ความคิดเห็นที่ 1 กรรมดีกรรมชั่วล้วน........รัดรึง จักติดตามตัวถึง...........................ชาติหน้า ลดชั่วแต่ดีพึง................................กระทำเถิด จะเกิดผลเร็วช้า.............................ใช่พ้นตนเอง ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..กรรมโบราณ..~*~ พิณอัปสร วางพวงมาลัยบนจานเชิงแล้วตั้ังที่หน้าหิ้งพระ  ถัดจากนี้เหลือเพียงจัดแจกัน ดอกไม้ เพื่อวางสองข้างขององค์พระพุทธรูป   พรุ่งนี้บริษัทนิมนต์พระมาเทศน์ที่ห้อง จริยธรรมเพื่อแสดงธรรมให้พนักงานฟัง พิณอัปสรนั่งพับเพียบบนพื้นเวที เธอเริ่มพับกลีบดอกบัว  กิ่งแก้วตามมานั่งข้างๆ ช่วยพับด้วย "คุณป้าขา เค้าว่าธรรมะทำให้คนเฉื่อย  เพราะว่าอะไรๆ ก็ยกให้กรรมหมด จริงหรือเปล่าคะ" พิณอัปสรหัวเราะเบาๆ มองกิ่งแก้วด้วยแววตาเอ็นดู "ไม่จริงเลยจ้ะ  แต่คนเรามักพูดแต่ว่ากรรม ความจริงมีทั้งกรรมดีกรรมชั่ว ศาสนาพุทธสอน เรื่องกรรม  และการมีชาติก่อนชาตินี้ชาติหน้า  กรรมดีกรรมชั่ว เราสร้างเองและรับผลเอง ไม่ใช่ใครทำ" "กรรมชาติก่อนให้ผลมาชาตินี้จริงหรือคะคุณป้า"  กิ่งแก้วถาม "ใช่จ้ะ กรรมดีเหมือนเรามีตู้เย็น เราเก็บผลไม้ไว้ พอมาชาตินี้เราก็เปิดตู้เย็นเอาผลไม้ มากิน  และชาตินี้เราก็ทำดี คือหาผลไม้ใหม่ใส่ตู้เย็นด้วย" "ถ้าเป็นหนังนี่เหมือนใส่ไทม์แมชชีนมาเลยนะคะ"  กิ่งแก้วหัวเราะ  พิณอัปสรหัวเราะ ตามเบาๆ "ใช่ ส่วนกรรมชั่ว ก็เหมือนถังขยะ มันใส่ไทม์แมชชีนมาด้วยเหมือนกัน  ขยะแต่ละชิ้น ในถังก็จะลอยมาโดนเรา หลบไม่ได้  ตรงนี้แหละที่ชาตินี้เราต้องขวนขวายหาเสื้อมา ใส่คลุมไม่ให้เปื้อน ขวนขวายหาน้ำมาไว้ล้างตัว  และรีบขุดหลุมใหญ่ๆเพื่อฝังขยะ พวกนี้ไม่ให้มันตามเราต่อไป เห็นไหมคะว่การยอมรับกรรมยิ่งทำให้ขวนขวายมาก   ไม่เฉื่อยหรอก" กิ่งแก้ว ยกนิ้วชี้ขึ้นจิ้มๆ ในอากาศ  "และเราต้องไม่สร้างขยะใหม่ใส่ในถังด้วยใช่ไหมคะ"   พิณอัปสรพยักหน้า "แล้วแต่ละอย่างที่คุณป้าว่ามา หมายถึงอะไรบ้างคะ" "เอาเสื้อมาคลุม ก็คือการยอมรับว่าเรามีกรรมนั้นๆ  ยังไงมันก็ต้องมาโดนตัวเรา   การยอมรับทำให้เราสงบ มีสติได้ ไม่ฟุ้งซ่าน หรือโกรธเกลียดอะไรต่างๆ  เสื้อคลุมเป็น การรักษาใจให้อยู่รอดได้ ไม่เศร้าหมอง  การหาน้ำมาล้าง ก็คือการทำความดี ทำบุญ มากๆ ล้างสิ่งสกปรกออกไป   ส่วนการขุดหลุมฝังขยะ ก็คือการให้อภัย การอโหสิกรรม กับคนหรืออะไรต่างๆ ที่ผูกพันมีเวรมีกรรมกันมา ให้เลิกแล้วต่อกัน  บางทีผูกพันกันมา หลายชาติก็มีนะ" "โอ้โฮ  กรรมโบราณ"  กิ่งแก้วหัวเราะอีก  "ให้อภัยแล้วจะจบกันหรือคะ คุณป้าขา" "ก็เหมือนกิ่งแก้วโกรธกับใคร เขามาขอโทษ เราก็ให้อภัย ความผิดใจก็หมดไปจากใจ ของทั้งสองฝ่าย" "ถ้าเขาไม่มาขอโทษละคะ" "ไม่ขอโทษก็ให้อภัย  เพราะเขายิ่งน่าสงสารไปใหญ่ ที่เป็นคนขอโทษใครไม่เป็น  แต่นั่น เป็นปัญหาของเขาเอง ปัญหาของเราคือเราจะดูแลจิตใจของเราให้สงบ และมีความสุข อย่างไร  เราจะทำอะไรดีๆ ให้ตัวเองได้บ้าง โดยไม่เบียดเบียนใคร" กิ่งแก้วหัวเราะ  "เหมือนยกซูเปอร์มาร์เก็ตไปชาติหน้าเลยใช่ไหมคะ คุณป้า" จากคุณ : อังศนา - [ วันจักรี 20:53:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 . .การเมืองใช่เรื่องร้อน .. . .. . .. . .. . .. . .. เอือมระอา หากเลือกชอบคบหา .. . .. . .. . .. . .. . .. . .พรรคแม้ว ใครรักเท่าผืนนา .. . .. . . . . .. .. . .. . . . .. เห็นอยู่ ใครรักเท่าฟ้าแล้ว .. . .. . .. . .. . .. . .. . .. .ท่านรู้ในกมล . .สังคมคนเปลี่ยนได้ .. . .. . .. . .. . .. . .. .ตามกาล มิใช่เพราะรัฐบาล .. . . . . .. . . .. . . .. .. . ..อยากสร้าง ปัญหาหมักหมมนาน .. . .. . . .. . . . . .. . .. .มาก่อน จนเพิ่มพูนหย่อนล้าง .. . . .. . . . . .. . .. . . .ยากแก้จนหาย จากคุณ : ชินจิโน่ - [ วันจักรี 20:59:23 A:203.113.32.7 X:203.151.140.113 TicketID:053536 ]

ความคิดเห็นที่ 3 . .กรรมดีกรรมชั่วรู้ .. . .. . .. . . .. . .. . .. . ..ในใจ คนเก่าทำบรรลัย .. . .. . .. . .. . .. . .. . .. . ..เนิ่นแล้ว ขอกรรรมชั่วสว่างไหว .. . .. . .. . .. . .. . .. . .บังเกิด ครบรอบบ่ให้แคล้ว .. . .. . .. . .. . .. . .. . .. . เร่งรื้อตามทัน จากคุณ : ชินจิโน่ - [ วันจักรี 21:08:34 A:203.113.32.7 X:203.151.140.113 TicketID:053536 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การเมืองหากว่าร้อน ......... รานใจ ชี้แนะบอกออกไป ........... ปากป้อง เรื่องเคืองขุ่นใดใด ........... บอกต่อ เพื่อพวกเราพี่น้อง ............ สุขแท้ตลอดกาล สวัสดีค่ะ จขกท ช้อบปิ้งบุญ.... และคุณชินจิโน่ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันจักรี 21:14:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สังคมคนเปลี่ยนได้ ....... แน่นอน ชีวิตทุกบทตอน ........... แต่ต้น เรียนรู้หลักคำสอน ....... ผลเหตุ ย่อมหลุดเลยล่วงพ้น ..... จากห้วงตัณหา จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันจักรี 21:20:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 . .โบราณท่านกล่าวไว้ .. . .. . .. . .. . .. . .. . .พอดี กรรมเก่าตามทันที .. . .. . .. . .. . .. . .. . .. . .ชาติหน้า ยุคเราเปลี่ยนวิธี .. . .. . .. . .. . .. . .. . .. . . . ติดเน็ต กรรมย่อมตามบ่ช้า .. . .. . .. . .. . .. . . . . . . .ชาตินี้ทันเห็น . .กาแฟเย็นอย่าให้ .. . .. . .. . .. . .. . .. . .. . ชงขม น้ำเดือดรีบเติมนม .. . .. . .. . .. . .. . .. . . . .. แบบข้น หลอดดูดอย่ามัวงม .. . .. . . . . .. . .. . .. . . .. หาใส่ พอเสร็จเทอย่าล้น .. .. .. .. . .. .. .. .. . . . . .. ส่งพร้อมเงินทอน จากคุณ : ชินจิโน่ - [ วันจักรี 21:21:06 A:203.113.32.11 X:203.151.140.113 TicketID:053536 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กรรมดีกรรมชั่วรู้ .......... ระลึกเตือน ชีวิตอย่าให้เหมือน ....... หมดสิ้น หากสติฟั่นเฟือน .......... หายหด คงยากหยุดหรือดิ้น ...... ห่างพ้นบ่วงกรรม จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันจักรี 21:27:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 . .พรรคเก่าเขาเปิดป้าย .. . .. . .. .. . . .. . . .. .เป็นสภา รับแต่คนธรรมดา .. . .. .. . .. . .. . .. . .. . .. . .แค่นั้น กาแฟยากจะหา .. .. . .. .. . . .. . .. . .. . . .. . .รสอร่อย แถมกลิ่นสีคนละชั้น .. . .. . .. . .. .. .. .. . . .. ..