ความคิดเห็นที่ 1 • โคลงครู ( ต้นแบบโคลงสี่สุภาพ ) คือโคลงบทที่ ๓๐ จาก “ลิลิตพระลอ” ๏ เสียงฦๅเสียงเล่าอ้าง ........... อันใด พี่เอย เสียงย่อมยอยศใคร ............... ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล ................ ลืมตื่น ฤๅพี่ สองพี่คิดเองอ้า .................... อย่าได้ถามเผือ เขือ : ท่าน ( สรรพนามบุรุษที่ ๒ ) เผือ : ฉัน ( สรรพนามบุรุษที่ ๑ ) *** ลิลิตพระลอ : เป็นนิทานพื้นเมืองทางอณาเขตลานนา ( ภาคพายับ ) กวีได้แต่งขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ระหว่างพ.ศ. ๑๙๙๑ - ๒๐๗๙ ก่อนรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ ฯ หนังสือจินดามณี ได้คัดเอาโคลงบทที่ ๓๐ ดังแสดงไว้ข้างบน มาเป็นแบบของโคลงสี่สุภาพ จากคุณ : ส.ร.น. - [ 19 พ.ค. 46 23:24:00 ] ผังโคลง จากคุณ : อังศนา - [ 28 ก.พ. 47 15:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 (ท่านสะระแหน่-หรือนายกระซิบ ณ ปัจจุบัน- อีกนั่นแหละเคยบอกเอาไว้ว่า)   คำบังคับเอกโทของโคลงสี่สุภาพนั้นบังคับที่  รูป  มิใช่เสียง คำบังคับรูปเอก : คำที่มีไม้เอก และคำตายทั้งหมด นั่นคือคำที่สะกดด้วยแม่กก แม่กด แม่กบ และสระเสียงสั้นทั้งปวง ไม่ว่าจะมีเสียงเอก (เช่น ตบแผละ ตกเบ็ด) เสียงโท (เช่น โรควูบ ฮวบฮาบ) หรือเสียงตรี (เช่น นักรบ เฟอะฟะ) คำบังคับรูปโท : คำที่มีไม้โททั้งหลาย แต่จะยกเว้นคำตาย เช่น จ้อกแจ้ก ปู้ดป้าด โอ้กอ้าก อ้วก แอ้ก ตัวอย่าง : โคลงโลกนิติ ๏ นาคีมีพิษเพี้ยง............สุริโย เลื้อยบ่ทำเดโช...................แช่มช้า พิษน้อยหยิ่งโยโส...............แมลงป่อง ชูแต่หางเองอ้า...................อวดอ้างฤทธี แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 47 15:17:34 จากคุณ : อังศนา - [ 28 ก.พ. 47 15:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คำสุภาพ : คำที่ไม่มีวรรณยุกต์ อาจจะเป็น เสียงสามัญหรือเสียงจัตวาก็ได้ มีสี่ตำแหน่งตามผัง ตัวอย่าง : โคลงโลกนิติ ๏ อย่าเอื้อมเด็ดดอกฟ้า.........มาถนอม สูงสุดมือมักตรอม....................อกไข้ เด็ดแต่ดอกพยอม....................ยามยาก ชมนา สูงก็สอยด้วยไม้.......................อาจเอื้อมเอาถึง ๏ ดูข้าดูเมื่อใช้.............การหนัก ดูมิตรพงศารัก...............เมื่อไร้ ดูเมียเมื่อไข้จัก...............จวนชีพ อาจจักรู้จิตไว้.................ว่าร้ายฤาดี ผังคำสุภาพ จากคุณ : อังศนา - [ 28 ก.พ. 47 15:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 4 @ มาเยือนมายลทู้.................อังศนา นวลเอย แอบย่องลองเลียบมา..............ล่องทู้ หวังเพียงอย่าเบือนหน้า............หนีห่าง จางหาย มาเพื่อส่งเสียงฝู้.....................ขู่ฝ้อ ขอแจม ป้าใช้คำพ้องเสียงเพื่อรักษารูปเอกโทตามฉันทลักษณ์จ้ะ "เสียงฟู่" อยู่ตรงคำบังคับเสียงโท จึงต้องใช้ "เสียงฝู้" แทน เช่นเดียวกับ "ขู่ฝ้อ" ที่ใช้แทน "ขู่ฟ่อ" ของจริง มาร่วมแจมตามคำขอหนูยี่ฯ...หากมีเละบ้างอย่าถือสานะจ๊ะ คุณอังที่รัก ((ยิ้มหมากเปรอะมุมปาก)) จากคุณ : ป้าโจ๋ย - [ 28 ก.พ. 47 15:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ** เอกโทในวรรคแรกของบาทแรกสลับที่กันได้ ** ตัวอย่าง : โคลงโลกนิติ ๏ หมาใดตัวร้ายขบ............บาทา อย่าขบตอบต่อหมา.............อย่าขึ้ง ทรชนชาติช่วงทา..................รุณโทษ อย่าโกรธอย่าหน้าบึ้ง...........ตอบถ้อยถือความ จากคุณ : อังศนา - [ 12 ต.ค. 46 19:11:08 ] ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ตัวอย่างการสลับเอก-โท ในโคลงวรรคแรก(ของบาทแรก) ๏ อันใดย้ำแก้มแม่ ........................ หมองหมาย ยุงเหลือฤๅริ้นพราย ...................... ลอบย้ำ ผิวคนแต่จะกลาย ......................... ยังยาก ใครจักอาจให้ช้ำ ............................ ชอกเนื้อเรียมสงวน ๚ สองบาทแรกพระราชนิพนธ์โดยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สองบาทต่อมาประพันธ์โดยศรีปราชญ์บุตรพระโหราธิบดี (จากหนังสือ ประวัติและโคลงกำศรวลศรีปราชญ์ ของกรมศิลปากร) จะเห็นว่าคำว่า “แก้มแม่” สลับเอก-โท ได้เพราะอยู่ในวรรคแรกของบาทแรก (ตำแหน่งอื่นสลับที่ไม่ได้ครับ) ========== ของเก่าเอามาแปะเพื่อเติมให้เต็ม =========== จากคุณ : นายกระซิบ - [ 20 ต.ค. 46 00:03:15 ] จากคุณ : อังศนา - [ 28 ก.พ. 47 15:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ** คำเอกโทษ โทโทษ ** เนื่องจากฉันทลักษณ์บังคับรูป คำบางคำที่ ในตำแหน่งเอกโท โดยไม่มีวรรณยุกต์เอกโท จะถูกเปลี่ยนไปใช้ไม้เอกเรียกว่า เอกโทษ หรือไม้โท เรียกว่าโทโทษ ตัวอย่างคำเอกโทษ ถ้าหาก --> ท่าหาก หน้าตา --> น่าตา ตัวอย่างคำโทโทษ น่ารัก --> หน้ารัก ช่วย --> ฉ้วย นับว่าเป็นทางออกที่ฉลาด แต่ปัจจุบันไม่ค่อยนิยม เนื่องทำให้รูปแบบของภาษาเปลี่ยนไป จากคุณ : อังศนา - [ 28 ก.พ. 47 15:25:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คำเป็น/คำตาย คำเป็น คือคำที่สะกดด้วย น ง ม ย ว หรือผสมสระเสียงยาว อา อี อู โอ ออ เป็นต้น เช่น ธารา นารี พาชี ปีทอง ถ้ำมอง หมองหม่น หนทาง รางหญ้า หมาหมู่ เรียงราย วายวาง ค้างฟ้า คำตาย คือคำที่สะกดด้วย ก ด บ หรือผสมสระเสียงสั้น อะ อิ อุ เอะ โอะ เป็นต้น เช่น พิศวาส อนาถจิต ตกตึก ตบแผละ เฉอะแฉะ ฉีกขาด ขวดแตก เสียงสามัญ : คำที่มีเสียงเดียวกับ "กา" เช่น ไป มา ดู เธอ พอ ใจ ใบลาน นาที กีฬา เสียงเอก : คำที่มีเสียงเดียวกับ "ก่า" เช่น เบื่อ ป่า สี่ สว่าง ก่นด่า อย่าอยู่ ข่าวเก่า ใหม่กว่า คำตายเสียงเอก เช่น เก็บตก ปอดแหก อกหัก บาดเจ็บ เสียงโท : คำที่มีเสียงเดียวกับ "ก้า" เช่น ต้อง ถ้า ที่ ได้แก้ว เจ้าป้า ขี้เถ้า บ้าใบ้ หนี้เน่า ท่วมทุ่ง คำตายเสียงโท เช่น พูดมาก โรควูบ โชกเลือด เชือดยาก เสียงตรี : คำที่มีเสียงเดียวกับ "ก๊า" เช่น น้ำ ฟ้า ทิ้ง ท้อง ร้อง รู้ งิ้ว ม้าใช้ ช้างยิ้ม คำตายเสียงตรี เช่น นกยักษ์ รับรัก นักรบ พบพระ พัดยศ เสียงจัตวา : คำที่มีเสียงเดียวกับ "ก๋า" เช่น ไหม ผวา ถลำ หลายหลา หมีหมา สูสี ถูไถ หมายศาล หวานแหวว จากคุณ : อังศนา - [ 28 ก.พ. 47 15:28:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คำสร้อย : ต้องเป็นคำที่ไม่มีเจตนัง สร้อยโคลงในบาท ๑ หรือ ๓ นั้น มักใส่แล้วแต่ความเหมาะสม และความจำเป็น สร้อยโคลง เช่นคำว่า "มิ่งมา" นั้นจะไม่ถูกต้อง เพราะคำว่า "มา" เป็น "เจตนัง" คือคำที่มีความหมาย ไม่นิยม จึงควรใช้คำอื่นเช่น "มิ่งแล" ตัวอย่าง : โคลงโลกนิติ ๏ จระเข้คับน่านน้ำ..........ไฉนหา ภักษ์เฮย รถใหญ่กว่ารัถยา..............ยากแท้ เสือใหญ่กว่าวนา..............ไฉนอยู่ ได้แฮ เรือเขื่องคับชเลแล้............แล่นโล้ไปไฉน ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ >> สร้อยโคลง ควรรู้......copy มาจากไกลบ้าน >> สำหรับคำสร้อย ในบาทที่ ๑ ๓ และ ๔ มีหลักการณ์เขียนดังนี้ค่ะ คำสร้อยที่นิยมใช้กันมาแต่โบราณนั้น มีทั้งหมด ๑๘ คำ ดังนี้ ๑. 'พ่อ' ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล เช่น ฤทธิ์พ่อ, นี้พ่อ, นาพ่อ ฯลฯ ..ศัตรูหมู่พาลา ...................................... พาลพ่าย ฤทธิ์พ่อ ๒. 'แม่' ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล หรือเป็นคำร้องเรียก เช่น แม่แม่, มาแม่ ฯลฯ ..แสนศึกแสนศาสตร์ซ้อง ......................... แสนพัน มาแม่ ๓. 'พี่' ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล อาจทำหน้าที่เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑ หรือบุรุษที่ ๒ ก็ได้ เช่น เรือพี่, ฤๅพี่ ฯลฯ ..สองเขือพี่หลับไหล ............................... ลืมตื่น ฤๅพี่ ๔. 'เลย' ใช้ในความหมายเชิงปฏิเสธ เช่น เรียมเลย, ถึงเลย ฯลฯ ..ประมาณกึ่งเกศา ................................. ฤๅห่าง เรียมเลย ๕. 'เทอญ' มีความหมายในเชิงขอให้มี หรือขอให้เป็น เช่น ตนเทอญ ฯลฯ ..สารพัดเขตจักรพาล ............................ ฟังด่ำ บลเทอญ ๖. 'นา' ดังนั้น เช่นนั้น ..จำบำราศบุญเรือง .............................. รองบาท พระนา ๗. 'นอ' มีความหมายเช่นเดียวกับคำอุทานว่า 'หนอ' หรือ 'นั่นเอง' ..ยอกไหล่ยอกตะโพกปาน ..................... ปืนปัก อยู่นอ ๘. 'บารนี' สร้อยคำนี้ นิยมใช้มากในลิลิตพระลอ มีความหมายว่า 'ดังนี้' 'เช่นนี้' ..กินบัวอร่อยโอ้ .................................. เอาใจ บารนี ๙. 'รา' มีความหมายละเอียดว่า 'เถอะ' 'เถิด' ..วานจวนชำระใจ ................................ ความทุกข์ พี่รา ๑๐. 'ฤๅ' มีความหมายเชิงถาม เหมือนกับคำว่า หรือ ..มกุฏพิมานมณ ................................. ฑิรทิพย์ เทียมฤๅ ๑๑. 'เนอ' มีความหมายว่า ดังนั้น 'เช่นนั้น' ..วันรุ่งแม่กองทวิ ................................ ทศพวก นายเนอ ๑๒. 'ฮา' มีความหมายเช่นเดียวกับ คำสร้อย นา ..กวัดเท้าท่ามวยเตะ ............................ ตึงเมื่อย หายฮา ๑๓. 'แล' มีความหมายว่า อย่างนั้น เป็นเช่นนั้น ..กัลยาเคยเชื่อไว้ ............................... วางใจ มาแล ๑๔. 'ก็ดี' มีความหมายทำนองเดียวกับ ฉันใดก็ฉันนั้น ..นิทานนิเทศท้าว ................................. องค์ใด ก็ดี ๑๕. 'แฮ' มีความหมายว่า เป็นอย่างนั้นนั่นเอง ทำนองเดียวกับคำสร้อย แล ..อัชฌาสัยแห่งสามัญ ........................ บุญแต่ง มาแฮ ๑๖. 'อา' สร้อยคำนี้ไม่มีความหมายแน่ชัด แต่จะวางไว้หลังคำร้องเรียกให้ครบพยางค์ เช่น พ่ออา แม่อา พี่อา หรือเป็นคำออกเสียงพูด ในเชิง รำพึง แสดงความวิตกกังวล ..เป็นไฉนจึงด่วนทิ้ง .......................... น้องไป พี่อา ๑๗. 'เอย' ใช้เมื่ออยู่หลังคำร้องเรียก เหมือนคำว่า เอ๋ย หรือวางไว้ให้คำครบตามบังคับ ..จำปาจำเปรียบเนื้อ .......................... นางสวรรค์ kuเอย ๑๘. 'เฮย' ใช้ในลักษณะที่ต้องการเน้น ให้มีความเห็นคล้อยตามข้อความที่กล่าวมาข้างหน้า สร้อยคำนี้มาจากคำเขมรว่า "เหย" แปลว่า "แล้ว" ดังนั้นเมื่อใช้ในคำสร้อย จึงน่าจะมี ความหมายว่าเป็นเช่นนั้นแล้ว ได้เช่นกัน ..ขึ้นดั่งชัยพฤกษ์พร้อม ....................... มุรธา ภิเษกเฮย คำสร้อยทั้ง ๑๘ คำที่กล่าวมานี้ เป็นคำสร้อยแบบแผน ที่ใช้กันมาแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้แล้วยังมีคำสร้อยอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า "สร้อยเจตนัง" เป็นคำสร้อยที่กวี ต้องการให้เป็นไปตามใจของตน หรือใช้คำสร้อยนั้นโดยจงใจ ผู้ที่เริ่มฝึกหัดการประพันธ์ ควรใช้แต่สร้อยที่เป็นแบบแผน หลีกเลี่ยงการใช้สร้อยเจตนัง ในงานกวีนิพนธ์ที่เป็นพิธีการ ก็ไม่ควรใช้เช่นกัน สร้อยแบบนี้ไม่พบบ่อยนัก ในวรรณกรรมเก่า จึงหาตัวอย่างได้ยาก เช่น ..หายเห็นประเหลนุช .......................... นอนเงื่อง งงง่วง ..พวกไทยไล่ตามเพลิง ........................ เผาจุด ฉางฮือ ..ลัทธิท่านเคร่งเขมง .......................... เมืองท่าน อือฮือ การใช้คำสร้อยของกวีในอดีต แต่ละท่านมีความนิยมแตกต่างกัน ในงานประพันธ์บางชิ้น ที่ไม่ทราบว่าท่านใดเป็นผู้ประพันธ์ อาจใช้รูปแบบความนิยมในการใช้คำสร้อย เป็นสิ่งช่วยวินิจฉัยว่าผลงานนั้นเป็นของกวีท่านใดได้ โดยคุณ : อังคาร จากคุณ : lek Isara - [6 มี.ค. 23:49:41] จากคุณ : รสา รสา - [ 14 ส.ค. 46 01:15:25 ] จากคุณ : ซูซี่ - [ 20 ส.ค. 46 21:06:54].. จากคุณ : อังศนา - [ 28 ก.พ. 47 15:33:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พยางค์โคลง/ลูกเก็บ ตัวอย่างคำว่า “สะพาน” นับพยางค์โคลงได้ ๒ แบบคือ - หนึ่งพยางค์ โดยอ่านแบบใช้ลูกเก็บ - สองพยางค์ โดยอ่านแบบแยกพยางค์ ๏ สะพานลอยลับฟ้า .................. เลยฝัน สะพานรักสารพัน ......................... เพริศแพร้ว สะพานใหม่สะพานหัน ................. สะพานเหล็ก สะพานพุทธเคยข้ามแล้ว ............ อ่อนล้าสะพานเหลือง วรรคแรก : สะพานลอย อ่านแบบแยกคำ นับได้ ๓ พยางค์ วรรค ๒ : สะพานรัก อ่านแบบมีลูกเก็บนับได้ ๒ พยางค์ (สะพาน + รัก) ... ไม่ตกเอก แต่คำว่า สารพัน อ่านนับแยกเป็น ๓ พยางค์ คือ สา+ระ+พัน วรรค ๓ : สะพานใหม่ นับแยกเป็น สะ+พาน+ใหม่ ( ๓ พยางค์) แต่สะพานหันนับแบบมีลูกเก็บ คือ สะพาน+หัน (๒ พยางค์) คำว่า “พยางค์” ในที่นี้คือ “พยางค์โคลง” ที่เหลือก็ลองสังเกตดูนะครับ ส.ร.น. แส่เพราะรักษ์ อิอิ จากคุณ : สะระแหน่ (นายกระซิบ) - [ 17 ก.