กรอบที่ ๑๗) ......... การละเล่นหมากรุก ต้องจำหลักเกณฑ์วิธีเดินแต่ละตัวได้ ถึงจะเล่นหมากรุกได้ โคลงสี่สุภาพก็ก็เช่นเดียวกัน คือมีหลักเกณฑ์การเขียนอยู่นิดหน่อย ซึ่งเมื่อเขียนได้ตามเกณฑ์แล้ว ก็ถือว่าเขียนโคลงได้แล้ว ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 6 ก.ย. 46 21:13:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หนุกมากเลย คุณรองเมืองคะ เยี่ยมเลย ขอบคุณมากที่มาบอกวิธีต่างๆ ว่าแต่ว่า เรายังไม่ค่อยเข้าใจเรื่อง "คำสุภาพ"ล่ะ หมายถึงว่า... อย่างเช่น เฉย-เมย-เขย.......นี้สุภาพ ซ้อง-ร้อง-ข้อง......นี้สุภาพ ดี-พี่-สี................ไม่สุภาพ(เพราะ พี่ มีไม้เอกติดมา ไม่เหมือนคนอื่นเค้า ถูกต้องมั้ย?) อ้อ 219.118.68.154 เนี่ย เราเองจ้ะ ;-D จากคุณ : ทาเคชิ* - [ 6 ก.ย. 46 21:34:56 A:219.118.68.241 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่า.... มาอ่านทวนหลายๆที เข้าใจล่ะ.. หมายถึงว่า จะต้องไม่มี ไม้เอก ไม้โท ก็แปลว่า.. เฉย-เมย-เขย นี่ใช้ได้ ซ้อง-ร้อง-ข้อง นี่ไม่ได้เลยซักตัว ดี-พี่-สี นี่ "พี่"ตัวนึงที่ไม่ได้ ใช่มั้ย? จากคุณ : เรา* - [ 6 ก.ย. 46 21:47:43 A:219.118.68.241 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 คำสุภาพคือ คำที่ไม่มีไม้เอก ไม้โท ไม้ตรี ไม้จัตวา "เฉย-เมย-เขย.......นี้สุภาพ " แม่นแล่ว "ซ้อง-ร้อง-ข้อง......นี้สุภาพ" บ้อแม่น ต้องเป็น ซอง-รอง-ของ "ดี-พี่-สี................ไม่สุภาพ(เพราะ พี่ มีไม้เอกติดมา ไม่เหมือนคนอื่นเค้า ถูกต้องมั้ย?)" เหตุผลที่แจงมา ยังบ้อแม่น ต้องไม่มีไม้เอก ไม้โท ไม้ตรี ไม้จัตวา ทุกคำ ......... "เราเอง" เนี่ยใครเหรอ ? หนูขิง ? .......... จากคุณ : รองเมือง - [ 6 ก.ย. 46 21:52:15 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ป่าวหนูน้ำขิง เราเอง* = ซิลลี่* เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากๆฮ่ะ ว่างๆจะแต่งอีก ชอบ หนุกดีจ้ะ จากคุณ : *_* - [ 6 ก.ย. 46 22:49:31 A:219.118.68.241 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตำหนวดกวดล่อซื้อ .......... กาเม ฮิฮา เขาว่าท่านเกเร ................. กลั่นแกล้ง เสี่ยอ่างยกพลเฮ- ............. โลมั่ง แจ้งจับตำหนวดแสร้ง ....... ล่อเล้าโลมลวง ดูดูชักจะหมั้ว .................. แล้วซี นางนวดบ่ใช่ชี ................. ผ่องแผ้ว ตำหนวดติดคดี ............... ส่วยอ่าง วุ่นนา ฤๅนี่คงมิแคล้ว ................ จากจ้องจองเวร ......... แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 46 23:09:37 จากคุณ : รองเมือง - [ 6 ก.ย. 46 22:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เธอคือนู๋ซิล (silly*) ่อะน้ารอง :D :D เราเพิ่งรู้ว่าที่เรียกกันว่าโคลงสี่สุภาพ คือมีสัมผัส 3 คำ ที่เป็นเสียงสามัญ แล้วสี่มากจากไหน 4 บท เป็นหนึ่งบาท งี้ 1 บท = 1 สลึง พอดีเด๊ะเลยสิ อย่างมากเราก็แค่หัดด้นกลอนแปด แล้วที่ เป็นคำลงมาสี่ตัว ค่อยต่อแต่ละบทเรียกอะไร? ไม่รู้จริงๆ จากคุณ : อัศวานร - [ 6 ก.ย. 46 22:59:39 A:203.113.35.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอ๋า... มากันแล้วนิ ;D ไปแจมกลุ่มย่อย กวีการเมือง บ้างเปล่าอะน้า หมั้ว -> นี่โกงวรรณยุกต์นี่หว่า อ้อ.. เทคนิคๆ ;-) จากคุณ : ช่างกล - [ 6 ก.ย. 46 23:05:07 A:203.113.35.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 กจ ... รม ก็ไม่รู้ว่าทำไมเรียกโคลงสี่ แต่คงไม่ใช่เพราะมีคำสุภาพ ๔ คำ เพราะยังมีโคลงสอง โคลงสาม โคลงห้า อีก คำสุภาพ ไม่จำเป็นต้องเป็นเสียงสามัญเสมอไป เช่น รัก-นัก-จัก เป็นคำสุภาพ แต่เสียงเป็นเสียงตรีกับเสียงโท "แล้วที่ เป็นคำลงมาสี่ตัว ค่อยต่อแต่ละบทเรียกอะไร?" เรียกว่า โคลงกระทู้ คลับ ... คล้ายวันนี้หยุด ............ ราชการ ราช ..... ประสงค์รถคลาน ......... เต่าเตี้ยม ดำ ...... ดินคิดฝันหวาน ............ ถึงที่ เร็วแฮ เนิน .... สะพานเบลเหยี้ยม ........ นึกท้อขอบิน "หมั้ว -> นี่โกงวรรณยุกต์นี่หว่า " ฮิฮิ แต่งเล่นๆ อย่าซีเรียส ใหม่ๆ สด "สะพานเบลเหยี้ยม" ฮะฮา ......... 219.118.68.241 คือ คุณซิลลี่ ที่ไปฟังเพลงกระทู้ป๋าวี แล้ว 169.210.5.238 ใช่ ตัวจริงฯ หรือเปล่า ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 6 ก.ย. 46 23:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณครับ น้า รม. เดิมเห็นโคลงสี่ฯ มันจุกจิก กฏเกณฑ์เยอะ เลยรู้สึกไม่น่าเล่น เพิ่งรู้สึกอยากเล่นก็เมื่อมีคนใจดีมาย่อยให้ดูก็ทู้นี้แหละ ไม่ค่อยขี้เกียจเลยเนอะ? อิ อิ อิ (โคลงสี่ฯ ที่มั่วออกมาบทแรกในชีวิต แต่งเล่นตอบครูเกียนฯ คิ คิ) แต่ผมยังไม่เข้าใจอยู่บางอย่างครับ เดิมเข้าใจว่าเค้าเอาที่เสียงเป็นสำคัญซะอีก ตกลง 'รูป' ก็สำคัญด้วยเอ๋อฮับ? หยั่งใน #9 ของผม หัวบทที่สอง 'สิ่งดีดีที่ให้................... แก่กัน' คำว่า 'ที่' มีไม้เอก แต่ตกเสียงโท งี้ใช้ได้ป่าวฮับ? แล้วใน #20 บทที่หนึ่ง บาทสอง 'ลมอ่อนซ้อนกิ่งใบ................ ไผ่ส้อน' คำว่า 'ซ่อน' ใช้ได้อ๊ะป่าวเอ่ย? เพราะเสียงโท แต่รูปเป็นเอก แล้วเค้าอนุโลมให้ใช้ 'ส้อน' แทนมั้ยน่ะ? หมายอู้ (มั่งจิ มั่งจิ คิ คิ) อู้หนึ่ง คิดว่า 'คำสุภาพ' คือคำที่ไม่หยาบคายซะอีกง่ะ ;-P อู้สอง ดูท่าน้าจะชอบเล่นหมากรุกแฮะ พอได้ยินพูดถึงแล้วผมคันมือคันไม้ขึ้นมาเชียว ไม่ได้เล่นนานมากแล้วง่ะ แฮ่!! จากคุณ : เอี้ยก้วย - [ 7 ก.ย. 46 00:21:21 A:169.210.7.68 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 แหะ แหะ หวัดดีทุกท่านขอรับ ผมโหลดทู้ไว้หลายชะโมงและ ทำโน่นทำนี่แล้วก็มาตอบแล้วก็ไปทำนู่นนี่อีก ;-) จากคุณ : สวัสดีมีสุข ทุกท่าน - [ 7 ก.ย. 46 00:36:06 A:169.210.7.68 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณ รม เราว่าเรารู้เรื่องนิดหน่อย เกี่ยวกับโคลงสี่ (สุภาพรึเปล่าไม่รู้) เราจำได้รางๆว่า ให้ใช้วรรณยุกต์ เอก-โท แทนกันได้ด้วย แต่เท่าที่มาอ่านจากกระทู้นี้ เราเลยสงสัยว่าที่เรารู้มาอาจผิด แปลว่า วรรณยุกต์ เอก-โท ต้อง เป๊ะๆ ใช่ไหม แบบว่า ทดแทนกันไม่ได้ เออ ยากดีแฮะ งั้น เราลองของเก่าใหม่ดูอีกทีนะ -------------------------------------------------------- *ฝน..พรำเย็นฉ่ำชื้น..................รื่นใจ ตก..เถิดเพื่อดับไฟ....................อกข้าฯ แดด..เผาเร่าร้อนใน...................ทรวงหม่น หมองเอย ออก..ห่างร้างเรื่องล้า.................ก่อนบ้ามาเยือน* -------------------------------------------------------- เราไม่ถนัดจริงๆนะ เรื่องโคลงไปเคลงมา แต่ก็อยากลองของ ถ้าอย่างไร โปรดอธิบาย โดยละเอียด (โดยรองเมือง) อย่างละเอียด อีกหน่อยได้บ่ ขอบคุณมา ณ ที่นี้ จากคุณ : blue river - [ 7 ก.ย. 46 01:40:05 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ลมโชยโบยโบกล้อ...............อารมณ์ ลมผ่านเรื่องร้ายขม.............หม่นไหม้ ลมบอกเล่าข่าวชม...............ใจชื่น ลมขยันสื่อสารให้................รับรู้ข่าวคราว จากคุณ : เจ้าป้า - [ 7 ก.ย. 46 13:36:17 A:203.113.36.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ ตัวจริงฯ ... ตรงที่บังคับเอกมีไม้เอก ถ้าได้เสียงโท ก็ไม่เป็นปัญหา กลับจะช่วยทำให้โคลงมีสีสันน่าฟังไปอีกอย่าง ยกตัวอย่าง เสียงลือเสียงเล่าอ้าง ......... อันใด พี่เอย เสียงย่อมยอยกใคร ........... ทั่วหล้า "เล่า" "ย่อม" "ทั่ว" รูปเอก แต่เป็นเสียงโททั้งหมด เช่นเดียวกัน ตรงที่บังคับโท ก็อาจเป็นเสียงตรีก็ได้ นี่ก็ช่วยให้เสียงโคลงมีสีสันในการฟัง การบังคับเอก-โท อีกนัยหนึ่ง ก็คือบังคับให้เล่นกับระดับเสียงนั่นเอง สรุปอีกทีว่า บังคับเอก อนุโลมให้ใช้ คำตาย แทนได้ ส่วนบังคับโท โบราณคงเจตนาให้ใช้แต่ "คำเป็น" เพื่อให้เสียงทอดยาวรื่นหู (คำเป็น ผันวรรณยุกต์โทได้ แต่ คำตาย ผันวรรณยุกต์โทไม่ได้) 'สิ่งดีดีที่ให้................... แก่กัน' <<< "ที่" ไม่เป็นปัญหา 'ลมอ่อนซ้อนกิ่งใบ......... ไผ่ส้อน' <<< เขียนเล่นๆ ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขียนไปตีพิมพ์หรือประกวดเขาอาจไม่รับ ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 7 ก.ย. 46 15:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ blue river บังคับเอก ไม่มีไม้เอกก็ได้ ถ้าใช้คำตายแทนเอก แต่บังคับโท ต้องมีไม้โทเสมอ ส่วนที่ถามว่า เอก-โท สลับตำแหน่งกันได้หรือเปล่า ตอบว่า ได้ครับ แต่สลับได้เฉพาะบาทแรก ดูตัวอย่างจากบาทนี้ครับ คลับ ... คล้ายวันนี้หยุด ............ ราชการ โคลงที่แต่งในกรอบ ๓๗ นั่นใช้ได้เลยแหละ ......... เจ้าป้า ... โคลงใน ๓๘ ใกล้เคียงความจริงมากเลย แต่ตรงบาทที่ ๔ "ขยัน" เมื่อไม่นับ "ข-" เป็น ๑ คำ ก็ไม่นับว่า มีเอก ตรงนี้ด้วยจ้า ลม (๑) ข-(ไม่นับ) -ยัน (๒) สื่อ (๓) สาร (๔) ให้ (๕) บทนี้มีพัฒนาการจากบทก่อนมาก แสดงว่าคนแต่งเก่ง หรือโคลงแต่งไม่ยากละเนี่ย (ฮิฮิ) ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 7 ก.ย. 46 15:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แดดล่มลมตกแล้ว.............ใจสบาย แดดออกร้อนเจียนตาย.......แสบเนื้อ แดดอ่อนค่อยผ่อนคลาย.....ความอุ่น แดดหมดราวหมดเชื้อ.......มอดแล้วฟืนไฟ จากคุณ : เจ้าป้า - [ 7 ก.ย. 46 17:43:06 A:203.113.37.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 ฝนโปรยสายฉ่ำชื้น................เซาะดิน กระหน่ำดั่งเคยชิน................อย่างนั้น ฟ้าร้องลั่นได้ยิน....................แสบโสต แสงแปลบปลาบฉายชั้น.........ศิลป์ฟ้ามองเพลิน + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + ขอบคุณคุณรองเมืองค่ะ ได้ความรู้เพิ่มมากมายเลยค่ะ ...โคลงสี่สุภาพ มีเสน่ห์จริงๆ นะคะ แต่งแล้วติดลม....อิอิ จากคุณ : เจ้าป้า - [ 7 ก.ย. 46 17:56:19 A:203.113.37.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 เจ้าป้า อารมณ์กวี มากเลย แต่งแล้วติดลม :-) เรารึ! แต่งแล้วอยากจะเป็นลม .. คร่อกๆ ให้ขีดเขียนเล่นๆ น่ะพอได้ แต่ยอมรับอย่างว่าได้ความรู้เพิ่มจากน้ารองจริงๆ (( อันนี้ลอกมาล้วนๆ เลยจ้ะ )) ........ นานาประเทศล้วน ..นับถือ คนที่รู้หนังสือ ................... แต่งได้ ใครเกลียดอักษรคือ ......... คนป่า ใครเยาะกวีไซร้ ............... แน่แท้คนดง ..................................... [พระนลคำหลวง ร.๖] .............. มีความรู้แต่น้อย ... แต่งตาม รู้เฮย เพื่อให้มหิษี ......................... อ่านบ้าง หากรอต่อมีความ ............... รู้มาก จึงแต่งจะเลยค้าง ............... อีกนาน [ เค้าจะหมายถึงแต่งหนังสืออย่างเดียวป่าวไม่รู้ ;p ;-) จากนารายณ์สิบปาง ร.๖] (( เราไม่ได้อ่านทั้งสองเล่มน่ะ ลอกมาจากลอกอีกที )) จากคุณ : อัศวาปี - [ 8 ก.ย. 46 18:49:52 A:203.113.34.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 แต่งกันเก่งๆ ทั้งน้านนน นับถือ นับถือ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าน้าเป็นเซียนโคลงสี่สุภาพ เราแต่งบ่เปงง่ะ ไว้ว่างก่อง แล้วจะมาลองเล่นมั่ง แต่ก่อนไม่ค่อยชอบโคลงสี่สุภาพ เพราะรู้สึกว่าเป็นโคลงของคนแก่ (อิ อิ ยัยแป้นวางระเบิด ) แต่มาอ่านตอนนี้แล้วชอบ สงสัยเราจะแก่จริงๆ (อ้าวว!!) จากคุณ : ล้อออ เล่นนน เด้อ ;p กลัวโดนยำ ('Louise') - [ 8 ก.ย. 46 20:46:15 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แหะ แหะ ตอบผิดทู้ง่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 46 20:49:23 จากคุณ : (",) ('Louise') - [ 8 ก.ย. 46 20:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เอาโคลงหวานๆ มาฝาก (อิอิ) เผื่อจะลักจำไปเขียน ๑. นรินทร์ อิน ... เอียงอกเทอกอ้าง ............. อวดองค์ อรเอย เมรุชุบสมุทรดินลง ........... เลขแต้ม อากาศจักจานผจง ........... จารึก พอฤๅ โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม ........ อยู่ร้อนฤๅเห็น ("เมรุชุบสมุทรดินลง .... เลขแต้ม" หมายความว่าเอาเขาพระสุเมรุแทนปากกา เอาทะเลแทนน้ำหมึก แล้วเขียนบอกรักบนพื้นดิน ) ๒. ลิลิตตะเลงพ่าย ... ขานางนึกคู่คู้ .................. ขาสมร พลางพี่โอบเอวอร ............ แอบเคล้า กระทุ่มดั่งทุ่มกร ............... ตีอก เรียมฤๅ เกดว่าเกศนุชเคล้า ............ กลิ่นกลั้วเสาวคนธ์ ๓. สนทรภู่ ... เสียดายสายสวาทโอ้ ......... อาวรณ์ รักพี่มีโทษกรณ์ ................. กับน้อง จำจากพรากพลัดสมร ........ เสมอชีพ เรียมเอย เสียนุชดุจทรวงต้อง ........... แตกฟ้าฝ่าสลาย ๔. อังคาร กัลยาณพงศ์ ... ฉันเอาฟ้าห่มให้ .................. หายหนาว ดึกดื่นกินแสงดาว ............... ต่างข้าว น้ำค้างพร่างกลางหาว ......... หาดื่ม ไหลหลั่งกวีไว้เช้า ................. ชั่วฟ้าดินสมัย ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 8 ก.ย. 46 22:22:33 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ต่อไปก็เป็นโคลงคำคม เผื่อคนอยากเขียนแนวคำคม ๑. โคลงโลกนิติ (โลก-กะ-นิด) พระสมุทรสุดลึกล้น ........ คณนา สายดิ่งทอดทิ้งมา ........... หยั่งได้ เขาสูงอาจวัดวา .............. กำหนด จิตมนุษย์นี่ไซร้ ................ ยากแท้หยั่งถึง ฯ รู้น้อยว่ารู้มาก ................. เริงใจ กลกบเกิดอยู่ใน .............. สระจ้อย ไป่เห็นชเลไกล ................ กลางสมุทร ชมว่าบ่อน้ำน้อย ............. มากล้ำลึกเหลือ ฯ เมตตาเตือนจิตให้ ........... คนหวัง พึ่งนา แรงเคียดคนหน่ายชัง ....... ทั่วหน้า ทานเป็นยอดยายัง ........... เกียรติยศ ยิ่งแฮ ตระหนี่กลกำพร้า ............ พรากผู้สมาคม ฯ ๒. พ. ณ ประมวลมารค ... เกิดมาตัวเปล่าแท้ ............ แค่ไหน ตายก็ตัวเปล่าไป .............. แค่นั้น คนดีจะมีอะไร ................. เหลืออยู่ ชีวิตนี้แสนสั้น ................. ชื่อนั้นแสนยาว ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 8 ก.ย. 46 22:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อ้าว ... "เจ้าป้า" (203.113.37.11) ไม่ใช่ กจ (203.113.34.7) หรอกหรือ แล้วเป็นใครอะ ? ........ หวัดดี ลูอิส ไม่ได้เป็นเซียนอะไรหรอก แค่ชอบศึกษากับชอบเขียนเล่นๆ สนุกเท่านั้นเอง ......... แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 46 22:35:24 จากคุณ : รองเมือง - [ 8 ก.ย. 46 22:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เจ้าป้า คือคุณ มัชชี่ 12-13 อ่ะน้าา บางโคลงถ้าไม่แปลไว้ให้ เราไม่เข้าใจจริงๆด้วยน่ะ หวัดดีลูอิส..ซ :D เรายังจำได้ว่าลูอิสทั้งแต่งทั้งขัดเกลากลอนเก่งมากเลย ว่าแต่ตอบถูกกระทู้แล้วไม่ใช่เหรอ ฮา ฮาา จากคุณ : กจดตฎฏบปอ - [ 9 ก.ย. 46 02:48:43 A:203.113.35.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 มีหนังสือโคลงโลกนิติฉบับถอดความของ สนพ.บันทึกสยาม เขาถอดความไว้ว่า พระสมุทรสุดลึกล้น ........ คณนา สายดิ่งทอดทิ้งมา ........... หยั่งได้ เขาสูงอาจวัดวา .............. กำหนด จิตมนุษย์นี่ไซร้ ................ ยากแท้หยั่งถึง ฯ แม้มหาสมุทรจะลึกแค่ไหน แต่ก็สามารถวัดได้โดยใช้สายดิ่งทิ้งลงไปหยั่งดู ภูเขาสูงปานใดก็วัดได้ แต่ใจคนนั้นกลับมิอาจที่จะวัดได้ว่าเป็นอย่างไร รู้น้อยว่ารู้มาก ................. เริงใจ กลกบเกิดอยู่ใน .............. สระจ้อย ไป่เห็นชเลไกล ................ กลางสมุทร ชมว่าบ่อน้ำน้อย ............. มากล้ำลึกเหลือ ฯ คนรู้น้อยแต่หลงผิดว่าตนรู้มากนั้น เปรียบเหมือนกบที่อยู่แต่ในสระเล็กๆ ไม่เคยพบเห็นทะเลกว้างใหญ่ จึงหลงสำคัญผิดว่า น้ำในสระของตนนั้นลึกล้ำมากมายแล้ว เมตตาเตือนจิตให้ ........... คนหวัง พึ่งนา แรงเคียดคนหน่ายชัง ....... ทั่วหน้า ทานเป็นยอดยายัง ........... เกียรติยศ ยิ่งแฮ ตระหนี่กลกำพร้า ............ พรากผู้สมาคม ฯ คนที่มีความเมตตาปราณีย่อมทำให้ผู้อื่นรู้สึกอยากเข้ามาพึ่งอาศัย แต่คนที่มักโกรธมักเคียดขึ้งอยู่เสมอผู้คนย่อมเบื่อหน่ายไม่อยากเข้าใกล้ การทำบุญให้ทานนั้นเป็นสิ่งที่จะทำให้บังเกิดเกียรติยศได้ดีที่สุด ส่วนคนที่ตระหนี่ถี่เหนียวจนเกินไปย่อมจะไร้ผู้ที่อยากคบค้าสมาคมด้วย ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 17 ก.ย. 46 13:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โคลงนี้แต่งเพื่อไว้อาลัย เอ้ย! มะช่ายยย... ไหลออกมาด้วยความรำลึกถึง 'สหาย' คนนึง ที่ไม่ได้เจอะเจอกันนาน... น้ำ... มาเอาเขื่อนกั้น........................กันภัย ดับ... ทุกข์ชาวบ้านหาย...................เดือดร้อน ด้วย... ความรักในสหาย..................ร่วมแผ่น ดินเกิด ไฟ... รักบ่ เคยร้อน.............................อุ่นท้น แดนดิน น้ำ... มิตรคอยหลั่งให้........................แด่สหาย ใจ... มุ่งปลดทุกข์คลาย.....................เพื่อนพ้อง ไม่... เคยนิ่งดูดาย.......................... ยามเพื่อน เป็นทุกข์ แห้ง... หม่นใจหรือน้อง......................พี่เป้า ร้องเพลง ตี ละ ปั๊ด ตี ละ ปัด... ตี ละ ปั๊ด ตี ละ ปัด... จากคุณ : ฮ่า ฮ่า ฮ่า - [ 18 ก.ย. 46 00:32:16 A:169.210.6.170 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 อ๋ายยยย! เผลอจับคู่เสียงสั้น-ยาวอีกจนได้... จากคุณ : แหะ แหะ - [ 18 ก.ย. 46 00:44:02 A:169.210.6.170 X: ]

