ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าสุดท้ายทางญี่ปุ่นคงจะต้องออกมาทำการแก้ไขบทเรียนเพื่อรักษาสัมพันธ์ภาพที่ดีกับคนจีน และแน่นอนว่าจีนคงไม่ทำการขอโทษเป็นแน่ อย่างมากก็ออกมาแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรืออาจเพิกเฉยให้เรื่องมันเงียบไป เพราะถ้าจีนออกมาขอโทษคงเป็นการยอมรับว่าได้มีการสนับสนุนกลุ่มนักศึกษา ซึ่งผม่ว่าทางการเมืองระหว่างประเทศเขาไม่ทำกัน (ดังตัวอย่างของกรณีไทย-กัมพูชา) แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงไม่ยืดเยื้อถึงเป็นระดับสงครามเนื่องจากไม่ใช่การขัดแย้งระหว่างชาติ เป็นเรื่องระหว่างคนจีนกลุ่มหนึ่งและรัฐบาลญี่ปุ่น และญี่ปุ่นคงไม่กล้าที่จะทำการประกาศสงครามกับประเทศจีนเพราะเรื่องแค่นี้เป็นแน่แท้ จากคุณ : gv - [ 19 เม.ย. 48 01:23:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มันก็แค่เรื่องปาหี่แก้เซ็งไว้บังปัญหาอื่นเฉย ๆ จากคุณ : imf41 - [ 19 เม.ย. 48 03:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 #2 is correct จากคุณ : guyver - [ 19 เม.ย. 48 06:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เลือกข้อ 2 ... ไม่มีทางรบกันหรอก และไม่คิดว่าเป็นปาหี่ด้วย แต่ทุกอย่างจบลงได้ด้วยการค้า เศรษฐกิจ การติดต่อ  ฯลฯ ... โลกลิงค์กันไปแล้ว ยุ่นนะโคตรแผนซ้อนแผน แฝงความเหี้ยม จีนน่ะโคตรสามก๊กเกิดที่นี่ ยิ่งกว่าโหด แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 48 10:01:05 จากคุณ : แมวม่อน - [ 19 เม.ย. 48 07:25:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หวัดดีคุณผี  ผมเลือกข้อ 3 ละกันนะ  แต่เสริมนิดนึงว่าคงไม่น่าใช่สงครามเย็น  แต่มันอาจจะเป็นสงครามการค้าในภูมิภาคเอเซียต่อไปในอนาคตนะ   และผู้ที่จะเข้ามาก้าวก่ายต่อไป  คงไม่พ้นอเมริกาอีกเช่นเคย (ทั้งในทางลับและซึ่งหน้า  บวกไต้หวันเข้าไปอีก) แต่กำลังคิดตามอยู่ว่า  อนาคตเมืองไทยอย่างเรา  จะวางตัวเช่นไร  เมื่อช้างชนช้าง  แล้วดันมาชนกันใกล้ประตูบ้านเราเข้ามาทุกที จากคุณ : แบดแมน - [ 19 เม.ย. 48 08:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อีกอย่างที่ผมอยากจะตั้งข้อสังเกต  คือ  ความขัดแย้งที่ว่ากันมาเนี่ย  มันไม่น่าจะเป็นเรื่องความเป็นชนชาติมากไปกว่าผลประโยชน์นะ   คือไม่รู้ซิครับ  จีนอาจจะเห็นญี่ปุ่นเข้าไปช่วยเหลือไต้หวันมาก ๆ ก็พาลคิดว่าญี่ปุ่นเข้ามาก้าวก่ายกิจการภายในก็ได้ อีกเรื่องก็คือ  ผลประโยชน์ทางทรัพยากรธรรมการที่ทั้งสองประเทศต่างก็พยายามอ้างความเป็นเจ้าของ (หมู่เกาะอะไรผมจำชื่อไม่ได้)   สรุปแล้ว  ผมมองว่าเรื่องจีนกับญี่ปุ่น  มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์มากกว่านะ   ผมอาจจะคิดผิดก็ได้... จากคุณ : แบดแมน - [ 19 เม.