ย. 46 23:11:05 ] จากคุณ : อังศนา - [ 28 ก.พ. 47 15:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 การร้อยโคลง ความจริงโคลงจะมีสัมผัสระหว่างบทก็ได้ ไม่มีก็ได้ แต่ถ้าเป็นลิลิตจะบังคับให้มี หากท่านเขียนโคลงหลายๆบทก็น่าลองให้มีสัมผัสระหว่างบท ซึ่งอาจเรียกว่า การ "ร้อยโคลง" โดยมีหลักการง่ายว่า ... พยางค์สุดท้ายของโคลงบทแรก จะส่งสัมผัสไปยังพยางค์ที่หนึ่งถึงสามในวรรคแรกของบทต่อไป อยากให้ทุกท่านเปิดใจรับ "ฉันทลักษณ์ " อย่างจริงใจแล้วจะรู้ว่ามันไม่ใช่กรอบ ที่จะมาทำลายจินตนาการ.... แส่เพราะรักษ์ จากคุณ : สะระแหน่ - [ 16 พ.ค. 46 02:12:50 ] สายามานุสสติ รัชกาลที่ ๖ ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อ ๒๗ เมษายน ๒๔๖๑ เป็นโคลง ๔ บท รักราช จงจิตน้อม ..................... ภักดี ท่านนา รักชาติ กอบกรณีย์ ................... แน่วไว้ รักศาสน์ กอบบุญตรี ................ สุจริต ถ้วนเทอญ รักศักดิ์ จงจิตให้ ........................ โลกซร้องสรรเสริญ ๏ ยามเดินยืนนั่งน้อม ............... กะมล รำลึกถึงเทศตน .......................... อยู่ยั้ง เปนรัฎฐะมณฑล ........................ ไทยอยู่ สราญฮา ควรถนอมแน่นตั้ง ....................... อยู่เพี้ยงอวสาน ๏ ใครรานใครรุกด้าว ................ แดนไทย ไทยรบจนสุดใจ .......................... ขาดดิ้น เสียเนื้อเลือดหลั่งไหล ................ ยอมสละ สิ้นแล เสียชีพไป่เสียสิ้น ........................ ชื่อก้องเกียรติงาม ๏ หากสยามยังอยู่ยั้ง ................. ยืนยง เราก็เหมือนอยู่คง ........................ ชีพด้วย หากสยามพินาศลง ..................... ไทยอยู่ ได้ฤๅ เราก็เหมือนมอดม้วย .................. หมดสิ้นสกุลไทย <<< จะสังเกตเห็นการร้อยโคลง หรือ(การส่ง-รับ)สัมผัสระหว่างบท ดังนี้ << เสริญ-เดิน สาน-ราน งาม-สยาม (พยางค์ท้ายของโคลงบทแรกจะส่งสัมผัส ไปยังพยางค์ที่ ๑,๒ หรือ ๓ ของวรรคแรกในบทถัดไป) จากคุณ : นายกระซิบ - [ 24 ก.ย. 46 22:49:04 ] จากคุณ : อังศนา - [ 28 ก.พ. 47 15:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ...สาม มาหาโล่อั้ง..................อังศนา ล้อ ที่บดมรรคา......................แน่วแหน้ มา เพียงเผื่อเรียกหา................ยังอยู่ แล้ว ค่าตัวจักได้.....................เมื่อนั้น เมื่อใด มาด้วยค่าตัวกับโคลงเคลงโดยแท้ฮะ สามล้อยาจก สามล้อเข้ามาไม่ได้จ้ะคุณอัง...เลยฝากป้าช่วยแปะให้นะจ๊ะ จากคุณ : ป้าโจ๋ย - [ 28 ก.พ. 47 15:42:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ~*~.......สำหรับช่วงแรกขอคั่นรายการด้วยเว็บไซท์ที่ดีมาก   มีรายละเอียด  และมีโคลงที่น่าอ่าน น่าศึกษามากมาย (คุณชายป่าคอนกรีต สมาชิกศาลากวีเป็นผู้เอามาฝาก) http://www.thaipoet.org/poemroom.html http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/index.html http://www.geocities.com/bot_kawee/kolbot.htm http://olddreamz.com/praloh/praloh.html http://www.pixiart.com/archives/soontornpoo/supan-01.html ~*~....หวังว่าเพื่อนใหม่ทุกๆ ท่านคงจะไม่ท้อใจไปเสียก่อนเมื่อเห็นกรอบที่เรียงรายยาวเหยียด ท่านใดอยากจะลองแต่งแปะเอาไว้ก็เชิญได้ค่ะ  สมาชิกเดิมทุกคนขอเป็นกำลังใจให้ ~*~....จะมีโคลงของกวีระดับครูมาแปะให้อ่านเป็นตัวอย่าง และแรงบันดาลใจอีกเรื่อยๆ ในโอกาสต่อไปค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 47 14:14:11 จากคุณ : อังศนา - [ 28 ก.พ. 47 15:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีเจ้าค่ะ ป้าโจ๋ย เข้ามาเงียบๆ สะดุ้งเลย.. อิอิ ขอบคุณค่ะที่ส่งข่าว.. ขอเชิญบ่อยๆ นะคะ ทั้งสามล้อ ทั้งป้าโจ๋ยแหละค่ะ จากคุณ : อังศนา - [ 28 ก.พ. 47 15:54:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ยากจังเลยครับ นึกคำแต่งไม่ออก นึกเรื่องแต่งยังไม่ได้ เดี๋ยวถ้าฝึกในกระดาษแล้วพอเข้าที่เข้าทาง ค่อยเข้ามาร่วมแจมนะครับ ขอบคุณมากครับ คุณอังฯ จากคุณ : ฟ้าเข้ม - [ 28 ก.พ. 47 16:28:01 A:202.133.166.252 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 ...ด้วยความยินดีค่ะ คุณฟ้าเข้ม     เชิญได้ทุกเมื่อเลยนะคะ ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ โคลงสี่ทุกแบบพร้อง.......พากเพียร เติมแต่งอักขระสลวย..................สอดคล้อง ส่งสัมผัสความเขียน....................ฟังเสนาะ คำเอกโทนั้นต้อง.........................ไม่หลง หากยึดฉันทลักษณ์ใช้.......ให้ชาญ เมื่อเชี่ยวฉมังมั่นคง.......................คล่องแล้ว ผกากวีที่เบ่งบาน............................จักบ่ง  บอกแล ติดกรอบแต่พริ้งแพร้ว..................เพริศเสมอ ..ลองดัดแปลงโคลงเปิดกระทู้ให้เป็นโคลงดั้น   ..เอาไว้ให้กำลังใจตัวเองด้วย.. อิอิ แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 47 18:46:30 จากคุณ : อังศนา - [ 28 ก.พ. 47 18:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โคลงสี่ทุกบาทพร้อง...................พากเพียร เติมแต่งอักขระเขียน..................สอดคล้อง สัมผัสส่งความเนียน....................ฟังเสนาะ โทเอกคำควรต้อง....................... ใส่เน้นกันหลง ฉันทลักษณ์มุ่งใช้........................ บรรจง จักเชี่ยวชาญความคง.....................เจิดแจ้ว ผกากวีวง...................................จักเอ่ย ชมแล ติดกรอบพาเพริดแพร้ว.....................ผ่องพริ้งกินใจ ขอยืมโคลงดั้นแต่งกลับเป็นโคลงสี่ พูดถึงฉันทลักษณ์ ทำให้คิดถึงท่าน ๑ ไปดูแถวสยามฯก็ไม่เห็น เสีย ดายที่กวีที่ได้ทั้งฝีมือและ EQ อย่างท่านต้องลา ศาลานี้ไป เสียดายที่คุณภาพคำและความคิด ของท่านไม่น้อย รำพึงส่วนตัว..../// จากคุณ : piangdin - [ 28 ก.พ. 47 21:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โคลงกลอนล้วนเริ่มด้วย......................อารมณ์ แต้มแต่งลิขิตผสม.................................ผ่านถ้อย ไพเราะเสนาะนิยม..............................ชมชื่น จงอย่าฝืนเรียงร้อย..............................อ่อนด้อยอารมณ์ จากคุณ : ซูซี่ - [ 28 ก.พ. 47 21:26:45 A:203.148.252.237 X:210.203.184.244 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ..เอกเจ็ดโทสี่ต้อง ...ตามผัง ตำแหน่งบังคับดัง ....ว่าไว้ ขาดเกินเกลื่อนกราดจัง ..เห็นน่า ขาใหม่มึนงงใช้ .......ช่วยชี้โชว์เขา ได้ไหมอาจารย์ที่รัก จากคุณ : ร.อ. - [ 28 ก.พ. 47 23:00:11 A:203.118.91.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 แวะมาขอบคุณก่อนค่ะ ขอศึกษาหน่อย แล้วถ้าไหว ก็จะตามมาขอแจมด้วย ถ้า "สามารถ" นะ อิอิ จากคุณ : 'Louis' - [ 28 ก.พ. 47 23:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ..เขือคงคิดเบื่อแล้ว .หรือไร ถึงไม่เห็นแมวใน .....ต่างตู้ เพราะเผือเหนื่อยหายไป .โปรดอย่า เคืองนา สืบส่งสัมพันธ์กู้ . ...กิ่งแก้วใบขม จากคุณ : ร.อ. - [ 29 ก.พ. 47 00:05:14 A:203.118.91.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาเพิ่มลิ้งค์ให้อ่านอีกอัน http://www.heritage.thaigov.net/ ในหัวข้อ "ชาติ" ลงมาบรรทัดล่างๆหน่อยจะมีเรื่องวรรณกรรมไทย ตั้งแต่เรื่องเรียนหนังสือไทยสมัยก่อน ไล่ลงมาถึงสุภาษิตไทย(โคลงโลกนิติก็อยู่ในหัวข้อนี้) มีนิราศ 12 เรื่องพร้อมรูปประกอบสวยงามน่าอ่าน(แต่นิราศนรินทร์โคลงไม่ครบ อิอิ) จากคุณ : สอมอ - [ 29 ก.พ. 47 00:05:57 A:203.209.117.199 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 http://www.heritage.thaigov.net/ ขอบคุณค่ะคุณสอมอ..   http://www.geocities.com/thailiterature/nn.htm ขอบคุณ คุณ ร.อ. ด้วยอีกคนค่ะ  .....*       แก้ไขเมื่อ 29 ก.พ. 47 12:44:58 จากคุณ : อังศนา - [ 29 ก.พ. 47 08:04:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 http://www.geocities.com/thailiterature/nn.htm นิราศนรินทร์ฉบับเต็ม กำศรวลศรีปราชญ์ก็มีนะ และอื่นๆอีกมากมาย จากคุณ : ร.อ. - [ 29 ก.พ. 47 09:32:14 A:210.86.207.81 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 ฝึกหัดฉันทลักษณ์ใช้.............อย่างดี ผิดพลาดเพราะเสียงมี..........ไม่น้อย รักลูกช่วยเฆี่ยนตี...................เตือนหน่อย ก่อนเก่งหลังลายพร้อย.........ศิษย์รู้คุณครู ฯ "สวัสดีครับ" จากคุณ : คนแล้วคนเล่า - [ 29 ก.พ. 47 09:32:31 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ๏ ส่งโคลงควานกิ่งแก้ว........ใบขม เก็บเกี่ยวก้านระทม.................แทบต้น แมวหายกับสายลม................งันเงียบ ไม่เบื่อก็ไม่พ้น..........................ผิดพ้องหมองหมาง จากคุณ : ม.ม. - [ 29 ก.พ. 47 10:32:48 A:169.210.6.175 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 เคยเบื่อเคยเข็ดเขี้ยว...........เค้าโคลง พอคล่องคลอเคล้าโยง........แต่งร้อย เขียนสนุกทุกชั่วโมง.............ยามแต่ง รู้ศัพท์ฉันทลักษณ์สร้อย.......ต่อแต้มอารมณ์ จากคุณ : ซ้ายไร้เดียงสา - [ 29 ก.พ. 47 12:34:53 A:202.129.17.125 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 ***************************************** ขอนำโคลงสี่บทนี้มาแปะ ได้มาจากในพันทิพเนี่ยละค่ะ แต่จำไม่ได้ว่าเป็นของใครค่ะ ต้องขออภัยและขออนุญาต นำมาลงเผยแพร่นะคะ ***************************************** ๏...โคลงสี่สุภาพนั้น..................พึงจำ บาทหนึ่งบาทสี่คำ.....................ต่อท้าย บาทสองบาทสามรำ-.................ลึกวรรค แรกนา คำที่ห้าอย่าย้าย.......................เอกไว้แลโท๚ ๏...คำสร้อยเติมแต่งให้...............เพียงสอง บาทนา บาทแรกตามครรลอง..................กล่าวไว้ บาทสามอีกแห่งผอง...................กวีนิ-ยมเฮย คำต่อจงจำไซร้..........................อย่าใช้บอกความ๚ ๏...นา,เฮย,แฮ มากค้น.................คำตาม ฤๅ,แม่,เอย หลากความ................หยดย้อย คำสร้อยท่านวรรคงาม..................ออกจาก กันนา บาทสุดท้ายใช่สร้อย....................อย่าได้วรรคคำ๚ ๏...เอกโทบังคับถ้วน.....................ตายตัว สิบเอ็ดคำน่ากลัว..........................ยากไซร้ โทคงมั่นอย่ามัว...........................หลงผิด ลืมพ่อ กก,กด,กบ จำใช้..........................แม่นี้เอกเอย ๚ะ๛ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 12 ต.ค. 46 23:50:46 ] จากคุณ : อังศนา - [ 29 ก.พ. 47 12:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ เห็นโคลงอธิบายความที่คุณยี่หร่าแปะ จึงขอคัดที่ท่านสะระแหน่เคยแปะไว้เหมือนกันมาให้อ่านกันด้วย ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ • โคลงอธิบาย ( จากหนังสือจินดามณี ฉบับหอสมุดแห่งชาติ ) ๏ ให้ปลายบทเอกนั้น ............ มาฟัด ห้าที่บทสองวัจน์ ...................... ชอบพร้อง บทสามดุจเดียวทัด ................. ในที่ เบญจนา ปลายแห่งบทสองต้อง ............ ที่ห้าบทหลัง ๏ ที่พินทุ์โทนั้นอย่า ............... พึงพินทุ์ เอกนา บชอบอย่าควรถวิล ............... ใส่ไว้ ที่พินทุ์เอกอย่าจิน .................. ดาใส่ โทนา แม้วบมีไม้ ............................... เอกไม้โทควร ๏ บทเอกใส่สร้อยได้ .............. โดยมี แม้วจะใส่บทตรี ........................ ย่อมได้ จัตวานพวาที ............................ ในที่ นั้นนา โทที่ถัดมาไซ้ ............................. เจ็ดถ้วนคำคง ๏ ลิขิตวิจิตรสร้อย ................... สารสรร คือวุตโตไทยฉันท์ ..................... บอกแจ้ง สถิลธนิตพันธ์ ........................... โคลงกาพย์ จบสำเร็จเสร็จแกล้ง ................. กล่าวไว้พึงเรียน ๏ บทต้นทั้งสี่ไซ้ ........................ โดยใจ แม้วจะพินทุ์ใดใด ....................... ย่อมได้ สี่ห้าที่ภายใน .............................. บทแรก แม้นมาทจักมีไม้ ......................... เอกไม้โทควร ๏ บทใดสอนโลกไว้ ................... เปนฉบับ อรรถแห่งครูอันลับ ..................... บอกแจ้ง บกลัวบเกรงกลับ ....................... ปรมาท ครูนา ตกนรกไปแย้ง ........................... ต่อด้วยยมบาล จากคุณ : ส.ร.น. - [ 19 พ.ค. 46 23:24:00 ] จากคุณ : อังศนา - [ 29 ก.พ. 47 12:54:25 ]

