ความคิดเห็นที่ 1 ..การคิดตั้งกระทู้ซีรีส์เรื่องธรรมะนี้  มีสาเหตุจากเรื่องที่ค่อนข้างส่วนตัวอยู่สักนิด สืบเนื่องมาจากความทุกข์โศกเมื่อคนในครอบครัวต้องเสียชีวิตไปในวัยที่คิดเอาเองว่า ยังไม่สมควร   โดยลืมไปว่าความตายไม่เคยเลือกเพศ เลือกวัย  ซึ่งทำให้มีโอกาส หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านเป็นการหาที่พึ่งทางใจ   .. หลังจากอ่านแล้ว จขกท. ก็เชื่อว่าการนำมาเผยแพร่ให้ได้อ่านกันมากๆ น่าจะ เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย เพราะเป็นเรื่องราวที่เขียนให้อ่านง่าย เข้าใจง่ายไม่น่าเบื่อ อย่างที่ผู้คนส่วนใหญ่จะรู้สึกเมื่อพูดถึงหนังสือธรรมะ   และยังอาจจะเป็นการ "ปลูกต้นไม้แห่งศรัทธาในพุทธธรรมขึ้นในใจ" ของผู้อ่าน ดังความหวังของ ท่านผู้เขียนหนังสือเล่มนี้อีกด้วย จากคุณ : อังศนา - [ 22 มี.ค. 48 20:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 "ช้อปปิ้งบุญ"    จัดพิมพ์โดย ห้องหนังสือเรือนธรรม   มีเจตนาเผยแพร่พุทธธรรมแก่ผู้เริ่มต้นสนใจธรรมะเพื่อความเข้าใจ ในศาสนาพุทธ  และยังความสุขเย็นให้เกิดขึ้นในจิตใจจากรสพระธรรม จัดพิมพ์เป็นธรรมทาน ซึ่งท่านสามารถรับเป็นเจ้าภาพร่วมงานเผยแพร่นี้   ในราคาเล่มละ  ๒๐  บาท (ค่าส่งฟรี)   โอนเงินเข้าธนาคารกสิกรไทย   สาขาบางกระบือ ในนาม  พรจิตต์  พงศ์วราภา  เลขที่บัญชีออมทรัพย์  007-2-33773-5 โดยติดต่อฝ่ายจัดการ  คุณวิมลลักษณ์  อาศัยพาณิชย์  โทร. 02-243-1279 # 230 จากคุณ : อังศนา - [ 22 มี.ค. 48 20:34:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ~*~ *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ..ก่อนช้อป..   คำว่าช้อปปิ้งบุญอาจทำให้คุณนึกว่านี่เป็นรายชื่อวัดต่างๆ ที่คุณจะไปทำบุญถวายทาน   แต่ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น  ฉันหมายถึงการเก็บสะสมบุญจากทุกๆ ที่ท่ีคุณอยู่   จากเหตุการณ์ทุกอย่างที่คุณพบในชีวิตประจำวันของคุณ บุญ คือ ความสบายใจในสิ่งที่กระทำไปแล้วไม่เดือดร้อนแก่ตนเอง และผู้อื่น   หลวงพ่อชา  สุภัทโท สอนว่า  "บุญคือการละบาป"  ดังนั้น การทำบุญทั้งหลายทำอยู่ที่ ตัวเรานี่เอง  เราประกอบบุญได้โดยง่าย  ถ้าเรารู้หลักของธรรมะ   ธรรมะคือธรรมชาติ สิ่งรอบตัวเรา  และตัวเราเองก็คือธรรมชาติ    ดังนั้นจึงไม่ใชเรื่องยากที่เราจะเรียนรู้ ธรรมะและทำบุญให้เกิดขึ้นกับตัวเรา ฉันหวังว่าหนังสือเล่มนี้ จะมีโอกาสบอกเล่าเรื่องราวของธรรมะที่อยู่รอบตัวแก่คุณ และปลูกต้นไม้แห่งความศรัทธาในพุทธธรรมขึ้นในใจของคุณ เพื่อที่วันหนึ่งต้นไม้นี้ จะเจริญเติบโตต่อไป  และให้ความร่มเย็นแก่ชีวิตของคุณและคนรอบข้าง  ด้วยความ ขวนขวายในธรรมของตัวคุณเอง ท่านอาจารย์วศิน  อินทสระ  ได้กรุณาตรวจทานต้นฉบับเพื่อความถูกต้องของข้อธรรม ฉันขอกราบขอบพระคุณด้วยความเคารพมาในโอกาสนี้ ขอให้ธรรมะงอกงามในใจคุณ  สมกับที่เราเป็นผู้โชคดี เกิดมาได้พบพระพุทธศาสนา ขอธรรมรักษา ขวัญ  เพียงหทัย ~*~ *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ จากคุณ : อังศนา - [ 22 มี.ค. 48 20:39:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ~*~ ..ธรรมะอินเตอร์เน็ต.. ~*~ ตี๋เล็กเป็นคนทันสมัย  ชอบของทันสมัย  แต่งตัวทันสมัย  ติดตามวิทยาการทันสมัย มือถือต้องรุ่นใหม่  เรื่องอินเตอร์เน็ตจึงไม่พลาดอยู่แล้ว  นั่งดูทั้งวันทั้งคืน  อยากให้ มีอินเตอร์เน็ตในร้านแมคโดนัลด์พร้อมเตียง จะได้นอนในร้านเล่นอินเตอร์เน็ตทั้งคืน   มันเท่ เมื่อก่อนเขาเรียกตัวเองว่าแมค ย่อมาจากแมคโดนัลด์  ตอนนี้เขาเรียกตัวเองว่าคลิกเกอร์   แต่แม่ยังเรียกว่าตี๋เล็ก คลิกเกอร์มองจางวางตุ๋ยด้วยสายตาดูหมิ่น  เพราะจางวางตุ๋ยมาบอกให้เซิร์ชหา พระไตรปิฎกในอินเตอร์เน็ตอีกแล้ว จะหาอะไรก็ไม่รู้ คำยากๆ   คลิกเกอร์เบื่อ   เห็นนายตุ๋ยเชย ไม่ทันสมัย  เลยยกให้เป็นจางวาง จางวางตุ๋ยไม่สนใจ หาให้ก็แล้วกัน  ถ้าธรรมะมันเชย จะมาอยู่ในอินเตอร์เน็ตได้ไง "ไม่รู้ แต่เราว่าน่าเบื่อออก คำก็ยาก  มีแต่บาลีทั้งนั้นเลย" คลิกเกอร์บ่น "คำบาลีเขามีไว้ให้พระอ่าน คำไทยเขามีไว้ให้คนไทยอ่่าน  นายอยากทันสมัย ก็เปิดดูเทศน์ภาษาอังกฤษซี  ว่าแต่อ่านออกหรือเปล่าล่ะ" คลิกเกอร์ตาโต  "อาไร  มีเทศน์ภาษาอังกฤษด้วย ใครเทศน์ เทศน์ให้ใครฟัง ฝรั่งเหรอ  คนไทยยังไม่ฟังเลย ฝรั่งที่ไหนจะฟัง" "นี่แน่ะ ไดโนเสาร์" จางวางตุ๋ยเปลี่ยนชื่อให้บ้าง  "ฝรั่งเขาศึกษาพุทธกันมา ตั้งนานแล้ว จนเขียนหนังสือเป็นตั้งๆ แล้ว  ยิ่งมีให้อ่านมาก ก็ยิ่งมีคนมาสนใจมาก ตอนนี้พระฝรั่งเทศน์เก่งๆ มีเยอะเลย  เวลาเราเจอฝรั่งที่สนใจพุทธทีไร  เขาต้องบอก ว่าศาสนาพุทธนี่เป็นของดีที่สุดในเมืองไทย  เราพยายามบอกนายยังงั้นเหมือนกัน แต่นายไม่ยอมฟัง" คลิกเกอร์หัวเราะเก้อๆ  อยากจะตอบว่าเขารู้สึกว่าเชยก็เกรงใจ  จางวางตุ๋ยรู้ทัน จึงว่า "ไดโนเสาร์ย่อมไม่รู้ว่า  พระพุทธเจ้าน่ะทันสมัยแค่ไหน  วันนี้ถ้าไดโนเสาร์มีเรื่อง ทุกข์ใจจนร้องไห้ คำสอนตั้งสองพันห้าร้อยกว่าปีนี่แหละ จะเช็ดน้ำตาให้ไดโนเสาร์ได้" อย่าเรียกไดโนเสาร์บ่อย  นี่คลิกเกอร์นะรู้จักอ๊ะเปล่า   จางวางตุ๋ยรู้ว่าคลิกเกอร์ชอบ เลียนแบบฝรั่ง  จึงเล่าว่า "พวกฝรั่งเขาปฏิบัตินั่งสมาธิกันในวันหยุดนะ  นั่งกันเก่งเชียวล่ะ  เขาสำรวจกัน มาแล้วว่า  วันธรรมดาชาวนิวยอร์คกว่าครึ่งเขาสวดมนต์ก่อนไปทำงานกันแล้ว   นายมันโบราณ" คลิกเกอร์ทึ่ง หูผึ่ง  เขาชอบรู้ว่าฝรั่งทำอะไร จะได้ทำตามทัน "พระฝรั่งเทศน์ที่ออสเตรเลียนะ  พระผู้ช่วยคอยอัดคำเทศน์ไว้ในคอมพ์  เขาเปิด ฟังกันทั่วโลกตั้งสี่แสนคน  เดี๋ยวนี้เขาไม่ต้องรอคนไปวัดข้างๆ บ้าน ๒๐ คน  ๓๐ คน แล้วค่อยเทศน์แล้ว  รู้อ๊ะเปล่า เต่าโบราณ" คลิกเกอร์รีบคลิกให้จางวางตุ๋ยทันที  จะหาอะไรรีบบอกมา  แล้วมาอธิบายให้ฟังด้วย เดี๋ยวไปร้านแมคโดนัลด์  เจอฝรั่งถามธรรมะตอบไม่ได้  อายเขาตาย  จะมายอมให้ จางวางตุ๋ยเรียกเต่าโบราณได้ยังไง  เสียชื่อคลิกเกอร์หมด จากคุณ : อังศนา - [ 22 มี.ค. 48 20:48:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณครับ :) จากคุณ : บุรุษไปรษณีย์ในชุดไปรษณีย์ - [ 22 มี.ค. 48 21:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พบคนจิตใจงาม ได้สัมผัสอักษร น่าชื่นชม จากคุณ : นายช่าง - [ 22 มี.ค. 48 21:57:59 A:203.118.82.37 X: TicketID:088973 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีเกิดมีดับนั้น ........... ธรรมดา ทุกข์สุขตามติดมา ..... แต่ต้น มีวันจากลับลา .......... เลยล่วง ใครเล่าจะผ่านพ้น ...... วัฎฎะห้วงสังขาร ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆมาบอกค่ะ   สวัสดีค่ะพี่อังฯ  และทุกท่าน จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 22 มี.