ความคิดเห็นที่ 53 ดีจังเลย เวลาใครด่าว่าเรา กระทบกระเทียบเราโดยที่ไม่มีเหตุกันมา แล้วเราเฉยๆได้นี่น่ะ แถมยังมีศีลคลุมอีก ชะเอิงเอิงเอิงเอย ถึงเวลาเสวยผลก็รู้เอง ตะระเลงๆๆๆ แค่ศีล ยังไม่เข้าใจ เอาไรมาพูด น่าเบื่อ แม่ไม่มีดี ก็ไม่มีครูดีหรอก เมตตาแม่สม่ำเสมอปานนี้หรอก สิบอกไห่ รมณ์ดีจิงๆนะ อิอิ จากคุณ : ลัลๆๆๆล่าหลาล่ะ - [ 18 ก.ย. 46 08:20:20 A:203.149.29.252 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 เด๋วคนงง พื้นฐานบุญและคุณภาพจิต-ใจต้องมีดี ถ้าไม่ดี มีครูดีไม่ได้ โดนกรรมดีดออก ชะเออเอิงเอย ฮ้าไฮ้ 5555555555 ไปดีก่าฟุ้ย จากคุณ : **** - [ 18 ก.ย. 46 08:25:03 A:203.149.29.252 X: ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณตัวจริงฯ คิดถึงลุงอ่ะสิ ..... ฮริ ฮริ ;-) จากคุณ : อัศ.. - [ 20 ก.ย. 46 22:21:59 A:203.113.34.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 56 คิดถึงใครทำไม? ทำไมคิดถึงใคร? ทำไมใครคิดถึง? ใครคิดถึงทำไม? ฮร่า ฮร่า ฮร่า จากคุณ : คิดถึงทุกคน... เสมอ - [ 21 ก.ย. 46 22:56:30 A:169.210.4.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 อาจหวานไปหน่อย อ้อยสร้อยไปนิด ช่วยมะได้... ก็ใจมันอยากอ้อน จากคุณ : ในบางห้วงอารมณ์ อิ อิ - [ 21 ก.ย. 46 22:58:41 A:169.210.4.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 58 เราจะมาบอกว่า เราโตขึ้นอีกแล้วน่ะ โจโจ้บอกเราว่า กรรมมันกดให้เราเลือกนิสัยใหม่ ทิ้งนิสัยไม่ดีๆไป ดังนั้น เราเองก็ไม่อยากมีเวรกับใครน่ะ ถ้าเราเข้าใจผิดไป เราขอโทษและขออโหสิกรรมนะคะ ถ้าใครว่าเรามาก่อนหน้านี้ เรายังไม่ทันโกรธเหมือนเดิมน่ะ คือ เราขี้เกียจมีเวรแล้วน่ะ เพราะใจก็ไม่มีไรแต่แรกอยู่แล้ว แบบว่าไม่ค่อยอ่านน่ะ เราขี้รำคาญ เดี๋ยวๆก็ลืม ชอบหาไรหนุกๆทำมากกว่าน่ะ จากคุณ : **** - [ 22 ก.ย. 46 02:56:18 A:203.144.203.135 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 ดีแล้วล่ะค่ะ ... หมายถึง เราอ่านแล้วพลอยรู้สึกดีไปด้วยนะ (เอ๋..ไมต้องแปลอีกง่ะ อิอิ อิ ;-) #57 ก็ดีเหมือนกันจ้าา ;-) นี่ก็มีหายๆ กันไปอีก.. ก็ต้องมีเหตุผลของเค้าแหละ ว่ามาดีกว่า หรือไม่มาดีกว่า ดีกว่าสำหรับตัวเค้าเอง.. ซึ่งก็ควรจะเป็นอย่างนั้น :-) จากคุณ : อัศ.. - [ 23 ก.ย. 46 03:58:16 A:210.86.131.203 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 #59 เห็นเหมือนกัน หายไปอีกคน คนใจระอุคุกรุ่น นับวันจะน้อยลงทุกที แล้วโลกก็หมุนไป.... อิ อิ อิ เพียงหวังว่าไปดี มิได้ไปด้วยใจเป็นทุกข์... ด้วยปากเสียๆ ที่หวังดีของผม ;-P จากคุณ : หิมะทะเลทราย - [ 27 ก.ย. 46 02:10:32 A:169.210.7.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61 เล่นโคลงต่อดีกั่ว คันปากยุบยิบ คิ คิ จันทร์แจ่มกระจ่างแจ้ง........................อำไพ แสงข่มดาวพราวใจ.............................อ่อนด้อย แสงดาวกรุ่นฝังใน................................ใจอุ่น ชั่วนาน จันทร์ง่ายเพียงเอื้อมร้อย......................แน่แท้ ดวงโต จากคุณ : ร้อยอารมณ์ - [ 27 ก.ย. 46 02:13:45 A:169.210.7.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 ลมหนาวเยือนอีกแล้ว.........................แก้วตา หอมกรุ่นลอยลมมา.............................กลิ่นแก้ว อีกปีผ่านแล้วหนา................................เจ้าห่าง อกพี่ ฤๅว่าลืมกันแล้ว...................................หมดสิ้น เคยฝัน ยะเยียบเย็นเยี่ยงนี้..............................เราเคย พลอดพร่ำมิรู้เลย..................................ค่ำเช้า อยากใกล้ใคร่ชิดเชย.............................ให้อิ่ม ไออุ่น จำห่างร้างจากเจ้า...............................พี่เฝ้า ทำสวน จากคุณ : คนสวน(กระแส) ฮ่า ฮ่า ฮ่า - [ 27 ก.ย. 46 02:17:23 A:169.210.7.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 อืมมมม์ ก็หนุกดีแฮะ โคลงฉี่ฯ จากคุณ : คิ คิ คิ - [ 27 ก.ย. 46 02:19:17 A:169.210.7.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 64 #59 พูดถึงเราอ๊ะป่าว? แหะ แหะ ไม่หายไปนานอะจ้าา นี่ไงมาแล้ว ... ว่าแต่หิวจัง อ้อ เราก็คิดถึงลุงระล่ะ หายไปชาตินึงแล้วนะเนี่ย ... #61 คันปาก? ทำไมอะ? ยุงกัดปากเหรอ? อิ อิ อิ หวัดดีนายเต่า ไม่ได้รบกันตั้งนานแน่ะ ซำบายดีก่อ (",) จากคุณ : 'Louis' - [ 27 ก.ย. 46 13:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 65 จ๊ะเอ๋!! เค้าเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามรักกันโหมะแย้ว ไม่เอามั่งเอ๋อเจ้าคะ? จากคุณ : แบร่รรรร่รรรรร่ - [ 27 ก.ย. 46 13:42:06 A:169.210.5.182 X: ]