ความคิดเห็นที่ 30 -ปณิธานของกวี- ฉันเอาฟ้าห่มให้..................หายหนาว ดึกดื่นกินแสงดาว..............ต่างข้าว น้ำค้างพร่างกลางหาว......หาดื่ม ไหลหลั่งกวีไว้เช้า...............ชั่วฟ้าดินสมัยฯ พลีใจเป็นป่าช้า.......................อาถรรพณ์ ขวัญลิ่วไปเมืองฝัน.................ฟากฟ้า เสาะทิพย์ที่สวรรค์..................มาโลก โลมแผ่นทรายเส้นหญ้า........เพื่อหล้าเกษมศานต์ฯ นิพนธ์กวีไว้เพื่อกู้.................วิญญาณ กลางคลื่นกระแสกาล.........เชี่ยวกล้า ชีวีนี่มินาน............................เปลืองเปล่า ใจเปล่งแววทิพย์ท้า............ตราบฟ้าดินสลายฯ จิตกาธารกรุ่นไหม้............โฉมไป ก็ดี กาพย์ร่ำหอมแรงใจ..........ไป่แล้ว จุติที่ภพไหน........................ภพนั่น ขวัญท่วมทิพย์รุ้งแก้ว........ร่วงน้ำมณีสมัยฯ ลายสือไหววิเวกให้............หฤหรรษ์ ฝนห่าแก้วจากสวรรค์........ดับร้อน ใจปลิวลิ่วไปฝัน..................โลกอื่น หอมภพนี้สะท้อน...............ภพหน้ามาหอมฯ ข้ายอมสละทอดทิ้ง..........ชีวิต หวังสิ่งสินนฤมิต..............ใหม่แพร้ว วิชากวีจุ่งศักดิ์สิทธฺ์...........สูงสุด ขลังดั่งบุหงาป่าแก้ว........ร่วงฟ้ามาหอมฯ -อังคาร กัลยาณพงศ์- จากคุณ : !ฅนแล้วฅนเหล้า! - [ 14 ต.ค. 46 08:23:12 ] จากคุณ : อังศนา - [ 29 ก.พ. 47 12:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ท่านกระซิบ เคยอธิบาย(ต่างกรรม ต่างวาระ)ไว้ดังนี้... ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ การแต่งร้อยกรองให้ดีมี ๔ หลัก ๑. อักขรวิธี : เขียน(และอ่าน) ให้ถูกวิธี ๒. วจีวิภาค : ใช้คำให้เหมาะสม (คำไพเราะ, คำคม, คำกร้าว/เร้าใจ) ตามกาลเทศะ/เนื้อเรื่อง ๓. วากยสัมพันธ์ : การเชื่อมโยงเรื่องราวในประโยคต่างๆ ให้เป็นสำนวนโวหารที่น่าฟัง ๔ ฉันทลักษณ์ : ถูกรูปแบบ ไม่แหกกฎ(โดยไม่จำเป็น ยกเว้นชื่อเฉพาะ ภาษิต ฯลฯ) ๑. อักขรวิธี : สะกดให้ถูก ๒. วจีวิภาค : คัดเลือกใช้ คำคม คำหวาน คำไพเราะ ให้เหมาะสม [เช่นไม่ใช่คำว่า “บรรจง” กับฆาตกรโรคจิต(หั่นศพ) เป็นต้น] ๓. วากยสัมพันธ์ : ลีลา สำนวนโวหาร (อ่านแล้วจะให้รู้เรื่องก็ได้ หรือให้คิดไปสามวันจึงรู้ก็ได้) ๔. ฉันทลักษณ์ : กระสวน (Pattern) จำสูตรสำเร็จของร้อยกรองแต่ละแบบให้แม่นยำ ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ พร้อมกับได้ย้ำว่า คำแนะนำต่างๆ ที่ผ่านมา อ่านแล้วอย่าเชื่อ ขอให้ฟังหูไว้หู แล้วจงใช้หลักกาลามสูตร คือต้องค้นคว้าต่อด้วย จากคุณ : อังศนา - [ 29 ก.พ. 47 13:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ของแถม... กระทู้โคลงกลบทที่มีผู้แต่งไว้ในห้องสมุด (อ่านแล้วสนุก ชวนให้อยากลองแต่งบ้าง) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2617661/W2617661.html จากคุณ : อังศนา - [ 29 ก.พ. 47 13:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ๏...โคลงสี่เสน่ห์ล้ำ......................ยวนใจ ขับกล่อมร้อยโยงใย......................มัดล้อม คุณค่าเอกลักษณ์ไทย...................กวีเทิด ยิ่งนา ร่วมรักษ์จรรโลงน้อม.....................สดับซึ้งตรึงตรา ๚ สวัสดีค่ะคุณอังฯ กระทู้แบบนี้ชอบจังค่ะ.......... ยินดีต้อนรับ คุณป้าโจ๋ย คุณลูอิส คุณฟ้าเข้มค่ะ แล้วสวัสดีทุก ๆ ท่านในกรอบข้างบนค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 29 ก.พ. 47 14:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดียามบ่ายเจ้าค่ะ ทุกๆ ท่าน   ขาเก่าผังคล่องแล้ว..........บางที พลั้งพลาดเผลอไผลมี...................หลุดบ้าง เตือนบ่อยไม่ค่อยดี.......................ดุจจับ  ผิดแล อาจกลับกลายแส่สร้าง.................เหตุให้หัวเสีย ขอเชียร์ขาใหม่ใช้.........เอกโท ตำแหน่งตามผังโชว์.................ชัดแจ้ง แต่งแล้วฝากมือโปร..................ช่วยแนะ  นำนา เมื่อปีกกล้าขาแข้ง.....................ย่อมเข้มแข็งชัวร์ ..ขาเก่าควรระมัดระวังกันเองสักนิดเจ้าค่ะ ..ส่วน(ขา)ใหญ่ก็จะเห็นตรวจสอบตนเองกันอยู่แล้ว  มักย้อนมาแก้ไข ไม่ค่อยได้ปล่อยเลยตามเลย (แอบมาตัดตอน เพราะอ่านเองก็รำคาญเอง..อิอิ) แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 47 18:07:18 จากคุณ : อังศนา - [ 29 ก.พ. 47 16:26:54 ]

