CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    “ขอเป็นฝ่ายค้าน-แต่ถ้าได้เป็นรัฐบาลก็เอา” แนวทางการหาเสียงแบบขี้ขลาด แต่ได้ผล

    ตอนนี้มีกระแสการเลือกตั้งแบบหนึ่ง ที่ผมค่อนข้างเป็นห่วง ขอบอกก่อนว่า ผมไม่มีส่วนได้เสียอะไรกับการเลือกตั้งครั้งนี้หรอก เพราะเลือกตั้งกันไปอีกสองครั้ง ผมก็ยังไม่ได้กลับบ้านเลย

    แต่ผม “เป็นห่วง” บริบทของการหาเสียงที่ใช้ “ความจริงในบริบทเท็จ” เพื่อหลอกลวงเอาคะแนนเสียง ของพรรคการเมืองบางพรรค

    คือการชูธงขอเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงมากในสภา ขอให้ประชาชน “เลือก” ตนเพื่อเข้าไปเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบ

    แต่ในอีกหน้าหนึ่ง หากเสียงเพียงพอ หากจับกับพรรคการเมืองอื่นแล้วตั้งรัฐบาลได้ ตนก็ยินดีเป็นรัฐบาล

    ซึ่งก็สอดรับกระแส “พอใจรัฐบาล แต่อยากได้การตรวจสอบที่เข้มแข็ง” เพราะตอนนี้เสียงส่วนใหญ่ที่ค่อนข้างก้ำกึ่งสำคัญของสังคม ซึ่งเห็นได้ในที่ต่างๆ คือ ยังไม่อยากเปลี่ยนนายก แต่อยากให้นายกสามารถที่จะถูกควบคุมตรวจสอบได้

    นอกจากนี้ก็มีการไปยกตัวอย่างต่างประเทศ ว่าในต่างประเทศเขานิยมเลือก ส.ส. ให้เป็นพรรคตรงข้ามกับรัฐบาล นี่แหละคือความจริงในบริบทที่เท็จ

    เพราะต่างประเทศที่ว่านั้น เขามีระบบการเลือกตั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหารคนละคราวกัน ดังนั้นเขาย่อมทำเช่นนั้นได้ คือเลือกรัฐบาลพรรคหนึ่ง เลือกฝ่ายนิติบัญญัติหรือวุฒิสภาอีกพรรคหนึ่งเพื่อถ่วงดุลกัน

    แต่ระบบการเลือกตั้งของประเทศไทย มีการเลือกตั้ง “เฉพาะ” ฝ่ายนิติบัญญัติ (รวมถึงการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกด้วย) และฝ่ายนิติบัญญัตินั้นเองที่จะ “เลือก” ฝ่ายบริหาร คือตัวนายกรัฐมนตรี

    ดังนั้นการ “เลือกตั้งใหญ่” ที่จะถึงในตอนนี้ คือการเลือกตั้ง “รัฐบาล” หรือ “เลือกนายกรัฐมนตรี” ไม่ใช่การเลือกฝ่ายค้าน

    ผมได้ยินหลายคนพูดว่า อยากได้นายกคนเดิม แต่จะเลือกฝ่ายค้านไว้ตรวจสอบ ก็ต้องขอทำความเข้าใจว่า ไม่ใช่ การเลือกฝ่ายค้านมากๆ ไม่ได้ทำให้ได้ฝ่ายค้านไว้ตรวจสอบ แต่จะได้ฝ่ายค้านนั่นแหละมาเป็นรัฐบาล

    ตรรกะการเลือกตั้งแบบนี้ นอกจากฟังดูแปลก (ชอบ แต่ไม่เลือก) แล้ว ยังผิดรูปผิดร่างกับรูปแบบการปกครองอีกต่างหาก

