ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นต่อพระบรมราชโอวาทด้วยเศียรเกล้า ในฐานะขาจรในราชดำเนินครับ

    ก่อนอื่นขอโอกาสนี้ถวายพระพรก่อนครับเพราะมัวแต่ยุ่งๆอยู่เลยไม่ได้มาถวายพระพร

    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกดลบัลดาลให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน พระพลานามัยสมบูรณ์

    เอาล่ะครับ นี่เป็นการเขียนกระทู้ในราชดำเนินเป็นครั้งแรกครับ แต่ก็ติดตามอ่านมาบ้างเมื่อมีเวลาครับ แต่ที่เลือกเขียนในหัวข้อนี้ก็เพราะเห็นว่าหลายๆท่านกำลังเดินกันผิดทางอยู่(ผิดทางด้านความคิด จิตใจ) คนที่คิดดี คิดถูก ก็มีหลายท่านครับแต่ก็แสดงความเห็นแบบใส่อารมณ์เหมือนกัน บางท่านก็บอกแต่เพียงเข้าใจเพราะใจความของพระบรมราชโชวาทก็ชัดเจนอยู่แล้ว(ซึ่งแน่นอนจะต้องซาบซี้งอย่างที่ผมรู้สึกเป็นแน่แท้) โดยตัวแท้ของผมไม่เอียงไปทางขั่วใดขั่วหนึ่งเป็นพิเศษครับ(หมายถึงขั่วการเมืองครับ) เนื่องจากคุณสมบัติตรงนี้เลยทำให้เข้าใจใจความของพระบรมราชโชวาท และ รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาสามารถในการให้พระบรมราชโชวาท สมดั่งที่ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของภสกนิกรคนไทยทุกคนแม้ที่อยู่ในประเทศไทยและที่อยู่ต่างแดน(ดั่งเช่นผม)

    ความจริงผมพยายามที่จะหาไฟล์เสียงมาฟังด้วย แต่สงสัยช่วงนี้คนจะดาว์โลดกันเยอะเลยทำให้ดาว์โลดไม่ได้ ก็เลยใช้วิธีอ่านเอา อ่านรอบแรกคร่าวๆ แล้วอ่านเจาะละเอียดช้าๆลงไปอีกทีหนึ่งเพราะรู้สึกว่าเป็นพระบรมราชโชวาทที่มีความลึกซึ้งมาก

    (พระราชดำรัสจริงหาอ่านได้นะครับมีผู้นำมาโพสไว้ทั้งภาษาไทยและก็ภาษาอังกฤษครับ)

    ผมขอแสดงในมุมมองผมเท่านั้นนะครับ


    ในพระราชโชวาทเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังดีและเมตตาเป็นกลางมากส่วนที่นุ่นนวนก็นุ่มนวน ส่วนที่หนักแน่นก็หนักแน่น ส่วนที่เป็นประสบการณ์ที่ผ่านมาท่านก็ทรงนำมาเล่า ส่วนที่ควรจะให้กำลังใจท่านก็ทรงให้กำลังใจ ส่วนที่ทรงควรจะตรัสพระองค์ก็มีความจำเป็นต้องตรัส ส่วนที่ต้องให้คนคิดท่านก็ทรงตรัสให้คิด

    1) นุ่มนวนและเมตตา(เป็นบางส่วนครับ)

    "ขอขอบใจนายกฯ และท่านทั้งหลาย ทั้งข้างในทั้งข้างนอก ที่ได้มาชุมนุมกันเพื่อให้พรในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ซึ่งนับว่า เป็นกำลังใจที่จะมีชีวิตการทำงานต่อไป"

    "แต่ว่ายังไงขอให้ทุกๆ ท่านที่มา ทุกทั่วไปทุกหนแห่ง ทุกข้างนอก ข้างใน ขอให้มีความร่มเย็น ให้มีความเจริญทุกคน งานการอะไรที่ทำ ให้มีผลสำเร็จที่ดี ขอขอบใจทั้งหลายที่มา"

    2) ทรงให้กำลังใจ

    "การปราบยาเสพติดดีที่ปราบ"

    "แต่ถ้าทำดี เรียบร้อย ทุกคนได้รับประโยชน์ ทั้งหมดทุกคนได้รับประโยชน์ และตัวเองก็ได้รับประโยชน์ เพราะว่าทำอะไรรับผิดชอบสิ่งที่ทำดี ก็โก้ คนที่รับผิดชอบสิ่งที่ดี ที่ถูกต้อง อันนี้ที่สำคัญ"


    3) ทรงแสดงออกถึงพระทัยของพระองค์อย่างจริงใจ(ผมนำตาคลอครับตรงนี้)