ความคิดเห็นที่ 66 เอ้า ใครที่เคยหัดเขียนเขียนมาอีกเร้ว ทิ้งไว้นานเดี๋ยวลืมหมด กองเชียร์กองแช่งลุ้น ........... ข้างสนาม เฮลั่นคักคักยาม .................. ไต่แต้ม โฟร์แฮนด์แบ็คแฮนด์งาม ...... ติดติด นะพ่อ อีกฝ่ายอย่าได้แอ้ม ............... เสิร์ฟฟล้อลต์คะแนนเสีย ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 27 ก.ย. 46 20:29:48 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ไม่สนหรอกว่าเป็นทู้โคลงทู้กลอน จะ เย้เย้ 67 ซะอย่าง เย้เย้ จากคุณ : ฉี่เป็นโคลง มีด้วย? ฮี่ฮี่ฮี่ (C’est la vie) - [ 27 ก.ย. 46 21:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 68 แซวหนูขิง หนูขิงเริงรื่นเย้ ............... หกสิบ เจ็ดแฮ น้ำหนักลงตั้งสิบ ............หน่วยแย้ว ของกินจะไม่หยิบ .......... หย่อนปาก อาทิตย์หน้ามิแคล้ว ....... โละเสื้อผ้าหลวม ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 28 ก.ย. 46 00:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 69 "เซลาวี" "เซราวี" นึกคล้าย ............ คนเมา เดินไม่ตรงแต่เอา ............ เรื่องถั้ว ตัวเอียงว่าอื่นเขา ............ เอียงกว่า ท่านว่าให้อ้างขั้ว- ........... โลกเว้ยที่เอียง ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 28 ก.ย. 46 00:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 70 แจ่มจันทร์เสี้ยวส่งยิ้ม.........ทักทาย พลบค่ำ ดื่มด่ำแลแพรพราย...........แจ่มฟ้า ราวประหนึ่งซึ่งสหาย.........เคยร่วม สุขแฮ แม้ทุกข์ฤาอ่อนล้า.............พร่างพริ้มแรงใจ จากคุณ : ซิลลี่* - [ 28 ก.ย. 46 17:33:45 A:219.118.67.138 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 ฮา ฮา .. ขำจริง ;D เก่งกันจังเลยอ่ะ นักเคลง ละเลงโคลงทั้งหลาย ;-) #64 จะว่าไปลูอิส น่ะ นินจาเป็นอาชีพ แต่อย่าหายไปนานจิ ผลุบโผล่มามั่งก็ยังดีง่ะ :-) #70 ซิลลี่อยู่ญี่ปุ่น ตามคุณฮานาเซารัสให้หน่อยจิ แฮ่ะ แฮ่ะ ;-) จากคุณ : อัศ.. - [ 29 ก.ย. 46 09:10:56 A:203.113.35.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 72 #๗๑ อัศ.. เหะ เหะ... คุณhana*อยู่ฝั่งตะวันตก เราอยู่ฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นอ่ะจิ (น่าจะอยู่ใกล้กว่านี้เนอะ) เราเห็นคุณhana*คนเก่งแว้บๆแถวๆBlue Planet-galleryบ่อยๆ แล้วก็บางทีที่ห้องไกลบ้าน-@japanอ่ะจ้ะ ตามทางทันใจกว่าม้างงงง ;-P คุณhana*ถ่ายรูปเก่งมาก ดูแล้วพอรู้ว่าเป็นคนรักและสนใจธรรมชาติ สัมผัสความละเอียดอ่อนได้นะ คือเราดูจากผลงานการถ่ายรูปเลยพูดออกมาอย่างงี้ รูปสวยงาม และมีเรื่องราว :-) จากคุณ : ซิลลี่* - [ 29 ก.ย. 46 17:20:10 A:219.118.69.250 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 เขียนตก ตามทางทันใจกว่า----->ตามทาง"นี้"ทันใจกว่า จากคุณ : ตกๆหล่นๆ* - [ 29 ก.ย. 46 17:24:27 A:219.118.69.250 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 ใจอยากเล่นโคลงอีก คราวนี้ว่าจะลองวิธีของคุณรม.ดูซักตั้ง แต่ไม่รู้จะพูดถึงไรดี แล้วบทความท่อนนึงของทมยันตีพลันผุดขึ้นในหัว เลยฉวยมายำซะเละไปหมด เนี่ย เอาต้นฉบับที่พอจำได้เลือนลางมาประจานความมั่วของตัวเองซะเลย นี่แน่ะ!! อิ อิ อิ ต้นฉบับ น้ำค้างพร่างพรมบนใบบัว แพรวพราวราวเพชรลูก เป็นเรางมงายหมายใช้ด้ายผูกร้อยไว้ ไหลเลยคาดคิด น้ำใจอ่อนไหว ร้อยไม่ติด ด้านนี้แยกแล้ว ไปรวมในด้านนั้น คนที่ไม่มีใจรักจริง หมุนวน.. ดุจกังหันในสายลม ยำใหญ่ให้เป็นโคลงฉี่ตุป้าบ น้ำค้างพราวกลอกกลิ้ง.......................ใบบัว พรมทั่วแล้วรวมตัว..............................เพชรก้อน เป็นเรามุ่งเมามัว.................................หมายผูก ร้อยไว้ ผูกไม่ติดจิตซ้อน...................................แน่แท้ใจไหว ร้อยด้านนี้แยกแล้ว...............................ไหลไป ท่วมเอ่อล้นอีกใจ...................................อีกข้าง คนใจคดลื่นไหล.....................................ใจย่อม หมุนวน ดุจดั่งกังหันคว้าง...................................ปั่นด้วยลมลวง จากคุณ : ลมหวน - [ 30 ก.ย. 46 02:40:58 A:169.210.6.66 X: ]

