ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อวันที่ 9 เมษายน นายโสภณ สุภาพงษ์ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญรับฟังและศึกษาปัญหาการปฏิรูปโครงสร้างวิสาหกิจการไฟฟ้าของประเทศ วุฒิสภา แถลงว่า จะจัดทำประชาพิจารณ์ โดยให้ 4 ฝ่าย คือ รัฐบาล สหภาพการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกลุ่มนักวิชาการอิสระ มา นำเสนอแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างวิสาหกิจการไฟฟ้าของประเทศ เพื่อรวบรวมเสนอวุฒิสภาต่อไป ทั้งนี้ จะใช้เวลาดำเนินการ 8 สัปดาห์ เปิดเวทีสาธารณะในช่วงระหว่างวันที่ 17-21 พฤษภาคม นายโสภณกล่าวว่า การทำประชาพิจารณ์จะให้นำเสนอใน 6 ประเด็นหลักคือ 1.โครงสร้างการบริหารกิจการไฟฟ้าโดยรวม 2.โครงสร้างการลงทุน 3.โครงสร้างราคา 4.โครงสร้างการถือครองกิจการ 5.โครงสร้างทางกฎหมาย และ 6.โครง สร้างการบริหารจัดการวิสาหกิจเฉพาะราย ขณะที่นายแก้วสรร อติโพธิ ส.ว.กทม.กล่าวว่า การทำประชาพิจารณ์ครั้งนี้เพื่อให้ทุกฝ่ายได้นำเสนอข้อมูล เพราะที่ผ่านมารัฐบาลออกสปอตโฆษณาชี้แจงข้างเดียวเหมือนกรณีม็อบปากมูล จึงน่าจะเปิดให้ทุกฝ่ายได้ให้ข้อมูลบ้าง โดยคณะกรรมาธิการจะทำหนังสือเชิญรัฐบาลมาร่วมประชาพิจารณ์ เนื่องจากไม่อยากใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเรียกมา ซึ่งคนที่รัฐบาลจัดมาไม่น่าจะเป็นระดับอธิบดี แต่ต้องเป็นคนที่ตอบคำถามในเรื่องนโยบายได้ ดังนั้น จึงหวังว่ารัฐบาลจะส่งระดับรัฐมนตรีมาให้ข้อมูลและตอบคำถาม วันเดียวกัน สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(สร.กฟผ.) ยังคงชุมนุมที่สำนักงานใหญ่ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ช่วงเช้ามีพิธีสรงน้ำพระและรดน้ำขอพรผู้บริหาร กฟผ. ซึ่งนายณรงค์ วิเชษฐพันธ์ รักษาการผู้ว่าการ และอดีตผู้ว่าการ กฟผ.ก็มาร่วมงานด้วย ต่อมาแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมและเครือข่ายไฟฟ้า-ประปากว่า 200 คน ได้เดินทางไปที่กระทรวงการคลัง เพื่อยื่นหนังสือถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูกระทรวงทุกด้านไม่ยอมให้เข้า แล้วให้เจ้าหน้าที่ออกมารับหนังสือแทน โดยอ้างว่านายสมคิดและผู้ใหญ่ในกระทรวงไม่อยู่ ผู้ชุมนุมจึงรออยู่ด้านนอกประมาณ 2 ชั่วโมงจึงเดินทางกลับ ด้านนายศิริชัย ไม้งาม ประธาน สร.กฟผ.กล่าวถึงเหตุผลของการไปยื่นหนังสือครั้งนี้ว่า เนื่องจากเห็นว่ากระทรวงการคลังทำไม่ถูกต้องที่เสนอเรื่องสิทธิประโยชน์ของพนักงานเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในขณะที่พนักงาน กฟผ.ยังคงชุมนุมคัดค้านอยู่ และเห็นว่าการเอาเรื่องสิทธิประโยชน์มาล่อเป็นการไม่สมควร นายศิริชัยกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการของวุฒิสภาจะเปิดเวทีพิจารณ์โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาให้ข้อมูล หลังสงกรานต์นี้ สร.กฟผ.จะเตรียมข้อมูลด้านต่างๆ ไปชี้แจง โดยเฉพาะสาเหตุแนวทางการพัฒนา กฟผ.โดยไม่ต้องแปรรูป "แม้รัฐบาลจะประกาศเลื่อนแปรรูป กฟผ.ออกไปไม่มีกำหนด แต่จุดประสงค์ของการชุมนุมที่ต้องการยุติการแปรรูป ยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ 2542 หรือเปิดให้ทำประชามติก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ขณะนี้กำลังล่ารายชื่อของประชาชนตามจังหวัดต่างๆ ที่มีการเปิดเวทีคัดค้าน เพื่อขอให้รัฐบาลเปิดประชามติ โดยในวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันแรงงาน สร.กฟผ.จะร่วมกับภาคเอกชนและภาคประชาชนเปิดเวทีเพื่อชุมนุมคัดค้านครั้งใหญ่" นายศิริชัยกล่าว จากคุณ : ขวด - [ 10 เม.ย. 47 21:58:48 A:203.151.206.82 X:10.219.10.35, 203.149.16.201 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่า วันแรงงานคนงานเค้าคงมาดูคอนเสริตร์นะ แล้วคุณศิริชัยอย่าอ้างนะ "ประชาชนนับแสนมารวมพลังต่อต้านแปรรูป" จากคุณ : กระเพราหมู - [ 10 เม.ย. 47 22:05:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 **สามปีผ่านไป ประชาชนไม่ได้รวยขึ้นหรอกครับ แต่ฉลาดขึ้นมาก ต้องขอบพระคุณท่านนายกทักษิณเป็นยย่างสูง** ผมจำได้ว่า เมื่อสี่ปีที่แล้ว ผมเข้ามาในห้องนี้ มีกองเชียร์พรรคไทยรักไทย ทั้งจัดตั้งและอาสาสมัครจำนวนมาก โพสต์ข้อความชื่นชมและเอาใจช่วยคุณทักษิณ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้แสดงฝีมือการบริหารอย่างเต็มที่ เมื่อพรรคไทยรักไทยได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย และมีมาตรการแก้จนออกมาหลายชนิด สร้างความฮือฮา และสะใจให้กับกองเชียร์มาก บางคนถึงกับยกให้เป็นนายกที่ดีที่สุดเท่าที่เมืองไทยเคยมีมา บางคนยกให้ท่านเป็น(หน้ากาก)เทวดามาจุติเลยปานนั้น แต่พอการบริหารงานผ่านไปได้ ๓ ปี เสียงเชียร์ก็ค่อย ๆ แผ่วลง ๆ กองเชียร์อาสาสมัครหลายคนเริ่มโบกมือลา ที่ยังยืนหยัดอยู่ก็เริ่มพูดจา ฮ้อแอ้..อ้อแอ้ แบ่งรับแบ่งสู้ ไม่กล้าเชียร์เต็มปากเต็มคำเหมือนแต่ก่อน กระทู้ชเลียร์แบบสุด ๆ เริ่มหายไปคงเหลือแต่หน้าเก่าพะยี่ห้อเดิมที่ยังกล้าทำกระทู้ชนิดนี้อยู่ และเชื่อว่า คงจะทำตลอดไปตราบเท่าที่กำลังสังขารอำนวย ส่วนความเห็นในกระทู้ที่เดิมใครด่าว่านายกจะต้องกลับออกมาอย่างชอกช้ำ หมอ(อ้อย)แทบไม่รับเย็บ กลายเป็นฝ่ายกองเชียร์นายกเองที่ต้องถามหายาดม ยาอม ยาหม่องกันให้วุ่น คนที่เคยยกย่องท่านว่าเป็นเทวดา เริ่มกลับลำ ที่แท้ท่านก็เป็นเพียง "ปุถุชน คนธรรมดา" มิได้วิเศษวิโสมาจากไหน ท่านว่ายวนอยู่ในอ่างของตัณหาที่อุดมไปด้วย.. รัก ท่านมีความรักอย่างล้นเหลือให้กับครอบครัวมาเป็นอันดับแรก มากกว่าชีวิตของท่านเสียอีก ดังจะเห็นได้จากกรณีของ บุตรและธิดาเอื้ออาทร ทั้งสาม ที่ล้วนได้ดิบได้ดีเพราะความรักอันเหนือขอบเขตของท่านทั้งสิ้น อันดับต่อมา ท่านรักทรัพย์สินของท่านเป็นที่ยิ่ง เพราะท่านร่ำรวยขึ้นมาได้จาก "หุ้น" การบริหารจัดการธุรกิจของบ้านเมือง จึงเอาเกจ์ความขึ้น-ลงของตลาดหุ้นเป็นมาตรวัด ตราบใดที่หุ้นของท่านยังเติบโตดีอยู่ ท่านก็สบายใจ แต่ตราบใดที่เห็นมันดิ่งไม่เป็นท่า มาตรการการพยุงฐานะจะเข็นออกมาในทันที ราวกับว่า นี่เป็นปัญหา"เร่งด่วน" ที่ต้องรีบแก้ไข เรื่องทุกข์ยากอื่นใดก็สามารถรอไว้ก่อนได้ทั้งสิ้น ถึงกับเคยหลุดปากออกมาว่า "ถ้าแปรรูปกฟผ.ไม่ได้ ตลาดหุ้นวอดวายหมด..ตายเป็นตายต้องทำให้สำเร็จ" เป็นต้น การจัดการกับหุ้นทหารไทยแบบผิดแผก..การตั้งกองทุนวายุภักษ์มาพยุงหุ้น..การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ..การแต่งตั้งนายสมคิดกลับมาอีกรอบ รวมทั้งมาตรการอื่น ๆ ที่กำลังเข็นออกมา เช่น ให้คนไทยทุกคนซื้อหุ้นกฟผ.ได้ก่อนในอัตราคนละแสน หรือ ต่อไปใครซื้อหุ้นกองทุนรวมให้นำมาลดหย่อนภาษีได้ ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ก็เพื่อให้ ทรัพย์สินที่รักของท่านมีความมั่นคงปลอดภัย ความรักที่ท่านรักอันดับต่อไปก็คือ ธุรกิจของท่านและพวกพ้อง ท่านสร้างมากับมือ(ถือ) จะปล่อยให้โฆซัดโซเซเห็นจะยาก การแปลงสัมปทานมือถือเป็นค่าต๋งก็ดี การเดินสายไปต่างประเทศก็ดี (โดยเฉพาะธุรกิจลับเฉพาะบินไปอินเดียโดยไม่มีวาระ) การเพิกเฉยต่อกรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ก็ดี ไอทีวีก็ดี การตายของชิปปิ้งหมูก็ดี ล้วนแต่เพื่อความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ของธุรกิจของท่านทั้งสิ้น (ในขณะที่ผมกำลังเชียนอยู่นี้ ท่านก็ได้เข็นหุ้นตัวใหม่ คือ บริษัทซีเอสในเครือชินวัตรออกขายให้ประชาชนทั่วไปอีกแล้ว) ส่วนธุรกิจของพวกพ้องที่อิ่มหมีพีมันก็อาทิ..