เปิดเบื้องหลังแผนลึกปฏิบัติการดึง"ผีห้างทอง"ฟ้องสาธารณะผ่านขบวนการ"อาชญวิทยา"ล็อกคอ"เสธ.อ."เป้าแรกผู้เกี่ยวโยงปมเหตุบึ้มบินไทยไขว่สัมพันธ์"ทุนการเงินใหญ่"เชื่อม"นักการเมือง"ฝ่ายตรงข้าม จู่ๆ สั่ง"รื้อคดี"ค้นหาสาเหตุการตายของ"นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ"ขึ้นมาเช่นนี้ เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆ คนยังอยู่ในอาการงุนงงสงสัยไม่น้อย!!
จู่ๆ สั่ง"รื้อคดี"ค้นหาสาเหตุการตายของ"นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ"ขึ้นมาเช่นนี้ เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆ คนยังอยู่ในอาการงุนงงสงสัยไม่น้อย!!
@ย้อนที่มาประเด็น"รื้อคดีห้างทอง"
ย้อนกลับไปถึงกระแสการมาของประเด็น
เริ่มมาจากการนำเอารายงานของ"ดร.เอเดรียน แมทธิว"ผู้เชี่ยวชาญด้านดีเอ็นเอทางคราบเลือดของมหาวิทยาลัยสแตรชไคลด์ สกอตแลนด์ ที่ได้ศึกษาจากหลักฐานภาพถ่ายสภาพศพนายห้างทองและบริเวณในวันเกิดเหตุที่น้องสาว"นางนฤมล มังกรพาณิชย์"ส่งไปให้ศึกษากว่าปีมาแล้ว และผลการศึกษาดังกล่าวได้ถูกเปิดโดย "พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์" รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม
@ ภัยมืดขู่ "หมอคุณหญิงพรทิพย์"
และไม่ต้องสงสัยอะไรอีกเลยเมื่อได้รับการยืนยันจากปากของ"คุณหญิงหมอ"ว่า
จริงๆ แล้วไม่กล้า
แล้วช่วงแรกๆ ก็เหมือนจะมีข่าวออกมาทำนองว่า"มีคนขู่"หมอคนเก่งอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ปรากฏในเวลาต่อมาว่า"คุณหญิงหมอ"จะหยุดการค้นหาความจริงเพื่อพิสูจน์ผล"รายงาน"ของผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศดังกล่าว ด้วยยังเดินหน้าดุ่มๆ ต่อจนถึงขนาดมีการขนย้ายศพนายห้างทองไป"ผ่าพิสูจน์"รอบสองหลังการเสียชีวิตมาแล้ว 4 ปี ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิตช่วง 09.00 น.วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา
@"คุณหญิงหมอ"ยันคำนายกฯสั่ง
ทั้งนี้นั้นเป็นความประสงค์ของ"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"นายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้มีการพิสูจน์ใหม่และรื้อคดี ตามที่ได้ออกมากล่าวชี้ช่องการรื้อคดีไว้ถึง 3 ช่องทางก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลทำให้ "คณะตำรวจ"ไล่ตั้งแต่ผบ.ตร. "พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์"ลงมาพลิกคำยืนยันกันใหม่หมดภายใน 1 ชั่วโมงว่าคดีนี้"รื้อได้"เพราะเหมือนกับว่า ข้อมูลจากรายงานที่ปรากฏใหม่นั้นจะ"ขัด"กับข้อสรุปผลการชันสูตรครั้งแรกนทำให้หลายๆ คนสงสัยใน"สาเหตุ"การตายที่แท้จริงของอดีตส.ส.ประชากรไทยอย่าง "นายห้างทอง" เพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
@สงสัยปมเหตุ"คำสั่งรื้อดคีเก่า"
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นการค้นหาสาเหตุการตายที่แท้จริงของนายห้างทองซ้ำรอบสองครั้งนี้ แม้เหมือนจะดูว่า ภายใต้"รัฐตำรวจ"ที่มีดีกรี"ด๊อกเตอร์อาชญวิทยา"เป็นผู้บริหารปกครองแห่งนี้ ต้องการพิสูจน์ฝีมือและดึงภาพความน่าเชื่อถือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยและผู้เกี่ยวข้องคดีอาชญากรรมให้กลับมา"น่าเชื่อถือ"ต่อสายตาสาธารณะและต่างประเทศก็ตามที แต่หากว่าภายใต้เหตุผลดังกล่าวยังเหมือนมีเงื่อนปมลึกอะไรบางอย่างที่ซ่อนลึกอยู่ใน"คำสั่งรื้อ"คดีคนตายเมื่อ4ปีก่อนมาแล้วครั้งนี้อยู่ในที
