ความคิดเห็นที่ 1
ตามกลิ่นเงินพันล้าน 'เอกยุทธ' ตั้งวงแชร์ล้มทักษิณ! เนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 638 วันที่ 23 - 29 ส.ค. 2547
กลิ่นชาเขียวโชยฟุ้งทั่วห้องสนทนาเล็กๆ ภายในโรงแรมห้าดาวย่านชานเมือง ขณะที่นักข่าวกลุ่มหนึ่ง ล้อมวงซักถามอย่างเอาจริงเอาจัง นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ แววตาคมประกาย ซึ่งมักขยับเลนส์แว่นกรอบสีเข้มบ่อยครั้ง เมื่อต้องใช้ความคิด สะท้อนถึงตัวตนการเป็นนักวางแผนที่ไม่รีบร้อนตัดสินใจ และไม่จำเป็นต้องตอบทุกคำถามที่นักข่าวอยากรู้
เอกยุทธ อัญชันบุตร ชื่อนี้ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเขาพร้อมคณะเดินทางเข้าไปพบแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในวันแรกๆ แทบไม่มีนักข่าวคนไหนสนใจการมาเยือนพรรคการเมืองเก่าแก่ของเขา
แต่คล้อยหลังจากนั้นแค่ 3-4 วัน มีข่าวพาดหัว 'เอกยุทธทุ่มพันล้าน หนุน ปชป.' ถึงตอนนี้ ทุกโต๊ะกองบรรณาธิการสั่งให้นักข่าวสนาม ตามล่าตัวเขากันให้จ้าละหวั่น
พร้อมกับคำถามว่า 'เอกยุทธ' เป็นใคร? ร่ำรวยมาจากไหน?
วันต่อมา ปูมประวัติเขาก็ถูกตีแผ่ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ ว่าเป็นอดีตเจ้าพ่อแชร์ชาร์เตอร์ ที่ร้อนแรงในยุค 'แชร์แม่ชม้อย' และ 'แชร์แม่นกแก้ว'
ปัจจุบัน เอกยุทธ อัญชันบุตร คือประธานกรรมการบริหาร บริษัทเครือโอเรียนเต็ลมาร์ท กรุ๊ป ประเทศอังกฤษ
ภาพในอดีต นักธุรกิจผู้สร้างตำนานคนหนุ่มวัย 29 ปี มีอิทธิฤทธิ์หมุนเงินได้ถึงพันกว่าล้านคนนี้ ไม่ธรรมดาแน่นอน แม้ชาติตระกูลของเขาจะเป็นแค่ชนชั้นกลาง บิดาชื่อ ร.ต.แปลก อัญชันบุตร เป็นทหารคนสนิทจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ แต่จากประสบการณ์ในช่วงเรียนบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัย แปซิฟิก สหรัฐอเมริกา ก็ทำให้เขากลับมาทำงานที่บริษัท แฮลเบอรี่ อินเตอร์เนชั่นแนล คอมมอดิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจเก็งกำไร 'ตั๋วทอง' ที่รู้จักกันดีในหมู่พ่อค้าชาวจีน ระหว่างปี 2520-2523
การเติบโตของธุรกิจคอมอดิตี้นั้น ควบคู่ไปกับ 'ธุรกิจเงินนอกระบบ' ขณะที่ธุรกิจการเงินการลงทุนในระบบกลับย่ำแย่ เพราะโครงสร้างทางการเมืองตกอยู่ในมือ 'กลุ่มทหาร'
หลังจากนายทหารหนุ่ม 'กลุ่มยังเติร์ก' ที่มี พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร, พ.อ.มนูญ รูปขจร ฯลฯ (ตำแหน่งและยศขณะนั้น) ก่อการยึดอำนาจหนุน พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และในเวลาต่อมา กลุ่มยังเติร์กบีบให้ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ลาออก พร้อมกับหนุน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีราวต้นปี 2523
พล.อ.เกรียงศักดิ์ จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกตั้งพรรคการเมืองชื่อ 'ชาติประชาธิปไตย' โดยตัวอดีตนายกฯ เกรียงศักดิ์ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และนำทีมเข้าสู่สนามเลือกตั้งทั่วไปปี 2526
