PANTIP.COM : P3014769 ทักษิณเอาอีกแล้ว>>>>>> พิมพ์ผิด 12 ล้านล้านบาท ...>>>>>> ยกเป็นเรื่อง!!! >>>>>หาเรื่องอัด นายสุเมธ [การเมือง]

ความคิดเห็นที่ 4

เอาให้อ่านอีกครั้ง

14/9/2547

เปิดผลวิจัยโกงปีละ12ล้านล้าน

"ในหลวงทรงเตือนเบาๆ ก่อนเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมว่า หากทุจริตมากบ้านเมืองจะไปไม่รอด ฟังแล้วก็ยังไม่มีอะไร จนกระทั่งเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม รับสั่งอีกครั้งและตั้งแต่ถวายงานพระองค์ท่านมา ไม่เคยตรัสอะไรที่รุนแรงอย่างนี้ ท่านบอกว่าหยาบคายแต่ขอพูดหน่อย ท่านบอกว่าหากใครสุจริตขอให้มีอายุยืนเป็นร้อยๆ ปี แต่ถ้าใครทุจริตก็ขอให้มีอันเป็นไป" ดร.สุเมธกล่าว

ดร.สุเมธกล่าวว่า มีตัวเลขที่สำคัญอีกตัวหนึ่ง คือผลวิจัยของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ที่ระบุว่าผลเสียหายที่เกิดจากการคอร์รัปชั่นโครงการใหญ่ มีถึง 12 ล้านล้านบาทต่อปี เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ที่เป็นรูปธรรม ที่สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยได้รับความเสียหาย จากการคอร์รัปชั่นตลอดเวลา และนับวันจะเลวร้ายมากขึ้น คำถามคือว่า จะทำอย่างไรซึ่งมีความจำเป็นต้องรวมตัวกันในทุกกลุ่ม ทุกระดับ ไม่ใช่ให้แค่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ประกาศยึดทรัพย์อย่างเดียว ถือว่าเป็นการลงโทษปลายทาง หากเริ่มต้นตั้งแต่เยาวชน จะถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

**เห็นทัศนคติเยาวชนแล้วตกใจ

ดร.สุเมธกล่าวว่า ในรายงานดัชนีชี้วัดความโปร่งใสระหว่างประเทศ ปี 2546 ประเทศไทยได้คะแนน 3.3 จาก 10 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 70 จาก 133 ประเทศ ขณะที่ประเทศสิงคโปร์ได้ 9.4 คะแนนอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก มาเลเซียได้ 5.2 คะแนนอยู่ในอันดับที่ 37 จีน 3.4 อยู่ในอันดับที่ 66 ฟิลิปปินส์ 2.5 อยู่ในอันดับที่ 92 ขณะที่อินโดนีเซีย ได้ 1.9 อยู่ในอันดับที่ 112 และประเทศไทยอยู่ในอันดับนี้ตั้งแต่ปี 2544 ถือว่าพยายามรักษาเสถียรภาพของการคอร์รัปชั่น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างมาก

ดร.สุเมธกล่าวว่า ในดัชนีที่สองเป็นการสำรวจทัศนคติของเยาวชน ต่อปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น จาก 38 โรงเรียน เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก เพราะแม้กระทั่งความรู้สึกของเยาวชนกว่า 34 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าการคอร์รัปชั่นเป็นวัฒนธรรมที่ไม่อาจแก้ไขได้ และ 45 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าการให้เงินสินบนแก่ราชการไม่ใช่เรื่องเสียหาย ร้อยละ 51 เชื่อว่าโกงได้แต่ต้องมีผลงานออกมาบ้าง