ค. 48 22:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีค่ะคุณน้องอัง เรามีเรื่องตรงกันเป๊ะอีกเรื่องแย้วว ช้อปปิ้งบุญฯ เล่มนี้ไงคะ คืนวันหนึ่งราวเดือนก่าๆที่ผ่านมา พี่ป๊อกนำหนังสือมาให้ 1 เล่ม บอกว่าได้รับจากงานเลี้ยงลาเนื่อง จากเกษียณของเพื่อนร่วมงานที่บริษัทคนหนึ่ง อ่านแล้วเป็นปลื้มปิติมากล้นพ้นประมาณ บอกกับพี่ป๊อกว่า ช่วยสั่งมาให้อีกหลายๆเล่ม ได้มั้ยคะ เผื่อมีโอกาสเนื่องจากวาระใดๆก็ตาม ที่สมควรจะมอบหนังสือเล่มนี้ให้เพื่อนฝูงที่เรา รักและชอบพอ จะได้จัดเตรียมไว้ สั่งแล้วก็รอร้อรอ จนมีเรื่องโน้นนั้นยุ่งๆวุ่นๆเข้ามา อีกหลายเรื่อง แต่ก็ยังระลึกถึงเรื่องนี้อยู่เป็นระยะ ว้าว คืนนี้เดี๋ยวนี้มาเจอะเข้าในจอ จึงถลาร่อนเข้ามาเพื่อบอกว่า ยินดีด้วยมากๆ ในการเผยแพร่ความอิ่มเอิบแห่งหัวใจครั้งนี้ค่ะ จากคุณ : ชญานุช - [ 22 มี.ค. 48 23:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 . .มีเกิดมีดับล้วน .. . .. . .. . .. . .. . .. . .. .. . อนิจจัง อนัตตาแลทุกขัง .. . .. . .. . .. . .. . .. .. .. .. . หลุดพ้น หากชีวิตเรายัง .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..มีอยู่ จงส่งเสริมเติมล้น .. . .. . .. . .. . .. .. .. . . . . หมั่นสร้างความดี . .ชินจิโน่ก็เกิดพร้อม .. . .. . .. . .. .. .. .. .. . ความทุกข์ จึงเร่งหาความสุข .. . .. . . . .. . . . . . .. . .. ..บ่อยครั้ง วันหยุดแต่รีบลุก .. . .. . .. . .. .. . .. . . . . .. .ตักบาตร แถมปล่อยนกอีกทั้ง .. . .. .. .. .. .. .. . . . . . .กรวดน้ำส่งกุศล จากคุณ : ชินจิโน่ - [ 22 มี.ค. 48 23:18:32 A:203.113.33.11 X:203.151.140.115 TicketID:053536 ]

ความคิดเห็นที่ 10 . .เห็นหนังสือน่าซื้อ .. . .. .. .. .. .. .. .. . .. .. .ตามบอก ควรเพื่ออ่านจริงหรอก .. .. .. .. .. . .. . .. . .. .. เก็บไว้ หากเราสั่งโปรดกรอก .. .. .. .. .. . .. .. .. . . .. ลงชื่อ เดิมนา เราจะโอนเงินให้ .. .. .. .. . . .. .. . .. .. . .. .. .แก่เจ้าภายหลัง . .ยังบ่เห็นว่าซื้อ .. .. .. .. .. .. . .. . .. . .. . .. .. ยังไง จะจ่ายเงินเท่าไร .. . .. . .. . .. .. .. .. .. .. . .. . .กี่ร้อย ที่อยู่ชื่อที่ไหน .. . .. .. .. .. .. .. .. .. .. . .. . . . .วานบอก เถิดแม่ เราอ่านแต่หายจ้อย .. .. .. .. .. .. .. .. .. . .. .. . โปรดด้วยมาเฉลย จากคุณ : ชินจิโน่ - [ 22 มี.ค. 48 23:26:24 A:203.113.33.11 X:203.151.140.115 TicketID:053536 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณ จขกท ที่เอาของสนุกๆมาให้อ่าน จากคุณ : Ibeye - [ 23 มี.ค. 48 12:31:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีค่ะ คุณบุรุษไปรษณีย์ฯ  คุณ นายช่าง   คุณชารา  พี่นุช (ที่คิดถึง)  และคุณชินจิโน่ หากท่านอยากรับรู้.........เรียนธรรม ยี่สิบบาทเขากำ-..........................หนดไว้ ต่อหนึ่งเล่มร่วมนำ......................เผยแพร่ หมายเลขบัญชีได้........................บอกไว้กรอบสอง โปรดลองเบอร์นั้นเพื่อ.........สอบถาม คุณวิมลลักษณ์นาม..........................แนบท้าย หรือบริจาคร่วมตาม.........................แต่ศรัท- ธาเทอญ อ่านจบอิ่มบุญคล้าย.........................กับเข้าอาราม ..คุณชินจิโน่คะ  หากสนใจคงต้องติดต่อคุณวิมลลักษณ์ ตามหมายเลขโทรศัพท์ข้างบนค่ะ  จะได้ทราบรายละเอียดอื่นด้วย ..หนังสือนี้เป็นของขวัญ ของชำร่วยที่ดีมากเลยนะคะพี่นุช   น้องได้เล่มนี้มาจากงานเผาศพญาติอายุน้อย (อีกเหมือนกัน) เมื่อ เดือนที่แล้วนี่เอง ..คุณบุรุษไปรษณีย์ฯ คุณ นายช่าง ถ้าชอบอ่านเชิญแวะมา อีกนะคะ  จขกท. จะทยอยพิมพ์เพิ่มไปเรื่อยๆ ค่ะ ..ซึ่งทำให้อดคิดถึง speed ประมาณ neck breaking เวลา ที่ชาราพิมพ์ไม่ได้  เพราะของพี่ใช้วิธี  hunt and peck  อะ..   จากคุณ : อังศนา - [ 23 มี.ค. 48 12:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีค่ะ คุณ Ibeye   เปรียบดังน้ำหยดน้อย.......อาจนอง  เนืองนอ ถ้าหากพากเพียรรอง......................รับไว้ บุญนิดหน่อยทั้งผอง.......................เพียรประกอบ ย่อมมากขึ้นพร้อมให้......................รักษ์ผู้บำเพ็ญเสมอ ~*~ *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~  ..ถังเหลืองแลกหุ้น..  ~*~ ปั้นแต่งเป็นนักเล่นหุ้นประเภทแมลงเม่า  เคยบินเข้ากองไฟมาแล้วหลายหน แต่ด้วยจิตอาลัยอาวรณ์  เกิดใหม่ทีไรก็ยังเป็นแมลงเม่าอยู่ร่ำไป  ไปเกิดเป็น อย่างอื่นไม่ได้  ใจมันรัก วันหนึ่ง  ได้ไปร่วมงานบุญญาติที่วัด  เห็นคนอื่นเขาถือถังเหลืองมาถวายพระ ทำสังฆทาน  ก็พลันคิดได้ว่า  อันความซวยที่มีเห็นทีเพราะมีเคราะห์  จำสะเดาะ เคราะห์ให้หายซวยด้วยถังเหลือง  คิดแล้วจึงรีบรุดไปซื้อถังเหลือง  เอาชุดที่จัด ไว้แล้ว ราคาถูกที่สุดมาถวายพระ เสร็จสมใจแล้วกลับไปนอนกินทุเรียนหมอนทองรอหุ้นขึ้น  กินหมดทุเรียนไป สวนหนึ่งแล้ว หุ้นก็ยังลง  จึงตรงไปถามพัดทองว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมสะเดาะ เคราะห์แล้วเคราะห์ไม่หลุด พัดทองนั่งหัวเราะ  "ทำบุญแลกหุ้นเหรอ ฝันสูงนี่"  หัวเราะไม่พอ ยังส่ายหน้า ด้วยเป็นของแถม "ทำบุญก็เรื่องของการทำบุญนะ  เราทำบุญเพราะว่าเป็นเรื่องดี  จึงทำ  แล้วการ ถวายของ ควรดูของที่พระจำเป็นใช้ได้ประโยชน์  วัดนี้อยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ต้อง ใช้ถังหรอก มีก๊อกน้ำทั่วถึง   ชานี่พระหนุ่มก็ไม่กินหรอก  ข้าวสารกับผงซักฟอก ร้านเขาก็วางติดกัน  วางนานจนกลิ่นผงซักฟอกเข้าไปอยู่ในข้าวสาร  หุงแล้วกิน ไม่ได้  ปลากระป๋องเก่าจนหมดอายุแล้ว  ถ้ามีคนเอาของพวกนี้มาให้นาย นายจะทำยังไง  ก็คงทิ้งไป   แล้วจะมีบุญเกิดจากส่วนไหนล่ะ" "แล้วงั้นทำไง" ปั้นแต่งถามเพราะไม่เคยเข้าวัด "สมัยนี้ใช้น้ำใช้ไฟ  ก็ถวายค่าน้ำค่าไฟดีกว่า  หรือหนังสือธรรมะ  หรือสมุด ปากกา  เพราะพระเขาก็ศึกษาอยู่  หรือหลอดนีออนเอาไว้เปลี่ยนเวลาเสีย   นี่แหละเป็นสังฆทาน  คือเราถวายน้ำไฟให้พระทั้งวัดใช้เลย  ไม่ได้เลือกว่า เป็นเฉพาะองค์ไหน  ของถวายพระหรือถวายวัดเนี่ย  เมื่อมีคนมาใช้สอย เราถึงจะได้บุญ   ถ้าไปวัดต่างจังหวัดก็ดูว่าเขาขาดอะไร นั่นแหละดีที่สุด   ให้ในสิ่งที่ที่พระต้องการจริงๆ มีประโยชน์ถึงจะได้บุญ   แต่ถ้ายังติดถัง เหลืองอยู่ ก็ควรซื้อของต่างๆ ใส่ถังเองจะได้เลือกที่คิดว่าเป็นประโยชน์ ความจริง   การทำสังฆทานไม่ใช่หมายถึงการถวายถังเหลืองเท่านั้น   สังฆทานนั้นสำคัญอยู่ที่การถวายโดย ไม่เจาะจง ว่าเป็นพระรูปใด   เช่นเราตักบาตรตอนเช้า  พระองค์ใดเดินมาก็ตักเลย  ไม่ได้เจาะจงว่าจะใส่ บาตรองค์นั้นองค์นี้  อย่างนี้ก็เป็นสังฆทานแล้ว" "ทำแล้วจะได้บุญเมื่อไหร่  นานมั้ย"  ปั้นแต่งถาม  ใจประหวัดถึงเรื่องหุ้น พัดทองหัวเราะ  "เฮ้ย  ทำบุญไม่เหมือนฝากแบงก์นะ จะได้เอาสมุดไปต๊อก ดอกเบี้ยวันนั้นวันนี้    คิดดูนะอย่างนายมีบุญอยู่แล้ว  ดูร่างกายมีอะไรไม่สม ประกอบหรือเปล่าล่ะ   ชีวิตที่นายมีทุกวันนี้ก็ไม่ได้ลำบากอะไร  นี่ก็เป็นบุญที่ นายเคยทำมาเองในอดีตนั่นแหละ  ควรจะเห็นบุญคุณของบุญที่ตัวเองมีมั่ง   ส่วนเรื่องหุ้น มันไม่ขึ้นเพราะนายทำบุญวันนี้หรอก  ถ้าง่ายอย่างนั้น ป่านนี้ คนเต็มวัดแล้ว" ปั้นแต่งหน้าจ๋อย  จะเสียดายค่าถังเหลืองดีมั้ยนะ "แต่นายก็ควรทำบุญนะ   พระพุทธเจ้าท่านว่า อย่าดูถูกบุญเล็กๆ น้อยๆ ว่า จะไม่ให้ผล   เก็บน้ำทีละหยดยังเต็มตุ่มได้นะพวก   ทำบุญเอาไว้บ้้าง  จะได้มี บุญไว้รักษาคุ้มครองเรา  อย่ารอแก่แล้วค่อยทำ  ใครจะไปรู้ว่าจะมีโอกาสแก่ หรือเปล่าจริงมั้ย  อย่าทำเป็นเล่นไปเชียว  คอยทำบัตรเติมบุญไว้มั่ง  ไม่งั้น เดี๋ยวเจอบุญขาดมือแล้วจะแก้ตัวไม่ทันนะ  เพื่อนรัก" จากคุณ : อังศนา - [ 23 มี.