ความคิดเห็นที่ 1 คิดถึงข้อดี เดาว่าเราน่าจะได้ดูรายการหลากหลายมากขึ้น ข้อเสียอาจจะคุณภาพแย่ลง??? ยังไม่เห็นค่ะ ก็เลยตัดสินใจไม่ได้ จากคุณ : คุณนายฟู - [ 28 มิ.ย. 47 17:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อืม.... ถ้ามันแตกเป็นช่องย่อยๆได้หลายช่องจริงๆ ผมว่ามันคงเหมือนUBCแน่ๆเลย คือแยกกลุ่มผู้ชมรายการได้อย่างเป็นเอกเทศ ซึ่งที่ผมคิดไว้ก็มี ช่องกีฬา ช่องภาพยนตร์ ช่องการ์ตูนรายการเด็ก ช่องสารคดี ช่องคุยรายงานข่าว ช่องรายการโปรโมตเพลงแยกต่างหากจากช่องบันเทิงเต็มตัว แต่ประโยชน์จะไปอยู่ที่ไหนมากที่สุดนี่ ผมขอเวลาไปศึกษาจากข่าวที่ชัดเจนกว่านี้ก่อนครับ เชื่อว่ารัฐจะต้องมีการเรียกเก็บค่าสัมปทานการแตกช่องย่อยเป็นจำนวนหลายร้อยล้านบาทเหมือนกัน จากคุณ : วัฏสีร์ ธรรมจารี (spiralhead) - [ 28 มิ.ย. 47 18:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อมูลทั่วไป -กรมประชาสัมพันธ์ ดำเนินการแพร่ภาพออกอากาศเพิ่มเติมจากช่อง 11 เป็นช่อง 11/1 (11 News1) เป็นรายการข่าวผ่านดาวเทียม 24 ชั่วโมง และช่อง 11/2 เป็นรายการกีฬาผ่านดาวเทียม 24 ชั่วโมง และมีแผนจะแตกคลื่นที่มีอยู่ออกอากาศทางดาวเทียมเพิ่มขึ้นจนถึงช่อง 11/8 - นายไตรภพ ลิมปพัทธ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าทางเทคนิค สถานีโทรทัศน์ ไอทีวี สามารถเพิ่มได้ 4 ช่อง เพราะไอทีวีส่งสัญญาณด้วยระบบดิจิตอล ทางเทคนิคจึงสามารถแตกคลื่นสัญญาณได้ -แหล่งข่าวระดับสูง ของช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ระบุ ช่อง 9 สามารถแบ่งช่องสัญญาณได้ทันทีเช่นกัน เพราะมีระบบเทคโนโลยีพร้อมแล้ว เพียงแต่รอเวลาที่จะต้องแปรรูปให้แล้วเสร็จก่อน จากคุณ : ตกขอบ - [ 28 มิ.ย. 47 19:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วช่อง3 ช่อง5 และช่อง7ละ ถ้าพวกนี้ทำได้อีกละคงมันส์แน่ๆ.... จากคุณ : วัฏสีร์ ธรรมจารี (spiralhead) - [ 28 มิ.ย. 47 19:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คิดว่าน่าจะเป็นการได้ประโยชน์ร่วมกันระหว่างทางสถานี กับคนดู เพราะการแตกช่อง ย่อมทำให้มีรายการเฉพาะมากขึ้น หลายหลายขึ้น จากคุณ : Darth Zomo - [ 28 มิ.ย. 47 19:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อืมม์..ฟัง ๆ คุณ ๆ ข้างบนพูด..มันมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย..แล้วพวกที่ออกมาค้าน ๆ มันคือพวกเสียผลประโยชน์ใช่มั้ย.. จากคุณ : นายเบื่อ - [ 28 มิ.ย. 47 22:20:53 A:203.113.50.15 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก็ดีหลายคนมีงานเพิ่ม...เด็กๆจบใหม่ๆได้ทำงานเพื่อจะได้เป็นคนที่มีศักยภาพที่ดีขึ้น.....