ความคิดเห็นที่ 1 สิ่งที่นายกทักษิณ ทำไม่ได้อีกอย่างหนึ่งคือ คือเปลี่ยน คนชั่ว ให้ กลายเป็นคนดี จากคุณ : ทรงวิทย์ - [ 24 พ.ย. 47 10:09:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ประการที่สอง “การเมือง” ครับ การแก้ปัญหาภาคใต้ ถ้ามัวแต่พะวง เป็นห่วงเรื่องการเมือง หรือเล่นการเมืองมากเกินไปมาแก้ รับรองเสร็จ ที่สำคัญ วิกฤติหนนี้เปิดเผยให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนักการเมืองภาคใต้ที่ประกาศอาสาขอเป็นตัวแทนตอนเลือกตั้ง ว่าจริงๆแล้วพวกเขารู้ปัญหาของประชาชนมากน้อยเพียงใด....ไม่เลย ........... มัวแต่ห่วงฐานคะแนน ส่วนหนึ่งก็ไม่ได้รับความไว้วางใจจากนายกฯทักษิณ เพราะเหตุผลจากประการแรก และอีกส่วนหนึ่งก็โดนเพ่งเล็งซะเอง เลยไม่กล้าออกมาเคลื่อนไหวสะท้อนความจริงของปัญหา ทุกคนเงียบกันหมด .........ในส่วนกลาง แทนที่จะสามัคคีกัน........ ไม่.... กลับซ้ำเติมรัฐบาล รัฐบาลเองก็เหมือนคนหัวดื้อ ไม่ยอมฟังคนอื่น ระยะหลังๆ พอปัญหาหนักเข้า จึงดูเหมือนจะยอมฟังมากขึ้น แต่ปัญหาก็บานปลายแล้ว ในสื่อ ผมเห็นแต่การเมืองเต็มไปหมด ไม่ได้สะท้อนปัญหาของพื้นที่เลย รัฐเองก็พยายามสร้างและเกาะกับกระแสฝ่ายขวา ซึ่งอาจจะทำให้รัฐครองเสียงส่วนใหญ่จากคนในประเทศได้ แต่อย่าลืมว่า ถ้ามันขยายเข้าไปในพื้นที่ ปัญหาก็จะยิ่งบานปลาย ก็รู้ๆอยู่ว่าตอนนี้ มันใกล้เลือกตั้งแล้ว............มันก็การเมืองนั่นแหละ .........แม้แต่ในทางศาสนา ผมก็เห็นมีการเอาการเมืองมาเล่นเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม ล่าสุดกรณีวะฮาบีย์ เห็นมีการโหมกระแสว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือวะฮาบีย์ งานนี้ ผมมองเห็นเงาของชีอะห์ครับ(คู่รักคู่แค้นของวะฮาบีย์) ทำไม ? ก็รู้อยู่ว่าอุซตาซหลายคนทั้งที่เสียชีวิตที่กรือเซะและที่ถูกจับกุมเป็นชาฟิอีย์(สุนนี่สายหนึ่ง)และเป็นคนที่เกลียดวาฮาบีย์เข้าไส้มาแต่ใหนแต่ไร ถึงขั้นโจมตีใส่กันว่าอีกฝ่ายว่าเป็นกาเฟรมาแล้วก็เคย .. เออ แล้วมันจะร่วมมือกันได้อย่างไร ผมไม่ชอบที่จะยึดติดกับสำนักคิดใด แต่ทั้งบ้านเป็นชาฟิอีย์และคนปัตตานีส่วนใหญ่ก็เป็นชาฟิอีย์ จริงๆก็ไม่เดือดร้อนอะไรกับเรื่องนี้ อาจดีใจลึกๆที่วะฮาบีย์โดนเล่นงาน แต่ทนไม่ได้ครับ ถ้าจะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลาย .... ตอนที่ทางการเพ่งเล็งโรงเรียนปอเนาะ เคยคุยกับเพื่อนที่เป็นวะฮาบีย์ว่าปอเนาะเอ็งเป็นไงบ้าง เขาบอกรู้สึกเฉยๆ ก็รู้ๆอยู่ว่า ดร.อิสมาแอลลุตฟีเป็นคนที่รัฐไว้วางใจมาตั้งแต่ ศอ.บต ยังอยู่ เพราะวะฮาบีย์ค่อนข้างจะขัดกับแนวคิดชาตินิยม(มลายู) ปอเนาะในเครือเลยสบายใจได้ ผมละอิจฉาแทน แต่ตอนนี้คงหนาวๆร้อนๆ แล้วหละ อีกไม่นาน รัฐก็คงจะเสียแนวร่วมไปอีกหนึ่ง เพราะการเมืองนี้แหละ ( คนในพื้นที่มองว่าวะฮาบีย์ รวมทั้งอาจารย์มุสลิม มอ. ส่วนใหญ่ ใกล้ชิดปชป. เพราะเคยทำงานกับ ศอ.บต ขณะที่ชีอะห์นั้นใกล้ชิดกับชวลิต) .......... กรณีโรงเรียนปอเนาะก็เหมือนกัน คำพูดทักษิณหลายๆครั้ง สามารถสร้างแนวร่วมให้กับพวกก่อการได้อีกมาก เหตุผลก็มาจากประการแรกนั่นแหละครับ..... ความไม่รู้ .... จนมาระยะหลังๆ ทางสมาคมฯเขาจับทิศทางถูก และดาโต๊ะ น. ออกมากระทุ้งทักษิณแรงๆ ทางหนังสือพิมพ์ในประเทศฉบับภาษาอังกฤษ จนระยะหลังๆ รู้สึกว่านายกทักษิณจะเงียบลงไปเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่เขากล้าออกมาพูดก็เพราะมี back ดี ไม่งั้นคงต้องลี้ภัยไปต่างประเทศแล้วหละครับ... อิอิ แต่ก็นั่นแหละ มันก็มีการเมืองมาเกี่ยวข้องจนได้ ผมเห็นเงาความไม่พอใจของคนที่พูด เหตุเพราะลูกบุญธรรมไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ในสังกัด ทรท. (เพราะกลุ่มดารุสลามเข้าไปแทนที่ในเขตนั้น) มากกว่าที่จะพูดออกมาเพราะไม่พอใจการแก้ปัญหาของรัฐบาลล้วนๆ มันเลยไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหา เพราะปัญหามันบานปลายแล้ว ............... ก็การเมืองอีกนั่นแหละ อย่าว่าแต่ในเมืองไทยนะครับ ปัญหาภาคใต้ยังถูกเอาไปเล่นเป็นการเมืองในมาเลเซียด้วย ทั้งรัฐบาล พรรคพาส และอันวาร์ รู้ครับว่าอะไรคือปัญหาที่ภาคใต้ และที่พูดๆมาก็ถูกทั้งนั้น