ถึงหมอ ๆ ที่ลาออก

    หัวข้ออาจซ้ำ แต่เนื่องจากหัวข้อเดิมไม่ตรงตามที่ผมอยากรู้
    จึงขออนุญาตตั้งใหม่

    ผมบอกว่า ผมไม่เห็นใจหมอเลย
    ผมรู้ว่าหมอดี ๆ มีเยอะ หมอเสียสละก็มีเยอะ

    แต่คุณ ๆ รู้ไหมครับว่า ปีหนึ่งๆ บริษัทยาจ่ายให้หมอ
    เท่าไหร่
    มีทั้งของขวัญแพง ๆ พาไปรีสอร์ทหรู ๆ หรือไม่ก็ไปต่างประเทศ บางทีกระทั่งไปทั้งครอบครัว หรือไม่ก็พ่วงคนใช้
    ไปด้วย ทั้ง ๆที่ ที่จริงควรไปแต่หมอ
    ผมเคยพูดประโยคนี้แล้ว เข้าใจว่าหมอที่เข้ามาอ่าน
    ก็คงเห็นแล้ว แต่เมื่อไม่มีใครเถียง ผมก็ขออนุมานว่า
    เป็นเรื่องจริง

    "จนหมอทั้งหลาย เห็นเป็นเรื่องธรรมดา"

    หรือเรียกว่าเป็นสิทธิของหมอ ในความคิดของหมอบางคน

    ผมไม่เข้าใจว่า หมอโง่จริงหรือแกล้งโง่ ที่ไม่รู้ว่า
    ของขวัญพวกนี้ ถูกบวกเข้าไปในค่ายาที่ขายให้ประชาชน

    เรื่องพวกนี้กลายเป็นเรื่องสามัญไปแล้ว และหมอบางคนคงเห็นเป็นเรื่องไกลตัว ไม่เกี่ยวกัน
    แถมน้องผมทำงานบริษัทยา ยังเล่าให้ฟังว่า
    บางหมอถึงขนาดเรียกร้องเองเลยว่า อีกบริษัทหนึ่งให้มากกว่า

    ถามคุณหมอว่า

    ๑ พวกนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาในสายตาแล้วใช่ไหม
    ที่อ้างว่าไปสัมมนา แต่ไปพักโรงแรมห้าดาวคืนละเป็นหมื่น

    ๒ ถ้าหมอไม่ได้ขายยาเอง สิทธิพวกนี้ก็หายไปใช่ไหม

    ๓ คิดว่าเป็นเรื่องผิดจรรยาบรรณหรือไม่

    ๔ ผมรู้ดีว่ามีหมอบางคนหน้าบาง ไม่เอาของเหล่านี้
    เช่นเพื่อนผมคนหนึ่งเป็นต้น บริษัทยาเสนอให้ไปต่างประเทศ แต่เขาไม่เอา เขาเป็นหมอที่ดี
    แต่ หมอที่ไม่ดีล่ะ

    ผมอยากจะบอกว่า หมอดี ๆ มีเยอะ เสียสละก็เยอะ
    แต่ไม่พอหรอกครับ

    "ถ้าพวกคุณต้องการให้ประชาชนเข้าใจและเห็นใจ
    คุณต้องทำพวกคุณเองให้ดีด้วย"

    พวกคุณไม่ดูกรณีตำรวจเป็นตัวอย่าง ปลาเน่าไม่กี่ตัว
    เน่าทั้งข้อง ประชาชนเลยไม่เห็นใจ ทั้งที่ตำรวจเสี่ยงตาย
    กว่าหมอ ทำงานหนักกว่าหมอ เห็นไหมครับ

    ประชาชนเห็นแต่หมอตรวจลวก ๆ
    ใช้ของหรู ๆ
    ประชาชนเห็นแต่ แพทยสภา ไม่เคยเอาผิดใครได้

    พวกคุณเอาแต่บบอกว่าหมอดี ๆ ก็มี พวกคุณเป็นหมอดี ๆ
    ถามว่าพวกคุณทำอะไรบ้าง พวกคุณก็อยู่ตัวใครตัวมันอยู่ดี

    ผมบอกว่า ถ้าพวกคุณไม่คิดปรับปรุง

    "ระบบความคิด" ของพวกคุณเอง มันคงน่าเศร้ามาก
    ที่อาชีพที่น่านับถืออีกอาชีพหนึ่ง

    "เน่าเปื่อย" ไปตาม "ตำรวจ" และ "พระ"

    พวกคุณไม่คิดเช็คบิลกันเอง ไม่คิดปัดกวาดบ้าน
    ปิดหูปิดตา สนใจแต่เรื่องตัวเอง
    พอคนอื่นไม่เห็นใจ แทนที่จะ

    "มองพวกตัวเอง" ก่อน กลับโทษคนอื่นว่าไม่เห็นใจพวกคุณ

    หมอดี ๆ ทำอะไรบ้างครบ แค่รักษา แค่ทำงาน นอนไม่กี่ชั่วโมง ถ้าพวกคุณคิดว่าพอแล้ว ก็คงน่าเศร้า ที่ตกยุคอย่างแรง

    สมัยนี้ หมอ ต้องทำมากกว่านั้นแล้วครับ ต้องปัดกวาดบ้าน
    ดึงอาชีพที่มีเกียรติกลับมา เป็นหมอศิริราช หมอจุฬา หมอรามา ไปเปิดคลินิคผิวหนังคิดค่ารักษาเป็นพัน ๆ
    ไปทำศัลยกรรมลดความอ้วนทั้งบ้านทั้งเมืองเปิดเป็นพัน ๆ แห่งทั่วกรุง

    พวกคุณไม่รู้สึกอะไรใช่ไหมครับ เพราะพวกคุณคิดว่า
    ทำงานหนักแล้ว ต้องเห็นใจ พวกนั้นรวยก็รวยไป

    "ไม่ใช่พวกเดียวกัน"

    ผิดอย่างแรงครับ

    คุณไม่เข้าใจหรือว่า พรบ มันออกมาโดยมีสมมติฐานอะไร
    ทำไมคนสนับสนุน

    เข้าใจไหมครับ

    "มันออกมาบนสมมติฐาน "ที่ไม่ไว้ใจหมอ" มองด้วยสายตาระแวง"

    พวกคุณคิดออกไหมว่า "เพราะอะไร!!!!"

    จากคุณ : T - [ 3 ก.ย. 46 23:23:35 A:203.113.36.10 X: ]