ค. 48 16:19:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ๏...เช้าอาทิตย์สะดุดเข้า..............อย่างจัง "แอนดูรบิ๊ก"หยิบมาอ่านดัง...........ชื่อนี้ ตั้งใจและวาดหวัง.......................ครองครอบ ช่างเหมาะอังแม่ชี้.......................แพร่ให้อ่านกัน ๚ ๏...ขอบคุณอย่างท่วมท้น............จากใจ นั่งอ่านคิดตามไป.......................ปรากฎแจ้ง ประเด็นเ่กี่ยวโยงใย.....................ชีวิต คนแต่งเก่งยากแย้ง....................."ช็อปปิ้งบุญ"สุนทรีย์ สวัสดีค่ะ พี่อัง และทุกท่านที่แวะเยือนกระทู้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 48 19:33:10 จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 มี.ค. 48 19:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีค่ะ คุณยี่หร่า   คุณสรยุทธพูดถึงหนังสือเล่มนี้ด้วยเหรอคะ แหม.. ใจตรงกันเลย  อิอิ ทำความดีด้วยจิต...........เมตตา ทำจากเจตนา...............................ผ่องแผ้ว ทำได้ตลอดเวลา.........................ทุกเรื่อง ถ้าหากคิดดีแล้ว..........................ไม่แคล้วเป็นบุญ ~*~*~ *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..ทิ้งเวร.. ~*~ วันแรกที่เขาเข้ามาทำงาน เพื่อนใหม่ทุกคนพากันอมยิ้ม "คนอะไรวะ ชื่อทิ้งเวร" เขาย้อนว่า  "อ้าว แล้วนายอยากอุ้มเวรไว้รึไง" "ชื่ออย่างนี้ อย่าไปสมัครงาน รปภ. นะ เขาไม่รับหรอก" "รู้  อีกหน่อยจะไปทำงานมูลนิธิวัดแล้ว  เขาชอบ" แต่ก็ด้วยชื่อนี้แหละ ที่ทำให้เขากลายเป็นศิราณี  ช่วยตอบคำถามเรื่องบุญกรรมให้ เพื่อนๆ อยู่เสมอ วันนี้ก็เหมือนกัน บุญเทียมหน้าหงิกเข้ามาหา  นั่งเสยหัวอันยุ่งเหยิง หวังจะให้เรียบ "เฮ้ย เวร"  บุญเทียมว่า "ไม่ใช่ ทิ้งเวร"  เขาว่า "เออ  ทิ้งเวร  เราเป็นอะไรไม่รู้  ทำไมชีวิตมันยุ่งเหยิงทั้งวันยังงี้วะ  นี่ทั้งเดือนเลย เดี๋ยวไอ้โน่น เดี๋ยวไอ้นี่  กลับรถแทบไม่ทัน  นี่เพิ่งจะหยุดหายใจมั่ง" "อ้อ ตายแล้วหรือ" "ยัง ยังเป็นอยู่ ช่วยหน่อยซี" "ชื่อบุญเทียม ปกติเขาแปลว่ามีบุญมาอยู่ด้วย  สงสัยของนายจะแปลว่าบุญปลอม เลยเหนื่อยหน่อยมั้ง"  ทิ้งเวรอมยิ้ม  แต่เห็นบุญเทียมหน้าหงิก เลยสงสาร  จึงเลิกเย้า "อย่างนี้เขาเรียกกรรมเล็กกรรมน้อยคอยเบียดเบียน  แต่บางทีเป็นเพราะนายจัดเวลา ไม่เป็นเองด้วยหรือเปล่า  นายต้องบริหารเวลาเองด้วย  แต่กรรมเล็กกรรมน้อยนี่น่าจะ แก้ด้วยบุญเล็กบุญน้อยเหมือนกันนะเราว่า" "ทำยังไง ทำนิดทำหน่อยเหรอ"  บุญเทียมอยากรู้ "ใช่  ทำบุญเล็กบุญน้อย แต่ทำทุกวัน  นายรู้ว่าอะไรเป็นบุญมั้ย  บุญคือช่วยทำให้คนอื่น สบายใจ แล้วเราสบายใจด้วย  เช่น จอดรถให้คนข้ามถนน  ให้ทิปเล็กๆ น้อยๆ กับเด็ก ปั๊มน้ำมัน  ใส่กระปุกหัวเตียงสักวันละ ๕ บาท   สิ้นเดือนเอาไปบริจาคอาหารกลางวัน เด็กยากจน  ยืมเทปธรรมะจากห้องสมุดไปฝากแม่ยาย   อย่าโกรธใคร คอยให้อภัย คนอื่น   เวลาไปทำงานให้แม่ยาย แทนที่จะคิดว่ายุ่งจัง เป็นภาระ   ให้คิดใหม่ว่าไป ทำบุญ  คือไปช่วยให้กิจนั้นสำเร็จลง เพราะแม่ยายเราไปทำเองไม่ได้  หรือในที่ทำงาน แค่นายกินกาแฟ  แล้วช่วยยกไปที่ครัวให้แม่บ้านหน่อย นี่ก็บุญแล้ว  หรือเจอใครก็ยิ้ม ให้เขา ทำให้เขาสบายใจก็บุญแล้ว   นี่เราแค่นั่งฟังนายระบายกลุ้มก็ได้บุญแล้ว  ถ้านาย ต้องไปโน่นไปนี่ทั้งวันลองติดเทปธรรมะใส่รถ เปิดฟังเทปธรรมะก็ได้บุญแล้ว  เพราะได้ ความรู้  ได้ปัญญา    พอยัง เหนื่อยแล้วนะ" บุญเทียมพยักหน้าหงึกหงักตลอดเวลา เหมือนมือของแมวกวักหน้าร้านขายของ   สนอกสนใจมากเลย "แต่ทำบุญต้องมีเจตนาดี ทำด้วยความเมตตาว่าอยากทำให้จริงๆ  ให้เงินใครอย่าง ซองผ้าป่า ให้ ๑๐ บาท ไม่ต้องมาก  แต่เจตนาดีว่าได้มีโอกาสร่วมงานบุญ  ไม่ใช่รู้สึก รำคาญอยู่ในใจ ให้พ้นๆ ไปอย่างงั้นๆ  ต้องปรับความคิดมุมมองใหม่  เพราะบุญจะ เกิดได้เมื่อเราตั้งเจตนาดี ทำด้วยเมตตาจิต  มองโลกจากมุมของเมตตา ได้บุญเยอะ" บุญเทียมเริ่มยิ้มออก ดวงตาส่อแววสดใสขึ้น  แต่ก็บอกว่า "เราเคยให้ด้วยความรำคาญจริงๆ แหละ" ทิ้งเวรเสริมว่า "เจตนาดีไม่ดีแล้วแต่เราจะเลือกคิด  มันเหมือนพวงมาลัยรถ แล้วแต่เราจะเลือกเลี้ยว ซ้ายหรือขวา  เอาบุญหรือบาป  อยู่ที่ความคิดทั้งนั้น คิดบุญก็เป็นบุญ คิดบาปก็เป็นบาป" "ต่อไปต้องคิดใหม่ ไหนๆ ก็ต้องใส่ซองแหงๆ อยู่แล้ว ทำให้ได้บุญไปเสียด้วยเลยดีกว่าเนอะ" ทิ้งเวรยิ้ม  แล้วหยิบซองผ้าป่าส่งให้บุญเทียม จากคุณ : อังศนา - [ 23 มี.ค. 48 19:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ๏...ความประมาทก่อให้..............วางวาย สินทรัพย์เก็บมากมาย..................หมดได้ ิเติมบุญกลับไม่สลาย...................หนุนอยู่ สมทบดอกเบี้ยให้.......................เลิศล้ำบุญหลาย๚ แว๊ก ))))))) ขออภัยค่ะ พี่อัง  บอกวันและ บุคคลอ้างอิง ผิดไปค่ะ  เป็นรายการข่าวพิธีกรสามคน คุณแอนดรูบิ๊ก คุณกฤษณะ และคุณอุมาพรค่ะ ยี่หร่ากลับขึ้นไปแก้แล้วค่ะ ขออำไพที่ผิดพลาดค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 48 19:35:49 จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 มี.ค. 48 19:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ๏...ฝรั่งยังซึ้งรส.................พระธรรม สมาธิหนุนน้อมนำ................ไม่เว้น เหล่าพุทธเล่ากระทำ..............ใดบอก เืพื่อกิเลสจักหยุดเต้น.............ตระหนักบ้างไหมเอย๚ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 มี.ค. 48 19:54:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ๏...บางคนบุญสร้างเพิ่ม...............กักตุน กรรมชั่วยังอุดหนุน......................ประพฤติสร้าง ผลบาปส่งขาดทุน.......................ย่อยยับ ทุกข์ย่อมอยู่เคียงข้าง..................กระทบให้ลำเค็ญ ๚ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 มี.ค. 48 20:06:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ๏...ชีวิตไม่เที่ยงแท้..................แน่นอน วันพรุ่งกรรมตัดรอน...................ย่อมได้ จนรวยอย่าบั่นทอน....................ธรรมะ เกรงชั่วกลัวบาปให้....................ท่องไว้ขึ้นใจ ๏...ใครหว่านพืชย่อมได้............ผลิตผล ตามเหตุแท้จักดล......................ส่งให้ ุสุขทุกข์ย่อมเวียนวน..................ย้อนกลับ โอกาสเท่ากันไซร้.....................ช่วยเฟ้นเมล็ดพันธุ์ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 มี.ค. 48 20:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ๐ ทำบุญอย่าคิดได้..........................สิ่งตอบ แทนนอ เป็นเสบียงไว้กอบ............................เก็บเกื้อ สะสมสิ่งใดชอบ..............................