ย. 48 09:14:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่า ไม่ใช่ปาหี่ แต่ ไม่เชื่อว่าจะมี สงคราม ตอนนี้่ กระแสสงครามไม่ใช่เรื่องน่าพิศมัยอีกต่อไป ยิ่งเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ทางด้านเศรษฐกิจ อย่างดีทั้งสองประเทศ คงไม่ทำอะไร เสี่ยงๆ แบบนั้น ถ้าเป็นประเทศที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีก็ว่าไปอย่าง ยิ้มครับ จากคุณ : ช้างยิ้ม - [ 19 เม.ย. 48 11:26:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ร้าวครั้งนี้ลึกแน่นอน ข้อแรก ในเฃิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จีนยังคิดว่าตัวเองเป็นพี่ใหญ่ในภูมิภาคนี้ ในขณะที่ในทางเศรษฐกิจ ญีปุ่นก็มั่นใจว่าตัวเองเป็นหนึ่งในเอเซีย ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งจีนและญี่ปุ่น ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เนื่องจากจีนหวังพึ่งญ๊ปุ่นในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า ในขณะที่ญีปุ่นก็พึ่งตลาดและแรงงานราคาถูกของจีน แม้ว่าจะมีการกระทบกระทั่งเรื่องตำราประวัติศาสตร์และการไปไหว้ศาลเจ้าชินโตของผู้นำรัฐบาลษญี่ปุ่นก็ตาม ในแง่การเมืองในประเทศ พรรครัฐบาลญี่ป่น มีทั้งพวกถือหางปักกิ่ง และถือหางไต้หวัน บังเอิญบุคคลรอบข้างนายโคอิซุมินายกฯญี่ป่นเป็นพวกถือหางไต้หวัน เลยยิ่งทำให้ปักกิ่งอึดอัดและไม่พอใจมากขึ้น โดยมองว่า ญี่ป่นกำลังร่วมกับอเมริกาวางแผนปิดล้อมจีนโดยอาศัยไต้หวันเป็นหัวหอก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของญี่ปุ่น ภัยคุกคามอันดับแรกกลับไม่ใฃ่จีน แต่เป็นภัยคุกคามจากคาบสมุทรเกาหลี รว่มทั้งจากหมุ่เกาะตอนเหนือที่ฃิดกับพรมแดนรัสเซีย ประเทศจีนเล่นไพ่เกมส์ตำราประวัติศาสตร์บ่อยครั้ง เพื่อกระตุกขาญี่ป่น ญี่ป่นเองที่ผ่านมาก็จำต้องยอมอ่อนข้อให้กับจีนทุกครั้งเพราะตราบาปที่ประทัยอยู่ในใจของคนทั้งชาติ แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไป อเมริกากลายเป็นขั้วใหญ่ที่สุด ในขณะที่ประเทศอื่นอ่อนกำลัง จีนถล่มญ๊ป่นเพื่อหวังชิ่งไปถึงอเมริกาหรือไม่ อีกไม่นาน ไวท์เฮ้าส์คงออกแถลงการณ์ จากคุณ : คนรู้ทัน - [ 19 เม.ย. 48 15:49:05 A:203.155.74.69 X: TicketID:031956 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ร้าวครั้งนี้ลึกแน่นอน ข้อแรก ในเฃิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จีนยังคิดว่าตัวเองเป็นพี่ใหญ่ในภูมิภาคนี้ ในขณะที่ในทางเศรษฐกิจ ญีปุ่นก็มั่นใจว่าตัวเองเป็นหนึ่งในเอเซีย ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งจีนและญี่ปุ่น ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เนื่องจากจีนหวังพึ่งญ๊ปุ่นในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า ในขณะที่ญีปุ่นก็พึ่งตลาดและแรงงานราคาถูกของจีน แม้ว่าจะมีการกระทบกระทั่งเรื่องตำราประวัติศาสตร์และการไปไหว้ศาลเจ้าชินโตของผู้นำรัฐบาลษญี่ปุ่นก็ตาม