ความคิดเห็นที่ 75 ไหนลองแบบสัปดนดูมั่งจิ๊ คิ คิ ลมโชยโรยพัดผ้า................ ตาดู ลมพัดกระโปรงหนู.............เปิดอ้า 'ลมซัดฝุ่นตาตู'....................ตาตู่ ป้องตา ยายด่า 'ไอ้แก่บ้า.................ค่ารู้ทันเอ็ง' ฝนเอยยามตกเจ้า.................ใจวาย อกตู ผ้าลู่เนื้อแนบกาย..................เต่งเต้า บ่นฝนอย่าหยุดสาย..............ตาชอบ ดูเพลิน ยายขู่ 'หัวงูเถ้า......................ควักเบ้าตาเอ็ง ซักวัน' จากคุณ : อิ อิ อิ - [ 30 ก.ย. 46 23:38:03 A:169.210.5.97 X: ]

ความคิดเห็นที่ 76 หัดโคลงฉี่ตุป้าบ....................................หนุกดี เลือกเล่นเฟ้นวจี...................................แต่งถ้อย จากคำสู่วลี............................................สานต่อ เป็นบท ปรุงเครื่องอรรถรสร้อย..........................ช่างคล้ายเข้าครัว วัตถุดิบเลือกเฟ้น..................................ใส่ใจ เตรียมเครื่องปรุงฟืนไฟ.........................ถี่ถ้วน เครื่องเทศใส่อย่างไหน..........................รู้อยู่ ในอก ทุกอย่างพร้อมสรรพล้วน.....................เริ่มร้อยถ้อยปรุง โคลงเผ็ดรสเผ็ดต้อง...............................ถึงใจ กระหน่ำเครื่องแกงไป...........................อย่ายั้ง โคลงจืดใส่พริกไทย...............................รากผัก ชีห่อ เผลอบีบมะนาวพลั้ง.............................เก็บไว้ล้างครัว โคลงสนุกนั้นช่างคล้าย.........................ผัดผัก รีบเร่งให้เต็มรัก......................................เอ่ยถ้อย อย่ามัวเคร่งครัดนัก................................เด๋วผัก สุกเกิน มัวนั่งเกลานั่งร้อย ..................................หนุกได้ไงกัน พูดไงก็พร่ำได้...........................................ง่ายดี แต่แต่งให้มีศรี...........................................บ่ ได้ ทั้งปลาบู่ปูมี................................................แต่แต่ง ไหม่ร่อย ดื้อแต่งปรุงต่อไซร้......................................สุดท้ายเทครัว ถนัดเฮย... จากคุณ : ฮ่า ฮ่า ฮ่า - [ 3 ต.ค. 46 00:02:18 A:169.210.5.194 X: ]

