http://www.bangkokbiznews.com/2004/11/06/pol/in
dex.php?news=pol1.html
ทักษิณท้าดับไฟใต้เหลวไม่ต้องเลือก
ชายแดนยังเดือดถล่มทหารดับ 1
นายกฯยังมีท่าทีที่แข็งกร้าว ต่อการจัดการปัญหาภาคใต้ พร้อมขอโอกาสแก้ปัญหา แต่ถ้าไม่ไว้ใจเลือกตั้งครั้งหน้าก็อย่าเลือกเข้ามา
"ทักษิณ" ขอโอกาสดับไฟใต้ ลั่นถ้าไม่ไว้ใจคราวหน้าก็อย่าเลือก ขณะเดียวกัน วอนอย่าตื่นตกใจเพราะจะไปเข้าล็อกกลุ่มป่วนสถานการณ์ ที่นับวันมุ่งสร้างเครือข่ายไดเร็คเซล ซึ่งเป็นพวกกึ่งคนกึ่งผี ขณะที่ชายแดนใต้ยังเดือด คนร้ายเด็ดหัวทหารชุด รปภ.พระ ดับ 1 นาย ที่ จ.ยะลา พบปืนเอชเคบรรจุถุงปุ๋ยทิ้งข้างถนน และใบปลิวขู่ไทยพุทธ
คนร้ายยังคงก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า เราต้องหนักแน่น โดยดำเนินในสองทางไปพร้อมๆ กัน คือ พัฒนาต้องเข้าถึงโดยใช้ผู้นำที่ได้รับการยอมรับในท้องถิ่นเข้าไป และอีกทางหนึ่ง คือ ให้ความสับสนวุ่นวายหยุดนิ่ง ให้คนที่เป็นพยานกล้าที่จะพูด แยกคนที่หลงผิดออกมา เพื่อให้เหลือพวกที่เป็นแกนจริงๆ พวกนี้เราต้องจัดการเด็ดขาด ซึ่งคนที่เป็นแกนนำที่เคลื่อนไหวนับวันยิ่งสร้างเซลส์ ตามระบบไดเร็คเซล กับเด็กที่ไม่มีงานทำ การศึกษาน้อย ทำให้เกิดความหลงผิด ไปก่อความไม่สงบ
"คนพวกนี้จะมีความรู้สึกว่าเวลาออกมาข้างนอกจะเป็นคน แต่เวลาเข้ากลุ่มจะเป็นผีที่พร้อมจะทำอะไรที่เลวและโหดอยู่ตลอดเวลา เป็นคนและผีพร้อมกัน ความจริงแล้วมีคนที่มีหมายจับอยู่ในที่เกิดเหตุในการชุมนุมจำนวนมาก ส่วนแกนนำขณะนี้คงพูดไม่ได้ว่าเป็นกลุ่มไหน แต่มีรายชื่อหมดแล้ว
"หากไว้ใจผม ก็ปล่อยให้ผมทำงานให้ดี แต่ถ้าไม่ไว้ใจผม คราวหน้าอย่าเลือกผม จะได้ไม่ต้องทำหน้าที่ ถ้าไว้ใจก็ขอให้โอกาสผม ได้ทำอะไรตามแนวทางที่จะเป็นไปได้ เพราะถ้าเราตกใจอยู่เรื่อยๆ ก็จะไปเข้าล็อกกลุ่มคนพวกนี้ ขอให้เชื่อผม"
ยกเลิกหมายเดินทางตปท.