รวมทั้งรู้ด้วยว่าคนมาเลเซียรู้สึกอย่างไรต่อกรณีกรือเซะและตากใบ เป็นเรื่องธรรมดาที่เวลารู้ว่ามุสลิมเดือดร้อนที่ใหน มุสลิมในประเทศอื่นก็จะออกมาเคลื่อนไหว ไม่มากก็น้อย แต่ที่พวกเขาต้องพูดหรือเคลื่อนไหวอะไรออกมาก็เพื่อฐานคะแนนในประเทศ ไม่ต่างกับตอนที่ทักษิณพูดเพื่อรักษาคะแนนส่วนใหญ่จากคนในประเทศนั่นแหละครับ ตอนเกิดเหตุการณ์ตากใบ หนังสือพิมพ์ที่เชียร์รัฐบาลพาดหัวข่าวบทสัมภาษณ์โต๊ะอิหม่ามที่ใหนก็ไม่รู้ในจังหวัดนราธิวาส บอกว่าประเทศมาเลเซียโชคดีที่มีผู้ยุติธรรมต่อชนกลุ่มน้อยอย่างบาดาวีย์เป็นนายก ไม่เหมือนเมืองไทยที่มีนายกเผด็จการอย่างทักษิณ ขณะเดียวกันสื่อของพรรคพาสก็โจมตีรัฐบาลมาเลย์ว่าละเลยไม่ออกมาช่วยพี่น้องมุสลิมในภาคใต้ของไทย และยุวชน PAS ก็ยื่นหนังสือต่อ UN หลังจากนั้นไม่นาน อันวาร์ก็ออกมาให้สัมภาษณ์อีก และยุวชน UMNO ของพรรครัฐบาลก็ออกมาเคลื่อนไหวจะรวบรวมความช่วยเหลือเหมือนๆกับตอนที่เกิดสงครามกลางเมืองในบอสเนีย โห........ เหตุการณ์ที่ภาคใต้ของไทยแท้ๆ พวกเอาไปเล่นเป็นการเมืองในประเทศของตนไปเสียฉิบ ............... ก็การเมืองอีกนั่นแหละ ส่วนคนไทยที่ไม่รู้(หรือที่รู้แต่แกล้งโง่) กับธรรมชาติการเมืองของมาเลเซียก็เต้นตาม จนเกือบจะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศอยู่พรรคหนึ่ง ............... ก็การเมืองอีกนั่นแหละ เพราะงานนี้ รัฐบาลก็ได้คะแนนจากความรู้สึกชาตินิยมของคนในประเทศโขเลย แต่ลองคิดดูซิครับว่าพวกก่อการก็มีแต่ได้กับได้เหมือนกัน ยิ่งกระแสชาตินิยม(ไทย)แรงขึ้นเท่าใด กระแสชาตินิยม(มลายู)ของคนในพื้นที่ก็แรงขึ้นตามเท่านั้น ล่าสุด หนังสือพิมพ์ในประเทศบางฉบับที่ไม่ถูกกับรัฐบาลเที่ยวไปสัมภาษณ์มุสลิมในต่างประเทศ เหมือนต้องการสร้างรอยร้าวระหว่างประเทศ ขอร้อง ปัญหาภาคใต้มันเกิดจากสาเหตุในพื้นที่ อย่าให้มันบานปลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศเลย คนไทยแก้ปัญหากันเองได้ ยิ่งคนอินโดนี่ มันต่างจากมาเลเซียนะครับ ปัญหาภาคใต้ แก้ไม่น่าจะยากเลย ถ้าไม่มีปัญหาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่แปลกที่สนธิพูดอยู่บ่อยครั้งว่าปัญหาภาคใต้มันต้องตัดการเมืองออกไปได้เลย ตั้งเป็นเขตปกครองพิเศษ ไม่ต้องให้มีการเมืองเกี่ยวข้อง ก็เพราะสาเหตุแบบนี้แหละ จากคุณ : ขาประจำราชดำเนิน - [ 24 พ.ย. 47 10:27:16 A:192.168.1.147 X:203.156.45.97 TicketID:080141 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ประการที่สาม การยุบ ศอ.บต แรกๆ ก็คิดว่าการยุบ ศอ.บต. ไม่น่าจะเป็นต้นเหตุของปัญหา รัฐมีฝ่ายการเมืองที่เป็นตัวแทนของคนในพื้นที่อยู่แล้ว และ ศอ.บต ก็ถูกมองอยู่แล้วจากคนในพื้นที่ว่าเป็นฐานการเมืองของ ปชป. การมีอยู่ของ ศอ.บต. น่าจะก่อให้เกิดปัญหาทางการเมืองกับคนในพื้นที่ แต่ตอนที่พระองค์ท่านตรัสต่อทักษิณให้แก้ปัญหาโดยให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมมากขึ้น ก็เริ่มกระจ่างแล้วว่า มันมีส่วนจริงๆ ไม่ใช่ว่าการยุบจะเป็นต้นเหตุ แต่เป็นเพราะเวลาเกิดวิกฤติอย่างตอนนี้ มันทำให้รัฐขาดคนที่จะเป็นสื่อกลางระหว่างรัฐกับผู้คนในพื้นที่ (โดยเฉพาะขณะที่ฝ่ายการเมืองและกลไกของรัฐเองมีปัญหา) คนในพื้นที่ที่รู้จักคุ้นเคยกับ ศอ.บต. หรือเคยเป็นที่ปรึกษา ศอ.บต. ตอนนี้เกษียณตัวเองออกจากแวดวงสังคมไปหมดแล้ว ส่วนคนรุ่นใหม่ที่ ศอ.บต เคยสร้างมา กลับถูกพวกก่อการดึงไปเป็นแนวร่วม เมื่อรัฐเห็นความจำเป็นต้องการความร่วมมือจากองค์กรของมุสลิมในพื้นที่ ก็จะพบแต่คนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากใหน ถูกดึงไปเป็นแนวร่วมของพวกก่อการหรือยังก็ไม่รู้ ทางฝ่ายกลไกของรัฐเอง ก็เป็นข้าราชการรุ่นใหม่ พึ่งถูกย้ายมาจากที่อื่นหรือพึ่งเลื่อนขั้นขึ้นมา (อย่าลืมว่าตั้งแต่ปฏิรูประบบราชการ หน่วยงานต่างๆและบุคลากรเปลี่ยนแปลงไปมาก) เมื่อต่างคนต่างไม่รู้จักกันมาก่อน การทำงานก็มีแต่ความเคลือบแคลงระแวงสงสัยต่อกัน ผมว่าพวกก่อการมันก็รู้จุดอ่อนนี้ดี คณะกรรมการสมานฉันท์ฯที่เสนอโดยนักวิชาการเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่มันคงต้องใช้ระยะเวลา กว่าที่รัฐจะสามารถประสานกลไกของรัฐให้เข้ากันได้กับองค์กรมุสลิม จากคุณ : ขาประจำราชดำเนิน - [ 24 พ.