ซดแล้วฝืนคอ จากคุณ : ชินจิโน่ - [ วันจักรี 21:30:12 A:203.113.32.11 X:203.151.140.113 TicketID:053536 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โบราณท่านกล่าวไว้ ......... นานมา จงรีบลุกลืมตา ................ แต่เช้า เข้าครัวรีบหุงหา .............. อาหารก่อน แล้วอยู่เรือนคอยเฝ้า ......... อยู่บ้านดูแล คุณชินจิโน่ สบายดีนะคะ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันจักรี 21:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กาแฟเย็นอร่อยล้ำ .......... ลืมตัว บ้านไร่ปั๊มเจ็ทชัวร์ ........... ชอบแท้ ไม่ไหนไม่ต้องกลัว ......... นอนง่วง ดื่มสักนิดคอยแก้ ........... ก่อนให้ตาแข็ง จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันจักรี 21:38:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 . .ชินจิโน่ก็ชอบสร้าง .. . .. . .. . .. . .. . . . .. .กรรมดี ตักบาตรนานนานที .. . .. .. .. .. .. . .. . .. . .. .แต่เช้า ฟังธรรมเทศน์หนึ่งปี .. .. . .. . .. . .. .. . . .. . ..เกือบสิบ ตกค่ำยังเดินเข้า .. . .. . .. .. . . .. . .. . . . . . . ย่ำเท้าเวียนเทียน . .ชาราเรียนรู้เถิด .. . .. . .. . . . .. . . . . . .. . . ทำกุศล คนแก่จูงข้ามถนน .. . .. . .. . .. . .. . .. . .. . . . บ่อยมั้ย ตังส์เหลืออย่าลืมคน .. . .. . . . .. . . . . . . . . . .ตาบอด นาแม่ กรรมซึ่งสะสมไว้ .. . .. . .. .. .. . . . .. . . .. . .. .จะย้อนเร็ววัน จากคุณ : ชินจิโน่ - [ วันจักรี 21:45:55 A:203.113.32.11 X:203.151.140.118 TicketID:053536 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พรรคเก่าเขาเปิดแก้ ......... ปรับเกม ยามดื่มคงอิ่มเอม ............ อวดได้ กาแฟอาจโนเนม ............ เก่าเก็บ แก้วเปลี่ยนคงทำให้ ......... อร่อยขึ้นกว่าเดิม จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันจักรี 21:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พยายามรู้หลักสร้าง ........ ซึ่งกุศล ชินจิโน่ข้ามถนน ............. อย่าช้า ยักแย่ยักยันคน .............. ยามแก่ ควรเรียกคนจูงคว้า .......... จับไว้แน่นหนา จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันจักรี 21:52:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 . .ชอปปิ้งบุญบ่อยแล้ว .. . .. . .. .. .. .. . .. . ..หลายทาง เราเอย อีกหน่อยอาจชวนนาง .. . .. . .. . .. . .. .. . .. .ชอปบ้าง เพราะกลัวแม่จะจาง .. . .. . .. .. . .. . . . .. . . .ใจก่อน หากเอ่ยปากบ่ร้าง .. .. . .. .. . .. . . . .. . . . .. . เท่านี้พอใจ จากคุณ : ชินจิโน่ - [ วันจักรี 21:55:23 A:203.113.32.11 X:203.151.140.113 TicketID:053536 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ชอปปิ้งบุญบ่อยแล้ว ........... เรื่องดี ทำต่อท่านจะมี ................. มากล้น อายุกว่าร้อยปี ................... เป็นสุข แล้วจะหลุดห่างพ้น ............ พร่ำเพ้อลำพัง จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันจักรี 22:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 16 . .เห็นทีกรรมหมดแล้ว .. . .. . .. . .. . .. . .. . .. หมดเลย ขอฝากไว้เหมือนเคย .. . .. . .. . .. . .. . .. .. . ..แก่เจ้า เจอเมื่อไร่อย่าเฉย .. . .. . .. . .. . .. . . . .. .. .. .ทักหน่อย พอว่างเราจะเข้า .. . .. .. .. .. . .. .. . .. . .. .. . ..เพื่อใช้กรรมคืน . .แสนสุดฝืนต้องจาก .. . .. . . .. . .. . . .. . .. . .นางไป อุตส่าห์ว่างแล้วไง .. . .. . .. . .. . . .. .. . .. . . . .ค่ำนี้ คราวหน้าหยุดวันไหน .. . .. .. .. .. .. . .. . . . . . รอเถิด แ่ม่เอย เราจะมาเซ้าซี้ .. . .. . .. .. .. .. .. .. . . .. . . .. . กอดเจ้าคลายเหงา จากคุณ : ชินจิโน่ - [ วันจักรี 22:13:02 A:203.113.32.11 X:203.151.140.113 TicketID:053536 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ดีใจกรรมหมดแล้ว ............ จริงหรือ ถ้าอย่างนั้นอย่าถือ ............ ถกถ้อย ทุกสิ่งที่เห็นคือ ................ แค่ภาพ ปลดปล่อยเรื่องหลากร้อย ... ที่ล้วนลวงตา จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันจักรี 22:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 รสธรรมไม่ทราบซึ้ง................ในใจ กิเลสขวางทางไป...................ปิดป้อง รสรักแน่น อกใน.....................หนาแน่น หลงลุ่มเลยร่ำร้อง...................บอดไบ้ บังตา _____________________________________ สวัสดีครับ คุณอังศนา คุณโชจิโน่ คุณซารา แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 48 22:51:45 จากคุณ : scoreboard - [ วันจักรี 22:51:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รสธรรมควรซาบซึ้ง .......... ในใจ เพื่อตักเตือนก่อนไหล ...... ล่องรั้น กิเลสเรื่องอ่อนไหว .......... ว้าวุ่น สำนึกจะคอยกั้น ............. ก่อนพลั้งพลาดเผลอ สวัสดีค่ะคุณ scoreboard จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันจักรี 22:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หากละกิเลสแล้ว.....................คงดี ธรรมะเล็ดรอดมี......................อยู่บ้าง คงพอช่วยนำชี้........................พาส่ง รักบอดแม้ลาร้าง......................พบได้ ทางสวรรค์ จากคุณ : scoreboard - [ วันจักรี 22:59:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 รสธรรมแม้ทราบซึ้ง...................ทรวงใน รู้รับอยู่ในใจ............................แค่นี้ ไม่มีประโยชน์ได......................เพียงคิด ปฎิบัติคงช่วยชี้.........................วัดได้ แน่เสมอ จากคุณ : scoreboard - [ วันจักรี 23:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หากละกิเลสแล้ว .......... รื่นรมย์ จะไม่ปล่อยใจจม .......... ปลักเศร้า ย่อมรู้จักแก้ปม ............. ใจเปิด แม้ทุกสิ่งรุมเร้า ............. ผ่านพ้นได้เสมอ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันจักรี 23:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23 รสธรรมแม้ซาบซึ้ง ........ ทรวงใน รู้สึกจากในใจ .............. แจ่มแจ้ง ผลส่งแผ่ขยายไป ......... เป็นสุข โลกไม่เหี่ยวแห้งแล้ง ..... ย่อมต้องสดสวย จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันจักรี 23:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ธรรมะเรื่องจริงแท้...................สัจธรรม ทุกสิ่งเป็นตามกรรม.................ก่อไว้ ดีชั่วส่งผลนำ..........................กรรมก่อ ตามติดรอคอยให้...................เพื่อได้ คอยสนอง จากคุณ : scoreboard - [ วันจักรี 23:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ข้าวของได้ช็อปปิ้ง.......................แสนเพลิน จับจ่ายด้วยทองเงิน........................ที่ร้าน บุญกรรมสิ่งเจริญ.........................ดวงจิต ที่ช็อปมีแสนล้าน..........................ทั่วบ้าน ทั่วเมือง จากคุณ : scoreboard - [ 7 เม.ย. 48 00:06:00 ]