การให้สิทธิทางภาษีแก่บ.โตโยต้าก็ดี..ค่าโง่ทางด่วนก็ดี..หุ้นจองของปตท.ก็ดี..เสี่ยกุ่ย พิทักษ์วัวพัลลภก็ดี..ที่ดินสปก.ตกอยู่ในมือของเครือญาติท่านเลขาก็ดี..มือถือ1900ในมือของน้องสาวก็ดี..อดิศัยกับข้อหาขายข้าวผิดราคาผิดประเทศก็ดี..นายวรเดชข้อหาฉกทรัพย์สินทางปัญญาก็ดี..สส.ไฟใต้ที่กำลังจะได้อานิสงค์จากพรก.นิรโทษกรรม..ฯลฯ รวมทั้งธุรกรรมเอื้ออาทรต่อญาติพี่น้องและพวกพ้องในตำแหน่งทางการเมือง..การทหาร..การตำรวจ..ราชการ ดังที่ปรากฏแก่สายตาของเรา ๆ ท่าน ๆ ไปแล้ว ธุรกรรมของพวกพ้องท่านเหล่านี้ได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.ก.(พวก เรา กันเอง) ที่ท่านเป็นผู้กำหนดขึ้น โลภ ความต้องการอันไม่มีที่สิ้นสุดของท่านเพื่อให้บรรลุความรวย..รวยที่สุดในประเทศ..รวยที่สุดในภูมิภาค หรือ รวยที่สุดในโลก..ไม่รู้ได้ แต่ที่รู้ก็คือ ความไม่รู้จักพอ ธุรกิจมือถือคงไม่ต้องกล่าวถึง ขณะนี้ท่านได้ทำหมันคู่แข่งไปโดยปริยายแล้ว (พาร์ทเนอร์ผู้ร่วมทุนของเทเลคอมเอเซียก็เพิ่งโบกมือลาประเทศไทยไปเมื่อไม่นานมานี้ ยอมทิ้งเงินหลายร้อยล้านบาทไป เพราะขืนอยู่ต่อ ไม่รู้่ว่าจะต้องทุ่มอีกเท่าไรในสงครามที่ไม่มีวันชนะเพราะกำลังสู้กับเจ้าของประเทศ) ธุรกิจสื่อสาร.. หรือท่านจะหยุดแค่ไอทีวี? คงไม่แน่นอน เป้าหมายของท่านน่าจะไกลถึงอสมท.หลังแปรรูป และสื่อออนแอร์ทั้งหลายหลังพรบ.สื่อสารโทรคมนาคมได้บังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบ ...รอดูอีกนิดนะครับ ตอนนี้เป็นการฟอร์มรูปร่าง จะปรากฏชัดอีกขวบปีข้างหน้า (ถ้ารอดมาเป็นรัฐบาลอีก) ความสนใจซื้อทีมฟุตบอลในต่างประเทศก็เป็นอีกข้อหาหนึ่งของความโลภอันไม่สิ้นสุด ลิเวอร์พูล..ฟูแล่ม แต่ละทีมต้องใช้เงินหลักพันล้านบาทขึ้นไปทั้งสิ้นเพื่อให้ได้มีสิทธิ์มีเสียง(บ้าง) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่คนหนึ่ง บางคนบอกว่าท่านมองการณ์ไกล ต้องการยกระดับนักเตะอาชีพของไทย แต่ผมว่า มันคนละเรื่องกัน จะยกระดับต้องทุ่มเงินกันที่นี่ ไม่ใช่ที่โน่น ซึ่งอย่างเก่งจะมีนักเตะไทยแค่คนหรือสองคนที่ได้รับโอกาส น่าจะเป็นเรื่องของคนโลภมากกว่า โกรธ ท่านแสดงให้เห็นสภาวะของปุถุชนในเรื่องของความโกรธาอยู่บ่อย ๆ ไม่พูดไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ..โกรธนักวิชากรที่บังอาจวิจารณ์ผลงานของท่าน..โกรธฝ่ายค้านที่เดินออกจากห้องประชุมตอนนับองค์ประชุมพอดี..โกรธทหารที่ตายฐานไม่ระมัดระวังปล่อยให้โจรกระจอกมาปล้นปืน..โกรธยูเอ็นที่แส่ไม่เข้าท่ามาตรวจสอบการสังหารโหดพ่อค้ายาบ้า..โกรธเอ็นจีโอ..โกรธสมัชชาคนจน..โกรธพนักงานกฟผ.ฐานขัดลาภ ท่านอาจจะโกรธใครต่อใครมากกว่านี้ แต่แสดงออกไม่ได้และผมก็นำมาพูดไม่ได้เช่นกัน หลง คำว่า หลง หมายถึง หลงผิด..หลงทาง..หลงไหล ในรอบสามปีที่ผ่านมา ท่านหลงไปในหลายเรื่องหลายประเด็น.. หลงผิดคิดว่าตัวเองถูกวางระเบิดเครื่องบิน..หลงเชื่อนักการเมืองกลุ่มหนึ่งว่า ไฟใต้ดับแล้วเหลือแต่โจรกระจอก ยับเหอะศอบต...หลงผิดคิดว่าไฟใต้สามารถดับได้ด้วยพลังเงิน..หลงรักอเมริกายอมส่งทหารไทยไปเสี่ยงตายแลกกับความเป็นพันธมิตรนอกกลุ่มนาโต้..หลงผิดคิดว่าทนายทะเลาะกับเมีย..หลงคิดว่าพรรคตนเองจะชนะการเลือกตั้งที่ภาคใต้ตามโพลล์สำรวจ..หลงรักลูกชายลูกสาวจนมองเห็นกรรมผิดเป็นกรรมถูก และสุดท้าย หลงตัวเอง คิดว่า ไม่มีใครดีกว่าตัวเอง ตัวเองจะครองความยิ่งใหญ่ไปอีก ๒๐ปี คนไทยหลายล้านคนตอนนี้หูตาสว่างกันเกือบหมดแล้วครับท่าน ในขณะที่ดูเหมือนตอนนี้ท่านนายกกลับเป็นคนที่มืด มิด บอด แทนไปซะแล้ว ต้องขอขอบคุณท่านนายกมา ณ ที่นี้ด้วยที่ทำให้คนไทยฉลาดขึ้น ไม่ไว้วางใจคนง่าย ๆ และไม่มองคนอย่างฉาบฉวยอีกต่อไป จากคุณ : *bonny - [ 8 เม.ย. 47 08:45:29 ] จากคุณ : gvk - [ 10 เม.ย. 47 22:08:45 A:203.151.206.82 X:10.219.10.35, 203.149.16.201 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมไม่ได้เป็นพนักงาน กฟผ. นะครับ แต่บอกตรงๆว่าหลังจากที่รัฐบาลนี้พยายามจะแปรรูป กฟผ. เข้าตลาดหลักทรัพย์ เราจะพบกระทู้บริภาษ กฟผ. หรือการพยายามสร้างความเกลียดชังให้กับองค์กรนี้อย่างมากมาย ไปๆมาๆผมก็เลยต้องมาช่วยตอบกระทู้ให้กับฝ่าย กฟผ. ต่อต้านการแปรรปในครั้งนี้ไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ ? งงตัวเองเหมือนกันครับ เข้าใจว่าคงเป็นเพราะฝ่ายสนับสนุนให้แปรรูปแต่ละราย ช่างยกเหตุผลที่จะสนับสนุนให้แปรรูปได้คลุมเครือเจือริษยายังไงก็บอกไม่ถูก มันเหมือนหมั่นไส้หนักงานเลยเชียร์ให้ขายองค์กรอะไรทำนองนี้น่ะครับ อนาคตประเทศชาติจะไปแขวนอยู่กับกลุ่มทุนใดก็ช่างมันฉันขอเอาชนะไอ้พวกประท้วงนี่เสียก่อน ถามใจตัวเองดูนะครับว่าคิดอย่างนี้หรือเปล่า ? ถ้าไม่ใช้เรามาโต้กระทู้กันด้วยเหตุด้วยผลครับ 1) ถามว่า "ทำไมไม่ทำ (เพิ่มประสิทธิภาพ ) มานั่งประท้วงทำไม ทำไมปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานานแสนนาน คุณพอใจในประสิทธิภาพของตนเหรอ อ๊ะๆๆ ผมรู้ คุณจะบอกว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่จะต้องมาทำเรื่องนี้ อ้าว แล้วทำไม คุณก็มีสมองไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนั้นไม่นั่งประท้วงบ้างล่ะ ปฏิรูปๆๆๆ เราต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ" ถามง่ายตอบยากครับ ผมถามกลับง่ายๆว่าตอนนี้คุณทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ-ได้ผลประโยชน์สูงสุดเท่าที่มีแล้วหรือยัง ถ้ายังคุณทำไมไม่ลุกขึ้นมาประท้วงให้บริษัทหรือองค์กรของคุณทำงานได้ดีขึ้น ? จะเห็นได้ว่าในความเป็นจริงแล้วไม่มีพนักงานองค์กรใดในโลกออกมาประท้วงขอให้ทำงานหนักขึ้นหรอกนะครับ สิ่งที่คุณถามเป็นไปได้หรือไม่ในโลกของความเป็นจริงหรือเปล่าคุณคิดดูเอาเองก็แล้วกัน จากคุณ : ตอสระอือ - [ 10 เม.ย. 47 22:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อครับ 2 ทำไมถึงมีหนังสือจาก ม๊อบ แจ้งให้บอร์ดบริหารสนับสนุนการประท้วง หากไม่สนับสนุน จะแฉทุกอย่างที่บอร์ดบางคน ได้รับผลประโยชน์"พวกคุณก็รู้เหรอว่า บอร์ดโกงอะไรบ้าง แล้วทำไมไม่ตรวจสอบ อ๊ะๆๆ อย่าบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ ไม่ต้อง สตง ก็ได้ คุณก็ทำได้นี่ หรือว่า คุณเก็บเอาความลับนี้เอาไว้ต่อรอง.......มิน่า หลังจากหนังสือฉบับดังกล่าวออก ผู้ว่าฯ รุ่นเก่า ก็จัดประชุมทันที และออกแถลงในตอนบ่ายแก่ๆว่า ไม่ต้องการให้แปรรูป.....!!!" เรื่องลึกๆแบบนี้ผมไม่ทราบหรอกครับ แต่คำว่าบอร์ดบางคน ได้รับผลประโยชน์นั้นถ้าเป็นความจริงรัฐก็ต้องสืบค้นมาว่าเป็นบุคคลไหน ? ถึงต้องขอความร่วมมือกับ พนักงาน กฟผ. ที่ประท้วงอยู่ก็ต้องทำ เป็นหน้าที่ของรัฐโดยตรง พนักงาน กฟผ. ที่ประท้วงส่วนใหญ่ก็เป็นแค่พนักงานธรรมดาๆทั่วไป จะให้เค้าเอาความมั่นคงในชีวิตการทำงานไปงัดกับบอร์ดบริหารบางคนมันก็ยากที่จะมีใครกล้าทำ ลูกเมียจะเดือดร้อนเปล่าๆ เหมือนๆอย่างที่พวกเราในห้องนี้เห็นความไม่ชอบมาพากลของรัฐบาลหหรือฝ่ายค้านหลายๆเรื่อง มีใครกล้าไปแจ้งความที่ สน. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการบ้างไหมครับ ? ผมว่ายากนะทั้งๆที่เราก็เป็นคนไทยซึ่งสูญเสียประโยชน์โดยตรง การมีเรื่องกับผู้ถืออำนาจเหนือกว่านี่ไม่น่าสนุกเท่าไหร่ 3 ขายชาติ.... เอาอะไรมาพูด ไม่รู้จะพูดยังให้เข้าใจ เข้าใจไหม Financing น่ะ คือ การหาเงินที่ต้นทุนต่ำสุดแล้วเข้าใจไหม ไม่ต้องจ่าย Dividend ก็ได้ คุณจะบริหารเงินอย่างไรก็ได้ หากคุณกู้ คุณต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นประจำ แต่ หากคุณระดมทุนด้วยการออกหุ้นขายให้ประชาชน หากคุณกำไร คุณไม่ต้องจ่ายปันผลก็ได้ เก็บไว้สร้างโรงไฟฟ้าต่อก็ได้ "อันนี้ไม่อยากพูดมาก รู้ว่าพูดไปก็ไม่เข้าใจ วันนั้นออก ถึงลูกถึงคน เออ แฮะ นักวิชาการฉลาดน้อยแบบนั้นก็มีด้วย ส่วนท่านประธาน ไม่อยากเอ่ยถึง แค่ใบหน้าก็รู้แล้ว....." เอะอะ ก็ขายชาติๆๆ ไม่เข้าใจเลย หากคุณกำไร คุณไม่ต้องจ่ายปันผลก็ได้ เก็บไว้สร้างโรงไฟฟ้าต่อ มาอีกแล้วครับทรรศนะทำนองนี้ ช่วย"สั่ง"ให้ ปตท. ทำตามดูก่อนนะว่าไม่ต้องปันผลเอาไปลงทุนหรือลดราคาค่าน้ำมันช่วยเหลือผู้บริโภค หากไม่ชอบคำว่าขายชาติ ( ซึ่งผมไม่เคยใช้เลย ) ก็เปลี่ยนเป็นขายหุ้นในรัฐวิสาหกิจที่สำคัญที่สุดของชาติดีไหมครับ ? ฟังแล้วรู้สึกดีขึ้นมากไหมเนี่ย ? 4 สุดท้าย กรอบที่สมคิดออกมาให้ใหม่ "พอใจกันหรือยัง ตอบด้วย เบื่อและรำคาญ ถ้าไม่พอใจก็บอกว่าตรงไหน จะได้ไปแก้ใหม่อีก เบื่อจะตายอยู่แล้ว พูดอยู่ได้ ไม่เอาๆๆๆ แต่ไม่บอกว่ายังไง เหนือ่ยนะ ไม่ว่างมากขนาดไปกินส้มตำตอน 10 โมงหรอก" ส่วนตัวในฐานะประชาชนผมไม่เอาด้วยกับการแปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์ครับ อีก 2-3 ปีหุ้นมันจะไหลเข้าไปอยู่ในมือใหญ่หมด หากจะแปรรูปของให้แปรรูปให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรงครับ ซึ่งทั้งหมดต้องทำประชาพิจารณ์และลงมติอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญก่อน เรื่องสำคัญขนาดนี้รัฐบาลในปีสุดท้ายไม่ควรถืออำนาจมาตัดสินใจโดยพลการครับ หัดมีความอายบ้างนะ จากคุณ : ตอสระอือ - [ 10 เม.ย. 47 22:34:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ใช่พนักงานการไฟฟ้าหรอก แต่อยากจะตอบเพราะไม่อยากให้โดนพวกนายทุนมันล้างสมองเอาว่า การเอาเข้าตลาดหุ้นคือการเพิ่มประสิทธิภาพ 1. ทางการไฟฟ้าเขาลดจำนวนคนมาตั้งนานแล้ว แต่ก่อนเขามีสามหมื่นเกือบสี่หมื่น แต่ว่าตอนนี้เขาเหลือสองหมื่นเจ็ดปลายๆ เขาทำของเขาอยู่ไม่ใช่พูดเรื่อยเปื่อยแบบนายก อีกอย่างหนึ่งการไฟฟ้าเขาถูกวางตัวให้เป็นหน่วยงานทางด้านความมั่นคงทางด้านพลังงาน เพราะฉะนั้นเขาเลยต้องมีความสามารถในหลายๆ ด้านทั้งออกแบบ สร้าง เดินเครื่อง วางแผนเดินเครื่อง บำรุงรักษา ทำให้คนมันเยอะ ไม่เหมือนบริษัทเอกชนที่เดินเครื่องอย่างเดียว ท่าน ส่วนใหญ่ แล้วบริษัทเอกชนเวลาเขาก่อสร้างโรงไฟฟ้าเขา เขาก็จ้างการไฟฟ้าไปช่วยควบคุมการก่อสร้างทั้งนั้น บางบริษัทเขาก็จ้างการไฟฟ้าไปเดินเครื่องให้ด้วย ตอนแรกเขาจะลดบทบาทการไฟฟ้าให้เป็นแค่ผู้ผลิตคนหนึ่งถ้าทำแบบนั้น ก็จะเห็นโรงไฟฟ้าการไฟฟ้าเหมือนกับเอกชนนั่นแหละคือมีคนไม่กี่คน ส่วนฝ่ายอื่นๆ เขาก็จะไปอยุ่ตามบริษัทตามงานของเขาที่จะตั้งขึ้นมาใหม่แทน แต่ว่าตอนหลังเปลี่ยนกลับมาให้ดูแลความมั่นคงทางระบบไฟฟ้าใหม่ ทำให้แยกอย่างที่ว่าไม่ได้ ก็เลยต้องเก็บเอาไว้ในรูปแบบนี้แหละ เพราะงั้นบางพวกที่ตอนนี้ไม่ต้องทำงานเช่นฝ่ายก่อนสร้าง หรือซ่อมบำรุงเขาก็มาประท้วงเขาได้ไม่มีปัญหา เหมือนพวกทหารแหละ เขาก็มีทหารช่างมีทหารสื่อสารถ้าไม่มีสงครามเขาก็อยู่ของเขาเฉยๆ ได้ แต่ถ้าเกิดสงครามเมื่อไหร่ไม่มีเขาท่านจะคิดถึง ทีนี้ถ้าใครอยากให้เอาหน่วยงานความมั่นคงออกไปแปรรูปแล้วอันดับแรกที่อยากให้ทำคือตำรวจว่ะ ไม่ใช่การไฟฟ้า อันนั้น:-)กว่าแยะ ให้มันไปแข่งกับ บริษัท รปภ. กะ สำนักงานนักสืบน่าจะดีกว่าแยะ 2. ไม่รู้ 3. ตอนนี้การไฟฟ้าเขาไม่ได้ต้องการเงินขนาดนั้น เอาเป็นว่า ตกลงขายหุ้นไปแล้วการไฟฟ้าเขาจะเอาเงินไปทำอะไรล่ะท่าน จะสร้างโรงไฟฟ้าตอนนี้ความต้องการมันก็เกินอยู่ มหาศาลอยุ่แล้ว สร้างไปก็ไม่ได้เดิน พอต้องเดินก็ล้าสมัยอีกประสิทธิภาพก็ไม่สูงพอ ถ้าเปลี่ยนให้เขาขายหุ้นเท่าที่ต้องการขายได้เนี่ยค่อยอยากพิจารณาหน่อย แต่ว่าขายทีติดเพดานเลยเนี่ย ไม่เห็นประโยชน์ว่ะ อีกหน่อยถ้าต้องการเงินเพิ่มจะเอามาจากไหนดีวะ ถ้าไม่กู้ 4. ทำไงได้ล่ะ ก็มันคุยกันคนละเรื่องน่ะสิ ฝ่ายหนึ่งบอก ไม่ให้แปรรูป แต่อีกฝ่ายหนึ่งมาคุยว่าเนี่ยจะขายหุ้นแบบไหนบ้าง เหมือนกับ ถามว่าจะกินข้าวบ้านหรือออกไปกินข้างนอกดี แต่คนตอบกลับบอกว่าทำกระเพราไก่ยังไง มันต้องตอบคำถามแรกก่อนถึงจะมาตอบคำถามสองได้ คงจะได้คุยกันรู้เรื่องหรอก ถามจริงเหอะ คุณจะได้ประโยชน์อะไรจากที่การไฟฟ้าเขาเปลี่ยนป้ายชื่อไปเป็นบริษัทผลิตไฟฟ้าอะไรก็แล้วแต่ ถ้าคิดว่าค่าไฟจะลดก็ฝันไปเหอะเพราะต้นทุนมันเพิ่มจากพวกค่าเช่าต่างๆ ของรัฐที่ตอนนี้ไม่ต้องเช่า ถ้าคิดว่าบริการจะดีขึ้นก็คงต้องฝันต่อไปเพราะเขาไม่ต้องมาแข่งบริการกับใครเหมือนเดิม ถ้าคิดว่าจะได้สะใจกะพวกพนังงานที่จะโดนไล่ออกก็ต้องตอบว่าเสียใจเพราะพวกนั้นเขาไม่โดนไล่ออกแถมได้เงินเดือนเพิ่มอีกบวกกะหุ้นอีกส่วนนึงด้วย พวกใช้ไฟฟรีก็ได้ใช้ฟรีต่อไป แล้วคนถูกบังคับใช้ไฟแต่ไม่มีเงินซื้อหุ้นอีก หกสิบกว่าล้านได้ประโยชน์ไรจากการขายหุ้นครั้งนี้ท่านตอบหน่อยสิ จากคุณ : ตอบด้วยนะ - [ 10 เม.ย. 47 22:36:23 A:203.151.206.82 X:199.77.204.31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณตอสระอือ ตอบไม่ตรงประเด็นครับ ถาม ก แต่ตอบว่า ข ทำหรือยัง ผมไม่ได้ถามว่าทำไมไม่ประท้วงให้ทำงานหนักนะครับ เพื่อนผม ทำบัญชีอยู่การไฟฟ้า เค้ายังบอกว่า ยังต้องลงสมุดรายวันด้วยมืออยู่เลย ซึ่งช้าและเสียเวลามาก งานก็ผิดพลาด ประมวลผลด้วยเครื่องคิดเลขอัน ร้อยกว่าบาทไม่มีระบบฐานข้อมูล มิน่า พนักงานกองบัญชี ของการไฟฟ้ามีร่วม 100 คน นี่คือเรื่องจริง ลองไปตรวจสอบดู มีพนักงานบัญชีบริษัทใดมากกว่า 30 คนบ้าง เพื่อนผมอีกคนทำงานบริษัทมหาชน ทุนจดทะเบียน 7 พันล้านมีพนักงานบัญชี 4 คน แต่ยังใช้ระบบฐานข้อมูลทันสมัย ผู้บริหารต้องการตัวเลขก็สรุปได้ทันที ในขณะการไฟฟ้าต้องขอเวลาเป็นเดือนกว่าจะได้ตัวเลข พอทำไมทัน ก็ make ซะ (คุณเริ่มมองเห็นปัญหา คนล้นงาน หรือยัง คนทำก็ทำไป คนไม่ทำก็ไม่ทำไป) สิ่งที่อยากเห็นคือ คนกองบัญชี ออกมาประท้วงให้ กฟผ จัดทำระบบบัญชีด้วย computer โปรแกรมอะไรก็แล้วแต่ให้มันเป็นระบบ นี่สิ ถึงเรียกว่า "เพิ่มประสิทธิภาพ" การทำงานนับชั่งโมง มิใช่ว่า ใครทำชั่วโมงมาก มีประสิทธิภาพ นะครับ ผมมิได้หมายความอย่างนั้น หรืออีกประเด็นการจัดซื้อจัดจ้าง เคยเห็นไหม การซื้อคอมพิวเตอร์สเปคเดียวกัน 1 คอนเทนเนอร์ ??? ทำไม ทำไม พนักงานไม่ประท้วง ทำอะไรไม่โปร่งใส คอมพ์ชุดนั้นแพงแสนแพง แต่สเปคสู้ของถูกยังไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ประชาชนอยากเห็นพนักงานปกป้องผลประโยชน์ประเทศชาติ ออกโวยวาย ประท้วงก็ได้ เต็มที่ รับรองประชาชนเห็นด้วย ม๊อบ กฟผ มีพลังเข้มแข็ง แต่ใช้ไม่ถูกที่ถูกเวลา เวลาที่ควรใช้ ไม่ใช้ เวลาที่ไม่ควรใช้ กลับใช้ นี่เป็นมุมมองของผม จากคุณ : กระเพราหมู - [ 10 เม.