นอกจากนี้ ทราบว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกำลังจะวางแผนให้เริ่มใช้ความรุนแรงเพื่อกระพือข่าว เพราะเจ้าหน้าที่ไม่กล้าทำอะไร และในที่สุดเมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะหาทางเข้ามายึดพื้นที่ให้ได้ และพยายามขับไล่คนที่ไม่ยอมให้ออกไป ถ้าไม่ออกก็ฆ่า ประชาชนในพื้นที่อยู่ด้วยความหวาดผวา เพราะเจ้าหน้าที่ทำอะไรไม่ได้ ทำอะไรยาก ใช้ความรุนแรงมีปัญหา ต้องทำทุกอย่างพร้อมกัน
ส่วนที่มีการฆ่าพระสงฆ์ที่ อ.จะนะ ทำให้ดูเหมือนว่าความไม่สงบขยายวงออกไป พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า "หากดูพื้นที่แล้ว ไอ้คนพวกนี้ไม่เข้าใจเรื่องเขตปกครอง เพราะป็นพื้นที่ที่ต่อเนื่อง อ.จะนะ ติดกับ อ.เทพา"
อย่างไรก็ตาม ปัญหาใต้หากเหตุการณ์ไม่เรียบร้อย เขาจะไม่เดินทางไปต่างประเทศช่วงนี้ เพราะถือว่าต้องดูแล แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไร คงต้องรอให้ใกล้เวลาที่จะไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีกำหนดจะเดินทางไปประชุมอาเซ็มระหว่าง 18-23 พ.ย.ที่ประเทศชิลี
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภารกิจของนายกฯ วันอาทิตย์ที่ 7 พ.ย.นี้ มีกำหนดจะลงพื้นที่ภาคใต้โดยช่วงเช้าจะปฏิบัติภารกิจเป็นประธานปิดการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 22 ที่โรงแรมทวิน โลตัส จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นเวลา 14.00 น.จะไปเป็นประธานถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ของสำนักนายกรัฐมนตรี ณ วัดชลธราสิงเห อ.ตากใบ โดยการเดินทางจะไปเช้าเย็นกลับด้วยเครื่องบิน
ดับทหารชุดรปภ.พระดับ 1 ศพ
เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 5 พ.ย. ร.ต.ท.พีระพงษ์ กาลลักษณ์ ร้อยเวร สภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุโจมตีหน่วยรักษาความปลอดภัย (รปภ.) พระภิกษุวัดทรายทอง บ้านบากง ต.รือเสาะ เป็นเหตุให้ชุด รปภ.พระ เสียชีวิตคากุฏิ 1 นาย
จากนั้นได้นำกำลังไปตรวจสอบบริเวณวัด พร้อมสนธิกำลังประมาณ 100 นาย กระจายกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ พร้อมจัดส่งรถหุ้มเกราะฮัมวี 2 คัน มาสนับสนุนเพื่อป้องกันการลอบซุ่มโจมตีระลอกสอง พบศพพลทหารซุลกิฟลี บินมะแซ อยู่บ้านเลขที่ 60/1 ม.3 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส สังกัดกองบังคับการกรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ ตามร่างกายพบมีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน เอ็ม 16 ที่บริเวณกลางหลังทะลุหน้าอก 1 นัด
ต่อมา เวลา 05.00 น.นาวาเอกทศนุ เชียงทอง รอง ผบ.กรม ร.3 กองพลนาวิกโยธินภาคใต้ ได้เดินทางมาในที่เกิดเหตุ พร้อมระดมกำลังออกไล่ติดตามกลุ่มคนร้าย โดยการนำทางด้วยชุดสุนัขดมกลิ่นตามเส้นทางที่กลุ่มคนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี แต่ไม่พบร่องรอย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่เพื่อสร้างสถานการณ์ใต้
เผาฐานตชด.คุ้มครองท่อก๊าซไทย-มาเลย์