ย. 47 10:29:21 A:192.168.1.147 X:203.156.45.97 TicketID:080141 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หากอ้างเรื่องรายงานแหกตาผู้เป็นนาย......เมื่อซักประมาณ 30 - 40 ปีก่อน.....ผมเชื่อ...แต่ปัจจุบันด้วยข่าวสารต่างๆ.....นายกฯคนนี้ไม่หลงงมงามให้ใครมาหลอกได้เชื่อเถอะ......ปัจจุบันนับว่ามาถูกทางพอสมควร..........อดใจรออีกนิด จากคุณ : ดาราเดช - [ 24 พ.ย. 47 10:29:50 A:192.168.200.103 X:192.168.200.103, 203.144.240.232 TicketID:058357 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ประการที่สี่ การอุ้มทนายสมชาย และกรณีตากใบ เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย เป็นความผิดพลาดครั้งร้ายแรงของรัฐบาล ............ยอมรับความจริงเถอะครับ........... เพราะมันยิ่งจะทำปัญหาบานปลาย กรณีตากใบ การสลายม็อบ ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่จะรับได้ แม้จะวิตก ตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อีกหนึ่งวัน หลังทราบข่าวการตายระหว่างขนย้าย ความวิตก ตระหนกของผู้คน กลายเป็นความเดือดดาล เกลียดแค้นรัฐบาลแทน อยู่ที่รัฐบาลหละว่าจะตามแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร ประการสุดท้าย กลไกของรัฐมีปัญหา อันนี้สำคัญที่สุด และเป็นปัญหาที่ผู้คนทั่วประเทศก็สัมผัสได้ แต่ยิ่งในกรณีที่เกิดความไม่ปกติอย่างในกรณี 3 จังหวัด มันก็จะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลาย ดูกรณีการอุ้มทนายสมชาย และกรณีตากใบเป็นตัวอย่าง กรณีกรือเซะนั้นไม่ว่า เพราะยังงัยๆ เสีย พวกก่อการมันก็ตั้งใจจะให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว หลายๆกรณี กลไกของรัฐกลับทำตัวเป็นปัญหาซะเอง แทนที่จะเป็นเครื่องมือของรัฐ จากคุณ : ขาประจำราชดำเนิน - [ 24 พ.ย. 47 10:31:05 A:192.168.1.147 X:203.156.45.97 TicketID:080141 ]

ความคิดเห็นที่ 6 "ทำไมรัฐไม่มีนโยบายในการควบคุมสื่อให้เป็นไปในทิศทางที่รัฐต้องการ" แบบนี้มันไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยครับ เผด็จการชัดๆ จากคุณ : no.7 (นทร์) - [ 24 พ.ย. 47 10:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่าสื่อมันเล่นข่าวกันมากไป ไม่รับผิดชอบ ทำให้ผู้ร้ายยิ่งได้ใจ โดยเฉพาะนายแว่นกับนายเตี้ยวิจารณ์บางวันรุ่งขึ้นก็หน้าแตก ไม่งั้นพอกระแสพระราชดำรัสออกมาคงไม่จ๋อยจ้อยกันเป็นแถว จากคุณ : tee" - [ 24 พ.ย. 47 10:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รัฐเองก็พยายามสร้างและเกาะกับกระแสฝ่ายขวา ซึ่งอาจจะทำให้รัฐครองเสียงส่วนใหญ่จากคนในประเทศได้ อีกไม่นาน รัฐก็คงจะเสียแนวร่วมไปอีกหนึ่ง เพราะการเมืองนี้แหละ ----- เห็นด้วยกับ จขกท หลายประเด็นครับ และเห็นด้วยว่า เพราะนายกทักษิณ ทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องการเมือง หวังผลทางการเมือง ปัญหาจึงไม่ยุติ (เช่น ใครคิดจะเข้ามาช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาก็ยังอุตสาห์มองเป็นการเมืองไปหมด) จากคุณ : no.7 (นทร์) - [ 24 พ.ย. 47 10:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 (ต่อประการสุดท้าย) ยิ่งกรณีวงการศึกษาในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นกลไกปัญหาระยะยาวยิ่งแล้วใหญ่ ก็รู้ๆอยู่ตอนนี้ว่ามันมีปัญหาอยู่ก่อนแล้ว อันเนื่องมาจากการปฏิรูปการศึกษา การแบ่งเขตพื้นที่ การเสียขวัญของข้าราชการเนื่องจากความไม่ชัดเจนในการปฏิรูป เมื่อเจอกับปัญหาภาคใต้ แทบจะหยุดชะงักกันไปเลย เท่าที่เคยเกี่ยวข้องมา บางครั้งก็แปลกใจ บางหน่วยงาน อย่างหน่วย พัน ร. 601 ที่มาจากอีสาน ดูเหมือนจะได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่ มากกว่าหน่วยงานเดิมที่อยู่ในพื้นที่ด้วยซ้ำ คงเป็นเพราะเป็นทหาร และถูกส่งมาเพื่อแก้ปัญหาโดยตรง ขณะที่หน่วยงานเดิมเฉื่อยชา จากคุณ : ขาประจำราชดำเนิน - [ 24 พ.