ในช่วงเวลานี้เองที่ 'เอกยุทธ' ได้รับการช่วยเหลือจาก ประยูร สุรนิวงศ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคชาติประชาธิปไตย ซึ่งนำไปสู่การตั้งบริษัท ชาร์เตอร์ อินเตอร์เรคชั่น และจากคอนเนคชั่นนี้ทำให้ชายหนุ่มได้รู้จักกับนักการเมือง, อดีตนายพลนอกราชการที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง และนายทหารอีกหลายคน
แต่ธุรกิจแชร์ชาร์เตอร์ยังขยายตัวไปไม่ทันไร รัฐบาลพล.อ.เปรมโดยกระทรวงการคลัง ได้ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เพื่อจัดการกับกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในลักษณะผิดกฎหมายการค้าเงินข้ามชาติ
"บริษัท ผมตั้งก่อนกฎหมายตัวนี้จะออกมา ผมรับเงินจากประชาชนในนามบริษัทชาร์เตอร์ฯ จากนั้นเอาไปฝากธนาคารใหญ่แห่งหนึ่ง โดยขอให้ออกหนังสือการันตี หรือหนังสือรับรองให้ เช่นเงินต้นจำนวน 100 ล้านบาท ทำแบบนี้ได้ถึง 10-20 ครั้ง ทำให้ผมมีเงินในระบบจำนวนไม่ต่ำกว่า 7-8 พันล้านบาท ได้ผลต่างดอกเบี้ยสูงถึง 9 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเงินต้น 100 ล้านบาท ทำเงินได้มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์"
เขายังยืนยันว่า แชร์ชาร์เตอร์แตกต่างจากแชร์แม่ชม้อยหรือแชร์แม่นกแก้ว หลังจากมีสื่อหลายฉบับได้ขุดคุ้ยเรื่องแชร์ชาร์เตอร์ขึ้นมาอีกครั้งในชั่วโมงนี้
0 0 0
เมื่อธุรกิจของเอกยุทธและพวกถูกกระทำ เขาจึงฟ้องรัฐบาลพล.อ.เปรม และตามมาด้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมในความพยายามก่อการรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อ 9 กันยายน 2528 โดยการนำของ พ.อ.มนูญ รูปขจร ซึ่งช่วงนั้นลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ หลังจากการยึดอำนาจ 1-3 เมษายน 2524 ล้มเหลว
การยึดอำนาจ 9 กันยา หรือที่เรียกกันว่า 'กบฏนัดแล้วไม่มา' เพราะมาแค่ พล.อ.เกรียงศักดิ์ อดีตนายกฯ คนเดียว
"ผมอยู่ในช่วงปฏิวัติ เรียกว่าเป็นกบฏกับเขาด้วย เราลิงค์กับทหาร ก็ต้องรู้จักกัน เพราะเราทำธุรกิจสมัยก่อน ก็ทำกับทหารมาก่อนทั้งนั้น"
เมื่อก่อการไม่สำเร็จ ก็ต้องเผ่นหนีไปคนละทิศละทาง เอกยุทธเดินทางออกจากเมืองไทยไปปักหลักทำมาหากินอยู่ที่อังกฤษ และใช้เวลามากกว่า 20 ปี ต่อสู้คดีแชร์ชาร์เตอร์ฯ กระทั่งศาลตัดสินให้ล้มละลายในปี 2539
"ผมถูกฟ้องล้มละลาย ในข้อหาไม่ยอมจ่ายเงิน 1,000 ล้านบาท ตอนนั้นปี 2527 เงินในธนาคารแหลมทอง ธนาคารกรุงเทพ เขาบอกผมว่าไม่มีเหลือสักบาทเดียว แบงก์ที่ฝากไว้ เขาบอกว่าผมไม่มีบัญชีกับเขา เพื่อนที่โทรไปหา ก็แกล้งไม่ได้ยินสายเรา เพื่อนคนไทยผมไม่คบอีกเลย ผมเลยเดินทางไปเยอรมันก่อน จากนั้นก็ถึงได้เดินทางไปอังกฤษ ไปสร้างเนื้อ สร้างตัว ได้ดีเพราะได้เพื่อนต่างชาติที่นั่น"
ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เอกยุทธเริ่มสร้างฐานะ โดยเริ่มต้นจากการเข้าไปเทคโอเวอร์ห้างสรรพสินค้า ทำธุรกิจขายปลีก (retail) ในต่างแดนได้สำเร็จ จากความช่วยเหลือของเพื่อนชาวญี่ปุ่นในตอนนั้น
"ผมต้องเข้าไปประมูลแข่งกับฝรั่ง เป็น 10 ราย ตอนนั้นมีแต่คนงง ว่าคนไทยหัวดำนี่มาจากไหน ถึงประมูลชนะได้ ความจริงผมก็ได้เพื่อนนักธุรกิจ คนญี่ปุ่นเขาช่วยให้เงินกู้ แลกกับการที่ยอมให้สินค้าของเขาได้วางขายบนสโตร์ ซึ่งผมก็ยินดี ถือว่าผมโชคดีมาก"