ความคิดเห็นที่ 26 . .กรรมเรายังติดค้าง.. . .. . .. . .. . .. . .. . .. ตามคืน จึงย่องแอบมายืน .. . .. . .. . .. . .. . .. . .. . ..อย่างนี้ หากใครง่วงอย่าฝืน .. . .. . .. . .. . .. . .. .. . . คุยต่อ หากไม่ง่วงเชิญชี้ .. . .. . .. . .. . .. . .. . .. . . .ช่วยให้เห็นธรรม . . ทำดีทำชั่วรู้.. . .. . .. . .. . .. .. . . .. .. .. . ..ในใจ พรรคอย่างไทยรักไทย .. . .. . .. . .. . .. .. . .. กล่าวอ้าง สี่ปีซ่อมเห็นไหม .. . .. . .. . .. . .. .. .. . .. .. . ทำหมด อีกสี่ปีรอสร้าง .. . .. . .. . .. . .. . .. . . . . . . . ชาติให้เป็นสวรรค์ จากคุณ : ชินจิโน่ - [ 7 เม.ย. 48 00:37:08 A:203.113.32.12 X:203.151.140.112 TicketID:053536 ]

ความคิดเห็นที่ 27 . .ชวนสาวไปชอบปิ้ง .. . .. . .. . .. . .. . .. . .. ..สักคน ยังไม่เจอหาจน .. . .. .. .. .. .. .. . .. .. .. .. .. ..ง่วงแล้ว เราถามหากใครสน ... . .. . .. . .. .. . .. . .. .. . .รีบบอก หากไม่บอกคงแคล้ว .. . .. . .. .. . .. .. . .. . .. . แม่ต้องรอนาน [นอนดีกว่า] จากคุณ : ชินจิโน่ - [ 7 เม.ย. 48 00:54:28 A:203.113.32.12 X:203.151.140.112 TicketID:053536 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ข้าวของได้ชอปปิ้ง ......... เสียเงิน แต่ชอปบุญสุขเกิน ........ กล่าวอ้าง อิ่มเอิบและเพลิดเพลิน ... ผ่องผุด มาเถิดมาร่วมสร้าง ......... สิ่งแท้สัจธรรม อยู่กันดึกจังค่ะคืนนี้ .... แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 48 07:43:51 จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 7 เม.ย. 48 00:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ทำดีทำชั่วนั้น ................ ติดตาม เหมือนดั่งคอยเป็นยาม .... อยู่เฝ้า ทำดีจะงดงาม ................ เกิดสุข ทำชั่วจะโศกเศร้า ............ ทุกข์ซ้ำเติมเสมอ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 7 เม.ย. 48 00:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ชวนหนุ่มไปชอปปิ้ง ......... ทำบุญ เกิดกุศลเป็นคุณ ............. ประโยชน์สร้าง ไม่คิดโลภกักตุน ............ เก็บแอบ จะเผื่อคนอยู่ข้าง ............ ไม่เว้นทุกคน จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 7 เม.ย. 48 01:06:20 ]

ความคิดเห็นที่ 31 กุศลนั้นเริ่มด้วย.....................จิตใจ สะอาดผุดผ่องใส....................สุดนิ้ง ความดีสั่งทำไป......................ล้ำเลิศ ความชั่วกำจัดทิ้ง.....................สิ่งร้าย หลีกหนี ____________________________________ คุณซาราเองก็นอนดึกน่ะครับ จากคุณ : scoreboard - [ 7 เม.ย. 48 01:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แบ่งบุญกุศลได้.........................คงดี แต่เพราะไม่มีวิธี.........................แบ่งได้ น้ำใจหลากล้นมี..........................มากอยู่ เผื่อแผ่ให้คนใกล้........................แบบนี้ โอเค _______________________________________ ดึกแล้วผมชักเริ่มมั่วแล้วสิ จากคุณ : scoreboard - [ 7 เม.ย. 48 01:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ชวนสาวไปช๊อปปิ้ง......................ทำบุญ กักเก็บไว้เป็นทุน........................ชาติหน้า หวังกรรมส่งเกื้อหนุน....................ครองคู่ ชิวิตไม่เหว่ว้า..............................ยอดชู้ อยู่เคียง จากคุณ : scoreboard - [ 7 เม.ย. 48 01:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ทำดีมากกว่าร้อย...................คนเมิน ทำชั่วครั้งหนึ่งเกิน.................ลบได้ ชั่วดีต่างดำเนิน.....................เคียงคู่ กันแล ดีชั่วจารึกไว้........................เพื่อให้คนลือฯฯะ หวัดดีครับพี่อังฯผู้อิ่มบุญ คุณชาราและนักช้อบบุญทุกท่าน จากคุณ : Gecko - [ 7 เม.ย. 48 04:08:55 A:203.113.80.14 X: TicketID:078605 ]

ความคิดเห็นที่ 35 กุศลนั้นเริ่มด้วย ........ ดวงใจ จะสงบจากภายใน ..... แน่แท้ ไม่คิดรับสิ่งใด .......... คืนกลับ และไม่มีข้อแม้ ......... สักน้อยมุ่งหวัง นานๆจะนอนดึกสักทีค่ะคุณ scoreboard จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 7 เม.ย. 48 06:19:06 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แบ่งบุญกุศลได้ .......... คงดี จะส่งต่อทันที ............ ทุกครั้ง ทำเมื่อไหร่ไม่มี .......... มัวเก็บ เผื่อแผ่ทั่วหน้าทั้ง ....... พี่น้องเพื่อนฝูง จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 7 เม.ย. 48 06:25:48 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ทำดีมากกว่าร้อย ......... ไม่พอ ทำไม่หยุดอย่ารอ ........ ชาติหน้า ทำแล้วไม่หน้างอ ........ หงุดหงิด ทำเถิดอย่ารอช้า ......... สุขแท้อิ่มใจ สวัสดีค่ะคุณ Gecko หายไปนานเลยนะคะ... หลายคนบ่นถึงแน่ะ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 7 เม.ย. 48 06:32:02 ]

ความคิดเห็นที่ 38 พฤหัสบดีสวัสดิ์ค่ะ คุณชินจิโน่ คุณชารา คุณ scoreboard และคุณจีเค (ดีใจจัง) กระทู้นี้เปรียบแม้น.........ลานธรรม มวลมิตรแวะฝากคำ................ตอบโต้ ดีกว่าบ่นพึมพำ......................พูดกับ ตนนอ ธรรมะอ่านหลังโม้..................มั่งแล้วไม่สาย คล้ายคนเข้าวัดไหว้.........องค์พระ เพราะใฝ่ในธรรมะ...................อยู่บ้าง มีโอกาสพบปะ........................เพื่อนสนิท ได้ชักชวนชะล้าง.....................จิตสร้างบุญกุศล ..เมื่อคืนนี้ลานธรรมของ จขกท. คึกคักน่ายินดีแท้ จากคุณ : อังศนา - [ 7 เม.ย. 48 09:07:39 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เข้าวัดมักจะร้อน..............เหลือมิตร ธรรมะวันละนิด................เริ่มซึ้ง ผมน่ะอดีตทิด.................เทียวนะ หนีบาปที่ตามทึ้ง.............แอบช้อปปิ้งบุญ ฯ คนพุทธห่างพระให้..........โหยหวน เห็นกรอบแม่เชิญชวน.......