| สมควร (36 คน) |
| ไม่สมควร (15 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 51 คน |
ในประเด็นที่ได้รับประโยชน์อย่างน่าเคลือบแคลงสงสัยในระหว่างที่ท่านนายกดำรงตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาล อาทิ..
๑/ การได้สนามกอล์ฟอัลไพน์มิการาม แม้กฤษฎีกาตีความว่าเป็นที่"ธรณีสงฆ์" แต่รัฐบาลอ้างว่า ไม่จำเป็นต้องฟังก็ได้
ชาวบ้านสงสัยว่า "งั้นส่งตีความหาพระแสงอะไร" กับ "เพราะมิได้ตีความเข้าข้างตัวเองใช่หรือไม่"
๒/ การซุกหุ้นไว้กับขบวนการคนใช้ แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในประเด็นไม่รู้ไม่เห็นของนายก แต่มิได้หมายความว่า ความไม่ชอบมาพากลของการถือครองโดยตบตามหาชนจะหมดไป
ผลประโยชน์จากการถือครองแบบปกปิด ฉ้อฉลนี้ ก่อให้เกิดผลประโยชน์แก่ครอบครัวจำนวนมหาศาล เงินที่ได้มาโดยมิชอบนี้สมควรทวงคืนหรือไม่
๓/ การซื้อที่ดินจำนวน ๓๓ ไร่ของคุณหญิงจากกรมบังคับคดีท่ามกลางข้อครหาว่า ใช้อำนาจล้วงข้อมูลภายใน และแทรกแซงการประกวดราคา ใช้อำนาจของสามีกีดกันคู่แข่งขัน
๔/ การซุกโพยในห้องสอบของลูกชายแต่จบการศึกษาในภาคการศึกษาถัดมาได้อย่างไร
๕/ การได้งานแบบน่าเคลือบแคลงของฮาวคัมในโครงการรถไฟฟ้า และงานประกวดมีสยูนิเวิร์สทั้งๆ ที่ไม่เคยมีผลงานปรากฏทั้งในระดับประเทศและระดับชาติ มีความโปร่งใสหรือไม่?
๖/ การเข้าศึกษาและย้ายคณะของลูกสาวคนกลางทำอย่างถูกต้องตามกฎและระเบียบของมหาวิทยาลัยหรือไม่
๗/ การฉกข้อสอบเอ็นท์ของนายวรเดช ทั้งๆ ที่รายงานสรุปของดร.สุเมธ บอกว่า ไม่ปกติ และควรจะมีการสอบสวนและลงโทษทางวินัยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกท.ศึกษาธิการ ทั้งสว. และ สส. อภิปรายในสภาบอกว่า มีความไม่ชอบมาพากล ข้อสอบรั่วแน่นอน
จนบัดนี้ ยังไม่เห็นใครได้รับโทษอะไร แต่คนเป็นจำเลยได้รับการสมนาคุณ
เรื่องราวที่ยกตัวอย่างมานี้ เกิดขึ้นหรือ ต่อเนื่องมาสิ้นสุดในระหว่างที่นายกทักษิณดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศทั้งสิ้น จึงเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจหน้าที่เอื้อผลประโยชน์คนใกล้ชิด และผลประโยชน์ทับซ้อน
ในเมื่อรัฐบาลเปิดเวทีให้ด่าได้ จึงมีคำถามว่า "ด่าได้ทุกเรื่อง ยกเว้นที่ครอบครัวตนเองได้รับประโยชน์หรือไม่"
พวกท่านเห็นอย่างไร?
จากคุณ :
*bonny
- [
28 ก.ย. 47 07:36:56
]