ความคิดเห็นที่ 7
เรียนคุณMarquez.....ที่นับถือ
ผมคัดลอกมาให้อ่าน จาก นสพ.ข่างสด.....
________________________________________
".......น.พ.สงวนกล่าวว่า ตนจะส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นของผู้รับบริการหรือทายาทจ.ขอนแก่น เพื่อพิจารณาว่าสมควรได้รับเงินช่วยเหลือตาม ม.41 หรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากร.พ.ศรีนครินทร์ ได้ชี้แจงว่า ด.ช.สุริยะได้รับการวินิจฉัยโรคและรักษาโรคที่เกิดกับดวงตาข้างซ้ายตามมาตรฐานที่ควรได้รับแล้ว เพียงแต่ว่าขั้นตอนการรักษายังไม่สิ้นสุด และยังจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งเพื่อใส่ดวงตาเทียมทดแทน ดังนั้น ด.ช.สุริยะสามารถใช้สิทธิบัตรทองจนกระทั่งการรักษาเสร็จสิ้น และให้ร.พ.ศรีนครินทร์ทำการใส่ดวงตาเทียมให้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
น.พ.สงวนกล่าวอีกว่า ส่วนหลักเกณฑ์การพิจารณาว่ากรณีของด.ช.สุริยะจะได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตาม ม.41 หรือไม่นั้น จะพิจารณาจากเหตุแห่งความเสียหาย ว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัยหรือไม่ หรือเกิดจากพยาธิสภาพของโรค กรณีที่รักษาตรงตามมาตรฐานแล้วแต่ความเสียหายเกิดจากเหตุสุดวิสัยเพราะต้องการช่วยชีวิตหรือป้องกันโรคไม่ให้ลุกลามต่อไป ซึ่งคณะอนุกรรมการฯของจ.ขอนแก่น ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถพิจารณาถึงความเหมาะสมในการชดเชยความเสียหายได้ ทั้งนี้การพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจะขึ้นอยู่กับประเภทของความเสียหาย ซึ่งกำหนดไว้ 3 ประเภท คือ (1) ความเสียหายนั้นก่อให้เกิดการเสียชีวิตหรือทุพพลภาพอย่างถาวร จ่ายไม่เกิน 80,000 บาท (2) สูญเสียอวัยวะ หรือพิการ จ่ายไม่เกิน 50,000 บาท หรือ (3) บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 20,000 บาท
***"กรณีของน้องยะ คาดว่าคณะอนุกรรมการจะพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือให้แล้วเสร็จตามกำหนดภายใน 1 เดือน แต่ในกรณีนี้เป็นที่สนใจของประชาชนคาดว่าคณะอนุกรรมการจะพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ โดยกรณีนี้น่าจะเข้าข่ายประเภทที่ 2 คือสูญเสียอวัยวะหรือพิการ ได้รับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 50,000 บาท" น.พ.สงวน กล่าว......."***
..............from: ข่าวสด ..........
_________________________________________
สรุปว่าหลังจากเป็นข่าวแล้ว แม่เด็กจะได้รับสิ่งตอบแทนดังนี้...
1.ได้รับดวงตาเทียม...โดยถ้าไม่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตก็จะไม่ได้ส่วนนี้.เพราะตามหลักการโครงการ30บาทนั้นจะไม่ครอบคลุมถึงค่าลูกตาเทียม.
2.นพ.สงวนกล่าวเองเลยว่าน่าจะได้รับเงินชดเชยไม่เกิน50000บาท(จากข่าวข้างบน.....โดยกรณีนี้น่าจะเข้าข่ายประเภทที่ 2 คือสูญเสียอวัยวะหรือพิการ ได้รับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 50,000 บาท....)!!!
นี่คือคมดาบอีกด้านหนึ่ง ของ ม.41ที่ย้อนกลับมาเชือดแพทย์ที่ทำถูกต้องแล้วทั้งด้าน ศีลธรรม หลักวิชาและการสื่อสารกับผู้ป่วย!!!.....เราจะทำอย่างไรให้ดาบเล่มนี้มีคมด้านเดียวที่มุ่งไว้คุ้มครองผู้บริโภคจากความประมาทผิดพลาดของแพทย์ โดยไม่ย้อนกลับมาทำลายแพทย์ที่ดี.เพื่อให้ พรบ.นี้สามารถมีหลักการที่ชัดเจนและปฏิบัติอย่างยุติธรรมกับทุกฝ่ายได้จริง....ถึงแม้นว่าอาจารย์แพทย์ท่านนั้นจะไม่ต้องจ่ายเงินเองก็ตามที แต่ชื่อเสียงเกียรติคุณที่สั่งสมมาก็จะเศร้าหมอง ด้วยข้อกล่าวหาที่ว่า"...บกพร่อง-ผิดพลาด ในการวินิจฉัยและรักษา..." ผมไม่อยากให้คนดีที่เปี่ยมด้วยความสามารถ ต้องมาท้อแท้เพราะเรื่องเช่นนี้....
จากคุณ :
พระเสาร์
- [
14 ม.ค. 47 15:29:19
A:202.183.135.44 X:
]
|
|
|