ย. 47 22:36:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบคุณ ตอบด้วยนะ 1 คุณบอกว่า Supply มากกว่า Demand หรือ ผมว่ายังมีชาวบ้านในชนบทที่ยังไม่เคยแม้แต่เปิดสวิตช์ไฟนะครับ 2 ถ้าต้องการเงินเพิ่ม ก็ออกหุ้นเพิ่มทุนสิครับ หรือออก Bond ก็ได้ ต้องเล่าไหมเนี่ย Bond คืออะไร 3 การออกงบบัญชี ปีละ 2 ครั้ง คิดว่าจะตรวจสอบอะไรได้หรือครับ มาตรฐานสากล ปีละ 4 ครั้ง การซื้อ หรือ ขาย สินทรัพย์ใด มากกว่า 5% ของ สินทรัพย์รวม ต้องผ่านการเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น นั่นจะทำให้การจัดซื้อจัดจ้างโปร่งใสขึ้นได้ 4 จำนวนคนไม่ใช่ปัญหา แต่การใช้คนให้เต็มประสิทธิภาพคือปัญหา 5 อันนี้ของคุณตือครับ 2-3 ปีหุ้นจะไหลไปสู่มือนายทุน จะไหลได้ไงครับ ถ้าคุณไม่ขาย รัฐถือ 75% ถือสิทธิขาดในการบริหาร ไม่รู้กลัวอะไรกัน แถมห้ามถือเกิน 5% ผมไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการแปรรูป แต่อยากให้อย่าหลับหูหลับตาค้าน ยินดีที่มีการคัดค้านกันด้วยเหตุผลที่ตรงไปตรงมาและเต็มองค์ความรู้ ไม่ใช่อารมณ์ จากคุณ : กระเพราหมู - [ 10 เม.ย. 47 22:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของทักษิน..คือการไม่ละอายต่อการแสวงหาประโยชน์..เพื่อธุรกิจตัวเองและพวกพ้อง จากคุณ : วิหคดำ - [ 10 เม.ย. 47 23:12:06 A:203.151.206.81 X:203.113.66.73 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กลับมาต่อยอดอีกรอบครับ ผมก็เห็นด้วยกับคุณกระเพราหมูที่ว่า "ยินดีที่มีการคัดค้านกันด้วยเหตุผลที่ตรงไปตรงมาและเต็มองค์ความรู้ ไม่ใช่อารมณ์" และหวังว่าฝ่ายสนับสนุนจะไม่หลับหูหลับตาสนับสนุนเช่นกันครับ เรื่องที่ว่าผมตอบไม่ตรงปัญหานั้นก็ช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะคำถามของคุณเรียกร้องและสงสัยว่าพนักงาน กฟผ. ไฉนไม่ประท้วงปรับปรุงองค์กรของตนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งคำถามมันตอบโค-ตะ-ระ ยากส์เลยครับ เหมือนมีคนมาถามคุณว่าเมื่อวานคุณทานอาหารอะไร ? ทำไมไม่ทานอาหารให้ตรงกับแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการและครบถ้วนทั้งสารอาหารและวิตามิน ทำไมไม่ลุกขึ้นมาประท้วงผู้ปรุงอาหารให้ทานว่าไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการและไม่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด ที่นี้จะให้ตอบว่าไงหล่ะครับ ? ความไร้ระเบียบและฉ้อฉลของมนุษย์น่ะมันมีอยู่ทุกคนและทุกองค์กรแหละครับ จะให้มันน้อยสุดก็ต้องควบคุมและฝึกฝนมัน ซึ่งกับ กฟผ. คนที่กำกับดูแลก็คือบอร์ดบริหารและรัฐบาล ปมของปัญหาจริงๆมันก็น่าจะแก้ไขได้ด้วยกลไกตรงนั้น คุณเองก็ดันมาเสียดสีเสียอีกว่าพนักงานที่ประท้วงก็น่าจะมีสมองทำไมไม่คิดเอง เป็นซะงั้นไป ผมรู้สึกคุณเรียกร้องเอาจากพนักงาน กฟผ.ที่ประท้วงอยู่ฝ่ายเดียว อคติอะไรหรือเปล่าครับ ? ปล : ที่สำคัญก็คือคำถามของคุณทั้งหมดไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลยว่าการแปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วมันจะดีขึ้น จากคุณ : ตอสระอือ - [ 10 เม.ย. 47 23:15:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมไม่หลับหูหลับตาค้าน แต่ว่าคุณเองก็บอกเองว่า คุณก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ทีนี้คำถามถัดมาคือคุณจะเสียประโยชน์อะไรรึเปล่าล่ะครับ ของผมเห็นว่าผมจะเสียประโยชน์เพราะมองเห็นว่าต้นทุนมันจะเพิ่มขึ้นจากค่าเช่าต่างๆ ที่จะตกมาสู่คนที่ต้องซื้อไฟฟ้า 1. การที่ชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลไม่มีไฟฟ้าใช้ เป็นเพราะต้นทุนในการวางสายและจัดวางระบบจัดส่งมันแพงครับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขาดทุนจากการวางระบบแบบนี้มากครับเพราะต้องลงทุนหลายล้าน แต่ว่าได้ค่าไฟฟ้าจากชาวบ้านเดือนละไม่กี่พัน แต่ว่าที่ทำไปส่วนใหญ่ก็เพราะว่าความเป็นรัฐวิสาหกิจที่มองความความต้องการเป็นหลักไม่ใช่กำไรเป็นหลัก ถ้าแปรรูปไปแล้วของไม่มีกำไรแบบนี้ความสำคัญของชาวบ้านพวกนั้นจะไปอยู่ลำดับไหนดีครับ 2. การออกพันธบัตร การไฟฟ้าเขาก็ออกอยู่แล้วครับ ไม่จำเป็นที่จะต้องออกไปอยู่ในรูปบริษัทเขาก็ออกได้ แล้วจะต้องไปขายทำไมล่ะครับ 3. รัฐก็สามารถออกกฏระเบียบได้นี่ครับ ตอนนี้การไฟฟ้าอยู่ในมือรัฐ เต็มที่ ถ้าจะให้ออกงบบัญชีเดือนละครั้งก็ออกกฏไปสิครับ ไม่จำเป็นต้องขายหุ้นก่อนถึงทำได้เลย ด้วยซ้ำไป 4. รูปแบบการใช้คนนั้นมันต่างกันออกไปครับ อย่ากองทัพมีคนเป็นแสน แต่ว่าได้ผลผลิตอะไรบ้างล่ะครับ กองทัพเองมีทหารหลายเหล่ามีความสามารถหลากหลาย แต่ว่าผลผลิตต่ำ เพราะความสามารถถูกเอาไปใช้กับการเตรียมพร้อมซะมากกว่า เช่นกันการไฟฟ้ามันดันถูกเอาไปวางให้ดูแลความมั่นคงทางด้านพลังงานเข้าเขาก็ต้องมีคนเยอะ ตามงานที่เขาคาดว่าจะมี แต่บางทีงานมันก็ไม่มีทำให้คนเขาไม่ได้ใช้งานตามหน้าที่ แต่ว่าถ้าพิจารณาดูให้ดีการไฟฟ้าเขาก็ออกไปรับจ้างทำงานต่างๆ พวกซ่อมบำรุง พวกควบคุมการก่อสร้าง หรือรับจ้างเป็นที่ปรึกษาซะส่วนใหญ่นะครับไม่ได้นั่งกันเฉยๆ ซะหมด เช่นเดียวกันที่เขาเอาทหารช่างไปช่วยสร้างถนน เอาทหารสื่อสารมาจัดรายการวิทยุเวลาไม่ต้องใช้ตามงานหลักน่ะคร้าบ ส่วนเรื่องพนักงานบัญชีร้อยคนน่ะผมว่าไม่แปลกหรอกคร้าบ หน่วยงานขนาดใหญ่แบบนี้คนเป็นหมื่น ก็จะให้เหมือนเอกชน ก็ต้องแปรรูปสิครับ แต่เป็นการแปรรูปจริงๆ โดยจัดแยกเป็นบริษัทย่อยๆ ทีนี้คงจะได้เห็นการไฟฟ้าเหมือนปูนซีเมนต์ไทย อันนี้โดนส่วนตัวอยากเห็นแบบนี้แต่เขาไม่เอากัน กลัวเรื่องความมั่นคงซะอีก 5. หุ้นแค่ยี่สิบห้าเปอร์เซนต์แต่มูลค่ามันไม่น้อยนะคร้าบ ถ้าคนที่เข้ามาถือหุ้นปริมาณมาก แล้วก็มีอำนาจที่จะสั่งการไฟฟ้าขวาหันซ้ายหันได้ (พูดง่ายๆ ก็คือเข้ามาเป็นรัฐบาลด้วย) งานนี้คงสนุกดีล่ะคร้าบ เพราะถ้าเขาไม่มีจริยธรรม การไฟฟ้าคงต้องรีบหากำไรให้เขาได้สูงสุดด้วย ใครเป็นคนจ่ายค่าไฟล่ะคร้าบ 5. จากคุณ : เบอร์ 6 - [ 10 เม.ย. 47 23:18:07 A:203.151.206.81 X:199.77.204.31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กระเพราหมู โกหก น่าเกลียดมาก "เพื่อนผม ทำบัญชีอยู่การไฟฟ้า เค้ายังบอกว่า ยังต้องลงสมุดรายวันด้วยมืออยู่เลย ซึ่งช้าและเสียเวลามาก งานก็ผิดพลาด ประมวลผลด้วยเครื่องคิดเลขอัน ร้อยกว่าบาทไม่มีระบบฐานข้อมูล" กฟผ. มี เมนเฟรมนะ เวลา BACKUP ข้อมูลยังใช้ ROBOT เลย ทีหลังจะ Post อะไร หาข้อมูลก่อน ถ้าไม่รู้เข้าไปถาม ใน กฟผ. ก็ได้นะ จากคุณ : -- (hs6bue) - [ 10 เม.ย. 47 23:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 13 1. แล้วทำไมรัฐบอกเสมอว่า เข้าตลาดหุ้นแล้วเพิ่มประสิทธิภาพได้ ทำไมตอนนี้รัฐเป็นเจ้าของอยู่ 100 เปอร์เซนต์ มีอำนาจเต็มจะทำอย่างไรก็ได้ ทำไมไม่ทำ ต้องรอให้เข้าตลาดหุ้นแล้วถึงทำได้หรือ แล้วบอกว่าเข้าตลาดหุ้นแล้วโปร่งใส อ้าวแล้วที่ สตง หน่วยงานของรัฐที่ตัวเองมี ทำอะไรอยู่หรือ แสดงว่าหน่วยงานตรวจสอบของรัฐมันไม่ได้เรื่องจริงๆ อย่างนี้ต้องโทษใครเนี่ย 2. หนังสือจากม๊อบ ฉบับไหนหรือ ช่วยเอามาโชว์หน่อยสิ อย่ายกมามั่วๆเอง 3. แล้วทุกวันนี้ เงินที่หามาได้ต้นทุน ต่ำอยู่แล้วนิ แล้วปัญหามันอยู่ตรงไหนหรือ ที่ต้องมาขายหุ้น 4. เหรอ ก็ไปบอกสมคิด รอฟังประชาพิจารณ์สิ แค่นี้รอไม่ได้หรือ จากคุณ : ผ่านมา - [ 10 เม.ย. 47 23:23:54 A:203.151.206.82 X:202.133.160.212 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สงสัย เพื่อนนายกระเพาหมู ที่เป็น นักบัญชี คงเป็นนักบัญชี ที่ขายอาหารอยู่ในกฟผ มั๊ง 5555 จากคุณ : ผ่านมา - [ 10 เม.