ความคิดเห็นที่ 55
3---------------------------------------------------------------------------------------------------- เอาไปก่อนล่วงหน้า เผื่อข่าวหลุด
คอร์รัปชั่นเกลื่อน-ฮั้วประมูลเกร่อภาพแท้ของรัฐบาล"ชวน-คนซื่อ"
..3 ปีที่ประเทศไทยอยู่ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ แทบจะเรียกได้ว่าประเทศสิ้นแล้วซึ่งความหวัง เพราะประชาชนทั้งประเทศต้องตกอยู่ในสภาวะไร้ที่พึ่ง
ประเทศไทยมี ห นี้ สิ น เพิ่มขึ้นสูงสุดในประวัติศาสตร์ มีฐานะเป็นประเทศ ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ราวกับว่ากำลังจะล้มละลาย .. เพราะมีหนี้สินสูงถึง 4,500,000 ล้านบาท เงินคงคลังที่มีอยู่ 260,000 ล้านบาท เหลือไม่ถึง 60,000 ล้านบาท แถมยังก่อหนี้เพิ่มภาระให้กับประชาชนอย่างไม่หยุดหย่อน
ทิ้งทวนด้วยการผ่านกฎหมาย 11 ฉบับ ซึ่งเปรียบเสมือนโซ่ตรวนที่ผูกมัด ให้ประเทศ ต้องตกอยู่ภายใต้ การยึดครองครอบงำของต่างชาติอย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งด้านนิติบัญญัติ ด้านบริหาร และด้านตุลาการ จึงถูกกล่าวหาว่า " รั ฐ บ า ล ข า ย ช า ติ"
ในส่วนภาคธุรกิจ : แทบทุกสาขาของประเทศต้องล้มละลาย กิจการขนาดใหญ่ ถูกต่างชาติยึดครอง ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก ต้องปิดกิจการขาดทุน และ ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ตามปกติ ทำให้เกิดการว่างงานกว่า 3 ล้านคน นักธุรกิจ คนไทยกว่า 5 ล้านคน ห ม ด อ น า ค ต...
ทั้งสิ้นทั้งปวง เกิดขึ้นในด้วย ฝีมือการบริหารของรัฐบาล"มืออาชีพ" ภายใต้ การนำของ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันบรรดารัฐมนตรี ร่วม รัฐบาลหลายคนถูกจับตาว่ามีส่วนพัวพันผลประโยชน์ในการอนุมัติ โครงการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ
สะตอสุดหึ่ง "เทพเทือก" แชมป์
เริ่มกันเบาๆ ที่กระทรวงคมนาคม ภายใต้การควบคุมจัดสรรผลประโยชน์ของ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" อดีตส.ส.ผูกขาดหลายสมัย จ.สุราษฎร์ธานี แม้ว่าครั้งนี้ เขาจะเปลี่ยนใจ มาลงสมัครปาร์ตี้ลิสต์ ทว่าความเป็นตัวตนต่อการบริหารที่ผ่านมา ยากจะหลุดพ้นในเรื่องความไม่โปร่งใส ราวกับว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสัญลักษณ์ ประจำตัวของเขาไปเสียแล้ว
"สปก.4-01" คือผลงานของสุเทพ เมื่อครั้งอดีต ที่สร้างชื่อเสีย(ง) ให้กับ เขา และพรรคประชาธิปัตย์ ยากที่จะลบเลือนไปจากใจของประชาชนได้ นอก จากนี้ยังมี "โครงการเอชดีเอส" ตำนาน "การจัดซื้อเครื่องบินของการบินไทย และถมทรายหนองงูเห่า" อันลื่อลั่นก็เป็นฝีมือของ "เทพเทือก" ทั้งสิ้น
แม้ว่าภายหลังหนองงูเห่า จะเปลี่ยนชื่อมาเป็นสุวรรณภูมิ แต่การ บริหารงานไม่ได้มีการส่อเค้าว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นตามชื่อแต่อย่างใด
หากจะพูดว่าการบริหารประเทศของรัฐบาล ชวน หลีกภัย กระทรวงที่ ขึ้นชื่อใน ท า ง ล บ มากที่สุด คือ กระทรวงคมนาคม ของรัฐมนตรี ที่ นายกรัฐมนตรี ชวน-คนซื่อ ตีตราถึงความขยันขันแข็ง แต่การบริหารงานเฉพาะรัฐวิสาหกิจ สังกัด กระทรวงคมนาคม แต่ละแห่งล้วนมากด้วยประโยชน์มหาศาล จากแค่ บริษัทการบินไทยฯ บริษัทเดียว ตั้งใจทำมาหากินหน่อย รวยไม่รู้ตัวได้เหมือนกัน
การบินไทย-หนองงูเห่าฉาวสุดๆ
