ฮิญาบอาภรณ์อันเลอค่าของสตรีคือสัญญลักษณ์ของศาสนาอิสลามจริงหรือ






    พอดีไปอ่านเจอบทความที่น่าสนใจอันอันนึงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา
    ของฮิญาบ (Hijab) ก็เลยสรุปคร่าวๆมาให้อ่านกันค่ะ

    ก่อนหน้าที่ฝรั่งเศสจะสนับสนุนร่างกฎหมายพิเศษเรื่องผ้าคลุมศรีษะของ
    สตรีมุสลิม(Hijab) ฉบับนี้นั้นทั้ง ฝรั่งเศส เยอรมันรวมทั้งอเมริกาเองต่าง
    ก็เจอการขู่ฟ้องร้องในข้อหา "religious discrimination" จากองค์กรอิสลาม
    มากมายยกตัวอย่างเช่น ที่อเมริกามีสตรีมุสลิมหลายคนได้ทำการฟ้องร้อง
    บริษัทรักษาความปลอดภัยของสนามบินเนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่รักษาความ
    ปลอดภัยสั่งให้พวกเธอถอดผ้าคลุมศรีษะออกระหว่างการตรวจค้นสัมภาระ
    ของผู้โดยสารที่เตรียมจะขึ้นเครื่องว่าละเมิด สิทธิส่วนบุคคลขั้นพื้นฐานคำ
    กล่าวอ้างเหล่านี้วางอยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่าHijabคือสัญญลักษณ์ที่สำ
    คัญอันหนึ่งที่บ่งบอกว่าสตรีผู้ที่คลุมศรีษะด้วยฮิญาบนั้นเป็นมุสลิมและการ
    ห้ามสวมฮิญาบนั้นถือว่าเป็นการทำร้ายอิสลาม

    คอลัมนิสต์ชาวอิหร่านท่านนี้ได้ให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่าข้อกล่าว
    อ้างเหล่านี้ไม่เป็นความจริงเนื่องจากว่า ฮิญาบ (hijab)นั้นจริงๆแล้วไม่ได้
    บ่งบอกว่าเป็นสัญญลักษณ์ของศาสนาอิสลามหรือเกี่ยวข้องกับศาสนาอิส
    ลามเลยไม่มีบทลงโทษใดๆในคัมภีร์โกรานหรือ hadith (traditions)กับ
    การที่สตรีมุสลิมไม่เลือกที่จะคลุมศรีษะด้วยฮิญาบ

    ฮิญาบเพิ่งจะถูกประดิษฐ์คิดขึ้นมาในราวต้นปี1970sไม่นานมานี้เองโดยอิหม่าม
    ชาวอิหร่านที่ชื่อว่า Mussa Sadr ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นผู้นำของชุมชนมุสลิม
    ชาวเลบานอนนิกายชีอะห์จากการให้สัมภาษณ์ที่กรุงเบรุตในปี1975 Sadr
    บอกว่าเค้าได้คิดออกแบบฮิญาบนี้ขึ้นมาก็ด้วยแรงดลใจจากการที่เค้าได้เห็น
    ผ้าคลุมศรีษะของแม่ชีชาวเลบานอนนิกายโรมันคาทอลิกและภาพวาดผ้า
    คลุมศรีษะสไตล์ตะวันตกในยุคคลาสสิคของสตรีชาวคริสต์

    แนวคิดเรื่องฮิญาบของ Sadr นั้นก็มีสาเหตุมาจากการเมืองนั่นเองกล่าวคือ
    หญิงมุสลิมที่คลุมฮิญาบนั้นจะถูกแยกโดดเด่นอย่างชัดเจนเป็นที่ต้องห้าม
    ซึ่งจะช่วยปกป้องให้เธอปลอดภัยจากการคุกคามทางเพศและการถูกข่มขืน
    จากบรรดาเหล่ามือปืนชาวปาเลสไตน์ของยัตเซอร์ อาราฟัตซึ่งยึดและควบ
    คุมพื้นที่ทางตอนใต้ของเลบานอนในขณะนั้นไว้ทั้งหมด ฮิญาบในแนวดีไซน์
    แบบใหม่ (neo-hijab)ของ Sadr ปรากฎให้เห็นครั้งแรกในอิหร่านเมื่อปี 1977
    ในฐานะตัวแทนของกลุ่มอิสลามสุดโต่งที่นิยมลัทธิมาร์คซึ่งเป็นฝ่ายที่ต่อ
    ต้านระบอบการปกครองของพระเจ้าชาห์แห่งอิหร่านและเมื่อ mullahsยึด
    อำนาจจากพระเจ้าชาห์ได้ในปี 1979 จำนวนสตรีมุสลิมที่ใช้ผ้าคลุมฮิญาบ
    ดีไซน์แบบใหม่ก็เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

    ต่อมาในปี1981, Abol-Hassan Bani-Sadr ซึ่งเป็นผู้นำสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
    คนแรกก็ได้ประกาศให้สาธารณะชนได้ทราบโดยทั่วกันว่า

    “ จากผลงานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์นั้นพบว่าผมของสตรีมีรังสีที่ปล่อยออกมาทำให้ผู้ชายคลั่งไคล้ได้ ”
    (ฮิฮิฮิ…เป็นความรู้ใหม่ค่ะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยจริงๆนะเออ…)

    ดังนั้นเพื่อความสงบเรียบร้อยของส่วนรวม ในปี 1982 คณะรัฐบาลอิสลาม
    สุดโต่งแห่งอิหร่านก็ได้ออกกฎหมายซึ่งมีบทบังคับให้สตรีทุกคนไม่ว่าจะ
    นับถือศาสนาใดก็ตามที่มีอายุตั้งแต่หกปีขึ้นไปคลุมฮิญาบถ้าหากฝ่าฝืนจะต้อง
    ได้รับโทษจากการถูกเฆี่ยน100ที! และถูกจำคุกหกเดือน เฮ้ออ..โหดจังเนอะ

    ก่อนช่วงปี1970s การคลุมศรีษะในรูปแบบของฮิญาบไม่เคยปรากฎให้เห็น
    ในอิสลามมาก่อนเลยประมาณช่วงกลางปี1980s นี่เองที่การคลุมฮิญาบได้
    กลายมาเป็นมาตรฐานการแต่งกายสำหรับสตรีมุสลิมทั่วโลกรวมทั้งในยุโรปและอเมริกา





    จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 21 ธ.ค. 46 10:55:41 ]