ทำเถิด ท่านเอย บาปอย่าได้เพาะเชื้อ........................ละได้เรื่องดี ๐ ทำบุญเพียงแต่น้อย.......................คือบุญ มีแค่ไหนเป็นทุน..............................เที่ยงแท้ หมื่นล้านหนึ่งบาทบุญ.......................เทียมเท่า จงอย่าคิดถมแก้...............................แข่งด้วยเงินหนา ทำบุญ ทำแค่หนึ่งบาท หรือทำล้านบาท ผลบุญเท่าเทียมกัน ทำบุญ ใช่ว่า แข่งขันกันด้วยเงิน แต่ควรจะ ทำด้วยใจ บริสุทธิ์ โดยอย่าหวังสิ่งตอบแทน ผลบุญที่เราทำด้วยใจ บริสุทธิ์ ผลตอบแทน มีคุณค่ามหาศาล จากคุณ : ๓s - [ 23 มี.ค. 48 20:46:27 A:203.113.36.9 X:203.151.140.112 TicketID:005068 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ๐ นกน้อยเจ้าอยากพ้น.........................กรงขัง จงปล่อยไปสู่รัง..................................ถิ่นกว้าง แมวสุนัขร้องดัง...................................หอนเห่า จูงลากเดินเที่ยวบ้าง............................สิ่งนี้คือบุญ ๐ ทำบุญมีมากล้น...............................พรรณนา หลายเรื่องเกี่ยวเนื่องมา........................มากล้น ทำทานหนึ่งบุญพา..............................เป็นสุข ทำสิ่งนี้หลุดพ้น...................................สุขแท้เรื่องจริง การทำบุญ มีหลายช่องทาง ไม่ใช่แค่เพียงบริจาค การทำทาน คือบุญแนวทางหนึ่ง การให้ความรัก ความห่วงใย ความซื่อสัตย์ การไม่คิดเบียดเบียนใคร ก็คือการทำบุญแล้ว การช่วยเหลือ การเชื่อฟังพ่อแม่ การที่เรามีความเมตตา ต่อสัตว์โลกทุกชนิด สิ่งเหล่านี้ เราจะได้รับการจดบันทึก สิ่งเหล่านี้ คือผลบุญที่เราได้ ทำบุญ ใช่ว่า จะต้องทำด้วยเงิน ทำด้วยใจ ทำด้วยแรง กาย ทำด้วยความคิด เท่านี้ก็เป็นสุข จากคุณ : ๓s - [ 23 มี.ค. 48 21:20:05 A:203.113.36.9 X:203.151.140.112 TicketID:005068 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ยกมือขึ้นไหว้พระ..................................ครั้งใด ขอพระช่วยดลใจ...................................ลูกนั้น คิดหวังประสงค์ใด.................................ประเสริฐ ปลงเกิดแก่ตายนั้น.................................สุดสิ้นสังขาร บรรยากาศทำให้คิดถึงตอนเด็กๆที่ต้องคอยดูพระว่ามาหรือยัง จะได้เรียกแม่ออกมาใส่บาตร จากคุณ : ซูซี่ - [ 23 มี.ค. 48 21:23:28 A:203.113.36.6 X:203.151.140.115 TicketID:003845 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ทำบุญเผื่อแผ่พร้อม ... เมตตา ทั้งจิตกายวาจา ......... มอบให้ ชีวิตหนึ่งเกิดมา ......... บนโลก อุทิศสุขตนได้ .......... สงบนั้นมีเสมอ สวัสดีค่ะทุกท่าน จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 23 มี.ค. 48 21:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 24 • มีมาร-ไม่มีมาร • มารไม่มี บารมี ยิ่งไม่แก่ จะมีแต่ถอยถดหมดความหมาย ไม่มีพลังสร้างวิบากให้มากมาย หรือสอบไล่ให้เราเข้าใจตัว ฯ มารยิ่งมีบารมียิ่งแก่กล้า ยิ่งรุดหน้าสามารถในธรรมทั่ว สร้างวิบากได้มากมายไม่เนียนัว ให้ดอกบัวเบ่งบานสะท้านสะเทือน ฯ แล้วประหัตประหารมารร้ายให้ตายเตียน ได้แนบเนียนไม่มีอะไรเหมือน เมื่อมารมีก็เหมือนมารมาตักเตือน ให้พบเงื่อนงำกล้าฆ่ามารเอง ฯ ท่านพุทธทาสภิกขุ สวัสดีครับ ผมเป็นคน  คนนึงที่ต้องพกคู่มือมนุษย์ไปไหนๆด้วยเสมอ จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 24 มี.ค. 48 10:32:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ศุกร์สวัสดิ์ค่ะ คุณ ๓s คุณซูซี่ และคุณจอมมารฯ (ชาราทักกันแล้ว) สังขารรูปลักษณ์ล้วน.........อนิจจัง สวยเด่นหรือโด่งดัง......................เสื่อมได้ หากรู้เท่าทันยัง..............................ยงสติ ไม่เตลิดตกอยู่ใต้...........................จริตแต้มความหลง ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..สะดือพริตตี้.. ~*~ ตอนเย็นกังไสจะต้องทำข่าวงานเลี้ยงเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่กับชงชัย รถติดเป็นแพตามปกติ กังไสจึงหลับตานั่งสมาธิไปในรถ  เขาแตะ ความรู้สึกตัวลงอย่างแผ่วเบาที่ปลายจมูก ดูลมหายใจเข้าลมหายใจ ออกผ่านจุดนั้นอย่างเงียบๆ และผ่อนคลายโดยไม่ต้องบริกรรมคำใดๆ ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เขาจึงออกจากสมาธิ  ชงชัยยักคิ้วให้ "เหนื่อยมากหรือไง ขึ้นรถหลับเลย" "เปล่า นั่งสมาธิ" "เหรอ  โอ๊ย เรานั่งไม่ได้หรอก มันคิดโน่นคิดนี่วุ่นไปหมดแหละ พอหลับตาปุ๊บ เรื่องแห่กันมาในหัวยังกะตลาดนัดเลย "การเข้าสมาธิไม่ใช่ว่าจะต้องให้เงียบกริบ ไม่ใช่  ความคิดเป็นเรื่องของ ธรรมชาติ แต่ตอนนั่งสมาธิเราต้องไม่กระโจนลงไปคิดร่วมกับมันเท่านั้น ดูลมหายใจไป พอมีความคิดเข้ามา ก็รู้ตัวว่าคิดเท่านั้นแหละ  ความคิด มันก็จะหายไป ก็กลับมาดูลมหายใจต่อ  ดูเบาๆ ดูเฉยๆ  ไม่ต้องเครียด เดี๋ยวมีความคิดเข้ามาอีก ก็รู้ทันอีก แค่นั้นเอง  นี่เป็นสมาธิเบื้องต้นง่ายๆ ทำเพื่อพักผ่อนเวลาเหนื่อยใจหรือเหนื่อยกาย เหมือนการนอนหลับพักผ่อน นี่ไม่หลับ แต่สดชื่นกว่า" "เข้าวัดมานานหรือยัง"  ชงชัยเปลี่ยนเรื่อง กลัวโดนบอกให้ลองนั่งสมาธิ "สักปีหนึ่งแล้ว แต่ไม่เคยเข้าวัดเลย ไม่ว่าง  เราอ่านหนังสือหลวงพ่อชา ท่านสอนว่าให้นั่งสมาธิเพื่อให้มีกำลังใจ  แล้วก็คอยนึกถึงความไม่เที่ยง เอาไว้ เราเอาสองข้อแค่นี้แหละ พอแล้ว  นอกนั้นก็ทั่วๆ ไป มีแผ่เมตตา บ้าง ให้ทานบ้างตามสมควร ไม่ต้องอะไรมาก" ~*~*~ หลังจากลงทะเบียนนักข่าวแล้ว  ทั้งสองก็ได้รับแจกเสื้อสีขาว ปักชื่อบริษัท รถยนต์เล็กๆ ที่หน้าอก  ชงชัยชอบมาก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ "เสื้อตัวนี้ออกแบบดี ไม่เหมือนงานอื่นที่เคยได้ ชอบจัง" กังไสจึงยื่นของตนให้ไปสมทบ ชงชัยขอบใจยกใหญ่ ถามว่าทำไมกังไส ไม่เก็บไว้ "การเห็นนายดีใจนี่ มีความสุขกว่าเก็บเสื้อไว้อีก" "สละโลกแล้วหรือ ดี มีอะไรจะสละละก็ เอามาให้เรานะ เราจะช่วยรับไว้ เพื่อส่งเสริมให้นายบรรลุไง ดีมั้ย"  กังไสหัวเราะ ~*~*~ พิธีเปิดงานเริ่มแล้ว ม่านเปิดออก  กลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งฟุ้งไปเต็มเวที รถยนต์รุุ่นใหม่สีทองเคลื่อนช้าๆ โผล่ออกมาจากกลุ่มควันราวกับความฝัน พริตตี้สาวสวยยืนอยู่ข้างๆ รถ  หล่อนสวมเสื้อเอวลอยกับมินิสเกิร์ตเอวต่ำ เผยให้เห็นสะดือบุ๋มเป็นลักยิ้มสวยอยู่บนผิวขาวเนียน  ชงชัยเป็นโรคแพ้สะดือ ดังนั้น เขาจึงตาลุกวาว เขาสะกิดกังไสแอบร้องเบาๆ ว่า โอ้โฮ โอ้โฮ "อดใจไว้เพื่อน  ไอ้หัวใจแบบที่กำลังตุ๊บตั๊บแรงเกินขีดของนายแบบนี้แหละ ที่ทำให้เวียนว่ายตายเกิดไปชั่วนิรันดร์" "สองนิรันดร์ก็ยอมวะ"  ชงชัยว่า ตายังกระพริบไม่ได้ มันแข็ง  "นายจะรีบ นิพพานไปทำไมกัน อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน" กังไสหัวเราะ  "เราทำแค่นี้ ไม่นิพพานหรอก แค่ไม่ให้หลงไปมากก็พอ ให้ชีวิตสงบเท่านั้น" "สงบยังไง นายไม่เห็นสะดือนั่นหรือไง  สวยเป็นบ้า เห็นมั้ย ห็นมั้ย" ชงชัยเริ่มจะน้ำลายไหล กังไสทำเสียงขรึมเมื่อเห็นชงชัยอาการสาหัส   ดังนั้น เขาจึงจงใจเปลี่ยนอารมณ์ "เห็นแล้ว นายว่าเลยสะดือเข้าไปลำไส้จะยาวเท่าไหร่ รูปร่างเล็กอย่างนี้ เราว่าสัก ๓ เมตรได้ หรือนายว่าไง" "ไอ้บ้า เสียมู้ดหมด ยังไงหล่อนก็สวยล่ะ"  ชงชัยแอนตี้ทันที "มันไม่เที่ยงหรอก  ไฟส่องอย่างนี้มันก็สวย  พรุ่งนี้เช้าตอนยังไม่แปรงฟัน ก็ไม่สวยเท่านี้  แล้วยังไงหล่อนก็ไม่เที่ยงต้องกลายเป็นยายแก่หนังเหนียว มีรอยย่นเหมือนผิวช้าง"  กังไสหัวเราะ "นายมองอะไรน่าเกลียดไปหมดแล้วจะมีชีวิตอยู่ยังไง" "ไม่ใช่อย่างนั้น เพียงแค่ให้เห็นความจริงของชีวิต ถ้าเข้าใจแล้วก็อยู่ได้เป็น ปกติ" ชงชัยหันมาบอกว่า  "นายยืนรอตรงนี้ก่อนนะ เราจะไปถ่ายรูปตรงโน้น เดี๋ยวมา" แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 48 16:23:45 จากคุณ : อังศนา - [ 25 มี.