ส่วนที่ อ.จะนะ คนร้ายไม่ทราบจำนวน ลอบเผาฐานที่พัก ตชด.ร้าง ของชุดคุ้มครองโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ซึ่งตั้งอยู่หลังโรงเรียนบ้านเขาจัน ม.10 ต.จะโหนง อ.จะนะ จุดที่โดนเผาเป็นกระท่อมเรือนนอนของ ตชด. 7 หลัง ไฟไหม้ทั้งหมด 4 หลัง อีก 3 หลัง เสียหายเล็กน้อย
ทั้งนี้ ถือว่าโชคดีที่มีฝนตกลงมาช่วย ทำให้ไฟมอดลง ก่อนที่จะลุกลามไหม้อาคารเรียนโรงเรียนบ้านเขาจัน ซึ่งอยู่ติดกัน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบข้อความเขียนด้วยดินสอที่ฝาผนังอาคารเรียนของโรงเรียนดังกล่าวด้วยว่า กูจะไม่หยุดแค่นี้ ลงชื่อ BH
พบถุงปุ๋ยบรรจุปืนเอชเคทิ้งข้างทาง
ที่ จ.ยะลา วันที่ 5 พ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ต.ปะแต อ.ยะหา รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่า พบถุงปุ๋ยวางอยู่ริมถนน ม.3 บ้านสะปอม หลังจากตรวจสอบภายในพบว่าบรรจุอาวุธปืนเอชเค สภาพเก่า 1 กระบอก ไม่มีกระสุน
ทั้งนี้ จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า มีรถยนต์กระบะสีแดง ทะเบียน บค 5656 ปัตตานี ขับมาจอดและขับรถออกไป กระทั่งพบถุงปุ๋ยดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงวิทยุด่วนให้ทุกด่านตรวจสกัด จนสามารถจับได้ที่บริเวณพื้นที่ อ.บันนังสตา ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 คน ที่เดินวนเวียนในละแวกที่พบอาวุธปืนถูกนำมาทิ้งไว้
สำหรับอาวุธปืนเอชเคนั้น ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า มีรูปกงจักร ที่กระบอกปืน พร้อมหมายเลขทะเบียนปืน 224779 ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่ว่าเป็นอาวุธปืนที่ถูกปล้นมาหรือไม่ และเป็นของใครแจ้งหายไว้บ้างหรือเปล่า
เบตงป่วนพบใบปลิวขับไล่ไทยพุทธ
ที่ อ.เบตง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ประชาชนใน อ.เบตง จ.ยะลา เกิดความวิตกกังวลในเรื่องความปลอดภัยหลังจากมือมืดนำใบปลิวไปทิ้งไว้ โดยมีใจความสรุปได้ว่า ให้คนไทยพุทธออกจากพื้นแผ่นดินแห่งนี้ และขู่จะทำร้ายให้เหมือนพื้นที่อื่นที่เกิดเหตุฆ่ารายวัน และในใบปลิวยังมีข้อความอีกว่า ให้ขนส่งจังหวัดในนราธิวาส ปัตตานี ยะลา เพิ่มความระมัดระวังเพิ่มขึ้นอีกด้วย
พ.ต.อ.นรินทร์ สุภรประทีป ผกก.สภ.อ.เบตง เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการสอบที่มาที่ไปของใบปลิว และฝากเตือนให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวังตนเอง พร้อมทั้งเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ในการพบบุคคลแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่ด้วย
เผยสลายม็อบทำชาวบ้านบอบช้ำหนัก
ด้าน นายอดิรันดร์ อาลีอิสเฮาะ ทนายความจากชมรมนักกฎหมายมุสลิมสาขา จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยผลการสอบถามข้อเท็จจริงจากนายแฟนดี มะเด็ง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม หน้า สภ.อ.ตากใบ ว่า เขาเดินไปดูเพราะอยู่ใกล้บ้าน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่รัฐลงมือสลายฝูงชน ทำให้ติดอยู่ในวงล้อม และได้ถูกควบคุมตัวพร้อมกับกลุ่มผู้ชุมนุมคนอื่นๆ เช่นเดียวกัน
