ความคิดเห็นที่ 36
ว้าวววว ไอพีสตาร์ของทักษิณได้รับยกเว้นภาษี 1.6 หมื่นล้าน แล้วประเทศชาติจะเอาภาษีไปจ่าย 30 ตายทุกโรคได้อย่างไร?? สะใจคอการเมือง
ไอพีสตาร์มีอายุใช้งาน 12 ปี ได้รับยกเว้นภาษี 8 ปี
จริงๆจากการเสนอยกเว้น เดชะบุญกฎหมายมีเพดานที่ 1.6 หมื่นล้าน มิฉะนั้นประเทศชาติจะแห้วภาษีมากกว่านี้อีก
อ่านข่าวนี้ซะจะได้หูตาสว่าง มิน่าถึงอยากเป็นรัฐบาลเต็มแก่
ชินฯฉลุยBOIไฟเขียวไอพีสตาร์ 8ปียกภาษี1.6หมื่นล.คุ้มทุนพอดี
บีโอไอให้สิทธิประโยชน์โครงการดาวเทียม "ไอพีสตาร์" เต็มสูบ ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศไปถึง 8 ปี ปาเข้าไป 22,165 ล้านบาท แลกกับการที่ประเทศไทยจะเข้าถึงเทคโนโลยีการสื่อสารอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่ทันสมัยสุดๆ
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้อนุมัติการส่งเสริมการลงทุนในวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมาให้กับโครงการใหญ่ 5 โครงการด้วยกัน ในวงเงินลงทุนกว่า 25,500 ล้านบาท หนึ่งในโครงการที่ได้รับการอนุมัติได้แก่ กิจการให้บริการวงจรดาวเทียม ของบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ในวงเงินลงทุน 16,543 ล้านบาท หรือคิดเป็นค่อนหนึ่งของมูลค่าเงินลงทุนที่ได้รับการอนุมัติในครั้งนี้ ส่งผลให้โครงการให้บริการวงจรดาวเทียมโครงการนี้ได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิด
แหล่งข่าวในคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงโครงการให้บริการวงจรดาวเทียม หรือโครงการดาวเทียม บรอดแบนด์ "ไอพีสตาร์ (IPstar)" นับเป็นโครงการที่บริษัทชินแซทเทลไลท์ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI เป็นโครงการที่สาม ต่อเนื่องจากโครงการดาวเทียมไทยคม 1-2 กับโครงการดาวเทียมไทยคม 3 ในปี 2537 กับปี 2540 ตามลำดับ โดยทั้ง 3 โครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในประเภทกิจการสาธารณูปโภคและบริการพื้นฐานประเภทย่อย 7.1.7 กิจการโทรคมนาคมดาวเทียม
สำหรับโครงการกิจการให้บริการวงจรดาวเทียมไอพีสตาร์ จัดเป็นการขอรับการส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการให้บริการดาวเทียมของบริษัทชินแซทเทลไลท์ มีลักษณะการให้บริการ 3 แบบด้วยกันคือ พื้นที่ให้บริการแบบ spot beam (สัญญาณด้านรับและส่ง) 84 beams จำนวน 43,927 Mbps, พื้นที่ให้บริการแบบ shaped beam (สัญญาณด้านรับและส่ง) 3 beams จำนวน 1,580 Mbps และพื้นที่ให้บริการแบบ broadcast beam (สัญญาณด้านรับด้านเดียว) 7 beams จำนวน 1,088 Mbps โดยเป็นการให้บริการดาวเทียมบรอดแบนด์ที่ให้บริการข้อมูลความเร็วสูง เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างดาวเทียมไอพีสตาร์กับสถานีบริการภาคพื้นดิน ทั้งในส่วนสถานีบริการควบคุมและสถานีลูกข่าย
โดยสถานีควบคุมภาคพื้นดินเพื่อควบคุมดาวเทียม ตั้งอยู่ที่ถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี ส่วนสถานีลูกข่ายจะมีอยู่ทั้งหมด 18 แห่ง อาทิ ย่างกุ้ง-โซล-คาร์ลกูลี (ออสเตรเลีย)-โบรกเคนฮิลล์ (ออสเตรเลีย)-พนมเปญ-บอมเบย์-เดลี-โอก แลนด์-ปทุมธานี-เซี่ยงไฮ้-ปักกิ่ง-กว่างโจว-กัวลาลัมเปอร์-จาการ์ตา-มะนิลา-โตเกียว-ฮานอย และไทเป ซึ่งสถานีลูกข่ายเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็น gateway ของไอพีสตาร์เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ชุมสายโทรศัพท์
อย่างไรก็ตาม บีโอไอได้พิจารณาให้การอนุมัติส่งเสริมการลงทุนโครงการนี้ด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล "เฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศ" เป็นระยะเวลาถึง 8 ปี หรือเทียบเท่ากับสิทธิประโยชน์สูงสุดที่ BOI ให้กับนักลงทุนในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในส่วนกิจการพิเศษ หรือการลงทุนที่เกิดขึ้นในเขต 3 จากเหตุผลที่ว่า โครงการนี้มีประโยชน์ต่อประเทศทางด้านสังคมและเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา-การแพทย์-การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชน-การถ่ายทอดเทคโนโลยี เหมือนกับที่ทางบริษัทชินแซทเทลไลท์ได้แถลงถึงประโยชน์ของดาวเทียมดวงนี้ว่า เพื่อรองรับความต้องการสื่อสารแบบอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่มีการขยายตัวอย่างมากในอนาคต และยังมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ไทยมีเทคโนโลยีการสื่อสารอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่ทันสมัย สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
ทั้งนี้แหล่งข่าวได้ตั้งข้อสังเกตหรือสิ่งที่บุคคลทั่วไปไม่รู้ว่า "เพื่อประโยชน์ต่อประเทศทางด้านสังคมและเทคโนโลยี" ตามที่กล่าวข้างต้น การยกเว้นรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศของโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์เป็นระยะเวลาสูงสุดถึง 8 ปีนั้น จากการคำนวณฟอร์ตเคส 3 ปีที่บริษัทชินแซทเทลไลท์เป็น "ผู้เสนอ" รายได้และผลกำไรจากการให้บริการดาวเทียมดวงนี้ในเบื้องต้นพบว่า บริษัทชินแซทเทลไลท์จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศสูงถึง 22,165 ล้านบาท แต่เป็นเคราะห์ดีของประเทศที่ว่า ตามกฎหมายส่งเสริมการลงทุนนั้น ได้กำหนดมูลค่าภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุดที่ได้รับการยกเว้นไว้ในโครงการนี้ไม่เกิน 16,459 ล้านบาท (หรือเท่ากับเงินลงทุนโดยไม่รวมค่าที่ดิน) นั้นหมายถึง มูลค่าภาษีเงินได้สูงสุดที่บริษัทชินแซทเทลไลท์จะได้รับการยกเว้น
แหล่งข่าวในกระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่บริษัทชินแซทเทลไลท์จะต้องขอรับการส่งเสริมการลงทุนด้วยการขอ "ยกเว้น" ภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศสูงสุดถึง 8 ปี เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า รายได้หลักจากดาวเทียมไม่ได้มาจากรายได้จากการใช้ดาวเทียมภายในประเทศ แต่ร้อยละ 80 ของรายได้ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากรายได้จากต่างประเทศ นอกจากนี้ การให้การยกเว้นถึง 8 ปีนั้น ไม่รู้ว่ามากเกินไปหรือเปล่า เพราะดาวเทียมดวงนี้มีประมาณการการใช้งานไว้เพียง 12 ปี หรือเท่ากับรัฐบาลมีโอกาสเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศเพียง 4 ปีเท่านั้น
"ประเด็นในขณะนี้ก็คือ เพื่อประโยชน์ต่อประเทศทางด้านสังคมและเทคโนโลยีนั้น ไม่ใช่จะได้มาฟรีๆ แต่ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทชินแซทเทลไลท์จะเรียกเก็บค่าบริการวงจรดาวเทียมทั้งแบบ spot beam-shaped beam-broadcast beam เท่าไหร่ และหากเป็นคนไทยหรือผู้ประกอบการชาวไทยใช้บริการ บริษัทจะให้ส่วนลดหรือไม่อย่างไร เนื่องจากในสัญญาดำเนินการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศที่บริษัททำไว้กับกระทรวงคมนาคม (กันยายน 2534) มีอายุ 30 ปีนั้น ได้ให้บริษัทชินแซทเทลไลท์เป็นผู้กำหนดค่าใช้วงจรดาวเทียมเอง ส่วนกระทรวงคมนาคมจะได้รับผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 5.5 ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายในปีแรก และจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22.5 ในปีที่ 30 แต่ประโยชน์ตลอดระยะเวลาของสัญญาต้องไม่น้อยกว่า 1,415 ล้านบาท แลกกับการที่บริษัทอนุญาตให้ใช้ย่านความถี่แบบ c-band ฟรีจำนวน 1 เครื่องเท่านั้น" แหล่งข่าวกล่าว
ประชาชาติธุรกิจ หน้า 1
จากคุณ :
ผมเสียสละเพื่อชาติเสมอครับ
- [
25 พ.ย. 46 00:20:24
A:202.133.134.199 X:
]
|
|
|