ค. 48 15:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ยังตามอ่านทุกครั้ง................ยืนยัน เรื่องเด่นประจำวัน.................เช่นนี้ ตามติดกรอบสร้างสรรค์.........เมื่อว่าง แฝงแง่คิดซ่อนชี้..................ประโยชน์ให้มากมาย จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 26 มี.ค. 48 14:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เพียงละบาปเท่านั้น........บุญมี ละชั่วแล้วทำดี.............................ยิ่งพร้อม ประพฤติยึดวิถี............................ทางถูก ทวนจิตวางธรรมล้อม................ย่อมสร้้างสุขเย็น ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..ปากกาของเมฆอ้วน.. ~*~ เมฆอ้วนเป็นคนชอบปากกามาก ขโมยทุกทีที่มีโอกาส  โชคดีของบริษัทที่ซื้อแต่ปากกา ลูกลื่นมาแบบเดียว  ไม่สวยไม่ถูกรสนิยม  แต่กระนั้นก็ไม่วายถูกขโมย  เพราะถ้าอาทิตย์ ไหนที่ไม่ได้ปากกาใครมาเลย เมฆอ้วนจะรู้สึกคันที่มือ  แล้วหันมาขโมยบริษัทแทน ไผ่ยิ้มจะคอยเตือนให้เลิกขโมยอยู่เสมอ  แต่เมฆอ้วนเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่สำคัญอะไร "พระพุทธเจ้าสอนว่า อย่าดูหมิ่นบุญหรือบาปว่าเล็กน้อย  น้ำหยดทีละหยดยังเต็มตุ่มได้   ถ้ามีบุญเต็มตุ่มก็ชื่นใจนะ  ถ้ามีบาปเต็มตุ่มก็คิดเอาเองมั่งแล้วกัน" "มันนิ้ดดดเดียวเอ๊ง แค่ปากกาด้ามเดียวร้านไม่เจ๊งหรอก"  เมฆอ้วนยังดื้อ "นิ้ดดดดเดียวก็ผิดศีลนะ เอ้า ดูนะ"  ไผ่ยิ้มหยิบเงาะที่คว้านเม็ดแล้วในชามมาใส่ถ้วยตรง หน้าเมฆอ้วน ๕ ลูก และใส่ถ้วยตัวเอง ๕ ลูก  แล้วว่า  "เดิมเรามีบุญเท่ากันนะ  มีชีวิตปกติ ร่างกายปกติ มีงานทำปกติ เป็นบุญเก่าเท่ากับเงาะ ๕ ลูก ในถ้วยนี้    วันนี้เธอขโมยปากกา ผิดศีลข้อลักขโมย เธอจะต้องกินเปลือกเงาะ คือได้บาปมาเท่ากับ ๑ เปลือก  แต่ฉันได้เงาะ ๑ ลูก" "อ้าว!"  เมฆอ้วนตาเขียว ไม่ชอบเปลือกเงาะ ใครจะกินเปลือก "เพราะเธอผิดตรงมโนกรรม มีเจตนาไม่ดี ๑  แล้วลงมือ ๒   ข้อ ๓ เบียดเบียนเจ้าของปากกา   ๓ ข้อนี้ได้เปลือก  ๑ เปลือก  ส่วนฉันนะฉันเห็นเธอทำ ฉันนำมาพิจารณาสอนตัวเองว่านี่บาป ที่ไม่ควรทำ  การพิจารณาธรรมได้บุญ ๑   เกิดปิติที่ฉันไม่ทำอย่างเธอได้เป็นบุญ ๒    ทำให้ส่ง เสริมศรัทธาว่าฉันจะอยู่ในศีลธรรมได้แน่ๆ เป็นบุญ ๓    ๓ ข้อนี้ได้เนื้อ ๑ ลูก แค่ฉันพิจารณา เธอนี่แหละ" เมฆอ้วนฟัง รู้สึกเสียเปรียบ  อะไร!  ดันมาได้บุญจากบาปของเราอีก  แต่ก็อดหวั่นใจเล็กๆ กับคำอธิบายนั้ไม่ได้  และยิ่งตาโตเมื่อไผ่ยิ้มยังวางเปลือกลงตรงหน้าเธอเรื่อยๆ "เนี่ย! ถ้าขโมยทุกวัน จะเป็นอย่างเนียะ  มีเนื้อกินเท่าเดิม แต่ต้องกินเปลือกพะเรอเกวียน เพราะมีแต่บาป" "ไม่กินไม่ได้เหรอ" เมฆอ้วนเริ่มผอมลง "บาปกรรมเป็นเรื่องหลบไม่ได้  เธอไม่กิน มันก็จะวิ่งเข้าปากเธอเอง อันนี้ไม่ต้องห่วง" "ใครห่วง"  เมฆอ้วนตาเขียวอีก  เห็นภาพเปลือกเงาะลอยลิ่วมาและพยายามจะมุดเข้า ปากเป็นพัลวัน "ถ้าชั้นต้องกินแต่เปลือกก็ตายซี" "ก็ทำบาปไว้เอง โทษใคร"  ไผ่ยิ้มลอยหน้าลอยตา "แล้วจะให้ทำไง  ไม่อยากกินเปลือก"  เมฆอ้วนเริ่มอ้อน  มองกองเปลือกเงาะตรงหน้า กลัวจะต้องกิน "หลวงพ่อชาบอกว่า บุญไม่ต้องไปทำอะไรมากหรอก  แค่ละบาปก็เป็นบุญแล้ว  เมฆอ้วน เลิกขโมยก็เป็นบุญแล้ว   ถ้าจะให้ดีเอาที่เคยขโมยมาแล้วไปแจก    ฝึกใจตัวเองให้รู้จัก การให้  ก็ยิ่งดี" "งั้นขโมยมาแจกดีมั้ย"  ใจเมฆอ้วนยังอักเสบเพราะติดเชื้อ "ไม่ดี เจตนาทำบุญปนบาป  ชาติหน้าเกิดมาปัญญาอ่อน"  เมฆอ้วนผอมลงจนหน้าซีด ไผ่ยิ้มพูดต่อ "นอกจากฉันได้บุญเพราะเธอแล้ว ยังได้จากในชามนี้อีก เพราะฉันทำบุญทุกวัน เช้าตื่น มาสวดมนต์ก่อนมาทำงานก็ได้บุญแล้ว  เมื่อเช้าได้พยุงคนแก่ขึ้นสะพานลอยก็ได้บุญ" "อุ้มขึ้นไปเลยสิ  ได้บุญมาก"  เมฆอ้วนว่า "ทำบุญต้องเหมาะแก่กำลัง และสภาพสถานการณ์   อุ้มขึ้นมาพลัดตกตายทั้งคู่ก็แย่เลย นี่ฉันคว้านเงาะให้เธอกินก็ได้บุญนะยะ  เมตตาเธออยากให้มีความสุขในการกิน" "เงาะมีน้ำตาลเยอะนา เดี๋ยวชั้นตายเธอจะบาป" "งั้นก็ไม่ต้องกิน"  ไผ่ยิ้มสรุป  แต่เมฆอ้วนก็ลงมือหยิบเงาะในถ้วย "ไม่  จะกิน" จากคุณ : อังศนา - [ 26 มี.ค. 48 16:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่โกรธไม่เร่าร้อน.........ลุ่มหลง เมื่อจิตรู้จักปลง...........................ปล่อยไว้ เลิกยึดมั่นพะวง..........................วางทุกข์ เถิดนา ใจจักเย็นราวได้..........................ปรับด้วยแอร์ดี ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..หัวใจติดแอร์.. ~*~ วงศากระแทกแฟ้มลงบนโต๊ะด้วยสีหน้าของยักษ์  นั่งลงแล้วกดคอมพิวเตอร์เรียกเกม เรียงไพ่ขึ้นมาเล่นดับอารมณ์โกรธที่เพิ่งโดนเจ้านายเอ็ดมา เสียงซิดเบาๆ ดังขึ้นข้างๆ เขาเหลือบไปดู เห็นโสมสวยกำลังถ่ายรูปเขาอยู่ "ถ่ายไปทำไม"  เขาหงุดหงิดใส่ "เรียนธรรมะ"  โสมสวยหัวเราะ  "เก็บไว้ดูว่าทุกข์หน้าตาอย่างนี้"  ว่าแล้วก็หันจอกล้อง ให้ดู  วงศาเห็นหน้าตัวเองแล้วร้องว่า โอ้โฮ  ไม่รู้จะโกรธต่อหรือจะขำดี  โสมสวยว่า "อย่างนี้เขาเรียกยักษ์ขมูขี" วงศาค้อนเหมือนผู้หญิง  "ผมไม่ใช่คนธรรมะธัมโมนี่ จะได้เฉยไปหมด  อะไรก็เฉย เฉยยย ไม่รู้ร้อนรู้หนาว อะไรก็ไม่เอา ว่าอะไรก็ไม่โกรธ" โสมสวยเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะซึ่งอยู่ข้างๆ "ไม่จริง อาการอย่างที่เธอว่านั้นเขาเรียกปัญญาอ่อน  คนเรียนธรรมะน่ะเขาเรียนรู้ความ จริงของชีวิต  เมื่อรู้แล้วเขาจึงเฉยเพราะนิ่ง  ไม่ใช่เฉยเพราะโง่  เหมือนเวลาไฟใหม้   คนไม่รู้เรื่องแบกตุ่มวิ่งร้องโวยวาย  คนรู้เรื่องเขาเอาเครื่องดับไฟไปพ่นใส่" "มีเครื่องดับไฟมั้ย"  วงศาถาม  "จะเอาไปพ่นใส่หัวหน้าหน่อย"  โสมสวยหัวเราะ  วงศา ค่อยมีอาการดีขึ้น  ยกภพภูมิจากยักษ์กลับมาเป็นคน "ความจริงของชีวิตมีว่าอะไรมั่งล่ะ ที่เรียนน่ะ" "เขาเรียกว่าโลกธรรม ๘   มีลาภ  เสื่อมลาภ  มียศ  เสื่อมยศ  นินทา  สรรเสริญ  สุข  ทุกข์   พวกนี้จะวนเวียนในชีวิตเราทุกวัน  ผสมปนเปเหมือนกาแฟกับคอฟฟี่เมต  ถ้าเราตัวเป็น ช้อนได้  เราก็แยกออกจากมันได้  แต่ถ้าเราเป็นน้ำตาล เราก็ละลายไปกับกาแฟ" "สงสัยจะทำยาก"  วงศาส่ายหน้า "ทำยาก  แต่ไม่ใช่ทำไม่ได้  มีคนทำได้เยอะแยะ  เราต้องดูคนทำได้ จะได้เป็นกำลังใจ"   