ลมตุลาฯ

    พี่น้องชาวกวีการเมืองทุกท่าน

    ลมตุลา..............

    ลมตุลากลิ่นข้าว..................  นาไทย
    เวียนกลับทุกปีไป.................  ไม่เว้น
    นาไทยเพื่อชนใด.................  เห็นอยู่
    แขนที่เอ็นปูดเน้น.................  อย่างนั้นเสมอนา

    ลมตุลากลิ่นเนื้อ..................  เลือดไทย
    14 ตุลาไง.........................  เพื่อนข้า
    ชาวนาอยู่อย่างไร................  ลืมผ่าน
    ฤาตุลศกผกล้า.................   ผ่านแล้วคนลืม

    หลายกลวนผ่านย้ำ.............  จนชิน
    เพียงผ่านหูใจผิน...............   บ่ปลื้ม
    เป็นเสียงเรื่องเคยยิน..........    เพียงผ่าน
    ลืมใส่ใจเมฆครึ้ม...............    อาจแพ้พวยฝน

    ตื่นเถิดมวลพี่น้อง..............   สยาม
    สิทธิที่ไทยทวงถาม............   ถูกปล้น
    เลือดไทยหลั่งหลายยาม.....    ทวงสิทธิ
    สบายอย่างเหลือล้น...........    โปรดได้สำนึกการณ์

    ประวัติศาสตร์การแบ่งชั้น.....   มนุษย์ชน
    คนใหญ่เหยียบคนจน..........   สะท้าน
    ขยายข่ายการกล...............   ครองครอบ
    หากบ่ทันเล่ห์ด้าน..............   ช่องเว้นพลันโต

    อำนาจผูกขาดแล้ว............   อันตราย
    ผูกแผ่เกินบรรยาย..............   กร่างโก้
    จงชวนช่วยผ่อนคลาย.........  ติงติ
    กาลเก่าสอนใช่โม้..............  ปล่อยไว้พาพัง

    ถนอมและกลุ่มนั้น..............   เริงลม
    จมอยู่กองอาจม................   กิเลสรั้ง
    อำนาจใหญ่สองคม............   จึงบาด
    คุมบ่ไหวปูดบั้ง..................   ไพร่รู้จึงฮือ

    เลือดไทยคือเลือดแท้.........   คนดี
    โอบเผื่อเอื้ออารีย์..............   แผ่มื้อ
    แขกไหนใคร่พาที..............   อบอุ่น
    เลือดบ่ควรแลกซื้อ............   สิทธิแท้ของไทย

    เลือดไทยควรเก็บไว้...........  พัฒนา
    คิดอ่านการนำพา...............  พรุ่งไซร้
    คุณคุณผ่านเวลา................  โตเติบ
    นำค่ามาสานให้..................  โอบซึ้งสันติพร

    ประวัติศาสตร์บ่สิ้น..............  วงเวียน
    หลุมถ่างไทอาเจียน............   จักร้อน
    หญ้าแพรกอาจแหลกเตียน....   ดังเก่า
    เรื่องบ่งามอาจย้อน.............   หากพลั้งผ่านตา

    ลมตุลาผ่านเย้า..................   เยือนใจ
    สาวหนุ่มลุ่มนาไทย.............   เพื่อนข้า
    สังคมอาบน้ำใส.................   จึงสะอาด
    ใจต่ำอาบปราชญ์กล้า..........   จึ่งได้ทำดี

    จงเป็นดังเหล็กก้อน.............   ถ่วงดุลย์
    ดังแท่งตะปูดุน...................   เสียบชี้
    เสาคานใหญ่เป็นทุน............   เรือนใหญ่
    เสียบแท่งเหล็กดังนี้............    อยู่ได้สบายนาน

    จงเป็นดังฝนเอื้อ................   มวลชน
    ตกเผื่อมิเคยสน..................   เผ่าเชื้อ
    อาบไปทั่วทุกคน.................   เล็กใหญ่
    นาอิ่มน้ำจึ่งเอื้อ...................  อาบเลี้ยงเมืองงาม

    เสรีภาพอย่าได้...................   คลานขอ
    คลานต่ำเขากดศอ...............   บ่คร้าม
    วิชาที่มีพอ.........................   งัดออก
    ดังไก่เห็นงูข้าม....................  จิกเท้าจึงทัน

    วันนี้เราอ่านรู้.......................  เรื่องใด
    เรียนจบรับใช้ใคร..................  อย่าดั้น
    รู้เทียมเท่าเขาไหน................  หรือเปล่า
    ควรเร่งถามถกคั้น.................  ว่ารู้ทันไหม..................?

    ขอยืนยันว่าไม่ได้เห็นตามระบบคอมมิวนิสต์หรือสังคมนิยม แต่เห็นว่าประชาธิปไตย ควรได้มาจากการที่ประชาชนทุกเหล่าเป็นเจ้าของอำนาจ และควรได้รับผลแห่งอำนาจโดยเท่าเทียมกันเท่าที่จะเป็นไปได้
    คำทุกคำที่เขียนเกิดจากการอ่านชีวิต ตามมุมมองของเด็กเลี้ยง*[ํ๋^_^]*คนหนึ่ง.... แค่นั้นเอง
    เพียงดิน
    ๙ ตุลาคม ๒๕๔๖
    ลานลุงแซม  


    แวะมาเยี่ยม และฝากโคลงในวาระสามสิบปี ๑๔ ตุลา
    ครับ
    ยินดีที่ศาลาโคลงแห่งนี้ยังแข็งขัน อบอุ่น และก้าวหน้า
    ไม่ได้หยุดหย่อน
    ฝากความคิดถึงมายังทุกท่าน  คงไม่ได้มีเวลามาต่อโคลง
    อีก แต่จะแวะมาอ่านเท่าที่เวลาอำนวยครับ

    ระลึกถึงเสมอ
    เพียงดิน

    แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 46 00:58:23

    จากคุณ : piangdin - [ 10 ต.ค. 46 00:57:13 ]