ความคิดเห็นที่ 105
ก็คงไม่มีพระอะไร...นอกจาก...หลวงพ่อจริง...
หรือ "สิ่งที่เห็นจริงแล้ว".....(ในสายตาผม).....หรือเพื่อนๆอีกหลายๆคน
ไม่คิดโจมตีหรือด่าว่า...แต่เราอยากหาเหตุผลแห่งความแปลก....ทำไมถึงแปลก
ตามสโลแกน คิดใหม่ทำใหม่ ซึ่งความหมายก็คือ
"คิดแปลกทำแปลก" ตามคำนิยามจากพจนนุกรมว่า
แปลก ( ว.) แตกต่างจากที่เคยคิด,เคยรู้,เคยเห็น...เป็นต้น
เช่น..แปลกตา,แปลกใจ, ต่าง, เพี้ยนไป, ผิดปรกติ
ก็คงมีแค่นี้ครับ...อีกอย่างตำราซุนหวู่ของอากู๋แกมม่า บอกว่า...ให้เข้าตีตอนข้าศึกง่วง ผมจับยามสามตาแล้วรู้ว่า บอลยูโร จะทำให้เพื่อนๆหลายๆคนหูตาฟ้าฟางไปบ้าง
คงอยากเชียร์เบคแฮ่ม มากกว่าใครบางคน ดังนั้นการนำเสนอกระทู้นี้ก็หวังตีไก่ง่วงครับ
ที่นับว่า...แปลก...เพราะโดน kill ไปสองครั้งแต่ไม่ตาย
เชื้อไวรัส ไข้หวัดนก เลยกลายเป็นหวัดไก่ แต่จะตาย"ยกเล้า"หรือเปล่า ข่าวยังไม่ยืนยันครับ
เพราะความแปลกตรง"เชื้อ" ที่ไม่ทราบจะตรวจ ดีเอ็นเอ ยังไงนี่แหละ ( """"H5N10Z2004abNormal""" ) ทางสัตว์แพทย์บอกว่า อหิวาต์ แต่แพทย์ศิริราชบอกว่า "หวัดนก"
แต่ชาวบ้านเรียกหวัดไก่ เลยงงกันยกใหญ่ มันหวัดใครกันแน่ บางข่าวก็บอกหวัดนกไปติดหมู หวัดหนูไปติดเสี่ย หวัดเมียไปติดชู้ หวัดอากู๋ก็ไปติดอาเพ้ง คนเฮงก็พวกส่งไก่ออกไปขายเมืองนอก (ข่าวว่างั้น)
เรื่องของเรื่องอาจเป็นเพราะสัตว์แพทย์ดูแต่อาการ "ขี้ขาว ท้องร่วง หน้าดำ เหนียงดำ"เท่านั้น
แต่ความเชี่ยวชาญของแพทย์ศิริราชระดับ"อาจารย์หมอ" ท่านบอกว่า ถ้าตายเร็วภายใน 24-48 ชั่วโมง แบบนี้ไม่เรียกอหิวาต์ เรียกหวัดนก แถมแย้บเบาๆว่า"อย่าตรวจแต่ขี้ ให้ดูอัตราการตายเป็นตัวบ่งชี้ด้วย"
ด้วยเหตุนี้ "ปุ๋ยขี้ไก่" กลายเป็นของต้องห้ามของชาวสวนไปนานหลายเดือน กระเทือนไปหมดทั้งหมู่บ้าน
มันก็แปลกเหมือนกันว่า แล็บเมืองไทยได้ชื่อว่าเก่งที่สุดแห่งหนึ่งในแหลมทอง แต่ต้องรอรับผลการตรวจจากฮ่องกง...( ภายหลังได้รับคำยืนยันว่าเครื่องมือเราดี แถมมีอาจารย์จากจุฬาฯมาช่วยดู แต่วันดีคืนดี อจ.จากจุฬาฯก็เกิดอาการไบ้รับประทาน เพราะงานนี้ทางมหาวิทยาลัยบอกว่า....ไปไม่ลามาไม่ไหว้ สร้างความหวั่นไหวให้ประชาชน โดนข้อหาทางวินัย แถมถูกประนามจากชาวเขาว่า...เด็กเลี้ยงแกะ ...พวกเรามาดูเด็กเลี้ยงแกะ....น่าสงสารอาจารย์ ต้องหยิบหนังสือ UNSEEN THAILAND ขึ้นมาดู...เป็นรูปพระขี่ม้าบิณฑบาต....อาจโดนโทษวินัยหรือเปล่าข่าวไม่ได้ตาม )
