เรื่องก้อมีอยู่ว่า
คนงานของดิฉันคนหนึ่งที่ทำงานกับครอบครัวของดิฉันมานานนับสิบปีได้ เกิดมาแม่ของเค้าไม่ได้ไปแจ้งความเกิดที่อำเภอ จึงทำให้ปัจจุบันเค้ามีอายุร่วม 27 ปี แต่ก้อยังไม่สามารถเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน และทำบัตรประจำตัวประชาชนไม่ได้เลย ซึ่งหลังจากแม่ของเค้าคลอดเค้าแล้ว ก้อได้ทิ้งเค้าไว้กับน้าที่ จ.ปราจีนบุรี พ่อเสียไปตั้งแต่ยังเด็กแม่ซึ่งภายหลังทราบข่าวว่าขึ้นไปอยู่ทางภาคเหนือก้อไม่สามารถติดต่อได้ พอครบอายุทำบัตรประชาชนได้ เค้าก้อเข้าไปติดต่อ แต่ทางอำเภอก้อให้การปฏิเสธตลอดมาว่าไม่สามารถทำให้ได้ ให้เหตุผลว่า หลักฐานอ่อนเกินไป
หลายครั้งที่เค้าจะต้องไปเสียเงินเลี้ยงข้าวเลี้ยงปลาพวกกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้เดินเรื่องทำบัตรประชาชนให้กับเค้า แต่ผลที่ออกมาก้อคือ ไม่สามารถทำได้ พร้อมกับเสียเงินไปฟรี ๆ หลายต่อหลายครั้ง ทั้ง ๆ ที่เค้าก้อแค่คนหาเช้ากินค่ำ ไม่ได้มีเงินทองมากมาย แต่ก้ออยากมีสิทธิมีเสียงเหมือนคนไทยคนหนึ่ง เค้ามาอ้อนวอนดิฉันให้หาทางช่วยทำบัตรประชาชนให้เค้า ด้วยความที่คงมองไม่เห็นแล้วว่าจะมีใครช่วยได้อีก แต่ดิฉันก้อไม่ได้รับปากว่าจะทำยังไง เพราะบอกตรง ๆ ตอนนั้นก้อยังมึนตึ๊บ เลยค่ะ (หุหุ)
วันนั้นนั่นเอง ดิฉันกับคนสนิท ก้อชวนกันไปดูงาน รากหญ้า ของท่านนายกทักษิณ ด้วยความที่ว่าคนสนิทต้องการไปดูโครงการบ้านพักอาศัยเอื้ออาทร ว่ามีเปิดแถว ๆ พระราม 9 เพิ่มหรือเปล่า เราจึงไปเดินเล่นในงานด้วยกัน ดิฉันเดินผ่านไปยังหน้าบู๊ท ที่เขียนจดหมายถึงนายกฯ ในใจก้อยังคิดนะ ว่าท่านนายกจะอ่านหมดหรือนั่นนะ จดหมายมันช่างมากมายเสียจริง แล้วพลันสมองก้อนึกถึงเรื่องของคนงานขึ้นมาได้ ก้อเลยลองเขียนดู ประกอบกับ อยากจะรู้ว่าท่านนายกได้ใส่ใจกับจดหมายที่ประชากรน้อย ๆ อย่างพวกเราเขียนขึ้นไปหาท่านมากน้อยเพียงใดด้วย หรือท่านจะหลอกให้ความหวังให้เขียนกันไปอย่างนั้น จึงเริ่มดำเนินการเขียนจดหมายถึงท่านนายกฯขึ้น
หลังจากนั้น ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ดิฉันก้อได้รับการติดต่อจากกรมการปกครอง (เล่นเอาดิฉันอึ้งไปเลย ไม่อยากเชื่อ ท่านนายกฯ จะใส่ใจกับจดหมายที่เขียนด้วยลายมือห่วย ๆ ของดิฉันด้วย) เค้าโทรมาสอบถามความเท็จจริง พร้อมทั้งบอกว่า จะส่งจดหมายมา แล้วให้คนงานของดิฉัน เอาจดหมายไปยื่นเรื่องที่เขตที่เค้าต้องการจะเพิ่มชื่อ คุณเชื่อมะ เหมือนปาฏิหาริย์มีจริงเลย เรื่องมันง่ายกว่าที่คิดมาก ทั้ง ๆ ที่คนงานของดิฉันเพียรพยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ที่อำเภอ รวม ๆ เวลาแล้วก้อเกือบ ๆ 10 ปีได้ แต่ไม่สำเร็จ แต่วันนี้ใช้เวลาแค่ 3 เดือน มันดูมีความหวังขึ้นมากมาย
แต่เรื่องมันก้อยังไม่ง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากหรอกนะ คนงานของดิฉันเอาจดหมายของท่านนายกเรื่องให้พิจารณาเพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนบ้านไปยื่นที่อำเภอ เค้าก้อไม่รับปากพร้อมทั้งนัดหมายอีกที เดือนมิถุนายน คุณคิดดู ไปยื่นเดือนมีนาคม เค้านัดอีกที เดือนมิถุนายน 3 เดือนเชียวนะนั่น เราก้อ เออ ไม่เป็นไร ยังไงก้อใกล้ความจริงแล้ว รอก้อรอ พอปลายเดือนมีนาคม ดิฉันได้รับโทรฯจาก จ.ปราจีนบุรี เค้าโทรมาว่าให้คนงานของดิฉันรีบนำหลักฐานต่างๆ ไปยื่นให้พิจารณาใหม่ในทันที พร้อมทั้งบ่นอุบอิบมาด้วยว่า เรื่องแค่นี้ ทำไมไม่ติดต่อกับทางอำเภอเอง ต้องถึงกับไปร้องท่านนายกฯ เล่นเอาเรารู้เลยว่าที่เค้ารีบเรียกเราไปใหม่นั้น เพราะท่านนายกส่งจดหมายมาเร่งรีบเรื่องของเราให้นั่นเอง
ปลายเดือนมีนาคม พ่อของดิฉันเข้าไปเป็นพยานให้ ในฐานะนายจ้าง วันที่ 11 เมษายน มีโทรฯมาจาก จ.ปราจีนบุรี ให้คนงานของดิฉันไปเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน พร้อมทำบัตรประชาชนได้ คนงานของดิฉันดีใจมากเลย มันทำให้ดิฉันรู้ ว่าคำว่า คนไทย มีค่ามากขนาดไหน คนที่มีคงไม่ใส่ใจมันมากนัก แต่คนที่ไม่เคยมีนี่สิ คงรู้ซึ้งเลย เค้าดูจะภูมิใจกับคำว่า คนไทย ได้ดีทีเดียว งานนี้ดิฉันต้องขอกราบขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร มา ณ ที่นี้
จากคุณ :
จอยแอนด์มาร์ค
- [
20 เม.ย. 48 22:51:20
]