ความคิดเห็นที่ 77 แงแงฮือ ฮือ แงแง .............. แย่จริง นั่งจิ้มมือเป็นระวิง ........... เน็ทตัด เขียนไรไว้ไม่รู้ .................... ลืมหมด แล้วเอย อ่ะ เขียนส่งมาบ้าง ........... แล้วหนา นี่ไง ฮรี่ ฮรี่ ฮรี่ #72 คุณฮานาถ่ายภาพได้ ....... งามนัก จริงเอย เรานิยมชมชอบจัง ............. มากแท้ คิดเขียนต่อไม่ได้แล้ว ........ เผ่นก่อน ดีกั่ว จุด จุด จุด แบ๊ะ แบ๊ะ .......... แปะแปะ บ๋ายบาย จากคุณ : อัศ.. - [ 4 ต.ค. 46 21:54:57 A:210.86.131.56 X: ]

ความคิดเห็นที่ 78 ทีนี้มาดูเรื่องปลีกย่อยอีกเรื่อง คือ สร้อยโคลง ตามแผนผังโคลงจะเห็นวงเล็บที่มีสองคำอยู่ข้างใน คือ (๐๐) (๐๐) คือ "สร้อยโคลง" จะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ถ้ามี จะมีได้เฉพาะ บาทที่ ๑, บาทที่ ๓ และ บาทที่ ๔ (ดูแผนผังประกอบ) แต่สร้อยโคลงในบาทที่ ๔ จะพบเห็นได้น้อย อาจเพราะว่าทำให้บรรทัดนี้ยาวเกินไป สร้อยโคลง (๐๐) เขียนอธิบายเป็น (๐ ส) ๐ ... ใช้คำอะไรก็ได้ ส ... เป็นคำที่เรียกว่า "คำสร้อยโคลง" คำสร้อยโคลง โดยมากจะใช้คำที่นิยมใช้กันมาแต่โบราณซึ่งมีอยู่ ๑๗-๑๘ คำ คำพวกนี้ส่วนใหญ่จะออกไปทางที่ไม่ค่อยมีความหมาย แต่ได้ สำเนียง หรือ น้ำเสียง หรือ หางเสียง เช่นคำว่า นา, นอ, แฮ, เอย นา ... เช่น "นี้นา" ก็คล้ายๆกับ "นี้หนา" นอ ... เช่น "ใหญ่นอ" ก็คล้ายๆกับ "ใหญ่หนอ" แฮ ... เช่น "มากแฮ" ก็คล้ายๆกับ "มากแฮะ" เอย ... เช่น "พี่เอย" ก็คือ "พี่เอย" "พี่เอ๋ย" "พี่เอ๊ย" จำแบบง่ายๆคือ นา=หนา, นอ=หนอ, แฮ=แฮะ (อันนี้เอาแบบจำง่าย เพราะจริงๆ บางคำอาจเทียบไม่ตรงตามที่ว่าเป๊ะๆ) จากคุณ : รองเมือง - [ 10 ต.ค. 46 12:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 79 คำสร้อยโคลงที่ใช้ไม่ยากอีกชุดคือ พ่อ, แม่, พี่ เช่น สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤๅพี่ พ่อ ... ใช้เรียกผู้ชาย ซึ่งอาจเป็นคนรัก หรือคนที่กำลังพูดอยู่ด้วย (คล้ายๆกับ พ่อคุณ) แม่ ... ใช้เรียกหญิงที่รัก หรือ ผู้หญิงที่กำลังพูดอยู่ด้วย (คล้ายๆกับ แม่คุณ) คำสร้อยโคลงที่ ใช้ไม่ยากอีกกลุ่มได้แก่ รา, ฮา, แล, เทอญ รา ... คล้ายๆกับ เถอะ/เถิด เช่น "หน่อยรา" ก็คือ "หน่อยเถิด" ฮา ... คล้ายๆกับ ฮะ (ครับ) แต่ถ้าใช้เป็น "ฮะฮา" ก็จะเป็นการหัวเราะ แล ... คล้ายๆกับ "นั่นแหละ" "นั่นแล" เทอญ ... มีความหมายตามที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ......... สร้อยโคลง เป็นสิ่งที่บอกความเป็นโคลงอยู่มาก เพราะคำประพันธ์ชนิดอื่นไม่มีอย่างนี้ ดังนั้น ๓ คนข้างบนลองเอาคำสร้อยโคลงไปปรับเข้ากับโคลงที่เขียนมาข้างบนดูนะ ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 10 ต.ค. 46 12:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 80 วันอาทิตย์อีกแล้ว...............เร็วจัง ใจจิตคิดงงงัง.....................อ่อนล้า การงานที่มุ่งหวัง................หยุดนิ่ง....เซ็งนอ หดหู่แหงนมองฟ้า..............อยากได้กลังใจ (กลัง-->กะลัง-->กำลัง...พอไหวมั้ยคะ) จากคุณ : ซิลลี่* - [ 12 ต.ค. 46 08:13:31 A:219.118.69.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 81 กลัง-->กะลัง-->กำลัง...พอไหวมั้ยคะ ลองดูคำอื่นเช่น พลังใจ, แรงใจ เป็นต้น แหงนมองฟ้าจะได้ ............... กำลัง ใจฤๅ ฝนอาจตกอย่างจัง ............... เปียกฉุ้ม ลองซื้อเครื่องดื่มประทัง ........ ไปก่อน เอ็มหนึ่งร้อยน่าคุ้ม ............... ค่าร้อยพลังใจ ......... อีกสองคนไม่มาแก้คำในตำแหน่งสร้อยโคลงเหรอ ตอนนี้ซิลลี่ลองใช้สร้อยโคลงไปหนึ่งคนแล้ว จากคุณ : รองเมือง - [ 12 ต.ค. 46 17:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 82 แหงนมองจ้องขอบโค้ง...ฟ้าไกล เผื่อว่าใครส่งใจ..............ออดอ้อน แม้ฝนซู่หลั่งไหล.............จะไม่ เกรงเฮย ฝนบวกใจดับร้อน............แฮปปี้มันเดย์ 555 จากคุณ : silly - [ 13 ต.ค. 46 01:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 83 อ่อนล้าฤๅนวดให้.................................ดีไหม ฝนเอย พักผ่อนให้หย่อนใจ..............................หน่ายล้า งานเด๋ววิ่งซิ่งไป.....................................บ่ หยุด เองแล ฝนห่อนต้องมองฟ้า..............................คิดบ้างถึงกัน พอแม่ ดันทุรังใส่สร้อยซะเต็มตัวเลย จากคุณ : จะโดนทุบมะเนี่ย? คิ คิ - [ 13 ต.ค. 46 03:47:47 A:169.210.6.181 X: ]

ความคิดเห็นที่ 84 อ้าว! จากคุณ : 5555 - [ 13 ต.ค. 46 03:54:22 A:169.210.6.181 X: ]

