มนุษย์แปลว่าผู้มีจิตใจอันสูง
คนถูกยกระดับความสำคัญให้แลดูสูงกว่าสัตว์ชนิดใดๆ และเยียบย้ำสัตว์สายพันธุ์อื่นว่าเป็นสัตว์ชั้นต่ำ
แต่สุดท้ายก็ไม่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นคือต้องทอดร่างให้กับแผ่นดิน
สุดท้ายก็ถูกธรรมชาติค่อยๆย่อยสลายความหยาบที่ประกอบมาเป็นกายของคนให้แตกย่อยละเอียดกลายเป็นจุลธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ
รอให้สิ่งมีชีวิตอื่นเข้ามาดูดซับปรับเปลี่ยนรูปร่างเปลี่ยนพันธะการเหนี่ยว ให้ไปเกิดเป็นเนื้อหนังหรือองค์ประกอบของชีวิตในสิ่งมีชีวิตตัวอื่น
.
เมื่อ Born ใหม่เกิดขึ้น องค์ประกอบของการมีชีวิตก็จะปรับเปลี่ยนกระบวนท่าไปตามชุดคำสั่ง(gene) ชุดใหม่
.หมายถึงจากคนสู่พืชหรือสัตว์ชนิดอื่นๆ
หรือรอคอยการสำเนาตัวเองอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะถึงวันที่มีความเหมาะสมชีวิตก็จะฟื้นคืนขึ้นมาอีกครั้ง
อัตตา...คือความปรารถนาในตัวตนปนอยู่จิตขั้นต่ำทำให้เกิด ความยึดมั่น อยากมี อยากได้ อยากเอา
ความอยากจะทำให้ดวงตาพร่ามัว..จิตใจขุ่นหมอง..และเป็นเหตุแห่งความไม่รู้หรือเป็นต้นเหตุหนึ่งแห่งทุกข์
วาจาหยาบคาย สามหาว ส่อเสียด เย้ยเยาะ และเจือปนร้อยเล่ห์มายา----> คือผลผลิตหนึ่งของอัตตาเพื่อพุ่งสู่การไปทำร้ายผู้อื่นเพราะเหตุของความไม่สมประโยชน์ อาจเป็นอุบายในการปรับตนเพื่อหลีกหนีการตกอยู่ในเลนของผู้แพ้
ชนะ แพ้
..เป็นคำที่เกิดมาจากพลังของสัตว์โลกที่ขับเคลื่อนด้วยฮอร์โมนขั้นต่ำที่รู้จักกันในภาษาชาวบ้านว่าตัณหาหรือความอยาก
เมื่อมันสมอยากหรือสมประโยชน์ใจมันก็ลิงโลดในชัยชนะ
แต่หากไม่ประสบผลอารมณ์ก็จะบิดเบี้ยว ตัณหาอาจจะลุกโชนมากขึ้นกว่าเก่า หรือบางทีก็อาจจะท้อแท้เบื่อหน่ายยอมแพ้กับชีวิตไปเลยก็มี
คนเราเกิดมาไม่มีใครอยากจะตกอยู่ในเลนของผู้แพ้ตลอดไป ผู้แพ้จึงต้องรู้จักการสำรวจตน ตั้งมั่น อดทน เรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาด วันหนึ่งก็จะกลับไปอยู่ในฝั่งผู้ชนะ
ชัยชนะจึงอยู่ที่การบริหารปัญญา ต้องฝึกฝนตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะก้าวสู่ความเป็นคนฉลาด บางครั้งต้องรู้จักฉลาด ที่จะโง่..เพื่อรอคอยความสำเร็จที่จะตามมาทีหลัง
พุทธ
คือผู้รู้
เป็นศาสนาที่เน้นหลักเหตุผล เน้นการใช้ปัญญานำจิตขั้นต่ำ
ไม่ใช้เกียร์ออโต้แต่ใช้เกียร์ธรรมดาในการขับเคลื่อนตามจังหวะการเรียกร้องของกิเลส ปัญญาจะถูกนำมาเป็นเข็มทิศในการดำเนินชีวิต เพื่อสร้างความสมดุลในการกระทำ ทั้งภาครับและภาคให้ ปลดเปลื้องความไม่เห็นแก่ตัว เน้นความสมานฉันท์เผื่อแผ่แบ่งบันกันในสังคม
. จึงเป็นปฐมบทของการอยู่ร่วมกันในสังคมของการใช้ปัญญา
ศาสนาพุทธอุบัติขึ้นเพราะโลกและสรรพสัตว์มีทุกข์ ดังนั้น แก่นของพระศาสนาจึงมีแต่เรื่องของทุกข์และการดับทุกข์ หัวใจของคำสอนของพระพุทธเจ้าจึงเป็นไปเพื่อการดับทุกข์ทั้งสิ้น นี่คือแก่น หมายความว่า อะไรที่ไม่เป็นไปเพื่อการดับทุกข์ สิ่งเหล่านั้นพิจารณาได้แค่เปลือกของพระศาสนาเพียงเท่านั้น