ในแง่การเมืองในประเทศ พรรครัฐบาลญี่ป่น มีทั้งพวกถือหางปักกิ่ง และถือหางไต้หวัน บังเอิญบุคคลรอบข้างนายโคอิซุมินายกฯญี่ป่นเป็นพวกถือหางไต้หวัน เลยยิ่งทำให้ปักกิ่งอึดอัดและไม่พอใจมากขึ้น โดยมองว่า ญี่ป่นกำลังร่วมกับอเมริกาวางแผนปิดล้อมจีนโดยอาศัยไต้หวันเป็นหัวหอก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของญี่ปุ่น ภัยคุกคามอันดับแรกกลับไม่ใฃ่จีน แต่เป็นภัยคุกคามจากคาบสมุทรเกาหลี รว่มทั้งจากหมุ่เกาะตอนเหนือที่ฃิดกับพรมแดนรัสเซีย ประเทศจีนเล่นไพ่เกมส์ตำราประวัติศาสตร์บ่อยครั้ง เพื่อกระตุกขาญี่ป่น ญี่ป่นเองที่ผ่านมาก็จำต้องยอมอ่อนข้อให้กับจีนทุกครั้งเพราะตราบาปที่ประทัยอยู่ในใจของคนทั้งชาติ แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไป อเมริกากลายเป็นขั้วใหญ่ที่สุด ในขณะที่ประเทศอื่นอ่อนกำลัง จีนถล่มญ๊ป่นเพื่อหวังชิ่งไปถึงอเมริกาหรือไม่ อีกไม่นาน ไวท์เฮ้าส์คงออกแถลงการณ์ จากคุณ : คนรู้ทัน - [ 19 เม.ย. 48 15:49:22 A:203.155.74.69 X: TicketID:031956 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สงครามคงไม่เกิด แต่ความรู้สึกเชื่อว่าทางญี่ปุ่นน่าจะมีน้อยเพราะพวกรุ่นใหม่โปรฯตะวันตกเรียบร้อย และถ้ากระแสรแรงมากเดี๋ยวก็ต้องหาทางลง แต่ทางฝั่งจีนเกมส์นี้อาจจะชนะ แต่เรื่องนี้มีผลระยะยาวแน่ ยิ่งทางการให้ท้ายอย่างนี้ ต้องมีนักลงทุนลังเลแน่ เมืองไทยรักษาตัวดีๆ งานนี้มีสิทธิ์ส้มหล่น จากคุณ : U D kk - [ 19 เม.ย. 48 16:11:21 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมขอให้ความคิดเห็นบ้างนะ ในวิกฤตนี้ คุณคิดว่าใครได้โอกาสและชอบมากถ้าสอบประเทศนี้ทะเลาะกัน ผมว่ามี 1ประเทศ 1 กลุ่ม คือ อเมริกา กับ สหภาพยุโรป เพราะว่า ถ้าทวีปเอเซียสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะฉนั้น พวกฝรั่งหัวแดงมันต้องการให้คนเอเซียอย่างพวกเราเนี่ยนะทะเลาะมาก ๆ มันจะได้กดราคาสินค้าของเรา ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ทรัพยากรธรรมชาติ และอื่น ๆ ฉนั้น เราจึงไม่เห็นความคิดเห็นอะไรที่ออกมาจากปากพวกทีทำตัวเป็นตำรวจโลก หรือ กลุ่มสหภาพยุโรป เลยเพื่อที่จะทำให้วิกฤตตรงนี้รีบ ๆ จบสิ้นไป คอยดูเถอะ เดี๋ยวจะมีแต่ทำอย่างไรดี จะหาทางทำให้ประเทศในเอเซียทะเลาะกันอีก ตะวันออกกลางมีอยู่แล้ว อินเดียกับปากีสถาน เอเซียใต้มีอยู่แล้ว จีน ญึ่ปุ่น 2เกาหลีมีอยู่แล้ว ตอนนี้ก็กำลังมีในเรื่องของอาเซี่ยน ไทย กับ มาเลย์ แล้วคุณคิดว่าต่อไปจะเกิดมวยคู่ไหนอีกหละ ลองมาว่ากันดู จากคุณ : เดียร์ (thanong_r) - [ 19 เม.