โสมสวยช่วยยุ  "อย่างน้อยก็เป็นเทวดา หน้าจะหล่อกว่าเมื่อกี๊เยอะเลย" "แล้วเขาทำยังไงกัน"  วงศาอยากฟังหลักสูตร "อ๋อ ข้อเดียว  ปล่อยวาง  อย่าไปยึดมั่นถือมั่นมันมาก  ความจริงของชีวิตพวกนี้มันมา แล้วต้องไป มันขี้เบื่อ มันอยู่นิิรันดร์ไม่ได้  มีลาภมาแล้วก็ต้องจากไป  มียศอาจถูกถอด ยศได้  นินทาก็เรื่องธรรมดาของปากคน  พระพุทธเจ้ายังเคยโดนนินทา นับประสาอะไร กับเราก็ต้องโดนเป็นธรรมดา   สุขทุกข์ก็เหมือนกัน  มาแล้วก็ต้องไป  ไม่มีใครทุกข์ได้ ตลอดเวลาหรอก  อย่างคนอกหักปวดท้องขึ้นมา คิดถึงแฟนหรือคิดถึงห้องน้ำล่ะ  เรารู้ ไปตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับเราในนาทีนั้นน่ะ รู้แล้วก็วาง หัดไปเรื่อยๆ" วงศาทึ่ง อะไร  ไปฝึกวิทยายุทธมาไม่นานนะเนี่ย "ท่านอาจารย์ชยสาโรภิกขุเทศน์ว่า  คนฝึกธรรมะแล้วเหมือนคนอยู่ในห้องแอร์  มองออก ไปข้างนอกฝนตกก็รู้ แดดออกก็รู้  แต่ไม่เปียกไม่ร้อนเหมือนคนข้างนอก" "หัวใจติดแอร์แล้วซิเนี่ยเธอ"  วงศาล้อ เพราะเมื่อก่อนโสมสวยใจร้อนกว่าเขาเสียอีก   ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติธรรม ก็เย็นลงอย่างเห็นได้ชัด ดูสวยขึ้นด้วย  โสมสวยยิ้มรับ "ช่าย  เริ่มจะเย็นนิดๆ แล้ว  อีกหน่อยคงสบายอย่างที่ท่านอาจารย์เทศน์  ไม่สนใจจะ ลองมั่งเหรอจ๊ะพ่อวงศาคณาญาติ" จากคุณ : อังศนา - [ 26 มี.ค. 48 20:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ..มีรักมีเลิกล้าง . ...โรยรา มีสุขมีเวทนา .......ทุกข์ร้อน มีเกิดแก่เจ็บลา .....จากโลก เป็นเพราะบาปบุญย้อน ...เยี่ยมหน้านานขัย การเผยแผ่ธรรมเป็นกุศลจิตอันประเสริฐ ขอให้จำเริญๆ จากคุณ : เรียมโรย - [ 26 มี.ค. 48 21:01:14 A:61.91.72.160 X: TicketID:082711 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สวัสดีค่ะ คุณเรียมโรย     สาาธุ สำหรับคำอวยพรค่ะ มี...ได้ย่อมหมดได้.................ธรรมดา บวก..เพิ่มด้วยเมตตา............ติดค้าง มี...ทุกข์หมดทุกข์พา.............สุขพบ ลบ..กล่องหลังไมค์บ้าง........ตอบถ้อยไม่ถึง ..ขนาดโน้ตชิ้นกระจิ๋ว  ไม่กี่คำ ยังตีกลับเลย   จากคุณ : อังศนา - [ 27 มี.ค. 48 15:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไตรลักษณ์..ลักษณะทั้ง.........สามประการ อนิจจัง..ไม่เที่ยงสาร.........................เสื่อมได้ ทุกขัง..ทุกข์ที่ราน..............................รอนจิต อนัตตา..หมายถึงไร้.........................ร่างไร้ตัวตน ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..ล้างจานล้างใจ.. ~*~ วันนี้แก้มอิ่มล้างจานโดยไม่ได้ร้องเพลงไปด้วย  เงียบจนแม่ต้องชะโงกหน้าเข้ามาดู   แต่เห็นแก้มอิ่มหน้าไม่หงิก "เป็นไรหรือเปล่าลูก"  แม่อดถามไม่ได้ "กำลังฝึกสติ" คำตอบนั้นลากแม่ให้เดินเข้ามายืนเท้าสะเอวอยู่ข้างๆ  แก้มอิ่มบอกว่า "อ่านติช นัท ฮันห์ มาเขาบอกว่าเวลาล้างจานให้มีสติ  ไม่ใช่ล้างๆ ให้เสร็จไวๆ  แล้ว ใจอยากไปทำอย่างอื่นต่อ   ทำให้ถูกลากไปสู่อนาคตเสมอโดยไม่อาจอยู่กับปัจจุบัน ขณะได้" "เออ อย่างนี้ค่อยสมกับที่ส่งให้เรียนหนังสือหน่อย" "เขาว่านอกจากเราจะล้างเพื่อให้จานสะอาดแล้ว  เรายังล้างจานเพียงเพื่อจะล้างจาน   เพื่อมีชีวิตเต็มเปี่ยมอยู่ในแต่ละขณะที่ล้างจานด้วย  เราจะมีชีวิตเต็มเปี่ยมในทุกขณะ และมีความสุขด้วย  แม่ว่าไงจ๊ะ" "ดี  แต่ล้างจานแล้วล้างใจด้วยหรือเปล่า"  แม่เอ่ยคำของหลวงพ่อชา  สุภัทโท แก้มอิ่มตาโต " โห แม่ เฉียบ"  แก้มอิ่มร้องเสียงสูงจนแม่หัวเราะ "อ้าว มันก็ต้องเสริมกัน  ยิ่งแกชอบเก็บอะไรๆ มาคิด เป็นนักหงุดหงิด  จนมันหงิกงอ อยู่บนหน้าแก อย่างนี้ต้องล้างใจด้วย แล้วถึงจะมีความสุขกับการล้างจานได้" แก้มอิ่มถามว่า  "ล้างใจยังไงล่ะแม่" "ก็จานนี่มันเลอะ แกเอาน้ำล้างใช่มั้ย  น้ำก็คือพระธรรม เอาพระธรรมมาล้างใจ ฟองน้ำนี่ก็คือสติที่แกว่านั่นแหละ  เอาสติขัดถูล้างใจให้สะอาดเหมือนจาน  หน้า จะได้ขาวผ่องเหมือนจาน" แก้มอิ่มลอยหน้าฉีกยิ้มให้หน้าบานเหมือนจาน "พระธรรมท่านว่า สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ  สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น  นี่คือหัวใจพุทธศาสนา ท่านสอนว่าอย่าไปยึดอะไรไว้ในใจ  ให้ใจสะอาด  สบาย ปล่อยวาง ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นทุกข์ เพราะอะไรๆ มันก็เป็นไตรลักษณ์ทั้งนั้น รู้จักมั้ย ไตรลักษณ์" แก้มอิ่มพยักหน้า รีบตอบ กลัวเสียคะแนน "ไตรลักษณ์ ลักษณะ ๓ อย่าง คือ อนิจจัง ไม่เที่ยง  ทุกขัง เป็นทุกข์ อนัตตา ไม่ใช่ตัวตน บังคับไม่ได้" "เออ ใช้ได้ อย่างนี้จะส่งให้เรียนต่อ"  แม่ว่า แล้วเทศน์ต่อ  "หลวงพ่อชาสอนว่าให้ท่อง ไว้ว่า ิมันไม่แน่ี  เจออะไรก็พูดใส่มันเลยว่า อันนี้มันไม่แน่หรอก   รู้สึกสุข อันนี้มันก็ไม่ แน่หรอก เดี๋ยวก็ไป   รู้สึกทุกข์ อันนี้ก็ไม่แน่หรอก เดี๋ยวก็ไป" "มันไปไหน"  แก้มอิ่มถามขำๆ "ไปตามใจมัน เราบังคับมันก็ไม่ได้นะ  อย่างเวลาใจเป็นสุข เราอยากให้มันเป็นสุขไป ตลอด มันก็ไม่  เวลาทุกข์ อยากให้มันหายทุกข์ มันก็ไม่หาย  แต่บางทีลืมๆ มันก็หาย ไปเอง  อย่างแก้วสวยใบนี้ อยากให้มันอยู่กับเราไปตลอด  มันก็ไม่แน่ พรุ่งนี้อาจจะตก แตกก็ได้  ถ้าเราไปยึดเราก็ทุกข์  จานนี่ เมื่อกี๊สกปรก แต่มันก็ไม่เที่ยง เห็นมั้ย ตอนนี้ สะอาดแล้ว   อย่างเมื่อกี๊แม่ยืนสบาย  ตอนนี้ก็ไม่เที่ยง มันเมื่อยแล้ว   ต้องจำคำหลวง พ่อไว้ เจออะไร มันไม่แน่ๆๆๆ  นี่คาถาล้างใจ" แก้มอิ่มหัวเราะ  "สาธุ แม่ กระเป๋าหนูก็ไม่เที่ยงนะจ๊ะ ตอนนี้มันว่าง เดี๋ยวแม่จะมาเติม ให้เต็มใช่ไหมจ๊ะ" แก้มอิ่มล้างจานเสร็จ จูงแม่ออกไปจากห้องครัว  "เราไปคุยกันต่อที่ห้องพระนะแม่ เพราะเดี๋ยวแม่จะต้องสวดมนต์แน่ๆ จริงมั้ย" "ไม่แน่ บางทีแม่อาจจะเทศน์แกจนง่วง ไม่ได้สวดมนต์" แม่ว่า  แก้มอิ่มหันมาตาโต  "โห เทศน์หนูเนี่ยนะ" "อ้าว ไม่เทศน์แกแล้วจะให้แม่เทศน์ใคร" แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 48 18:58:54 แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 48 16:41:47 จากคุณ : อังศนา - [ 27 มี.ค. 48 15:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ..วันวานยังแน่นเนื้อ .ขึงขัง อนิจจาแขนหลัง ...เริ่มเปลี้ย อะไรเล่าจีรัง .....ในร่าง เราแฮ สวยหล่อฤาต่ำเตี้ย ต่างต้องตายเสมอ จากคุณ : เรียมโรย - [ 27 มี.ค. 48 17:38:52 A:61.91.72.83 X: TicketID:082711 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ปลูกต้นไม้รอบบ้าน........ก็เป็น บุญเอย แหล่งผลิตอ๊อกซิเจน....................เอี่ยมเอื้อ เผื่อแผ่ร่มเงาเย็น..........................ยามระอุ น้อยนิดหากกูลเกื้อ......................โลกได้อย่างดี ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..