ย. 47 10:43:05 A:192.168.1.147 X:203.156.45.97 TicketID:080141 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทั้งหลายทั้งปวง เป็นแค่ข้อวิจารณ์ ไม่มีข้อเสนอ แต่คิดว่าคงสะท้อนให้เห็นอะไรบ้างไม่มากก็น้อย มีคำถามอยู่บ่อยครั้งว่าทำไมคนในพื้นที่ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐ คงได้คำตอบแล้วบางส่วน แม้ไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม เรื่องที่กล่าวมา คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็พูดๆกันแบบนี้ และคงไม่ผิด หากจะบอกว่าพวกก่อการก็รู้เรื่องแบบนี้ จริงๆ ก็ยังลุ้นทักษิณนี่แหละครับ เพราะถ้าดูความเข็มแข็งของรัฐบาลแล้ว ทักษิณนี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้วที่จะแก้ปัญหา เสียตรงที่ว่าเพราะท่านไม่รู้ว่าปัญหาจริงๆคืออะไรแค่นั้นเอง จากคุณ : ขาประจำราชดำเนิน - [ 24 พ.ย. 47 10:44:11 A:192.168.1.147 X:203.156.45.97 TicketID:080141 ]

ความคิดเห็นที่ 11 "คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็พูดๆกันแบบนี้ และคงไม่ผิด หากจะบอกว่าพวกก่อการก็รู้เรื่องแบบนี้" คนอื่นๆที่อยุ่ในส่วนอื่นของประเทศก็คิดแบบเดียวกับคุณ แต่ทำไมนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยถึงคิดไม่ออกอยู่คนเดียวครับ? (คุณไม่แปลกใจหรือครับ) จากคุณ : no.7 (นทร์) - [ 24 พ.ย. 47 11:05:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยกับหลายประเด็นที่วิเคราะห์ มีแย้งบ้างก็เรื่องควบคุมสื่อ และเรื่องการปกครองพิเศษ เรื่องสื่อผมว่าคุมไม่ได้ สั่งไม้ได้ ดีแล้ว ไม่อย่างนั้น ต่อไปจะเที่บวสั่งเพื่อประโยชน์ทางการเมือง บ้านเมืองจะเสียหายกว่า.......น่าจะมีวิธีจัดการกับสื่อที่ดีกว่านี้ เช่น แลกเปลี่ยนความรู้ ให้ข้อมูล เผยยุทธศาสตร์และความจำเป็นบางส่วน และที่สำคัญ ฟ้องทุกครั้งที่สื่อทำเกินเลย (รักษากติกาด้วยกฎหมาย - เช่น 400 ล้าน) เขตปกครองพิเศษ ผมทำใจได้ยากจริงๆครับ น่าจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่า และผมว่ามี...) จะตามอ่านอีกครับ จากคุณ : X-CU - [ 24 พ.ย. 47 11:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 กลไลข้าราชการ3จังหวัดตอนนี้ไม่ทำงานแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่อง ใครเคยได้ยินชื่อหรือสัมภาษณ์ ผู้ว่า นายอำเภอในท้องที่บ้างไหม จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 24 พ.ย. 47 11:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปกติการให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ มีระเบียบสำนักนายก ใครจะให้สัมภาษณ์ได้บ้าง เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้หลายประเด็น แต่คงไม่วิจารณ์เพิ่ม ผมฝากประเด็นเดียว เรื่อง "ความเป็นเอกภาพ" ของฝ่ายความมั่นคง ที่บอกนายกรู้ทุกอย่างไม่จริงหรอก...เค้าเสนอแนวทางมาหลากหลาย นายกจะหยิบสวนใหนมาทำ ทำได้ผลหรือไม่ นั่นต่างหาก ข้อมูลเดียวกันอาจตัดสินใจต่างกัน...เนื่องเพราะการตั้งโจทย์ในใจไม่เหมือนกัน จะว่าไป...นายกไม่เคยแสดงศักยภาพด้าน "การปกครอง" หรือด้านรัฐศาสตร์ ออกมาให้เห็น ผมเห็นแต่ความมั่นใจเกินร้อยของผู้นำ...แม้ในการประชุม ครม. ผมไม่ค่อยเห็นใครกล้าค้านนะ...ไม่แปลกเมื่อมีความผิดพลาดหรือบกพร่อง จึงไม่ค่อยมีคนออกมารับหน้าแทนนายก เพราะรู้อยู่แล้ว...ท่านนายกรู้ดีที่สุด สิ่งที่มองไม่เห็นในตัวนายกคือการผสานหนทางสันติกับหนทางปราบปราม ทั้งสองด้านต้องทำพร้อมๆกัน แต่อย่างว่า คนที่จะทำได้ต้องมากด้วย บารมีและแรงศรัทธา ผมไม่เห็นความอ่อนโยน...ในฐานะ ผู้นำสูงสุด หรือท่าทีผ่อนปรนนั่นแหละครับ ดังนั้นความสมานฉันท์จึงเกิดขึ้นได้ยาก คำพูด แม่ทัพภาค 4 ซะอีก ที่บอก "เราต้องเอาลูกหลานของเรากลับมา"...นั่นกลับทำให้ผมแทบสะอื้น คำพูดแบบนี้ต่างหาก จะทำให้เหตุการณ์สงบลง ถ้ามานั่งนับศพแข่งกัน มันไม่จบครับ จากคุณ : Can - [ 24 พ.ย. 47 12:49:19 A:202.5.88.150 X: TicketID:014491 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ปัญหาภาคใต้แก้ไม่ยากหรอก ตอนนี้ออะไร ๆ ก็ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นทีละน้อยแล้วก็จะคลี่คลายในที่สุด จากคุณ : ประชาชนคนหนึ่ง - [ 24 พ.ย. 47 13:33:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สถานการณ์ทางใต้ ทำให้นักข่าวรวยเป็นแถวๆ จากคุณ : fatin - [ 24 พ.ย. 47 19:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เฮ้อ...เรื่องนี้พูดกันไปพูดกันมา คนละทางสองทางจริงๆ ตอนแรกบอกว่าเป็นเพราะความยากจนค่นแค้น..เพราะ เมื่อไปเปรีบบเทียบกับคนมาเลย์แล้วเราด้อยกว่าเขา... ....ก็มีผู้รู้โผล่มาอีก....บอกว่ามุสลิมที่นั่นสมถะจะตายไป... ไม่ได้หวังร่ำหวังรวย ทะเยอทะยานอะไร... ....บางรายพูดเท่...เงินไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาได้หรอก... อ้าว...มันทำไมขัดกันเองอย่างนั้นนี่... จากคุณ : Killer - [ 24 พ.ย. 47 19:30:30 A:203.118.84.74 X: TicketID:066056 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นกระทู้ที่ดีครับ ขอแสดงความนับถือผู้ตั้งครับ อ่านแล้วได้มุมมองมากขึ้น แต่บอกได้เลยครับปัญหาใต้ แก้ยากแล้วครับ ต้องใช้เวลานานพอสมควร เพราะเรายังไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่า เขาทำทำไม ต้องการอะไร ที่สำคัญ ใครเป็นผู้ทำ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด จากคุณ : โนราปาตานี - [ 25 พ.ย. 47 19:08:09 A:192.168.1.232 X:202.143.157.150 TicketID:078359 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มีเพื่อนไปโตและเรียนหนังสือที่ยะลา บอกว่าสมัยก่อน คนไทยมุสลิมสมถะ เหมือนนกน้อยสร้างรังแต่พอตัว เก็บของป่ามาขายในตลาด เพื่อนมุสลิมที่เรียนหนังสือด้วยกันก็เข้ากับไทยพุทธได้ดี จากคุณ : บอนเนอร์ - [ 29 พ.ย. 47 14:47:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไฟใต้ไม่มีทางดับ...เพราะคนมันไม่อยากให้ดับ.. เขาเรียกว่าไฟสุมขอน...ต่อให้หน้าไหนมาแก้ก็ไม่ได้..เพราะคนที่จะคอยสุมขอนไว้..มันยังมีอยู่เยอะ.. มันป้องกันได้ง่าย ๆ อย่างเดียวก็คือคนในพื้นที่...จะร่วมมือกันแค่ไหน.. อย่ารอแต่รัฐบาล...หัดช่วยเหลือตัวเองบ้าง.. คนร้ายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน..คนแถว ๆ นั้นแหละ.. คนที่อื่นเขาแสดงความห่วงใยแล้ว...มันขึ้นอยู่กับว่าคนในพื้นที่..อยากจะมีชีวิตอยู่แบบไหน...เลือกเอาเอง.. อยากเป็นเหมือนเดิม..ก็ไม่ต้องทำอะไร.. ถ้าอยากจะสงบ..ต้องลุกขึ้นสู้กับโจร...เอาคนเลว ๆ ออกไปจากสังคมที่นั่น.. ปล. ไม่เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้...เพราะเจ้าของกระทู้ก็วิเคราะห์ให้มันอิงกับการเมือง....มากเกินไป.. จากคุณ : นายเบื่อ - [ 29 พ.ย. 47 15:01:59 A:203.113.50.12 X:203.150.217.117 TicketID:071408 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขัดแย้งในตัวมันเองมากเลยนะเจ้าของกระทู้ 1. นายกทักษิณไม่รู้อะไร แต่มาเลเซียรู้มากกว่า จนเอาไปเล่นเป็นการเมือง ในบ้านเมืองของเขา อันนี้แปลก 2. ประการที่ 2 ทักษิณ ไม่คุมสื่อ ผมว่าต้องโดนยำเลอะแน่ หากคุมสื่อ แล้วจะคุมอย่างไร คุมอยู่หรือเปล่าในกรณีมีเหตุการณ์อย่างนี้ ตายกันขนาดนี้ 3. ผมคิดเองว่าตอนนี้มาถูกทางครับ วิธีนี้ก็คือ คนทั้งประเทศ โดยมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ ท่านทรงนำผนึกกำลังคนในชาติทุกคนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ส่งใจไปยังพี่น้องชาวใต้ 3 จังหวัด ให้มีกำลังใจในอันที่จะอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก คนไทยมีความต่างจากชาติอื่นเมืองอื่นตรงที่ว่า จะนับถือศาสนาอะไร เชื้อชาติไหน เราก้อยู่ร่วมกันได้ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็สามารถแก้ไขได้ แบบไทย ๆ อันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข ศูนย์รวมน้ำใจไทยทั้งชาติ ไม่เชื่อคอยดู ฟันธง เหตุการณ์จะต้องสงบลงโดยไว และยิ่งจะทำให้คนไทยทุกศาสนา ทุกเชื้อชาติ รักกันมากยิ่งขึ้น และจะรักกันยาวนานตลอดไป จากคุณ : เหมี่ยงคิง - [ 29 พ.ย. 47 19:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 22 #21 1. ก็จริงมั้ยละครับ นับตั้งแต่ "โจรกระจอก" มาตั้งแต่ต้นปี และอีกนับสิบคำพูด สะท้อนให้คนในพื้นที่รู้ได้เลยครับ จริงๆ คนป้อนข้อมูลครับให้ท่านก็สำคัญ แต่ท่านก็ใจร้อนเกินไป 2. คุมสื่อนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะให้รัฐคุมแบบเผด็จการ ผมยกตัวอย่างให้เห็นว่ารัฐไม่มีนโยบายที่ชัดเจนต่างหาก เพราะถ้ารัฐมีนโยบายที่ชัดเจน ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา สื่อก็ไม่สะเปะสะเปะอย่างทุกวันนี้ 3. คือสิ่งที่ผมอยากเห็นครับ จากคุณ : ขาประจำราชดำเนิน - [ 29 พ.