@ผลผ่า"ศพห้างทอง"พบรอยฟกช้ำ
เพราะทันทีที่มีการผ่าศพรอบสองขึ้น
"พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์"ก็พบ"ข้อมูลใหม่"ที่จะถูกนำไปใช้ในการรื้อคดีได้อีกเช่นกัน ผลการผ่าชันสูตรครั้งใหม่ทีมแพทย์ล่วงรู้ว่า
มีร่องรอยของแข็งกระแทกที่โคนต้นขาขวา มีบาดแผลตามร่างกาย แล้วยังพบกระสุนลูกปรายค้างในกะโหลกบริเวณปลายคาง ซึ่งนำไปสู่การตั้งข้อสังเกตว่า
ถ้านายห้างทองยิงตัวเองเข้าที่ขมับขวาตามรายงานเดิม"วิถีกระสุน"ควรที่จะไปเจาะออกทางขมับซ้าย ไม่ใช่จะแฉลบลงมาที่"ปลายคาง"อย่างที่ปรากฏ
@ "ยุติธรรม"รับรุกใหม่คดีความเก่า
ยิ่งมาได้ฟังคำยืนยันจาก "นายมานิตย์ สุธาพร" รองปลัดกระทรวงยุติธรรมผู้รับเรื่องแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ "นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา" ที่รับข้อมูลใหม่จากพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์แล้วเสนอตรงต่อนายกฯในวันถัดไปคือ 26 ก.ย.นั้นก็พอจะเดาออกว่า
เรื่องนี้ต้องไม่จบแค่เพียงการพิสูจน์การตายเพื่อให้ได้รับพระราชทานเพลิงศพนายห้างทองเท่านั้นเป็นแน่ผ่านประโยคที่น่าสนใจว่า
"วิถีกระสุนไม่ใช่น่าจะเกิดจากการฆ่าตัวตายของนายห้างทอง
ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนพิเศษขึ้น หากไม่สอบสวนต่อเรื่องนี้คงไม่มีประโยชน์
"
@"ยุติธรรม"รับรุกใหม่คดีความเก่า
หากเป็นเช่นนั้น!
แล้วมันจะให้ประโยชน์อะไรกับใครอีกหรือไม่
หลายๆ คนคงต้องการคำตอบว่าจะทำเพื่ออะไร
แล้วทำไมต้องรื้อต้องขุดคุ้ยกันอีก??
ปมเหตุนี้ทีมข่าวสกู๊ปไอเอ็นเอ็นได้แย้มๆ มาแล้วก่อนหน้านี้ว่า
เพื่ออะไรบางอย่างที่จะสามารถเข้าไป"ล็อกคอ"เอาความกับ"เสธ.คนดัง"คนหนึ่งที่มีโผความเกี่ยวพันกับ"นายห้างทอง"ก่อนจะเจอจุดจบแห่งชีวิตเมื่อ 4 ปีที่แล้วด้วยประเด็นโยงถึง"โทรศัพท์"ของใครบางคนถูกบันทึกไว้อันเหมือนเป็นการหารืออะไรกันบางอย่าง
@โยง"เสธ.อ"เบื้องหลังบึ้มบินไทย
ทั้งนี้ "เสธ.คนดัง"ที่หมายถึง ณ ที่นี้หมายถึง "เสธ.อ."ผู้ที่ถูกหน่วยข่าวลับสืบทราบมาก่อนหน้านี้ทำนองว่า
เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่ร่วมลงขันวางแผนบึ้ม"โบอิ้ง747-400"เครื่องบินของสายการบินไทยเที่ยวที่กำลังจะเหินฟ้าพานายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เพิ่งดำรงตำแหน่งอย่างทางการยังไม่ครบ 1 เดือนเต็มนามว่า "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"จากดอนเมืองไปสู่บ้านเกิดเชียงใหม่ในบ่ายวันที่ 3 มี.ค.2544 โดยที่ "หน่วยข่าวลับ"แจ้งตรงต่อนายกฯว่า กลุ่มบุคคลลงมือปฏิบัติบึ้มครั้งนั้นได้เดินทางทางอากาศแล้วไปสลายตัวกันที่สนามบินนครสวรรค์
@เปิดประเด็นเช็กบิลญาติผู้ไม่หวังดี
ครั้งนั้นหากจำกันได้อีก
"นายกฯ"หลุดปากคำแรกว่า"วินาศกรรม"ที่มีหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่านายกฯปากไวกล่าวไปทำนองว่า"มีคนปองร้ายผม"ซึ่งอีกหลายๆ คนก็ยังเชื่อในความเป็น"ด๊อกเตอร์อาชญวิทยา"อยู่ดีจึงมีการฟันธงว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ใช่อุบัติเหตุตามที่มีการสรุปออกมาภายหลัง ซึ่งนายกฯเองก็ใช่ว่าจะนอนใจจึงไม่วางมือที่จะสืบผลต่อ จนล่วงรู้ถึงตัวกลุ่มบุคคลผู้ก่อเหตุกระทั่งหวยออกกับ"ญาติ"ของ"เสธ.อ."ที่นั่งร่วมคณะรัฐมนตรีอยู่ในเวลานั้น