ความคิดเห็นที่ 85 ใจมักหลงว่ารู้......................ใจตน จิตจึ่งมักสับสน....................เกราะกั้น ทิฐิซ่อนซ้อนกล....................หนาแน่น ใจนา ใครอย่าริบีบคั้น...................คิดแก้แทนเรา จากคุณ : นักเรียนโคร่ง - [ 13 ต.ค. 46 22:12:53 A:169.210.6.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 ชมจันทร์ยิ้มแช่มชื้น....................ชูใจ ชื่นมื่นแลสดใส.............................ผ่องแผ้ว นึกอยากส่งยิ้มไป.........................ถามไถ่ สุขฤๅ หากแต่คันฉ่องแล้ว......................เต่าน้อยปากบวม นี่วา ฮ่า ฮ่า ฮ่า จากคุณ : วา.. เป็นสร้อยอ๊ะป่าวหว่า? - [ 13 ต.ค. 46 22:18:41 A:169.210.6.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 คำถามผุดอีกแล้ว.................................อาจารย์ น้าเอย ท่านเอ่ยสร้อยโคลงจาร........................จดไว้ ยังมีอีกเบอะบาน..................................เจ็ดแปด คำนา เราจึ่งอยากถามไท้...............................ซ่อนไว้ไมกัน ยังอีกอย่างอยากรู้.................................สร้อยโคลง มีเพื่อไว้จรรโลง......................................ต่อถ้อย หากอยากต่อสร้อยโคลง.......................วงเล็บ จำจักจบด้วยสร้อย................................ถูกมั้ย?ใคร่ถาม อิ อิ อิ จากคุณ : วานบอก - [ 13 ต.ค. 46 23:56:02 A:169.210.6.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 88 กรรมใดทำไม่เว้น.................................หมั่นทำ ย่อมก่อเป็นกงกรรม.............................แก่กล้า กงเกวียนจักหมุนนำ............................พาสู่ ผลแล ตมต่ำฤๅสู่ฟ้า........................................แน่แท้อาจิณ กรรมเอย จากคุณ : เตือนตน - [ 13 ต.ค. 46 23:59:02 A:169.210.6.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 89 เพิ่งรู้ตัว ว่า6 กรอบรวดเราเหมาหมด นี่ยังจะเขียนกรอบที่ 7 อีก ;-P จากคุณ : ฮ่า ฮ่า ฮ่า - [ 14 ต.ค. 46 00:02:53 A:169.210.6.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 90 *โคลงใดใช่เรื่องรู้.................เลยเรา ตามอ่านยิ่งมึนเมา................. หนักข้อ สร้อยโคลงร่างรางเงา.............งงหนัก ขอใส่สร้อยคอล้อ..................เลื่อมรุ้งเพชรสี หน่อยรา* จากคุณ : *ผีเสื้อราตรี* - [ 14 ต.ค. 46 02:41:31 A:202.133.163.95 X: ]

ความคิดเห็นที่ 91 หกกรอบรวดเก่งแท้......ตัวจริง โคลงลื่นไหลดุจปลิง......ดีดดิ้น คำชมบ่แม่นติง...............ติพ่อ...หนุ่มนา ตามอ่านทุกบทสิ้น..........ปลาบปลื้มลำนำ....เป๊กพ่อ อิอิ จากคุณ : ซิลลี่* - [ 14 ต.ค. 46 08:07:49 A:219.118.69.57 X: ]

ความคิดเห็นที่ 92 "วา.. เป็นสร้อยอ๊ะป่าวหว่า?" เท่าที่สังเกตดู สร้อยโคลงนิยมคำที่ไม่มีความหมาย อาจเป็นคำอุทาน คำขาน แต่ดัดแปลงให้เป็นเสียงยาว เช่น นะ แปลงเป็น นา แฮะ แปลงเป็น แฮ หรืออาจเป็นคำที่ไม่มีความแต่พูดติดปากก็น่าจะได้ ตามตำราโบราณว่าสร้อยโคลงมี ๑๗-๑๘ คำ ในสมัยปัจจุบันอาจทำเพิ่มขึ้นก็น่าจะได้ แต่อาจต้องใช้คนเดียวไปก่อน ......... "หากอยากต่อสร้อยโคลง.......................วงเล็บ จำจักจบด้วยสร้อย................................ถูกมั้ย?ใคร่ถาม" ไม่แน่ใจว่าถามเรื่องอะไร ถ้าถามเรื่องสร้อยโคลงในบาทสี่ซึ่งถ้าใส่ก็จะอยู่ตอนจบพอดี ขอตอบว่า สร้อยโคลงในบาทสี่ พบเห็นได้น้อยมากทั้งในอดีตและปัจจุบัน แต่ไม่ใช่ว่าไม่มี มีเหมือนกันแต่มีน้อยมากจนดูราวกับว่าไม่นิยมใช้ ......... ส่วนสร้อยโคลงอีก ๖-๗ ที่ไม่ได้พูดถึง เพราะไม่ค่อยเข้าใจวิธีใช้เหมือนกัน อย่างเช่น "บารณี" จะมีใช้ในอดีต แต่ความหมายไม่ค่อยแน่ชัด นิยมใช้ต่อจากเนื้อหาพรรณาความสวยงาม คงทำนองอุทาน "บราโว่" ของรัสเซียมั้ง (เดาเอานะ) .......... จากคุณ : รองเมือง - [ 14 ต.ค. 46 21:45:34 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ดูเหมือนซิลลี่จะมีเพื่อนเล่นโคลงเพิ่มอีกคน ราตรีผีเสื้อหนึ่ง .................. บินถลา มาแฮ วิบวับจับนัยนา .................. สว่างสร้อย คะนึงคู่บุษบา .................... อัตลักษณ์  นามเอย ขบปริศนาจวบคล้อย .......... เคลื่อนเช้ายังแสวง ......... แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 46 22:26:21 จากคุณ : รองเมือง - [ 14 ต.ค. 46 22:24:45 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ขอบคุณครับ น้ารม. ขอโทษคุณซิลลี่*ด้วย หากผมเคยทำให้เข้าใจอะไรผิดไป ผมเพิ่งรู้ชื่อจริงเล่นๆ ของคุณเมื่อวานนี้เองครับ และไม่ได้ตั้งใจ surprise คุณอย่างที่ใครอาจคิด จากคุณ : โชคดีมีสุขทุกท่าน - [ 15 ต.ค. 46 10:43:12 A:203.148.252.235 X:210.203.180.114 ]

ความคิดเห็นที่ 96 *นามปริศนานี่นี้...............คือเรา แท้เฮย อีกชื่อบุษบาเยาว์.............ชื่นชอบ ผีเสื้อสิ่งแนบเนา..............พาสุข แน่นา จริงแน่แท้จึงมอบ.............ตอบให้หายฉงน นะเอย* *********************************** จริงอย่างที่ว่ามาทุกอย่างนะเจ้า จากคุณ : "ผีเสื้อราตรี" - [ 15 ต.ค. 46 21:32:40 A:203.144.143.250 X:203.118.102.207 ]

ความคิดเห็นที่ 97 *นามปริศนานี่นี้.................คือเรา แท้เฮย อีกชื่อบุษบาเยาว์................ชื่นชอบ ผีเสื้อสิ่งแนบเนา.................ใจสุข เพลินนา แพรวพร่างสร้อยร้อยรอบ......ตอบให้หายฉงน นะเอย* จากคุณ : หรือเปล่าก็ไม่รู้? - [ 16 ต.ค. 46 09:02:41 A:202.133.164.115 X: ]

ความคิดเห็นที่ 98 หนุกดีอ่ะ .. ทำไมเก่งกันจังน้อ .. (เย้.. เล่นทอยก็ได้ด้วย ) จากคุณ : อัศ.. - [ 16 ต.ค. 46 22:44:59 A:203.170.145.148 X: ]

ความคิดเห็นที่ 99 กระทู้ข้างนอกเหลือน้อยอีกแล้ว มาเติม คคห. กันกระทู้ตก หลากลายผีเสื้อร่อน ........... กลางสวน จำแนกหนึ่งนั้นชวน ............ ตึบตื้อ นึกนามพฤกษาทวน ........... ล้านรอบ มึนหนักยังยุดยื้อ ............... หยอดน้ำกลืนยา ......... จากคุณ : รองเมือง - [ วันปิยมหาราช 11:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 100 มาต่ออายุจ้ะ จากคุณ : blue river - [ 2 พ.ย. 46 22:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 101 จากคุณ : blue river - [ 3 พ.ย. 46 13:14:41 ]