ย. 47 19:35:41 A:203.172.121.236 X: TicketID:080141 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตรงกันข้ามกับกรณีมาเลเซีย ลองเปรียบเทียบบทวิจารณ์ของมหาเดร์และอันวาร์ กับคำพูดของทักษิณดูซิครับ เหตุผลหนึ่งก็เพราะว่าสองคนนั้นมาจากเคดาห์และปีนัง ซึ่งก็มีคนที่มาจากปัตตานีไปอาศัยอยู่มาก นักวิชาการแวดล้อมก็เป็นลูกหลานคนปัตตานีนี่แหละ เขาถึงรู้อะไรลึกพอควร ส่วนจะถือว่าแทรกแซงหรือไม่นั้นแล้วแต่มุมมอง ไม่ต้องพูดถึง PAS ที่อยู่กลันตันนะครับ ผมว่า พลเอกชวลิตจะรู้ดีกว่าซะอีกว่าอะไรเป็นอะไร จากคุณ : ขาประจำราชดำเนิน - [ 29 พ.ย. 47 19:39:30 A:203.172.121.236 X: TicketID:080141 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบ #19 วิกฤติหนนี้ทำให้มันเปลี่ยนไปมากครับ อันนี้ผมเป็นห่วงที่สุด ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างผู้คนต่างศาสนาที่มีมาแต่เดิม กลายเป็นความเคลือบแคลงสงสัย ผมว่าอันนี้คือจุดหนึ่งที่พวกก่อการอยากให้เกิด และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกนั้นไม่ยอมเปิดเผยตัว จะได้ถูกทางการมองแบบเหมารวม นั่นแหละ เข้าทางพวกนั้นทันที ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ในชุนมุสลิม มีข่าวลือต่างๆนาๆ ข่าวลือแม้แต่ว่าข่าวชาวบ้านถูกด่านตรวจยัดปืนใส่ท้ายรถ ถูกห้ามกรีดยาง ฯลฯ เพื่ออะไร ? เพื่อไม่ให้ชาวบ้านให้ความร่วมมือกับทางการ ลองอ่านกระทู้เรื่องของ อบต.เจ๊ะเห ที่มีผู้มาโพสต์ในนี้ดูซิครับ จะรู้ว่าข่าวลือมีบทบาทอย่างไรต่อการสร้างสถานการณ์ บางทีข่าวลือก็ออกมาเพื่อทำลายกันเอง ในชุมชนไทยพุทธ เรื่องใบปลิว การขู่ฆ่า จะโจมตีเผาหมู่บ้าน จะจับสังหาร ฯลฯ เหล่านี้ ล้วนแต่สร้างความหวาดระแวง อยู่ไม่เป็นสุข ผลเป็นอย่างไร ? ความเคลือบแคงสงสัยระหว่างกันมีมากขึ้น เป็นรอยร้าวที่น่ากลัว และผมไม่อยากให้ตกทอดไปยังรุ่นต่อๆไป รัฐต้องดำเนินการในเชิงรุก อย่างที่ อ.ธีรยุทธแนะนำนั่นแหละครับ จากคุณ : ขาประจำราชดำเนิน - [ 29 พ.ย. 47 19:47:42 A:203.172.121.236 X: TicketID:080141 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตอบ # 20 เหตุผล ก็เพราะรัฐมองปัญหาและแก้ปัญหาโดยอิงการเมืองเช่นกัน จากคุณ : ขาประจำราชดำเนิน - [ 29 พ.ย. 47 19:52:38 A:203.172.121.236 X: TicketID:080141 ]

ความคิดเห็นที่ 26 วิเคราะห์ได้ดีครับ แต่ผมไม่เห็นด้วยก็ตรงควบคุมสื่อ...อันนี้ถ้าไม่ใช่มีสื่อสะท้อนปัญหาภาคใต้ผมว่าคนไทยคงโดนต้มจนเปื่อย ผมเห็นด้วยว่ารัฐบาลกำลังใช้วิธีการส้รางแนวทางชาตินิยมจอมปลอมขึ้นมา เพื่อผลทางการเมืองซึ่งได้ผล เป็นการเบนเป้าเพื่อกลบเกลือนความผิดพลาดของรัฐบาลเองได้แนบเนียน และได้ผลทางการเมืองสูงมาก และนี่คือการกลับมาของพวกขวาจัดอีกครั้ง รัฐบาลได้คะแนนนิยมทางการเมืองนะครับ แต่หลังเลือกตั้งอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ? เพราะต่อให้พับนกมากมายขนาดไหนมันไม่สามารถรักษาเยียวยาแผลใจของพี่น้องมุสลิมที่ถูกกระทำย่ำยีจากรัฐบาลทักษิณได้หรอก ผมว่าตราบใดที่นายกฯยังชื่อทักษิณปัญหาภาคใต้ไม่มีทางจะดับลงได้ง่ายๆ เพราะทักษิณคือตัวการสำคัญในการขยายความุรนแรงของปัญหา อาจจะเป็นเพราะท่านคงคิดว่าท่านเป็นผู้วิเศษ เลยไม่ยอมฟังเสียงใคร แต่บังเอิญท่านเป็นพวกหน้าหนา เลยไม่ได้เห็นความรับผิดชอบจากคุณทักษิณ นอกจากเบี่ยงประเด็นเพื่อผลทางการเมือง สร้างแนวคิดชาตินิยมจอมปลอมขึ้นมา แต่สายไปแล้วต๋อย สายไปแล้วจริงๆครับคุณทักษิณ ชนะเลือกตั้งเพื่อที่คุณจะแพ้ภัยตัวเองแบบย่อยยับ เฮ้อ.. กรรมใดใครก่อแล้วกันครับ จากคุณ : ... - [ 29 พ.ย. 47 19:55:01 A:203.152.62.134 X: TicketID:079994 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตอบ #18 คุณเองก็คงเป็นคนในพื้นที่ จริงๆ ถ้ารัฐจับทิศจับทางถูกตั้งแต่ต้น ปัญหาคงไม่บานปลายมาจนถึงทุกวันนี้ และการแก้ก็คงไม่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานเหมือนอย่างตอนนี้ พวกก่อการซึ่งเราไม่รู้ว่าเป็นใคร เป็นผู้จุด ด้วยความตระหนกและไม่รู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น การแก้ของรัฐหลายเดือนที่ผ่านมากลับกลายเป็นการซ้ำเติมปัญหา จากคุณ : ขาประจำราชดำเนิน - [ 29 พ.