ย. 47 23:29:27 A:203.151.206.82 X:202.133.160.212 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถูกต้องครับ..ทำไมไม่ถามประชาชนคนที่เป็นเจ้าของกฟผ.ที่แท้จริง...ว่าจะยอมให้เอาสมบัติของพวกเขาไปขายหรือไม่....มันรีบร้อนเข้าตลาดหุ้นอะไรกันหนักหนา จากคุณ : วิหคดำ - [ 10 เม.ย. 47 23:30:51 A:203.151.206.81 X:203.113.66.73 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อีกนิดครับ 5 อันนี้ของคุณตือครับ 2-3 ปีหุ้นจะไหลไปสู่มือนายทุน จะไหลได้ไงครับ ถ้าคุณไม่ขาย รัฐถือ 75% ถือสิทธิขาดในการบริหาร ไม่รู้กลัวอะไรกัน แถมห้ามถือเกิน 5% ไหลได้ไม่ได้ก็ไปดูผู้ถือหุ้น ปตท. ในตลาดหลักทรัพย์สิครับ ถือหุ้น 2-3% ก็มูลค่านับพันล้านแล้ว บ.ต่างชาติถือกันบริษัทละไม่ถึง 5% แค่นี้ก็ยังต้องจ่ายปันผลให้เค้าปีนึงนับพันล้่าน ( ดอกเบี้ยอีกต่างหาก ) ซื้อคืนก็ขาดทุนอ้วก แล้วผมก็สงสัยที่บอกว่าถ้าไม่ขายหุ้นก็ไม่ไหลไปอยู่ในมือใหญ่ งง ครับ ? ก็ถ้าไม่ให้ขายแล้วจะดันทุรังเอาหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ทำไมเล่าครับ ? ก็แปรรูปนอกตลาดแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรงไปตามที่นักวิชาการหลายๆท่านเสนอมิดีกว่าหรือ ? คุณเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์พอหุ้นมันขึ้นก็ต้องมีคนที่ขายทำกำไรน่ะ เรื่องธรรมดา ส่วนที่คุณบอกว่าไม่รู้จะกลัวอะไรกันรัฐถือสิทธิขาดในการบริหารเพราะถือหุ้น 75% ก็อยากถามกลับว่าที่ผ่านมารัฐถือหุ้น 100% คุณยังมีข้อสงสัยไม่ใว้วางใจ กฟผ. เสียตั้งเยอะแยะ พอรัฐถือหุ้นเหลือ 75% ซึ่งอีก 25% เป็นใครที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ทั้งไทยทั้งเทศมั่วไปหมด แถมเจตนาหลักที่เข้ามาถือหุ้นก็ยังเป็นไปเพื่อผลตอบแทน ใจคอคุณจะไม่ให้กลัวเลยหรือครับ ? จากคุณ : ตอสระอือ - [ 10 เม.ย. 47 23:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยกับคุณตอสระอือกับข้อมูลและเหตุผลที่ยังชัดเจนเหมือนเดิมครับ...... คัดลอกมาให้เจ้าของกระทู้อ่านครับ...เพื่อพัฒนาการที่ดี รัฐบาลประกาศชัดว่าจะคงสัดส่วนของหุ้นที่รัฐบาลถืออยู่ที่ร้อยละ 70-75 ส่วนประชาชนและ พนักงานถือร้อยละ 25-30 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ รัฐบาลจึงยังเป็นผู้กำหนดนโยบายและควบคุม การบริหารของ กฟผ. ทุกอย่าใง ไม่แตกต่างจากสมัยที่เป็นรัฐวิสาหกิจ เพียงแต่เมื่อแปรสภาพ เป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว กฟผ.จะต้องบริหารงานอย่างโปร่งใสน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนักการเมือง หรือกลุ่มคนที่จะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จาก กฟผ.จะทำได้ยากกว่าเดิม เพราะจะถูกตรวจสอบทั้งจากฝ่ายภาครัฐ และภาคประชาชนที่เป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งผมจะโต้แย้งกับคำตอบนี้ดังนี้ 1. รัฐบาลถือ 75%ประชาชน 25%เพราะเป็นแค่มติครม.จึงไม่มีหลักประกัน เพราะสามารถเปลี่ยนเมื่อไรก็ได้ แค่ประชุมครม.เท่านั้น กรณี ITV เป็นตัวอย่างที่เป็นบทเรียนของประชาชนมาแล้ว ดังนั้นหากจะขายหุ้นอีกจนรัฐบาลถือหุ้นน้อยกว่า 50%ก็ย่อมได้ 2. ปตท. แม้เป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ก็ไม่ได้เป็นกลไกรัฐในการตรึงราคาน้ำมัน เพราะเป็นบริษัทมหาชนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ สุดท้ายรัฐบาลต้องใช้กองทุนน้ำมันแทน ซึ่งจะเป็นภาระของประชาชนทั้ง 63 ล้านคน ในขณะที่ผู้ถือหุ้น ปตท. ไม่ถึงแสนคนได้ประโยชน์ และบริษัทน้ำมันข้ามชาติก็พลอยได้ประโยชน์ไปด้วย 3.การตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพที่สุด อยู่ที่คณะกรรมการหรือบอร์ด ประกอบด้วยตัวแทนที่มาจากผู้บริโภค และผู้ใช้แรงงานด้วยหรือไม่ หากมีแต่ตัวแทนที่นักการเมืองตั้งเข้ามาได้ตามอำเภอใจ ก็จะมีการเล่นเส้นสาย และเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนการเมือง สุดท้ายองค์กรก็ล่มจม บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ที่ทำการตกแต่งบัญชี ไม่โปร่งใสก็มีมาก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ บริษัทเอนรอน ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ก็ยังมีการทุจริต ตกแต่งบัญชี เกิดความเสียหายร้ายแรงจนล้มละลาย เป็นต้น นั่นคือประสิทธิภาพ ความโปร่งใส ไม่ได้อยู่ว่าเป็นของรัฐหรือเอกชน แต่อยู่ที่บอร์ดซึ่งเป็นคณะผู้บริหารสูงสุด มีองค์ประกอบที่จะเกิดการตรวจสอบและถ่วงดุลย์หรือไม่ และบอร์ดถูกแทรกแซงด้วยอำนาจการเมืองได้ง่ายหรือไม่ นั่นคือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการเอาหุ้นเข้าตลาด ไม่ใช่เรื่องประสิทธิภาพ หรือ ความโปร่งใส แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ ของกลุ่มทุนการเมืองที่แอบแฝงอยู่ ที่ต้องการแปลงผลประโยชน์ของคนทั้งชาติ ไปเข้ากระเป๋าของกลุ่มทุนทั้งในชาติและต่างชาติ อย่างนี้ไม่เรียกว่าขายชาติ จะเรียกว่าขายอะไรครับ ... จากคุณ : paradyne - [ 10 เม.ย. 47 23:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เจ้าของกระทู้กับเพื่อน ทำงานอยู่ในกลุ่มทั่วประเทศมีสองแสนคนใช่ไหมครับอยากรู้ จากคุณ : ARMMYSS - [ 10 เม.ย. 47 23:56:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เขาคงกลัวที่จะทำงานแบบอู้งานไม่ได้ก็เท่านั้นครับ มีเท่านั้นจริงๆ ไม่เชื่ออ่านข้างบนดิ "ไม่มีใครประท้วงเพื่อให้ตัวเองทำงานหนักขึ้น" แต่ผมก็สงสัยนะว่า 1. ถ้าไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ แล้วเนี่ยมันจะหายนะอย่างไร 2. ทำไมคนที่ประท้วงถึงบอกว่า ทักษิณขายชาติ แล้วตอนที่ เกษม สนับสนุนเรื่อง EGCO ไรนั่นทำไมไม่ด่าด้วยอะ สงสัยเท่านี้แหละ (ผลประโยชน์มาก่อน ประชาชนแค่บังหน้า) จากคุณ : ผีเพื่อนหงส์ - [ 11 เม.ย. 47 00:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โดนแล้วไหมละ..คุณกระเพราหมู บอกแล้วไม่เชื่อ ว่าอย่าไปยุ่งกับพวก กฟผ. อยู่ดีๆดันเอาไม้ไปตีขี้... เลอะเทอะหมดเลย เห็นไหมละ ทีนี้เข็ดหรือยัง จากคุณ : ร่าเริง - [ 11 เม.ย. 47 00:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 21 1.เอาโฆษณาลวงโลกออกซะ 2.มาทำประชามติ 3.ถ้าทำประชามติแล้ว รัฐบาลแพ้ ให้ลาออกจากการเป็นรัฐบาลด้วย ส่วนถ้ารัฐบาลชนะ ก็เชิญตามสบายสำหรับรัฐบาล แต่ถ้าชาติล่มเมื่อไหร่ ร่ำรวยกันเฉพาะพรรคพสกเพื่อฝูงเมื่อไหร่เตรียมตัวตอบคำถามประชาชนได้ จากคุณ : sailungwan@hotmail.com (sailungwan) - [ 11 เม.ย. 47 02:08:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมไม่ได้เป็นคน กฟผ. นะครับ การแปรรูปมันไม่โปร่งใสตั้งแต่ต้นแล้วครับ จากการที่นายกออกมาบอกเองว่า ตัวเองรีบร้อนไปที่จะ ให้กฟผ. เข้าตลาด ถ้าตอนนั้น กฟผ. เค้าไม่ประท้วง ป่านนี้คงเข้าตลาดไปแล้ว หุ้นก็คงตกไปอยู่กับกลุ่มนายทุนฝ่ายรัฐบาลซะแล้ว แล้วตอนนี้ละ ออกโฆษณาชวนเชื่อมาอีก แทนที่จะเปิด เวทีให้หลายๆฝ่ายมาแสดงความคิดเห็น รัฐบาลปรับปรุงองค์กรได้ครับ โดยไม่ต้องแปรรูปแต่ไม่ยอมทำ จากคุณ : satarn - [ 11 เม.