"ดูจากตัวเลขแล้วเป็นเรื่องที่น่าวิตกและเศร้าใจมาก เพราะเยาวชนของประเทศปัจจุบันมองปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องปกติ ต้องแก้ไขจุดแรกจากการศึกษา เพราะปัจจุบันการศึกษาของไทยสอนด้านความรู้เพียงอย่างเดียว ลอกเลียนค่านิยมการศึกษาแบบผรั่ง คือเรียนจบ มุ่งแต่จะหางานให้ได้เงินมาก โดยไม่คำนึงถึงจริยธรรม คุณธรรมความถูกต้องของเงินที่ได้มา เหมือนการสอนให้ฉลาด แต่โกงเก่ง ทางแก้คือครูอาจารย์ต้องสอนในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมดีสอดแทรกให้มากขึ้น" ดร.สุเมธกล่าว

**แฉคอร์รัปชั่นวันนี้เชิงสูงเร่งปราบ

ดร.สุเมธกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ผ่านมาของไทย จะเห็นได้จากข้อเรียกร้องและแก้ไขผ่านทาง ป.ป.ช.และ ปปง.เหมือนการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะปัจจุบันองค์กรอิสระที่ว่านี้แก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง ยังมีคดีที่ร้องเรียนอีกหลายพันเรื่องที่ค้างอยู่ที่องค์กรอิสระเหล่านี้ แต่ติดปัญหาที่การตีความของกฎหมายของผู้ใช้กฎหมาย จนต้องประชุมของสมาชิกวุฒิสภาที่อยากจะขอปรับเปลี่ยนข้อกฎหมายให้เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา ความจริงแล้วบางข้อสมควรจะปรับ แต่ปัญหาหลักๆ คงอยู่ที่การบังคับใช้มากกว่าเพราะคนที่ตีความกฎหมายไม่รู้ว่าได้ศึกษาเพื่อที่จะใช้ให้เกิดประโยชน์จริงๆ แค่ไหน

ดร.สุเมธกล่าวว่า ระบบต่างๆ ของสังคมไทยต้องทำงานที่สัมพันธ์กัน ได้แก่ระบบการเมือง ระบบข้าราชการและระบบธุรกิจ โดยต้องมีประชาชนเป็นศูนย์กลางของทั้ง 3 ระบบ ไม่อยากจะโทษปัญหาคอร์รัปชั่นเกิดจากระบบดังกล่าว แต่สาเหตุคงเกิดจากคนเลวๆ ในระบบนั้นมากกว่า อย่างการประกาศสงครามปราบคอร์รัปชั่นของรัฐบาลถือเป็นเรื่องที่ดี แต่จะแก้ไขได้แค่ไหนต้องอยู่ที่ระบบทั้งสาม หากไม่ร่วมมือกันแก้ไขปัญหากันแล้ว นโยบายที่ประกาศขึ้นคงไม่เป็นผล

"เพราะปัจจุบันปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ได้เหมือนกับแต่ก่อน อย่างรับสินบนเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ฮั้วประมูล และอีกหลายอย่าง แต่ปัจจุบันเป็นการคอร์รัปชั่นระดับเชิงสูง คอร์รัปชั่นเชิงนโยบายของรัฐ ซึ่งมาจากโครงสร้างทางการเมือง ผู้กำหนดนโยบายที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นปัญหาการทุจริตที่รุนแรง ที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน" ประธานมูลนิธิเมืองไทยใสสะอาดกล่าว