    คิดให้ง่ายขึ้น ตรงขึ้น ตรรกะขึ้น ดีไหมครับ

    อยากได้ทักษิณเป็นนายก เลือกไทยรักไทย
    อยากได้บัญญัติเป็นนายก เลือกประชาธิปัตย์
    อยากได้ ดร. เอนกเป็นนายก เลือกมหาชน
    อยากได้บรรหารเป็นนายก เลือกชาติไทย

    ไม่อยากได้มันสักคน เลวครือกัน ... กาช่องไม่ลงคะแนน

    อยากให้คนนี้เป็นนายก แต่ดันส่งนายบ่อนนายบ้าหรือดาราปัญญาอ่อนที่ไหนก็ไม่รู้มาลงเขตเรา ไม่ยากครับ กาปาร์ตี้ลิสต์ให้พรรคนั้น แต่กาส.ส. เขตให้คนที่คุณเห็นว่าดี หรือถ้าไม่เห็นดีมันสักคนก็ไม่ต้องกา

    นี่ต่างหาก คือและวิธีการเลือกตั้งใหญ่ที่แท้จริง

    การประกาศจะขอเป็นฝ่ายค้านเป็นนโยบายให้ได้รับการเลือกตั้ง อาจจะทำได้ ในกรณีพรรคเล็กที่หมดหวังเป็นรัฐบาลแน่ๆ อาจจะใช้เรื่องนี้เป็นจุดขายได้

    แต่ไม่ใช่ “พรรคใหญ่” ขั้วตรงข้ามรัฐบาล ที่มีโอกาสเท่าๆกันที่จะพลิกมาได้เป็นรัฐบาล

    ลองคิดดูว่าตอนนี้มีคนสามกลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มที่อยากให้นายกคนเดิมเป็นรัฐบาล กลุ่มนี้ใหญ่ที่สุด
    และกลุ่มที่ใหญ่พอๆกันครึ่งหนึ่ง คืออยากได้นายกคนเดิมนี้แหละ แต่กังขาในหลายพฤติกรรม และอยากให้มีการตรวจสอบ

    และกลุ่มสุดท้าย คือกลุ่มที่อยากให้ฝ่ายค้านปัจจุบันนี้มาเป็นรัฐบาลดูบ้าง

    จะเป็นอย่างไร ถ้าเมื่อหาเสียงกับคนกลุ่มที่สอง บอกว่า จะขอเป็นฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบรัฐบาล
    และมาหาเสียงกับกลุ่มที่สาม ว่า ขอโอกาสตนเป็นรัฐบาล

    วันลงคะแนน “ถ้า” กลุ่มที่สองสักครึ่งเชื่อขี้ปาก หันมากาบัตรให้พรรคนั้นเพื่อหวังว่าจะได้ฝ่ายค้านมาตรวจสอบสมใจ

    แต่คะแนนมารวมกันกับกลุ่มที่สามแล้ว ... สามารถตั้งรัฐบาลได้....

    คนกลุ่มที่สองที่กาบัตรให้พรรคที่ว่า จะรับได้ไหม ... กาเพราะอยากได้มาเป็นฝ่ายค้าน ดันได้รัฐบาลมาฉิบ

    คุณจะรู้สึกว่า “ถูกล่อ” ให้กาบัตรหรือไม่

    คุณจะรับสภาพการเมืองเช่นนั้นได้หรือไม่

    ก็ลองคิดดู ไม่ต้องตอบผมครับ

    สุดท้ายนี้ ผมอยากขอให้พรรคการเมืองที่มีพฤติกรรมที่ว่า ปรับเปลี่ยนเสีย
    ประกาศไปเลย เลือกพรรคผม ได้ผมเป็นนายก
    อย่าแทงกั๊ก และ “ฉ้อเสียง” ของประชาชนคนออกไปเลือกตั้งเลย
    ตรงไปตรงมาหน่อย ถ้าอาสาจะมารับใช้ประเทศละก็นะ

    จากคุณ : Players - [ 5 ม.ค. 48 20:31:44 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป