ทรท.ครองแชมป์รับเงินบริจาคพรรคการเมืองประจำเดือน ก.พ. ฟันเหนาะๆ 129 ล้าน คุณหญิงอ้อ เจียดเงินหนุน 85 ล้าน ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ยอมน้อยหน้าปั้นเงินช่วย 30 ล้าน ด้าน ปชป.-ชาติไทย รับเงินช่วยจุ๋มจิ๋มรวมกันไม่ถึง 2.5 ล้าน
รายงานข่าวจาก กกต.แจ้งว่า จากการที่ กกต.ได้รับแจ้งการรับเงินบริจาคของพรรคการเมืองต่างๆตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.พ. 48 พบว่า การบริจาคเข้า 4 พรรคการเมืองในเดือนก.พ.รวม 132,100,540 บาท มีความน่าสนใจ โดยพรรคไทยรักไทย ที่มีผู้บริจาคเพียง 11 ราย แต่กลับมียอดบริจาคสูงที่สุดถึง 129,643,340 บาท ซึ่งคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย บริจาคเงินเข้าพรรคจำนวน 85 ล้านบาท นายวิสิทธิ์ ลีละศิธร ประธานกรรมการบริษัทลีพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ บริษัท สหไทยน้ำมันพืช จำกัด 2 ล้านบาท น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส บริจาค 10 ล้าน นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการบริษัทในเครือไทยซัมมิท กรุ๊ป พี่สะใภ้ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรคไทยรักไทยบริจาค 10 ล้าน นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทในเครือไทยซัมมิท ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจของตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ อย่าง บริษัทซัมมิท โอโตซีท อินดัสตรี จำกัด และบจ.ซัมมิท แหลมฉบังโอโต บอดี้ เวิร์ค ยังบริจาคเงินรวม 20 ล้าน ทำให้ยอดเงินบริจาคในเดือนกุมภาพันธ์ของพรรคไทยรักไทย สูงถึง 129,643,340 บาท
ทั้งที่เป็นที่น่าสังเกตว่า การบริจาคเงิน 85 ล้านบาทเข้าพรรคการเมืองของคุณหญิงพจมานที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-5 ก.พ ซึ่งเป็นช่วงก่อนวันเลือกตั้ง 6 ก.พ. โดยก่อนหน้านี้ในปลายเดือนพ.ย.47 คุณหญิงพจมานก็ได้บริจาคเงินเข้าพรรคไทยรักไทยสูงถึง 50 ล้าน และเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการบริจาคเพื่อให้พรรคมีเงินไปใช้ในกิจกรรมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอย่างถูกต้อง
ขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมีผู้ที่บริจาคเงินเข้าพรรคจำนวนมากถึง 69 ราย แต่เกือบทั้งหมดเป็นสมาชิกพรรค มีเพียงกลุ่มธุรกิจเอกชนรายเดียว คือ บริษัท ซี.บี.โฮลดิ้ง จำกัด ที่บริจาคเข้าพรรครวม 2 ล้านบาท ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มียอดรวมเงินบริจาค 2,416,700 บาท ส่วนพรรคชาติไทย มีผู้บริจาคเพียง 1 ราย คือ นายธรรมา ปิ่นสุกาญจนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ บริจาค 20,500 บาท และพรรคเพื่อฟ้าดิน ที่มีผู้บริจาค 1 รายเช่นกัน คือ นางสาวศิริวรรณ ปั้นวิชัย บริจาคเงินทั้งสิ้น 2 หมื่นบาท
ทั้งนี้ เงินบริจาคที่พรรคการเมืองได้รับทาง กกต.จะทำการตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้หรือไม่ คือ เงินที่ได้รับต้องไม่ได้รับมาจาก บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย หรือจากนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจหรือจดทะเบียนสาขาอยู่นอกราชอาณาจักร หรือรับเงินจากผู้ใดเพื่อมากระทำการสนับสนุนหรือกระทำการอันเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ หากฝ่าฝืนก็มีโทษถึงขั้นยุบพรรค
อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดการรับบริจาคเงินของพรรคการเมืองในรอบปี 47 ที่ผ่านมา พรรคไทยรักไทย ยอดบริจาคเป็นอันดับ 1 โดยได้รับการบริจาคทั้งสิ้นจำนวน 34 ครั้ง คิดเป็นจำนวนเงิน 189,167,580 บาท รองลงมาพรรคชาติไทย มีผู้บริจาคทั้งสิ้น 12 ครั้ง คิดเป็นจำนวน39,192,680 บาท ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้บริจาคทั้งสิ้น 49 ครั้ง คิดเป็น 16,497,030 บาท
#######
"เมียบริจาคให้พรรคผัว เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็น ผัวนอนกับเมีย ผัวโอนหหุ้นให้เมีย เมียโอนกำไรให้ผัว ผัวได้เป็นใหญ่ ผัวออกกฎหมายนโยบายให้บริษัทเมียรวย เมียบริจาคให้พรรคผัว เมียลดภาษีได้ ชาติไทยเจริญ"
@@@@
สงสารคนไทยที่ยังเชียร์แบบไม่ลืมหูลืมตาลองคิดดูซิว่าทำการเมืองแบบนักธุรกิจมีหรือจะไม่ถอนทุนคืน ถึงแม้ประเทศชาติจะไม่หวือหวาแต่เงินทุกบาททุกสตางค์ของประชาชนเพื่อประชาชนนั้นสำคัญกว่า ถ้ายังไม่เน้นการพัฒนาสังคมรับรองบ้านเมืองไปไมรอดแน่ อะไรจะเท่ากับการมีกินพึ่งพาตัวเองได้แบบเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่เน้นแต่สิ่งฟุ่มเฟือยของโลกโลกาภิวัต บริโภคนิยมจนเกินไป ขอให้ดูแบบสมัยท่านรัฐบุรุษ เปรม ปัญหาจะแก้ไขได้เสมอถ้าเรารู้จักบริโภคแต่พอดี ลดสิ่งฟุ่มเฟือย เชื่อหรือไม่สิ่งที่กำลังทำให้ชีวิตมนุษย์มีปัญหาก็สิ่งฟุ่มเฟือยนี่แหละ
@@@@@@@@
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 มีนาคม 2548 18:05 น.
จากคุณ :
KillerKiller
- [
24 มี.ค. 48 00:03:19
]