ความคิดเห็นที่ 35 @ การเมืองเคืองขุ่นแค้น...............แรมปี เมืองไม่สิ้นคนดี...........................ช่วยกู้ ประชาอย่าหน่ายหนี......................ร่วมด้วย ช่วยนา ประเทศจะอู้ฝู้..............................แกร่งพร้อมเฉิดฉาย @ ทำดีจึ่งไฮ่ท้าย.........................คนดี หาไม่จะไม่มี...............................อยู่รั้ง คนเลวไล่ต่อตี.............................อย่าอยู่ เลยเฮย ทำอย่างนี้ทั่วทั้ง...........................ทุกผู้ทุกนาม ล้อฝากป้าโจ๋ยอีกครั้งนะฮะ...ขอบคุณฮะ จ้ะ จากคุณ : สามล้อฝากอีกแล้วฮะ (ป้าโจ๋ย) - [ 29 ก.พ. 47 18:15:43 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ~*~.....โคลง: สีหติกำกาม การเมืองเคืองขุ่นแค้น......กันไป คุยข่มถ่มถากไถ.............................ฝ่ายค้าน ด่ากราดบาดหัวใจ.........................ฝ่ายรัฐ บาลนอ เวอร์มากปากจัดจ้าน.....................จาบจ้วงทั้งสอง ฝั่งแลฯ ดีใจเจ้าค่ะ ที่เห็นป้าโจ๋ยบรรทุกสามล้อมาอีกครา.. จากคุณ : อังศนา - [ 29 ก.พ. 47 19:36:41 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จดหมายจากตั่งตู้................ไปรษณีย์ ปริศนาแทรกหว่างฤดี.........ผ่าวร้อน เผื่อเร้นหกตกนที..................พลัดป่า เพราะปกติซับซ้อน..............ขนาดนี้ไม่เคย ฯ *ช้างประสานงา จากคุณ : คนแล้วคนเล่า - [ 1 มี.ค. 47 12:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ....การเมืองเริ่มง่าง้าว .........เข้าฟัน โหมเร่งสู้ประจัน ................หั่นห้ำ ดาบคมกริบปากคัน ............ป้ายใส่ กันแฮ ลายหลั่งล้นฟองคล้ำ ..........พรั่งแล้วเหม็นหืน จากคุณ : ๓s - [ 1 มี.ค. 47 14:21:41 A:203.113.37.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 รอคอยจนค่ำคล้อย..............ลับตา ตาสอดส่ายไปมา.................จับจ้อง จ้องมองมิจากลา.................เตือนสติ สติที่อยากจับต้อง................กล่องแก้วของขวัญฯ *วัวพันหลัก จากคุณ : คนแล้วคนเล่า - [ 1 มี.ค. 47 15:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เช้าตรู่ต้องตื่นขึ้น................คอยรอ ไม่พบหน้าง้องอ.................โศกเศร้า หรือผิดพลาดจอมอ...........ตีกลับ ส่งข่าวพอเข้าเค้า..............อย่าให้ห่วงหา ฯ *สิงโตเล่นหาง "สนุกดีครับ แต่อันนี้ไม่แน่ใจว่าจะถูกต้อง" จากคุณ : คนแล้วคนเล่า - [ 1 มี.ค. 47 15:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สุราระยะนี้........................เพลาเพลา ดื่มมากยิ่งเม้าท์เมา..........ตื่นแฮ้งค์ กับแกล้มยิ่งเบ้าเบา..........ลงหน่อย สมองฝ่อมีแต่แป้ง..............โรคอ้วนถามหาฯ *ม้ากระทืบโรง จากคุณ : คนแล้วคนเล่า - [ 1 มี.ค. 47 15:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ใครร่ำไทยร่ำไห้....................ห่วงชน ความทุกข์คนทุกข์ทน..........ทั่วหล้า แปรรูปปฏิรูปปรน.................เปรอเปรอะ หลงลูบหลังลูบหน้า.............หนักข้อกลืนเมือง ฯ *กินนรเก็บบัว จากคุณ : คนแล้วคนเล่า - [ 1 มี.ค. 47 16:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เงาครึ้มแห่งร่มไม้.........................ใบเงา คล้อยแดดลับเหลี่ยมเขา..............บ่ายคล้อย อกชายช่างอับเฉา.........................เชียวอก หวังเหวิดอยู่เล็กน้อย...................ก่ายหน้าสิ้นหวังฯ *ครอบจักรวาล จากคุณ : คนแล้วคนเล่า - [ 1 มี.ค. 47 16:07:47 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เปลแกว่งนอนไขว่ห้าง................แกว่งเปล ร้อนแดดลมทะเล.........................แดดร้อน คลื่นเห่กล่อมครวญเห.................เห่คลื่น ใจซ่อนรักยอกย้อน......................หลบซ้อนซ่อนใจ ฯ *สารถีขับรถ จากคุณ : คนแล้วคนเล่า - [ 1 มี.ค. 47 16:10:50 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ใจซ่อนรักหากต้อง................ซ่อนใจ รู้จักกันเมื่อไร........................จักรู้ ต่อสู้ยากเพียงใด...................สู้ต่อ เธอรักฉันจะสู้........................เพราะรู้รักเธอ *เหมือน 44 จากคุณ : สมเป็ด - [ 1 มี.ค. 47 16:43:04 A:203.209.112.241 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 ๏ ฉันทลักษณ์ควรคู่ห้อง .................... กวีการ- เมืองเฮย โคลงสี่ยามจดจาร ............................ เคร่งไว้ เอกโทอย่าหย่อนยาน ....................... ลืมใส่ นาพ่อ พบแม่แบบแล้วไซร้ .......................... อย่าเพี้ยนผิดกระสวน ๚ เห็นนักโคลงขาใหม่เขียนโคลงไม่ใส่เอกโทแล้วชี้ช้ำนัก กะว่าจะมาตั้งกระทู้ทบทวนฉันทลักษณ์อยู่เหมือนกัน แต่ไม่มีเวลาเลย เมื่อกลับเห็นกระทู้นี้ให้ยินดีเป็นยิ่งนัก ..... (ที่ไม่ต้องมาตั้งกระทู้เอง) ... ฮิฮิ ปล. ขอบคุณคุณหนูอังศ์ฯและแนวร่วม(ใจ) ที่ช่วยกันดำรงรักษ์ไว้อย่างเต็มรัก! จากคุณ : นายกระซิบ - [ 1 มี.ค. 47 16:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แอ่นเคล้าเหมือนแม่เคล้า............ คลอคลึง พี่นา หอมกลิ่นเรียมคิดถึง ....................กลิ่นเจ้า สุกกรมพยอมพึง............................ใจพี่ พระเอย เหมือนกลิ่นอรหนุ่มเหน้า.............พี่ต้องติดใจ บารนี นางแย้มเหมือนแม่แย้ม...............ยินดี ร่อนา ต้องดุจมือเทพี..............................พี่ต้อง ช้องนางคลี่เกศี............................นุชคลี่ ลงฤา รักดุจเรียมรักน้อง........................ร่วมรู้รักเรียม ยมโดยประดุจเกล้า......................จงโดย ใบโบกคือนุชโชย...........................เรียกข้า เรียมเกดเรียมโหย........................หาเกศ นุชแม่ วัลย์โอบเอวไม้อ้า.........................อ่อนอ้อมเอวเรียม "บทนี้ผู้ใดแต่งครับ สมาชิกท่านใดทราบบ้าง" จากคุณ : คนแล้วคนเล่า - [ 1 มี.ค. 47 18:17:12 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีเจ้าค่ะ ท่านกระซิบ คุณสมเป็ด คุณ ๓s และ คุณ ฅนฯ ของขวัญใส่กล่องแล้ว.....ส่งไป ไปส่งลงทะเบียนไย.....................ชักช้า ช้าชักเริ่มหนักใจ..........................อยู่ที่ ใดนอ ที่อยู่ที่จ่าหน้า...............................ชัดแจ้งเหลือหลาย *นาคพันธ์:สนธิอลงกฎ ~*~.~.~.~.~.~.~.~.~.~.~.~.~.~.~.~.~.~.~.~*~ ....ใน # ๓๗, ๓๙, ๔๐ ถ้าคุณ ฅนฯ หมายถึง CD ล่ะก็.. อิฉันชักเก๊กซิม เพราะว่าส่งลงทะเบียนไปตั้งแต่จันทร์ที่ ๒๓ ก.พ. ขณะที่อีกท่านนึงในกรุงเทพได้รับแล้วตั้งแต่วันพุธ (ส่งพร้อมกัน) ....แต่ถ้าหมายถึงอย่างอื่นก็แล้วไปเจ้าค่ะ ..ฮี่ฮี่ จากคุณ : อังศนา - [ 1 มี.ค. 47 18:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ลิลิตพระลอค่ะ http://olddreamz.com/praloh/content3.html (อิอิ..ตอบไม่ครงคำถาม.. แต่ว่าในลิงค์น่าจะมีคำตอบเนอะ  ..) แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 47 18:55:16 จากคุณ : อังศนา - [ 1 มี.ค. 47 18:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ----- ไอ๊หยา !!! ท่าน ท้าวอังศนามารศรี...สวัสดิ์ ----- ชื่อเวป อะไร หว่า.....ความฝันใกล้ฝั่ง -----------------------------------------------~*~ ----- ๏ ฉันทลักษณ์ต้องไม่............ละเลย ยามแต่งร้อยกรองเฉลย................ภาพเน้น คุณค่ากวีเฉยเมย........................ฉันทลักษณ์....ได้ฤๅ ประดิษฐ์คำควรเฟ้น.....................ถูกถ้วนภาษาสวรรค์..๚ะ๛ จากคุณ : ฯ๘ณ๘ฉ - [ 2 มี.ค. 47 00:28:57 A:203.113.37.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 ----- เคยอ่าน บทความ เรื่อง ชมรมวรรณศิลป์ ตาม มหาวิทยาลัย แล้ว ต๊กกะใจ ----- คนเขียน ไปคุย กับ นศ. ตามมหาวิทยาลัยดังๆ คือ จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ มหิดลฯ และ เกษตรศาสตร์ ----- ปรากฎว่า บาง มหาลัย....ชมรมวรรณศิลป์ มีสมาชิก แค่ สองคน...... รวมสมาชิก ชมรมวรรณศิลป์ ของ มหาวิยาลัย ระดับยอดของไทย สี่แห่ง ที่เอ่ยมา มีสมาชิกรวมกัน สิบกว่าคน.....เน้นว่าสี่แห่งรวมกัน ----- เรียมจะบ้า........ ----- เผลอๆ ห้องกวีพันทิพ....สมาชิก อาจมากกว่าซะอีก จากคุณ : ฯ๘ณ๘ฉ - [ 2 มี.ค. 47 00:36:35 A:203.113.37.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 อังคารสวัสดิ์เจ้าค่ะ ท่านทั้งหลาย .. ความฝันใกล้ฝั่งฟ้อง........ฝ้าฟาง เอนลู่เริ่มเลือนลาง........................ล่วงพ้น เว้นแต่จับใจวาง.............................จรดจิต ตามติดแต่งแต้มต้น.....................มิ่งไม้ไฟฝัน ~*~...ท่านฯแปดณอฯ แปลได้เก๋มากเจ้าค่ะ ~*~...old dreams ~ ความฝันใกล้ฝั่ง จากคุณ : อังศนา - [ 2 มี.ค. 47 09:31:14 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ฉันทลักษณ์สลักร้อย...........แบบแผน เลอค่าควรหวงแหน...........สืบไว้ รุ่นหลังไม่ขาดแคลน..........โคลงเนื่อง ครูท่านวางไว้ให้................ถูกต้องตรองเสมอ สวัสดีค่ะ พี่อังศนา พี่สาวใจดี รักเด็ก... ข้าน้อยหายไปไม่กี่วัน ไล่อ่านกระทู้ตาลายเลยค่ะ จากคุณ : มัชฌิมา - [ 2 มี.ค. 47 15:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ๏ ฉันทลักษณ์รักษ์สิ่งนั้น ...................... สำคัญไฉน คำตอบอยู่หนใด ................................. ห่อนแคล้ว คงสถิตอยู่ภายใน ................................ ดวงจิต ซึมซับทรวงแม่แล้ว .............................. ถูกต้องตามกระสวน ๚ << อย่าลืม ๗-๔ กันนะจ๊ะ! จากคุณ : นายกระซิบ - [ 2 มี.ค. 47 16:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 55 จด.......บันทึกสมุดโน๊ต..............เล่มบาง หมาย..เหตุหล่นกลางทาง........แน่แล้ว ผิด.......สังเกตตาข้าง................ขวากระตุก ซอง.....ใส่รองเท้าแก้ว...............หลบเร้นนางซิน ฯ จากคุณ : ฅนฯ(จะให้รอถึงพ.ศ.ไหน) - [ 2 มี.ค. 47 18:30:43 A:61.19.201.165 X: ]