ย. 47 20:01:44 A:203.172.121.245 X: TicketID:080141 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มีส่วนถูกครับแต่ไม่น่าใช่ ภาพรวมทั้งหมด ค่อนข้างเห็นด้วยว่าความไม่แม่นในฐานข้อมูล และการมองภาพรวมของปัญหาไม่ครบถ้วนของรัฐบาล ทำให้เกิดการตั้งสมมุติฐาน จนถึงการประมวลผลไปยังการตอบโจทย์ที่ผิด เรื่องการเมืองแค่ส่วนหนึ่งไม่ใช่ตัวแปลหลักอย่างที่คุณพยายามนำเสนอ โดยเฉพาะยกแนวคิดการวิเคราะห์ของคุณสนธิ จริงๆเห็นด้วยส่วนหนึ่งแต่ให้น้ำหนักไม่ถึงครึ่ง? แต่ผมค่อนข้างไม่เห็นด้วยเรื่องแนวคิด การยกสถานะแนวคิดแยกดินแดนให้เป็นรูปเป็นร่างขนาดนั้น เพียงแค่ผู้หญิงตั้งครรภ์ แพ้ท้องอารมณ์ฉุนเฉียวคนหนึ่ง ยังไม่มีรูปธรรมที่ชัดเจน แต่อ้างว่ากำลังเตรียมคลอด"บังน้อยรัฐอิสลามบริสุทธิ์" กับแนวคิดคุณสนธิที่จะยกบ้านออกเรือนให้มันนั้น ผมคิดว่ามันค้านกับ โครงสร้าง ระบบปกครองแบบรัฐเดี่ยวของไทยมาก ชนิดต้องรื้อใหม่ทั้งระบบ เพื่อการนี้ เรื่องใหญ่มาก และเพราะเป้าหมายจริงๆของการแยกดินแดนคือ แบบไต้หวัน หรือสิงคโปร์(แยกจากมาเลฯไปเลย) ไม่ใช้เขตปกครองพิเศษ ผมคิดว่าเมื่อเราให้แบบแนวคิดคุณสนธิ(แน่นอนต้องไฟ้ต์กับโครงสร้างแบบรัฐเดียวแบบไทยแน่นอนต้องรื้อใหม่และรื้อใหญ่รื้อยาวแน่) ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เรายอมได้ประณีประณอมได้แค่ระดับ เขตปกครองพิเศษ แบบพัทยา ที่ออกกฎกติกาพิเศษเล็กๆบางอย่างเป็นของตัวเองได้ แต่ผมว่าไม่จบแค่นั้นเพราะเป้าหมายเขาไม่ใช่ตรงนั้น และที่สำคัญ อุดมการณ์แยกดินแดนอาจจะไม่ใช่ หุ้นส่วนสำคัญในการลงมือก่อการร้าย หรือพูดง่ายๆอาจจะเป็นหุ้นลมด้วยซ้ำ แต่ถูกอ้างและพูดถึงมากที่สุด แล้วประธาน ผู้บริหารการก่อการร้ายที่หวังผลแอบแฝงแบบอื่นๆ เขาจะยอม ยกประโยชน์ให้กับผู้ที่เป็นหุ้นส่วนลมๆ เหรอ ? หรือถ้ายกให้ไปเขาก็หมดประโยชน์กับข้ออ้างหรือเงื่อนไขแบบนั้น(ผมเชื่อว่าอุดมการณ์แยกดินแดนมีจริงแต่ยังขาดความเป็นรูปธรรมจนมีสถานะแค่เป็นหุ้นลม) ก็สังเกตุสิ จนป่านนี้ยังหาตัวตนที่แท้จริงไม่เจอ(พ่อในท้องก็ยังไม่รู้แค่ลือๆกัน) ผมยังเห็นว่าเป็นอุดมการณ์แยกดินแดนที่วิตถารที่สุดในโลก? ส่วนศ.อ.บ.ต ที่คุณพูดถึงนั้นผมพูดไปหลายครั้งแล้วขี้เกียจพูดซ้ำ แต่ผมคิดว่ามันมากกว่าที่คุณนำเสนอนั้นก็คือการมีแนวคิดที่จะเอา CEO (ก็คือรวมศูนย์ไปบวกกับโครงสร้างการรวมศูนย์อำนาจแบบแนวคิดรัฐนิยม) มันจึงเป็นแรงบวกกำลังสองในการไปกดทับ หรือใส่อะไร?ที่ไม่ใช่ กับอัตลักษณ์ ที่เป็นเฉพาะตัวแต่ขาดความยืดหยุ่นบนความต่างแบบนั้น ซึ่งเดิมมันก็มีการต่อต้านสะสมมายาวนานแล้ว กับการที่เราเอาระบบโครงสร้างแบบรัฐเดี่ยว หรือรัฐนิยม ไปครอบงำเชิงโครงสร้าง กับอัตลักษณ์หรือพื้นที่พิเศษแบบนั้น ที่พอดีกับ การยกเลิกศ.อ.บ.ต(จริงก็ไม่ใช่ว่าจะตอบโจทย์พื้นที่ได้ถูกต้อง แต่มีโครงสร้างอำนาจนิยมแบบรัฐนิยมเข้าไปฝังตัวในพื้นที่จนแนวคิดแยกดินแดน ไม่กล้าขยายผล แต่ความต่อต้านยังอยู่) การแนวคิดส่งCEO ลงไปที่เป็นการตอบโจทย์แบบคิดใหม่ทำใหม่ แต่ขาดการทดแทนที่เหมาะสมนั้นก็ส่วนหนึ่งของการความไม่สงบที่สบโอกาส พอดี บวกกระแสโลกกับเหตุการณ์ที่ตะวันออกกลาง รวมไปถึงการสร้างเงื่อนไขการวางตัวไม่บัลล้านซ์ ระหว่างขั่วมุสลิม กับอเมริกาของไทย ที่มันช่วยเติมเชื้อเติมเงื่อนไขลงไปในพื้นที่ที่พอดี เกิดสูญากาศอำนาจรัฐ จากการยกเลิก ศอบต ผมเชื่อว่าศอบต ก็ไม่ใช่การตอบโจทย์ที่ถูกต้องของพื้นที่ เพราะนั้นคือตัวแทนอำนาจรัฐตามแนวคิดหรือโครงสร้างแบบรัฐเดียวหรือรัฐนิยม หรือเติมสิ่งที่ไม่ใช่ลงไปในพื้นที่โดยใช้อำนาจรับลงไปกดทับความไม่พอใจหรือการต่อต้านอำนาจรัฐนั้นไว้ กับข้อหาข้าราชการรังแกประชาชนจึงถุกฝังหัวลงไปในยีนส์ดีเอ็นเอจากรุ่นสู้รุ่นของคนในพื้นที่นั้น ผมจึงเชื่อว่าปัญหาระดับรากจริงๆคืออัตลักษณ์วัฒนธรรมของพื้นที่นั้นผ่านประวัติศาสตร์มายาวนานแต่เป็นเฉพาะตัวชัดเจนเกินไปไม่สอดคล้องหรือขาดความประณีประณอม กับแนวคิดแบบรัฐเดียวหรือรัฐนิยม เพราะแนวคิดแบบนี้จะใส่สิ่งที่เป็นกติกากลาง