ความคิดเห็นที่ 102 แลเสมือนผีใส่เสื้อ...........หรือไร ผีแอบเอาเสื้อใคร............ห่อหุ้ม ผีเสื้อล่องลอยไป.............ใจหวั่น.....ฉันเอย ตัวสั่นพลันสุดกลุ้ม...........ท่องไว้นะโม... จากคุณ : คนเสื้อ* (silly) - [ 4 พ.ย. 46 17:35:53 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ผีเสื้อฟังแรกคล้าย .... น่ากลัว จริงเอย ลอยแต่ชุดเปล่าตัว .... เปล่าหน้า คิดแล้วก็น่าหัว- ......... เราะร่วน จะหลอกยังไงน้า ....... กุดด้วนตลอดตัว ......... แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 46 22:31:53 จากคุณ : รองเมือง - [ 5 พ.ย. 46 22:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 104 *ผีเสื้องามอร่ามแท้..............อย่างไร นะเอย เห็นแต่เสื้อลอยไป...............อย่างนั้น หลอนลวงล่อนี่ไฉน..............หลงชื่น กันนา เสื้อหลอกดุจผีปั้น................แต่งแต้มให้สวย ฤาเฮย* *งั้นเราจัดใหม่ให้.................คู่กัน เอิงเงย ผีจุ่งมีผูกพัน........................เอ่ยอ้าง สองผีอยู่ร่วมขวัญ.................ไม่ห่าง กันเอย ผีก่างเกงคู่สร้าง....................ผี่เสื้อแสนสวย เพี้ยนนอ* ************************************* แบบว่าเหน่อจ๊าาา จากคุณ : ผีกองกอยภาคเช้า - [ 6 พ.ย. 46 08:21:44 A:202.133.163.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 105 *เสื้อกางเกงล่องล้อ...........ลอยเรียง ใครผ่านเป็นต้องเอียง..........จดจ้อง ถูกผีหลอกควงเคียง............ควรหวั่น ใยกลับตะโกนก้อง.............โห่ร้องอัศจรรย์*(เอย) จากคุณ : แล้วจะเป็นดีมั้ย? - [ 7 พ.ย. 46 10:39:24 A:202.133.163.206 X: ]

ความคิดเห็นที่ 106 *ร่อนมันอยู่แห่งนี้.....................แหละดี ไม่ชอกช้ำกล่ำปลี.....................แสบไส้ แย้งยั่วอย่าย่ำยี........................ขับส่ง เลยเฮย คุณอัศฯโปรดจงได้...................แผ่เอื้อกระทู้หน่อยรา*555 จากคุณ : เนยบิน(อ้อน) - [ 7 พ.ย. 46 10:51:08 A:202.133.163.206 X: ]

ความคิดเห็นที่ 107 จันทร์เอยจันทร์แจ่มจ้า... เต็มดวง ใยเมฆคิดแหนหวง..........ปิดฟ้า แสงนวลบ่ลอดทลวง........นภาหม่น จึงกลั่นหยาดฝนส้า..........เป่นน้ำตาเอย จากคุณ : sillier* - [ 10 พ.ย. 46 17:06:18 A:219.118.66.156 X: ]

ความคิดเห็นที่ 108 ขณะนี้ เข้าห้องนอนไม่ได้ ด้วยเหตุขัดข้องทางเท็คนิคบางอย่าง จึงฉวยโอกาสถลาร่อนมาตรงนี้ ที่พักใจ คุณ sillier แต่งโคลงไพเราะกินใจ กินตับ ม้าม เซ่งจี๊ ลำไส้ใหญ่เล็ก หมดเลย แงแง....(107) *********************************** *น้ำตาฟ้าจึ่งคล้าย................สายฝน โปรยโศกที่สุมจน.................สุดกลั้น หลั่งลงเถิดช่วยดล................โลกชื่น ฉ่ำนา ฟ้าสว่างหลังฝนนั้น................แจ่มจ้าจรุงใจ* ************************************ *น้ำตาฟ้า หยาดมา เพราะฟ้าเศร้า ยังบรรเทา แล้งร้าย พอคลายหมอง น้ำตาเรา ไหลย้อน ร้อนทรวงครอง มิอาจร้อง เพื่อใคร ได้สักคน* ************************************ มาร่อนเล่นเริงร่ถลาลมอยู่ตรงนี้ ไม่รู้ว่า จขกท จะว่าอันหยังพ่อง ขอสุมาเต๊อะเจ้า จากคุณ : ผีเสื้อราตรี {silliest} - [ 11 พ.ย. 46 19:51:52 A:202.133.182.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 109 ผิดๆๆๆ จนได้ มาร่อนเล่นเริงร่าถลาลมอยู่ตรงนี้ นะจ๊ะๆๆ จากคุณ : ผีเสื้อราตรี - [ 11 พ.ย. 46 19:54:34 A:202.133.182.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 110 ตามสบายเลยเน้อ เราหมดพุงแล้วง่ะ ;p คิดหัดเป็นนักเลงโคลง ให้โหย่งหยก พอคิดตก สมัครอ่าน อย่างเดียวหนา เรื่องสุมา ใช่สุรา ไม่ทำเนา ข้อยคนเขลา แม้เหงาเหงือก เลือกนั่งดู จากคุณ : อัศวายุวดีศรีนางเลิ้ง - [ 15 พ.ย. 46 18:26:50 A:203.113.34.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 111 *ก่อนจะไป ยะงาน การทั้งหลาย ยังต้องกราย เยื้องมา หาอีกหน ณ ตรงนี้ เริ่มร้าง ห่างผู้คน จะดั้นด้น แฝงเร้น เล่นลำนำ* จากคุณ : ฉวยโอกาส ยืด และ ยึด กาทู้จ้า (ชญานุช) - [ 20 พ.ย. 46 10:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 112 จากคุณ : ชญานุช - [ 26 พ.ย. 46 13:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 113 *เอย* จากคุณ : ชญานุช - [ 3 ธ.ค. 46 17:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 114 แวะมาเพื่อเอ่ยเอื้อน ............. สวัสดี เดื่อนหนึ่งห่างเหมือนปี ........ หนึ่งคล้อย ยังสบายเรี่ยวแรงมี ............ รบโลก ถามไถ่ทุกข์สุขน้อย- ............ มากแม้นคงเหมือน เหมือนกัน นั่นแล ......... จากคุณ : รองเมือง - [ 7 ธ.ค. 46 22:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 115 *ดีใจเอยได้กล่าว........................สวัสดี หายห่างไปเป็นปี.......................ที่คล้าย ภาระเพิ่มมากมี..........................เป็นบ่วง รัดรึง ยังห่วงแม้ไม่ได้..........................ย่างก้าวมาเห็น* ******************************************* *อย่างที่กล่าว เล่าไว้ ในความจริง คงต้องห่าง ทุกสิ้ง ทิ้งไว้ก่อน เคยโต้เล่น คำคม ชมโคลงกลอน ให้อาวรณ์ ตอนนี้ ที่จะไป* *พบเพื่อนใหม่ ในจอ ก็สุขนัก เซฟสลัก ไว้เตือน เผื่อเลื่อนไหล คิดถึงกัน บ้างนะ จะปลื้มใจ ฝากอาลัย อำลา เพื่อนยาเอย* ****************************************** ขอบคุณ จขกท น้องกรึ๋ย คุณ รม และเพื่อนๆค่ะ ที่ให้ดิฉันเข้ามาสนุกสนานอยู่หลายเพลา 5555 ทำเป็น เจ้าของกระทู้ร่วมอีกแระ จากคุณ : สวัสดีค่ะ (ชญานุช) - [ 20 ธ.ค. 46 11:43:43 ]