PANTIP.COM : P3074390 ทำไม่ จอร์ช ดับเบิ้ลยู บุช ถึงจะเป็น One-Hit Wonder President!! [ต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 2

เห็นด้วยกับคุณ Haa ค่ะ การดูโพลล์ ที่สำคัญดูที่ 2 โพลล์ คือ job approval กับโพลล์ของตัว incumbent หรือตัวประธานาธิบดีเอง อย่าดูโพลล์ที่เทียบระหว่าง incumbent กับคู่เเข่ง เพราะจากที่มีการทำโพลล์มา มันมี track record ของมันเองที่เอาเป็นตัววัดได้ชัดเจน

ตั้งเเต่ปี คศ 1952 มาเเล้วที่มีการศึกษาเรื่องนี้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
อย่างที่คุณ Haa ว่า ประธานาธิบดีที่มี job approval ต่ำกว่า 50% ยังไม่เคยมีใครได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งที่สองเลย นั่นอย่างเเรก

ส่วนกรณีโพลล์ที่ตรวจสอบคนที่มีสิทธิ์ใช้เสียงเลือกตั้งนั้น ถ้า incumbent ได้คะเเนนเท่าไหร่ เมื่อถึงวันเลือกตั้ง คะเเนนเสียงที่จะได้รับก็คือเท่านั้นจริงๆ อาจมากกว่าเปอร์เซ็นต์ที่โพลล์ว่าไว้นิดหน่อย เเต่จะมากกว่าไม่เกิน 1% หมายความว่า สมมุตินะคะ ว่า Bush Shrubya เอ๊ย..Bush Dubya มีคะเเนนในโพลล์ๆหนึ่ง 48% เมื่อถึงวันเลือกตั้ง คะเเนนเสียงที่คนลงให้กับ Bush Dubya ก็จะเท่านั้นจริงๆ เพราะคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใครเมื่อมีการทำโพลล์ ในที่สุดเเล้วจะไปลงคะเเนนให้คู่เเข่งในวันเลือกตั้งค่ะ โดยเฉพาะเมื่อ job approval ของตัว incumbent เองมันไม่ค่อยดีอยู่เเล้ว ซึ่งเเสดงว่าผู้คนไม่พอใจกับผลงานของประธานาธิบดีคนนั้น เมื่อถึงเวลาลงคะเเนนเสียงจริงๆ คนที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใคร ในที่สุดเเล้วก็จะไปลงคะเเนนให้กับคนที่มาเป็นคู่เเข่งของ incumbent เหตุก็เพราะว่าคนเหล่านั้นไม่พอใจผลงานของประธานาธิบดี เเต่ในเวลาเดียวกันก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือกตัวเลือกอีกคนดีหรือไม่ พอถึงเวลาที่ต้องไปเลือกจริงๆ เกือบทุกคนจะหันไปเลือกคู่เเข่งของ incumbent นั่นเเหละค่ะ

ส่วนคะเเนนในโพลล์ที่เป็นคะเเนนของคู่เเข่งของตัวประธานาธิบดีนี่ไม่มีความหมายเลยค่ะ เพราะเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งจริงๆ ผู้ลงเเข่งชิงตำเเหน่งคนนั้นมักจะได้คะเเนนที่เหลือทั้งหมด

เเต่ถ้าสมมุติว่าตัวเลขเป็นเเบบนี้นะคะ job approval ของบุชคือ 56% โพลล์ในหมู่ registered voters โพลล์นึงบอกว่าบุชกับเเครี่สูสีกัน คือบุช 49% เเครี่ 47% นั่นสิคะ น่าคิด เพราะ job approval ของ Shrubya ค่อนข้างสูง เเม้ว่าคะเเนนนิยมในหมู่คนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งจะดูไม่ต่างจากเเครี่เท่าไหร่ ยังอยู่ใน margin of error ผลการเลือกตั้งในตัวเลขเเบบนั้นจะไปทางไหนก็ได้ เเต่ตราบใดที่ job approval ของบุชยังต่ำกว่า 50% ในหลายๆอาทิตย์ใกล้วันเลือกตั้งเเบบนี้ เเละตราบใดที่ตัวเลขในโพลล์ส่วนใหญ่ระบุว่าในบรรดา registered voter หรือ likely voters เปอร์เซ็นต์ของบุชต่ำกว่า 50% ผลที่จะออกมาจะอยู่ข้างเเครี่ค่ะ

ตัวกำหนดอีก 2 อย่างที่ต้องจับตาดู

อย่างเเรกคือจำนวนคนที่จะไปลงคะเเนนเสียงเลือกตั้ง ที่ผ่านๆมาในรอบ 2-3 เดือนนี้ เดโมเเครตสามารถ register ผู้คนที่ยังไม่เคยลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้มากกว่ารีพับลิกันเเบบ 3-1 เเม้ว่ารีพับลิกันจะตีตื้นขึ้นมาบ้างเเล้วก็ตาม ทีนี้ก็อยู่ที่ว่าฝ่ายไหนจะสามารถดึงคนที่เพิ่ง register เหล่านั้นไปลงคะเเนนเสียงได้ในวันเลือกตั้งมากกว่ากัน ตัวนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะคนที่ register to vote เป็นครั้งเเรกเหล่านั้นมักจะไม่เป็นส่วนนึงที่ถูก survey ค่ะ เเละคนที่เพิ่งลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิ์ลงคะเเนนเสียงเลือกตั้งเป็นครั้งเเรกเเบบนั้น เท่าที่มีการศึกษากันมา คนเหล่านั้นมักจะไม่ไปลงคะเเนนเสียงค่ะ เพราะเหตุนี้พรรคเดโมเเครต (คงพรรครีพับลิกันด้วยมั้งคะ) ที่จะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะดึงเอาคนที่ลงทะเบียนเเล้วเหล่านั้นให้ไปที่ลงคะเเนนเลือกตั้งในวันเลือกตั้งให้ได้

ปัจจัยที่สองคือ Nader factor เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 2000 คะเเนนที่ผู้คนไปลงให้ Ralph Nader ส่วนใหญ่เป็นคะเเนนเสียงของผู้คนที่สนับสนุน Al Gore เเต่ด้วยความมั่นใจว่ากอร์น่าจะชนะการเลือกตั้งครั้งนั้น ผู้คนเหล่านั้นไปลงคะเเนนเสียงให้เนเดอร์เเทนเพื่อ make a statement ค่ะ เลือกตั้งปีนี้ ยังไม่มีใครบอกได้ว่า Nader จะเป็นตัวเเปรสำคัญเเค่ไหน เท่ากับเมื่อ 4 ปีที่เเล้วหรือเปล่า

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 20 ต.ค. 47 03:12:28 ]