ย. 47 07:21:37 A:203.151.206.82 X:218.214.57.187 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ค่อยรู้หรอกว่าการแปรรูปมันจะดีหรือไม่ดียังไง แต่เท่าที่มองดูการประท้วงแล้วสรุปได้ว่า พนักงานส่วนที่มาประท้วงคือ พนักงาน กฟผ. ที่มีมากเกินควรโละทิ้ง เพราะพวกนี้มาประท้วงยืดเยื้อ โรงไฟฟ้าก็ยังทำงานได้ตามปรกติไม่เห็นว่าไฟจะดับเลยนี่ ดังนั้น โละพวกนี้ทิ้งเหอะ เพราะไม่มีงานให้ทำจะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย จากคุณ : Julius Caesar - [ 11 เม.ย. 47 09:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มาเชียร์คุณตอสระอือครับ พยายามจะตอบคำถาม แต่อ่านที่คุณตอสระอือตอบ ตอบดีกว่าผมเยอะเลย คุณผีฯ ครับ อ่านดี ๆ ก่อนสิครับ คุณกะเพราะหมูเขาถามมา คุณตอสระอือเขาก็ตอบคำถาม ไม่ใช่บทสรุปที่คุณตือเขาคิดขึ้นมาเอง มันแค่เป็นการแย้งตามความเป็นจริง เพราะคุณกระเพราะหมูถามว่า ทำไมไม่ประท้วงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตัวเอง คุณตือก็ตอบว่า ใครจะมาประท้วงเพื่อให้ตัวเองทำงานหนักขึ้น คุณเคยอ่านข่าวที่ไหนในโลกที่พนักงานประท้วงเพื่อขอเพิ่มประสิทธิภาพตัวเองไหมครับ ถ้ามันไม่เคยมีปรากฎมาก่อนที่ไหนในโลก ทำไมถึงมาคาดหวังว่าพนักงาน กฟผ. จะต้องทำล่ะครับ เรียกร้อง และเอาแต่ใจตัวเองมากไปหรือเปล่า สำหรับเรื่องพนักงานล้นงาน เหตุผลที่พนักงานเขายกมา ผมว่าผมรับได้ เข้าใจ เพราะผมเคยรู้จักเจ้าหน้าที่ด้านระบบคอมพิวเตอร์คนหนึ่งของบริษัทเอกชน เงินเดือนสามหมื่นกว่า ผมก็เห็นเขาว่างมาก ก็ถามว่าไม่ทำงานหรือ เขาบอกว่่าถ้าระบบมันยังไม่มีปัญหา ก็ไม่มีงานอะไร ถ้ามันมีปัญหาตอนนั้นแหละถึงจะต้องทำงาน ถ้าผมไม่เคยรู้จักน้องคนนี้มาก่อน ผมคงไม่เข้าใจสิ่งที่พนักงาน กฟผ. พูด งานบางงานมันไม่ได้ทำตลอดเวลานะครับ แต่ต้องพร้อมเสมอเวลาที่ต้องการใช้ และงานพวกนี้ขนาดของงานมันก็แตกต่างกัน บางที่ต้องการแค่คนสองคนก็พอ แต่ถ้าขนาดงานมันใหญ่ มันเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ผมก็เห็นด้วยว่าต้องมีให้เพียงพอ จะเกินไปบ้างก็ยังดีกว่าขาดนะครับ จากคุณ : เสือร้อย - [ 11 เม.ย. 47 11:01:33 A:203.151.206.81 X:203.113.61.228 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จะซื้อหุ้นกฟผ.เก็บไว้เอาปันผล ดีกว่าเอาเงินออมฝากธนาคาร ขอมีส่วนเป็นเจ้าของกฟผ.ด้วยได้ไหม? จากคุณ : ขอประชาชนถือหุ้นด้วย - [ 11 เม.ย. 47 11:11:30 A:203.151.206.82 X:202.133.131.245 ]

ความคิดเห็นที่ 26 -เครื่องบินไปใหน ได้ก็เพราะกัปตันสองคน แต่ก็จำก็เป็นคนอื่นอีกลำละเป็นสิบ -รถไฟ ยาวยี่สิบกว่าตู้ จากพลขับสองคน ทำไมต้องมีคนอื่นอีก และสถานีภาคพื้นดินก็ต้องเกี่ยวกัน -ถ้าเราคิดได้อย่างนี้ คนอื่นจะได้อนิสงค์ ปัญญาจากความคิดเราด้วย แล้วทุกข์ในใจเราจะเบาบางลง จากคุณ : dsc - [ 11 เม.ย. 47 11:12:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โลกทุกวัน อยู่ในขั้น กลียุค ที่เบิกบุก เร็วรุด ถึงจุดสลาย จะสิ้นสุด มนุษยธรรม ด่ำอบาย เพราะเห็นกง จักรร้าย เป็นดอกบัว กิเสไส หัวส่ง ลงปลักกิเลส มีความแก่น แสนวิเศษ มาสุมหัว สามารถดูด ดึงกันไป ใจมืดมัว เห็นตนตัว ที่จมกาม ว่าความเจริญ มองไม่เห็น ศีลธรรม ว่าจำเป็น สำหรับอยู่ สุขเย็น ควรสรรเสริญ เกียรติ กาม กิน บิ่นบ้า ยิ่งกว่าเกิน แล้วหลงเพลิน ความบ้า ว่าศีลธรรม (พุทธทาส ภิกขุ) จากคุณ : dsc - [ 11 เม.ย. 47 11:15:22 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่าจะกลับมาอธิบายอะไรเพิ่มเติม ก็พบว่าคุณ paradyne ,คุณเสือร้อยและเพื่อนสมาชิกหลายๆท่านให้ทรรศนะได้ชัดเจนแจ่มแจ้งเลย เห็นด้วยมากๆครับ และอยากชี้แจงเพิ่มเติมกรณีที่คุณผีเพื่อนหงส์เอาคำพูดของผมมาย้ำอีกนิดหน่อย ( คำว่า "ไม่มีใครประท้วงเพื่อให้ตัวเองทำงานหนักขึ้น" ) คือผมมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของโลก มันเป็นเรื่องยากที่จะเรียกร้องให้เป็นอย่างที่เจ้าของกระทู้คิดและสงสัย เคยมีข้าราชการรวมตัวกันเพื่อประท้วงให้องค์กรของตนบริการประชาชนได้ดีขึ้นไหมครับ ? เคยมีพนักงานบริษัทใดเรียกร้องให้เพิ่มประสิทธิภาพในหน่วยงานของตนโดยการทำงานให้หนักและรับผิดชอบมากขึ้นบ้าง ? หรือเคยมีประชาชนของประเทศใดประท้วงเพื่อให้รัฐบาลเก็บภาษีและตรวจสอบบัญชีบริษัท-ห้างร้านของตนเองให้มากขึ้น-ละเอียดขึ้น เพื่อนำไปสู่ประสิทธิภาพในองค์กรของตนและประเทศชาติที่ดีขึ้นเป็นลำดับ สิ่งเหล่านี้มันเคยเกิดขึ้นไหมครับ ? ผมเชื่อว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพในองค์กรแต่ละองค์กรโดยพนักงานเองนั้นมีเป็นปรกติอยู่แล้ว แต่จะถึงขั้นให้ออกมารวมตัวประท้วงเพื่อปฏิรูปตัวเองอย่างที่เจ้าของกระทู้สงสัยนั้นมันมันเป็นเรื่องยากจริงๆ ความรับผิดชอบระดับนั้นมันควรจะเป็นของผู้กำกับดูแลที่สูงขึ้นไป ซึ่งผมประหลาดใจก็ตรงที่รัฐบาล ( และคนเล่นกระทู้แถวๆนี้หลายๆคน ) กล่าวหาว่า กฟผ. ไม่ดี-ไม่มีประสิทธิภาพแต่คุณไม่คิดแก้ไข กลับจ้องจะเอาไปปันส่วนขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ ยังไงก็ต้องทำให้ได้ใครอย่าขวาง ตายเป็นตาย ! ( แต่ตอนนี้ขอเลื่อนไปได้ไม่มีกำหนด ) เหตุผลอะไรแบบนี้ก็ยังอุตส่าห์จะมีคนเชียร์ ! จากคุณ : ตอสระอือ - [ 11 เม.ย. 47 12:19:35 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สิ่งที่ผมเห็นมาอย่างนึงคือการแปรรูปของ กสท. พ่อ แม่ พี่น้องทำอยู่ทั้งนั้น พอถามเขาๆก็บอกว่า งานหนักขึ้นเพราะต้องเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานให้มากขึ้น ซึ่งจะทำแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้วคือ เช้าชาม เย็นชาม ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นมาอย่างนั้นจริง นั่งอ่านหนังสือพิมพ์บ้าง เดินไปเดินมา วันนึงทำงานนับชั่วโมงได้ เงินเดือน 50000 UP เห็นแบบนี้แล้ว เสื่อมอ่ะ พอแปรรูป เค้าก็พยายามเอาคนที่ไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานออกไป โดยเสนอเงินให้ก้อนหนึ่งถ้าจะประสงค์จะออกเอง ถ้าไม่ออกก็ต้องทำงานให้มันคุ้มกับเงินเดือนที่ได้เป็น หมื่นๆเนี่ย คือผมสงสัยว่าที่มาประท้วงที่ไม่ให้แปรรูปเนี่ยกลัวที่จะทำงานหนักขึ้น กลัวที่จะนั่งอ่านหนังสือพิมพ์แบบเมื่อก่อนไม่ได้เหรอเพราะที่เห็นมาการทำงานของการไฟฟ้าก็ไม่ต่างอะไรกับข้าราชการต่างๆทั่วไปที่เช้าชามเย็นชามเงินเดือนก็สูง แล้วมาสร้างกระแสต่างๆนานา กระผมคิดว่าถ้ามาตราการในการควบคุมหุ้นที่ดีเนี่ย ห้ามต่างชาติหรือกลุ่มนายทุนถือหุ้นเกินเท่าไหร่ก็ว่าไป หรือไม่ต้องแปรรูปแต่ต้องเอาไอ้พวกเช้าชามเย็นชาม และก็สวัสดิการสูงๆ เนี่ยเอาออกกๆไปให้หมดหรือให้ปรับปรุงการทำงานก็คงจะดีนะ ไม่ใช่เอาเงินจากค่าไฟที่แสนแพงตอนนี้ของผม ไปจ่ายให้ไอ้พวกเช้าชามเย็นชามที่ออกมาประท้วงโว๊กว๊าก ว่าทำเพื่อชาติ จากคุณ : อยากโดนด่า - [ 11 เม.ย. 47 14:53:11 A:203.151.206.82 X:202.29.54.30 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณตอสระอือ ตอบได้ดีกว่าคนกฟผ.เสียอีก เผลอๆคนกฟผ.อาจจะไม่รู้มากเท่าคุณ แต่เชื่อว่า คุณคงมองโลกในแง่ดี และเชื่อในเป้าหมายและเจตนารมย์ของม็อบกฟผ.