**คุณศุภชัย ทุกวันนี้ ทำเพื่อประเทศชาติ..เพื่อพรรค หรือ เพื่อตัวเอง**

    ผมเห็นกระทู้ด่อว่าคุณศุภชัย พาณิชภักดิ์ที่ดำรงตำแหน่งประธาน WTO อยู่ขณะนี้แล้วเศร้าใจจริง ๆ

    คนที่ด่าว่าทำนองตำหนิคุณศุภชัยคงมีจุดประสงค์ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือในตัวของคุณศุภชัย..หรือไม่ก็พรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ก็..ประเทศชาติ อย่างใดอย่างหนึ่ง

    ที่คุณศุภชัยไปทำงานทุกวันนี้ เพื่อใครครับ (ย้อนกลับ) เพื่อประเทศชาติ เพื่อพรรคปชป. หรือ เพื่อตนเอง

    คนที่ไม่รู้เรื่องราวทางการบริหารองค์กรระหว่างประเทศออกมาวิพากษ์วิจารณ์คนที่ทำงานในฐานะตัวแทนของประเทศนี่ นอกจากดูถูกคนไทยด้วยกันเองแล้ว ยังบ่งบอกถึงวุฒิภาวะที่ต่ำต้อยอย่างยิ่ง

    ตำแหน่งประธานในองค์กรระหว่างประเทศนั้นน่ะ มิได้มีอำนาจสั่งการใด ๆ เลยนะครับ ไม่ทราบว่า คนตำหนิรู้หรือเปล่า

    พูดไปแล้วก็คือ เบ๊ หรือ นักการของที่ประชุมใหญ่นั่นแหละครับ รับปัญหาของสมาชิกทุกประเทศมาร่วมกันดำเนินการแก้ไข *วิธีการแก้ไข ก็เป็นความต้องการของมติของสมาชิกทั้งมวล*

    ประธานได้แต่รับทราบปัญหาและทำการบรรจุเข้าวาระ แม้แต่สิทธิ์ออกเสียงบางทียังต้องงดเลยครับ

    ไอ้ที่คิดจะช่วยประเทศนั้น กีดกันประเทศนี้ ประธานทำไม่ได้ครับ และไม่อำนาจทำการเช่นนั้นได้ด้วย

    ที่ทำได้อย่างมากที่สุด และเป็นความหวังของประเทศไทยและชาวเอเซีย ก็คือ จะต้องให้ประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคนี้ ได้รับความยุติธรรม ไม่เสียเปรียบชาติตะวันตกที่เขากำเสียงส่วนใหญ่เอาไว้

    ให้ลองส่งข้อความไปถามท่านนายกทักษิณดูนะครับว่า การมีดร.ศุภชัย นั่งเป็นประธานWTO อยู่นั้น ทำให้ต่างชาติทั้งหลายให้ความเกรงใจประเทศไทยมากขึ้นหรือเปล่า

    คำตอบที่จะได้รับ(หากจริงใจ) ก็คือ แน่นอนที่สุด แม้ไทยจะไม่ได้เปรียบในทางปฏิบัติ แต่พวกเขา ไม่มีใครกล้าเอาเปรียบเราแน่นอน โดยเฉพาะชาติในเอเซียให้การยอมรับและให้ความสำคัญแก่ดร.ศุภชัยมากที่สุด

    ด้วยบุคคลิกที่เป็นคนอ่อนน้อม มีไม่ตรีจิตและไม่นิยมหักหาญน้ำใจผู้อื่นของท่านศุภชัย นี่กลายเป็นจิตวิทยาที่ประเทศสมาชิกทั่วไปให้ความนิยม
    (แต่บางคนในประเทศนี้กลับบอกว่า ไม่เป็นงาน ไม่ทันเกม)

    นั่นเป็นคำตอบที่ว่า ท่านทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติหรือไม่?

    มาดูข้อหาที่สองที่ว่า ท่านศุภชัยไปทำหน้าที่ครานี้ เหมือนลับฝีมือเตรียมไว้เป็นหัวหน้าพรรคปชป.และนายกแคนดิเดท ท่านสร้างชื่อเสียงให้กับพรรคมากมายเพราะถือเป็นผลพวงจากการผลักดันของพรรคปชป.สมัยเป็นรัฐบาล

    ก่อนอื่นต้องมาดูคุณสมบัติก่อน..
    ๑/จบการศึกษาสูงสุดจากภาคพื้นยุโรป มิใช่อเมริกา นี่พอจะลบข้อครหาที่ว่า ทำตามใบสั่งไอ้กันได้ไหม อาจไม่ได้ แต่ก็ถือว่า เป็นกลาง ๆ neutral กว่าจบเมกา