**เตือนรู้เท่าทันไม่ใช่เลียนแบบ

ดร.สุเมธกล่าวว่า คนสมัยนี้เรียนจบแล้วก็หาเงินอย่างเดียว แต่ไม่รู้จักรับผิดชอบสังคม ไม่มีจริยธรรม สถาบันการศึกษาก็ไม่ได้สั่งสอนเรื่องนี้ วัฒนธรรมที่ดีงาม เช่น การไหว้ ความมีสัมมาคารวะ นักศึกษาไม่รู้จักไหว้อาจารย์หรือรุ่นพี่ คนรุ่นใหม่ไหว้ไม่เป็น การแต่งตัวก็รับเอาวัฒนธรรมฝรั่งเข้ามา แต่งตัวเปิดสะดือ การจะรับวัฒนธรรมของคนอื่นเข้ามา ต้องปรับปรุงขัดเกลาให้สอดคล้องกับตัวเอง ในหลวงทรงรับสั่งว่า จำไว้นะจะทำอะไรก็ตาม ให้ยึดสองคำคือ ภูมิ และสังคม ภูมิสังคมคือภูมิประเทศให้รู้จักสิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ ลม ไฟ ให้ดีเสียก่อน ไม่ใช่รับวัฒนธรรมต่างชาติมาใช้อย่างฟุ่มเฟือย เวย์ ออฟ ไลฟ์ ของสหรัฐ ไม่จำเป็นต้องนำเป็น ไทย เวย์ ออฟ ไลฟ์ ไม่ใช่ว่าเอะอะอะไรก็โลกาภิวัตน์ ทั้งๆ ที่โลกาภิวัตน์ เป็นแค่ปรากฏการณ์จะตามหรือไม่ก็ได้

"เราจะต้องใช้ดุลพินิจในการจะตามหรือไม่ตามอะไร เป็นเรื่องของเรา อย่าเป็นเหมือนขนนกที่ปลิวไปตามกระแสลมพัด บ้านเมืองเราจะเอาอย่างอเมริกามาใช้ไม่ได้ อย่าปฏิเสธที่จะเรียนรู้ จะต้องเรียนรู้ทันโลก ในหลวงรับสั่งให้รู้เท่ากัน เราต้องเรียนรู้โลก ไม่ใช่เลียนแบบโลก อะไรควรเก็บควรทิ้งต้องแยกแยะให้ดี " ดร.สุเมธกล่าว

15/9/2547

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณสั่งการในที่ประชุมให้ ครม.ไปตรวจสอบข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่น ที่นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในฐานะประธานมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด ยกมากล่าวระหว่างการปาฐกถาพิเศษในงานรัฐศาสตร์สนทนาเรื่อง บ้านเมืองใสสะอาด ต้องกำราบคอร์รัปชั่น เพราะมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาดอยู่กับ ก.พ. เพื่อเป็นการรับลูกแล้วนำไปสานต่อในการประกาศสงครามกับการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาลในวันที่ 1 ตุลาคม โดยตนจะขอข้อมูลจากนายสุเมธ เพื่อจะได้ทราบว่าข้อมูลที่นำมากล่าวมาจากที่ไหน จากมูลนิธิ จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) หรือแต่งเอง ซึ่งหากเป็นเรื่องจริงก็คุ้มที่จะปราบปราม

"ผมจะได้ไปหาข้อมูลจากมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด ซึ่งทำงานอยู่กับ ก.พ. และผมก็ดูแล ก.พ. แต่ผมก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน เมื่อมีข่าวออกมาจึงเกิดความสนใจ แม้ว่านายกฯจะไม่สั่ง ผมก็ต้องสนใจอยู่แล้ว เพราะต้องการทราบว่าตัวเลขดังกล่าวมาจากไหน มาจาก ป.ป.ช. หรือมูลนิธิ หรือว่าแต่งเอง ให้ไปดูที่มาที่ไป และนายกฯก็ขอให้จัดเตรียมข้อมูลให้นายกฯเพื่อนำไปใช้ประกาศสงครามกับทุจริตคอร์รัปชั่นด้วย" นายวิษณุกล่าว

นายสุเมธ ตันติเวชกุล ชี้แจงที่มาตัวเลขที่นำไปกล่าวในงานปาฐกถาพิเศษ ที่ระบุ ผลวิจัยของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย พบผลเสียหายที่เกิดจากการคอร์รัปชั่นโครงการใหญ่มีถึง 12 ล้านล้านบาทต่อปีนั้น เป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นในช่วง 16 ปีก่อนคือระหว่างปี 2530-2545 ซึ่งเป็นข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยได้รับความเสียหายจากการคอร์รัปชั่นตลอดเวลา

จากคุณ : โง้มฟ้า - [ 15 ก.ย. 47 15:56:39 ]