ถูกปรับออกอย่างไม่ปี่มีขลุ่ยทั้งที่เขามีชื่อติดในแคนดิเดท"รมต.ว่าการฯ"ประจำกระทรวงใหญ่กระทรวงหนึ่งทีเดียว
@โดนซ้ำตัดพ้นบอร์ดยักษ์พลังงานเอกชน
หลังจากนั้นอีกไม่นาน
"ญาติเสธ.อ."คนเดิมยังหนีวิบากกรรมไม่พ้น
อุตสาห์จะหาโอกาสเข้าไปนั่งบริหารงานบนเก้าอี้ประธานบอร์ดของบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ไทยบริษัทหนึ่ง แต่ก็โดนเด้งหลุดออกมาอย่างไม่เหลือใย โดยที่กระทรวงการคลังได้คัดเลือกเอา"นายทหารใหญ่"เพื่อนรักตัดหน้าไปนั่งตำแหน่งนั้นแทน ด้วยเบื้องลึกลงไปนั้น "ญาติเสธ.อ."ที่ว่าเป็นลูกเขย"จอมพลคนดัง"แห่งยุคเผด็จการในอดีตที่ไปมีผลประโยชน์ก้อนใหญ่อยู่ในธนาคารอันดับหนึ่งปัจจุบัน ที่เหมือนว่าทุกวันนี้ธนาคารดังกล่าวได้ "เกิดรอยร้าย"ในความสัมพันธ์กับกลุ่มทุนรัฐบาลขึ้นแล้วอีกทางหนึ่งด้วย
@ไม่ไว้หน้า"มัด"คนกลุ่มทุนตรงข้าม
ตอกลิ่มให้เห็นภาพรอยสัมพันธ์แยกระหว่างกลุ่มทุนใหญ่รัฐบาลกับทุนธนาคารใหญ่ที่ว่า
ซึ่งนับวันนับจะเป็น"ฝ่ายตรงข้าม"ชัดเจนขึ้นตามลำดับ ด้วยปรากฏการณ์การออกหมายจับ"2ผู้บริหาร"ของธนาคารดังกล่าว ฐานบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนเปิดใช้เป็นสนามกอล์ฟที่อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรีเมื่อเร็วๆ นี้ ท่วมกลางความฉงนของหลายๆ คนว่า เอ๊ะ
ก็เห็นยังเป็นพรรคพวกกันอยู่ แล้วทำไมต้องเล่นกันแรงขนาดนั้นนะ
ไม่เพียงแค่นั้นหากสาวลึกลงไปถึงความสัมพันธ์อีกด้านหนึ่งของ"เสธ.อ."ตัวต้นเหตุด้วยเข้าไปเกี่ยวโยงกับกลุ่มบงการฆ่านายกฯครั้งนั้นแล้ว จะร้องอ๋อในประโยคต่อมากับเหตุการณ์ทางการเมืองวันนี้
@มัดตราสังข์ซ้ำ"การเมืองฝ่ายตรงข้าม"
เมื่อล่วงรู้ว่า ที่แท้"เสธ.อ."ที่ว่าก็เป็นหนึ่งในกลุ่ม"เซนคาร์เบี้ยน"ที่มีทั้ง"ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" สมาชิกพรรคมวลชน นักการเมืองผู้ผยองมองเป็นปรปักษ์กับรัฐบาลชุดนี้ตลอดกาลด้วยเหตุที่"3ลูกชาย" ต้องเผชิญชะตากรรมไม่สิ้นล่าสุดก็จะโดนรื้อคดี"สด.43"ขึ้นมาอีกแล้ว และ"นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ"หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นักการเมืองผู้ผยองอีกคนหนึ่งที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใครยินดีแปรสภาพไปเป็นฝ่ายตรงข้าม จนทุกวันนี้ต้องเผชิญชะตากรรม"บีบ"จนหน้าเขียวแล้วเขียวกับอนาคตทางการเมืองสมัยเลือกตั้งครั้งหน้า ซ้ำร้ายหนักเข้าไปอีกเมื่อมีกระแสข่าวว่าหลังการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศเอเปคปลายเดือนต.ค.นี้"นายสุวัจน์"ก็อาจจะหลุดเก้าอี้ครม.ไปอย่างง่ายๆ ก็เป็นได้อีกด้วย
ปฏิบัติการครั้งนี้
จึงมองได้ว่าทุกอย่างและสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น
มีใครกำหนด
!! บนปฏิภาณที่แน่วแน่ยึดมั่นของผู้กำหนดว่า
"บุญคุณต้องทดแทน
แค้นต้องชำระ" ซึ่งคงไม่ผิดไปจากคำอธิษฐานของ "คุณหมอคุญหญิงพรทิพย์"ที่ตั้งจิตถึงนายห้างทองว่า
ตนเชื่อในกฎแห่งกรรม!!
***************
จากคุณ :
innnews.co.th
- [
29 ก.ย. 46 10:56:54
A:202.57.139.125 X:
]