    ๒/ เคยเป็นรองผู้ว่าธ.ชาติ เคยเป็นรองนายกฯ เกียรติคุณนี้สูงสุดแล้ว เพราะมิได้เติบโตมาจากสายธุรกิจ ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับบริษัทข้ามชาติ (เป็นลูกจ้างที่ได้ดิบได้ดี)

    ๓/ อุปนิสัยอลุ้มอล่วย ยอมงอมากกว่ายอมหัก เป็นบุคคลิกของคนที่เหมาะจะทำงานประสานงานกับผู้อื่น (ท่านหลีกเลี่ยงการประสานงา ไม่ว่าจะเป็นคนในพรรคที่ความเห็นไม่ตรงกัน หรือ กับฝ่ายตรงข้าม)

    ๔/ ไม่มีประวัติเสียหาย ด่างพร้อย แม้จะหันมาเล่นการเมืองเป็นอาชีพ ผิดกับนักการเมืองทั่ว ๆ ไป ที่มักจะถูกครหาเรื่องคอรัปชั่น

    ถ้าประเทศไทยใครมีคุณสมบัติเช่นว่านี้ ก็ส่งไปสมัครแข่งขันกับตัวแทนของประเทศอื่น ๆ ได้เลยครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นดร.ศุภชัย หรอกครับ

    ก่อนไป ท่านก็ได้ลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองทั้งในและนอกพรรคหมดสิ้น เพื่อทุ่มเทให้กับงานในฐานะตัวแทนของประเทศอย่างเดียว

    ผมยังไม่เห็นมีใครในพรรคประชาธิปัตย์ออกมาแสดงการทวงบุญคุณที่ส่งท่านไป หรือ ให้คำมั่นว่า ท่านจะต้องกลับมาทำหน้าที่ในพรรคอีก หรือ เอาท่านขึ้นป้ายโฆษณาหาเสียงว่า ถ้าเลือกพรรคปชป.จะได้ท่านศุภชัยมาด้วย

    เพราะคนในพรรคจะรู้ว่า การดึงเอาดร.ศุภชัยมาเป็นจุดขายนั้นทำไม่ได้แล้ว เพราะท่านไม่ได้เกี่ยวข้องทางการเมืองกับปชป.อีกต่อไป การทำเช่นนั้นถือว่า เสียมารยาท

    ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่า พอกลับมาเมืองไทยก็ไปนั่งขลุกอยู่บ้านสนามบินน้ำตลอดเวลาที่บางคนว่าเอาไว้

    ผมว่า ค่อนข้างอคติน่ะ เวลาที่จะให้ครอบครัวยังไม่มีเลย กลับมาเยี่ยมบ้านได้ปุ๊บปั๊บก็ต้องไปแล้ว อย่าว่าแต่คิดเรื่องวางแผนการเมืองเลยครับ วางแผนอยู่กับครอบครัวยังหาไม่ได้เลย และเจ้าของบ้านสนามบินน้ำก็อยู่ในช่วงโดนใบแดงอีกหลายปี ส่วนการเลือกตั้งก็ยังอีกยาวไกลเป็นปี

    คนที่กล่าวหานี่ มิได้ใช้หัวสมองคิดในทางที่ดีเลยสักนิด

    ข้อหาสุดท้าย ทำเพื่อตัวเองใช่ไหม?

    ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า "ใช่เลย"
    เพราะประสบการณ์ในตำแหน่งนั้น ยังไม่เคยมีคนไทยคนไหนได้รับเกียรติ หากท่านพ้นหน้าที่แล้ว เอาความรู้ความสามารถมาสร้างความเจริญให้กับประเทศชาติได้ *แสดงว่าไม่ได้ทำเพื่อตัวเองอย่างเดียว ชาติได้ประโยชน์ด้วย*

    แต่ถ้าท่านกลับมาแล้ว ไปรับจ๊อบเป็นที่ปรึกษาบริษัทข้ามชาติ กินเงินเดือนเป็นแสนเป็นล้าน (ซึ่งแน่นอนมีหลายบริษัทยินดีจ่าย) หรือเบนเข็มไปทำงานให้กับบริษัทธุรกิจเอกชนระดับยักษ์

    แสดงว่าที่ผ่านมาท่านทำเพื่อตัวเองในอนาคต ก็สมควรที่จะตำหนิครับ


    ปีหน้าท่านก็จะหมดวาระแล้วครับ ลองมองหาคนใหม่ในแวดวงของนักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถของประเทศดูสิครับ ว่า..มีใครเหมาะสมกับคุณสมบัติที่ว่าบ้าง ประเทศไทยจะได้มีหน้ามีตาบนเวทีโลกอีกครั้งหนึ่ง

    มีไหมล่ะ?

    จากคุณ : *bonny - [ 11 ต.ค. 46 09:00:21 ]