ชะล้าง เริ่มสำนึกในกระบวน.........บุญบาป จึงแอบอ่านข้างข้าง.........กระทู้ใกล้กุศล ฯ ธรรมะกระมิดกระเมี้ยน......เหลือคณา วอนญาติโยมสีกา............ช่วยชี้ คนบาปเที่ยวค้นหา..........ทางสว่าง ทางที่สว่างกว่านี้.............กว่านั้นทางไหน ฯ สวัสดีครับ จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 7 เม.ย. 48 10:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เข้าวัดหากว่าร้อน ............. เหลือทน จงฝึกปฏิบัติตน ................ สติตั้ง ทำใจอย่าสับสน ............... เสียหลัก เพราะหากพลาดยากยั้ง ...... เรียกย้อนกลับคืน สวัสดีค่ะทุกท่าน จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 7 เม.ย. 48 11:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ชวนสาวไปช๊อปปิ้ง.................ทำบุญ เมียแก่บ้านผมฉุน.................ปล่อยร้าง ผมเลยเอ่ยเกรงคุณ...............จักเหนื่อย เมียเอ่ยชวนหนุ่มบ้าง..............พี่ให้ไปไหม ผมคว้ามีดอีโต้.......................ทันที มาว่าแดกดันพี่.......................ว่าได้ เราแสนห่วงเธอนี่....................ทำเขื่อง เมียจ่อปืนถือไว้......................พี่น้องตรองดู   นึกเขียนเรื่องแต่งด้วย................ครื้นเครง หาใช่เป็นนักเลง....................... พี่พร้อง ท่านอย่าว่าอย่าเกรง................ .ผมนี่ หวังต่อโคลงคำคล้อง.................เรื่องนี้เฮฮา ธรรมะหากเร่งรู้.....................เข้าใจ จิตย่อมเย็นสดใส...................แน่แท้ เกิดทุกข์บ่เป็นไร....................มองผ่าน ธรรมท่านพุทธฯของแท้............ร่วงฟ้าสู่เรา สวัสดีท่านเจ้าของกระทู้ และทุกๆท่านครับ   อาจารย์อังศนาครับ   เอกโท  ผมพยายามตามที่ท่านบอกแล้วนะครับ มองแต่ จากคุณ : Joy.BJ - [ 7 เม.ย. 48 13:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สวัสดีค่ะ คุณจอมมารฯ ชารา และ คุุณ Joy.BJ คนโกรธมักเร่าร้อน...........ราวไฟ กิเลสสั่งเปิดเปิงไป.................ประหนึ่งบ้า ลุ่มหลงอัตตาใจ....................จมปลัก เราจักมีสุขถ้า.......................หากให้อภัยเสีย *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..เปลี่ยนจุดมอง.. ~*~ วันนี้ตอนที่หวานจ๋อยกำลังยืนให้พัดลมเป่าผมให้แห้ง จู่ๆ ก็มีความคิดวูบขึ้นมาโดย ไม่มีสาเหตุว่า ทำยังไงถึงจะไม่รู้สึกโกรธพ่อนะ  คิดแล้วก็สะท้อนใจ หวานจ๋อยคิด ว่าจะต้องจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียที จึงไปคุยกับเพลงหริ่ง เพลงหริ่งบอกกับหวานจ๋อยว่า บางทีคนเป็นพ่อลูกเคยเป็นคู่แค้นกันมา ตามกันมา เพื่อทวงหนี้กัน ทำให้โกรธเคืองกันอย่างนี้แหละ  ถ้าจะให้ดีหวานจ๋อยควรเป็นฝ่าย เลิกรา ยอมอ่อนข้อให้พ่อ ยอมรับชดใช้เสียเอง  เพราะถ้าไปบอกให้พ่อทำคงยาก เดี๋ยวหวานจ๋อยได้ไปเกิดใหม่เร็วไป “การยอมรับก็ไม่ใช่เรื่องยากหรอก มีวิธี”  เพลงหริ่งวางมาดสุขุม “เราเลียนแบบธรรมชาติ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง  โอ๊ย”  เพลงหริ่งร้อง  เพราะ หวานจ๋อยเอามือข้างเดียวตีขาเพลงหริ่ง “ดัง”  หวานจ๋อยว่า เพลงหริ่งค้อน วางมาดต่อ “เม่ือก่อนพ่อว่ามา หวานจ๋อยเอาใจไปรับเลยเจ็บ  คราวนี้ลองใหม่ เปลี่ยนจุดยืน อย่าไปยืนตรงข้ามกับพ่อ ทำให้ต้องรับปะทะเหมือนเดิม ไม่เอา  เราสมมุติว่า พ่อยืนอยู่บนเวที ตะลาแล้ม แสดงลีลาของพ่อไป พ่อด่าใครเราไม่รู้ เราลงไปนั่ง ที่เก้าอี้คนดูข้างล่าง แล้วมองขึ้นมาดูพ่อแสดง หวานจ๋อยจะเห็นพ่อในมุมมองใหม่” “ใช่ เห็นแล้ว  โอ พุทธิปัญญาเกิด”  หวานจ๋อยว่า “เฮ้ย เร็วไปมั้ง ชั้นยังว่าไม่จบ”  เพลงหริ่งไม่ยอมโดนเบรก “เธอจะเห็นว่า โอ พ่อนะ พ่อต้องทนทุกข์ มีอารมณ์โกรธแบบสามัญชนที่ต้องทุกข์ กับความเร่าร้อนในใจของตัวเอง โดยที่พ่อไม่รู้ไม่เข้าใจ ได้แต่เร่าร้อนไปตามกิเลส มันสั่ง มีทั้งความโกรธ ความมานะ ทิฐิ ความอยากเอาชนะ ความถือตัว ความอะไร เยอะแยะเลย  กิเลสคนเราปกติมีเยอะอยู่แล้ว ถ้าไม่รู้จักมัน ก็อยู่ในวงล้อมของมัน นั่นแหละ แล้วก็ไม่รู้ตัวด้วย  คอยมีอารมณ์ตามมันไป เดี๋ยวพอใจ  เด๋ียวไม่พอใจ   เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวเศร้า เดี๋ยวเหงา เดี๋ยวหดหู่ เดี๋ยวน้อยใจ เธอจะเห็นได้ว่าพ่อไม่มี ความสุขเหมือนกันนะ  เริ่มสงสารพ่อหรือยัง สงสารเป็นมั้ยยะหล่อน” หวานจ๋อยพยักหน้า ดวงตาเริ่มมีแววศรัทธาฉายส่อง “สังสารวัฏนี้ยาวนานไปจนไกลโพ้นเลยสุดขอบจักรวาล  สัตว์โลกต้องเวียนว่าย ตายเกิดอีกนับแสนอสงไขย  เห็นพ่อปลิวไปในสังสารวัฏไหม” “วันหนึ่งฉันก็ปลิวตามไปเหมือนกัน เธอด้วย” เพลงหริ่งยิ้ม พยักหน้า ทำท่าเหมือนหมอดูยิปซี “ให้อภัยพ่อแล้วจะสบายใจ เพียงแต่คิดว่าเราต่างเป็นเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น  จะยึดอะไรเอาไว้โกรธ เวลาของชีวิตเราเป็นแค่ฝุ่นละอองของจักรวาล สั้นมากกกกก  ตราบใดที่เธอนั่งอยู่ที่เก้าอี้คนดูมองขึ้นไป เธอจะเห็นภาพชีวิตของพ่อ แล้วเธอจะให้อภัยพ่อได้  คิดถึงสังสารวัฏเข้าไว้ หวานจ๋อย” “ฉันต้องมองเธออย่างนั้นด้วยมั้ย”  หวานจ๋อยถามพลางหัวเราะ  แต่เธอก็รู้สึกว่า คำแนะนำของเพลงหริ่งทำให้เธอสบายใจขึ้นเยอะเลย แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 48 15:13:40 จากคุณ : อังศนา - [ 7 เม.ย. 48 13:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คนโกรธมักเร่าร้อน...................เสียงดัง บ้างใส่อารมณ์พัง.....................ไม่เว้น ผมโกรธบ่ให้ตังค์......................ลูกเล่น หากไม่หงุดหงิดเน้น...................ปรี่ให้ก่อนขอ จากคุณ : Joy.BJ - [ 7 เม.ย. 48 13:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สวัสดีอีกครั้งค่ะ สหายธรรมทั้งหลาย   ..วันนี้รู้สึกอยากฉายหนังสองเรื่องควบค่ะ คุณสมบัติจิตนั้น............ดีสาม แบบนา สุขภาพจิตเห็นยาม...................สุขแท้ คุณภาพจิตงดงาม....................เปี่ยมเมต- ตาเอย สมรรถภาพจิตโลภแพ้..............ห่างพ้นโกรธหลง ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..