ครบรอบครึ่งปี สำหรับงานยักษ์
ที่รัฐบาลเชิญปรมาจารย์ทางเศรษฐกิจชาวมริกัน
นามว่า ศาสตราจารย์ ไมเคิล พอร์เตอร์
มาเลคเชอร์ให้ CEO ไทย ทั้งฝ่ายรัฐ และฝ่ายธุรกิจ ฟัง
ด้วยมุ่งหวังจะให้ไทย กลายเป็นประเทศเศรษฐี
ทั้งๆ ที่ติดอันดับขาดความโปร่งใส
อันดับ 78 ใน 80 ประเทศ อยู่
ไมเคิล พอร์เตอร์ ก็ได้ผ่าตัดแยกชิ้นส่วนเศรษฐกิจไทย
เช่น :
*จุดอ่อน ที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน:
>ภาษี และ ค่าธรรมเนียมต่างๆ สูง
>ผลผลิตอุตสาหกรรม ต่ำ
>ความเชี่ยวชาญของแรงงาน ต่ำ
>ค่าแรง ต่ำ
เหล่านี้ จะทำให้ไทยสูญเสียการลงทุน จาก ตปท
*จุดที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน:
>เปิดเจรจาเขตการค้าเสรี
>ปลดปล่อยธุรกิจเทเลคอม ให้แข่งขันกันเสรี
>เปิดน่านฟ้าเสรี กับประเทศใกล้เคียง
(เหล่านี้ ปรากฏว่า ส่วนใหญ่คืบคลานเชื่องช้า ยกเว้น ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจครอบครัวใครบางคน เท่านั้น)
***ศาสตราจารย์พอร์เตอร์ ยังได้ทำนายขีดเส้นตายไว้
ว่า ไทย จะไม่สามารถขยับฐานะไปได้มากมาย หาก:
>ยังคงใช้นโยบาย ที่ขัดขวางการพัฒนาผลผลิต ทางธุรกิจ
>หากความเชื่ยวชาญ ในการทำงาน จำกัด อยู่กับไม่กี่คน
>ความสำเร็จในธุรกิจ จำกัด อยู่ใน 2-3 ครอบครัว
>รัฐบาล ขาดความรับผิดชอบต่องาน
>ไม่ปรับปรุงโครงสร้างการศึกษา ให้สอดคล้องกับภาคอุตสาหกรรม
>ไม่ปรับปรุงสาธารณูปโภคจริงจัง
สรุป พอร์เตอร์ก็เตือนไว้ว่า "ไม่มีสูตรปาฏิหาริย์"
สำหรับประเทศไทย
หากไม่ขจัดระบบรวบอำนาจ ของฝ่ายการเมือง
และระบบราชการ ที่เชื่องช้า และทุจริต
ที่น่าเจ็บใจ คือ ขณะที่รัฐบาลทักษิณจ่ายไป 30 ล้านบาท
(โดยเฉพาะค่าตัว พอร์เตอร์ รับไปถึง 19 ล้าน) นั้น
คอลัมนิสต์ชาวสิงคโปร์ บอกแก่เพื่อนร่วมชาติของเขา
ว่า ไม่ต้องไปเสียเงินมากมายขนาดนั้นหรอก
เพราะทุกอย่างที่พอร์เตอร์พูด ในการสัมนานั้น
มีในหนังสือของเขาทั้งหมดแล้ว
ในราคาที่หาซื้อได้ทั่วไป เพียง 40 ยู เอส ดอลล่าร์
หรือประมาณ 1,600 บาท
เท่านั้นเอง
ข้อเท็จจริง:เชิญเยี่ยมชมhttp://straitstimes.asia1.com.sg/columnist/0,1886,177-188245,00.html
จากคุณ :
คนเมืองคิ่น 
- [
11 ธ.ค. 46 23:41:00
]
ประเทศจน คนฉลาด จ่าย 30 ล้าน ซื้อสินค้าราคา 1,600 บาท...??