สำหรับ นายอดิรันดร์ นอกจากมีร่องรอยบาดแผลภายนอกจากการสลายฝูงชน แล้ว เขายังต้องเข้ารับการล้างไต ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา เนื่องจากถูกกดทับอย่างหนักเป็นเวลานาน ซึ่งขณะนี้อาการทุเลาลงมาก
นายอดิรันดร์ กล่าวอีกว่า ช่วงเวลาการควบคุมเพื่อนำตัวจาก สภ.อ.ตากใบ ไปค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ให้นอนหงาย โดยมีเพื่อนผู้ชุมนุมนอนทับลงมาอีก 7 ชั้น ระหว่างทางมีความรู้สึกว่าผู้ชุมนุมรายหนึ่งที่นอนติดกับพื้นด้านล่างสุดใกล้กันหมดสติ และมารู้อีกทีว่าเสียชีวิต ตอนที่ให้ลงจากรถเมื่อถึงค่ายอิงคยุทธบริหาร
"จอน"แฉตายหน้าสภ.อ.ตากใบ15หญิง1
วันเดียวกันนี้ นายจอน อึ๊งภากรณ์ ส.ว.กทม.กล่าวในงานเสวนาเรื่อง ตากใบทมิฬ วิกฤตไฟใต้ ว่า แม่ทัพภาคที่ 4 ออกมายอมรับว่า มีการใช้อาวุธปืนยิงจากเจ้าหน้าที่ในระดับแนวราบจริง ส่วนการใช้อาวุธปืนของกลุ่มผู้ชุมนุม ทราบว่า มีการยิงปืนของกลุ่มชุมนุมจริงเช่นกัน แต่เป็นยิงขึ้นฟ้า 1 นัด
"จากที่ได้เข้าสอบถามผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม และไม่ได้ถูกจับกุม ต่างพูดตรงกันว่า ระหว่างสลายการชุมนุม มีผู้ถูกยิง 15 คน และทหารนำร่างขึ้นรถไปจากบริเวณที่ชุมนุม จึงไม่สามารถระบุได้ว่า คนเหล่านั้นเสียชีวิตแล้วหรือยัง รวมทั้งจากการสอบถามผู้ที่ถูกจับกุม เขาได้เล่าให้ฟังว่า มีผู้หญิงเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย 1 คน"
กก.ไต่สวนตากใบประชุมนัดแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.ที่สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ถนนวิภาวดีรังสิต นายพิเชต สุนทรพิพิต ประธานคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมหน้า สภ.อ.ตากใบ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการ เป็นครั้งแรก
นายพิเชต แถลงภายหลังการประชุม ว่า คณะกรรมการจะหาข้อมูลเบื้องต้นจากบุคคลฝ่ายต่างๆ 4 กลุ่ม คือ 1.เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ 2.ประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ 3.ผู้ที่ถูกจับกุมและถูกเคลื่อนย้าย และ 4.ประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งวันที่ 8 พ.ย.และ 9 พ.ย.นี้ จะประชุมอีกสองครั้ง โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่รัฐมาให้ปากคำก่อน จากนั้นคณะกรรมการจะลงไปในพื้นที่ในช่วงปลายสัปดาห์หน้า
นายพิเชต กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมา 3 ชุด คือ 1.คณะอนุกรรมการด้านข้อมูลทางการแพทย์ โดยมี ร.ท.วิฑุร แสงสิงแก้ว เป็นประธาน 2.อนุกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง มี พล.ต.อ.ดรุณ โสตถิพันธุ์ เป็นประธาน และ 3.อนุกรรมการด้านการเชิญบุคคลในพื้นที่ร่วมให้ข้อมูล มีนายอิสมาแอ อาลี และนายจรัญ มะลูลีม เป็นประธาน
ต่อข้อถามว่า ในการสอบสวนจะมีการระบุตัวผู้กระทำผิดและบทลงโทษด้วยหรือไม่ นายพิเชต กล่าวว่า ไม่มีการระบุ กรรมการจะสอบสวนว่ากรณีใดใครคือผู้รับผิดชอบ ส่วนผ้ที่จะให้คำตอบว่าใครถูกหรือผิดและควรลงถูกโทษอย่างไร เป็นหน้าที่ของรัฐบาล
จากคุณ :
Athit
- [
6 พ.ย. 47 03:19:44
A:203.113.35.6 X:203.150.217.117 TicketID:001723
]