หรือกติการวมที่ถูกคิดจากส่วนกลางลงไปหาพื้นที่ซึ่งบางทีก็ไม่ใช่ไม่สอดคล้องวัฒนธรรมแบบนั้น มันจึงสะสมการต่อต้านในพื้นที่ จนหมักหมมมายาวนาน จนได้เวลาลมฟ้าอากาศ กระแสโลกบวกการสบโอกาสจากช่องว่างแบบนี้เป็นใจขยายผลไปถึงการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่หรือแยกดินแดนจนพัฒนาการ เลยเถิดจากอุดมการณ์แยกดินแดนที่บริสุทธิที่โยงไปไกลถึงการดึงการก่อการร้ายในภูมิภาค หรืออาจจะถึงสากลจนมันเลยเถิดไปกันใหญ่ ซึ่งสวนทางกับแนวคิด แบบรัฐเดียวของเราที่ส่งลงไปตอบโจทย์ตรงนั้น ด้วยการใส่แนวคิดสมมุติฐานจากส่วนกลางลงไป ตามหลักคิดวิธีคิดแบบรัฐนิยมจนถึงชาตินิยมตามกระแสขณะนี้นั้นแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของความคิดความเชื่อที่สวนทางกัน จุดจบของปัญหานี้จะอยู่ตรงไหน?(พูดไปเดี๋ยวยาวอีก???) จากคุณ : ตอม - [ 29 พ.ย. 47 22:15:40 A:61.90.55.54 X: TicketID:001922 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ้อที่สำคัญพัฒนาการที่สวนทางกันแบบนั้น มันจะเลยเถิดไปไกลกว่าการแยกดินแดนแล้ว เพราะมันจะดึงไปสู่การก่อการร้ายสากล เลยเถิดกันไปใหญ่แล้ว??? จากคุณ : ตอม - [ 29 พ.ย. 47 22:23:15 A:61.90.55.54 X: TicketID:001922 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มันกำลังแกล้งทำว่าท้อง เพื่อหาโอกาสอ้างกินของสยดสยองเยี่ยงปอบ? แต่มันคงไม่ยอมออกลูกง่ายๆ เพราะจะทำให้มันไม่ได้กินสิ่งเหล่านั้นอีก ...ได้ฟังแล้วหวาดเสียวมากเลยครับ! คุณตอม...ขนลุกกับปีศาจลึกลับตนนี้ จากคุณ : บองหลา - [ 29 พ.ย. 47 22:56:19 A:192.168.0.57 X:203.113.56.75, 203.150.217.117 TicketID:036045 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ดีใจที่มีคนอย่างเจ้าของกระทู้จัง ท่านนายกคงรู้มามั่งอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่ามาล่ะค่ะ แต่ข้อมูลมันเยอะมาหลายทางเลยไม่รู้จะเลือกเชื่อใคร แต่อย่างน้อยก็น่าจะมาอ่านกระทู้นี้นะเผื่อว่าจะได้อะไรเพิ่ม จากคุณ : หุ่นกระป๋อง - [ 30 พ.ย. 47 15:46:07 A:210.246.68.50 X: TicketID:072606 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนเรื่องมาเลฯเกี่ยวกับปัญหาใต้อย่างไร?(อันนี้กระแสยังไหลไปไหลมาอยู่) ผมพูดไว้หลายครั้ง แล้วว่าให้ดูเรื่องนี้ในเชิงโครงสร้าง ผมสรุปง่ายๆในเชิงโครงสร้างของกระแสหลัก กระแสรอง,รองทางบวก,รองทางลบ, จนถึงซ้ายชิดติดขอบ ลงมาถึงพวกที่หลุดกลิ้งตกขอบไปเลย(ก่อการร้ายหัวรุนแรง) ไม่ใช่ให้ไปมองมุสลิมแบบเหมารวมไม่แยกแยะ ถึงแยกออกมาแบบนี้ แต่บนความเป็นมุสลิมเดียวกันที่ไม่มีรัฐชาติประเทศ ( ไม่ใช่ให้ไปมองมุสลิมแบบเหมารวม ถึงแยกออกมาแบบนี้ ) กับบทบาทประเทศที่เคยประกาศจะเป็นประเทศผู้นำมุสลิมโลก กับบทบาทการดูแลเรื่องแบบนี้เขาก็ต้องมี แต่ความเชื่อมโยงแบบปากว่าตาขยิบก็มี เพื่อเงื่อนไขทางการเมืองหรืออื่นๆ เพราะการเมืองกับศาสนาในอิสลามนั้นแทบแยกกันไม่ออกโดยเฉพาะการเอาไปผูกรวมกับคำว่าอัตลักษณ์เดียวกัน? ผมอยากให้ท่านรองเชาวลิต มองเรื่องนี้ ให้ลึกถึงความเชื่อมโยงในหลายๆมิติกว่านั้น ก่อนที่จะออกมาบอกว่าเรื่องนี้เลอะเถอะ จนดร็อบเรื่องแบบนี้ไว้ สมัยยังดูแลอยู่? จนเหตุการณ์ตากใบ อีกกระแสมาล้มทับหรือไหลมากลบ แนวคิดท่านไปไล่ขวิดกับมาเลฯ อีกนั้นแหล่ะพอมีบางข้อมูลเข้ามา ก็จะไหลกลับไปที่ข้อมูลท่านเชาวลิตใหม่ อีกแบบทิ้งปัญหาไว้ จนละเลยข้อมูลรายละเอียดบางอย่างลงไปในฐานข้อมูลในเชิงยุทธศาสตร์ความมั่นคงของประเทศ ผมไม่ได้หมายความว่าให้ระแวงใคร?แต่ต้องให้รู้เขามากกว่าหรือเท่ากับเขารู้เรา และรู้ให้จริงทุกมิติด้วย? ไม่ใช่หยิบเอาข้อมูลส่วนเดียวมาขยายผลเป็นยุทธศาสตร์รวมแบบหมกปัญหาบนฐานข้อมูลอื่นๆไว้ แต่ถ้าเรารู้ข้อมูลทุกด้าน การประมวลผลจนไปถึงการบริหารจัดการกับข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์ที่จะให้ผลทั้งทางป้องกันและก็เชิงรุกที่ถูกต้องต่อปัญหา จากคุณ : ตอม - [ 1 ธ.ค. 47 11:16:25 A:61.90.55.174 X: TicketID:001922 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อย่าส้รางแค่ภาพควรส้ารความเข้าใจด้วยกล้าตัดคนไม่ดีไม่ใช่คิดเอาแต่คะแนนเสียงชัยชนะการชนะคือการทำให้ใต้สงบ จากคุณ : ฌามา - [ 1 ธ.ค. 47 13:50:51 ]