ที่อ้างไว้ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ตาม หากคุณลองนำข้อสังเกตของนักวิชาการที่ออกมาค้านการแปรรูปครั้งนี้ดู คุณจะพบว่า แท้จริงแล้ว เขาไม่ได้ค้านการแปรรูป แต่เขาค้านรายละเอียดของวิธีการ เช่น แปรรูปแล้วยังเอื้อกฟผ. การแข่งขันไม่เสรีจริง การกระจายหุ้นไม่เป็นธรรม ฯลฯ และก็เสนอวิธีแก้ไขปรับปรุง ทั้งนี้เพราะนักวิชาการส่วนใหญ่เขามองออกว่า กฟผ.หมักหมมปัญหาไว้มาก เกินกว่าที่จะปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ ในจำนวนนี้ ก็ยังมีนักวิชาการบางคนที่สนับสนุนการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อแบ่งเบาภาระของรัฐบาล คุณตอสระอือจะไม่ลองปรับมุมมองบ้างหรือ จากคุณ : กระป๋องนมข้นหวาน - [ 11 เม.ย. 47 15:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณเสือร้อย ครับ ซีเรียสเชียวผมก็แค่แซวเล่นหนุกๆอ่ะ แต่เท่าที่ผมเคยเห็นมันก็เป็นอย่างนั้นเยอะนะครับ พักกันตั้งแต่ 11.00 จน 13.00 ยังไม่กลับมาเข้างานเลยอ่ะ บางที 14.30 ถึง 15.00 ก็ขึ้นรถรอกลับบ้านละ (ไม่เชื่อไปดูที่บางกรวยสิ) ทีนี้พอเข้าตลาดปรับการทำงาน เวลาเริ่มงานเลิกงานมันก็ควบคุมกันมากขึ้น เวลาทำงานต่อวันมันก็มากขึ้น พนักงานที่เคยสบายก็กลัวกันบ้างเป็นธรรมดา แต่ผมก็เข้าใจนะว่าเรื่องงานมันไม่ต้องใช้กำลังคน 100% ตลอดเวลา แต่พอถึงเวลาที่ต้องใช้มันก็ขาดไม่ได้อ่ะ เหมือนเรื่องกำลังผลิตไฟฟ้านั่นล่ะ กำลังผลิตรวมเกินปกติไว้ก่อนเพื่อ ความปลอดภัยของระบบ เพราะหากกำลังผลิตไม่พอแม้แต่ KW เดียว ระบบก็พินาศ ส่วนทางการเมืองก็เห็นๆอยู่ เจตนาแอบแฝง ไม่กำหนดกรอบให้ชัดแต่แรก ไม่งั้นเขาก็คงไม่ประท้วงกันมากมายขนาดนี้ แต่ก็คิดไม่ออกอยู่ดีว่า เข้าตลาดแล้วมันจะดีขึ้นยังไง จากคุณ : ผีเพื่อนหงส์ - [ 11 เม.ย. 47 15:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แปรรูปดีกว่าครับ แต่ว่ารูปแบบควรปรับปรุงและต้องโปร่งใสกว่านี้ จากคุณ : หนึ่งเสียง - [ 11 เม.ย. 47 15:42:09 A:203.151.206.82 X:210.86.202.18 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คนรู้จักเป็นพนง.กฟผ บอกว่า ตึกอล์ฟทั้งวันก็ไม่มีใครว่า เพื่อนเราอยู่ห้องค้าหลักทรัพย์บอกมี พนง.กฟผ.รูดบัตรเข้างานเสร็จก็มาห้องค้าเย็นๆก็กลับไปรูดบัตร ได้ยินว่าบางคน รูดบัตรเสร็จก็ไปเปิดร้านขายกาแฟ ร้านขายของชำ แล้วจะแปรรูปไปทำไม จากคุณ : ก้อยกุ้ง (ก้อยกุ้ง) - [ 11 เม.ย. 47 15:46:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ความเห็นที่ 33 กฟผ. ไม่มีการ รูดบัตร นะครับ มีแต่การเซ็นต์ชื่อ ถ้ารูดบัตรคงไม่ใช่แล้วล่ะ ตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลด้วยนะครับ ใกล้จะสงกรานต์แล้ว สาดน้ำใสๆ กันดีกว่า...... จากคุณ : paradyne - [ 11 เม.ย. 47 16:08:41 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ 1. ครอบครัวหนึ่ง ที่บ้านมีคนมาขายสินค้าชนิด ถูกกว่าท้องตลาด เรารับซื้อไว้ ต่อมาตำรวจมาที่บ้านจับข้อหารับซื้อของโจร ถ้าว่าเราผิดไม่ที่รู้ ตามกม.ก็ต้องผิด จะอ้างว่าไม่รู้กม.ไม่ได้ ใช่ไหม กลับมา กรณีกฟผ. รู้ๆอยู่มีการกระทำไม่ถูกต้อง แต่ม๊อบทำเฉยๆ ทำได้อย่างไร ทำไมไม่ปกป้องผลประโยชน์ส่วนนี้ของคนไทย 2.เคยมีข้าราชการรวมตัวกันเพื่อประท้วงให้องค์กรของตนบริการประชาชนได้ดีขึ้นไหมครับ ? เคยมีพนักงานบริษัทใดเรียกร้องให้เพิ่มประสิทธิภาพในหน่วยงานของตนโดยการทำงานให้หนักและรับผิดชอบมากขึ้นบ้าง ? เคยมีข้าราชการ ใดประท้วงไม่รับการเปลี่ยนแปลง ไม่มีเหมือนกัน รัฐบาลกี่รัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ข้าราชการไม่เคยมีการประท้วงไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงๆ เหมือนกฟผ. อย่างมากก็แต่งชุดดำประท้วง เท่านั้น 3. พนักงานในองค์รู้ๆ อยู่มีการกระทำไม่ถูกต้องแต่นิ่งเฉย แต่พอมีผลกระทบจากรัฐบาล ก็จะต่อต้านรัฐ ไม่ยอมยอมรับ อ้างว่าต่อต้านเพื่อชาติ คิดได้อย่างไรกัน ศีลธรรม จริยธรรมในองค์กรหายไหนหมด 4. ครอบครัวมีพี่หรือน้องเป็นตำรวจ ถ้าคนในครอบครัวทำผิด ตำรวจต้องจับทุกคน ไม่มีการละเว้น แล้วม๊อบกฟผ. ละ ทำอะไรบ้างเพื่อปกป้องความถูกต้องไว้ เพื่อชาติ จากที่อ่านมาหลายกระทู้ รู้สึกแปลกใจกับจริยธรรม คุณธรรมการทำงานของม๊อบจริงๆ จึงอยากให้องค์การที่เป็นกลาง เข้าไปตรวจสอบ กฟผ. จริงๆ ผมเชื่อว่าจะได้เห็นรายการ หมกเม็ด อีกเยอะๆ และนี้คงจะเป็นสาเหตุ ที่ไม่ต้องการการตรวจสอบจากภาคประชาชน ชาวบ้านๆ ในตลาดหลักทรัพย์ จึงต้องต่อต้านอยู่เรื่องเดียว จากคุณ : ล้อเล่นนะ - [ 11 เม.ย. 47 16:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ประท้วงกันเป็นเดือนแล้วงานการไม่ทำกันหรือไง แต่มาประท้วงกัน 500-1000 คนก็ไม่เห็นมีผลกระทบอะไรเลยนี่ สงสัยคนกฟผ.เรียกตรงนี้ว่าประสิทธิภาพละมั้ง จากคุณ : มด - [ 11 เม.ย. 47 16:57:43 A:203.151.206.81 X:203.155.9.133 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คนการไฟฟ้าเห็นแก่ประเทศเถอะครับหยุดประท้วงเสียที คุณต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงองค์กรใหม่ เท่าที่ทราบมาองค์กรคุณมีปัญหาโดยเฉพาะความไม่โปร่งใสในการดำเนินงาน การซื้อของและการเรียกค่าคอมมิทชัน การโกงกินในหน่วยงาน การทำงานไม่คุ้มค่ากับเงินเดือน ขนาดประท้วงงานส่วนใหญ่ยังดำเนินได้ ในทุกยุคสมัยคนภายนอกจะเข้าไปตรวจสอบก็ทำไม่ได้ใช้กำลังอำนาจด้านการไฟฟ้ามาขู่คนอื่น ผมคิดว่าการไฟฟ้งต้องมีการเปลี่ยนแปลง แนวทางการแปรรูปของรัฐบาล ผมคิดว่าดีนะ การทำงานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการบริหารงานสมัยใหม่ตามแนวทางธุรกิจ คนทำงานไม่ดีเอาออก เอาเฉพาะคนที่มีประสิทธิภาพ มีการตรวจสอบการทำงานจากหลายระบบ เช่น จากตลาดหลักทรัพย์,และประชาชน จะทำให้มีความโปร่งใสในการทำงานมากขึ้น จะเป็นผลดีต่อการลงทุนในด้านการผลิตพลังงานในอนาคตเนื่องจากต้องใช้เงินมาก ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาทในอีก ๑๐ ปี แทนที่รัฐบาลต้องมาลงทุนเองหรือค้ำประกัน เอาเงินส่วนนี้ไปลงทุนด้านอื่นดีกว่าเช่น การสร้างระบบขนส่งมวลชน , การสร้างถนนหนทาง,การกระตุ้นเศรษฐกิจ ในเรื่องราคาค่าไฟฟ้าเป็นเรื่องของราคาเชื้อเพิงและการบริหารงาน ถ้าแปรรูปแล้ว ค่าการบริหารงานจะลดลงจากความโปร่งใสในการทำงานที่มีมากขึ้น แต่รัฐบาลถือหุ้นถึง ๗๐ เปอร์เซ็นอยู่แล้ว ในการกำหนดค้าไฟ ย่อมจะเหมือนเดิมอยู่แล้ว แถมคณะกรรมการที่ดูแลค่าไฟที่เป็นกลางอีก ผมว่าเผลอๆค้าไฟจะลดลงกว่าปัจจุบันด้วยซ้ำ แต่ที่รัฐบาลจะต้องกระทำเพื่อสร้างความเชื้อมั่นคือความโปร่งใสในการกระจายหุ้น ไม่ให้นักการเมืองและคนใกล้ชิดได้รับประโยชน์จากส่วนนี้ และเร่งการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจในหลักการ ไม่ใช้ว่าเป็นการขายสมบัติชาติ ไม่ใช้ว่าไม่พอใจในรัฐบาลก็โจมตีโครงการ คุณไปดูทุกประเทศได้เลย การแปรรูปกิจการของรัฐถ้าทำได้เป็นเป้าประสงค์ของทุกประเทศ ผมไม่อยากแนวความคิดดีๆนี่ต้องสูญสลายไป เห็นใจประเทศเถอะคนการไฟฟ้า จากคุณ : แสง - [ 11 เม.ย. 47 21:51:03 A:203.151.206.81 X:203.107.204.124 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณทุกความเห็นครับ น่าจะลงเอยเป็นคำถามได้ว่า ทำอย่างไร พวกเราๆจะทำให้ การไฟฟ้า เป็นการไฟฟ้าที่คนไทยภูมิใจ และ มีประสิทธิภาพที่สุด (คุณๆคงไม่ปฏิเสธนะว่าตอนนี้ มีประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว) จากคุณ : กระเพราหมู - [ 11 เม.