คนเก่าๆก็ต้องแอ็คทีพตัวเองมากขึ้น.....ทุกช่องมีการแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย.....วงการทีวีเกิดปรากฏการแปลกใหม่มากขึ้น....ละครจะมีช่องละคร....หนังก็จะมีช่องหนัง.....สารคดีก็มีช่องสารคดี....ข่าวก็มีช่องข่าว.......กีฬาก็มีช่องกีฬา........เด็กๆมีรายการโปรดของตัวเอง.....แม่บ้านมีรายการโปรดของเธอ....นักธุรกิจมีช่องที่โปรดปราน.......ทุกอย่างแบ่งแยกได้หลายคนมีโลกส่วนตัวมากขึ้น ทุกบ้านต้องเพิ่มโทรทัศน์อีก.....เพิ่มค่าไฟด้วย....อาจเกิดการแบ่งแยกและการทะเลาะกันขึ้นในการแย่งกันดูในแต่ละช่อง.......คงต้องกลับไปคิดก่อนว่าทุกอย่างควรจะลงตัวที่ไหน.....หรือท่านคิดกันอย่างไร จากคุณ : daxter - [ 29 มิ.ย. 47 00:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จะเอาในแง่ นิเทศน์ศาสตร์ ล้วนๆ ไหมละ เพราะเขาพูดกันถึงเรื่องนี้กันมานานแล้ว เด็กนิเทศน์คงรู้ แต่ทว่ามันก็แค่อุดมคติ ที่เป็นไปไม่ได้........ ไม่พูดดีก่า จากคุณ : มือสุดใหม่ - [ 29 มิ.ย. 47 01:13:12 A:unknown X:202.28.181.7 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อมูลไม่มากพอ ยังไม่ขอตัดสินใจครับ มันขึ้นอยู่กับว่าสื่อนั้นแยกออกไปแล้วนำเสนอ , รูปแบบรายการเป็นอย่างไรมากกว่า ถ้าแยกออกไปเพียงเพื่อให้มีเวลาไปขายโฆษณาสร้างรายได้ให้มากขึ้นจากรายการซ้ำๆซากๆมอมเมาประชาชน นอกจากประโยชน์จะตกอยู่กับคนเฉพาะกลุ่มแล้ว โทษก็ยังตกอยู่กับคนส่วนใหญ่ด้วยซ้ำไปครับ จากคุณ : ตอสระอือ - [ 29 มิ.ย. 47 02:12:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอโหวตว่ายังไม่ทราบข้อ้มูลมากพอ นะคะขอหาข้อมูลให้มากกว่านี้ก่อน ดังนั้นท่านผู้รู้กรุณาให้ข้อมูล ข้อดีข้อเสียด้วยคะ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 47 07:03:23 จากคุณ : R O S - [ 29 มิ.ย. 47 07:01:21 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ทุกช่องเป็นแบบดิจิตอลแล้ว เพียงแต่ยังไม่เริ่มส่งแบบดิจิตอล เพราะเครื่องรับโทรทัศน์ของคนดูของแต่ละบ้านเรายังใช้ระบบอนาลอก หากออกอากาศเป็นดิจิตอล ก็จะทำให้จำนวนคนดูโทรทัศน์ของสถานีที่ออกอากาศลดลงอย่างมาก ไม่มีใครกล้าเสี่ยงกับเรตติ้งที่ลดลง คนดูลดลง เพราะจะทำให้ค่าโฆษณาที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ลดลงด้วย CH 11 ยังไงแล้วก็ต้องเสียค่าเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมก็เพิ่มช่องเข้าไปใช้สัญญาณดาวเทียม เพื่อกระจายสัญญาณออกมา ไม่เสียอะไร แต่ได้จำนวนช่องเพิ่ม ได้เวลาเพิ่ม อาจจะได้รายได้เพิ่มด้วย แต่จำนวนคนที่จะดู 11 ทับ ... ก็น้อยมากๆ เพราะกลุ่มคนที่มีดาวเทียม กลุ่มคนที่ดู เคเบิ้ลที่ดึงสัญญาณจากดาวเทียม มีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับ จำนวนคนที่ดูโทรทัศน์ทั้งประเทศ การเริ่มต้นครั้งนี้ มันจะคุ้มหรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าคิด ช่อง ที่มีคนดูเยอะๆ คงไม่ต้องการเสียแชมป์ กับ รองแชมป์ เรตติ้งรายการโทรทัศน์ เพราะ หากขยายช่องมากขึ้น จะทำให้การกระจายของคนดูโทรทัศน์จะมากขึ้น เมื่อเกิดการกระจายมากขึ้น จะทำให้ เรตติ้งการดูโทรทัศน์ ลดลง ซึ่งปัจจุบันก็ลดลงอยู่แล้ว เนื่องจาก ดาวเทียม เคเบิ้ลทีวี TTV1-3 รวมทั้งการปรับเปลี่ยนผังของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ก็ทำให้เฉลี่ยจำนวนคนดูออกไปมากแล้ว จำนวนคนดูโทรทัศน์ลดลง ทำให้อัตราการใช้เงินให้กับการโฆษณาทางโทรทัศน์ เริ่มเป็นตัวเลขที่แพงในสายตา Agency และ เจ้าของสินค้า การนำเม็ดเงินเข้ามาลงโฆษณาในสื่อนี้ ก็เลยจะเริ่มลดน้อยถอยลง ทำให้รายได้ของช่องแชมป์ และ รองแชมป์ ลดลงอย่างมากเช่นกัน ต่อไป คนทำธุรกิจทางด้านนี้ต้องแข่งขันสูงขึ้น เพื่อดึงคนที่มีอยู่จำกัด เข้ามาดูสถานีของตน แต่ ประชาชนที่ดูรายการโทรทัศน์ จะมีทางเลือกได้มากขึ้น เลือกดูในสิ่งที่อยากดูมากขึ้น เท่าที่รู้สึกได้ อาจจะมีโปรแกรมที่ดึงดูดเพศตรงข้ามมากขึ้น สังคมอาจจะยิ่งเสื่อมลง ก็เป็นไปได้ พ่อแม่ผู้ปกครองก็อาจจะต้องหนักใจมากยิ่งขึ้น พฤติกรรมของคนในชาติ ขึ้นกับสื่อ ว่าสื่อสารออกมาแบบใด จากคุณ : wbj - [ 29 มิ.ย. 47 10:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เหมือนกันนั่นแหละ มีช่องเดียว หรือ หลายช่อง และ แต่ละช่อง ปรัชญา ในการดำเนินงาน มันเหมือนกัน หลายช่องมันก็ไม่แตกต่าง ลองให้มีสักช่องรึ สองช่องซิ ให้มีการเข้ามาสัมปทาน ทำรายการเด็ก หรือ สังคม หรือ ความรู้แขนงต่างๆ แล้วรัฐอุดหนุน หรือ มีส่วนลดทางภาษีสำหรับผู้จัด ส่วนการคัดเลือกก็ในรูปคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒด้านต่างๆ ลองมีแบบนี้สักช่องสิครับ จากคุณ : โต - [ 29 มิ.ย. 47 12:10:52 A:202.133.154.103 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 อืม ถ้าเน้นความหลากหลาย ก็น่าสนใจครับ ถ้าแบบเวลานี้ ข่าวทุกช่อง เวลานี้ ละครทุกช่อง แบบนี้หลายช่องก็เฉย ๆ (แต่ปกติก็กดรีโมทเหนื่อยละ ในบางวัน) จากคุณ : อยากรู้อยากเห็น - [ 29 มิ.ย. 47 19:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทีวีมีกช่องเป็นเรื่องดีครับ แต่ไม่ใช่มีแบบนี้ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าการได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่นั่นเรื่องนึง การขอใบอนุญาตประกอบการโทรทัศน์นั่นอีกเรื่องนึง ที่ช่อง11ใช้คลื่นนั้น ถือว่าถูกต้อง แต่การที่ กปส. เพิ่มช่องทีวีเอง นั่นระเมิดพรบ.จัดสรรฯครับ มาตรา80 "...แต่ในระหว่างนั้น จะพิจารณาจัดสรรคลื่นความถี่ ออกในอนุญาตประกอบกิจการ หรืออนุญาตให้ประกอบกิจการเพิ่มเติมไม่ได้" การที่ช่อง11/1 ที่ไม่เคยมีอยู่ แล้วจู่ๆเกิดมีขึ้นมา ถือว่าประกอบกิจการเพิ่มเติมหรือไม่...คิดกันเอาเองครับ การมีทีวีหลายช่องฃพวกต่อต้านธุรกิจกลัวว่าจะโฆษณากันเปรม...ไม่น่าจริงครับ เพราะคนดูจะกระจัดกระจายเป็นเล็กๆน้อยๆ ซื้อมีเดียยาก เรียกว่า Fragmented ใช้เจาะกลุ่มดีหรือพอได้ แต่ไม่ได้ Mass โฆษณาจะไม่มี Impact แต่รายเล็กๆก็มีสิทธิ์ขึ้นจอ ถ้าช่องทีวีแบบฟรีมีมาก คนดูแต่ละช่องจะน้ออยลง รายได้โฆษณาของแต่ละช่องก็น่าจะน้อยลงด้วย รายการที่นำเสนอจะมีงบน้อยลง คุณภาพก็คงตกลง ที่สุดทางออกของช่องทีวีคือการซื้อรายการจากตปท. ประเทศจะขาดดุลการค้า ขาดดุลทางวัฒนธรรม แต่นานๆไป ตลาดจะเกิดเชคอัพ มีการล้มละลาย ถึงตอนนั้น...ทีวีรายใหญ่จากนอกจะเข้ามาครอบครอง ภาพจะไม่แย่นัก ถ้าเรายอมให้มีช่องมากๆทางเคเบิล มีฟรีทีวีพอสมควร ทีวีทางเลือกก็จะเป็นพวกชุมชนและสาธารณะประโยชน์ มีนักวิชาการเพรียกหาที่วีแบบUBC ก็ช่างเขา แต่พวกใจแคบไม่ได้เพียงอยากมีBBC แต่อยากทำลายละครแม่บ้าน(เขาเรียกน้ำเน่า) การจะมีทีวีหลายๆช่องนั้นดี...ถือว่าเสรีก็ได้ แต่เสรีต้องเป็นธรรมด้วย...เสรีแบฉวยได้ฉวยเอา ไม่เป็นธรรม ผิดรัฐธรรมนูญ ม. 50 และ 87 จากคุณ : X-CU (X-CU) - [ 29 มิ.ย. 47 22:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ทายาทศรีธนญชัย จากคุณ : ไก่อ่อน - [ 29 มิ.ย. 47 23:53:03 A:203.113.57.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 โูนามสกุลคนถือหุ้นก็แล้วกัน พอโดนจับได้ก็๋ลาออก ลาออกแต่ตำแหน่งผลประโยชน์ก็ยังได้เหมือนเดิม จากคุณ : Big Zhow (Big Zhow) - [ 30 มิ.ย. 47 05:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ข้อมูลไม่มากพอก็สรุปอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าวิธีแบ่งเป็นอย่างไร จากคุณ : pyark (pyark) - [ 1 ก.ค. 47 01:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ดิจิตอลทีวี ใช้หลักการแบ่งความถี่ ก็เหมือนกับมือถือหรือระบบอื่นที่เปลี้ยนเป็นดิจิตอลหมด เพราะระบบอนาล็อคก็เหมือนเวลาคนเราพูดนี่แหละครับ อย่างเราพูดคำหนึ่ง จะมีคลื่นเสียงหลายๆคลื่นมารวมกัน อธิบายแบบง่ายอย่าง ช่อง11 ที่ใช้ความถี่ช่วง 174-181 MHZ เวลาส่งสัญญาณในช่วงเวลาหนึ่งมันจำเป็นต้องใช้ช่วงความถี่เต็ม คือเต็มในช่วง 174 - 181 แต่ระบบดิจิตอลใช้แปลงตัวเลขเป้นเลขฐาน 2 