เถียงกันไปมาไม่จบอยู่นาน ไก่ก็ตายไปเรื่อยๆ
หน่วยเฝ้าระวังโรคซาร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศถูกดึงขึ้นมาแสดงบทบาท เฝ้าเตือนระวังไข้หวัดนก จาก ต้นเดือน พฤศจิกายน ลงข่าวประชาชาติมาเรื่อยๆ เฉื่อยๆ
ในที่สุดก็มีคนไปชี้ว่ามาจาก "ขี้นกหนีหนาว" มาลงที่บึงบรเพ็ด....เอาละซีคราวนี้ นกป่ากลายเป็นสัตว์ต้องห้ามเป็นที่น่ารังเกียจ ใครมีนกสวยงาม ใครมีสัตว์ปีก ก็แอบเก็บคลุมผ้า กลัวว่าเจ้าหน้าที่ เทศกิจของ กทม.จะมาเจอ
เกิดโกลาหลกับนกพิราบสนามหลวง-วัดสุทัศน์ นกแพงๆในสวนสัตว์ก็กระเทือน ดีว่าไม่มีใครคิดทำ"ผ้าปิดปากนก" สำหรับกันเชื้อหวัด ไม่งั้นจะเป็นข่าวแปลก...แปล็ก...แปลกหนักขึ้นอีก
ความสับสนของคนกลัวหวัดกลายมาเป็นประเด็นลากยาวมาถึงเรื่อง"ไก่ชน" จนต้องเดินขบวนไปที่กระทรวงเกษตร เป็นเหตุให้ แอ้ด คาราบาวจับมือเดิมฯยาวๆกับรมต.สมศักดิ์ ท้าชนไก่ได้อีก หนึ่งไฟท์
จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะฝังชิพในไก่ หรือจะฝังชิพให้เจ้าของไก่ดี
นกฉัตรชัย..กล่าวเสียงละห้อยว่าติดหวัดจากนก นกสินจัยก็โยนบาปใหญ่ให้โลกใบน้อยว่าติดหวัดจากนก นี่ก็แปลกเหมือนกันว่า นกชายกับนกหญิง ใครกันแน่ที่แพร่ "หวัดนก"
ผู้สัดทัดกรณีกระซิบเบาๆว่า นกชายได้เชื้อมาจากนกชายแดน (แต่แฟนๆแย้งเบาๆว่า...ไอ้บ้าเด็กเลี้ยงแกะ...)
เนื่องจากความแปลกแต่จริงเรื่อง "หวัดนก" หรือ "หวัดขี้นก" ทำความโกลาหลอีกหลายเรื่องจนมี"บันทึกแปลก " แยกประเด็นแปลกดูไม่จืดอีกหลายกระแส
แต่ที่แน่ผล ผลพวงจากไข้หวัดนกทำให้ต้องทำลายแม่ไก่ไข่ไปหลายล้านตัว
ข่าวผู้จัดการจึงลงว่า
ไข่นายกทักษิณทำเอาแม่บ้านร้องลั่น ปั่นราคาใบละ 3.30
นับเป็นบันทึกแปลกว่า "ไข่เศรษฐี" ยังไงก็ได้ราคาดีกว่า"ไข่ลูกชาวบ้าน"
นับเป็นผลงานแปลกแบบใส่สีตีไข่...ยกให้เป็นแปลก...แต่จริงบ้างไม่จริงบ้างตามลีลา...
ถ้าไม่โดนว่า...ก็แปลก...
จากคุณ :
can
- [
18 มิ.ย. 47 12:20:49
A:203.156.15.82 X:
]
|
|
|