หลังจากข่าวที่น่ายินดีของวงการเกมไทยปรากฏสู่สายตาประชาชนทั่ว ประเทศไปเมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) เกี่ยวกับ “4 มาตรการพิชิตเด็กติดเกม” ที่คณะรัฐมนตรีมีคำสั่งฟ้าผ่าเห็นชอบในข้อเสนอการควบคุมเกมออนไ ลน์อย่างเป็นรูปธรรมออกมาอีกรอบ ส่งผลให้หลายคนตั้งคำถามและจินตนาการไปต่างๆนานาว่า ต่อไปคงได้เห็นอะไรดีๆแน่
     
      สำหรับ 4 มาตรการที่ว่านั้น ถ้าใครไม่ทราบว่ามันมีอะไรบ้าง จะขอยกมาให้อ่านกันอีกรอบเพื่อที่จะได้ลองใช้สมองครุ่นคิดตามไป ด้วยว่ามันแก้ได้จริงหรือเปล่า? ได้แก่ การจำกัดชั่วโมงการเล่นเกมออนไลน์ของเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้เล่นไม่เกินวันละ 3 ชั่วโมง ,ห้ามเล่นการพนัน ชิงโชค หรือซื้อขายอุปกรณ์, ออกระเบียบเกี่ยวกับการจดทะเบียนร้านอินเทอร์เน็ตเพื่อกำกับดูแ ลการให้บริการ และรณรงค์ให้เยาวชนและผู้ปกครองทราบโทษของการเล่นเกมออนไลน์ที่ ติดต่อกันเป็นเวลานาน
     
      ใน 4 ข้อห้ามดังกล่าวที่ถูกร่างออกมาอย่างคร่าวๆนั้น หากจะตีความในแง่ดีมันก็ดีสำหรับเด็กแน่นอน 100 % เพราะจะได้ไม่ต้องมาหลงใหลมนต์ในเสน่ห์ของเกมออนไลน์นานเกินควา มจำเป็น จากเดิมที่เคยกำหนดให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมออนไลน์ได้แค่ 4 ทุ่ม เปลี่ยนมาเป็นเล่นได้คนละ 3 ชั่วโมงเท่านั้น อันนี้ขอสนับสนุนเต็มที่ (ถ้าทำได้จริง) เพราะเด็กสมัยนี้ส่วนหนึ่งขาดความรับผิดชอบต่อชีวิตตนเอง คือ ยังไม่รู้จักคิดและแยกแยะความพอดีของชีวิต


      ปัญหาทั้งหมดเกิดจาก “ผู้ปกครอง”
     
      ปัญหาส่วนหนึ่งที่ท ำให้เป็นแบบนั้น ทุกคนก็คงทราบกันดีว่าเกิดจาก “พ่อแม่ ผู้ปกครอง” แทบทั้งหมดไม่ต้องไปโทษเกม โทษเด็ก หรือหาแพะไปเรื่อยๆ คุณเองต่างหากที่ขาดการดูแลเอาใจใส่ มักปล่อยให้ลูกอยู่กับบ้านคนเดียว แล้วเมื่อเด็กไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ไม่ใครให้คำปรึกษา ก็ต้องหาเพื่อนแก้เหงาที่ทำให้เขาปลดปล่อยจินตนาการได้เต็มที่ นั้นก็คือ “เกม” หรือที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คงเป็น “ยาเสพย์ติด”
     
      แล้วก็แปลกที่พ่อแม ่สมัยนี้ส่วนหนึ่งคิดว่า “เด็กติดเกม ดีกว่าเด็กติดยา” เลยซื้อเครื่องเล่นเกมนานาชนิดประเคนให้ลูก เพื่อหวังว่าลูกจะได้ไม่มากวนใจเรา เพราะเราต้องออกไปทำมาหากิน หรือไม่ก็ ทิ้งเงินไว้ให้ลูกเยอะๆ ยามที่ไม่อยู่บ้าน ลูกจะได้ไม่หิว แต่อย่าลืมว่า “นี่..คือความสะเพร่า อย่างจงใจที่คุณทำกับลูกตัวเอง เมื่อเขาไม่คุณไม่ทำให้เขาติด เขาจึงไปติดเกมแทน” เพราะเกมสมัยนี้มีทั้งเพื่อน ทั้งความสนุก อยู่ในโลกเสมือนที่สมจริงกว่าโลกปัจจุบัน
     
       เกมไม่ได้เป็นสิ่งชั่วร้ายที่ผ่านเข้าในชีวิตที่พ่อแม่ทุกคนจะต ้องหวาดกลัว เกมมีประโยชน์ในจุดที่มันเป็น เกมเป็นสิ่งแรกที่ชักจูงเด็กให้สนใจคอมพิวเตอร์ จนสร้างโปรแกรมเมอร์เก่งๆ สร้างนักพัฒนาซอฟท์แวร์ ฮาร์ดแวร์สุดไฮเทคที่เราเห็นในปัจจุบันก็มีถมไป เพียงแต่พ่อแม่ใช้มันไม่ถูกจุด หาเวลานักเล่นเกมไปพร้อมๆกับลูกบ้าง สอนให้เขาค้นหาคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่อยู่ภายใน หรือตนเองอาจจะต้องฝึกเล่นเกมให้เก่งก่อน จากนั้นค่อยไปสอนกลยุทธ์ วิธีคิดในการเอาชนะ หรือแก้ปริศนาต่างๆ ให้เขา
     
      ทั้งนี้ คุณควรเป็นผู้เลือกเกมให้ลูกว่าเกมใดเหมาะสม ไม่ใช่..ลูกชี้นิ้วจะเอาเกมนั้นเกมนี้คุณก็ให้หมด เพราะเกมสมัยนี้มีหลากหลายทั้งใสๆและรุนแรงป่าเถื่อน อีกอย่างหนึ่งที่ลืมไม่ได้ ก็คือ พ่อแม่ควรศึกษาข่าวคราวของเกมต่างๆไว้บ้าง จะได้ไม่ตกยุคและตามเด็กได้ทัน ปัจจุบันเด็กๆก็เลยเหมาเอาว่า “พ่อแม่ไม่รู้ประสีประสาหรอก..เรื่องเกม เราเจ๋งกว่า” มันก็เหมือนกับตอนคุณเป็นเด็กนั้นแหละที่แอบดูหนังโป๊ เพราะคิดว่าพ่อแม่ไม่รู้
     
     



      เกมออฟไลน์ ทางเลือกที่น่ากลัวกว่า
     
      ส่วนประเด็นที่ว่า ห้ามเด็กต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมได้แค่ 3 ชั่วโมง นั้น เท่าที่ทราบเด็กจำนวนหนึ่งบอกว่า ตอนที่กำหนดให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเล่นได้แค่ 4 ทุ่ม นั้น เขาใช้ “ลูกอ้อน” มาแก้ปัญหา ด้วยการอ้อนวอนให้พี่ที่อายุเกิน 18 ปี สมัครให้แทน เพราะพี่เขาคงไม่เล่นเกมออนไลน์เกือบ 30 เกมที่มีอยู่ในปัจจุบัน หรือไม่ก็เอาไอดีพี่มาเล่นแทนซะเลย รวมถึงพ่อแม่บางคนที่ใจดี ใจอ่อนตามใจลูก อันนี้คงมีเล็ดลอดมาบ้าง หากคนในครอบครัวไม่รับผิดชอบซะเอง คงไม่ต้องไปโทษใครได้
     
      แต่เมื่อถามกลับไปอ ีกว่าข้อห้าม 3 ชั่วโมงอันนี้ ครอบคลุมไปถึงเกมออฟไลน์ และเกมคอนโซลที่ไม่ต้องพึ่งเซิร์ฟเวอร์เหมือนเกมออนไลน์ ตามร้านเกมทั่วไปหรือไม่ เพราะเมื่อเด็กเล่นเกมออนไลน์ไม่ได้ เขาคงเบนเข็มไปเล่นเกมเหล่านั้นชดเชยแทน ประเด็นนี้คงสร้างความปวดกบาลให้ท่านอีกรอบแน่นอน เกมประเภทนี่ซิที่น่ากลัวกว่าเกมออนไลน์เป็นไหนๆ เพราะเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีกฏเหล็กมาล้อมกรอบ
     
      ถ้าคิดจะแก้ปัญหาใน อีกขั้นตอนให้สำเร็จแบบง่ายๆ แต่ยุ่งยากชะมัด ก็คือ ต้องควบคุมไปที่ร้านอินเทอร์เน็ต/เกมให้เด็กแสดงบัตรประชาชนว่า อายุเกิน เหมือนไปเที่ยวสถานเริงรมย์ยังไงยังงั้น ใครอายุไม่ถึงเล่นเกมทุกชนิดได้แค่ 3 ชั่วโมง พร้อมจดชื่อไว้เป็นหลักฐาน เมื่อครบ 3 ชั่งโมงก็ต้องเชิญออกจากร้านในทันที ห้ามอ้อนเด็ดขาด ...จะเห็นได้ว่าในทางปฏิบัติจริงๆคงทำไม่ได้แน่นอน ยกเว้นร้านอินเทอร์เน็ต/เกมมีจิตสำนึกและจรรยาบรรณที่ดีทั่วประ เทศให้ความร่วมมือ แต่ถามหน่อยเถอะว่า...ร้านใครบ้างที่ไม่ปรารถนาในเงินทอง
     