ยกตัวอย่างชเลข 7 นึกภาพเป็นเส้นตรงสูงขึ้นไป 7 แต่ถ้าแปลงเป้น ฐาน 2 จะได้ 111 นึกภาพเส้นตรงสูงแค่ 1 แต่ยาวแนวนอนไป 3 ช่อง ซึ่งตรงนี้จะสามารถประหยัดแบนวิธได้ครับ ประหยัดช่วงความสูง แต่ส่งเร็วขึ้นทางแนวนอนก็ไม่มีปัญหา พยายามอธิบายไม่ใช้ศัพท์เทคนิคนะครับ ซึ่งดูรูปครับ ขออภัยถ้าวาดแย่ เมื่อเราประหยัดช่วง ความถี่ได้ เราก็จะสามารถเพิ่มสัญญาณ และใช้เทคนิคการมัลติเพลก ส่งสัญญาณรวมกันออกไปได้ ภายในช่วงสัญญาณเดิม เพราะงั้นถ้าสัมปทานที่ทำกับรัฐ ระบุว่าแค่ เช่าช่วงสัญญาณ ช่วงนี้ ถึงนี้ เมื่อใช้ระบบดิจิตอลก็ยังใช้ความถี่เดิม ก็ไม่น่าผิดอะไร นอกเสียจากระบุในสัญญาชัดเจนว่าขอเปิดสถาณีเพียงสถาณีเดียวไม่มีช่องย่อยแค่นั้นละครับ ซึ่งปกติธรรมดาผมว่าน่าจะเป้นเช่าช่องความถี่มากกว่า อ้อสำหรับทีวีธรรมดานั้นรับดิจิตอลตรงๆไม่ได้ครับเพราะต้องมีการแยกช่องสัญญาณก่อน ส่วนคนที่รับดาวเทียมอันนั้นเค้ามีตัวแยกสัญญาณในตัวรับ แต่อีกหน่อยทีวีระบบดิจิตอลก็คงเป้นที่นิยม ส่วนเรื่องอื่นๆทางธุรกิจ มีดีก็มีเสียคือมีรายการดีเพิ่มรายการแย่เพิ่ม เพียงแต่ต้อง บังคับตัวเอง ไม่ไปดูรายการที่มอมเมาก็พอ ถ้าเราเลือกความคุมตัวเอง บุตรหลานได้ก็ไม่มีปัญหา คนทำฟรีทีวีนั้นอาจจะต้องเหนื่อยขึ้น คนมีทางเลือกเยอะค่าแอร์ไทได้น้อยลงแน่ แต่บางทีอาจเป็นผลดีต่อเอยนซี่เพราะ อาจจะเลือกโฆษณาได้ตรงกลุ่มขึ้น ถ้าคนจัดรายการมีกึ๋นพอทำรายได้แข่งกับ ubc ได้สบายครับ จากคุณ : 3N - [ 1 ก.ค. 47 20:28:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อะ รูปโพสไม่ได้เหรอ ลงไปเจอกระทู้นี่พอดี อึ้ง!!!!!!!!!!! พันทิพย์ แบน ห้ามโพสรูปเนื่องมาจากกรณีตั๊ก [กระทู้นอกเรื่อง] กำเวร แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 47 20:31:16 จากคุณ : 3N - [ 1 ก.ค. 47 20:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นเรื่องดีนะ เพราะผู้จัดรายการจะมีอำนาจต่อรองมากขึ้น เพราะมีช่องให้ลงมากขึ้น ปัจจุบัน เจ้าของสถานีเหมือนพระเจ้า แทบจะกราบกรานกันเลยนะ จากคุณ : BossmaN - [ 2 ก.ค. 47 03:01:55 A:61.90.38.187 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 3N ครับ เข้าใจว่าขอคลื่น ขอกับไปรษณีย์(เมื่อก่อน) ขอทำทีวี...ไม่ใช่ แต่ตามพรบ.องค์กรจัดสรร เข้าใจว่าจะทำทีวีต้องขอประกอบกิจการครับ ขอใช้คลื่น กับขอทำทีวี คนละใบอนุญาตกัน ยังไงๆ ก็ผิดครับ จากคุณ : X-CU (X-CU) - [ 3 ก.ค. 47 12:26:09 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ข้อมูลไม่เพียงพอ ปกติดูทีวีนี่ก็ดูข่าวอย่างเดียว เวลาที่เหลืออยู่หน้าจอ pantip อ่ะ จากคุณ : สะใจโรคจิต - [ 4 ก.ค. 47 12:26:41 ]