คำสอนหลักๆที่เป็นแก่นของศาสนาคืออะไร
หนึ่ง ไตรลักษณ์ ที่เป็นหลักหรือแก่นที่บอกว่า สรรพสิ่งประกอบไปด้วยลักษณะสามประการ คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่มีตัวตนที่แท้จริง
สอง อริยสัจสี่ กล่าวถึงเรื่องการเกิดทุกข์และการดับทุกข์
สามเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท คือเรื่องของจิตล้วนๆ อันนำไปสู่การเวียนว่ายในสงสารวัฏหรือวัฏสงสาร
สี่เรื่องมัชฌิมาธรรม หรือธรรมที่เป็นกลางๆ ไม่ตึงไปไม่หย่อนไป
การเถียงกันโดยเดินตามหลังตัณหาและยึดอัตตาเป็นที่ตั้งก็คือการเถียงแบบใช้เกียร์ออโต้
..เป็นการเถียงที่เดินตามระบบอัตโนมัติของอารมณ์
ที่ปล่อยให้ความสมประโยชน์มันเข้าครอบงำ
พระพุทธเจ้าจำแนกคนออกตามเหล่าของบัว
บัวเหล่าล่างสุดคือบัวอาหารเต่า ไม่มีโอกาสได้รับรู้หรือมีโลกทัศน์ที่เปิดกว้างกลับใครเขา
.แต่ถึงแม้นเกิดมาโง่ถูกครอบงำด้วยอวิชชา แต่การเกิดก็ยังคงประโยชน์แก่ฝูงเต่าปลาปู
วันนี้สังคมเรากำลังย่ำแย่เพราะถูกครอบงำโดยวัฒนธรรมการเสพ-กิน จนถึงขั้นหลงไหลวัตถุมากกว่าความเป็นมนุษย์
เกิดคนจำพวกใหม่ที่แย่ยิ่งกว่าบัวเหล่าที่สี่ขึ้นมากมาย พวกนี้แย่กว่าเพราะเกิดมาไม่คิดจะยังประโยชน์แก่ผู้ใด พวกนี้จะเอาความโลภเป็นตัวนำทางชีวิต แผนที่ชีวิตจะเดินตามกิเลสแบบสุดโต่ง อวิชชาหรือความโง่จึงบดบังไปเสียทุกเรื่อง
บัวเหล่าพิเศษที่เกิดขึ้นใหม่นี้เขาเรียกกันว่า บัวเต่าถุย พวกนี้เป็นพวกที่ทั้งโง่ ทั้งดื้อ ทั้งโลภและมีพฤติกรรมที่สุดโต่งในทางลบ
ไม่เคยคิดหรือมีแนวทางที่จะยังประโยชน์ให้แก่ผู้ใดเลย หากเต่าตัวใดเผลอไปงับเข้าก็ต้องรีบถุยทิ้ง
บัวเหล่านี้เกิดมาเปลืองเนื้อที่สระ เพราะนอกจากจะหาคุณค่าอะไรไม่ได้แล้วยังเป็นตัวบ่อนทำลายความสงบสุขของสังคมด้วย
พวกบัวเต่าถุยจะใช้เกียร์ออโต้ในการดำเนินชีวิต อยากได้อะไรก็หาหนทางไปเอามาเป็นของตัวจนได้
เส้นทางไหนที่ลัด-ง่าย-และสั้นพวกนี้จะเลือกใช้ จะชั่วช้าสามานอย่างไรก็ไม่ต้องไปสนใจใคร
ตัวเองได้ประโยชน์อย่างเดียวเป็นพอ
คงจะเป็นความเสื่อมของสังคมไทย ที่เน้นการพัฒนาที่เปลือกนอก ไม่สนใจในการลงทุนมนุษย์กันอย่างแท้จริง
การศึกษาสมัยใหม่ก็ยังคงเน้นที่การแข่งขันหายอดคนเก่งที่มีแต่ความอ้วนทางสมอง เพื่อมุ่งสู่ถนนของการเป็นเจ้าแห่งความรวย แต่บกพร่องทางกายและพิการทางใจ
โปรแกรมเรียนพิเศษถูกบรรจุไว้ให้กับเด็กไทยรุ่นใหม่ เป็นการเรียนกันแบบบ้าคลั่งตั้งแต่ประถมยันมัธยม เน้นแต่ภาคความรู้ในทางทฤษฎี อัดแต่การท่องจำ และคิดแต่โจทย์เลข
สอนแต่การบดอัดความรู้เข้าไปในสมอง เน้นแต่วิชาคิด วิชาเครื่อง แต่ละเลยที่จะใส่วิชาคนเข้าไป เด็กไทยรุ่นใหม่จึงเติบโตขึ้นมาพร้อมการพิการทางใจ
ดังนั้นการเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีจึงสามารถปฏิบัติได้อย่างง่ายๆ คือรู้จักบริหารปัญญาให้เกิดประโยชน์ที่สมดุลแก่ตัวเราและสังคมที่เราอาศัยอยู่
จากคุณ :
ไทยพันธุ์แท้
- [
18 เม.ย. 48 06:59:06
]