ต้นไม้ของใจแก้ว.. ~*~   ใจแก้วบอกคนสวนให้ยกกระถางแสงจันทร์ไปไว้บนดาดฟ้า  มันเป็นกิ่งท่ีตัดมา จากต้นหน้าบ้าน และปักชำไว้อยู่นานจนตอนนี้ออกใบใหม่งาม แข็งแรงพอจะ ย้ายที่ได้แล้ว เดี๋ยวนี้ที่บ้านมีแสงจันทร์ถึง ๑๐ ต้น  จากเริ่มแรกที่มีเพียงต้นเล็กๆ ต้นเดียวซึ่ง ปลูกลงดิน  ที่บ้านไม่มีบริเวณที่เป็นดินมากนัก  ต้นที่ปักชำใหม่จึงต้องใส่กระถาง ทั้งหมด นอกจากแสงจันทร์แล้ว  ในบ้านของใจแก้วก็ยังมีต้นไม้อื่นๆ อีกมากพอสมควร แต่ใจแก้วไม่ค่อยรู้เรื่องการดูแลต้นไม้ ทำให้ตายไปหลายพันธุ์  พันธุ์ใดที่เหลือ อยู่ก็ขยายเป็นหลายต้นแทน เพราะแสดงว่ามันทนใจแก้วได้ ~*~*~ ในตอนแรกๆ ใจแก้วก็เหมือนคนอื่นๆ ที่อยากให้ต้นไม้สวยอยู่ตลอดเหมือนต้นไม้ พลาสติค  แต่ความที่ทั้งไม่มีเวลาดูแลและดูแลไม่ค่อยเป็น  ต้นไม้ก็ไม่คล้อยตาม ใจแก้ว   บางทีเธอเก็บไปคิดเรื่องต้นนี้ดูใบมันเหมือนจะป่วย   ต้นนั้นทำไมไม่ออก ดอก  คิดไปทั้งคืนจนแทบไม่ได้นอน เป็นอย่างนี้บ่อยๆ  จนวันหนึ่งใจแก้วเห็นว่าจะเอาชีวิตมาทิ้งกับต้นไม้ขี้แยเสียเป็น แน่แท้แล้ว จึงตัดสินใจว่า  ต่อไปนี้จะไม่ยึดมั่นถือม่ันกับต้นไม้อีกต่อไป  ต้นไหนอยู่ ได้ก็อยู่ ตายได้ก็ตาย  แต่ใจแก้วจะรอด ปล่อยวางแล้วมีความสุขขึ้น เห็นต้นไหน น้อยใจก็เฉยๆ ดูแลอย่างดีตามปกติ  หลังจากนั้นแล้วมันจะตัดสินใจเองว่าจะอยู่หรือ จะตายดี ~*~*~ นานมาแล้วเคยอ่านนิทานเกี่ยวกับต้นไม้ต้นหนึ่ง  พอคนร้อนก็บอกให้มานอนใต้ต้น   พอคนจะปลูกบ้านก็ให้ตัดต้นไปปลูกบ้าน  เหลือแต่ตอก็ยังบอกให้คนมานั่งพัก  ต้นไม้ เป็นผู้ให้ที่ใจดีตลอดมา  และสำหรับใจแก้ว แค่เห็นต้นไม้ก็สบายใจแล้ว  ต้นไม้ยังไม่ทัน ทำอะไรเลย ใจแก้วปลูกต้นไม้มามากมายหลายกระถาง   แม้จะเป็นต้นไม้ต้นไม่ใหญ่แบบสวน สาธารณะ แต่ใจแก้วก็พอใจ  เธอรู้สึกว่ามีคนตัดต้นไม้ในป่ามาก  เธอรู้สึกว่าบ้าน เมืองร้อน เพราะมีสิ่งที่ทำความร้อนให้บรรยากาศมาก  นักอนุรักษ์ธรรมชาติบอกว่า โลกร้อนขึ้นเพราะมีคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไปในชั้นบรรยากาศ  ใจแก้วไปทำ อะไรกับใครไม่ได้  ไปเปลี่ยนแปลงอะไรที่ไหนไม่ได้  แต่ปลูกต้นไม้ในบ้านได้ ต้นไม้บ้านเดียว แม้จะหลายต้นเล็กๆ เต็มบ้านแล้ว ก็คงไม่ทำให้สภาวะแวดล้อม ของโลกเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น  แต่อย่างน้อยใจแก้วก็ได้ลงมือปลูกต้นไม้ แค่เท่า ที่ตัวเองทำได้ ได้ตอบแทนคุณของโลกเล็กน้อย ในขนาดเท่าน้ำค้างหยดเดียว ใจแก้วก็พอใจ ยิ่งคิดถึงว่า ใจแก้วหายใจอยู่ทุกวินาที มีแต่หายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา เท่านั้น  เป็นการใช้ธรรมชาติฝ่ายเดียวเลย  ความเคยชินทำให้ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว แต่พอนึกได้ก็ดีใจที่ใจแก้วปลูกต้นไม้ในบ้านเยอะๆ  และต้นไม้ก็ผลิตออกซิเจนคืน ให้กับโลกแทนใจแก้ว จากคุณ : อังศนา - [ 31 มี.ค. 48 16:21:26 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มาอิ่มบุญ ครับ ผมชอบปลูกต้นไม้... จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 1 เม.ย. 48 00:11:56 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ..เมษาเขาว่าร้อน .เหลือใจ เหงื่อกาฬพรั่งพรูไหล ..ดั่งน้ำ กายร้อนรุ่มเพียงใด ..พอดับ แต่จิตใจหมองคล้ำ ..คลั่งร้อนหลากฤดู เก็บตกมาฝากจ้า บ้านลดความร้อน o เพิ่มความร่มรื่นด้วยการปลูกต้นไม้ใหญ่รอบบ้าน คุณเชื่อหรือไม่ว่า ต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น ให้ความเย็นถึง 12,000 บีทียู เท่ากับเครื่องปรับอากาศขนาด 1 ตัน หันมองรอบบ้านสักนิดว่าบ้านคุณมีต้นไม้ใหญ่กี่ต้น o ปลูกพืชคลุมดิน ช่วยลดความร้อนและเพิ่มความชื้น ช่วยให้บ้านเย็นสบายขึ้น o ใช้สีอ่อนทาผนังนอกบ้าน จะช่วยลดแสงสะท้อนและความร้อน ลดการใช้แอร์และแสงไฟ o ใช้กระเบื้องปูพื้นบ้าน จะทำให้บ้านเย็นขึ้น o หมั่นตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำและไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ o ควรศึกษาขนาดพื้นที่ห้องที่คุณต้องการติดเครื่องปรับอากาศจากผู้เชี่ยวชาญ และหากคุณติดตั้งเครื่องปรับอากาศอยู่แล้ว ควรตั้งอุณหภูมิให้อยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส จะทำให้คุณประหยัดไฟได้ถึง 15-20% เลยทีเดียว และที่สำคัญคือควรล้างทำความสะอาดอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อปีด้วยล่ะ หมายเหตุ ข้อแรกดูจะเว่อร์ไปหน่อย ถ้าปลูกสักสิบต้นคงเย็นเจี๊ยบ หนาวสะดือ แหะแหะ จากคุณ : เรียมโรย - [ 1 เม.ย. 48 20:36:58 A:61.91.72.163 X: TicketID:082711 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เสาร์สวัสดิ์ค่ะ คุณ ลำน้ำ C และคุณเรียมโรย     ..ขอบคุณค่ะสำหรับบ้านลดความร้อนที่เก็บตกมาฝาก พระธรรมนำจิตให้......สงบเย็น มองเรื่องชีวิตเป็น...................สัจล้วน เข้าใจสุขทุกข์เข็ญ...................จากเหตุ  ตนแล พินิจได้ครบถ้วน......................ตระหนักรู้เท่าทัน ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..ธรรมะโฮล อิน วัน.. ~*~ คืนนี้ฤดีชื่นกราบพระในห้องสวดมนต์ ด้วยความรู้สึกอันเปี่ยมล้นด้วยความสุข และศรัทธา  เป็นวันที่เธอได้ตระหนักรู้ถึงโชคอันยิ่งใหญ่ ที่เธอได้รับจากการ ปฏิบัติธรรม บ่ายวันนี้ขณะที่เธอกำลังนั่งฟังการบรรยายธรรมะในห้องศึกษาธรรม  เธอได้รับ โทรศัพท์จากสามีว่า เขาตีกอล์ฟได้รางวัลที่หนึ่ง ได้ถ้วยและเงินรางวัลมาด้วย   ฤดีชื่นไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เธอคิดว่าเขาล้อเธอเล่น เพราะทุกครั้งที่ไปตีกอล์ฟ เขาได้เกือบที่โหล่  แต่เขาก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เมื่อมาพบกันที่บ้าน สามีเธอก็มาบรรยายสรุปให้เธอฟังว่า เขาชนะการตีกอล์ฟ ครั้งนี้มาได้อย่างไร เมื่อก่อนเวลาที่เขาจะไปตีกอล์ฟในการรับรองลูกค้าของบริษัท เขามักจะโดน ฤดีชื่นแหย่ว่า  "ไปจริงหรือเปล่า ไปที่อื่นมั้ง"  ซึ่งจะรบกวนจิตใจของเขาอยู่ตลอด เวลา เพราะเขาไม่อยากให้เธอกังวลใจ แต่ก็ไม่สามารถทำให้เธอวางใจได้สนิท เมื่อเล่นกอล์ฟเสร็จ เขาต้องปล่อยให้เพื่อนๆ พาลูกค้าไปเลี้ยงอาหารต่อ  ตัวเขา ต้องรีบขอตัวกลับบ้าน แต่กระนั้นก็ตาม เขาก็จะกลับมาพบฤดีชื่นหน้าหงิกคอย อยู่แล้ว พร้อมกับคำถามว่า "ทำไมเพิ่งกลับ" ตั้งแต่ฤดีชื่นสนใจธรรมะ เธอเริ่มอ่านหนังสือธรรมะอย่างเพลิดเพลิน เข้าคอร์ส อบรมสมาธิ และเริ่มฝึกฝนที่บ้านอย่างตั้งอกตั้งใจ ความขุ่นมัวอันเป็นปกติของ เธอ ค่อยๆ จางลง ฤดีชื่นรู้สึกสงบเย็นในจิตใจ และสามีของเธอก็รู้สึกได้ถึงความ สงบเย็นนั้น ทั้งสองเกิดความรู้สึกไว้วางใจกันและกันอย่างสนิท  ฤดีชื่นเชื่อใจในสามี ทำให้เขา หมดความกังวลเกี่ยวกับความกังวลของเธอ  เขารู้ว่าเธอสบายใจและเชื่อใจเขา   ดังนั้น เขาจึงตีกอล์ฟอย่างปลอดโปร่ง จิตใจสบาย มีสมาธิ และชนะได้รางวัล ฤดีชื่นรู้สึกว่าเธอก็ชนะด้วย  แต่เป็นการชนะเรื่องร้อนในบ้านอันเกิดจากตัวเธอเอง   ธรรมะสอนให้เธอเข้าใจเรื่องของชีวิต เรื่องของกรรม ว่ามีที่มาที่ไปอันเนื่องด้วย การกระทำของตนเองอย่างไร สอนให้มองโลกอย่างเห็นตามความเป็นจริง  ไม่ใช่ มองอย่างอยากจะให้เป็นไปตามใจของตนเอง อันเป็นเหตุนำทุกข์มาให้ ~*~*~ เธอได้อ่านหนังสือเรื่องแสงแดดและใบไม้เขียวของ ติช นัท ฮันห์  วึ่งเล่าเกี่ยวกับ น้ำแอปเปิ้ลในถ้วยว่า ตอนแรกเมื่อรินจากขวดจะมีตะกอนที่เป็นเศษเนื้อแอปเปิ้ล ติดมาด้วย  เมื่อมันตกตะกอนแล้ว น้ำก็จะใสน่าดื่ม การทำภาวนา ทำให้ใจใสกระจ่าง ความใสนี้ช่วยฟื้นความชุ่มชื้น ทั้งยังให้พลังและ ความสงบ  แต่ไม่ใช่สงบอย่างน้ำแอปเปิ้ล หากแต่เป็นความสงบที่มีความตระหนักรู้ อยู่ด้วย ฤดีชื่นซาบซึ้งถึงความร่มเย็นในใจที่พระธรรมแผ่มาคุ้มครอง  นอกจากจะทำให้เธอ เย็นแล้ว ยังทำให้คนในครอบครัวของเธอเย็นอีกด้วย ฤดีชื่นนั่งทบทวนสิ่งที่เเกิดขึ้นวันนี้แล้วปลื้มปิติ ก้มกราบขอบพระคุณพระรัตนตรัย ด้วยความนอบน้อมอย่างเต็มเปี่ยม จากคุณ : อังศนา - [ 2 เม.