สมรรถภาพจิต.. ~*~ วันนี้เครื่องแอร์ในห้องอาจารย์อู้งาน มันยังคงส่งเสียงครางเบาๆ ให้รู้ว่ายังทำงานอยู่ แต่ไม่เย็น มาลัยพรพยายามจะตรวจดูว่ามันเป็นอะไร "ช่างมันเถอะลูก"  อาจารย์เอ่ยเบาๆ เอนหลังลงบนเก้าอี้นอน หยิบเครื่องวัดความดัน ที่วางอยู่ข้างๆ  มาลัยพรนั่งลงข้างๆ ช่วยอาจารย์พันแถบผ้าวัดความดันที่ต้นแขน "แอร์มันหมดสภาพแล้วค่ะ อาจารย์"  มาลัยพรเอ่ย "ธรรมดา ของมันเก่าแล้ว มันก็หมดสมรรถภาพไป ไม่เหมือนจิตที่อบรมแล้ว  ยิ่งนาน ยิ่งมีสมรรถภาพมาก" "มีสมรรถภาพจิตด้วยหรือคะ อาจารย์"  มาลัยพรถาม  อาจารย์ดูตัวเลขบนจอเครื่องวัด ความดันแบบพกพา  วันนี้ตัวเลขเป็น  110/70   มาลัยพรช่วยถอดและเก็บอุปกรณ์   ขณะที่อาจารย์ให้คำอธิบาย "จิตที่ดีมีคุณสมบัติ ๓ อย่าง คือมีคุณภาพจิตดี มีสุขภาพจิตดี แล้วก็มีสมรรถภาพจิตดี สมรรถภาพจิตดีก็คือว่า เป็นคนที่จิตใจมีความทนทาน  สามารถต้านทานต่อความยั่ว ยวนต่างๆ ได้มาก ทำให้เขาโลภ โกรธ หลงได้ยาก  คือเขามีแรงต้านทานทางจิตใจได้สูง" มาลัยพรฟังอย่างตั้งใจ  "แล้วคุณภาพจิตดีล่ะคะ อาจารย์" "คุณภาพจิตดี ก็คือเป็นคนมีคุณธรรม มีเมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เห็นแก่ตัว" "แล้วสุขภาพจิตดี คือ ใจแข็งแรง ใช่ไหมคะ" "ใช่ สุขภาพกายดีก็มีความสุขทางกาย  พอสุขภาพใจดีก็มีความสุขทางใจ  จิตมีความสุข ได้เรื่อยๆ แม้ในสถานการณ์ที่คนอื่นเขาไม่มีความสุข เช่น แม้ป่วย แต่ก็มีความสุขทางจิตใจ" ~*~*~ มาลัยพรนึกขึ้นได้จึงเล่าให้อาจารย์ฟังว่า "คงเหมือนที่พระอาจารย์กัลยาโณท่านเทศน์  ท่านเล่าว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเขาป่วยเป็นมะเร็ง อยู่โรงพยาบาล  หมอบอกว่าจะอยู่ได้ ๓ เดือน  แต่เขาปฏิบัติธรรมมานาน  เขายอมรับ ได้ว่าการตายเป็นเรื่องธรรมดา เขาไม่ทุกข์ใจ  แต่พยาบาลกลับทุกข์ใจว่าทำไมเขาจึงเฉยๆ คนไข้สบายดี แต่พยาบาลไม่สบาย" มาลัยพรหัวเราะเบาๆ นึกถึงความทุกข์ใจของนางพยาบาล "คนเรารับเรื่องราวได้ไม่เหมือนกัน  เพราะว่าข้างในไม่เหมือนกัน"  อาจารย์อธิบาย มาลัยพรเล่าคำเทศน์ต่อว่า  "ท่านบอกว่า ถ้าเข้าใจความจริงของโลก ว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา ก็จะเห็นถึงความเป็นธรรมดา  แล้วเข้าสู่ความสงบที่แท้จริง  มีปัญญา ไม่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ในใจ" อาจารย์ยิ้มให้มาลัยพร  "ดีแล้วลูก ฟังแล้วรู้จักนำมาคิด  มาใช้เป็นประโยชน์กับตัวเอง" "การเข้าใจความจริงของโลกจนเห็นความเป็นธรรมดา ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะอาจารย์ อย่างเราเห็นความไม่เที่ยงอยู่ทุกวัน  แต่เหมือนว่าเราจะไม่เข้าใจ ไม่รู้จัก" อาจารย์เล่าว่า มีผู้ชายคนหนึ่งมาเล่าความทุกข์ให้ฟัง "พอเขาบอกอะไรมา อาจารย์ก็บอกว่ามันเรื่องธรรมดา  จนในที่สุดเขาบอกว่า  ทำไม เรื่องอะไรๆ ก็ธรรมดา อาจารย์ก็ว่าธรรมดาไปหมด อาจารย์ก็บอกว่า มันธรรมดา" มาลัยพรหัวเราะ  "ถ้าคนเราเห็นความธรรมดาได้เมื่อไหร่ คงจะมีความสุขนะคะอาจารย์" อาจารย์พยักหน้า  "ใช่เราถึงต้องอบรมจิตใจให้ดี" มาลัยพรกราบขอบคุณอาจารย์  "หวังว่าหนูคงจะสามารถอบรมจิตใจให้มีสมรรถภาพดี ได้นะคะอาจารย์ หนูไม่อยากเป็นเหมือนแอร์เก่าๆ ค่ะ" จากคุณ : อังศนา - [ 7 เม.ย. 48 20:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คำสั่งสอนท่องได้................................เพราะจำ เหลือแต่พฤติกรรมทำ.........................ไม่ได้ อยากเห็นบุญเลี่ยงกรรม......................สวดส่ง พระท่านคงรับได้.................................หากท่านเจตนา จากคุณ : ซูซี่ - [ 7 เม.ย. 48 21:20:57 A:203.113.37.11 X:203.151.140.113 TicketID:003845 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เหนือฟ้ามีอีกฟ้า...............อสงไขย บุญบาปอยู่ที่ใจ................มนุษย์แท้ ธรรมดาเมื่อมั่นใน..............ธรรมะ สูงต่ำหรือชนะแพ้..............ต่างนั้นเพียงคำ (เหนือฟ้ามีอีกฟ้า) จากคุณ : KAVINT - [ 7 เม.ย. 48 22:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ศุกร์สวัสดิ์ค่ะ คุณซูซี่ และคุณกวินท์   เหนือฟ้ามีอีกฟ้า..........โอบแฝง สูงส่งซ้อนทแยง.......................สถิตเยื้อง มิติที่ไม่สำแดง..........................ภาพเด่น เพียงนิมิตบ่งเบื้อง....................บุระพร้องสุขาวดี ..แต่ถ้ามองหาใกล้ๆ ก็คงอยู่ในอกของเรานี่เอง จากคุณ : อังศนา - [ 8 เม.ย. 48 19:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 48 • ทำดีดีตอบด้วย..........................ความดี ความสุขนั้นมากมี..........................สุขล้ำ ทำชั่วชั่วตอบมี.............................ชั่วกัปร์ กันต์แฮ ทุกข์รุกเร้าตอกย้ำ.........................เท่าฟ้าอวสาน ๚ จากคุณ : ๓s - [ 8 เม.ย. 48 20:50:47 A:203.113.36.8 X:203.151.140.118 TicketID:005068 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สนิมเกิดแต่เนื้อ...........ในตน บุญบาปก่อเกิดผล........ชาตินี้ ทำความชั่วเพียงหน......ค้างติด เวรกรรมนำตามจี้.........หลบลี้พ้นฤๅ สวัสดี ครับ แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 48 22:30:39 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 8 เม.ย. 48 22:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อาทิตย์สวัสดิ์ค่ะ คุณ ๓s  คุณลำน้ำ C และทุกๆ ท่าน มีโอกาสเข้าวัด............คราใด ควรสงบสำรวมใน..................นอกพร้อม ส่งเสริมพระด้วยใจ.................ปลอดจริต บุญเกิดเพราะนบน้อม............ทะนุเนื้อนาบุญ ..วันนี้เลือกตอนนี้ เพราะมักจะได้พบด้วยตัวเองเสมอเวลาไปวัดวันอาทิตย์ ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..บุญงามยามเช้า.. ~*~ เช้าวันนี้ พลอยช่วยแม่หิ้วตะกร้าใส่ของตักบาตรไปวัดชลประทานฯ  ไปนั่ง กินข้าวที่ร้้านค้าซึ่งวัดจัดบริเวณไว้ให้ บรรยากาศที่ไม่เร่งรีบชวนให้สบายใจ   กินเสร็จก็เดินไปในสวน นั่งที่ศาลาริมสระ  ต้นไม้ใหญ่ครึ้มใบสวยทอดเงาลง ในสระ เป็นที่ร่มรื่นชื่นใจ  เสียงนำสวดมนต์เริ่มเมื่อเวลา ๙ โมง สวดบททำวัตรเช้า ไปจนถึง ๙ โมงครึ่ง ผ่านลำโพงไปยังทุกจุดของวัด  แล้วแต่ใครจะชอบนั่งใน บรรยากาศไหน แม่นั่งฟังพระเทศน์อย่างสงบ  ใบหน้าแช่มชื่นเบิกบาน  พลอยเองก็รู้สึกสงบกับ บรรยากาศดีๆ เช่นนี้เหมือนกัน แต่แล้วก็มีหญิงวัยกลางคน ๓ คน เข้ามานั่งในศาลาด้วย  มีเข้าของพอสมควร เตรียมมาถวายพระ  มาถึงก็นั่งลงตัั้งวงแล้วคุยแข่งกับเสียงพระเทศน์ แม่พยักหน้าเรียกพลอย แล้วนำเดินไปหาที่นั่งใหม่โดยไม่พูดอะไรเลย  ฟังพระ เทศน์จบแล้วแม่จึงพูดกับพลอย "พลอย มาวัดให้ได้บุญนะลูก เป็นสถานที่ควรสำรวมกาย วาจา ใจ  ไม่รบกวน การฟังธรรมของคนอื่น เราเองก็ควรได้ฟังธรรมด้วย  การรบกวนการฟังธรรม นั้นเป็นบาปต่อไปจะมีคนมากั้นทางบุญของเราเหมือนกัน  เรื่องคุยกันคุยที่บ้าน ก็ได้หรืออย่างน้อยก็นอกเวลาเทศน์  อาทิตย์หนึ่งพระเทศน์ชั่วโมงเดียวเท่านั้น   