ความคิดเห็นที่ 1 การหมิ่นประมาท การกล่าวหาบุคคลใดบุคคลหนึ่งให้ผู้อื่นได้รับทราบ แม้จะเป็นความจริง และเป็นการกล่าวหาโดยบริสุทธิ์ใจ หากคำกล่าวหานั้นมิได้เป็นประโยชน์ แก่สาธารณะแล้ว ล้วนเป็นกรณีหมิ่นประมาททั้งสิ้น ข้อขัดแย้งที่ต้องหาข้อยุติคือข้อกล่าวหานั้น ๆ เป็นความจริงและเป็น ประโยชน์ต่อสาธารณะหรือไม่ จากคุณ : Away from Thailand - [ 21 ธ.ค. 47 08:54:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ในเรื่องการฟ้องหมิ่นประมาทในทางอาญา กับ ทางแพ่ง จะต่างกันที่ ทางอาญานั้น จะจริงหรือไม่จริง ก็ผิด (คนที่กล่าวหาผิด ) จนมีคำพูดที่ว่า "ยิ่งจริง ยิ่งผิด " ส่วนในทางแพ่งนั้น เป็นเรื่องละเมิด เพราะถ้าไม่เป็นความจริงแล้วมากล่าวหา ก็เข้าข่ายละเมิดครับ...มันต่างกัน ถ้าว่ากันตรงๆซึ่งๆหน้า ไม่เป็นหมิ่นประมาท เป็นดูหมิ่นซึ่งหน้า ถ้าเป็นการพูดกับอีกคน เพื่อให้อีกคนเสียหาย เป็นหมิ่นประมาท เช่น นาย ก. พูดกับ นาย ข. ว่า นาง ค. เป็นเมียน้อย หัวหน้าเราแหงๆ อย่างนี้เป็นหมิ่นประมาท ในทางอาญา ถึงแม้ว่าจะจริงหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าไม่เป็นเรื่องจริง คุณก็มีความผิดทางแพ่ง บวกเข้าไปด้วยอีก นาง ค. เรียกร้องค่าเสียหายได้ เพราะฉะนั้นแล้ว เรื่องของชาวบ้าน ดูได้ แต่ปากอย่าเสีย เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว ปากคุณจะมีค่ามหาศาล (เสียเงินค่าปรับ ค่าเสียหาย ค่าจ้างทนาย..) จากคุณ : ชชนน - [ 21 ธ.ค. 47 09:00:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณที่ตอบคับ ทีนี้ ใครจะไปรู้ว่า สิ่งที่กล่าวหานั้นเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะหรือไม่ ประชาชนเป็นคนบอก หรือ ให้ศาล (แค่คนกลุ่มเดียว) ตัดสิน ใช้อะไรเป็นตัววัด ? ถ้าหากว่าต้องเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนตลอด แบบนี้ ประเทศเราก็ต้องห้ามต่อว่า หรือ ด่ากันสิ จากคุณ : Jackass - [ 21 ธ.ค. 47 09:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ จขกท..โปรดทราบ การที่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะหรือไม่นั้น ต้องดูว่า ถ้าเรื่องนั้นๆเป็นเรื่องจริง จะก่อให้เกิดความเสียหาย หรือเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างไรบ้าง เช่น ถ้ามีคนกล่าวหาว่า คุณเป็นชู้กับเมียชาวบ้านไปทั่ว ไม่เว้นแม้กระทั้ง สาวหรือแก่.. ถ้ามีการพิสูจน์ในเรื่องข้อกล่าวหานี้...คุณว่าเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะหรือไม่ แต่ถ้ามีการกล่าวหาว่า นายอำเภอ แอบไปทำชู้กับเมียชาวบ้าน แต่ทำตัวเป็นว่า เป็นคนดีมีศีลธรรม.. คุณว่าการพิสูจน์ เรื่องนายอำเภอเป็นชู้กับชาวบ้าน กับการที่คุณไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน เรื่องไหน มันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ กว่ากัน... และศาลก็ไม่ให้พิสูจน์เรื่องของคุณ เพราะมันไม่เป็นประโยชน์อย่างแน่นอน แต่ถ้าเป็นเรื่องของนายอำเภอ..ศาลท่านให้พิสูจน์ เพราะถึอว่ามีผลเสียหายต่อทางราชการ และ ทางวินัย.. อย่าคิดอคติกับความยุติธรรมครับ... ถ้าคุณคิดว่าเอาอะไรเป็นตัววัด ผมขอบอกว่า....