ความคิดเห็นที่ 1
*** ข่าวประกอบกระทู้แสดงความคิดเห็น ***
................................................................
(สรุปข่าวจาก น.ส.พ. แนวหน้า วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 )
///*** ตบโบนัสขึ้นเงินเดือนสส.-สว. ฟาดบำเหน็จบำนาญเละเทะ/ผลาญทิ้งทวนฉลองครบ4ปี ***///
รัฐบาลเถ้าแก่ใหญ่ผลาญงบฯ ทิ้งทวนฉลองปิดสมัยประชุมสภาฯอยู่ครบ 4 ปี ออกพระราชกฤษฎีกาขึ้นเงิน เดือนส.ส.-ส.ว.ทั้งระบบสมัยหน้าอีก 80% แถมฟาดบำเหน็จบำนาญกันถ้วนหน้าให้มีผลย้อนหลัง ตั้งเดือนตุลาคม 2540
***อ้างให้สอดคล้องกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าจะ สร้างภาระให้คลังเท่าไหร่ ***
นายต่อพงษ์ ไชยสาสน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ร่าง พ.ร.ฎ. เงินประจำตำแหน่งของประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธาน และ รองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมา ชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พ.ศ.... ดังนี้
1.ปรับขึ้นอัตราเงินประจำตำแหน่งให้ประธานสภาฯ เป็น 65,920 บาท (เดิม 63,000 บาท) และปรับอัตราเงินเพิ่มเป็น 50,000 บาท (เดิม 45,500 บาท) รวมได้รับเงินเดือนทั้ง สิ้น 115,920 บาท (เดิม 114,000 บาท) ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับเงินเดือนของนายกรัฐมนตรี
2. ปรับขึ้นอัตราเงินเดือนให้ประธานวุฒิสภาเป็น 64,890 บาท (เดิม 63,000 บาท) คง อัตราเงินเพิ่มไว้ที่ 45,500 บาท รวมได้รับเงินเดือน 110,390 บาท (เดิม 108,500 บาท)
3. ปรับอัตราเงินประจำตำแหน่งรองประธานสภาฯ และรองประธานวุฒิสภา เป็น 63,860 บาท (เดิม 62,000 บาท) คงอัตราเงินเพิ่มไว้ที่ 42,500 บาท รวมได้รับเงินเดือน 106,360 บาท (เดิม 104,500 บาท)
4. ปรับอัตราเงินประจำตำแหน่งส.ส. และส.ว. เป็น 62,000 บาท (เดิม 38,500 บาท) และปรับอัตราเงินเพิ่มเป็น 42,330 บาท (เดิม 38,500 บาท) รวมได้รับเงินเดือน 104,330 บาท (เดิม 77,000 บาท) ซึ่งถือเป็นอัตราที่มากกว่ารัฐมนตรีช่วย
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบในร่าง พ.ร.ฎ. บำเหน็จบำนาญ หรือประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น ของประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธาน และรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่าย ค้านในสภาผู้แทนราษฎร และส.ส.-ส.ว. พ.ศ....