ความคิดเห็นที่ 56 จด..จำไว้ไม่แคล้ว..............................ลืมเลือน หมาย...ว่าอย่ามาเตือน...................ตอกย้ำ ผิด....แล้วทำแชเชือน........................เฉยอยู่ คน...ที่ทำเราช้ำ................................ชอกเนื้อเรียมสงวน จากคุณ : คนกวนฅน - [ 2 มี.ค. 47 20:49:02 A:203.155.38.103 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 ..ซีดีรักแม่ร้าง ....คนรับ หลอกแม่ปวดขมับ .ขมิบม้าม ใจเขาช่างดำขลับ ..คิดหลอก แม่ฤา เก็บแผ่นเก็บใจห้าม มอบให้เรียมเสีย จากคุณ : ร.อ. (ริมอ่าง) - [ 2 มี.ค. 47 22:30:49 A:210.86.207.88 X: ]

ความคิดเห็นที่ 58 รอ....ออริมอ่างเอิ้น................แอ่วอัง รับ....แผ่นได้โคลงฉมัง.........เพียบแปร้ ได้.....มากกว่าในคลัง............หลายเท่า เลย...บอกไว้ของแท้...............กล่องน้อยสีดำ ให้คิดหาวิธีส่งได้ก่อนเด้อ....* จากคุณ : อังศนา - [ 3 มี.ค. 47 13:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แจก...แจงว่าส่งแล้ว...........................ถึงไหม อะไร....ที่ส่งไปให้.................................เพื่อนแก้ว ไร้....รางวัลงวดไหน.............................กันนี่ สิทธิ์....ไม่มีเลยแห้ว............................หมดแล้วหมดเลย ก็มันได้ยินนี่นา จากคุณ : ซูซี่ - [ 3 มี.ค. 47 14:04:55 A:203.155.38.104 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 กระทู้ริมอ่าว........* หาก...ชื่อที่อยู่พร้อม.............เปิดเผย รับ.....กล่องของขวัญเลย.....ส่งให้ กับ.....คนที่คุ้นเคย................คอยพบ มือ.....เปล่ามารับได้.............ไม่ต้องติดแสตมป์ อาจ....มีแถมเล็กน้อย.............บางคน จะ.......เก็บเบิร์นปะปน............ใส่ไว้ ผิด......พลาดย่อมยอมทน......คำติ หวัง....ว่าคงอภัยให้................"แส่ไร้เทียมทาน" พึมพำกลางกระทู้ก็งี้แหละค่ะคุณซูซี... ถั่วย่อมร่วงหล่นเป็นธรรมดา.. อิอิ (ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านกระซิบ  ..ถึงว่ามันขัดๆ ตาพิกล... ฮี่ฮี่  ) แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 47 16:21:14 จากคุณ : อังศนา - [ 3 มี.ค. 47 15:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 61 57 ว่า...ใครหว่าชักร้อน...............ตัวเอง กลูเอย ใคร.หลอกเล่นข่มเหง.............มิ่งน้อง ฤา...มาหลอกวังเวง................ที่อยู่ ร้างฤา ท่าน.ว่าใจดำต้อง...................กระจ่างให้เห็นตัว จากคุณ : ส.ป. - [ 3 มี.ค. 47 15:49:45 A:202.133.164.22 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 ๏ ฉันทลักษณ์หากผิดพลั้ง .................... พลาดพลำ จงอย่าพึงพึมพำ ................................. บ่นอู้ ดังฝนตกพรำพรำ ................................ อึ่งอ่าง ครวญแฮ จงรีบลุกขึ้นสู้ ..................................... เสกสร้างวรรณศิลป์ ๚ พจนานุกรมออนไลน์ http://rirs3.royin.go.th/ridictionary/lookup.html จากคุณ : นายกระซิบ - [ 3 มี.ค. 47 16:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ๏...แม้นโลกหมองหม่นไหม้..........เกินทาน หมู่เมฆดำคืบคลาน......................ปิดกั้น วายุอุบัติล่มปราการ......................พังพาบ ห่อนหยุดใจที่รั้น..........................คลั่งไคล้โคลงกลอน จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 3 มี.ค. 47 18:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 64 นั่น........แหละเรียมว่าให้.............ไม่จำ สิ...........เน่หาครอบงำ..................เงื่อนไว้ ว่า.........ไปเรื่องเคราะห์กรรม......มีเอี่ยว ใคร.......จะอยากบ่นให้................แค่ท้วงทวงถาม ฯ "สวัสดีครับผม" จากคุณ : คนแล้วคนเล่า - [ 3 มี.ค. 47 21:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เรียมโศกเรียมเศร้านัก.............รักเรียม มิห่วงใจขวัญเจียม...................เจียดไหม้ อกพี่กลัดหนองเกรียม..............จรจาก แสนแสบสาปส่งให้..................เจ็บนี้แสบแสน ฯ จากคุณ : คนแล้วคนเล่า - [ 4 มี.ค. 47 09:03:59 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เรียม...โศกอกขวัญเศร้า..........................เท่าเรียม โศก..เท่าคิดถึงเกรียม...............................อกไหม้ ชวัญ....เป็นเช่นใจเรียม............................หวังเปล่า เศร้า..อย่างเจ้าหลอกให้...........................คลั่งได้คลั่งดี จากคุณ : คนลองดวง - [ 4 มี.ค. 47 10:44:03 A:203.155.38.105 X: ]

ความคิดเห็นที่ 67 โสมส่องแสงอร่ามหล้า.......เรไร นวลเอิบอิ่มละไม................เมลื่องฟ้า ดาวตื่นจากหลับไหล..........รายเกลื่อน แดดลับดับแสงจ้า...........จวบเช้าจึ่งฉาย วันนี้พระจันทร์สวยจังค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 47 16:27:57 แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 47 18:36:25 จากคุณ : มัชฌิมา - [ 4 มี.ค. 47 19:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 68 แต่งสักวาดอกสร้อย.........สลับโคลง หนึ่งบทครึ่งชั่วโมง.........................เคี่ยวเค้น เนื้อหากลับเบาโหวง......................ว่างเปล่า ปิดฉากไม่ต้องเน้น.........................เจิ่งน้ำจ๋อมแจ๋ม ...จ๋อยๆ ไงไม่รู้แฮะ! จากคุณ : อังศนา - [ 5 มี.ค. 47 00:27:55 ]

ความคิดเห็นที่ 69 สวัสดีครับ โคลงใดโดยที่รู้ .................. เอกโท ผิดอยู่คาอกโย ................... ยั่วเย้า ควรลองชั่งกิโล .................. ดูก่อน พาไก่ไปโชว์เค้า ................... อย่าให้เสียหมู จากคุณ : <;""เอกอิ๊เอ้กเอ้ก - [ 5 มี.ค. 47 10:34:59 A:203.209.92.61 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 อันวจีวิภาคย้ำ........ความเสนาะ คัดเลือกคำไพเราะ.............เพริศแพร้ว ตามเทศะให้่เหมาะ.............มารยาท หาไม่คงมิแคล้ว..................ถ่มถ้อยส่อนิสัย จากคุณ : อังศนา - [ 6 มี.ค. 47 13:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 72 มาแบบความรักพื้น ๆ ค่ะ ๏...พี่รักน้องหมดทั้ง...............ดวงใจ น้องรักแลห่วงใย....................พี่ด้วย รักต่างแน่นฝังใน....................กมลจิต หวังแนบชิดจวบม้วย................ตราบฟ้ามลาย ๚ ๏...อุปสรรคกีดกั้น..................ห่างกัน ได้แต่เพ้อรำพัน.....................ฝากฟ้า บอกดาวช่วยส่องฝัน...............ทอทาบ สว่างจิตเจิดจ้า......................เช่นนี้ร่ำไป๚ ๏...ขอรักเราใหม่ได้...............ตลอดกาล แม้นผ่านค่ำคืนวาน.................นับร้อย ไม่รู้เก่าสดหวาน.....................ชื่นมื่น น้องพี่จักเกี่ยวก้อย..................รักแล้วรักเอย๚ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 7 มี.ค. 47 18:16:29 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ๏...วันหนึ่งคงจักฟื้น.................คืนคม ศักดิ์ค่าออกอวดชม..................ยั่วฟ้า แย้มกลีบกิ่งใบสม....................ไม้ใหญ่ เย็นร่มดับแสงกล้า....................แผดไหม้ร้อนรน๚ ๏...กาลนี้ถูกเหยียดเย้ย.............หยามหยัน วันพรุ่งจักโรมรัน......................ประกาศเชื้อ ระบัดเกียรติก้องสวรรค์..............สะท้านภพ สงบใช่จักเรื้อ...........................หมั่นรู้วางตน๚ " สวัสดีคุณ อัง  และทุก  ๆ ท่าน ค่ะ " แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 47 20:22:27 จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 7 มี.ค. 47 18:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 74 วันนี้รู้สึกหงอยๆ คิดถึงใครบางคน สาวเจ้าจะรู้ไหมเนี่ย จากคุณ : ชายป่าคอนกรีต (ชายป่าฯ) - [ 7 มี.ค. 47 21:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 75 หอบดอกพะยอมกลิิ่นฟุ้ง.......อบอวล ห้องหับคงหอมหวน..........................กลิ่นห้อม คลอเคล้ากลิ่นเย้ายวน.....................ยามดึก นิ่งสนิทนิทราพร้อม..........................กลิ่นพลิ้วพาฝัน ...คืนนี้ทำไม อันดับ ๓  สะกดผิดเยอะจังเจ้าคะ  .. (จ๊ากกกกก.. ผิดเหมียนกัน) ~*~..ไหนๆ ก็ว่าด้วยกลิ่นหอม  เลยหอมทั้ง ๔ บาทเลยยย..~*~ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 47 07:37:15 แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 47 22:02:23 แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 47 22:01:08 จากคุณ : อันดับ ๒ (อังศนา) - [ 7 มี.ค. 47 21:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 76 จัดอันดับอะไรกันจ๊ะ(อาวุโส? อิอิ) หอบดอกพะยอมกลิ่นฟุ้ง...................อบอวล ห้องหับคงหอมหวน..........................ห่อห้อม จะเด็ดดอกลำดวน............................ยามดึก ดอมกลิ่นสองสลับล้อม......................เสกหล้าสลบไสล จากคุณ : สมม้าลาย - [ 7 มี.ค. 47 23:08:57 A:203.118.102.231 X: ]

ความคิดเห็นที่ 77 หนึ่งสองสามสี่ห้า.........อันดับ มิใช่เลขรหัสลับ........................อย่างนั้น แค่ผู้ถูกจัดจับ............................นับเล่น เมื่อช่วยน้องใหม่ปั้น...............แปะดั้นด้นโคลง ~*~....ทายเอ่ย ใครคืออันดับ ๑? (ทายถูกมีรางวัล ..อ้อ ต้องอ้างวรรคทองประกอบด้วยนะคะ) จากคุณ : อังศนา - [ 8 มี.ค. 47 11:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 78 @ หายหดหมดห่วงแล้ว..............รำพึง เคยคู่ใครเคียงซึ้ง......................หนึ่งนั้น หวานใดไม่เคยจึง.....................จมจ่อม ยังมิรู้จึงรั้น..............................ไป่ด้วยจิตจม @ มรรคารักเร่งเร้า....................กระโจน ใครอย่ารั้งจักโดน.....................ก่นหว้า หากไฟมิลุกโชน.......................จนท่วม จะมิรู้หรอกหน้า........................ซื่อสิ้นปราณี @ จนเจ็บจึงจดจ้อง...................มองดู ใครไม่ลองไม่รู้.........................อย่าว่า เก็บเป็นบทยกครู......................สอนสั่ง โดยอย่าหวังทายท้า..................อื่นกล้าลองตาม @ เป็นนิยามหนึ่งให้..................ตัวเอง ทำผิดอย่ากลัวเกรง...................รับสู้ ดำเนินต่อตามเพลง...................ชีวิต จะผิดจะพลาดรู้........................อีกได้ไม่กลัว @ ดำรงตนเพียงเพื่อให้.............ทำดี จะแบ่งรักที่มี...........................ให้หล้า ไม่คิดจะทำดี...........................เพียงแค่ สรรเสริญ ทำไม่หมายว่าข้าฯ.....................แน่แล้วยอดคน จากคุณ : ขอพักจ้ะ (ป้าโจ๋ย) - [ 8 มี.ค. 47 19:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขออนุญาตพระอาจารย์เฉลยให้ท่านม้าลายทราบ ขอเป็นสังเขป กลัวเขาว่าเราแก่อ่ะ ..พระอันดับนับนิ้ว ..สาระแน ชอบยุ่งชอบตอแย ..แหย่จิ้ม สามสองหนึ่งรู้แหง . ง่ายบ่ มิใช่แก่แป๊ะซิ้ม ....ปู่ป้าอาวุโส จากคุณ : ชายป่าคอนกรีต (ชายป่าฯ) - [ 8 มี.ค. 47 22:18:12 ]