ย. 47 22:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เปรรูปแล้ว ดีครับ ในแง่ของ กฟผ. (ซึ่งถือเป็นบริษัท)มีการระดมทุนสร้างโรงไฟฟ้าได้ พนักงาน ที่ไม่กลัวงานหนัก ก็สบาย เงินเพิ่ม งานเพิ่มน่ะไม่กลัวอยู่แล้วนะครับ แต่ในแง่ความมั่นคงของกระแสไฟฟ้า ราคา ก็ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาล ว่าสามารถควบคุม บริษัทได้จริง หรือไม่ หรือ สุจริต 100% หรือปล่าว ประชาชน ก็แล้วแต่บุญแต่กรรม ก็แล้วกัน ที่จริง ค่าไฟแพงก็ดีนะ จะได้ใช้กันประหยัดหน่อย ทุกวันนี้ฟุ่มเฟือยกันซะจริงเลย เพราะถือว่ามีเงินจ่าย แต่คนจน ช่วยไม่ได้นะ ที่อาจจะไม่มีไฟใช้ หึ หึ จากคุณ : ritman - [ 12 เม.ย. 47 09:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คุณผีฯครับ ผมยอมรับว่าจริงจังครับ เพราะหลัง ๆ มาเริ่มมีกระทู้ที่เบี่ยงเบนประเด็นไปที่การโจมตีม็อบอีกแล้ว ผมว่ามันไม่ใช่ประเด็นใหญ่ เพราะทุกคนต่างเห็นตรงกันว่า จะแปรรูปหรือไม่แปรรูป องค์กร กฟผ. ต้องเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ว่าถ้าไม่แปรรูป แล้ว กฟผ. จะอยู่แบบเดิม ๆ ได้ ทางม็อบเองเขาก็เปิดกว้างพร้อมให้เข้าไปปฏิรูปองค์กรอยู่ แปรรูปแล้ว คนทำงานก็คนเดิม ถ้ารัฐบาลไม่มีความตั้งใจจะแ้ก้ไขเรื่องนี้จริง ๆ แปรรูปแล้ว มันก็แก้ไขไม่ได้ แต่ถ้าตั้งใจจะแก้ไขจริง ๆ ไม่แปรรูปมันก็แก้ไขได้ ผมคิดเห็นประมาณนี้ เลยไม่อยากให้ใช้ประเด็นนี้มาสนับสนุนการแปรรูปครับ มาถึงวันนี้ ผมก็ไม่มีคำตอบสำเร็จรูปแล้วนะว่าจะแปรรูปหรือไม่แปรรูป แต่ผมเห็นว่าการที่ม็อบออกมาประท้วงนั้นมีประโยชน์มากกว่าโทษ เพราะไม่เช่นนั้น การแปรรูปที่ไม่โปร่งใสคงดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ตอนนี้ถ้าม็อบสลายตัว ผมก็เห็นว่าดี เพราะเป็นการลดกระแสต่อต้านจากประชาชน แต่ถ้ายังคงประท้วงอยู่ก็ดี เพื่อให้หนังสือพิมพ์ยังสนใจตามข่าวจนถึงการทำประชาพิจารณ์ในเดือนหน้า ถ้าสื่อไม่สนใจเรื่องนี้ เดี๋ยวรัฐบาลงุบงิบทำเหมือนเรื่องบ่อนล่ะก็ มันคงเป็นฟางเส้นสุดท้ายแล้วล่ะครับ จากคุณ : เสือร้อย - [ 12 เม.ย. 47 11:17:47 A:203.151.206.82 X:203.113.61.230 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ช่วงนี้เห็นเหมือนกันว่าหลายๆความคิด (ไม่ใช่แค่ที่พันทิบ) มักจะโจมตีแต่เรื่องม๊อบ ซึ่งจริงๆควรจะตัดเรื่องความไม่พอใจส่วนตัวต่อม๊อบ ต่อคน กฟภ ออก บ้าง แล้วมู่งไปคุยกันที่ประเด็น แปรรูป หรือ ไม่แปร มีผลดีผลเสียแตกต่างกันอย่างไรมากกว่า ถ้าไม่แปรรูปเข้าตลาดหุ้น เพื่อระดมเงินทุน แล้วมีทางออกอื่นนอกจากนี้ไหม หรือถ้าต้องแปรรูปจริงๆทำอย่างไรให้การกระจายหุ้นโปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งจิงๆปัญหาทุกอย่างมันมีทางออก ทางแก้ได้หลายทางไม่ใช่ว่ามีแค่ 1 หรือ 2 ทางเลือก แต่ขณะนี้โดยส่วนตัวเห็นว่ารัฐบาลยังไม่มีเหตุผลที่ดีพอในการเร่งแปรรูป การไฟฟ้า 1.ทำไมถึงเร่งรีบ(ในตอนแรกๆที่ บอกตายเป็นตาย)มากขนาดนั้น 2.ไม่เห็นมีแนวทางที่ชัดเจนเลยว่าแปรรูปแล้ว จะปรุบปรุงประสิทธิภาพการทำงานของการไฟฟ้าให้ดีขึ้นอย่างไร, มีแนวทางในการ Re-Organization เป็นไปในทิศทางไหน ลดคน? ลดต้นทุน? อย่างไร? ซึ่งคำตอบพวกนี้ก็คงยังตอบกันยาก แล้วมันก็ไม่ได้พิสูจน์ด้วยว่าเป็น บริษัทมหาชนแล้วจะทำให้สิ่งเหล่านี้ดีขึ้น มันอยู่ที่การบริหารจัดการ อยู่ที่คนระดับบริหารจัดการ ซึ่งรัฐบาลก็ยังเป็นผู้แต่งตั้งเหมือนเดิมนี่ ไม่ใช่เป็นบริษัทมหาชนแล้วอะไรๆจะดีขึ้นหมด หลายๆบริษัทไม่เป็นอย่างนั้นนะ ถ้าบริหารจัดการไม่ดีก็เจ๊งเหมือนกันนะ การตัดสินเรื่องใหญ่โดยมองแค่เรื่องกลุ่มคนไม่กี่พันคนว่าเค้ามีภาพพจน์ที่ไม่ดี เค้าเอาเปรียบเรา อย่างเดียวคงไม่ได้ มันต้องมองถึงผลประโยชน์โดยรวมด้วย เชื่อว่าหลายๆองค์กรของรัฐมันก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น จะเป็นมากเป็นน้อยเท่านั้นเอง เพียงแต่ที่นี่ออกมาประท้วงเรื่องประเด็นร้อนเท่านั้น ข่าวปล่อยจากอีกฝ่ายมันเลยเยอะหน่อย ลององค์กรอื่นๆออกมาทำกันบ้างแล้วเป็นฝ่ายตรงข้ามกันก็จะลงเอยแบบเดียวแหละ เพราะงั้นมองกันที่ประเด็นผลประโยชน์ชาติและปชชเถอะ ปล.เบื่อที่รัฐบาลช่วงนี้เอาแต่โหมโฆษณาในทุกๆสื่อ ซึ่งมุ่งเน้นแต่ชักจูงคนดูคนฟัง ควรเปิดเวทีวิจารณ์กันอย่างเสรีและทั่วถึงดีกว่า อย่างนี้มันดูเหมือนใช้อำนาจชิงความได้เปรียบนะ จากคุณ : just pass - [ 12 เม.ย. 47 16:56:50 A:203.151.206.82 X:10.1.255.93, 210.4.158.199 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ข้อมูลต่างๆ ของทั้ง กฟภ และ รัฐบาลจัดทำมานั้น เป็นอย่างไรไรใครรู้บ้าง มีแต่ กฟภ เท่านั้นที่มีข้อมูลจริง แต่ก่อนจะโต้เถียงกันไปมากกว่านี้ ต่างความคิดต่างมีแนวทาง คาดว่าทุกท่านต่างทำงานในรูปสถานที่แตกต่างกัน ทั้งเอกชน ทั้งราชการ ทั้งรัฐวิสาหกิจ จุดมุ่งหมายของบริษัทเอกชนคืออะไร คนบริษัทเอกชน ช่วยตอบหน่อย เท่าที่ผมรับรู้ก้อคือ เป้าของการขาย และกำไรหลังการขาย การบริการก้อเป็นส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่มาก่อนก้อคือเป้าหรือยอดขาย และกำไร ถ้าบริษัทใดเปิดมาและทำไม่ได้ ก็ต้องปิดตัวไป จริงหรือไม่ก้อขอให้คิดกัน และขอถามต่อภาษีนั้นยอมจ่ายกันตรงๆดีๆกันหรือไม่ ไปคิดกัน คุ้นๆว่าเคยอ่านข่าวนึง เจอว่ามีคนๆหนึ่ง ก่อนได้รับตำแหน่งอันสูงสุด ของประเทศหนึ่ง ก้อตกเปนข่าวเกี่ยวกับการโกงภาษี แต่สุดท้ายก้อกลายเปน ผิดพลาดโดยสุจริต ฮ่ะๆ สำหรับคนข้าราชการเล่า เป้าหมายก้อคือ พัฒนาประเทศ อันนี้ไม่ต้องสงสัย ประเทศกว้างใหญ่ ก้อค่อยๆทำกันไป แต่เฮ้อ คนเยอะเขาต้องการความรวดเร็ว เลยต้องมีการ ปฏิรูปราชการ นั้นเปนแนวทางที่ดี แต่บางคนกลับสอดไส้ ปฏิรูปให้พรรคพวกซะนี่ เฮ้อ แย่จัง สำหรับรัฐวิสาหกิจ แบ่งหลายส่วน เน้นการบริการและ ตอบสนองสาธารณูปโภคต่างๆของประชาชน ได้เงินเยอะ รูรั่วเงินมันเยอะ ถ้าทุกคนหมั่นไส้ ไหงไม่ใช้โอกาสนี้ ปฏิรูปซะ ไม่ใช่แปรรูป อย่าใช้อารมณ์หมั่นไส้มาตัดสิน ไม่มีใครตอบได้จนกว่าจะรู้ ข้อมูลจริงจาก กฟภ ว่าภาวการณ์จริงตอนนี้เป็นอย่างไร แต่ ลองคิดว่า กฟภ กล้าให้หรือในเมื่อ บุคคลที่ได้รับตำแหน่งสูงสุดอันหมกเหม็ดนั้น กำลังจ้องฟันอยู่ เฮ้อ ลองคิดดูนะว่าตอนนี้มีสื่อไหนกล้าด่า ฝ่ายของบุคคลที่ได้รับตำแหน่งอันสูงสุดนั้นบ้าง ขืนด่าไปบริษัทตูปิดแหง็ม ฮ่ะๆ บริษัทเอกชนก้อแบบนี้ สุดท้ายขอเพียงมองกันง่ายๆ ทุกๆปี กฟภ จะมีเงินเข้ารัฐ เปนจำนวนมาก รวมทั้งเงินภาษีด้วยที่ feedback กลับมา ทำให้รัฐสามารถใช้เงินนั้นไปดำเนินการในส่วนอื่นได้ แต่ถ้า กฟภ และรัฐวิสาหกิจอื่นๆ โดนแปรรูปเมื่อไหร่ เงินกลับคืนจะมีมาหรือไม่ คำตอบคือไม่ อิๆ ผู้ถือหุ้นเขาเอาไปแบ่งกัน ถามง่ายๆในการซื้อขายหุ้น คนทั้งประเทศมีสิทธิ์มั๊ย ถ้ารู้อยู่แก่ใจคือ อาจจะมีสิทธิ์ แต่ไม่ทุกคน ถ้ามีเงินก้อคงลงไปเล่นได้ แต่ถ้าไม่มีก้อได้แต่มองเขาเล่นต่อไป ฮ่ะๆ ส่วนเงินภาษีที่ กฟภ คืนให้รัฐนั้น ถามจริงๆ ถ้าเขายังเปนรัฐวิสาหกิจอยู่จะกล้าโกงมั๊ย แต่ถ้าเปนเอกชน ฮิๆ บุคคลที่ได้รับตำแหน่งสูงสุดนั้นยังเคยทำ นับประสาอะไร กับงานแบบนี้ หวานหมูๆ นับถือๆ ยุทธการโกงชาติแบบมือเดียวบังฟ้า ได้แต่หวังว่าและอธิฐาน ขอให้ฟ้าเมตตาปวงชนชาวไทย ให้ได้คงอยู่กันต่อไปนานเท่านาน จากคุณ : มือเดียวบังฟ้า - [ วันเถลิงศก (15) 16:41:33 A:203.152.30.42 X: ]