ย. 48 17:24:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ลองมาอ่านประสบการณ์ของเพื่อนผมที่ศึกษาอยู่ในญี่ปุ่น มาเป็นเวลา ๗-๘ ปีดูนะครับ "ก่อนมาเรียนหนังสือในญี่ปุ่นเคยมีภาพลักษณ์ว่าคนญี่ปุ่นเจรจา ต่อรองด้วยยากมากเป็นนักต่อรองที่แข็งมากๆ แต่พอมาใช้ชีวิตที่นี่นานพอจนเข้าใจและรู้จักคนญี่ปุ่นดี พอจะสรุปได้ว่า "คนญี่ปุ่นมีความอดทนเป็นยอด แต่ขาดความยืดหยุ่นมากๆ" (สำหรับนักเรียนไทยในญี่ปุ่นหลังจากพวกคุณใช้เวลาที่นี่นานพอ ลองพิจารณาดูว่าข้อสรุปของผมถูกต้องไหม?) ในเมื่อขาดความยืดหยุ่น ไปเจรจากับใครก็มักล้มเหลว ข้อผิดพลาดเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะดูเหมือนคนญี่ปุ่นไม่ค่อยเตรียมทางเลือกไว้มากพอ ถ้าเกินกว่าทางเลือกที่ญี่ปุ่นเสนอเป็นอันว่าล้มการเจรจา ถ้ามีกฎเกณฑ์เขียนไว้ชัดเจน เขาเล่นตามกฎโดยไม่พลาด แต่ถ้ามีอะไรนอกกฎไปหน่อย ส่วนใหญ่ตัดสินใจไม่ได้ ไม่ค่อยมีใครกล้าเสี่ยง ไม่มีใครกล้าพอที่จะรับผิดชอบถ้ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น ถ้าเพียงแต่รัฐบาลญี่ปุ่นที่เป็นพวกขวาจัดลองมามองณ.มุมมอง ของจีนบ้างแทนที่จะดื้อรั้นมองจากจุดยืนของญี่ปุ่นอย่างเดียว และเชื่อว่าสิ่งที่ทำอยู่ถูกต้องปัญหาความขัดแย้งนี้อาจจะคลี่คลายก็ได้ บอกยากว่าทำไมยังพยายามปิดบังประวัติศาสตร์ทั้งๆที่รู้ว่าทำผิดๆลงไป คงไม่มีใครอยากสอนให้ผู้คนเกลียดชังประเทศตนเอง ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็ตามคนไทยจะรู้สึกอย่างไร ถ้านักประวัติศาสตร์ไทยเขียนเปิดเผยข้อเท็จจริงบางตอนที่ไทย ไปเอาพระพุทธรูปจากประเทศข้างเคียงมาโดยใช้คำว่า "เราขโมยมา" แทนคำว่า "เราอัญเชิญมา" เคยขอหนังสือประวัติศาสตร์ของนักเรียนมัธยมต้นญี่ปุ่นมาลองอ่านดู เด็กญี่ปุ่นเรียนเนื้อหาประวัติศาสตร์กว้างและมากกว่าเด็กไทย เขารู้ประวัติศาสตร์รอบโลกเลยแม้ว่าจะเรียนแค่มัธยมต้น ลองพลิกไปอ่านเนื้อหาส่วนสงครามโลกครั้งที่สอง คนญี่ปุ่นไม่ได้ถูกสอนว่าสิ่งที่เขาทำเรียกว่า "รุกราน" แต่ใช้คำว่า "โจมตี" แทนคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าทหารญี่ปุ่น สู้รบกับยุวชนไทยก่อนไทยจะยอมเป็นพันธมิตรให้ญี่ปุ่น ความชอบธรรมในการก่อสงครามของญี่ปุ่นอยู่ที่อเมริกาคว่ำบาตร สินค้ายุทธปัจจัยเอเชียเป็นหนึ่งเดียว เป็นพื่น้องกัน เอเชียโดนกดขี่ด้วยระบบอาณานิคมตะวันตก ญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรบเพื่อปลดแอกเอเชีย และจำเป็นต้องมียุทธปัจจัย ทุกอย่างเริ่มจากความเชื่อ ถ้าผู้คนเชื่อว่าสิ่งที่ทำถูก มันก็ผลักดันให้เขาทำสิ่งนั้นต่อไป แล้วท่านคิดว่าเป็นอย่างไรครับ? จากคุณ : ปักษาวายุ - [ 19 เม.ย. 48 17:26:17 A:10.36.3.44 X:202.28.77.30 TicketID:055979 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เท่าที่รวบรวม ผลโหวต จนถึงตอนนี้ พอจะสรุปได้ว่า ไม่มีความกังวลว่าปัญหาความขัดแย้งดังกล่าว จะพัฒนาเป็นสงคราม และ บาง คคห. ที่ผมคิดอยู่เหมือนกัน ดังที่ได้เคยแสดง คคห. ไปในกระทู้อื่นๆ ใครจะได้ประโยชน์ จาก ความร้าว ของเอเซีย จากคุณ : ผีเพื่อนหงส์ - [ 19 เม.ย. 48 23:49:53 ]