ความคิดเห็นที่ 80 สะกดผิดสองวันติดๆ วันแรกไม่ได้ขอบคุณ มม วันหลังเอาอีก ป้ำๆเป๋อๆ แล้วอย่างนี้จะไปตบตี กะใครไหว อายอ่ะ T T ถ้าผิดอีกต้องรบกวนอาจารย์สาวช่วยติวพิเศษ แล้วแร่ะ ปิดเทอม เหงาอ่ะ จากคุณ : ชายป่าคอนกรีต (ชายป่าฯ) - [ 9 มี.ค. 47 21:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 81 77 เฉลยไปแล้วแต่ก็จะทายอีก เพราะอยากได้รางวัล อันดับหนึ่งท่านนั้น.......................แน่นอน สะระแหน่ผู้สอน..........................ศิษย์ไว้ ฉันทลักษณ์ท่านวิงวอน.................จงรักษ์ ดั่งเล่นบอลหากไร้.......................กฏแท้ฤาควร สะระแหน่ยกตัวอย่างการเล่นฟุตบอลว่า หากมาในที่สาธารณะต้องเล่นตามกฏมาตรฐานเดิม แต่หากไม่ชอบอยากตั้งกฏขึ้นเองก็ต้อง ไป....สวนกฏเก่าด้วย...................ใจชอบ ตนเฮย เล่น...แต่ควรในขอบ....................เขตรั้ว ที่.....อื่นอย่านอกกรอบ.................กระสวนเก่า บ้าน..มั่วแต่งซี้ซั้ว.........................เช่นนั้นตามใจ ไม่รู้ถูกหรือเปล่าวรรคทองน่ะ หามาได้แค่นี้แหละ จากคุณ : สมม้าลาย - [ 9 มี.ค. 47 23:17:14 A:202.133.164.44 X: ]

ความคิดเห็นที่ 82 ความจริงห้องกวีนี้มีอาจารย์อีกคนน่ะ ลองอ่านกระทู้เก่าๆแล้วเห็นแต่คนเรียกอาจารย์ๆๆๆ คิดถึงจัง ไม่ได้กัดกันมานานแล้ว ฝากกลอนพร้อมวรรคทองไว้ให้ท่านด้วยแล้วกัน อาจารย์หนึ่งพึงจำเช่นคำ "มิตร" ทุ่มชีวิตเพื่อโคลงจรรโลงหล้า อ่านทวนซึ้งถึงกับนับเวลา ที่ท่านเฝ้าถ่างตามาแต่งโคลง สุดซาบซึ้งทรวงนักความรักหนอ เคยร่วมหอกันเห็นเป็นโขยง เคยยั่วเย้าเกดสนุกทุกยามโมง แม้ลาโรงความหวังยังเติบโต มิตรย่อมรักภักดีมีให้มิตร แม้ไล่กัดฟัดติดมิตรไว้โข "คำว่ามิตรสนิทเน้นเช่นไม้โท อยู่คู่โคลงคือโวหารสุดคม" อิๆๆๆๆ จากคุณ : สมม้าลาย - [ 9 มี.ค. 47 23:25:47 A:202.133.164.44 X: ]

ความคิดเห็นที่ 83 เปลี่ยนจากโคลงมาทักลายอักษร เป็นคำกลอนวอนบ้างนะนางเอ๋ย ล้อมาแล้วลากล้อขอชมเชย ทุกท่านเอ่ยคำโคลงโยงผูกพัน เห็นแล้วชื่นน่าชมสมเป็นมิตร รักสนิทแนบเนาเท่าเรียมขวัญ ถ้อยคำกรองตรองมาพัลวัน สนุกกันอย่างมิตรลิขิตโคลง จะมาบอกว่ามาแล้วนะคุณอั้ง ส่วนล้อยังตั้งท่าอยู่หน้าโขง พยายามร้อยสายปลายผูกโยง ไม่ให้โคลงเคลงคลั่กหนักประเด็น จะลองแต่งให้เก่งเช่นคุณยี่ จะต้องมีสักวันฝันจะเด่น ส่วนฝันดีขอให้มีทุกผู้เป็น แล้วตอนเย็นจะมาใหม่ไม่ขัดเลย นะฮะ...แล้วล้อจะมาใหม่ฮะ จากคุณ : สามล้อผู้เก่งโคลง(เคลง) - [ 10 มี.ค. 47 09:59:57 A:203.107.205.142 X: ]

ความคิดเห็นที่ 84 สามล้อมาหยอกล้อ.............หลายตอน เดี๋ยวกาพย์เดี๋ยวโคลงกลอน..........เก่งแท้ ต้องไม่ใช่ขาจร.................................มือใหม่ แน่เฮย ขาใหญ่จากไหนแล้..........................อยากรู้จริงหนอ เอ... ทำไมเป็นโขงล่ะคะ ไหนว่าชอบไวน์ไม่ใช่เหรอคะ ..อิอิ จากคุณ : อังศนา - [ 11 มี.ค. 47 20:43:13 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ~*~...ขอคัดสำเนาร้อยกรองแบบใหม่ซึ่ง ท่านแปดณอ กรุณาเก็บมาฝาก จาก อหังการ์ มหากาพย์ ของคมทวน คันธนู ในสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์... เอามาไว้อ่าน เนื่องจากแปลกใหม่และไพเราะ จขกท. ชอบมาก...~*~ ----- ๏ เสียงชมประสมเชียร์........ผัวเมีย-ประสาหมา ใครต้านประสานตา.......................เห่าเสียงประเปรี้ยงแซง หางสั่นประชันสวน.........................ทั่วถ้วนประสงค์แทง ฟืดฟาดประกาศแฝง......................โชว์เขี้ยว,ประเดี๋ยวคุ้ม ------ ๏ เมียผัวสลัวภาพ...............ลูกหาบสลอนหิ้ว เนืองนองสนองนิ้ว.........................-ชี้ใช้ไสวชุม 'ครับท่าน'--สนานทั่ว....................หอนรัวเสมือนรุม ถ่มเศษเสลดสุม..............................สัตว์ป่าสวาปาม ------ ๏ ผัวเมียเฉลี่ยมอม...........เมา, ล้อมฉลองลาย โลภซ้อนฉะอ้อนสาย.....................ตาสาดฉกาจทราม เห่อเหิมเฉลิมเหี้ยม........................เงินเทียมฉนวนทาม ซ้ำสั่งฉมังสาม..............................-หาวแลบแฉลบไหล ----- ๏ เสียงชมผงมชัวร์.............เมียผัวผงาดแผ่ เสียงเทินเผอิญแท้.........................สำนึกผนึกใน ชัดลึกผนึกเหลิง.............................สำเริงผจันท์ไร ขอจงผจงไข....................................คำขานผจานเขียน..๚ ~*~ (กลบท "อัษฎางค์ดุริยา" ประดิษฐ์โดย คมทวน คันธนู) ~*~.. จากคุณ : อังศนา - [ 13 มี.ค. 47 10:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ~*~....หลังจากเพียรพยายาม แกะสัมผัสกลบทนี้  ก็ได้ผังออกมาข้างล่าง   เผื่อว่าท่านใดนึกสนุกอยากลองแต่งดูบ้าง จขกท. ลองแล้ว ได้มา ๒ บท ชืดๆ ไม่ดุเด็ดสะท้านทรวงเหมือนท่านเจ้าของกลบทแต่ง ...แถมหืดขึ้นคอ (สำนวนคุณยี่หร่า.. อิอิ) อีกต่างหาก! --- ๏ เราะรานประสานร้อง.........กึกก้องประสมกัน รุมหยามประนามหยัน.................มิพักประจักษ์ผล แdกดันประชันด่า..........................คะขาประหนึ่งคน ต่อต้านประมาณตน......................มากเกินประเมินการ --- ๏ คำคมถล่มใคร.....................เรื่องใหม่ไถลเมียง แทรกคาถลาเคียง.........................เคร่งครัดถนัดคาน ดื้อดึงถลึงด้น..................................ชักยนตร์ถลนยาน ปากแกล้งแถลงการณ์...................ชั้นเชิงเถกิิง "ชิน" --- ๏ ซ้ำซากกระชากไส้................ถูไถกระเดือกทาน เหมาะเหม็งกระเตงมาร................ใหม่เก่ากระเส่ากิน เบื่อหน่ายกระส่ายหน้า.................วาจากระหน่ำจินต์ แลบลับกระหยับลิ้น.......................น้ำลายกระจายเลอะฯ (แต่งอีกบทมาเติมตรงกลาง ให้ร้อยสัมผัสได้ครบตามแบบ)   แว้กกกก... ลืมไปว่าต้องติดคำกรอง *กลบทอัษฎางค์ดุริยา*  ~.~.> ผังนี้ตกเส้นโยงสัมผัส ได้แก้ไขแล้วใน  # ๙๓     .. แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 47 17:55:19 แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 47 21:07:16 แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 47 15:29:20 แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 47 15:26:54 จากคุณ : อังศนา - [ 13 มี.ค. 47 11:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ..ขออธิบายผังเพิ่มเติมนิดนึงเจ้าค่ะว่า ตัว X ในแต่ละวรรค จะต้องใช้อักษรตัวเดียวกัน ส่วน O-O ในแต่ละบท จะเป็นคำประเภทลูกเก็บ (อิฉันยังนึกไม่ออกว่าควรเรียกว่าอะไร) คือเป็นคำ สองพยางค์ โดยพยางค์แรกเสียงสระสั้น แต่ละบทจะต้องใช้คำที่มีพยางค์แรกเหมือนกัน อิอิ... ขนาดอธิบายผังยังเหงื่อตก นึกดูเวลาแต่งจะซักขนาดไหน.. จากคุณ : อังศนา - [ 13 มี.ค. 47 11:18:22 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ~*~.....เอาอีก!     --- ๏ พิษรักสลักรอย............ยามคอยสวาทใคร จดจารสมานใจ.......................ต่อวัยไสววาร เพียงพิศสนิทเพื่อน................ปีเดือนเสมือนดาฬ นั่งนับสลับนาน.......................เจือจานสราญใจ --- ๏ อักษรฉะอ้อนส่ง...........ใหลหลงเฉลียวลอง เงาแจ่มแฉล้มจ้อง..................ใฝ่ปองฉลองไป ฉานฉาดฉลาดเฉี่ยว..............ร้อยเกลียวฉงนไกล อำพรางฉวางไพร...................รอยไร้ไฉนรอ.....* (เฮ้อออ.. ขอแก้อีกนิดด) แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 47 23:01:18 จากคุณ : อังศนา - [ 13 มี.ค. 47 22:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เมื่อประดู่ที่ทำงานบานดอกแผ้ว ช่อเหลืองแพร้วพริ้วระรวยสวยนักหนา ลมรำเพยกลิ่นหอมหวนเย้ายวนมา ชื่นทั้งตาชื่นทั้งใจไปหลายวัน. --- ๏ ดอกเหลืองประเทืองลักษณ์.......ทายทักประถมถิ่น แพรวพรูประดู่ผิน...................................แผ้วกลิ่นประทิ่นไกล งามนักประจักษ์เนตร............................ฤทธิ์เดชประมาณใด จึ่งโจมประโลมใจ....................................ไฉไลประไพลาน...~*~ แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 47 18:11:49 จากคุณ : อังศนา - [ 14 มี.ค. 47 10:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ~*~....ยังถอนตัวไม่ขึ้น! --- ๏ ฉันทลักษณ์ประจักษ์ลาย........กลับกลายประดังกล ตีบตันประขันตน................................ซุกซนประจญซ้ำ ยากเกินประเมินก่อน.........................สั่นคลอนประคัลภ์ค้ำ นั่งคิดประดิษฐ์คำ...............................เคี่ยวกรำประจำการ --- ๏ เข้าคลุกสนุกคล้อง...................รับรองสนิมโรย เชี่ยวกรากสลากโกย..........................โขกสับสลับสาน เติมแต่งแสวงตัว.................................เลิกมัวสลัวมาน วาดหวังสว่างหวาน............................สักวันสวรรค์แวว...~*~ จากคุณ : อังศนา - [ 14 มี.ค. 47 12:36:31 ]

ความคิดเห็นที่ 91 สวัสดีค่ะ คุณอัง นั่นแน่ป้าโจ๋ยก็มาโตย และสวัสดีทุก ๆ ท่านค่ะ โห..........คุณอังขา...ภาษาสวยจัง กลบท "อัษฎางค์ดุริยา" อืมม์...........อยากลองบ้างจัง แต่คงต้องหลังจาก สอบผ่านสักวา แล้วคุณครูปล่อยผ่าน ขึ้น ป 2 ได้ก่อนนะคะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 14 มี.ค. 47 14:27:45 ]