ควรรู้ค่าของชั่วโมงนี้" พลอยจัดเตรียมของในตะกร้าให้แม่จบอธิษฐาน แล้วพากันเดินไปที่ลานหินโค้ง เพื่อตักบาตร  เมื่อตักบาตรเสร็จแล้วก็พากันกลับลงมานั่งเก้าอี้ข้างๆ ลาน  เพื่อ รอกล่าวคำถวายทานพร้อมๆ กันทั้งวัด ~*~*~ ขณะที่นั่งรอ  หญิงสาวคนหนึ่งรูปร่างงดงาม ทรวดทรงองค์เอวเหมือนหุ่นโชว์ เสื้อนั่นเทียว สวมเสื้อยืดรัดรูปแขนกุด อวดผิวขาวนวลสวย  เสื้อเอวลอยเผยให้ เห็นผิวเนียนเหนือขอบกางเกงรำไร  แม่สะกิดพลอยให้มองตาม "พระหนุ่มเพิ่งเริ่มศึกษาเป็นเพียงปุถุชนสมมุติสงฆ์นะลูก  จะไปหวังให้ท่านสำ- รวมจิตแต่ฝ่ายเดียวไม่ได้  เราควรแต่งตัวสุภาพมิดชิด เพื่อส่งเสริมการสำรวม ของพระให้เป็นไปด้วยดี จึงจะเป็นบุญแก่เรานะลูก" พลอยยิ้ม เข้าใจในสิ่งที่แม่สอน  แม่เอ่ยต่อว่า "ขนาดคุณยายของลูก ท่านแก่แล้ว  เวลาไปวัดท่านยังพันสไบขาวทับเสื้ออีก   ท่านบอกว่าบางที แม้แต่กิริยาของเรา ยังอาจไปคล้ายกับใครสักคน ที่ทำให้พระ หวนระลึกถึงโยมได้ สไบทำให้เราแตกต่างได้  ช่วยพระให้ไม่ต้องวอกแวกไป   เวลากราบพระ ท่านก็ใช้ชายสไบปูแล้วกราบด้วย  ได้ประโยชน์อีก" มัคนายกเริ่มนำสวดถวายทาน  พระให้ศีลและรับทานแล้วกล่าวอนุโมทนา แม่ประณมมือกล่าวคำกรวดน้ำในใจ อุทิศส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย พลอยมองดูแม่ด้วยความสุขใจ  แม่มีศรัทธารักษาบุญและทั้งยังรักษาใจไม่ ให้ถูกกระทบได้ตลอดเวลา  ทำให้เช้าของแม่เป็นเช้าที่มีแต่สิ่งดีงาม  แม่มอง สบตาพลอยแล้วยิ้ม "มาวัดทั้งทีให้ได้บุญนะลูก" แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 48 17:30:53 จากคุณ : อังศนา - [ 10 เม.ย. 48 17:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่ได้มาอ่านธรรมเสียนาน... อุ่น..อากาศอบอ้าว ...กาย..ใจ อ้อม..หลบใต้พฤกษ์ใบ ...บำบัด..ร้อน อก..ระอุภายใน .....ฤา..ผ่อน ธรรม..ปฏิบัติย้อน .....ยะเยือกได้ดับ..คลาย จากคุณ : เรียมโรย - [ 10 เม.ย. 48 18:47:02 A:61.91.120.118 X: TicketID:082711 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอมาลัยช่อนี้................แทนใจ น้ำอบหอมของไทย.........สื่อให้ น้อมไหว้รดรินใน............โอกาส ปีใหม่อังแม่ได้...............สุขล้นตลอดกาล จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 10 เม.ย. 48 22:32:04 ]

ความคิดเห็นที่ 53 จันทร์สวัสดิ์ค่ะ คุณเรียมโรย และคุณยี่หร่า ขอบคุณค่ะ .. คุณยี่หร่าสำหรับน้ำอบไทยและมาลัยดอกมะลิ มาลัยมะลิน้ำ...........อบไทย ส่งผ่านมารดใจ....................ชื่นแล้ว ขอพรกลับย้อนไป...............พันเท่า บุญรักษาให้แผ้ว..................เลี่ยงพ้นภยันตราย ชารา.. จขกท ช้อปปิ้งบุญส่งใบลาพักร้อน ๓ วันเด้อค่ะ   จากคุณ : อังศนา - [ 11 เม.ย. 48 05:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ศุกร์สวัสดิ์ค่ะ ทุกๆ ท่าน   วันนี้วันเถลิงศก.. เมื่อพระอาทิตย์ย่างเข้าราศีีใหม่เกินกว่า ๑ องศา ถือเป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่เต็มตัว วาจาหากกล่าวแล้ว.......ประโยชน์มี ย่อมก่อบุญสิ่งดี..........................เกิดได้ ผิดที่ผิดกาลวจี............................อาจจ่อม บาปนอ ควรพิจารณาไว้...........................พูดให้เหมาะสม ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..บุญบนโต๊ะทำงาน.. ~*~ ช่วงกุมภาพันธ์ของทุกปี บนโต๊ะของอารียาจะมีงานเพิ่มขึ้นมา คือกองเอกสาร ภาษีเงินได้ประจำปีทีี่เพื่อนพนักงานแผนกอื่นมาฝากให้ช่วยทำ เพราะทำไม่เป็น มันเป็นยาขมเสมอสำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องบัญชี ละเอียดรัตน์มายืน เฮ้อ เฮ้อ อยู่ข้างๆ ตอนจะชวนไปกินข้าว "เฮ้ออะไร เขามาฝากฉันทำ ไม่ได้ฝากหล่อนนะยะ"  อารียาว่า "แค่เห็นก็เฮ้อแล้ว เรื่องอะไรรับมาทำ ของใครก็ให้ใครทำซี" "ทำบุญ เขาทำกันไม่ได้ เราทำได้ ช่วยทำเอาบุญ  นั่งอยู่ตรงนี้ก็ได้บุญแล้ว ไม่ต้องไปไหนไกล" "บุญอาราย ช่วยแค่เนียะ จะเอาบุญละ" "เอาไม่เอาก็ได้อยู่แล้ว เราช่วยให้เขาพ้นความเดือดเนื้อร้อน  มันอยู่ในพรหมวิหาร ๔   รู้จักมั้ย เมตตาช่วยเขาเป็นสุขส่งภาษีจนได้  กรุณาช่วยเขาพ้นทุกข์ คือทำเอกสาร แทนเขา  มุทิตา ยินดีด้วยถ้าเขามีรายได้ดี  อุเบกขา วางเฉยไม่ว่าเขาจะมีรายได้ มากกว่าหรือน้อยกว่าเรา" "บุญเยอะขนาดนั้นเชียว"  ละเอียดรัตน์เหน็บ  อารียาจึงเหน็บเข้าบ้าง  "ตัวเองน่ะ ระวังอย่าทำบาปบนโต๊ะก็แล้วกัน" ละเอียดรัตน์ตาโต  "อาไร้ บนโต๊ะใต้โต๊ะ ไม่เคยทำบาปซะหน่อย" "ก็ที่เที่ยวไปกระซิบว่าคนนั้นคนนี้เขามีเงินเดือนเท่าไหร่น่ะ บาป.. ๒ ต่อ" "๒ ต่อด้วย  อะไร บอกมานะ"  ละเอียดรัตน์ดุ  แต่อารียายังยิ้ม "การที่ทางบริษัทจะให้เงินเดือนใครเท่าไหร่ ต้องมีเหตุผล และบางครั้งเกี่ยวกับ การบริหาร เราไม่รู้หรอก  การเปิดเผยอาจไปทำให้ผู้ใหญ่มีปัญหาในการบริหาร บริษัทมีบุญคุณกับเรานะ เขาจ้างเราทำงาน เราไม่ควรสร้างปัญหาให้ มันบาป เราเองก็มีบุญคุณกับบริษัท ถ้าเราทำงานดีบริษัทต้องดูแลเราดีตอบแทนเรา จึงอยู่กันได้ ไม่งั้นบริษัทก็บาปเหมือนกัน" ละเอียดรัตน์เฉยๆ เหตุผลนี้ไกลตัว ไม่ชอบคิดไกล เบื่อ "อันที่ ๒ เราอาจทำบาปให้ตัวเองโดยไม่รู้ตัว"  อารียาพูดต่อ   เออ อันนี้ใกล้ ละเอียดรัตน์หันมาสนใจใหม่ "สมมุติว่าเราบอก ก. ว่าเขาได้เงินเดือนต่ำกว่า ข. และสูงกว่า ค. เราไม่รู้นิสัยเขานี่ ก. อาจไม่ชอบ ข. ขึ้นมาด้วยความอิจฉา แต่ชอบ ค. เพราะด้อยกว่า แล้วไปยุให้ ค. เกลียด ก. ด้วย  ส่วน ข. พอทำงานไม่ได้รับความร่วมมือ ก็ไปฟ้อง จ.  จ. ก็ดุ ก.   ก. ก็เกลียด จ.  จ. รู้ว่าเธอเป็นแหล่งข่าวจนเกิดเรื่อง  จ. ก็เกลียดเธอ" "โอ๊ย อะไรยังกะละครหลังข่าว"  ละเอียดรัตน์ว่าเสียงเบื่อๆ "เธอทำให้ ก. ทุกข์ใจด้วยความอิจฉา เธอทำให้ ข. เดือดร้อน บาปอย่างนี้เรียกบาป ที่ไม่ได้ตั้งใจ  ต่อไปจะได้รับผลกรรมแบบที่คนอื่นเขาไม่ได้ตั้งใจ เช่นว่าเขวี้ยงของไป โดนหัวหมาโดยไม่ได้ดู  วันหนึ่งเดินไปเจอกระถางต้นไม้หล่นมาใส่หัว เพราะเจ้าของ บ้านไปโดนเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน" ละเอียดรัตน์นั่งมองอารียา  ฟังการเกิดผลของกรรมเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง  อารียา หัวเราะเมื่อเห็นอาการ "ที่คิดว่าตัวเองสำคัญ เป็นแหล่งข่าวรู้สึกเท่น่ะ แต่ไปทำร้ายใครไว้เท่าไหร่ แล้วจะมี ใครกล้ามาคุยด้วยมั้ย เขาก็กลัวเธอเอาไปพูดเหมือนกัน ไม่มีใครไว้ใจเธอ พระพุทธเจ้าสอนว่า ควรพูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ส่วนที่พูดแล้วไม่เป็นประโยชน์ แม้จะเป็นเรื่องจริงก็ไม่ควรพูด  เราต้องพิจารณาความควรไม่ควร และดูกาลเทศะ ด้วยจึงจะเหมาะสม  ท่านให้สำรวมวาจาไว้จึงจะไม่เผลอไปทำบาปเข้าโดยไม่รู้ตัวนะจ๊ะ" จากคุณ : อังศนา - [ วันเถลิงศก (15) 18:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ความคิดปล่อยให้เชิด........