ย. 48 12:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 37 วิธีมัดใจสามี จากเรื่อง #36 ..”ทำไมเพิ่งกลับ” บ้าน .บอกมา อย่าเอ่ยคำนี้หนา .แน่งน้อง เหมือนจะจับผิดสา .มีน่ะ “พี่เหนื่อยไหมจ๊ะ” ต้อง .จริตด้วยคำหวาน ..สามีจะติดบ้าน ..บานบุรี ชีวิตจะสุขี ....สุขล้น จุ๊บจุ๊บสักสองที ...ยิ่งมัด ใจนา ถึงเหนื่อยคงดั้นด้น .ดิ่งบ้านรับขวัญ จากคุณ : เรียมโรย - [ 2 เม.ย. 48 20:16:27 A:61.91.120.157 X: TicketID:082711 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อาทิตย์สวัสดิ์ค่ะ ท่านทั้งหลาย   ..วันนี้กลางวันร้อนระอุ  แต่พอตกเย็นฝนก็โปรย ลงมาเย็นชุ่มฉ่ำ ..อนิจจังเห็นๆ เลยนะคะ ฆราวาสธรรมสี่ข้อ........ควรคะนึง สัจจะความจริงพึง.....................ยึดไว้ ทมะหมั่นควบคุมจึง.................มีสติ ขันติอดทนได้............................จาคะนั้นสละเสีย เอ้อ.. นอกจากวิธีมัดใจคู่ครองที่มีท่านที่หวังดีมาแนะนำแล้ว ผู้ครองเรือนก็ควรจะต้องยึดมั่นฆราวาสธรรม ๔ อีกด้วยค่ะ *สัจจะ ความซื่อตรงจริงใจ  *ทมะ  การควบคุมตนเอง   *ขันติ ความอดทน  และ *จาคะ  การสละออกไป จากคุณ : อังศนา - [ 3 เม.ย. 48 17:26:29 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายสำหรับกระทู้นี้   ส่วนกระทู้ใหม่   จขกท. จะหาโอกาสตั้งและทยอยพิมพ์ เรื่องธรรมะสั้นๆ ชุดนี้อีก กระทู้ละประมาณ ๑๐ ตอน ..ขอเชิญแวะอ่านตามอัธยาศัยค่ะ ตัวเรามีหน้าที่.............รักษ์ใจ  ตนนา มิว่ามีอะไร................................กระทบเข้า ปล่อยวางอย่าคิดไป..............ปรุงแต่ง เลิกเก็บมาหมองเศร้า.............เลือกทิ้งเหลือบุญ ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..รักษาใจ.. ~*~ เช้าวันนี้  ยิ้มสวยตื่นเร็วขึ้นอีกนิด  เพื่อจะได้ตักบาตร อาบน้ำแต่งตัวแล้ว ก็รีบลงมาทำกับข้าวอย่างมีสมาธิ  สงบใจ ไม่ฟุ้งซ่าน  แม้เวลาจะน้อยดู เหมือนรีบ แต่ทุกอย่างคล่องแคล่วลื่นไหล  เพราะสมาธิทำให้เหมือนมี เวลามาก คล้ายกับพายเรือไปในคลองคนเดียว ไม่มีเรืออื่นมาเกะกะ ทำกับข้าวเสร็จก็จบอธิษฐาน ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วว่า  "ข้าพเจ้ายิ้มสวย   ขอถวายอาหารแด่ภิกษุสงฆ์ ขอบุญกุศลจงมีแก่ข้าพเจ้า และเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าพ้นทุกข์ถึงพระนิพพานเทอญ" จบเสร็จแล้วก็ออกไปยืนรอพระหน้าบ้าน  พระองค์หนึ่งผ่านมา ท่านดู สำรวมมาก และบาตรยังว่างเปล่า ยิ้มสวยตักบาตรด้วยความปลื้มปิติ   โชคดีที่หน้าบ้านมีพระผ่านมาเยอะ  ไม่นานยิ้มสวยก็ตักบาตรเสร็จ ๓ องค์ กลับเข้ามาในบ้านก็กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ผู้มีพระคุณและสรรพสัตว์ ทั้งหลาย ยิ้มสวยขับรถไปทำงานด้วยความเบิกบานใจ  ดีใจที่การตักบาตรเช้านี้เป็น ไปด้วยกุศล เพราะเธอสามารถประคองบุญไว้ในใจได้ตลอด  ๓  กาล  คือ ก่อนทำ กำลังทำ และหลังทำ  ตอนทำกับข้าวก็ไม่มีเรื่องกวนใจให้หงุดหงิด   ตอนตักบาตรก็ปลื้ม  ตอนกรวดน้ำก็เต็มไปด้วยเมตตาจิต มาถึงที่ทำงาน เจอจ๊ะจ๋าก็รีบบอกอย่างยิ้มแย้มว่า ตักบาตรมา เอาบุญมาฝาก   จ๊ะจ๋ายิ้มชื่นรีบรับบุญทัันทีว่า  "อนุโมทนาบุญด้วยจ้ะ" แล้วจ๊ะจ๋าก็เล่าให้ฟังว่า วันวานไปถวายเพลกับญาติที่วัด  ตอนเดินไปหากุฏิ หลวงพ่อ ก็ไปดูกุฏิหนึ่งเห็นปิดประตูอยู่ ที่พื้นลานหน้าประตูมีพระหนุ่ม ๔ รูป เอกเขนกอยู่ นุ่งห่มหลุดลุ่ย  และพ่นควันบุหรี่ฉุย  ไม่สนใจกับอาการเมียง มองของจ๊ะจ๋าเลยแม้แต่สักน้อย  จ๊ะจ๋ารีบเดินไปหาต่อจนเจอกุฏิหลวงพ่อที่ จะถวายเพล ยิ้มสวยปลอบใจจ๊ะจ๋าว่า "พระมีหน้าที่สำรวม เพื่อรักษาศรัทธาชาวบ้าน เป็นหน้าที่ต่อศาสนาที่พระ อาศัยอยู่  และรีบเร่งศึกษาปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของพระเอง และเพื่อเป็นเนื้อ นาบุญของชาวบ้านที่เขาตักบาตรให้  การที่กินข้าวชาวบ้านแล้วมานอน ก็คือ พระเก็บบาปใส่ตัวอยู่ในวัดนั่นแหละ  น่าสงสารที่เขาไม่รู้ตัว" จ๊ะจ๋าถอนใจ  "แต่เราเห็นแล้วมันวูบลงเลย  ไม่อยากเลี้ยงเพลเลยเมื่อวาน   แต่คงจะเป็นพระคนละกลุ่มกัน ยังดีหน่อย" "เรามีหน้าที่รักษาใจของเราเหมือนกันนะ  เวลามีอะไรมากระทบต้องระวัง   อย่าให้ใจกระเทือน  ปล่อยไปเถอะ  ให้เห็นว่าสักว่าเห็น  ไม่ปรุงแต่งต่อไป ว่าสิ่งที่เห็นนั้นมันอย่างนั้นอย่างนี้  ฮึ่ม ฮึ่ม แหม แหม อะไร ไม่เอาทั้งนั้น เห็นก็สักแต่ว่าเห็นเท่านั้นพอ  เอ้านี่ กรรไกร ตัดสายป่านให้เรื่องนี้มันขาด ลอยไปเลย  จำไว้แต่เรื่องเลี้ยงเพล" จ๊ะจ๋าหัวเราะเบาๆ รู้ว่ายิ้มสวยชอบจินตนาการ "พระพุทธเจ้าสอนว่า ช่างดอกไม้ที่ฉลาดเขาเลือกเฉพาะดอกสวยมาจัด ส่วนดอกไม่สวยทิ้งลงถังขยะไป  เราควรเลือกเก็บแต่บุญไว้ในใจเหมือนกัน   เรื่องเศร้าหมองให้ทิ้งไป รักษาใจเราให้ดีอยู่เสมอ"   จากคุณ : อังศนา - [ 3 เม.ย. 48 17:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ทำบุญเพื่ออยากได้ .......... หวังผล จิตจะรุ่มร้อนรน ............... เรียกร้อง คล้ายกับว่าปล่อยตน ........ ตามกิเลส มัวมุ่งจับคอยจ้อง ............ จึ่งไหม้แผดเผา จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 22:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แม้บาปใดใครก่อขอหยุดด้วย อาจจะช่วยได้ทันวันใหม่สร้าง วันเวลาข้างหน้าอย่าปิดทาง แสงสว่างอยู่ตรงนี้ที่ใจเรา ทุกสิ่งอยู่ที่ใจ ทำดี คิดดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น หรือแม้กระทั่งเบียดเบียนตัวเอง ขอให้มีความสุขทุกท่านค่ะ   จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 24 เม.ย. 48 12:33:16 ]

ความคิดเห็นที่ 42 จากคุณ : :-) - [ 3 พ.ค. 48 07:56:53 A:203.148.171.1 X: TicketID:097087 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คืนนี้ไม่อาจล้ม ............. หลับตา รู้สึกมึนหนักหนา ........... เหนื่อยแท้ เฝ้านั่งนับเวลา .............. เลยผ่าน ที่สุดอาจยอมแพ้ .......... พ่ายสิ้นสิ่งหวัง ขอเอาแปะไว้ตรงนี้สักหน่อยนะคะ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 17 พ.ค. 48 00:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 44 จากที่พี่อังศนานำมาแปะให้ได้อ่านกัน ทำให้อยากอ่านส่วนที่เหลือ เลยต้องไปหาซื้อมาไว้ใน ครอบครองแล้วค่ะ  ยอมรับว่าเค้าแต่งได้น่าอ่านเพลินมั่ก ๆ ค่ะ ก็ขอขอบคุณที่พี่อังได้จุดประกายให้นะคะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 29 พ.ค. 48 06:33:58 ]