CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ปชป.กับปัญหาคนเดียวบริหาร2พรรค!

    ปชป.กับปัญหาคนเดียวบริหาร2พรรค!

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2547 09:24 น.
    เสนาคาม


    เคยได้ยินแต่คำว่า ประเทศเดียวสองระบบ กรณีของจีนที่ใช้กับเขตปกครองพิเศษเกาะฮ่องกง

    แต่ที่นี่..พรรคประชาธิปัตย์ คนเดียวบริหารสองพรรค!!!

    ฟังดูแล้วก็คงทะแม่งๆ พึลึกพิลั่นอย่างไรชอบกล และคงมีคนตั้งคำถามอยู่ในใจเหมือนกันว่า ผ่านมาถึงวันนี้แล้ว ยังมีอะไรที่ไม่ลงตัวในพรรคการเมืองเก่าแก่พรรคนี้อีกหรือ

    ก่อนหน้านี้เคยมีแต่คนนอกเท่านั้น ที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับสถานะของพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคมหาชน ว่ามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์เชื่อมโยงกันล้ำลึกปานใด ยกเว้นพรรคไทยรักไทย ที่ฟันธงเปรี้ยงว่า การถือกำเนิดของพรรคมหาชน

    ไม่ใช่เรื่องของ แม่น้ำแยกสาย ไผ่แยกกอ

    แต่เป็นเรื่องของการแยกกันเดินรวมกันตี เอากันให้ชัดก็คือ เป็นพรรคสาขาของประชาธิปัตย์ ที่ถูกวางบทบาทไว้ให้เป็นหัวหอกเจาะทะลวงในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน สู้กับพรรคไทยรักไทย ว่ากันอย่างนั้น

    เรื่องของเรื่องเพราะพรรคประชาธิปัตย์มีปัญหา สินค้าค้างแผง ขายไม่ออกในสองพื้นที่ที่ว่า ก็เลยต้องเปลี่ยนมาใช้แบรนด์ใหม่ ใส่เสื้อพรรคมหาชนลงสนามแทน ก็เท่านั้นเอง

    เอาเถอะ นั่นถือว่าเป็นเรื่องของคนนอก ที่สุดแท้แต่จะมองกันไป โดยเฉพาะพรรคไทยรักไทย ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมต้องมองด้วยสายตาที่ไม่บวกอยู่แล้ว

    แต่ปัญหาใหญ่วันนี้คือ คนในพรรคด้วยกันแท้ๆ เริ่มมีความกังขา ตั้งข้อสงสัยพวกกันเองขึ้นบ้างแล้ว ไม่แน่ใจว่าผู้ใหญ่ในพรรคกำลังเล่นละครอะไรกันอยู่

    ทั้งหลายทั้งปวงที่ว่า เริ่มจากคาราวานประชาธิปไตย ที่ถูกตั้งคำถามว่า ทำไมรถทุกคันถึงใช้สติ๊กเกอร์สีแดง เหตุไฉนไม่เป็นสีฟ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพรรค แต่สุดท้ายก็อธิบายความพอก้อมแกล้มผ่านไปได้ว่า

    ทั้งหมดมาจากไอเดียบรรเจิดของเลขาธิการพรรค ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ที่ไม่ต้องการให้ใช้สีฟ้า เพราะเกรงจะไปละม้ายเหมือน กลมกลืนกับรถเมล์ ขส.มก.เข้า แม้จะฟังดูไม่แจ่มนัก แต่ก็ยอมหยวนๆ ปล่อยให้ผ่านกันไปได้

    แต่ที่สาหัสสากรรจ์เวลานี้ คือ ข้อกังขาเรื่องความไม่ชัดเจนด้านการบริหาร นโยบาย รวมทั้ง ทิศทางก้าวย่างแต่ละก้าวของพรรค ซึ่งเสมือนหนึ่งจะมีการรั้งม้ารออะไรสักอย่าง จนปล่อยให้วันคืนผ่านเลยไปวันแล้ววันเล่าอย่างน่าเสียดาย

    รีรอไม่ประกาศตัวผู้สมัครในภาคอีสานให้ชัดเจน จนทำให้คนดีๆ ที่มีโอกาสได้รับเลือกตั้งสูง หลายคนเปลี่ยนใจไปจอดป้ายที่พรรคมหาชนแทน ไม่รู้ว่าเป็นแผนการอะไรของใครหรือไม่?

    เช่นเดียวกับการเลี่ยงไม่ส่งผู้สมัครในพื้นที่เขต 3 จ.พิจิตร ชนกับ ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ พรรคมหาชน ซึ่งเป็นการไว้ไมตรีที่คนในพรรคเองก็ยอมรับว่าอึดอัดไม่น้อย

    หรือแม้แต่นโยบายหลักๆ ของพรรค ที่จะใช้หาเสียงเลือกตั้ง ก็ไม่ได้ผ่านกระบวนคิดของพรรค แต่อยู่ๆ แผ่นพับชุดแรก ก็ถูกนำตัวอย่างออกเผยแพร่ผ่านทางสำนักงานเลขาธิการพรรค ที่มี ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองเลขาธิการพรรค เป็นแม่งาน ซึ่งเป็น ชาญชัย คนเดียวกับที่คุมถุงเงินกองกลางของพรรค

    สรุปก็คือ งานนี้คนที่เคยเป็นเครือข่ายวงศ์วานชิดใกล้กับสายสนามบินน้ำ ซึ่งมีตำแหน่ง และบทบาทสูงอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์เวลานี้ ไล่มาตั้งแต่ บัญญัติ บรรทัดฐาน ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ นิพนธุ์ บุญญามณี ทิวา เงินยวง ไปจนถึง เจือ ราชสีห์ ต่างถูกมองว่า เป็น ร่างทรง และเล่นตามเกมของพรรคมหาชน ซึ่งมี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นตัวจักรสำคัญ จึงทำให้เป็นที่มาของข้อกังขาที่ว่า

    คนเดียวบริหารสองพรรค!

    ส่วนกลุ่มผลัดใบของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ดูจะชกแบบออมแรง ออกหมัดไม่ค่อยเต็มที่นัก ส่วนใหญ่จะเน้นประคองตัวรักษาพื้นที่ตัวเองเสียมากกว่า เพราะไม่อยากออกแรงตีงูให้อีกากิน อะไรทำนองนั้น

    เรื่องราวทั้งมวลที่เกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์เวลานี้ ล้วนอยู่ในสายตาของคนชื่อ ชวน หลีกภัย ทั้งสิ้น แต่มิอาจเข้ามาทำหน้าที่เป็นกาวใจให้ได้ เพราะเขาได้สูญเสียสถานะความเป็นกลางไปอย่างไม่เหลือหรอ ตั้งแต่คราวเลือกตั้งหัวหน้าพรรคที่ผ่านมาแล้ว.

    จากคุณ : 99 - [ 29 พ.ย. 47 11:10:34 A:203.113.40.84 X:203.150.217.113 TicketID:073239 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป