ยุคสมัยการเมืองไทยนั้น มีความหลากหลายต่างกันในแต่ละยุค แต่ละรัฐบาล แต่ไม่มียุคใดที่สร้างกระแสความสนใจให้แก่ประชาชนชาวไทยได้มากเท่ากับยุคปัจจุบันนี้จริงๆ
สารพัดอาวุธสมอง สารพันกลยุทธ ต่างถูกนักการเมืองทุกค่ายทุกพรรค งัดออกมาใช้กันอย่างเมามัน
กฎหมายจะมีกี่รูกี่ช่องพอจะเล็ดรอดได้ ถูกนำมาทะลวงออกใช้ ซึ่งหากว่านักศึกษากฏหมายคนใด กำลังทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับช่องว่างของกฏหมายอยู่แล้วล่ะก้อ ไม่ต้องเหนื่องไปทำการวิจัยที่ใด ขอเพียงตามติดการเมือง การเลือกตั้ง 48 ให้แนบสนิท ก็จะได้ข้อมูลมหาศาลบานตะเกียง
นี่ยังไม่นับรวมอั่งเปาล่วงหน้าก่อนวันตรุษจีน ที่ปลิวให้ว่อนไปทั่วแคว้นแดนเลือกตั้ง
ยังไม่นับรวมเหล่าบรรดานักแม่นปืนที่ไม่ยอมเอาดีให้กับทีมชาติ แต่ดันทะลึ่งมาเอาดีทางยิงกระบาลคน โดยเฉพาะผู้สมัครรับเลือกตั้งและหัวคะแนน
น้ำทะเลที่หนุนเนื่องเข้ามาถาโถมภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ที่ว่ามากมหาศาล ของคลื่นยักษ์ซือนะมิ ก็ยังมีน้อยกว่ากระเซ็นน้ำลายของนักการเมืองที่ปราศรัย และก่นด่ากัน
************
ชายชราหน้าตาเหี่ยวย่น นั่งเหม่อมองไปในความมืดข้างหน้า คำนึงแต่ว่า แล้งปีนี้ จัดนัก จะทำอย่างไรกับนาข้าวดี? แม้หนี้สินที่มีกับธกส. หลวงท่านจะเมตตาพักหนี้ไว้ก็จริง แต่ข้างหน้าต่อไปจะทำอย่างไร ? ทำนาเพื่อเปลื้องหนี้อย่างมองไม่เห็นอนาคตน่ะหรือ?
คำถามในใจของชายชรา ไร้ซึ่งคำตอบและทางออก
ชีวิตชาวนาคือ เกิดอย่างยากจน อยู่อย่างยากจน เป็นหนี้ และยากจน แล้วก็ตายแบบคนจน.........
************************
ไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้ง ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ไม่ว่าใครจะได้เท่าไรเสียงในสภา ไม่ว่าแผ่นดินไทยนี้จะเป็นศูนย์กลางอะไรก็ตามของเอเซีย ไม่ว่าใครจะรวยสักเท่าไร. ไม่ว่าใครจะบอกว่ารัฐธรรมนูญจะดีเพียงไร...........ชาวนาก็ยังจนและเป็นหนี้
ชาวนาก็ยังเป็นทาสที่คอยปลูกข้าวให้คนทั้งประเทศกินและถูกฉกฉวยประโยชน์อยู่ร่ำไป
เมื่อวันก่อน ผู้ใหญ่บ้านมาเกณฑ์แกไปฟังท่านผู้แทนหาเสียง ท่านผู้แทนพูดได้น่าฟังเสียเหลือเกินในนโยบายต่างๆ ในผลงานของท่านผู้แทนที่ผ่านมา ท่านผู้แทนบอกว่า ยุคนี้เศรษฐกิจดีขึ้นเพราะพรรคท่าน เพราะท่านผู้นำในพรรคท่านผู้แทน ชาวนาลืมตาอ้าปากได้แล้ว ไม่จนแล้ว ทุกครัวเรือนสบายขึ้น ไม่เหมือนสมัยรัฐบาลที่แล้ว ชาวนายากจนเป็นหนี้สิน หลายๆครัวเรือน "ผูกคอตายหนีหนี้" แต่เดี๋ยวนี้ ไม่เป็นอย่างนั้น เรามีเงินกองทุน......
........ระหว่างนั้นเอง ยัยจันทร์ที่นั่งฟังแกหาเสียงอยู่ ดันทะลึ่ง ยกมือขึ้นแล้ว แหกปากร้องไห้เสียงดังลั่นไปหมด ท่านผู้แทนจึงหันไปถามผู้ใหญ่ว่ายัยจันทร์ร้องไห้ทำไม?
ผู้ใหญ่บ้าน ตอบว่า อ้อ....ผัวยัยจันทร์ คือ ตาเฒ่าสุก มันเพิ่ง "ยิงตัวตาย" เพราะมันเป็นหนี้สินมากมาย นาข้าวก็ล่ม หนี้เก่ายังจ่ายไม่หมด หนี้ใหม่ก็โถมมาอีก ต่อให้พักชำระหนี้อีกสิบชาติแกก็ยังใช้หนี้ไม่หมด เจอทั้งน้ำแล้ง น้ำท่วม อย่างงี้จะไปทำอะไรกินได้ล่ะครับ
ท่านผู้แทนได้ฟังก็ตาโต ไม่นึกว่ากำลังหาเสียงอยู่ดีๆ ดันมีคนมาร้องไห้ดิสเครดิตเรื่องเศรษฐกิจดีของแกเข้าอย่างจัง คิดหาทางออกแก้ตัวกะชาวบ้านอยู่พักใหญ่ แต่แล้วแกก็หันมายิ้มหน้าใสยกมือไหว้ท่วมหัวต่อคนที่มาฟังหาเสียงแล้วบอกว่า
"เห็นไหมครับ พ่อแม่พี่น้อง เศรษฐกิจดีขึ้นจริงๆ แต่ก่อนชาวนาเราเป็นหนี้มากมาย จะฆ่าตัวตายทั้งทีก็ผูกคอตายด้วยเชือก ด้วยผ้าขะม้า เดี๋ยวนี้เศรษฐกิจดีขึ้นครับ พ่อแม่พี่น้อง ขนาดจะฆ่าตัวตาย แกก็มี"เงินทอง" ไปหาซื้อปืนมายิงตัวตายเลย อันนี้ยืนยันว่าเศรษฐกิจดีขึ้นจริงๆนะครับ พ่อแม่พี่น้อง "
ภาพสังคมปัจจุบันที่ชายชราเห็น มันก็เป็นเพียงความสวยงามของเงาจันทร์ในน้ำเน่านั่นเอง มันไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆแก่ชายชราจริงๆ แกยังคงเป็นชาวนาจนๆที่แบกหนี้ไว้เต็มหลัง และอาจตายไปก่อนที่จะปลดหนี้ออกจากหลังแกได้
...........เจ้าทุยที่แกใช้ไถนา เสร็จงานแล้ว แอกยังถูกปลด แต่ชาวนา แม้จะทำนาอย่างไร แอกแห่งหนี้สินและความจนยังคงอยู่บนหลังจนแกตาย
..........................หาเสียงเสร็จแล้ว เลือกตั้งเสร็จแล้ว อย่าเสือกแกล้งลืมชาวนาและคนจน นะครับ ท่านผู้แทนผู้ทรงเกียรติ
.............อย่าทำตัวเป็นจันทร์งามในน้ำเน่าอีกเลย สงสารประชาชนกันบ้างเถอะ
แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 48 15:46:28
จากคุณ :
นายชด
- [
24 ม.ค. 48 15:38:31
]