ชีวิต เหมือนหุ่นที่ผูกติด...........................เต่อห้อย โลดเต้นเตลิดถูกผิด.........................เพ้อพก ผลลัพธ์คือนับร้อย............................เรื่องร้ายคอยหลอน ก่อนคิดฝึกจิตให้.........มองเห็น รู้เท่าทันว่าเป็น........................อีกแล้ว รีบสลัดเรื่องลำเค็ญ................คัดออก ชีวิตจักผ่องแผ้ว.......................แค่พร้อมคิดดี ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~**~*~ ~*~ ..ชีวิตหุ่นเชิด.. ~*~ มนสิริเป็นคนคิดมาก หมอดูลายเซ็นบอกว่า การคิดของมนสิรินั้น เหมือนเอาฟาง เส้นเดียวมากรีดเป็น ๘ เส้น  มนสิริจึงได้กลับมาคิดทบทวนตัวเอง แล้วจึงตระหนัก อย่างตระหนกว่าจริง น้ำพลอยขำเพื่อนที่ตัวเองไม่รู้จักตัวเองต้องให้หมอดูบอก  แล้วว่า "การคิดมาก คิดละเอียด ไม่ใช่เรื่องเสียหาย มัันอยู่ที่ว่าคิดเรื่องอะไร แล้วคิดยังไง มากกว่า" มนสิริทอดถอนใจ  "เราชอบคิดแต่เรื่องอดีต คิดแล้วก็ยังมีอารมณ์เหมือนตอนที่ เกิดเรื่องนั้นเปี๊ยบเลย  บางทีก็คิดเรื่องอนาคต แล้วก็คิดมาก  กลัว กลัวโน่นกลัวนี่ บางทีก็คิดเตรียมรับมือเลยนะว่าถ้าเกิดอย่างนั้นจะได้ไม่เป็นไร  เราเตรียมลู่ทาง ไว้แล้ว" น้ำพลอยต่อให้ว่า  "แล้วจะพบว่า ไอ้ที่เตรียมนั้นไม่ค่อยได้ผลหรอก เรื่องมันจะไป ทางอื่น เราจะไปเดาอนาคตได้ยังไง" มนสิริเห็นด้วย เพราะขนาดงานที่ทำอยู่ประจำวัน ยังมีปัญหาใหม่ๆ แปลกๆ  มาให้ แก้อยู่เรื่อยๆ เลย ไม่ค่อยตรงกับที่วางแผนไว้ น้ำพลอยกางหนังสือลงตรงหน้า อ่านให้ฟังว่า "พระพุทธเจ้าตรัสว่า ความคิดนำโลกไป ความคิดทำให้โลกดิ้นรน   สิ่งทั้งปวงอยู่ใต้อำนาจของความคิด" มรสิริสนใจมาก น้ำพลอยอธิบายว่า "ความคิดนี่เหมือนคนเชิดหุ่นที่อยู่ข้างบน กำลังเชิดตัวเราที่เป็นหุ่นอยู่บนเวที มันเชิดอย่างไร เราก็เต้นตามไปอย่างนั้นนะ  ดูง่ายๆ เลย  คน ๒ คนเวลากลุ้มใจ คนหนึ่งไปกินเหล้า เมาขับรถชนเสาไฟฟ้า  อีกคนกลุ้มใจเข้าห้องพระสวดมนต์ ยาวๆ  มันเกิดจากความคิดทั้งนั้น" "เวลามีความคิิดเกิดขึ้นมา เราก็ไหลตามไป รู้สึกตามไป" มนสิริรำพึง  "บางที คิดทั้งคืน นอนไม่หลับเลย ไม่รู้จะทำยังไง" "นั่นเพราะเราไม่ได้ฝึกที่จะรู้ให้ทันความคิด  ในบทสวดมนต์ อริยมรรคมีองค์ ๘ ท่านสอนให้มีสติ จนถอนความพอใจและไม่พอใจออกเสียได้  ส่วนเธอตกเป็นทาส ของความคิดมากไป  เธอจึงเป็นตัวหุ่นอยู่ข้างล่าง คอยเต้นตามความคิดที่มันเชิด" "แล้วควรจะทำยังไงล่ะ"  มนสิริเริ่มรู้สึกตัวว่าจะต้องแก้ไข น้ำพลอยทำมือเหมือน การเชิดหุ่น "เราจะต้องไปเชิดความคิดอีกที  ท่านสอนว่าช่างจัดดอกไม้ที่ฉลาด จะเลือกแต่ดอก ไม้สวยๆ มาจัด เราก็ต้องคอยรู้สึกตัวว่ากำลังคิดอะไร  ถ้าคิดเรื่องไม่ดีก็ทิ้งเสีย คิด แต่เรื่องดีๆ  ตั้งใจตั้งปณิธานไว้ว่า ต่อไปเราจะคิดแต่เรื่องดีๆ เพื่อทำแต่เรื่องดีๆ ส่วนเรื่องในอดีตน่ะ ทิ้งมันไปเลย  ท่านไม่ให้อยู่กับอดีต โดยเฉพาะอดีตที่ทุกข์ใจยิ่ง ทิ้งไปใหญ่  มันเหมือนดอกไม้เน่าแล้ว  เราทำวันนี้ให้สดชื่น" "แล้วจะฝึกยังไง"  มนสิริถามด้วยความรู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลง ~*~*~ "ใหม่ๆ เราจะไม่รู้ เราจะคิดเรื่องอดีตไปยาว ตอนนี้เราคอยสังเกตว่า เอ๊ะ เราคิด เรื่องนี้อยู่นี่ ซึ่งแน่นอน มันเป็นเรื่องที่เราเคยคิดมาเป็นร้อยหน เรารู้เลยว่าเดี๋ยว เราจะคิดยังไงต่อ จะรู้สึกยังไงด้วย เหมือนอ่านนิยายเล่มเดิม  คราวนี้พอเริ่มอ่าน บทแรกไปหน่อย ให้เรารู้ตัวแล้ว  ใหม่ๆ อาจจะบอกตัวเองเลยว่า ไม่เอา ไม่คิดเรื่อง นี้ แล้วเลิดคิด หันไปหาอย่างอื่นทำ มันจะเลิิกคิด เพราะธรรมชาติของใจมันคิดได้ ทีละเรื่องเดียว เรานึกว่าคิดหลายเรื่องพร้อมกัน  แต่ถ้าสังเกตให้ละเอียด มันคิด สลับกันต่างหาก" มนสิริพยายามนึกตาม ยอมรับรู้โดยดี ไม่โต้แย้ง  น้ำพลอยสาธยายต่อไป "พอฝึกนานๆ เข้า  พอเรื่องเดิมนี่มันแว่บมาแค่หัวเรื่องเท่านั้น เรารู้แล้ว เปลี่ยน ความคิดไปอย่างอื่นเลย หรือไม่ก็นึกพุทโธ พุทโธ  ตั้งสติตั้งสมาธิไปเลย  ดีกว่า ไปคิดเรื่องที่จะมาทำร้ายจิตใจเราให้เศร้าหมอง  พอเรื่องมาปุ๊บ  ให้รู้ทันมัน ควบคุมมัน ไม่ใช่เก็บกดหรือปิดกั้นไว้ แต่ทิ้งไป  ทิ้งไปบ่อยๆ มันจะไม่กลับมา มันเศร้าตาย" มนสิริหัวเราะ น้ำพลอยสรุปลงอย่างนุ่มนวล "ในที่สุด เราจะเป็นคนเลือกว่าจะคิดอะไร และไม่คิดอะไร  ชีวิตจะเป็นไปตามที่ เราเลือกคิด อย่างที่พระพุทธเจ้าสอนว่า สิ่งทั้งปวงตกอยู่ใต้อำนาจของความคิด ถ้าเราเลือกคิดได้ เราก็เลือกชีวิตได้" จากคุณ : อังศนา - [ 19 เม.ย. 48 20:06:41 ]

ความคิดเห็นที่ 56 วันนี้.. หลานชายตัวเล็กๆ เล่าให้ฟังตอนกินข้าวเย็นด้วยกันว่า   ร้านอาหารในโรงเรียนที่ต่างจังหวัดเคยขายข้าวให้เด็กนักเรียน จานละ  ๗ บาท  แต่พอหมูขึ้นราคาเขาก็ขายจานละ  ๑๐ บาท มิหนำซ้ำ ยังให้ข้าวน้อยกว่าเดิมอีกด้วย ..คุยกันเสร็จก็เข้ามาเปิดเจอกระทู้เสวนาราคาไข่ในรัฐบาลยุคทักษิณ   แถมเจอกระทู้ สว. แก้วสรร กับการรุกป่าชายเลนทำนากุ้งของบริษัทซีพี อีกหลายกระทู้ซ้อนๆ ..ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันปนเปกันท่าไหน ถึงทำให้อยากคัดลอกเรื่องนี้มาแปะ   รู้แต่ว่าเขียนโคลงเปิดเรื่องไม่ได้ค่ะ.. ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..ข้าวแกงใส่ธรรม.. ~*~ ป้าลำเพาขายข้าวแกงอยู่ข้างบริษัท ช่วยชีวิตพนักงานไว้เยอะตอนกลางวัน ข้าวแกงร้านใกล้ๆ กันขายจานละ ๒๐ บาท ป้าลำเพาขาย ๒๕ บาท แต่ร้านป้าลำเพาแน่นเอี๊ยด จนบางวันชายสมแทบจะยืนกิน วันหนึ่งชายสมโผล่มาเอาเกือบบ่าย ๒ เป็นลูกค้าตกค้าง ป้าลำเพากำลังเก็บร้าน แกเลยทำ 'แกงรวม' ให้ชายสมจานใหญ่ แล้วให้กินฟรี "ยังงี้ผมมาเก็บร้านให้ป้าทุกวันดีกว่า" "คิดไม่ดี"  ป้าลำเพายกจานกลับ ชายสมห้ามเสียงหลง รีบประพฤติตัวดีแล้วรีบกิน "ป้าทำกับข้าวอร่อยนะ ขายถูกด้วย ตักเยอะ จานเดียวอิ่มเลย ทำไมไม่ตักน้อยลง หน่อยละ จะได้กำไรเยอะๆ" "ถ้าขายหมดก็กำไรเยอะเองแหละ กำไรแค่นี้พอแล้ว อยู่ได้  ถ้าทำไม่ดี ขายไม่หมด ต่อให้ตักน้อยๆ ขายจานละ ๓๐ บาท ก็อยู่ไม่ได้หรอก" "ป้าทำดีจริงๆ ไก่เป็นไก่ หมูเป็นหมู ไม่เป็นเศษๆ แบบว่าแค่เห็นก็ไม่อิ่มแล้ว ยังงั้น" ป้าลำเพาหัวเราะชอบใจ แกชอบเวลาคนชม ชายสมก็ชอบชมคน "ป้าเป็นแม่ค้า ต้องยืนขายที่นี่ทุกวัน ไปทำบุญที่ไหนไม่ได้ ป้าก็ทำบุญกับอาชีพป้า นี่แหละ   