    "พระมหากษัตริย์ เดือดร้อนเพราะว่า ใครตำหนิไม่ได้ เราไม่ได้บอกนะ ท่านที่เขียนรัฐธรรมนูญบอกว่า พระมหากษัตริย์ใครตำหนิไม่ได้ ใครละเมิดไม่ได้ ทำไมเขียนอย่างนั้น ไม่ทราบ ถ้าละเมิดไม่ได้ เราก็ไม่รู้ว่าเราทำถูกหรือไม่ถูก ก็เลย แต่ท่านไม่อยู่แล้วคือแม่ ต้องเชื่อ เราเชื่อคนเดียว เชื่อแม่คนเดียว แต่ท่านอยู่บนสวรรค์ เดี๋ยวนี้ท่านก็อยู่นี่ ท่านก็ตักเตือนอยู่ว่า ให้คิดดี ทำดี ถูกต้อง ให้โอวาทกับตัวเองเพราะว่า ไม่มีใครให้โอวาทแล้ว เราสบายใจก็เข้าใจว่า ท่านทั้งหลายอาจจะได้ยิน ได้ยิน สมเด็จพระบรมราชชนนี ท่านให้โอวาทลูก แล้วเราก็ให้โอวาทข้าราชการ ใครต่อใครที่อยู่ในที่นี้ ประชาชนทั่วไปว่าทำอะไร ถ้าทำดีก็ปลาบปลื้มกัน ถ้าทำไม่ดีพิจารณาตัวเองว่า ไม่ดี เว้นไว้ ยังมีที่ควรจะเป็น พวกนี้ก็ประชาชนเหมือนกัน(ทรงชี้ไปที่พระราชโอรสและพระราชธิดา) พวกนี้บางคนบางทีเขาก็นึกว่าเขาไม่เป็นประชาชน จริงๆ ก็เป็นประชาชน ถูกให้โอวาทเหมือนกัน"

    4) สิ่งที่ทรงจำเป็นต้องตรัส(ด้วยทรงหวังดีอย่างที่สุด)

    "ต้องพูดเพราะว่านายกฯ มาพูดเมื่อวานนี้ ที่สนามหลวง ถือธง ถือธงชนะๆ ไชโย ทราบดีว่านายกฯ ไม่ชอบให้ค่อยให้เตือน เพราะว่าเตือน ใครเตือนเรา มันเคือง มันเคือง"

    5) ทรงแสดงวิสัยทัศน์(ลึกมาก ผมประทับใจ)

    "รัฐศาสตร์พอเพียง"

    "ให้แต่ละคนคิดที่ดี ก็ไม่เสียหายอะไร ทำให้งานที่ท่านทำ ท่านเป็นผู้ใหญ่ผู้โต งานผู้ใหญ่ผู้โตทำก็ทำให้เกิดประโยชน์กว้างขวางไปได้ ถ้าคนไม่ได้ถือตัวว่าเป็นผู้ใหญ่ผู้โต ทำอะไรก็ไม่ได้ เกิดประโยชน์มากนัก แต่ผู้ใหญ่ผู้โต ผู้ใหญ่ผู้โต เป็นทำให้เกิดผลแก่คนอื่นมากมาย อย่างที่ตัวเองรู้สึกว่า พูดเนี่ย พูดออก มิใช่ออกทีวีไม่ได้ออก แต่ออกวิทยุ ออกวิทยุสด สดนะ ที่พูดเนี่ย ไปทั่วไปถึงนราธิวาส ไปถึงเชียงราย ไปถึงสกลนคร ไปทั่วทุกทิศ คนที่ฟังเขาฟังได้ เขาก็เข้าหูเขา เขาก็ต้องคิด คนที่ฟังเขาคิด แล้วก็คิดว่า พระเจ้าอยู่หัวพูดดีก็เอาไปใช้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ที่จริงที่พูดเนี่ยเป็นทรัพย์สิน ทางปัญญา เป็นทรัพย์สินทางปัญญาแล้วคนเอาไปหากิน ไปหากินก็ยอมให้ไปหากิน"

    6) ให้คิดได้หลายแง่(ทรงมีอารมณ์ขันเย้าหยอก)

    "คำพูด ถ้าเราถือว่า เราพูดดี ก็ไปหากิน ถ้าหากิน คนก็จะมีความสุข รู้สึกว่า พูดพอแล้ว มันชักเหนื่อย แต่ท่านก็เหนื่อยเหมือนกันนั่งอยู่นี่ ฟัง บางคนก็อาจจะหนาวๆ ร้อนๆ ที่เย็นที่หนาวนี่ เพราะเครื่องเย็นใช้ไฟฟ้า ที่ร้อนเพราะว่า ไฟที่นี่มันร้อน คนที่อยู่ข้างนอก หนาวๆ เย็นๆ เพราะว่า ตอนนี้ค่ำแล้ว ค่ำแล้วน้ำค้างลง ร้อนก็เพราะว่าอากาศมันร้อน ก็อย่าไปคิดอะไรว่า ที่บอกว่าท่านหนาวๆ ร้อนๆ"



    เอาล่ะครับผมเอามาแต่เพียงบางส่วนเท่านั้นครับยังมีแง่ให้คิดอีกเยอะครับแต่ต้องลองคิดเองบ้างนะครับ



    แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 46 18:37:09

    แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 46 18:36:26

    จากคุณ : Wahrhaftigkeit - [ 6 ธ.ค. 46 12:18:43 ]