ความสำคัญไงล่ะครับ... ในเรื่องนี้ ระหว่างคุณ กับ นายอำเภอ ใครสำคัญกว่ากัน..... จากคุณ : ชชนน - [ 21 ธ.ค. 47 09:33:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณ คุณ ชชนน มากคับ ตอนนี้รู้สึกกระจ่างขึ้น จากคุณ : Jackass - [ 21 ธ.ค. 47 09:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณครับ... จากคุณ : Joy.BJ - [ 21 ธ.ค. 47 09:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ครับ ตอบได้ชัดเจนดีครับ.. ขอแถมอีกนิดสำหรับคนที่โดน ทวงเงิน จากบริษัทเงินผ่อนทั้งหลายนะครับ. ที่ ชอบแฟ๊กซ์ มาทวงเงินครับ..อันนั้นก็เข้าข่ายหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ครับ แจ้งตำรวจได้ คดีอาญาครับ.. แล้วถ้าคุณพิสูจน์ได้ว่าไอ้เงินจำนวนนี้คุณจ่ายไปแล้วก่อนที่จะมีการแฟ๊กซ์มาทวง ก็ ฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้อีกครับ... ขออภัยนะครับถ้าเกือบนอกเรื่องไปนิด.. จากคุณ : Cryingman - [ 21 ธ.ค. 47 15:34:44 A:202.133.167.236 X: TicketID:080139 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อาญา มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผ้อื่น ต่อ บุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผูอื่นนั้นเสียหาย ถูกดูหมิ่น หรื่อถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท มาตรา ที่ 330 ในกรณีหมิ่นประมาท ถ้าผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดพิสูจน์ได้ว่าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ แต่ห้ามมิให้พิสูจน์ ถ้าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัวและการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน เรื่องหมิ่นประมาท นี่มีข้อเกี่ยวข้องเยอะครับ ต้องดู ว่า คำพูด ที่กล่าวออกไป จะทำให้ เป็นที่เสียหาย หรือ ถูกเกลียดชัง จากบุคคลอื่นรึปล่าว เช่น ถ้า เรา ด่า นาย จ ว่า ไอ้ จ มันชั่ว มันเลว มัน เจรี้ย หรือ ด่า ซึ่งหน้า ว่า ไอ้ เจรี้ย ไอ้จรวย กรณี อย่างนี้ ไม่ถือ ว่าเป็นการดูหมิ่น แต่ถือว่าเป็นคำด่า ตามปกติ แต่ ถ้า บอกว่าไอ้จ ขโมยของจากร้านทอง อันนี้ ถือว่า เป็นการหมิ่นประมาท แต่ถ้าเป็นเรื่องที่สามารถพิสูจน์ ได้ว่า นายจ ขโมยของจริงก็ จะ ถือว่า ไม่หมิ่นประมาท แต่ ถ้าบอกว่า นาย จ เป็นชู้กับเมียเจ้าของร้านทอง แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ อันนี้ ถือว่าหมิ่นประมาท ซึ่งจะเป็นความจริงที่สามารถพิสูจน์(เป็นจริงหรือไม่ ก็ถือว่าผิด เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว)ได้หรือ ไม่ ก็ ตาม อย่างกรณีของคห ที่ 4 บอกไว้ ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา หรือนายอำเภอ ก็ ถือว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคล ครับ ไม่สามารถที่จะทำการพิสูจน์ได้ เว้นแต่จะนำสืบได้ว่า ถ้าการพิสูจน์ นั้น มีประโยชน์ ต่อประชาชน จากคุณ : 5555 - [ 22 ธ.ค. 47 14:18:06 A:203.113.34.11 X:203.150.217.119 TicketID:078074 ]