ความคิดเห็นที่ 92 สวัสดีค่ะ คุณยี่หร่า ขอบคุณค่ะที่ชม... แหม โคลงสี่ของคุณยี่หร่าน่ะนะ ฉลุยไปไกลลิบทั้งฝีมือ ทั้งสาระ เลยเจ้าค่ะ กลอนสักวาก็ผ่านชั้นมัธยมพร้อมเข้าคอลเลจแล้ววว... จากคุณ : อังศนา - [ 14 มี.ค. 47 17:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 93 พึ่งสังเกตว่าผังกลบทของอิฉัน ทำเส้นโยงสัมผัสตกไป ๒ แห่ง มิน่า.. เวลาแต่งแล้วอาศัยเปิดอ้างอิง มันถึงได้วิงเวียนนัก.. อิอิ แปะใหม่ ๆๆ (ของเก่าก็เอาทิ้งไม่ได้เสียด้วย.. แย่จัง!) ~*~ กลบทอัษฎางค์ดุริยา ~*~ จากคุณ : อังศนา - [ 14 มี.ค. 47 17:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 94 สวัสดีค่ะคุณอัง ช่วยอธิบาย เอ็กซ์ -โอ ใหม่ซิคะ ว่าบังคับ อย่างไร ส่วนตัวลูกเก็บก็ยกตัวอย่างสักหน่อยก็จะทำให้ ฉลาดเร็วขึ้นนะค่ะ คือว่ากลัวจะล้าหลังคุณยี่หร่า....อิ..อิ.. จากคุณ : ซูซี่ - [ 14 มี.ค. 47 20:11:56 A:203.155.38.104 X: ]

ความคิดเห็นที่ 95 โห...........มิกล้า มิกล้า ยี่หร่ายังอ่อนด้อยมากนัก ขอ คุณอัง แล้วคุณซูซี่ช่วยถอน.....วจีดังกล่าวด้วยค่ะไม่งั้น ยี่หร่าจะยื่นเรื่องต่อท่านประธานศาลฎีกาค่ะ ยี่หร่าคงขอเซฟผังไว้ก่อน คงต้องละเลงสักวาไปอีก ระยะหนึ่งก่อนหนะค่ะ เพราะยี่หร่ายังตกสัมผัสบ่อยมากค่ะ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าทู้สักวาของยี่หร่า จะมีการกลับไปแก้ เกือบทุกกรอบเลยค่ะ อิ ๆๆ ฮี่ ๆๆ คุณซูซี่สบายใจไ้ด้เลยค่ะ......ยี่หร่ายังเงอะงะอยู่อีกนาน ค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 14 มี.ค. 47 20:25:55 ]

ความคิดเห็นที่ 96 สวัสดีค่ะ คุณซูซี่ พอมีคนสนใจ.. ชักรู้สึกคึกคักขึ้นมาเล็กๆ ตัว X ในแต่ละวรรค คือตัวสัมผัสอักษรค่ะ เช่น เสียง ชม ประสม เชียร์ ผัว เมีย ประสา หมา ตัว O-O ในแต่ละบทก็ต้องเป็นคำสองพยางค์ ที่ขึ้นต้นพยางค์แรกเหมือนกัน เช่น ประสม ประสา ประสาน ประเปรี้ยง ประกาศฯ *ยกตัวอย่างจากบทต้นฉบับที่แปะไว้ใน # ๘๕ ค่ะ จากคุณ : อังศนา - [ 14 มี.ค. 47 20:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 97 สรุปได้ว่า...ยากก นะคะ จะไปหา คำ ที่ไหนได้ง่ายๆละนี่ คงคิดมันสมองกระจายแน่เลย อิ..อิ... แต่ชอบเล่นของยาก มันท้าทายดี จะลองดูค่ะ สักวาง่ายกว่าแยะ คุณยี่หร่าก็เล่นสักวาไปก่อน แล้วค่อยมาเล่นกลบท นี้กัน แต่ว่าต้นฉบับมาจากเว็บไหนคะ ...เอาแส้ไปตีม้าคนอื่น แล้วค่อยมาตีม้าตัวเอง ... คำพูดประเทศไหนลืมไปแล้ว.....อิ..อิ...เอ้าคุณยี่หร่าเตรียมตัวได้แล้วค่ะ... จากคุณ : ซูซี่ - [ 14 มี.ค. 47 21:36:28 A:203.155.38.104 X: ]

ความคิดเห็นที่ 98 --- ๏น้อยนิดประดิษฐิ์เนื้อ.............ก่อเชื้อประกายโชน ดั่งพบประสบโพน.......................จึงลั่นประชันลอง ทดสอบประกอบสระ....................แทบผงะประหม่าผอง มันสั่นประสาทสยอง...................สมองอึ้งประหนึ่งระอา --- ๏ขอเอ่ยกระดูกอ่อน................ออดอ้อนกระท้อนอาย เหมือนกรรมกระหน่ำกลาย........... .ตามหมายกระทายมา นั่งคิดกระจิดคึก..........................ตรองตรึกกระดากตา คำผสมกระผมผวา.......................แหกผังกระมังเผดิม..๚ "สวัสดีครับคุณอัง ฯ ขอลองหน่อยครับ ยากมากๆไม่ไหว รู้สึกเหมือนโดนแส้เฆี่ยนกลางหลังเลย" จากคุณ : คนแล้วคนเล่า - [ 15 มี.ค. 47 08:57:28 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สวัสดีค่ะ คุณฅนฯ --- ๏ แส้ซัดกระหวัดซ้ำ............เรียวลำกระชากหลัง เจ็บเริดกระเจิดรั้ง......................ยังขับกระชับขาน ใจต๋อมกระหม่อมตื้อ.................อออือกระอ่วมอาน แต่งแก้กระแสกานท์.................สนุกนานกระมลเนียน...~*~ ...เพราะดีจังเจ้าค่ะ.. อิอิ   แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 47 22:31:55 แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 47 18:14:19 จากคุณ : อังศนา - [ 15 มี.ค. 47 09:51:48 ]

ความคิดเห็นที่ 100 กลบทบ่งบอกไว้..........อัษฎางค์ บารนี หนึ่งบทมีสองพยางค์............แปดถ้อย ไพเราะดุจดุริยางค์.................ขานขับ ได้สดับดวงจิตคล้อย.............ครุ่นเคลิ้มเพียรเขียน จากคุณ : อังศนา - [ 15 มี.ค. 47 13:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ...ร้อนรุ่มประทุมโฉม....... โอ้โลมระเริงงาน ถ่ายรูปสยิวฉาน.............. โยเย้าก็เร้าใจ เกาะติดสนิทแน่น............. ยืนแอ่นอะอกไหว หนุ่มกอดปรอทไส........... .ตรงเป้านะสาวโย แต่งแซวน้องโย จากคุณ : ๓s - [ 15 มี.ค. 47 19:43:36 A:203.113.37.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 102 ส่งการบ้านแสนยากก... แส้นิดสะกิดเนื้อ.............................แผลเยื่อประสานยาก รอยฝากตระหนักฝัง......................เลือดหลั่งกระทั่งหาย รอยเก่าประกบกัน........................เป็นปั้นตะปุ่มปลาย รอยใหม่สะเก็ดหาย......................รอยเล็บประสานลาย นิ้วลูบประโลมไล้..........................ถามไถ่กระหวัดถึง เกาะกุมประทุมคลึง.....................ไม่กล้าประคองกาย สายัณห์กระสันยืน........................อุ้มอื่นประดังอาย จับเจ้ากระหยิ่มใจ........................อกโอ้ระอ่วมเอย๛ จากคุณ : ซูซี่ - [ 15 มี.ค. 47 19:53:18 A:203.148.252.234 X:210.203.178.237 ]

ความคิดเห็นที่ 103 คุณซูซี.. ถ้าผังและคำอธิบายของอิฉันมันวกวนชวนให้เวียนหัว   บางทีการอ่านและศึกษาจาก บทต้นแบบ  (ใน# ๘๕) เอาเองน่าจะช่วยได้นะคะ.. อิอิ แวะมาเพิ่มเติมหน่อยดีกว่า...  แปะห้วนไปมันจะไม่สื่อ (คุณประภาส ชลศรานนท์เขียน เอาไว้ในมติชน ฉบับวันอาทิตย์ที่แล้วว่า พูดอะไรห้วนไป นอกจากไม่สื่อความหมาย อย่างที่ตั้งใจ  ยังอาจทำให้เข้าใจไขว้เขวอีกด้วย - อย่าเลียนแบบนายกฯ ว่างั้นเหอะ) ~*~ ...คำลูกเก็บสองพยางค์ในแต่ละบท ควรจะต้องมีพยางค์ขึ้นต้นเหมือนกันค่ะ   หนึ่งบทจึงมี ๘ คำ จึงได้ชื่อว่า อัษฎางค์ ที่แปลว่า แปด ...ไม่งั้นคงเรียกว่า 'กลบท' ไม่ได้ เพราะไม่ท้าทายพอ!  .. แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 47 07:45:41 จากคุณ : อังศนา - [ 15 มี.ค. 47 20:30:27 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ...โยเย้าสิเร้าชิด........... เครดิตชนิดไหน ร้อนรุ่มปทุมใคร ............ บอกได้สิเรื่องจริง อินเตอร์ละเมอพร่ำ........ ปากฉ่ำกระหน่ำสิง ทั่วหล้าประชดติง........... โยหญิงประจันบาน ...งามกายสหายเอ๋ย....... แล้วเผยวจีขาน แต่งเติมผเสริมสาน......... สราญคู่พธูไทย นุ่งห่มละลมหวน............. อบอวลละมวนไม รักเกียตริสตรีไทย.......... สดใสสหายโย แซวน้องโย อีกครั้ง ๕๕๕ จากคุณ : ๓s - [ 15 มี.ค. 47 20:36:06 A:203.113.37.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 105 ...โยเย้าสิเร้าเริด ........... บรรเจิดขนาดไหน บัตรรูดกระฉูดใจ ............. บรรลัยสิวัยเรียน บาดแผลก็ชุ่มโชก ........... สับโขกคะนองเขียน สื่อสร้างและอ้างเอียน....... วนเวียนวิเวกวาย วกวนและเวิ้งว้าง.............. เหมือนง้างมะเหงกหงาย รูปแบบประทุษร้าย............ ปิดท้ายประท้วงโย สวัสดีคุณ อังศนา คุณซูซี่ ( ลองหัดแต่งเหมือนกันครับ) จากคุณ : ๓s - [ 15 มี.ค. 47 20:53:51 A:203.113.37.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 106 มาส่งเสียงร้อง โห)))))))) ชื่นชม แล้วตามด้วย เฮ้อ))))) สำหรับความอ่อนด้อยของเรา อิ ๆๆ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 15 มี.ค. 47 22:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ----- ความอ่อนด้อยแห่งเรา(สองคน) มากกว่า ----- กลัว จขกท. ไปขึ้นกระทู้ กลบท นี้ น่ะซี ----- ดูยัง ยังงงเลย พับผ่า... จากคุณ : ฯ๘ณ๘ฉ - [ 15 มี.ค. 47 23:50:34 A:203.113.37.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 108 ----- ดูผัง ยังงงเลย พับผ่า แก้ไข เมื่อ ๑๕ มี.ค. ๔๗ ๒๓.๕๓ จากคุณ : ฯ๘ณ๘ฉ - [ 15 มี.ค. 47 23:53:38 A:203.113.37.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 109 อิอิ... พูดเหมือนอ่านใจได้ นึกเอาไว้แล้วเชียวตอนไปทางช้างเผือก ดักคอยังงี้.. ต้องคิดใหม่ (แต่อาจจะทำเหมียนเดิม) จากคุณ : อังศนา - [ 16 มี.ค. 47 07:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 110 อีกกรอบรีบแต่งไว้..............กันเหนียว เคยพลาดเผลอหน่อยเดียว...........ตกห้อง ฉันทลักษณ์จักยอมเทียว...............เกี่ยวกอด มุกมอดก็จำต้อง..............................ต่อแม้หัวหมุน ..เฮ้อ! (ก็.. ของเก่ามันไม่เพราะนิ ..อิอิ) แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 47 18:37:10 จากคุณ : อังศนา - [ 21 มี.ค. 47 11:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ....ช่วยยืดก่อนกระทู้ ............. หลุดหาย ร้อยสิบเอ็ดหนึ่งราย ............... หล่อเลี้ยง ยืดสักนิดก่อนคลาย ............... ตกหล่น วนอ่านแล้วโอมเพี้ยง ...............อย่าได้หล่นหาย จากคุณ : ๓s - [ 28 มี.ค. 47 12:36:23 A:203.113.37.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 112 ตองหนึ่งเลขเด่นด้วย......โดนใจ กระทู้เก่าจนใครใคร.....................ไม่รู้ สามเอสแอบซิวไป........................สามเอี่ยว หน่วงเหนี่ยวให้กระทู้..................คู่่ห้องไม่หาย สงสัยต้องรอซิวตองสองมั่งถ้าจะดี.. อิอิ จากคุณ : อังศนา - [ 2 เม.ย. 47 20:47:10 ]

ความคิดเห็นที่ 113 อืม...... จากคุณ : ตงฟางฯ - [ 4 เม.ย. 47 21:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 114 กลบทกฎยอกย้อน.......ยากเย็น กว่าจะด้นจนเป็น.......................เรื่องได้ ยังเดินเดี่ยวเคี่ยวเข็ญ..............คิดแต่ง กะย่องกะแย่งแบ่งแปะไว้.........ต่อท้ายกระทู้ฉัน จากคุณ : อังศนา - [ 8 เม.ย. 47 14:51:14 ]

ความคิดเห็นที่ 115 สงกรานต์ส่อแกล้งสาด........ก้ำสาว เคยเด่นเคยดีคาว...............................โดดคว้า เปลืองตัวปากโต้ปาว.........................ตามตะปบ กระทบกระทั่งกล้า..............................เทียบใกล้ถอดกุม ..เอากลบทอักษรสลับอันกระท่อนกระแท่นมาเหนี่ยวทู้ไว้ ไม่รู้เหมียนกันว่าสงกรานต์ปีนี้ถึงลูกถึงคนเท่าปีก่อนๆ รึเปล่า จากคุณ : หิ่งห้อย.............* - [ วันเนา (14) 17:40:14 A:169.210.35.160 X: ]

ความคิดเห็นที่ 116 ~*~ ..หนนี้มาเหนี่ยวไว้ด้วยผังแลลิงค์สำหรับโคลงดั้นบาทกุญชร ซึ่งลางทีก็นึกสนุกลองแต่งดู.. ยากมากเลยแหละ.. ขอบอก! ~*~ ..ขอขอบคุณคุณ ชป. มากเจ้าค่ะที่กรุณาเอื้อเฟื้อ...* http://www.thaipoet.org/poemklong9.html จากคุณ : อังศนา - [ 21 เม.ย. 47 20:33:50 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ~*~...อาทิตย์ ถึง จันทร์ : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์...~*~ ๑๕๙ ๏ ซอด้วงล้วงรับร้อง....................โรยหวาน เฉื่อยฉ่ำร่ำไรเรือง.........................เรื่อยร้อย น้องเอยเพราะสำนาน...................นะแน่ง น้องนอ สุดรักนักน้ำถ้อย............................สุดถนอม ๑๖๐ ๏ สุดสงวนควรแห่งห้อง..............หทัยเดียว สุดสวาทพิศวาสออม.....................เอกไว้ สุดจากสุดใจเหลียว.......................แลสุด สั่งรา สุดหักสุดห้ามไห้............................สุดเห็น จากคุณ : อังศนา - [ วันแรงงาน 00:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 118 บรรลุวันที่ห้า..............พฤษภา วันฉัตรมงคลมหา.................มิ่งเกล้า วันซึ่งพระบุญญา....................ปกเกศ ราษฎร์แฮ ขอกราบพระบาทเจ้า.............จรัสฟ้าจอมสยาม จากคุณ : อังศนา - [ วันฉัตรมงคล 16:15:45 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ฉันทลักษณ์จักช่วยชี้.........แนวทาง ใจรักเปรียบเส้นลาง.....................ร่างไว้ พรสวรรค์จัดวรรณวาง.................เหมาะเจาะ แสวงต่อมักต่อให้..........................แต่งได้หลายกล บารนี ...ลืมไปแล้วว่าเคยแต่งบทนี้เหนี่ยวกระทู้ฉันทลักษณ์เก่า เลยสบโอกาสนำมาใช้อีกหน แถมได้ชำระเล็กๆ อีกด้วย.. อิอิ จากคุณ : อังศนา - [ 14 พ.ค. 47 09:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 120 บทกวีเลิศล้ำ..........คำไทย ยากยิ่งด้วยกลไก....กำหนดให้ หาศัพท์ใส่ลงใน......แต่ละบท แผนผังบังคับไว้......ใช่ใช้ง่ายดาย ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ เอาโคลงที่แต่งไว้ห้องโน้นนนนน... ..เข้ามาเหนี่ยวกระทู้ไว้ด้วยคนค่ะ... จากคุณ : มัชฌิมา - [ 20 พ.ค. 47 17:01:19 ]

ความคิดเห็นที่ 121 อ้างอิงทำลิ้งค์แปะ.........เป็นประจำ น้องใหม่ต้องชี้นำ......................เล็กน้อย เอกโทเมื่อแม่นยำ......................เสียอย่าง พอร่างสาระร้อย.........................ร่ายแล้วโคลงคม อิอิ... รีบมาทนุถนอมเอาไว้! จากคุณ : อังศนา - [ 27 พ.ค. 47 11:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ขออนุญาตท่านเจ้าของความคิดเห็นนี้ไว้ ณ ที่นี้ค่ะ (คัดลอกมาจากกระทู้หนึ่งในห้องสมุด) .......................................................................................................~*~ ความคิดเห็นที่ 40 สวัสดีครับ เห็นพูดกันเรื่องฉันทลักษณ์ เลยอยากแสดงความเห็นบ้างว่า ฉันทลักษณ์นั้นไม่สามารถปิดกั้นจินตนาการได้เลย ไม่มีร้อยกรองชนิดใดวิเศษไปกว่าชนิดอื่นหรอกครับ คนแต่งฉันท์ไม่ได้แปลว่าจะเก่งกว่าคนแต่งกาพย์ กลอน หรือโคลง ร้อยกรองชื่อแปลกๆ ประกอบด้วยศัพท์แปลกๆไม่จำเป็นว่าจะต้องดีเลิศไปกว่าร้อยกรองที่ใช้ภาษาง่ายๆ เพราะจุดประสงค์ของร้อยกรองคือการใช้คำมาร้อยด้วยสัมผัสเพื่อสื่อให้คนอ่านรับรู้ เข้าใจ ประทับใจมากกว่า อย่างไรก็ตาม กฏก็คือกฏ ถ้าฉันทลักษณ์ถูกกำหนดมาในชื่อของร้อยกรองชนิดนั้นแล้ว การนำชื่อมาอ้างก็จำเป็นที่จะต้องถูกฉันทลักษณ์ด้วย ยกตัวอย่าง ถ้าคุณจะแต่งอินทรวิเชียรฉันท์ก็หมายความว่า จำนวนพยางค์ ตำแหน่งสัมผัสและครุลหุจะต้องตรงกับแบบแผนที่ถูกกำหนดไว้แล้ว หากจำเป็นต้องละตำแหน่งของครุหรือลหุแม้แต่เพียงตำแหน่งเดียวเพื่อให้ได้ความหมายที่ต้องการนั้น ก็อย่าเรียกว่าเป็นฉันท์อีกเลยครับ กาพย์ไม่ได้มีศักดิ์ศรีน้อยกว่าฉันท์เลย กาพย์ยานีที่ให้ความหมายงดงาม ดีกว่าฉันท์ที่อ่านแล้วปวดหัวครับ และถ้าคุณจำเป็นต้องใช้คำที่มีความหมายดียิ่งที่ต้องการสื่อ แต่ไร้สัมผัสมาลงให้ได้ในตำแหน่งที่กาพย์กำหนดแล้วล่ะก็ ก็อย่าเรียกว่าเป็นกาพย์อีกเลยครับ กลอนเปล่าที่มีความหมายงดงามของคุณ ดีกว่ากาพย์ที่อ่านแล้วปวดหัวเช่นกันครับ ภาษามีวิวัฒนาการตลอดเวลา แบบแผนร้อยกรองโบราณนั้นบางครั้งยากที่จะหาคำสมัยใหม่มาแต่งให้ไพเราะได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปแก้ไขแบบแผนเดิม เพราะถ้าคุณไปเปลี่ยนหรือละเลยฉันทลักษณ์ดั้งเดิมเหล่านั้นแล้ว วรรณกรรมโบราณต่างๆจะมีคุณค่าเหลืออีกหรือครับ สู้สร้างสรรค์ฉันทลักษณ์เป็นร้อยกรองชนิดใหม่ขึ้นมาให้เหมาะกับคำสมัยใหม่ยังจะดีกว่า ดังนั้น ฉันทลักษณ์ใดๆ ก็ไม่สามารถมาปิดกั้นจินตนาการของคุณได้ เพราะคุณมีทางเลือกเสมอ ขอส่งท้ายด้วยว่า ถ้าคุณจะแต่งฉันท์ชนิดหนึ่ง แล้วยกเอาชื่อฉันท์มาวางไว้ ก็ขอให้แน่ใจว่าได้แต่งตามฉันทลักษณ์ของฉันท์ชนิดนั้นด้วย ถ้าทำไม่ได้อย่ายกชื่อเอามาเลย สู้ปล่อยว่างไว้ยังจะดีกว่า คุณค่าของร้อยกรองไม่ได้อยู่ที่ชื่อแต่อย่างใดครับ และไม่จำเป็นต้องมีอารมณ์ขันขนาดเอาทั้งชื่อทั้งผังมาวางให้คนอ่านดูเห็นให้ชัดๆว่ามันไม่เหมือนผังตรงไหนหรอกครับ วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ ...................................วิถีคนกล้า ภาพยามพินิจพิศะพยัคฆ์ ขณะจักประเมินกล หากปราศคะนึงอคติดล อริร้ายจะเยือนเรือน คงเห็นหทัยอุชุเฉลย มติเผยมิบิดเบือน รับรู้และตรองตละเสมือน อดิถีมิกลัวเกรง กล้าหาญประจัญอจลภาพ วิระปราบประหวั่นเอง สานมิตรภาพนยละเยง ก็จะสูญจะสิ้นลาย [เกี๊ยวหมูแดง] ............................................................. จากคุณ : เสือ - [ 23 พ.ค. 47 23:49:47 A:202.133.164.76 X: ] จากคุณ : อังศนา - [ 27 พ.ค. 47 14:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ..อยากอ่าน วิถีคนกล้า ของเกี๊ยวหมูแดง บทสมบูรณ์ ท่านทีี่มีกรุณาเอามาแปะหน่อยได้ไหมคะ ..ขอบคุณเจ้าค่ะ! จากคุณ : อังศนา - [ 3 มิ.ย. 47 09:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 124 เอามาแปะเองก็ได้.. ฮิฮิ .....................................วิถีคนขลาด ภาพยามพินิจพิศะสุนัข ขณะจักประเมินทาย ยิ่งขลาดก็เห็นก็กวะกลาย พยัคฆ์ร้ายผวากลัว โวยวายตวาดเพราะสติเสีย ระแคะเรี่ยระรานรัว ลากไส้แสดงอคติตัว ฤจะยอมจะหยุดเฉย ดูราวจะกล่าวผรุสวาท ผิวอาจจะเปรียบเปรย แท้จิตมิปกติก็เผย นยพรั่นประหวั่นใจ กลัวอื่นจะกลัวสินะจะต้อง วทะร้องตะเบ็งไป ตนกลัวก็กลัวเถอะเพราะอะไร ฤจะแสร้งแสดงหาญ [เกี๊ยวหมูแดง] *(เป็นฉันท์บทต่อเนื่องจาก วิถีคนกล้าข้างบน)* จากคุณ : อังศนา - [ 12 มิ.ย. 47 07:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 125 อ่าน ~> เขียน ~> อ่าน.. = ผดุงต่อ .. เรื่องราวราวร้อยเรื่อง..........รายเรียง เรียงร่ายร่ายความเคียง................คิดค้น ค้นอ่านอ่านผลเผดียง.....................ผดุงต่อ ต่อยอดยอดต่อต้น..........................แต่งแต้มตำรา *(วันพันหลัก และ บุษบารักร้อย)* จากคุณ : อังศนา - [ 12 มิ.ย. 47 07:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ครบหนึ่งอาทิตย์คล้อย.............คลาไคล เวียนแวะแปะเป็นนัย..............................เหนี่ยวกระทู้ เรื่อยเปื่อยว่ากันไป.................................เปะปะ สาระน้อยยังสู้..........................................สลับด้วยเชิงกล *(โตเล่นหางแบบ ๑)* จากคุณ : อังศนา - [ 21 มิ.ย. 47 14:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 127 กลบทบ่งบอกไว้...........กระบวนกล ให้เล่นคำแยบยล.....................ยั่วให้ อ่านสลับไม่สับสน....................สนุกอ่าน หวานโศกยังแสบไส้................ต่อสร้อยแทรกหวาน *(สกัดแคร่)* ไขว้เขวเอาจากตรงนู้นนน มาแปะตรงนี้.. กลัวหล่น! จากคุณ : อังศนา - [ 2 ก.ค. 47 21:25:49 ]

ความคิดเห็นที่ 128 เคาะคีย์บอร์ดประทุษแป้น.........ประดิษฐ์โคลง วางประกบรอออกโรง..............................ประดุจรุ้ง คิดประเด็นเด่นเชื่อมโยง.........................ประโยชน์ชัด จารจัดประดับเวิ้งวุ้ง..................................ประจุไว้ประจำวัน ..อดสงสัยไม่ได้ว่าโคลงที่ใช้ลูกเก็บเจี๊ยวจ๊าวแบบนี้ ถ้าอ่านเป็นทำนองเสนาะแล้วจะเป็นยังไงน้อออ (จขกท. อ่านไม่เป็นเสียด้วยจิ.. อิอิ) จากคุณ : อังศนา - [ 11 ก.ค. 47 10:19:48 ]

ความคิดเห็นที่ 129 พยางค์โคลงอย่ายืดย้วย.............หลายพยางค์ เว้นแต่ลูกเก็บวาง........................................อาจเว้น กระชับอ่านลหุแรกพราง............................เสียงกระชับ ผังบ่งนับพยางค์เน้น...................................มากน้อยตามผัง ..ขอเน้นความสำคัญของพยางค์โคลงอีกครั้ง (รายละเอียดอยู่ในกรอบที่ ๙) จากคุณ : อังศนา - [ 16 ก.ค. 47 16:21:28 ]