หลวงพ่อท่านเทศน์ทางวิทยุว่าให้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่การงาน ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า" "สาธุ"  ชายสมยกมือไหว้ "คนเขาทำงานกันเหนื่อยหิวมา เราเอากับข้าวดีๆ ให้เขากิน เขาอิ่มสบาย เราได้บุญ   เวลาไปจ่ายตลาดป้าเลือกแต่ของดีๆ พวกกินแล้วอันตรายป้าไม่ใส่  หรือผงชูรสนี่ไม่ ใช้เลย" "แต่ก็อร่อย"  ชายสมชมอีก ป้าลำเพายิ้มอีก ~*~*~ "หลวงพ่อเทศน์ว่า ทำบุญด้วยการให้อภัย อภัยนี่มันมี ๒ อย่างนา รู้เปล่า  อภัยให้คน อื่นที่มาทำเรา  กับอภัยที่แปลว่าไม่เป็นภัย  ป้าทำอาหารดี สะอาด ไม่เป็นภัยกับคนกิน ป้าได้บุญแล้วรู้มั้ยล่ะ  ท่านเรียกว่าอภัยทาน  เท่ากับป้าได้ทำบุญทำทานทุกวัน  เคยฟัง เทศน์หรือเปล่าทางวิทยุน่ะ" "ถ้าแม่ค้าคิดอย่างป้าทุกคน  เราคงแข็งแรงกันทั้งประเทศ" "อ้าว เรื่องจริงนา  เกิดเราไปใส่อะไรไม่ดี คนเขากินแล้วเข้าโรงพยาบาลล่ะ  เราบาป ไปตลอดชีวิตเลยนา  ป้าไม่เอาด้วยหรอก ทำดีอย่างนี้สบายใจ  ทำเหมือนทำให้ลูก หลานกิน คนเรามันต้องอยู่อย่างสบายใจ  รวยจนไม่สำคัญ สำคัญที่สบายใจทุกวัน จริงมั้ย  อิ่มยัง  เอาจานของคุณไปล้างเองนะ" ป้าลำเพาหัวเราะตบท้าย จากคุณ : อังศนา - [ 21 เม.ย. 48 20:18:06 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สุจริตไม่เดือดร้อน........กายใจ ไม่คิดเบียดบังใคร...................แค่นั้น ไม่โลภไม่หวั่นไหว....................วิ่งวุ่น สันโดษคำสั้นสั้น........................ระงับสิ้นตัณหา เห็นข่าวทุจริตที่กำลังเป็นประเด็นร้อนตอนนี้แล้ว..   รู้สึกอนาถใจจริงๆ ที่คนละโมบมักมีอำนาจทางการเมืองมาตลอด ~*~*~~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ ~*~ ..นักขายประกัน.. ~*~ ตวงเพชรเป็นนักขายประกันระดับรางวัลมรกต เธอตั้งหน้าตั้งตาออกไปหาลูกค้าทั้งวัน เพื่อจะคว้ารางวัลเพชรอันเป็นรางวัลสูงสุด ถ้าไปหาลูกค้ากลางคืนได้คงจะไปทั้งคืน ตวงเพชรเพิ่งจะเริ่มผ่อนบ้าน เธออยากจะรีบหาเงินเทให้แบงก์จบๆ ไป เธอเคยอ่านธรรมะ มามาก แต่พอมาทำประกันเธอก็วาง  เพราะคิดว่าการมีธรรมะใช้กับชีวิตทำงานไม่ได้ "ฉันต้องทำตัวเลขเยอะๆ นะ จะมาให้สันโดษ พอใจในสิ่งที่มีอยู่ แล้วนั่งเฉยๆ ไม่ได้ ต้องทำ เยอะๆ เข้าใจมั้ยเยอะๆ" "คิดผิด"  วุ้นสีพูดไม่มองหน้า ตามองจานทุเรียน หยิบพูที่เล็กที่สุดเข้าปาก "สันโดษคือพอใจตามที่ได้ หากมีกำลังเพิ่มขึ้นก็อาจหาให้ได้ดีขึ้น พอใจตามกำลัง  มีกำลัง เท่านี้ หาได้เท่านี้ สติปัญญาเท่านี้ หาได้เท่านี้ก็ดีแล้ว คิดได้อย่างนี้จิตใจจะได้ไม่เร่าร้อน สันโดษไม่ได้แปลว่าให้นั่งเฉยๆ" วุ้นสีร้องเฮ้อ! ตวงเพชรร้องอ๋อ! "ทุกวันนี้เธอก็สันโดษอยู่แล้ว คือไม่โลภอยากได้ของคนอื่น  ไม่งั้นคงขโมยแหวนเพชร เวลาที่ไปเยี่ยมลูกค้าที่บ้าน เอามาช่วยผ่อนบ้าน ยอมผิดศีลข้อลักทรัพย์ แต่นี่ศีลเธอ เยี่ยมมาก" ตวงเพชรฟังแล้วงง อ้าปากหวอ วุ้นสีเลยบิทุเรียนใส่เข้าปาก ~*~*~ "ธรรมะมันต้องใช้หลายข้อ   อย่างข้อขยันหมั่นเพียรในการทำงาน ทำไมไม่หยิบมาใช้มั่ง อ๋อ ขยันอยู่แล้วลืมไป สันโดษมันก็เรื่องเดียวในหลายๆ เรื่องนะ สันโดษเหมือนสาก เอาไว้ ตำน้ำพริก  นี่เธอเอาสากไปกวาดบ้าน เอาสากไปตัดต้นไม้ เอาสากไปรีดผ้า อย่างนี้เขา เรียก อุ้ยใส่ ช." "อะไร"  ตวงเพชรดุ  "อยู่ดีๆ มาว่าฉันชุ่ย ก็ฉันเข้าใจว่าเขาให้รู้จักพอ ก็คือหยุด ก็ตอนนี้มัน หยุดไม่ด้ายยย" "ช่ายยย"  วุ้นสีลากเสียงยาว หยิบทุเรียนพูเล็กที่สุดใส่ปาก  "แต่สันโดษคือพอใจในสิ่งที่ หามาได้โดยสุจริต ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน พอใจเท่าที่ได้มาตามกำลังของตน และถ้ามีพอ สมควรแล้วก็จึงหยุด  ถ้าวันนี้เธอไปซื้อบ้านอีกหลังมาผ่อน นั่นโลภแล้ว  ไม่สันโดษแล้ว ไม่รู้จักพอ เอาบ้านไปทำไมสองหลัง มันเกิน อย่างนี้เสียสันโดษ" ตวงเพชรรู้สึกหน้าต่างบานที่ปิดอยู่ถูกเปิดออก มีอากาศเย็นโชยเข้ามา  เพราะเธอก็ ตะขิดตะขวงอยู่เหมือนกันตอนทิ้งธรรมะ แต่ดันทุรังว่าตัวเองถูก "พระพุทธเจ้าตรัสว่า 'แม่น้ำเสมอด้วยตัณหาไม่มี'  เพราะแม่น้ำยังรู้จักเต็ม แต่ตัณหาไม่ รู้จักเต็ม ถ้าเราไม่มีธรรมะในใจ เราจะถูกความโลภจิกหัวใช้จนตาย  เธอทำงานยังไงก็ไม่ พอหรอก  ถ้าใจไม่รู้จักพอ เหมือนว่าไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ ใส่เชื้อเข้าไปเท่าไหร่ๆ  ไฟก็ไหม้จน หมดนั่นแหละ วิธีที่จะดับไฟได้คือต้องไม่เติมเชื้อให้มัน เพราะฉะนั้นตัณหาของเราเหมือน กัน  ถ้าจะให้มันเหือดแห้งก็คือ ไม่ไปสนองความต้องการของมัน" ตวงเพชรนั่งเหมือนนักเรียนตั้งใจฟังครู "ทำประกันชีวิตต้องเรียนธรรมะเยอะๆ"  วุ้นสีเอ่ย ตวงเพชรหยิบทุเรียนพูเล็กที่สุดส่งให้ อย่างเอาใจ  เวลามีทุเรียนวุ้นสีพูดเก่ง "ธรรมะสอนอริยสัจไว้สำหรับแก้ปัญหาชีวิต เวลาเธอพบลูกค้าทุกข์ใจ คุยแนวอริยสัจ ช่วยได้ ลูกค้าจะได้สบายใจ มีชีวิตยืนยาว ส่งเบี้ยประกันนานๆ" "ดี ดี ชอบ"  ตวงเพชรกระตือรือร้น "ใช้ธรรมะคุยกับลูกค้าได้ทุกเรื่องแหละ เรื่องทำมาหากิน เรื่องครอบครัว เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย เรื่องอนิจจังไม่เที่ยง เรื่องสารพัด เธออย่ามองผิดมุมอย่างสันโดษก็แล้วกัน  ไปอ่านธรรมะ ใหม่เถอะ เดี๋ยวรวยเอง ชอบมะ รวยน่ะ" วุ้นสีจบปาฐกถา หยิบทุเรียนพูเล็กที่สุดพูสุดท้ายเข้าปาก จากคุณ : อังศนา - [ 28 เม.ย. 48 18:11:32 ]

ความคิดเห็นที่ 58 บุญกรรมใดก่อเกื้อ ........ เกิดกาย อย่าด่วนรีบทำลาย ......... หลุดรั้ง ถึงที่สุดคือตาย ............. ลาจาก ทางสงบที่บางครั้ง .......... คิดแล้วหวาดกลัว จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 9 พ.ค. 48 00:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คอมพิวเตอร์ที่จิ้ม.............จารคำ ถูกช่างยกไปทำ.....................ซ่อมไส้ ขาดตอนเรื่องราวธรรม...........เทียวเล่า อาทิตย์หน้าคงได้...................ต่อให้เหมือนเดิม จากคุณ : อังศนา - [ 17 พ.ค. 48 09:35:35 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ช้อปปิ้งบุญบัดนี้..........แพร่หลาย เห็นอยู่ว่าวางขาย..............ที่ร้าน ขาดเรื่องกระทู้วาย............ชวนวิเวก ซื้อสักเล่มติดบ้าน..............อ่านได้ตลอดไป ..เดิมตั้งใจจะเลือกมาทยอยพิมพ์สัก ๓ กระทู้ กระทู้ละสัก ๑๐ ตอน แต่เผอิญเห็นว่ามีวางขาย ที่ร้านนายอินทร์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว.. ประกอบกับ คอมพิวเตอร์เสีย จึงตัดสินใจปิดกระทู้ค่ะ เพราะคิด ว่าอ่านจากหนังสือย่อมสะดวกกว่าด้วยประการทั้งปวง จากคุณ : อังศนา - [ 27 พ.ค. 48 14:15:42 ]