      ถ้าคิดเลวร้ายไปกว่ านั้นอีก เมื่อเด็กเล่นเกมออฟไลน์ และเกมคอนโซล จากร้านใดร้านหนึ่งไปแล้ว เกิดอยากเล่นต่อขึ้นมาล่ะ เขาก็จะต้องตระเวนไปหาร้านอื่นเล่นอีกอยู่ดี ทางแก้ให้เด็ดขาด จะต้องถึงขั้นสร้างเครื่องตอกบัตร หรือสแกนลายนิ้วมือ ส่งข้อมูลผ่านออนไลน์ไปร้านเกมทั่วประเทศเลยหรอกหรือ...? อันนี้ดูจะโอเวอร์รีแอคมากเกินไปหน่อย แต่พูดไปเพราะประชดแทบทั้งนั้น ทางแก้ที่ชะงัดและอยู่หมัดคงขึ้นอยู่กับ “ตัวผู้ปกครอง” และ “ตัวเด็ก” ที่ต่างฝ่ายต่างต้องมี “วินัย” และ “จิตสำนึก” ในตัวเอง
     
      นอกจากนี้ ผู้อ่านท่านหนึ่งได้เสนอความเห็นว่า อยากให้ทำ “ดาต้าเบส” ส่วนกลาง ร่วมกันทุกเกม และคนทุกคนมีไอดีสำหรับทุกเกมในประเทศ เช่น ใช้ไอดีของบัตรประชาชน เป็นไอดีเล่นเกม มีกันเกมละ 1 ไอดี ไม่ว่าล็อกอินเข้าเกมไหน ก็มีบันทึกในดาต้าเบสส่วนกลาง ตรวจสอบได้ว่าวันหนึ่งเล่นไปกี่ชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่เกินกำหนดเรื่องเวลา จำนวนชั่วโมง และอายุแล้ว ค่อยบายพาสไปยังเกมที่เล่น จากนั้นระบบกลางจะแจ้งไปยังเกมให้ตัดผู้เล่นออก หากเกินเวลาอีกครั้ง เท่านี้ก็สามารถป้องกันการเล่นเกมมากเกินไปได้
     
      ฟิวโทรถูกหวยรางวัลที่ 1
     
      มาถึงประเด็นปัญหาว ุ่นๆ ที่ดุจดังมรสุมลูกใหญ่ของเจ้าของธุรกิจเกมออนไลน์ (ผู้ใหญ่) ที่วาดฝันบนอากาศไว้ว่าจะเข้ามากอบโกยเงินผู้บริโภค (เด็ก) งานนี้คงต้องกลับไปนอนก่ายหน้าผากเถิกๆให้เถิกขึ้นไปอีกเท่าตัว เพราะข้อบังคับที่ว่า “ห้ามเล่นการพนัน ชิงโชค หรือซื้อขายอุปกรณ์” เราเลยตีความไปในแบบกว้างๆ ออกมา จนข้อห้ามดังกล่าวส่งผลให้หวยรางวัลที่ 1 ไปออกที่บริษัท “ฟิวโทร” ผู้ให้บริการเกมเต็มๆ ที่ยึดหลักการตลาดที่ว่าทุกเกมจะไม่เก็บค่าบริการรายเดือน แต่จะให้ซื้อขายไอเท็มแทน มีรายนามเกมดังนี้ ฟอร์เทรส 2,เซีย และ 9WIN ซึ่งเกมอันหลังสุดนี่เข้าข่ายการพนันชัดเจน เพราะใช้หลักการเล่นไพ่ “ป๊อกเด้ง” มาดึงดูด
     
      ส่วนเกม “กันบาวด์” ของบริษัทเอเชียซอฟท์ อินเตอร์เนชั่นแนล และ Survivor Project ของบริษัทสยามอินฟินิท ที่ใช้การซื้อขายไอเท็มเช่นเดียวกับ “ฟิวโทร” ก็คงจะโดนหางเลขตามไปด้วย
      และในข้อห้ามที่บอก ว่า "ห้ามชิงโชค” ภายในเกม งานนี้เกม “R.Y.L” ของบริษัทวินเนอร์ออนไลน์ คงเป็นตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่สุดเพราะมีการแจกเงินสดระหว่าง เล่นเกม นอกจากนี้ **คำว่าห้ามชิงโชคนั้น จะรวมถึงการจัดกิจกรรมชิงรางวัลใหญ่ๆของบริษัทเกมที่นิยมทำกันห รือไม่ อันนี้คงต้องไปดูรายละเอียดของกฎกระทรวงที่จะออกโดยกระทรวงมหาด ไทยอีกที
     
      ขอยกเอาความเห็นที่ผู้อ่านในเว็บไซต์เปิดมุมมองอีกแบบหนึ่ง ค่อนขอดได้แสบๆคันๆ มาปิดท้ายกันว่า “อย่าลืม ห้ามคุยมือถือเกินวันละ 3 ชั่วโมง เพราะทำให้ปวดหัว จริงๆ ” เลยอยากเพิ่มเติมให้อีกสักนิดว่า เด็กบางคนหรือผู้ใหญ่บางท่านก็คุยโทรศัพท์นานเกินจนไม่เป็นอันท ำอะไร การบ้านไม่ทำ หรืออู้ไม่ทำงาน แถมเปลืองค่าโทรศัพท์อีก แล้วโจทย์ข้อนี้ล่ะ..ใครจะเป็นผู้ตอบ


From : http://www.manager.co.th/Game/ViewNews.aspx?NewsID=947000008 6634