โดยกำหนดสูตรบำเหน็จบำนาญ ดังนี้ ผู้เป็นสมาชิกภาพ ส.ส. และ ส.ว. 2-3 ปี ให้ได้รับบำเหน็จหรือบำนาญ ร้อยละ 20 ของเงินเดือน
เป็นสมาชิกภาพ 3-7 ปี ได้รับร้อยละ 30
เป็นสมาชิกภาพ 7-11 ปี ได้รับร้อยละ 40
เป็นสมาชิกภาพ 11-15 ปี ได้รับร้อยละ 50
เป็นสมาชิกภาพ 15-20 ปี ได้รับร้อยละ 60
เป็นสมาชิกภาพตั้ง แต่ 20 ปีขึ้นไปให้ได้รับร้อยละ 70
"ทั้งนี้ กฎหมายค่าตอบแทนจะให้มีผลหลังจากมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งในส่วน ของส.ส.จะมีผลในสมัยหน้า ส่วนส.ว.ซึ่งยังอยู่ในวาระจะมีผลทันทีเมื่อมีการประกาศใช้ ขณะที่กฎหมายบำเหน็จบำนาญ ให้มีผลย้อนหลังแก่บุคคลที่เป็น ส.ส. และ ส.ว. ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2540 ซึ่งเป็นวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว "นายต่อพงษ์ กล่าว
สำหรับสาเหตุที่รัฐบาลตัดสินใจปรับขึ้นเงินเดือนให้แก่ ส.ส. และ ส.ว. นั้นนายต่อพงษ์ กล่าว ว่า
*******เพราะต้องการสร้างขวัญ และกำลังใจให้เกิดขึ้นกับกลุ่มคนดังกล่าว ในเมื่อวันนี้ ส.ส. และ ส.ว. มีสถานภาพเป็นผู้แทนของประชาชน ต้องทำงานเพื่อชาติ ดังนั้น หากเปรียบเทียบผลงานที่คน ทั้ง 700 คน ทุ่มเททำ กับตัวเงินที่หลวงต้องจ่ายเพิ่ม ยังถือว่าน้อยเกินไปด้วยซ้ำ******
"ยอมรับว่ารัฐบาลพิจารณาปรับขึ้นค่าตอบแทนให้แก่กลุ่มบุคคลดังกล่าวล่าช้า เพราะต้องรอนโยบายการปรับขึ้นเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ นอกจากนี้ ยังต้องรอตัวเลขเงินเพิ่ม และเงินประจำ ตำแหน่งที่ถูกต้อง เนื่องจากข้อมูลของกระทรวงการคลัง และสภาฯ ยังแตกต่างกัน ตลอดจนรอสูตร การคิดบำเหน็จบำนาญย้อนหลังของกระทรวงการคลัง" นายต่อพงษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายต่อพงษ์ยอมรับว่า รัฐบาลไม่ได้ประเมินว่า เมื่อปรับขึ้นเงินเดือนให้ ส.ส. และ ส.ว. แล้ว จะสร้างภาระทางการคลังเท่าไร เพราะยังไม่ทราบจำนวนผู้ที่จะได้รับ อานิสงส์ที่แน่นอน แต่ถ้าคำนวณรายได้ของประเทศแล้ว คิดว่าน่าจะรับไหว ขณะนี้ประเทศกำลังเน้นการพัฒนา บุคลากร ดังนั้น จึงไม่ต้องการให้มองที่วัตถุ และว่า
*** เมื่อปรับเพิ่มเงินเดือนแล้ว ส.ส. และ ส.ว. จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มกว่า 80% จากเดิม 38,500 บาท เป็น 62,000 บาท ***
ด้าน นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
*** สาเหตุที่รัฐบาลขึ้นค่าตอบ แทนให้แก่นักการเมือง ก็เพราะต้องการล้างภาพการทุจริตคอร์รัปชั่น ความลักลั่นต่างๆ จึงต้องได้ รับการแก้ไขและไม่ต้องการให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน จึงต้องมีการกวาดล้างขนานใหญ่ ***
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการปรับเงินเดือนครั้งนี้ จะทำให้ประธานรัฐสภา เทียบเท่ากับ นายกรัฐมนตรี และทำให้เงินเดือนฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ มีเงินเดือนเท่ากัน ขณะที่ ส.ส. และ ส.ว.จะมีเงินเดือนใหม่เทียบเท่ารัฐมนตรีช่วยว่าการฯ
นายวัฒนา เซ่งไพเราะ ส.ส.กทม. และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักไทย กล่าว เห็นด้วยที่ครม.อนุมัติขึ้นเงินเดือนผู้แทนประชาชน และน่าจะขึ้นก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำเพราะที่ผ่าน มาผู้แทนทุกคนทำงานหนัก
ค่ำวันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ครม.ไปร่วมงานเลี้ยงกับสมา ชิกวุฒิสภาก่อนที่จะปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ที่อาคารรัฐสภา 2 โดยทั้งนายกฯและ สุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา ต่างขอบคุณซึ่งกันและกัน
***ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประกาศต่อ กับส.ว.ได้จัดการเงินค่าตอบแทนให้แล้ว และบอกขออภัยบางครั้งถ้าทำให้วุฒิสภาไม่สบายใจ และ เที่ยวหน้าจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีก ***
................................................................
จากคุณ :
PANTIP CREW
- [
24 พ.ย. 47 10:39:10
]
|
|
|