การบินไทย ก็กลายเป็นอีกรัฐวิสาหกิจหนึ่งที่ช่วยเสริมส่งให้สุเทพ ครอง แชมป์ความ "อื้อฉาว" ในการบริหาร รักษาโลโก้บริหารประเทศ ที่ ยากจะเชื่อว่า โ ป ร่ ง ใ ส ส่งท้ายปี 2543 ไว้ได้ โดยเฉพาะแผนการจัดซื้อเครื่องบิน 5 ลำ ตามแผนวิสาหกิจ 5 ปี (2543/2544-25 47/2548) มูลค่า 31,544 ล้าน บาท หากรวมค่าอะไหล่และค่าเครื่องยนต์ จะอยู่ที่ 52,988 ล้านบาท
แผนที่ว่านี้ว่ากันว่า คิดไว้ตั้งแต่ปี 2539 และมีการอนุมัติแผนวิสาหกิจ ในปี 2543 กำหนดรับมอบ 2 ลำแรกก่อนภายในตุลาคม ปี 2544 ส่วนอีก 3 ลำนั้นได้วางแผนที่จะซื้อจากโบอิ้งเช่นกัน คือ โบอิ้ง 747- 400 ลำแรกราคา 175 ล้านเหรียญสหรัฐรับมอบตุลาคม 2545 ลำที่สอง ราคา 181 ล้านเหรียญสหรัฐ รับมอบตุลาคม 254 6 และลำสุดท้ายเป็น โบอิ้ง 777-300 ราคา 148 ล้านเหรียญสหรัฐ รับมอบตุลาคม 2545
ต่อความไม่ชอบมาพากลของเรื่องนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากการอนุมัติที่มี ลับลมคมใน ราคาเครื่องบินที่บริษัท โบอิ้ง คอมเมอร์เชียล กรุ๊ป จำกัด เสนอ นั้นแพง และวิธีการดำเนินการจัดซื้อที่ไม่ได้แสดงให้เห็นว่า การบินไทยได้ รับประโยชน์สูงสุด จากการจัดซื้อเครื่องบินครั้งนี้
มีการตั้งคำถามกันมากว่า ราคาที่โบอิ้งเสนอมาสำหรับโบอิ้ง 747-400 ที่188 ล้านเหรียญสหรัฐต่อลำ และแม้จะมีการปรับลดลงเหลือลำละ 155 ล้านเหรียญสหรัฐในเวลาต่อมานั้นเหมาะสมหรือไม่ ?
บุคคลในแวดวงการบินระบุว่า การบินไทยทำการจัดซื้อเครื่องบินแพงเกินไป อีกทั้งยังมีการล็อกสเปกไว้เพื่อให้โบอิ้งเป็นผู้ผลิตเครื่องบิน 2 ลำ แรก โดยมีเงินมัดจำอีกลำละ 200,000 เหรียญสหรัฐเป็นข้อผูกมัดการจัดซื้อไว้ตั้งแต่แรก
แม้ในการเจรจาต่อรองการบินไทยจะ เรียกบริษัทแอร์บัส ผู้ผลิตอีกราย มาเจรจาด้วยแต่ด้วยเงื่อนไขระยะเวลาการรับมอบเครื่องบินที่การบิน ไทยกำหนด ไว้แล้ว ว่าจะนำเครื่องบินทั้ง 2 ลำเข้าสู่ตารางการบินในกลางปี 44 ทำให้แอร์บัสไม่สามารถผลิตเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพเดียวกับรุ่น โบอิ้ง 747-400 ได้ทันกำหนดรับมอบแน่นอน
รวมทั้งมีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่บอร์ดการบินไทย จะเข้ามาเป็นผู้ เจรจา ต่อรองราคา เป็นเพียงการสร้างภาพ ให้ดูว่าม ีความพยายามแล้วเท่านั้น แต่ผลที่ออกมานั้นไม่มีความสำคัญอะไรเลย เนื่องจากหลายเงื่อนไขถูก กำหนดไว้ตายตัวแล้ว
ขณะที่การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ในรอบปี 2543 นั้นถือเป็น โครงการ ที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเงินมากมายมหาศาล
โดยเฉพาะการเปิดประมูลหาผู้รับเหมา เข้ามาดำเนินการก่อสร้างอาคาร ที่พักผู้โดยสาร และสิ่งอำนวยความสะดวก (เทอร์มินอล) มูลค่า 4.5 หมื่น ล้านบาท ที่นายสมเจตน์ ทิณพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บทม.ใช้อำนาจสั่ง ที่ปรึกษา พีเอ็มซีปรับแบบและประกาศว่าเป็นแบบที่สามารถก่อสร้างได้ภาย ในงบประมาณ ที่มีจำกัด
กระทั่งมีเกิดการต่อต้านอย่างหนักจากหลายสมาคม ประกอบด้วย สมาคมวิศวกรที่ปรึกษา สมาคมสถาปนิกสยามฯ สมาคมวิศวกรรมสถานแห่ง ประเทศไทย ฯลฯ พร้อมทั้งระบุว่า การกระทำของบทม.ที่ให้ที่ปรึกษาพีเอ็ม ซี แก้ไขแบบ นั้นไม่เหมาะสม เพราะเท่ากับว่าเป็นการล็อกสเปกว่าต้องใช้ แบบของที่ปรึกษา แทน ที่จะเป็นแบบของเอ็มเจทีเอ
ว่ากันว่า การประมูลครั้งนี้มีค่าน้ำชาที่จัดสันปันส่วนให้กับนักการเมือง แล้ว ไม่ต่ำกว่า 7% โดยมีผู้รับเหมารู้เห็นเป็นใจ...
พระแม่ธรณีจะลงโทษสมัครพรรคพวกของพรรคชั่วประชาวิบัติ
Copy From The Opinions under The Banyat's News on Manager On-line
จากคุณ :
Poo-Dang
- [
4 ม.ค. 48 00:53:35
A:4.156.18.144 X: TicketID:082882
]
|
|
|