อาณาจักรของเขาวันนี้ ยังขยายไปไกลถึง 2-3 สาขา พร้อมสยายปีกเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (property) รวมถึงภัตตาคาร 'กำทอง' ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยมีชื่อที่เกาะอังกฤษ
"วันนี้ธุรกิจของผมอย่าให้ตีเป็นเงินไทยเลย เพราะเงินบาทไทย มันอ่อนกว่าเงินปอนด์ตั้ง 75 เท่า(1 ปอนด์ : 74.55 บาท) เอาเป็นว่า วันนี้ผมมีมี่ดินในอังกฤษ 20 เอคอร์ ที่ดินส่วนอื่นๆ รวมกันอีกกว่า 170,000 หมื่นตารางฟุต เป็นเงินไทยเท่าไหร่ ต้องไปคิดเอาเองว่ามันน่าจะถึงพันล้านจริงหรือเปล่า ที่สำคัญผมไม่ได้ร่ำรวยจากการทำสัมปทานด้วย"
นอกจากนี้ เขายังบอกด้วยว่า ด้วยความเป็นคนมีเพื่อนมาก อีกทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทของลูกชายมหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เข้านอกออกในประเทศได้สบาย
เอกยุทธจึงวนเวียนลงทุนอยู่แถวสิงคโปร์ มาเลเซีย รวมทั้งในตลาดหุ้นไทย ในช่วงหลายปีมานี้ จนเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ George Tan
เอกยุทธอธิบายว่าปมลึกๆ ที่ต้องออกมาชนกับ 'ทักษิณ' วันนี้ เพราะความคับแค้นของนักธุรกิจไทย และคนไทยในต่างแดน โดยก่อนหน้านี้ได้ติดตามการทำงานของรัฐบาลมาตลอด พอเริ่มเข้าปีที่ 2 เริ่มเห็นอาการผิดปกติในตลาดหุ้น ก็รู้ว่ารัฐบาลเริ่มมีพฤติกรรมไม่โปร่งใส น่าจะต้องมีการทำอะไรซ่อนอยู่
"ใครอยู่ข้างในก็อาจไม่รู้ แต่มองข้างนอกจะเห็นชัดมาก ว่าต่างประเทศเขาพูดกันมากเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของบ้านเรา นักธุรกิจไทย มีเยอะมากที่ไม่ชอบเขา ไม่ต้องแปลกใจหรอก ที่ผมจะได้เงินลงขันมาเป็นพันล้าน"
0 0 0
การปรากฏตัวของเอกยุทธที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ครั้งแรกของการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีเป้าหมายชน 'ทักษิณ' สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นักวิชาการที่เคยพบกับเขา พร้อมกับนักวิชาการ,เอ็นจีโอ และผู้นำองค์กรประชาชน ได้เล่าถึงเส้นทางการแสวงหา 'แนวร่วม' กับกลุ่มบุคคลต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง
และหนึ่งในนั้นคือ การเข้า พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีตประธาน ส.ว.(พ.อ.มนูญ แกนนำยังเติร์กในอดีต) เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการจัดตั้ง 'พรรคประชาธรรม' ซึ่งอ่านตามแผนที่การเมืองฉบับย่อของเอกยุทธ ก็พอจะรู้ว่าปลายทางของการเดินเกมนั้นอยู่ที่ไหน?
แต่ถึงกระนั้น ผู้คนก็ยังกังขาในบทบาทของเขา จึงมีคำถามมากมายที่ผุดขึ้นในใจ มิเพียงแต่คนทำสื่อกลุ่มหนึ่งที่นั่งสนทนากับเขาในคืนวันฟ้าหม่นฝนกระหน่ำเท่านั้น
เขาเป็นแค่ 'นักสร้างภาพ' หรือ 'ชูวิทย์ 2' ปั่นราคาค่าตัวหรือไม่นั้น..สังคมการเมืองเปิดอย่างนี้ อดีตเจ้าพ่อแชร์ชาร์เตอร์ ปกปิดตัวตนแท้จริงไม่ได้แน่นอน!
หมายเหตุ : อ่านเรื่อง 'นักเปิดโปงการเมืองรายใหม่' ในคอลัมน์ 'คลื่นสังคม' ของ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หน้า 29
จากคุณ :
จ้าวยุทธจักร
- [
8 ก.ย. 47 17:42:29
]
|
|
|